ExpressVPN vs NordVPN ปี 2024: มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ดีที่สุด

เพ็ญจรัส ศรีประไพ
อัพเดทครั้งล่าสุดโดย เพ็ญจรัส ศรีประไพ ใน มกราคม 30, 2024

ExpressVPN และ NordVPN เป็น 2 บริการ VPN ที่ดีที่สุดในตลาด ดังนั้นการเลือกระหว่างบริการทั้งสองนี้จึงเป็นเรื่องยาก ฉันนำ VPN แต่ละบริการไปทดสอบใน 13 หมวดหมู่ต่าง ๆ เพื่อค้นหาว่าบริการใดคือที่สุด ฉันตรวจสอบความเร็ว นโยบายความเป็นส่วนตัว ฟีเจอร์ความปลอดภัย ช่องทางการชำระเงิน ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าและอื่น ๆ อีกมากมาย

โดยรวมแล้ว ExpressVPN คือผู้ชนะเพราะความเร็วที่ยอดเยี่ยม ความปลอดภัยที่แน่นหนาและมาตรการความเป็นส่วนตัวีที่ดีที่สุด นอกจากนี้มันยังเป็นหนึ่งใน VPN ไม่มากที่ทำงานในประเทศจีนได้ NordVPN เป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งหากคุณมีงบประมาณที่จำกัด แต่มันก็ไม่ได้รวดเร็วเท่าและสามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางออนไลน์ได้เสมอ

โชคดีที่บริการ VPN ทั้งสองมีระยะเวลาการรับประกันยินดีคืนเงิน ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้โดยปราศจากความเสี่ยงและดูว่าบริการใดที่เหมาะสำหรับคุณได้

ลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยง!

ไม่มีเวลาอ่านใช่ไหม? นี่คือบทสรุปฉบับ 1 นาทีของผู้ชนะตามหมวดหมู่

ExpressVPN NordVPN
ราคา ราคาถูกเพียง $6.67/เดือน (แผนสมัครสมาชิก: 15 เดือน) ราคาถูกเพียง $3.99/เดือน (การสมัครสมาชิกแบบ 2 ปี + ฟรี 3 เดือน)
ารสตรีมมิ่ง ปลดบล็อก Netflix, Amazon Prime, BBC iPlayer และอื่น ๆ อีกมากมายได้ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก ๆ ปลดบล็อก Netflix, Amazon Prime, BBC iPlayer และอื่น ๆ อีกมากมายด้วยความเร็วที่รวดเร็ว
เซิร์ฟเวอร์แล เซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ เซิร์ฟเวอร์มากกว่า 6.180 เซิร์ฟเวอร์ใน 83 ประเทศ
ความเร็ว การทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่น: ลดลงจากความเร็วปกติ 5.4%

การทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล: ลดลงจากความเร็วปกติ 20%

การทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่น: ลดลงจากความเร็วปกติ 6.1%

การทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล: ลดลงจากความเร็วปกติ 26%

ความปลอดภัย
  • การเข้ารหัสแบบ AES-256-GCM
  • โปรโตคอล OpenVPN, IKEv2/IPSec
  • การป้องกันการรั่วไหล DNS และ IP
  • Kill Switch
  • เทคโนโลยี TrustedServer
  • การเข้ารหัสแบบ AES-256-GCM
  • NordLynx, โปรโตคอล OpenVPN, IKEv2/IPSec
  • การป้องกันการรั่วไหล DNS และ IP
  • Kill Switch
  • เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์
  • Double VPN
  • Onion ผ่าน VPN
  • เซิร์ฟเวอร์ไร้ดิสก์
Torrenting ดาวน์โหลดวิดีโอขนาด 1.41GB ใน 6 นาที ดาวน์โหลดวิดีโอขนาด 1.41GB ใน 10 นาที
จีน ใช้งานได้สม่ำเสมอพร้อมความเร็วที่ดีสำหรับการสตรีมมิ่ง ใช้งานได้ไม่สม่ำเสมอ
การเล่นเกม มีการประมวลผลข้อมูลหนักขึ้น 22% เมื่อเทียบกับปกติ มีการประมวลผลข้อมูลหนักขึ้น 55% เมื่อเทียบกับปกติ
ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์และความแตกต่างของแอป พร้อมให้บริการบน Windows, Android, macOS, iOS, Linux และอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่มีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์หรือเซิร์ฟเวอร์ P2P พร้อมให้บริการบน Windows, Android, macOS, iOS, Linux และอื่น ๆ อีกมากมาย มีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์และเซิร์ฟเวอร์ P2P บนแอปทั้งหมด
ความเป็นส่วนตัวและความเป็นนิรนาม สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้นซึ่งอยู่นอกเขตพันธมิตร 5, 9 และ 14 Eyes สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในปานามาซึ่งอยู่นอกเขตพันธมิตร 5, 9 และ 14 Eyes
นโยบายการบันทึกข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน ได้รับการตรวจสอบอิสระ นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน ได้รับการตรวจสอบอิสระ
การชำระเงินและการคืนเงิน รองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตส่วนใหญ่, Paypal, Mint และ Bitcoin รองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตส่วนใหญ่และสกุลเงินดิจิทัลมากมาย (แต่ไม่รวม Paypal หรือ Mint)
บริการลูกค้า แชทออนไลน์ 24 ชั่วโมงและบริการทางอีเมลที่มีประโยชน์และรวดเร็ว แชทออนไลน์ 24 ชั่วโมงและบริการทางอีเมลที่มีประโยชน์และรวดเร็ว

13 หมวดหมู่สำหรับการเปรียบเทียบ ExpressVPN vs NordVPN

นี่คือบทสรุปรายการเกณฑ์ฉบับเต็มที่ฉันใช้เพื่อเปรียบเทียบ ExpressVPN และ NordVPN สำหรับคำอธิบายโดยละเอียดของผลการทดสอบของฉัน ให้คลิกที่หมวดหมู่เพื่อข้ามไปดูคำตอบของแต่ละส่วน:

  1. ราคา – เปรียบเทียบแผนการสมัครสมาชิกและนโยบายการคืนเงินที่ผู้ให้บริการทั้งสองมีให้บริการ
  2. การสตรีมมิ่ง – ทดสอบว่าผู้ให้บริการทั้งสองสามารถปลดบล็อก Netflix และเว็บไซต์สตรีมมิ่งอื่น ๆ ได้โดยไม่มีการโหลดหรือการลดความคมชัดหรือไม่
  3. เซิร์ฟเวอร์แล – เปรียบเทียบจำนวนและตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ เช่นเดียวกับความสามารถในการหลีกเลี่ยงการปิดกั้นตามภูมิศาสตร์
  4. ความเร็ว – ทดสอบความเร็วของเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่นและเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลบนเซิร์ฟเวอร์มากมายในออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา
  5. ความปลอดภัย – วิเคราะห์การเข้ารหัสและฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ
  6. Torrenting – ดูว่าผู้ให้บริการนั้นมีความเป็นมิตรกับ Torrenting หรือไม่, ทดสอบความเร็วและค้นคว้าว่าแต่ละผู้ให้บริการมีเซิร์ฟเวอร์ P2P มากแค่ไหน
  7. จีน – ดำเนินการทดสอบในประเทศจีนเพื่อดูว่าโปรแกรม VPN แต่ละโปรแกรมนั้นสามารถใช้งานในประเทศดังกล่าวได้อย่างสม่ำเสมอหรือไม่
  8. การเล่นเกม – ประเมินความสามารถของโปรแกรม VPN แต่ละโปรแกรมว่าสามารถรักษาความเร็วในการเล่นเกมที่ดี หลีกเลี่ยงการปิดกั้นการเล่นเกมตามภูมิศาสตร์และมอบความปลอดภัยได้หรือไม่
  9. ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์และความแตกต่างของแอป – ตรวจสอบว่ามีอุปกรณ์ใดบ้างที่เข้ากันได้กับแต่ละโปรแกรม VPN และเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างแอปและระบบปฏิบัติการต่าง ๆ
  10. ความเป็นส่วนตัวและความเป็นนิรนาม – ตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งของสำนักงานบริษัทและประเทศเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยข่าวกรองระหว่างประเทศหรือไม่
  11. นโยบายการบันทึกและการใช้งานข้อมูลผู้ใช้ – ตรวจสอบนโยบายการบันทึกข้อมูลของแต่ละ VPN และประเภทของข้อมูลผู้ใช้ที่พวกเขาจัดเก็บโดยละเอียด
  12. การชำระเงินและการคืนเงิน – ตรวจสอบช่องทางการชำระเงินที่มีให้บริการในผู้ให้บริการทั้งสองและความง่ายได้ในการรับเงินคืน
  13. บริการลูกค้า – ทดสอบความเร็วในการตอบกลับของทีมบริการลูกค้าทั้งสองแห่ง เช่นเดียวกับประเภทความช่วยเหลือที่มีให้บริการ

1. ราคา – NordVPN มอบความคุ้มค่าแก่เงินของคุณได้ดีกว่า

NordVPN มีราคาน่าคบหามากกว่า ExpressVPN โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแผนการสมัครสมาชิกระยะยาว นี่คือการเปรียบแผนให้บริการที่ดีที่สุดของผู้ให้บริการทั้งสอง:

ExpressVPN NordVPN
ข้อเสนอที่ดีที่สุด $6.67/เดือน $3.99/เดือน
เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันพร้อมให้บริการบางแพลตฟอร์ม เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันพร้อมให้บริการบางแพลตฟอร์ม
การรับประกันยินดีคืนเงิน 30 วัน $3.99 วัน
ราคาต่อเดือน $12.95 $14.49
ราคา 6 เดือน $9.99/เดือน
ราคา 1 ปี $6.67/เดือน $7.49/เดือน
ราคา 2 ปี $3.99/เดือน

โปรดทราบว่าแผนให้บริการของผู้ให้บริการแต่ละรายนั้นเสนอฟีเจอร์ที่เหมือนกันโดยไม่คำนึงถึงระยะเวลาการสมัครสมาชิก (พูดอีกนัยหนึ่งก็คือแผนให้บริการที่ยาวนานกว่าไม่ได้มีการป้องกันที่ดีกว่าหรือมีฟีเจอร์เสริม)

ผู้ให้บริการทั้งสองต่างก็มีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันผ่าน Google Play Store หรือ Apple iTunes Store – แต่ฉันไม่แนะนำให้ทดสอบบริการดังกล่าวผ่านช่องทางนี้ หากคุณทดสอบผ่านช่องนี้ คุณจะเสียสิทธิ์ในการรับส่วนลดพิเศษและอาจต้องรับมือกับการจัดการขอเงินคืนกับบุคคลที่สาม (ซึ่งอาจก่อให้เกิดความล่าช้าเป็นเวลาหลายสัปดาห์)

ExpressVPN มีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน เช่นเดียวกันกับ NordVPN สิ่งนี้ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบ VPN ทั้งสองบริการเพื่อดูว่าบริการใดที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีกว่า หากคุณไม่พึงพอใจกับประสิทธิภาพที่ได้ คุณสามารถขอรับเงินคืนของคุณจากบริการหนึ่งหรือทั้งสองบริการได้

เพื่อประหยัดเงินเพิ่ม คุณสามารถตรวจสอบส่วนลดได้ที่นี่ – ฉันอัปเดตหน้านี้เป็นประจำเพื่อที่คุณจะได้สามารถประหยัดเงินได้โดยไม่ต้องเสียเวลามานั่งค้นคว้าด้วยตัวเอง

ผู้ชนะด้านราคา: NordVPN

อัปเดต 2024! สำหรับในช่วงระยะเวลาที่จำกัดเท่านั้น ประหยัดเงิน 67% ในแผนให้บริการแบบ 2 ปี + รับเพิ่มอีก 3 เดือนฟรี! ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ได้ที่นี่

2. การปลดบล็อก Netflix และการสตรีมมิ่ง – ExpressVPN มีความเร็วที่รวดเร็วกว่าสำหรับการสตรีมมิ่งอย่างราบรื่นในประเทศต่าง ๆ

หากคุณต้องการ VPN ที่สามารถเข้าถึง Netflix ของสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ญี่ปุ่นและอื่น ๆ อีกมากมาย NordVPN และ ExpressVPN ต่างก็เป็นตัวเลือกที่ดีทั้งคู่ บล็อกคลังข้อมูลของ Netflix ในแต่ละผู้ให้บริการได้มากกว่า 10 คลังข้อมูล – ซึ่งรวมถึงคลังข้อมูลจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดาและญี่ปุ่น ถึงอย่างนั้น ExpressVPN ก็เป็นผู้ชนะเพราะมันปลดบล็อกคลังข้อมูล Netflix อื่น ๆ ได้มากกว่า NordVPN อยู่เล็กน้อย

  • ExpressVPN: ออสเตรเลีย บราซิล เบลารุส แคนาดา ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น ลิกเตนสไตน์ มาซิโดเนีย มอลตา โมนาโก มอนเตเนโกร เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ สเปน สวีเดน สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา
  • NordVPN: ออสเตรเลีย บราซิล ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ เกาหลีใต้ สเปน สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา
ตัวอย่าง ExpressVPN ที่ทำงานกับห้องสมุด Netflix US
ฉันเข้าถึง Netflix ของสหรัฐอเมริกา เยอรมัน ญี่ปุ่นและแคนาดาด้วย ExpressVPN ได้อย่างง่ายดาย

โดยรวมแล้วฉันพบว่า ExpressVPN ทำได้ดีกว่าในเรื่องของการสตรีมมิ่งเพราะความเร็วที่รวดเร็วกว่า ฉันสามารถรับชม Criminal Minds มาราธอนบน Netflix ของสหรัฐอเมริกาในความคมชัดระดับ UHD ได้โดยไม่มีการกระตุก ในทางกลับกันความเร็วในการสตรีมมิ่งของ NordVPN นั้นไม่เสถียรมากนัก แม้ว่าโดยรวมแล้วฉันจะพบกับการกระตุกเล็กน้อย แต่บางครั้งฉันก็ต้องเปลี่ยนความคมชัดไปเป็น SD เพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุก (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการใช้งานเยอะ เช่น ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์) นี่อาจเป็นปัญหาสำหรับคุณหากคุณมีความเร็วพื้นฐานที่ช้าอยู่แล้ว

ฉันประทับใจกับโปรแกรม VPN ทั้งสองโปรแกรมที่สามารถปลดบล็อกคลังข้อมูลเนื้อหาที่ใหญ่ที่สุดในแพลตฟอร์มยอดนิยมต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่องและช่วยให้ฉันสตรีมได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตามฉันแนะนำให้คุณทดลองสตรีมมิ่งด้วย ExpressVPN เพราะมันรวดเร็วกว่าและปลดบล็อกคลังข้อมูลของ Netflix ได้มากกว่า

ผู้ชนะการสตรีมมิ่ง: ExpressVPN

3. เซิร์ฟเวอร์และการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ – ทั้งสองมีเครือข่ายที่กว้างขวางทั่วโลกเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดกั้น

ในหมวดหมู่นี้พวกเขาทำได้เสมอกันเพราะทั้งสอง VPN มีเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากในประเทศต่าง ๆ (รวมถึงประเทศไทย) เพื่อช่วยคุณหลีกเลี่ยงข้อจำกัด แม้ว่า NordVPN จะมีจำนวนเซิร์ฟเวอร์มากกว่า แต่ ExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์ในประเทศต่าง ๆ มากกว่า

ExpressVPN NordVPN
จำนวนเซิร์ฟเวอร์รวม 3000 + 6.180 +
ประเทศที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ 105 83

หากคุณต้องการสิทธิ์ในการเข้าถึงเนื้อหายอดนิยมจากประเทศต่าง ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรหรือแคนาดา ทั้งสอง VPN ทำงานได้ดีพอ ๆ กันเพราะพวกเขามีเซิร์ฟเวอร์มากมายในประเทศเหล่านี้

ExpressVPN NordVPN
ทำงานในประเทศจีน บางครั้ง
ทำงานในประเทศรัสเซีย
ทำงานในประเทศอิหร่าน
ทำงานในประเทศตุรกี
ทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เซิร์ฟเวอร์ Obfuscation

แต่หากคุณต้องการเข้าถึงเว็บไซต์ในประเทศที่เฉพาะเจาะจง จำนวนของเซิร์ฟเวอร์ที่ประเทศนั้น ๆ คือสิ่งสำคัญมากกว่าขนาดของเครือข่ายโดยรวม หากโปรแกรม VPN ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ในภูมิภาคที่เฉพาะเจาะจง คุณอาจไม่สามารถรับหมายเลข IP

ที่ต้องมีเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการปลดบล็อกการธนาคารออนไลน์จากประเทศกัมพูชา ExpressVPN จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเพราะมันมี 1 เซิร์ฟเวอร์ที่นั่นในขณะที่ NordVPN ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ที่นั่นเลย ในทางกลับกันหากคุณต้องการการสตรีมมิ่งรายการ Lightbox คุณภาพสูงอย่าง High Road NordVPN เป็นบริการที่ดีกว่าสำหรับประเทศนิวซีแลนด์ – มันมี 28 เซิร์ฟเวอร์ที่นั่นในขณะที่ ExpressVPN มีเพียง 1 เซิร์ฟเวอร์เท่านั้น

อย่างไรก็ตามมีข้อยกเว้นในกฎทั่วไปนี้ หากคุณต้องใช้บริการในขณะที่อยู่ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์เข้มงวด ประสิทธิภาพที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าจำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่หลีกเลี่ยงข้อจำกัดได้ ตัวอย่างเช่น ExpressVPN ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามันทำงานในประเทศจีนได้อย่างต่อเนื่อง เซิร์ฟเวอร์ในฮ่องกงและญี่ปุ่นจะมอบบริการที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือกับคุณ ฉันคิดว่า ฉันคิดว่า NordVPN จะทำงานได้ดีกว่านี้เนื่องจากมันมีเซิร์ฟเวอร์ญี่ปุ่นในละแวกใกล้เคียง – แต่มันก็ประสบความสำเร็จในการใช้งานในประเทศจีนเป็นระยะ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็สามารถเข้าถึงประเทศที่มีการเซ็นเซอร์ประเทศอื่น ๆ เช่น รัสเซีย อิหร่าน ตุรกีและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้อย่างสม่ำเสมอ

ก่อนที่คุณจะสั่งซื้อการสมัครสมาชิก ฉันขอแนะนำให้คุณตรวจสอบกับฝ่ายบริการลูกค้าก่อนเพราะผู้ให้บริการทั้งสองต่างก็เพิ่มเซิร์ฟเวอร์ใหม่เพื่อพัฒนาการครอบคลุมของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง

ผู้ชนะด้านเซิร์ฟเวอร์และการหลีกเลี่ยงการปิดกั้นทางภูมิศาสตร์: เสมอ

4. ความเร็ว – ExpressVPN รวดเร็วกว่า NordVPN

ฉันประทับใจกับความเร็วที่รวดเร็วจากบริการทั้งสองบริการ แต่ ExpressVPN มีความเร็วที่รวดเร็วกว่า NordVPN ในการเชื่อมต่อทั้งหมด – แม้จะเพียงเล็กน้อย

ภาพหน้าจอของ ExpressVPN และ NordVPN ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักร โดยผลการทดสอบความเร็วของ Ookla แสดงให้เห็นว่า ExpressVPN นั้นเร็วกว่าเล็กน้อย

ExpressVPN มอบความเร็วที่รวดเร็วกว่าเสมอในเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด

เพื่อกำหนดว่าผู้ให้บริการใดที่มีความเร็วมากกว่า ฉันจึงได้ดำเนินการทดสอบความเร็ว 2 การทดสอบ ได้แก่ การทดสอบในท้องถิ่นด้วยเซิร์ฟเวอร์ออสเตรเลียและการทดสอบระยะไกลด้วยเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา

มันเป็นเรื่องที่สำคัญที่คุณต้องทราบไว้ว่าไม่มีการทดสอบความเร็วใดที่สมบูรณ์แบบ – ปัจจัยอย่างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เราเตอร์ ตำแหน่ง ประเภทของอุปกรณ์และตัวแปรอื่น ๆ อาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ที่ได้ เพื่อให้การทดสอบนี้มีความแม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ฉันจึงตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้คอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ (macOS 10.13.6) เดียวกัน ฉันยังเลือกโปรโตคอล OpenVPN เหมือนกันและให้ผู้ให้บริการแต่ละรายเชื่อมต่อฉันกับเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วที่สุดที่มีให้บริการโดยอัตโนมัติอีกด้วย

เพื่อเป็นการอ้างอิง ความเร็วปกติของฉันโดยไม่มีการเชื่อมต่อ VPN อยู่ที่ 65Mbps

ผลการทดสอบความเร็วในท้องถิ่น:

ในการทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่นของฉัน ExpressVPN รวดเร็วกว่า NordVPN เพียง 0.5% เท่านั้น ทั้งสองบริการต่างก็มอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็วอย่างน่าเชื่อถือในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ละแวกใกล้เคียงและยิ่งกว่าเร็วพอสำหรับการสตรีมมิ่งในความละเอียดระดับ HD, เล่นเกมออนไลน์และอื่น ๆ อีกมากมาย ExpressVPN ลดความเร็วของฉันลงเล็กน้อยเพียง 5.4% ขณะที่ NordVPN ลดความเร็วของฉันลงมากกว่าเล็กน้อยที่ 6.1% มี VPN ไม่มากนีกที่สามารถเทียบเท่ากับ ExpressVPN ได้ ดังนั้นฉันจึงค่อนข้างประทับใจกับประสิทธิภาพของ Nord

สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี
ExpressVPN 63Mbps 61Mbps 61Mbps 61Mbps
NordVPN 62Mbps 61Mbps 61Mbps 60Mbps

ผลการทดสอบความเร็วในระยะไกล:

มีส่วนต่างอย่างมากในเรื่องของความเร็วเมื่อใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลออกไปเนื่องจาก ExpressVPN สามารถลดการสูญเสียความเร็วในการเชื่อมต่อระยะไกลได้ดีกว่า NordVPN ความเร็วของฉนัลดลงเฉลี่ยประมาณ 20% จากการใช้ ExpressVPN ในขณะที่การใช้เซิร์ฟเวอร์ของ NordVPN ลดลงมากกว่าถึง 26%

สหรัฐอเมริกา อิสราเอล ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย
ExpressVPN 56Mbps 62Mbps 48Mbps 42Mbps
NordVPN 48Mbps 58Mbps 45Mbps 42Mbps

หากคุณมีกิจกรรมที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก ฉันขอแนะนำให้คุณทดลองใช้ ExpressVPN เพื่อความเร็วที่รวดเร็วกว่า ฉันพบว่ามันเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการสตรีมมิ่งความคมชัดระดับ HD, Torrenting ไฟล์ขนาดใหญ่และการเล่นเกมโดยไม่มีการกระตุก ExpressVPN ให้ฉันรับชม Netflix ของสหรัฐอเมริกาในความคมชัดระดับ Ultra HD จากอีกฟากหนึ่งของโลกได้โดยไม่มีการกระตุกเลย ด้วย NordVPN บางครั้งฉันต้องลดความคมชัดลงมาเป็นระดับมาตรฐานเพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุก นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่มันส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การรับชมของฉัน

ผู้ชนะด้านความเร็ว: ExpressVPN

5. ความปลอดภัย – NordVPN มีฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติม

ทั้งสองบริการต่างก็มีฟีเจอร์ความปลอดภัยหลักที่แข็งแกร่ง ถึงอย่างนั้น NordVPN ก็ชนะในหมวดหมู่นี้เพราะมันมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษและเครื่องมือปิดกั้นมัลแวร์ภายในตัวซึ่ง ExpressVPN ไม่มีให้บริการ

ExpressVPN NordVPN
การเข้ารหัส AES-256-GCM พร้อมคีย์ 4096-บิต DH, การยืนยันตัวตน SHA-512 HMAC AES-256-GCM พร้อมคีย์ 4096-บิต DH, การยืนยันตัวตน SHA-512 HMAC
โปรโตคอล VPN OpenVPN UDP, OpenVPN TCP, IPSec/IKEv2 และ IPSec/L2TP OpenVPN UDP, OpenVPN TCP, IPSec/IKEv2, IPSec/L2TP และ WireGuard
นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน ใช่ (มีการตรวจสอบภายใน) ใช่ (มีการตรวจสอบภายใน)
Kill Switch พร้อมให้บริการบน Windows, macOS, Android (เวอร์ชัน 7.4 และสูงกว่า), Linux และเราเตอร์ ไม่พร้อมให้บริการบน iOS พร้อมให้บริการบน Windows, macOS, Android, iOS และ Linux ไม่พร้อมให้บริการบนเราเตอร์
การป้องกันการรั่วไหล DNS และ IP การป้องกันการรั่วไหล DNS และหมายเลข IP การป้องกันการรั่วไหล DNS และหมายเลข IP
เครื่องมือปิดกั้นมัลแวร์/โฆษณา ไม่มี มี
Server chaining ไม่มี มี เสนอฟีเจอร์ Double VPN
Onion ผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN ไม่มี มี
IP ส่วนตัว ไม่มี มี
เขียนข้อมูลลงบนฮาร์ดไดร์ฟ เทคโนโลยี TrustedServer หมายความว่าเซิร์ฟเวอร์ทำงานบน RAM และไม่มีการเขียนข้อมูลเอาไว้บนฮาร์ดไดร์ฟ เทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปซึ่งเขียนข้อมูลที่เข้ารหัสลงบนฮาร์ดไดร์ฟ

มาตรฐานการเข้ารหัส

ระดับการเข้ารหัสที่โปรแกรม VPN ใช้เป็นตัวกำหนดว่าแฮ็กเกอร์จะสามารถถอดรหัสข้อมูลของคุณได้ง่ายมากแค่ไหน ทั้ง NordVPN และ ExpressVPN ต่างก็ใช้การเข้ารหัส AES 256-บิตที่ยอดเยี่ยมที่สุดเพื่อป้องกันข้อมูลของคุณซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของรัฐบาลใช้ แม้แต่หน่วยงานสายลับชั้นนำของสหรัฐอเมริกายังต้องใช้เวลานานหลายปี เงินหลายล้านดอลลาร์และสุดยอดคอมพิวเตอร์เพื่อพยายามเจาะคีย์การเข้ารหัสเดียวที่มีระดับความปลอดภัยนี้

โปรโตคอลการเข้ารหัส

โปรโตคอลการเข้ารหัสคือชุดของขั้นตอนที่กำหนดว่าข้อมูลของคุณถูกเข้ารหัสอย่างไรในขณะที่มันถูกส่งผ่านอินเทอร์เน็ต ExpressVPN และ NordVPN ใช้โปรโตคอลที่มีความปลอดภัยสูงสุดอย่าง OpenVPN และ IKEv2 เพื่อเสนอสมดุลของความปลอดภัยและความเร็วที่ดีที่สุด ฉันใช้ OpenVPN สำหรับกิจกรรมประจำวันอย่างสตรีมมิ่ง การท่องเว็บหรือการธนาคารออนไลน์ ถึงอย่างนั้นฉันก็ชอบใช้ IKEv2 สำหรับการเล่นเกมและ Torrenting มากกว่าเพราะมันมีความเร็วที่รวดเร็วกว่า

ทั้งสองบริการต่างก็มีโปรโตคอลอันเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง – ExpressVPN มี Lightway ในขณะที่ NordVPN มี NordLynx Lightway ใช้คลังข้อมูลการเข้ารหัส wolfSSL และเป็นโอเพ่นซอร์สที่ได้รับการตรวจสอบจากบริษัทอิสระเพื่อยืนยันด้านความปลอดภัยแล้ว NordLynx ใช้โปรโตคอล WireGuard ที่มีเพียงบรรทัดรหัส 4,000 บรรทัดที่ทำให้การแก้ไขบัคหรือปัญหาต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย

Lightway และ NordLynx ต่างก็ได้รับการออกแบบมาเพื่อความเร็วที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องเสียสละความปลอดภัย Lightway มอบความเร็วให้ได้ดีกว่าและพร้อมให้บริการบน Android, iOS, Windows, Mac, Linux และเราเตอร์ NordLynx พร้อมให้บริการบน Android, iOS, Windows, Mac และ Linux

เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์

ฉันพบว่าการมี VPN ที่มีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณานั้นถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับความปลอดภัยทางออนไลน์ของฉัน ไวรัสอาจปรากฏบนเว็บไซต์ที่ดูเหมือนจะไม่มีความเสี่ยงและแม้กระทั่งเว็บไซต์ที่มี “https” อยู่ข้างหน้าของ URL นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงชอบที่ NordVPN มีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณา/มัลแวร์มาให้เพื่อดูแลให้ตัวคุณปลอดภัย ในระหว่างการทดสอบ NordVPN ปิดกั้นโฆษณา ไฟล์ที่มีมัลแวร์และเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายไม่ให้โหลดขึ้นมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ Threat Protection ของ NordVPN พร้อมให้บริการบน Mac และ Windows (Threat Protection Lite เปิดให้บริการบน Android, iOS, Linux และส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ NordVPN)

ภาพหน้าจอของแอป NordVPN สำหรับ Windows ที่แสดงคุณลักษณะการป้องกันภัยคุกคามเปิดอยู่เสมอ

คุณสามารถมั่นใจได้ว่า NordVPN จะปิดกั้นรายการที่เป็นอันตรายและโฆษณาได้เสมอ

Threat Manager ของ ExpressVPN จะทำงานเฉพาะตอนที่คุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์โดยใช้โปรโตคอลอัตโนมัติหรือ Lightway เท่านั้น ฉันพบว่ามันปิดกั้นโฆษณาและการติดตาม เช่นเดียวกันกับการหยุดการเข้าถึงเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Threat Manager พร้อมให้บริการสำหรับ Mac, iOS และ Linux

การป้องกันการรั่วไหล

เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าฉันต้องเดินทางไปยังประเทศที่มีการเซ็นเซอร์เข้มงวดอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอินเดีย ฉันจึงต้องระมัดระวังหน่วยงานของรัฐบาลและ ISP ของฉันที่พยายามจะดูกิจกรรมทางออนไลน์ของฉัน เนื่องจากคุณอาจถูกจำคุกในประเทศเหล่านี้สำหรับการเข้าถึงวิดีโอเกมบางอย่างหรือแพลตฟอร์มอย่าง Skype ได้ ฉันอยากทดสอบการป้องกันการรั่วไหลของโปรแกรม VPN เหล่านี้ดูเพื่อให้แน่ใจว่าฉันยังคงได้รับความเป็นส่วนตัว

ฉันดำเนินการทดสอบผู้ให้บริการทั้งสองและไม่พบการรั่วไหล DNS, IPv4, WebRTC หรือ IPv6 ใด ๆ ตอนที่ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกาและดำเนินการทดสอบการรั่วไหลของ IP โปรแกรม VPN ทั้งสองโปรแกรมก็ปิดบังตำแหน่งที่แท้จริงของฉันได้สำเร็จ (ฉันอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย) และป้องกันการรั่วไหลได้จริง

ภาพหน้าจอที่แสดงไม่พบการรั่วไหลของ IPv6 สำหรับทั้ง NordVPN และ ExpressVPN

ExpressVPN และ NordVPN ปิดบังหมายเลข IP ของฉันและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้ให้บริการทั้งสองยังมี Kill Switch อัตโนมัติเพื่อป้องกันข้อมูลของคุณจากการถูกเปิดเผยในกรณีที่มีข้อผิดพลาดทางเทคโนโลยีเกิดขึ้น นั่นหมายความว่าหาก VPN หรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณเกิดล้มเหลว หมายเลข IP, ตัวตนและประวัติการท่องเว็บที่แท้จริงของคุณจะยังคงถูกปิดบังเอาไว้ เนื่องจากฉันไม่สามารถเข้าถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียรได้เสมอไปในระหว่างการเดินทาง ดังนั้นฟีเจอร์นี้จึงทำให้ฉันสบายใจ

เซิร์ฟเวอร์พิเศษ

ฉันยังพบว่า NordVPN มีตัวเลือกความปลอดภัยเพิ่มเติมที่ ExpressVPN ไม่มีด้วย (เช่น ฟีเจอร์ Double VPN และ Onion ผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN) ฉันพบว่าฟีเจอร์ Double VPN นั้นมีประโยชน์ในตอนที่ฉันกำลังดำเนินการธนาคารออนไลน์หรือดำเนินการชำระเงิน การกำหนดค่านี้จะส่งข้อมูลของคุณไปผ่านเซิร์ฟเวอร์ 2 เซิร์ฟเวอร์แทนที่จะเป็น 1 เซิร์ฟเวอร์ซึ่งส่งผลให้เกิดการเข้ารหัสสองชั้นที่ทำให้การเจาะนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย การตั้งค่านี้ทำให้ฉันมั่นใจว่าข้อมูลทางการเงินอันละเอียดอ่อนของฉันจะปลอดภัย 100%

ความปลอดภัยของเซิร์ฟเวอร์

ExpressVPN ใช้เทคโนโลยี TrustedServer เพื่อป้องกันข้อมูลใด ๆ จากการถูกเขียนลงบนฮาร์ดไดร์ฟของเซิร์ฟเวอร์ ข้อมูลของคุณจะถูกเขียนลงบน RAM เพียงชั่วคราวเท่านั้นและมันจะถูกลบออกไปในระหว่างการรีบูตเซิร์ฟเวอร์ นั่นหมายความว่าแฮ็กเกอร์จะค้นหาข้อมูลบางอย่างได้อย่างยากลำบากเพราะมันไม่ถูกจัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์เป็นระยะเวลานาน แถมทุกการรีบูตยังลบแฮ็กเกอร์ใด ๆ ออกไปด้วย ระบบนี้ปลอดภัยมากจนมันกลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว

ในทางกลับกัน NordVPN ใช้เทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปซึ่งข้อมูลถูกเขียนลงบนฮาร์ดไดร์ฟของเซิร์ฟเวอร์ ระบบนี้อาจทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยงที่มากกว่าเนื่องจากฮาร์ดไดร์ฟนั้นจะจัดเก็บข้อมูลนี้เอาไว้จนกว่ามันจะถูกเขียนทับหรือถูกลบโดยผู้ดูแลในระหว่างการซ่อมบำรุง หากแฮ็กเกอร์สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ พวกเขาอาจขโมยคีย์การเข้ารหัสเพื่อดูข้อมูลที่จำกัดบางส่วนเหล่านี้ได้

การตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัย

การตรวจสอบความปลอดภัยอิสระเป็นเรื่องที่หาได้ยากในอุสาหกรรม VPN (ฉันพบหลักฐานว่ามีเพียง 5 บริการชั้นนำเท่านั้นที่ยอมให้มีการทดสอบดังกล่าว) นี่เป็นเพราะมันอาจเป็นความเสี่ยงสำหรับผู้ให้บริการที่จะต้องใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์ระดับนี้ ถึงอย่างนั้น ExpressVPN และ NordVPN ก็มุ่งมั่นที่จะมอบความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ดีที่สุดโดยรับการตรวจสอบความปลอดภัยทางไซเบอร์มากมาย

  • NordVPN: หลังจากที่ NordVPN ประสบความสำเร็จในการรับมือกับการรั่วไหลทางด้านความปลอดภัยเล็กน้อยในปี 2018 มันก็ได้รับการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมจาก VerSprite (บริษัทที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์) หลังจากนั้นมันก็เผยแพร่ผลลัพธ์ของการตรวจสอบที่เป็นบวก
  • ExpressVPN: ในปี 2019 มันได้รับการตรวจสอบโดย PricewaterhouseCoopers (PwC) เพื่อยืนยันว่าเทคโนโลยี TrustedServer นั้นสามารถดูแลผู้ใช้ให้ปลอดภัยได้อย่างแท้จริง มันแบ่งปันผลการทดสอบเอาไว้บนเว็บไซต์ ExpressVPN ไม่เคยประสบกับความปลอดภัยรั่วไหล

ความโปร่งใสและความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยในระดับนี้เป็นเรื่องที่หาได้ยากในอุตสาหกรรม VPN การตรวจสอบเหล่านี้ทำให้ฉันมั่นใจว่าทั้งสองบริการนี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของฉันเหนือสิ่งอื่นใด – ซึ่งรวมถึงชื่อเสียงของพวกเขาด้วย

โดยรวมแล้ว ExpressVPN และ NordVPN เป็นบริการที่ปลอดภัยที่สุดในตลาด ถึง

ผู้ชนะด้านความปลอดภัย: NordVPN

6. ความปลอดภัยและความเร็วในการ Torrenting – ExpressVPN รวดเร็วกว่า

ทั้งสอง VPN เสนอความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมและความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ Torrenting ใด ๆ (BitTorrent, uTorrent และอื่น ๆ) แถมพวกเขายังไม่จำกัดการดาวน์โหลดตามขนาดหรือประเภทของไฟล์อีกด้วย

ถึงอย่างนั้น ExpressVPN ก็เป็นผู้ชนะด้าน Torrenting เพราะความเร็วในการดาวน์โหลดที่เร็วกว่า แม้ว่า NordVPN จะมีเซิร์ฟเวอร์ Torrenting พิเศษก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถเอาชนะบริการที่รวดเร็วอย่างยิ่งของ ExpressVPN ได้

ความปลอดภัยในการ Torrenting

มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ สำหรับฉันที่ ISP ของฉันจะต้องไม่รู้ว่าฉันกำลัง Torrenting หากฉันใช้งานเกินขีดจำกัดข้อมูลของฉัน พวกเขาจะลดความเร็วอินเทอร์เน็ตของฉันลง ที่แย่กว่านั้นคือหากฉัน Torrent ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์โดยที่ไม่รู้ตัว ISP ของฉันอาจทำให้ฉันต้องพบกับปัญหาทางด้านกฎหมายได้ ฉันไม่สนับสนุนการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่การป้องกันตัวเองหากคุณเผลอดาวน์โหลดไฟล์ที่มีเนื้อหาที่น่าสงสัยนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ

การเลือกโปรแกรม VPN ที่ปลอดภัยสำหรับ Torrenting นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะบางโปรแกรมก็ไม่รองรับในเรื่องนี้ – พวกเขาอาจมีนโยบายต่อต้าน Torrenting หรือฟีเจอร์คุณภาพต่ำ ExpressVPN และ NordVPN เป็นมิตรต่อ Torrenting และมอบความปลอดภัยที่ดีที่สุดให้กับคุณ ExpressVPN อนุญาตให้ Torrenting ได้ในทุกเซิร์ฟเวอร์และ NordVPN เองก็มีเซิร์ฟเวอร์ P2P ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อความปลอดภัยในการ Torrenting

ฉันประทับใจที่ ExpressVPN และ NordVPN ใช้ฟีเจอร์ที่ดีที่สุดที่มีให้บริการเพื่อดูแลให้ Torrenting ของคุณเป็นส่วนตัวซึ่งรวมถึง:

  • นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีประวัติใด ๆ ของคุณที่ถูกบันทึกเอาไว้
  • การเข้ารหัสระดับทหารเพื่อปิดบังข้อมูลของคุณ
  • การป้องกันการรั่วไหลที่มี Kill Switch อัตโนมัติเพื่อดูแลให้คุณเป็นนิรนาม

นอกจากฟีเจอร์เหล่านี้แล้ว ExpressVPN และ NordVPN ยังมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศที่ไม่ได้ขึ้นกับการป้องกันการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต (DMCA) หรือข้อตกลงทางด้านลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศอื่น

ความเร็วในการ Torrenting

ExpressVPN และ NordVPN ไม่มีวันจำกัดความเร็ว แบนด์วิดธ์หรือข้อมูลของคุณ นั่นหมายความว่าคุณสามารถดาวน์โหลดได้มากเท่าที่คุณต้องการและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการลดความเร็วหรือข้อจำกัดอื่น ๆ

เนื่องจากว่า NordVPN มีเซิร์ฟเวอร์ P2P พิเศษที่ได้รับการปรับแต่งมาสำหรับ Torrenting ดังนั้นฉันจึงคิดว่ามันจะมอบความเร็วในการดาวน์โหลดที่เร็วกว่า – แต่ฉันคิดผิด แม้ว่า ExpressVPN จะไม่มีเซิร์ฟเวอร์ P2P ใด ๆ แต่เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดมากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ก็รองรับ Torrenting

เพื่อทดสอบความเร็วในการ Torrenting ฉันได้ดาวน์โหลดวิดีโอเดียวกัน (1.41GB) โดยใช้ VPN ทั้งสอง ExpressVPN มีความเร็วมากกว่า: มันใช้เวลาในการดาวน์โหลดวิดีโอดังกล่าวประมาณ 6 นาทีเท่านั้น ในทางกลับกันเซิร์ฟเวอร์ P2P ของ NordVPN ใช้เวลา 10 นาที

ภาพหน้าจอของไคลเอนต์ BitTorrent torrent แสดงเวลาดาวน์โหลดสำหรับ 2 ทอร์เรนต์ โดย ExpressVPN และ NordVPN เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักร

ExpressVPN รวดเร็วมากกว่า NordVPN

มันเป็นการแข่งขันที่สูสีระหว่างโปรแกรมทั้ง 2 โปรแกรมในหมวดหมู่นี้ ทั้งสองต่างก็เสนอความปลอดภัยในการ Torrenting ที่ยอดเยี่ยม แต่การทดสอบความเร็วของฉันแสดงให้เห็นว่าเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปของ ExpressVPN ดาวน์โหลดไฟล์เดียวกันได้เร็วกว่าเซิร์ฟเวอร์ P2P ของ NordVPN ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงขอแนะนำให้คุณลองใช้ ExpressVPN เพื่อความเร็วในการสตรีมมี่งที่ยอดเยี่ยม

ผู้ชนะด้าน Torrenting: ExpressVPN

7. มันใช้งานในประเทศจีนได้ไหม? – ExpressVPN ใช้งานในประเทศจีนได้อย่างสม่ำเสมอ

ด้วยมาตรการที่เข้มงวดในการต่อต้านโปรแกรม VPN ExpressVPN เป็นหนึ่งในบริการจำนวนไม่มากที่สามารถหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์ทางออนไลน์ในประเทศจีนได้ ทีมงานและฉันได้ทดสอบโปรแกรม VPN มากกว่า 10 โปรแกรมในประเทศจีนและ ExpressVPN ก็เป็นหนึ่งในบริการจำนวนไม่มากที่ให้คุณเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดอย่าง Facebook, Netflix ของสหรัฐอเมริกาและ YouTube ได้อย่างสม่ำเสมอ

ฉันยังพบว่า ExpressVPN ทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือในประเทศจีนโดยไม่ต้องคำนึงถึงประเภทของอุปกรณ์หรือระบบปฏิบัติการเลย

ภาพหน้าจอของการสตรีมวิดีโอ youtube ด้วย expressvpn ในประเทศจีน

ฉันพบกับการกระตุกเล็กน้อยในขณะรับชมวิดีโอ YouTube ในประเทศจีนโดยใช้ ExpressVPN

ExpressVPN ยังมีความเร็วที่รวดเร็วสำหรับการสตรีมมิ่งอย่างราบรื่นในประเทศจีนได้ นี่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับฉันเพราะฉันต้องการสตรีมแพลตฟอร์มสุดโปรดของฉันตอนที่เดินทางไปยังประเทศจีน เซิร์ฟเวอร์ในญี่ปุ่นที่รวดเร็วของ ExpressVPN ช่วยให้ฉันสามารถรับชมวิดีโอ YouTube ได้โดยมีระยะเวลาการสะดุดเพียง 3-4 วินาทีและฉันก็สามารถเชื่อมต่อกับบัญชี Netflix ในท้องถิ่นของฉันเพื่อสตรีมเนื้อหาสุดโปรดได้โดยมีการกระตุกเพียงเล็กน้อย

น่าเสียดายที่ NordVPN ใช้งานในประเทศจีนไม่ได้เสมอไป ฉันพยายามใช้มันเพื่อปลดบล็อก Instagram และ Wikipedia แต่ฉันก็พบกับข้อความผิดพลาด ในบางครั้งคุณอาจจะเชื่อมต่อ NordVPN ได้ แต่ครั้งแรกฉันต้องติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อรับคำแนะนำในการกำหนดค่ามันใหม่อีกครั้งด้วยตัวเอง – แต่สิ่งนี้กินเวลามากและทำได้ยาก (โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนอุปกรณ์ iOS ของฉัน)

แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่าจากการปฏิบัติตามขั้นตอนที่ทีมสนับสนุนแนะนำ แม้ว่ามันจะไม่สามารถใช้งานได้ทุกครั้ง แต่ฉันก็ประทับใจที่มันทำงานได้เนื่องจาก VPN พรีเมียมมากมายประสบปัญหาในการเข้าถึงเนื้อหาในประเทศจีน

ตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณได้ติดตั้ง ExpressVPN ก่อนที่คุณจะเดินทางไปยังประเทศจีนเนื่องจากเว็บไซต์ ExpressVPN ถูกปิดกั้นภายในประเทศ นี่หมายความว่าการติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้านั้นเป็นเรื่องยาก แต่โชคดีที่คุณยังสามารถส่งอีเมลไปยัง support@expressvpn.zendesk.com ได้ – ฉันได้รับการตอบกลับทางอีเมลภายในระยะเวลาน้อยกว่า 30 นาที

ผู้ชนะด้านการใช้งานในประเทศจีน: ลองใช้ ExpressVPN ในจีนวันนี้

8. การเล่นเกม – ExpressVPN มีการประมวลผลที่หนักขึ้นน้อยกว่าสำหรับการเล่นเกม

เนื่องจากรีวิวโปรแกรม VPN ส่วนใหญ่ไม่ได้รวมการทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมของบริการโดยละเอียด ฉันจึงไม่มั่นใจนักว่า ExpressVPN และ NordVPN จะทำงานได้เป็นอย่างไร ถึงอย่างนั้นการทดสอบความเร็วพื้นฐานก็ไม่เพียงพอที่จะบอกว่าโปรแกรม VPN ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การเล่นเกมของคุณมากแค่ไหน!

ฉันพบว่าโปรแกรม VPN ทั้งสองโปรแกรมนั้นสามารถปลดบล็อกเกมได้อย่างง่ายดายและมอบความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกมโดยไม่มีการรบกวน ถึงอย่างนั้น ExpressVPN ก็เป็นผู้ชนะเพราะมันมีความเร็วที่เร็วกว่า NordVPN อยู่เล็กน้อย

ความเร็วในการเล่นเกม

ในฐานะเกมเมอร์เกมผู้หลงใหล ฉันไม่อยากทำพลาดโดยการซื้อแผนสมัครสมาชิกระยะยาวสำหรับ VPN ที่จะเป็นสาเหตุให้เกิดความเร็วล่าช้าและการไม่ตอบสนอง

ฉันทดสอบ NordVPN และ ExpressVPN โดยใช้เกม Call of Duty: Warzone เพื่อดูผลกระทบต่อการประมวลผลเกม นี่เป็นการวัดเวลาที่อุปกรณ์สำหรับเล่นเกมของคุณใช้เพื่อส่งข้อมูลไป-กลับเซิร์ฟเวอร์ (โปรดทราบ: ยิ่งการประมวลผลน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี) แต่โปรแกรม VPN ทั้งสองโปรแกรมต่างก็เพิ่มการประมวลผลมากขึ้นจากปกติ – แต่ ExpressVPN มีคะแนนการประมวลผลต่ำกว่า NordVPN ซึ่งหมายความว่าเกมมีการตอบสนองมากกว่าและมีการกระตุกน้อยกว่า

ไม่เชื่อมต่อ VPN ExpressVPN NordVPN
เวลาแฝงโดยเฉลี่ยใน ms 9 11 14

ฉันดำเนินการทดสอบมากมายโดยการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่นมากมายของทั้ง ExpressVPN และ NordVPN ผลการประมวลนี้สอดคล้องกับประสบการณ์ส่วนตัวของฉัน ฉันไม่สังเกตเห็นความต่างใด ๆ ในการตอบสนองในตอนที่ฉันเชื่อมต่อกับ ExpressVPN เลยเมื่อเทียบกับตอนที่ไม่ได้เชื่อมต่อโปรแกรม VPN ฉันสามารถตามความเร็วที่รวดเร็วของ Call of Duty: Warzone และไม่พลาดการต่อสู้ใด ๆ

สำหรับส่วนใหญ่แล้ว ความเร็วในการเล่นเกมของ NordVPN นั้นยอดเยี่ยมมากแม้ว่ามันจะไม่สามารถเอาชนะ ExpressVPN ได้ ไม่ว่าฉันจะใช้ VPN ใด ฉันก็สามารถเล่นเกมได้โดยไม่สังเกเห็ตถึงการกระตุก สะดุดหรือค้าง

การปลดบล็อกเกมและ DLC ที่ถูกจำกัดตามภูมิภาค

เนื่องจากฉันพำนักอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ดังนั้นบางครั้งฉันก็ไม่สามารถเข้าถึงเกมและ DLC ใหม่ ๆ จากสหรัฐอเมริกาได้เพราะประเทศของฉันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัวเริ่มต้น หากคุณประสบกับปัญหานี้ คุณสามารถเปลี่ยนหมายเลข IP ของคุณด้วยโปรแกรม VPN เพื่อหลอกให้เว็บไซต์เกมอนุญาตให้คุณเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นได้

ตอนที่ฉันทดสอบ ExpressVPN และ NordVPN ผู้ให้บริการแต่ละรายปลดบล็อกเกมที่ถูกจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ฉันสามารถเข้าถึง PlayerUnknown’s Battlegrounds Lite สำหรับ PC ได้โดยการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ไทยผ่านโปรแกรม VPN ทั้งสอง

ภาพหน้าจอเปรียบเทียบของผู้ใช้ที่เล่น Battlegrounds Lite ของ PlayUnknown ในขณะที่เชื่อมต่อกับ ExpressVPN และ NordVPN ตามลำดับ

ฉันสามารถปลดบล็อก PlayerUnknown’s Battlegrounds Lite บน PC ของฉันได้โดยใช้ ExpressVPN และ NordVPN

ความปลอดภัยในการเล่นเกม

ในการโจมตี DDoS แฮ็กเกอร์จะติดตามหมายเลข IP ของคุณและพยายามปิดเซิร์ฟเวอร์ของคุณลงโดยการทำให้มันทำงานหนักจนเกินไป มันอาจนำไปสู่การกระตุกอย่างรุนแรงหรือเกมปิดตัวลง ฉันคิดว่าการโจมตีเหล่านี้จะพุ่งเป้าไปที่เกมเมอร์ที่มีการแข่งขันเท่านั้น แต่มันเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติในการเล่นเกมทั่ว ๆ ไปแล้ว คุณจะมีความเสี่ยงอย่างยิ่งหากคุณเข้าร่วมในการเล่นเกมแบบ P2P ซึ่งจำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อระหว่างผู้เล่นโดยตรง คู่แข่งของคุณสามารถดูหมายเลข IP ของคุณและโจมตีคุณได้อย่างง่ายดาย

วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการโจมตี DDoS คือการใช้โปรแกรม VPN เพราะมันจะซ่อนหมายเลข IP ที่แท้จริงของคุณ หากคู่แข่งของคุณพยายามที่จะโจมตีคุณ สิ่งที่พวกเขาจะเห็นคือข้อมูลเข้ารหัสและตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ VPN

โปรแกรม VPN ทั้งสองโปรแกรมสามารถป้องกันคุณจากการโจมตี DDoS ได้ดีพอ ๆ กันและช่วยให้คุณได้ดื่มด่ำกับการเล่นเกมที่ยุติธรรม

ผู้ชนะด้านการเล่นเกม: ExpressVPN

9. ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์และความต่างของแอป – NordVPN มีฟีเจอร์ในแอปของพวกเขามากกว่า

เพื่อตรวจสอบความเข้ากันได้ของโปรแกรม VPN แต่ละโปรแกรมด้วยตัวเอง ฉันจึงได้ทดสอบมันและพบว่าทั้งสองทำงานได้ดีโดยไม่คำนึงถึงประเภทของอุปกรณ์หรือระบบปฏิบัติการ – แต่ NordVPN มีฟีเจอร์มากกว่า

ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์

ExpressVPN และ NordVPN ทำงานได้บน: Windows, macOS, Android, iOS, Linux, Chromecast, Roku, Amazon Fire TV, Android Smart TV, Kodi, Blackberry, Raspberry Pi, Windows Phone, ส่วนขยายสำหรับ Chrome, ส่วนขยายสำหรับ Firefox, ส่วนขยายสำหรับ Opera, PS4, Xbox One, Nintendo Switch, Steam, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย

ผู้ให้บริการทั้งสองเข้ากันได้กับอุปกรณ์ ระบบปฏิบัติการและส่วนขยายมากมายได้ สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่มีแอปเฉพาะ คุณสามารถติดตั้ง VPN กับ Samsung Smart TV, เกมคอนโซลและอื่น ๆ อีกมากมายได้โดยการตั้งค่าบริการผ่านเราเตอร์ของคุณ สิ่งนี้จะช่วยป้องกันอุปกรณ์ใด ๆ ที่เชื่อมต่อกับ WiFi ของคุณ

ฉันยังพบว่ามันเป็นเรื่องดีที่ ExpressVPN และ NordVPN อนุญาตการเชื่อมต่อในเวลาเดียวกันได้หลายอุปกรณ์ในแต่ละบัญชี ฉันพบว่าฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์ที่สะดวกเพราะฉันไม่จำเป็นต้องลงชื่อออกจากบัญชีของฉันเพื่อให้สมาชิกในครอบครัวของฉันเชื่อมต่อได้ NordVPN มอบสิทธิประโยชน์ดังกล่าวได้ดีกว่าโดยอนุญาตให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน 6 อุปกรณ์ (ExpressVPN อนุญาตเพียง 8 อุปกรณ์เท่านั้น)

ความแตกต่างของแอประหว่างระบบปฏิบัติการ

ExpressVPN และ NordVPN มีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละระบบปฏิบัติการ คุณจะเห็นว่า VPN ทั้งสองต่างเสนอเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ โปรโตคอลการเข้ารหัส การกำหนดค่า Split Tunneling และฟีเจอร์ความปลอดภัย (เช่น เครื่องมือปิดกั้นโฆษณา/มัลแวร์) แตกต่างกันไปในแต่ละอุปกรณ์ ตัวอย่างเช่น ExpressVPN ไม่มี Kill Switch ให้บริการสำหรับ iOS (NordVPN มี) แต่มันมี Split Tunneling สำหรับ Windows (NordVPN ไม่มี)

ฉันพบว่า ExpressVPN ทำงานบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าเนื่องจากอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเรียบง่าย NordVPN มีความซับซ้อนมากกว่า – การใช้อินเทอร์เฟซแบบแผนที่ทำให้การปักหมุดตำแหน่งเป็นเรื่องยากและไม่มีตัวเลือกใด ๆ ในการเลือกเซิร์ฟเวอร์แต่ละเซิร์ฟเวอร์หรือการเชื่อมต่อที่ชื่นชอบที่ทำงานได้ดีที่สุดมาให้

โดยรวมแล้ว NordVPN เสนอการป้องกันอย่างเซิร์ฟเวอร์พิเศษและเครื่องมือปิดกั้นโฆษณา/มัลแวร์ที่ ExpressVPN ไม่มี เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับบริการที่คุณต้องการ ฉันขอแนะนำให้ตรวจสอบแอปที่เฉพาะเจาะจงที่มีให้บริการจากผู้ให้บริการแต่ละรายก่อนที่จะสมัครสมาชิก

ผู้ชนะด้านความเข้ากันได้กับอุปกรณ์และฟีเจอร์ในแอป: NordVPN

10. ความเป็นส่วนตัวและความเป็นนิรนาม – ทั้งสองตั้งอยู่ในประเทศที่เป็นมิตรกับความเป็นส่วนตัว

โปรแกรมทั้งสองเสมอกันในหมวดหมู่นี้เพราะทั้งสอง VPN ต่างก็ตั้งอยู่ในประเทศที่มีกฏหมายเป็นมิตรกับความเป็นส่วนตัวและพวกเขาก็ได้รับการตรวจสอบอิสระแล้ว

ExpressVPN NordVPN
ประเทศที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ หมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น ปานามา
สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศ 5, 9, หรือ 14 Eyes ไม่ ไม่
ข้อมูลผู้ใช้ที่จำเป็นในการลงทะเบียน ที่อยู่อีเมล ที่อยู่อีเมล
ช่องทางการชำระเงินโดยไม่ระบุตัวตน Bitcoin, Mint Bitcoin, Litecoin, Ethereum, Zcash, Ripple, Gridcoin, Dash และ Monero
นโยบายความเป็นส่วนตัวได้รับการตรวจสอบอิสระ ได้รับการตรวจสอบโดย PwC ในปี 2021 เพื่อรับรองนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานและเทคโนโลยี TrustedServer ทำงานได้จริงตามที่โฆษณา ได้รับการตรวจสอบโดย PwC PwC ในปี 2020 เพื่อแสดงให้เห็นว่าแนวทางปฏิบัติในการไม่บันทึกข้อมูลนั้นสอดคล้องกับนโยบายของพวกเขา
Warrant Canary ไม่พร้อมให้บริการ โพสต์การอัปเดตรายวันเพื่อยืนยันว่ามันไม่ได้รับคำขอเพื่อให้เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้ใด ๆ จากหน่วยงานรัฐบาล

สถานที่ที่ VPN ตั้งอยู่อย่างเป็นทางการนั้นเป็นสิ่งสำคัญเพราะนั่นอาจส่งผลกระทบต่อวิธีที่มันจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ExpressVPN และ NordVPN สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานการไม่บันทึกข้อมูลของพวกเขาได้เพราะพวกเขาตั้งอยู่ในประเทศที่ที่ไม่ถูกจำกัดโดยกฎหมายเก็บข้อมูล นี่หมายความว่าพวกเขาไม่มีความจำเป็นทางกฎหมายที่จะต้องเก็บบันทึกข้อมูลของคุณ (เช่น เว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมหรือคุณดาวน์โหลดอะไร)

มันเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ให้บริการทั้งสองนั้นต้องตั้งอยู่นอกเขตพันธมิตร 5, 9 และ 14 Eyes (กลุ่มหน่วยข่าวกรองของประเทศต่าง ๆ ที่แบ่งปันข้อมูลที่ได้รับจากการสอดส่องประชากรขนาดใหญ่) นี่หมายความว่าพวกเขาไม่มีความจำเป็นทางกฎหมายที่จะต้องมอบข้อมูลของผู้ใช้ใด ๆ ให้กับหน่วยงานความปลอดภัยประจำชาติหรือระหว่างประเทศ

ผู้ชนะด้านความเป็นส่วนตัวและความเป็นนิรนาม: เสมอ

11. นโยบายการบันทึกข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ – ExpressVPN และ NordVPN ไม่เก็บข้อมูลที่อาจเปิดเผยตัวตนของคุณ

ExpressVPN และ NordVPN มีนโนบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวดและไม่จัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ที่สามารถระบุตัวตนได้ นั่นหมายความว่าจะไม่มีกิจกรรมทางออนไลน์ใดที่สามารถถูกนำมาใช้เพื่อติดตามคุณได้

นโยบายการบันทึกข้อมูล

โปรแกรม VPN เกือบทั้งหมดอ้างว่ามีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด – แต่ฉันไม่เข้าใจว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาหมายถึงอะไร ตอนที่ฉันตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริการอื่น ๆ โดยละเอียด ฉันพบว่าบางโปรแกรมบันทึกหมายเลข IP, ประวัติการท่องเว็บและอื่น ๆ อีกมากมายของผู้ใช้ ฉันไม่ชอบแนวคิดที่ VPN บันทึกข้อมูลส่วนบุคคลโดยละเอียดดังกล่าว สำหรับฉันแล้ว มันฟังดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการขายข้อมูลของฉันกับนักโฆษณา (ซึ่งมันตรงกันข้ามกับเหตุผลว่าทำไมฉันถึงใช้โปรแกรม VPN ตั้งแต่แรกอย่างสิ้นเชิง)

ฉันตรวจสอบนโยบายของโปรแกรม VPN ทั้งสองโปรแกรมและพบว่าพวกเขาพูดจริงที่ว่าพวกเขาไม่บันทึกข้อมูล ทั้งสองผู้ให้บริการไม่บันทึกหมายเลข IP, คำถามเกี่ยวกับ DNS, ประวัติการท่องเว็บ, จุดหมายปลายทางของเส้นทางหรือไฟล์ที่ดาวน์โหลด/อัปโหลด ความแตกต่างเล็กน้อยเพียงอย่างเดียวคือ ExpressVPN บันทึก ID บัญชีของคุณ วันที่เชื่อมต่อ (ไม่ใช่เวลา) จำนวนข้อมูลที่ถูกถ่ายโอนและตำแหน่งที่เชื่อมต่อจากและไปยัง เนื่องจากข้อมูลนี้ไม่สามารถเชื่อมโยงกลับไปหาคุณได้ ดังนั้นฉันจึงไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่อะไร

นอกจากนี้ทั้งสอง VPN ยังเข้มงวดอย่างมากกับนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของพวกเขาซึ่งได้รับการตรวจสอบอิสระโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ – และเผยแพร่ผลลัพธ์ที่ได้ PricewaterhouseCoopers (PwC) ยืนยันว่าแนวทางการปฏิบัติด้านการบันทึกข้อมูลของพวกเขานั้นสอดคล้องกับนโยบายของพวกเขา

ในปี 2017 นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานของ ExpressVPN ก็ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริงอีกครั้ง ตอนที่หน่วยงานตุรกีเข้ายึดเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนอาชญากรรม พวกเขาไม่พบข้อมูลผู้ใช้ใด ๆ เพราะเทคโนโลยี TrustedServer ของ ExpressVPN ไม่ได้สร้างบันทึกที่อาจระบุตัวตนคุณได้ สำหรับฉันแล้ว ตัวอย่างในชีวิตจริงนี้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมว่าคุณสามารถไว้วางใจนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของ ExpressVPN ได้

การจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้

ทั้งสอง VPN เก็บข้อมูลพื้นฐานบางอย่างเกี่ยวกับคุณ (เช่น ที่อยู่อีเมล ชื่อและช่องทางการชำระเงินของคุณ) ฉันพอใจกับแนวทางการปฏิบัติเหล่านี้เพราะมันช่วยให้ฉันต่ออายุการสมัครสมาชิกใหม่ของฉันเพื่อป้องกันการแทรกแซงบริการได้และไม่มีข้อมูลใด ๆ เหล่านี้ที่สามารถเชื่อมโยงกลับไปหาสิ่งที่คุณทำทางออนไลน์ได้ ถึงอย่างนั้นหากคุณต้องการความเป็นนิรนาม 100% คุณสามารถใช้ที่อยู่อีเมลปลอมและจ่ายเงินค่าบริการด้วยบัตรเติมเงินหรือสกุลเงินดิจิทัลได้

สรุปก็คือพวกเขาเสมอกันในหมวดหมู่นี้เพราะทั้งสองผู้ให้บริการได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาไม่บันทึกข้อมูลที่อาจเปิดเผยกิจกรรมทางออนไลน์ของคุณ

ผู้ชนะด้านนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้: เสมอ

12. การชำระเงินและการคืนเงิน – ExpressVPN รองรับช่องทางการชำระเงินที่สำคัญมากกว่าเล็กน้อย

แม้ว่าทั้งสองบริการจะรองรับช่องทางการชำระเงินมากมายและมีนโยบายการคืนเงินที่แสนใจกว้าง แต่ ExpressVPN ชนะในหมวดหมู่นี้เพราะมันรองรับช่องทางการชำระเงินที่มีความหลากหลายมากกว่า

ช่องทางการชำระเงิน

ExpressVPN NordVPN
บัตรเครดิตหลัก (Mastercard, Visa, American Express และอื่น ๆ อีกมากมาย) ใช่ ใช่
Paypal ใช่ ไม่
Mint ใช่ ไม่
Bitcoin ใช่ ใช่
สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ไม่ Ethereum และ Ripple
ระบบการชำระเงินยอดนิยมอื่น ๆ Discover, Diners Club, JCB, Alipay, Union Pay และอื่น ๆ อีกมากมาย Discover, Google Pay, Apple Pay, Alipay, Union Pay และอื่น ๆ อีกมากมาย

ผู้ให้บริการทั้งสองรองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหลักและสกุลเงินดิจทัลมากมาย แต่ฉันพบว่ามันมีความแตกต่างที่สำคัญบางอย่าง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการความเป็นนิรนาม 100%) ตัวอย่างเช่น ExpressVPN รองรับการชำระเงินผ่าน PayPal และ Mint ในขณะที่ NordVPN ไม่รองรับ เนื่องจากคุณไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ กับ Mint ดังนั้นนี่จึงถือเป็นโบนัสอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ที่ระมัดระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวของพวกเขา

ในทางกลับกัน NordVPN รองรับการชำระเงินผ่านสกุลเงินต่าง ๆ มากมาย (Bitcoin, Ethereum และ Ripple) ในขณะที่ ExpressVPN รองรับเฉพาะ Bitcoin เท่านั้น

การรับประกันยินดีคืนเงิน

โปรแกรม VPN ทั้งสองโปรแกรมเสนอการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน ฉันพบว่าการใช้ประโยชน์จากข้อเสนอนี้คือวิธีในการทดสอบฟีเจอร์ต่าง ๆ ก่อนสั่งซื้อการสมัครสมาชิกในระยะยาวโดยไม่มีความเสี่ยง

การขอรับเงินคืนจาก ExpressVPN และ NordVPN นั้นก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านแชทออนไลน์ ทั้งสองผู้ให้บริการดำเนินการคืนเงินของฉันภายใน 3 นาทีและฉันก็ได้รับเงินคืนภายในหนึ่งสัปดาห์

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าของ NordVPN พยายามดึงให้ฉันใช้บริการต่อไป นี่เป็นเรื่องที่น่ารำคาญอยู่บ้างนิดหน่อย แต่เมื่อฉันบอกพวกเขาว่าฉันกำลังรีบ เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการตามคำขอของฉันอย่างรวดเร็ว ในทางกลับกันนโยบายของ ExpressVPN เป็นนโยบายแบบไม่ต้องตอบคำถามอย่างแท้จริงและดำเนินการคืนเงินให้กับฉันทันที

ในระหว่างการค้นคว้าของฉัน ฉันยังพบว่าขั้นตอนการคืนเงินนั้นจะเป็นเรื่องที่ยากมากยิ่งขึ้นหากคุณสั่งซื้อโปรแกรม VPN ผ่านร้านค้าเสมือนอย่าง Apple App Store ในกรณีนี้ผู้ค้าบุคคลที่สามจะเป็นผู้จัดการกับการคืนเงิน (ซึ่งอาจหมายความว่ามันอาจล่าช้าเป็นเวลาหลายสัปดาห์) ด้วยความต่างในเรื่องนโยบายการคืนเงิน ฉันจึงขอแนะนำให้คุณดาวน์โหลดโปรแกรม VPN โดยตรงผ่านเว็บไซต์ผู้ค้า

ผู้ชนะด้านการชำระเงินและการคืนเงิน: ExpressVPN

13. บริการลูกค้า – ทั้งสองมีบริการลูกค้าที่มีประโยชน์และตอบกลับรวดเร็ว

ExpressVPN และ NordVPN มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าที่มีความสามารถที่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว (โดยปกติแล้วจะใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีผ่านแชทออนไลน์หรือในไม่กี่นาทีผ่านทางอีเมล)

ไม่มีอะไรแย่ยิ่งไปกว่าการสั่งซื้อการสมัครสมาชิกโปรแกรม VPN และไม่สามารถรับความช่วยเหลือใด ๆ ได้ในตอนที่คุณมีปัญหา คุณจะไม่พบกับปัญหาดังกล่าวในผู้ให้บริการ VPN เหล่านี้ – ผู้ให้บริการทั้งสองเสนอแหล่งข้อมูลมากมายในการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น พวกเขามีบล็อกเพื่อการศึกษาที่มีคำถามที่พบบ่อยและหน้า How-to นอกเหนือจากบริการลูกค้าที่มีประโยชน์

ความเร็วของฝ่ายบริการลูกค้า

ทั้งสองผู้ให้บริการมีการตอบกลับทางแชทออนไลน์แทบจะโดยทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ฉันติดต่อฝ่ายบริการทั้งสองในเวลาที่ต่างกันไปของวันและไม่เคยต้องนั่งรอนานเกินกว่าหนึ่งนาทีเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตอบกลับ พวกเขายังตอบกลับทางอีเมลภายใน 30 นาที ในกรณีของ NordVPN พวกเขายังรองรับการบริการลูกค้าในภาษาไทยอีกด้วย

ExpressVPN NordVPN
แชทออนไลน์ ใช่ ใช่
ระยะเวลาโดยเฉลี่ยสำหรับการตอบกลับผ่านแชท 10 วินาที 12 วินาที
บริการทางอีเมล ใช่ ใช่
ระยะเวลาโดยเฉลี่ยสำหรับการตอบกลับผ่านอีเมล 10 นาที 18 นาที
บริการผ่านตั๋ว ใช่ ใช่
บริการทางโทรศัพท์ ใช่ ใช่
บทความช่วยเหลือที่ค้นหาได้ ใช่ ใช่
วิดีโอแนะนำ ใช่ ใช่

ความสามารถของฝ่ายบริการลูกค้า

ฝ่ายบริการลูกค้าทั้งของ ExpressVPN และ NordVPN ต่างก็มีความสามารถ

คำถาม ระยะเวลาในการตอบกลับครั้งแรกทางอีเมล แก้ไขปัญหาได้ จำนวนอีเมล
ExpressVPN ExpressVPN มี Split Tunneling บน iOS หรือเปล่า? 15 นาที ใช่ 1
เทคโนโลยี TrustedServer คืออะไร? 6 นาที ใช่ 1
NordVPN ฉันสามารถ Torrent บนเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ใช่ P2P ได้หรือไม่? 12 นาที ใช่ 1
CyberSec พร้อมให้บริการบน Android หรือเปล่า? 24 นาที ใช่ 2

นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับฉันเพราะไม่มีอะไรน่ารำคาญมากไปกว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าที่ไม่รู้วิธีช่วยเหลือ ฉันติดต่อทั้งสอง VPN เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาในการสตรีมมิ่ง ร้องขอเงินคืนและขอคำอธิบายเกี่ยวกับว่าฟีเจอร์ต่าง ๆ ทำงานอย่างไร เจ้าหน้าที่จากทั้งสองบริษัทตอบคำถามฉันได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำเสมอ

ผู้ชนะด้านบริการลูกค้า: เสมอ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ExpressVPN และ NordVPN

ความแตกต่างระหว่าง NordVPN และ ExpressVPN มีอะไรบ้าง?

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง 2 บริการนี้คือ ExpressVPN รวดเร็วกว่าในขณะที่ NordVPN มตีวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่ง ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าโดยรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะความเร็วที่รวดเร็วสำหรับการสตรีมมิ่ง, Torrenting, การเล่นเกมออนไลน์และการท่องเว็บ แม้ว่าคุณจะมีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ช้ากว่า แต่ ExpressVPN ทำได้ดีในเรื่องลดการสูญเสียความเร็วเพื่อที่คุณจะได้ยังคงสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่ไม่มีการกระตุกและปราศจากการรบกวน

ในอีกนัยหนึ่ง NordVPN มีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะมากมายที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับการแบ่งปันไฟล์แบบ P2P, การเชื่อมต่อ Onion ผ่าน Tor, การรับส่งข้อมูล VPN แบบ Obfuscating และการเชื่อมต่อแบบ Multi-hop สิ่งเหล่านี้ทำให้การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดสำหรับกิจกรรมออนไลน์ที่เฉพาะเจาะจงของคุณเป็นเรื่องง่ายโดยทำให้มั่นใจได้ถึงความเร็วที่ยอดเยี่ยมและการเชื่อมต่อที่ไว้วางใจได้

ExpressVPN ดีกว่า NordVPN หรือเปล่า?

อ้างอิงตามการทดสอบของฉัน ExpressVPN ดีกว่า NordVPN แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ExpressVPN รวดเร็วกว่าในการเชื่อมต่อทั้งหมดซึ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการสตรีมมิ่ง, Torrenting, การเล่นเกมออนไลน์และการท่องเว็บอย่างปลอดภัย ExpressVPN ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในเรื่องช่องทางการชำระเงินที่ไม่เปิดเผยตัวตนมากมาย ฝ่ายบริการลูกค้าที่มีความรู้และทักษะมากกว่าและฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม NordVPN ก็เป็นบริการคุณภาพสูงที่มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นอยู่บ้าง มันมีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับการแบ่งปันไฟล์แบบ P2P, การเชื่อมต่อ Onion ผ่าน Tor และคุณสามารถเปิดใช้งานหมายเลข IP ที่เฉพาะเจาะจงได้อีกด้วย แถม Threat Protection ของ NordVPN ยังมอบชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับอุปกรณ์ของคุณด้วย

วิธีการที่ดีที่สุดในการตัดสินใจว่า VPN ใดดีกว่าสำหรับคุณคือการทดลองใช้งานด้วยตัวคุณเอง

บริการใดที่มีแอป VPN ที่ใช้งานง่ายที่สุด?

ฉันพบว่า ExpressVPN ใช้งานได้ง่ายกว่าโดยรวมด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายที่มีระบบนำทางที่ดีและเกือบจะเหมือนกันในแพลตฟอร์มที่รองรับทั้งหมด ด้วย ExpressVPN การเลือกตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจงจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าและคุณยังสามารถกดชื่นชอบเซิร์ฟเวอร์ที่ทำงานได้ดีที่สุดสำหรับคุณได้ด้วย – NordVPN ไม่มีตัวเลือกเหล่านี้

แอปของ NordVPN มีความซับซ้อนมากกว่า แต่ก็มีเลย์เอาท์ที่ชัดเจน ดังนั้นคุณจึงสามารถค้นหาฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ค่อนข้างง่าย ใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับ NordVPN และค้นหาว่าการตั้งค่าต่าง ๆ อยู่ที่ไหนนั้นนานกว่า แต่หลังจากที่คุณคุ้นเคยกับแอปต่าง ๆ แล้ว คุณก็จะไม่พบปัญหาในการใช้งานมัน

บริการใดที่ทำงานในด้านของการสตรีมมิ่งและ Torrenting ได้ดีกว่ากัน – NordVPN หรือ ExpressVPN?

ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการสตรีมมิ่งและ Torrenting ในระหว่างการทดสอบ ExpressVPN สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ ได้มากกว่าและความเร็วที่รวดเร็วนั้นก็เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่งที่ปราศจากการกระตุกและ Torrenting อย่างรวดเร็ว – ฉันสามารถดาวน์โหลดไฟล์ขนาด 1.5GB ได้ในเวลาเพียงแค่ 6 นาที

ที่ดีไปกว่านั้นคือเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด 3000 เซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ได้รับการปรับแต่งสำหรับการสตรีมมิ่งและ Torrenting NordVPN มีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับ P2P แต่ตัวเลอืกเหล่านี้ก็เต็มเร็วและไม่รวดเร็วเท่ากับเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ Torrenting ที่มาพร้อมกับความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมและนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด

บริการใดทำงานได้ดีกว่าในเกมคอนโซล – NordVPN หรือ ExpressVPN?

ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับเกมคอนโซลเนื่องจากมันติดตั้งกับเราเตอร์ของคุณได้ง่ายกว่า – เกมคอนโซลไม่มีแอป VPN ที่รองรับได้ ดังนั้นการตั้งค่าเราเตอร์ง่าย ๆ ของ ExpressVPN จึงทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม แถม ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเกมเล่นด้วยความเร็วที่รวดเร็วและ Ping ต่ำที่ทำให้คุณเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างราบรื่นและปราศจากการกระตุก

ExpressVPN รวดเร็วกว่า NordVPN ใช่ไหม?

ใช่ ExpressVPN รวดเร็วมากกว่า NordVPN ในการทดสอบของฉัน ฉันพบว่า ExpressVPN ทำได้ยอดเยี่ยมในเรื่องของการลดการสูญเสียความเร็วเพื่อที่คุณจะได้สามารถสตรีม, Torrent, เล่นเกมออนไลน์และท่องเว็บได้โดยไม่มีการกระตุกหรือสะดุด

ในการเชื่อมต่อท้องถิ่น ความแตกต่างระหว่าง ExpressVPN และ NordVPN นั้นมีเพียงเล็กน้อย – ExpressVPN รวดเร็วกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็มีช่องว่างที่ใหญ่มากกว่าในการเชื่อมต่อที่อยู่ห่างไกล ExpressVPN มักรวดเร็วมากกว่า NordVPN อยู่หลาย Mbps สิ่งนี้อาจดูเหมือนความแตกต่างเพียงเล็กน้อย แต่หากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีอยู่ของคุณช้าอยู่แล้ว คุณอาจสังเกตเห็นผลกระทบอย่างมากในการเชื่อมต่อของคุณ

มี VPN อื่นที่มีราคาถูกกว่า NordVPN และ ExpressVPN ไหม?

มี แต่คุณจะได้รับในสิ่งที่คุณจ่ายตอนที่คุณเลือก VPN ที่มีราคาถูกกว่า ทั้ง NordVPN และ ExpressVPN ต่างก็มีราคาสมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาถึงฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมซึ่งทำให้บริการทั้งสองเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการจ่ายเงินเพิ่มเติมเพื่อการป้องกันที่ครอบคลุม

หากคุณกำลังมองหาบริการ VPN ที่มีราคาถูกกว่า ก็มีบริการที่น่าเชื่อถืออย่าง CyberGhost ($2.19/เดือน) และ Private Internet Access ($2.19/เดือน) VPN เหล่านี้เสนอความปลอดภัยระดับชั้นนำ แต่คุณจะไม่ได้รับความเร็ว ตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์หรือคุณภาพระดับสูงโดยรวมเดียวกันกับที่คุณจะได้รับจาก VPN พรีเมียม – เหตุผลที่บริการดังกล่าวมีราคาถูกกว่า

คุณสามารถเลือกใช้ VPN ฟรีได้ แต่ฉันไม่แนะนำ มี VPN ฟรีที่ปลอดภัยไม่มากในตลาด แต่ส่วนใหญ่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลและกิจกรรมออนไลน์ของคุณเพื่อสร้างเงินกำไรเท่านั้น ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ ExpressVPN หรือ NordVPN ด้วยตัวเองและดูว่ามันเหมาะกับคุณหรือไม่ หากไม่ คุณสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้

และผู้ชนะก็คือ… ExpressVPN (ด้วยคะแนนนำเล็กน้อย)

อ้างอิงตามการทดสอบของฉัน คะแนนสุดท้ายคือ 6 ชัยชนะสำหรับ ExpressVPN, 3 ชัยชนะสำหรับ NordVPN และเสมอกัน 4 ExpressVPN เป็นผู้ชนะในหมวดหมู่ส่วนใหญ่ แต่ NordVPN ก็เป็นอันดับสองที่สูสีอย่างมาก

สรุปก็คือบริการทั้งสองเป็นบริการที่ยอดเยี่ยมและคุณควรตัดสินใจตามความต้องการ VPN ที่เฉพาะเจาะจงของคุณ

หากคุณต้องการการสตรีมมิ่ง การเล่นเกมหรือ Torrenting โดยไม่มีการรบกวน ให้ลองใช้ ExpressVPN และความเร็วที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา มันยังสามารถเอาชนะ NordVPN ในเรื่องการหลีกเลี่ยงการปิดกั้นทางภูมิศาสตร์ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์เข้มงวดอย่างประเทศจีนได้มากกว่าอีกด้วย

ถึงอย่างนั้นฉันก็แนะนำให้คุณลองใช้ NordVPN หากคุณมีงบประมาณจำกัดหรือต้องการโปรแกรม VPN ที่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่เฉพาะเจาะจง (เช่น เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์หรือ Double VPN)

หากคุณยังไม่สามารถตัดสินใจได้ ฉันขอแนะนำให้คุณทดลองใช้ทั้งสอง VPN ฟรีโดยใช้การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันของพวกเขา เมื่อคุณดำเนินการทดสอบในช่วงเวลาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำคือขอเงินคืนจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้า นี่เป็นวิธีที่ปราศจากความเสี่ยงที่ดีที่สุดในการทำให้มั่นใจได้ว่าคุณเลือกโปรแกรม VPN ที่เหมาะสม

ผู้ชนะโดยรวม: ExpressVPN

สรุป: VPN ชั้นนำอื่น ๆ ในปี 2024

อันดับสูงสุด ตัวเลือกยอดนิยม
ExpressVPN
$ 6.67 / month ประหยัด  49%
CyberGhost VPN
$ 2.19 / month ประหยัด  83%
Private Internet Access
$ 2.19 / month ประหยัด  82%
PrivateVPN
$ 2.00 / month ประหยัด  83%
IPVanish VPN
$ 2.75 / month ประหยัด  79%

พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและข้อตกลงเชิงพาณิชย์ของเรากับผู้ให้บริการด้วย หน้านี้มีลิงก์ affiliate

คุณชอบบทความนี้ไหม?
โหวตให้คะแนนเลยสิ!
ฉันเกลียดมัน ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ พอใช้ได้ ค่อนข้างดี รักเลย!
5.00 ได้รับการโหวตให้คะแนนโดย 7 ผู้ใช้
ชื่อเรื่อง
ความคิดเห็น
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณ