5 แอนตี้มัลแวร์ที่ดีที่สุดสำหรับการลบ + การป้องกันในปี (2024)
มีการปล่อยมัลแวร์ใหม่ ๆ ทุกวัน ดังนั้นจึงมีแนวโน้มสูงมากที่อุปกรณ์ของคุณจะได้เผชิญกับการติดมัลแวร์อันน่ารังเกียจอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แม้จะเพียงแค่ครั้งเดียว แต่ก็อาจเป็นหายนะได้ ในขณะที่มัลแวร์ส่วนใหญ่จะแอบสอดแนมคุณอย่างเงียบ ๆ โดยที่คุณไม่รู้ตัว แต่แรนซัมแวร์จะรุกรานเพื่อยึดไฟล์ส่วนตัวของคุณเอาไว้เป็นตัวประกันเพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินและไวรัสยังสามารถแพร่กระจายไปยังอุปกรณ์ทั้งหมดในเครือข่ายในบ้านของคุณได้อีกด้วย
ฉันทดสอบโปรแกรมป้องกันมัลแวร์มากกว่า 30 โปรแกรม แต่โชคร้ายที่ฉันพบว่าโปรแกรมส่วนใหญ่ตรวจจับมัลแวร์ไม่ได้ทุกสายพันธุ์ แม้ว่ามันจะทำได้ แต่มันก็อาจไม่มีความสามารถในการลบมัลแวร์ดังกล่าวออกไป นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงสร้างรายการตัวเลือกการป้องกันมัลแวร์ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2024 ขึ้นมา ตัวเลือกเหล่านี้จะป้องกันคุณจากมัลแวร์ประเภทต่าง ๆ ทั้งหมดด้วยการสแกนตามเวลาจริงและเครื่องมือลบ
หากคุณต้องการคำตอบแบบเร่งด่วน Norton มีกลไกการป้องกันมัลแวร์ที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งสามารถตรวจจับและลบไฟล์ที่เป็นอันตรายได้ทันทีที่มันปรากฏ มันยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ของแถมอย่าง VPN และการสำรองข้อมูลบนคลาวด์เข้ารหัสด้วย คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อคำพูดของฉันในเรื่องนี้ – คุณสามารถลองใช้ Norton ฟรีได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน ฉันทดลองด้วยตัวเองแล้วและฉันก็ได้รับเงินคืนภายใน 5 วันได้อย่างง่ายดาย
ลองใช้ Norton ฟรีเป็นเวลา 60 วัน!
คำแนะนำ: ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ดีที่สุดในปี 2024
- Norton – การป้องกันมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับอัตราการป้องกันที่สมบูรณ์แบบ ประเภทการสแกนมากมาย การป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่าง ๆ และการรับประกันยินดีคืนเงิน 60 วันที่แสนใจกว้าง
- TotalAV – ความปลอดภัยพื้นฐานขั้นสูงและอัตราการตรวจจับมัลแวร์สูง แต่ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าตอบกลับช้า
- McAfee – ป้องกันภัยคุกคามมัลแวร์ขั้นสูงและแรนซัมแวร์ได้ แต่มีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าพร้อมให้บริการผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น
- Bitdefender – ฟีเจอร์มากมายและการป้องกันประเภทมัลแวร์มากมายพื้นฐานที่ยอดเยี่ยม แต่ VPN น่าผิดหวังด้วยข้อมูลที่จำกัดในทุกแผนให้บริการ ยกเว้นแผนเดียว
- Intego – ตรวจจับมัลแวร์ทั้งหมดในระหว่างการทดสอบได้ แต่ไม่มี VPN, แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองหรือฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ
ซอฟต์แวร์ลบและป้องกันมัลแวร์ที่ดีที่สุด (ทดสอบเมื่อ 2024)
1. Norton – ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ดีที่สุดที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ป้องกันขั้นสูงมากมาย
ฟีเจอร์หลัก:
- สแกนเนอร์มัลแวร์ตามเวลาจริงและเครื่องมือลบที่แข็งแกร่ง
- มีการสำรองข้อมูลบนคลาวด์ที่เข้ารหัส, VPN, ผู้จัดการและอื่น ๆ รวมมาให้
- เข้ากันได้กับ Windows, Mac, Android และ iOS
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงผ่านแชทออนไลน์ในภาษาไทย
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน
Norton เป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันมัลแวร์อันดับ #1 ในตลาดด้วยความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมพร้อมด้วยฟีเจอร์เสริมที่แสนสะดวกสบาย มันใช้การวิเคราะห์แบบการศึกษาการสำนึกเพื่อระบุมัลแวร์ประเภทใหม่ก่อนที่มันจะกลายเป็นปัญหา Norton ยังใช้สแกนเนอร์ตามเวลาจริงซึ่งจะตรวจสอบเส้นทางการออนไลน์ของคุณอย่างต่อเนื่องและป้องกันคุณจากการดาวน์โหลดหรือโต้ตอบกับมัลแวร์ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงมีอัตราการป้องกันการโจมตีมัลแวร์ซีโร่เดย์ 100% และตรวจจับภัยคุกคามใหม่ระหว่างการสแกนอุปกรณ์ถึง 100% มันช่วยทำให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของคุณจะปลอดภัยจากมัลแวร์ทุกรูปแบบซึ่งรวมถึงแรนซัมแวร์ สปายแวร์ ฟิชชิ่งและอื่น ๆ อีกมากมาย
มีมัลแวร์ใหม่ ๆ มากกว่า 200,000 มัลแวร์ถูกสร้างขึ้นทุกวัน ดังนั้นการอัปเดตอยู่เป็นประจำจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ฐานข้อมูลมัลแวร์ของ Norton ได้รับการอัปเดตทุกวัน ดังนั้นคุณจึงได้รับความปลอดภัยใหม่ล่าสุดเสมอและไม่มีภัยคุกคามใหม่ใดที่สามารถเล็ดลอดการป้องกันของคุณไปได้ ร่วมกันกับการตรวจจับด้วย AI นี่ทำให้ Norton มีเครื่องมือที่ครบครันในการรับมือกับภัยคุกคามต่าง ๆ ส่วนขยาย Safe Web ของ Norton ใช้การผสมผสาน AI และข้อเสนอแนะของคอมมูนิตี้เพื่อแจ้งเตือนคุณหากเว็บไซต์ติดมัลแวร์หรือมีภัยคุกคามฟิชชิ่ง ในระหว่างการทดสอบของฉัน Norton Safe Web ตรวจจับภัยคุกคามได้เกือบ 99% เมื่อเทียบกับ Chrome ที่ทำได้ 97% นี่เป็นชั้นการป้องกันอีกชั้นหนึ่งในการดูแลให้คุณปลอดภัยและได้การแจ้งเตือนทางออนไลน์มากขึ้น
คุณสามารถเลือกประเภทการสแกนที่แตกต่างกันได้ 3 รูปแบบซึ่งรวมถึงการสแกนแบบรวดเร็ว (Quick Scan), การสแกนแบบเต็ม (Full Scan) หรือการสแกนแบบกำหนดเอง (Custom Scan) ได้ ตัวเลือกเหล่านี้ช่วยให้คุณดำเนินการสแกนส่วนที่มีความเสี่ยงมากที่สุดของคอมพิวเตอร์ ส่วนที่เฉพาะเจาะจงหรือไดร์ฟทั้งหมดทุกวันได้โดยไม่ถูกรบกวน ฉันตั้งการสแกนแบบรวดเร็วให้ทำงานทุกเช้าและการสแกนแบบเต็มสามครั้งต่อสัปดาห์เพื่อที่คอมพิวเตอร์ของฉันจะได้รับการป้องกันโดยไม่ส่งผลต่อการดำเนินการดัวยตัวเองอื่น ๆ
Norton ยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยเสริมที่มีประโยชน์เพื่อยกระดับการป้องกันมัลแวร์พื้นฐานให้ดียิ่งขึ้นด้วย ฟีเจอร์โปรดของฉันคือฟีเจอร์ Cloud Backup ของ Norton ซึ่งมอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ให้กับคุณสูงสุดถึง 75GB เพื่อป้องกันข้อมูลความลับที่สุดของคุณและป้องกันมันจากแรนซัมแวร์ ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อีกฟีเจอร์หนึ่งคือ Secure VPN ดังนั้นคุณจึงสามารถท่องเว็บได้อย่างปลอดภัย เข้าถึงเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นตามภูมิศาสตร์และ Torrent ได้โดยไม่เปิดเผยตัวตน Norton มีความเร็วที่รวดเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมในการทดสอบทั้งหมดนอกจากการเปิดเว็บไซต์และแม้ว่าจะช้าลงเล็กน้อย แต่จริง ๆ แล้วหากไม่มีการตรวจสอบความแตกต่างในระยะเวลาโหลด ฉันคงไม่สังเกตเห็นตั้งแต่แรก!
คุณสามารถลองใช้ Norton 360 ฟรีเป็นระยะเวลา 60 วันเพื่อทดสอบด้วยตัวคุณเองได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน ฉันทดสอบกระบวนการรับประกันยินดีคืนเงินด้วยตัวเองโดยการทดลองใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนก่อนที่จะขอเงินคืนผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง กระบวนการดังกล่าวใช้เวลารวมแล้วน้อยกว่า 5 นาทีและเจ้าหน้าที่ก็อนุมัติคืนเงินให้กับฉันโดยไม่มีปัญหาใด ๆ ฉันได้รับเงินคืนเข้าบัญชีของฉันในอีก 5 วันต่อมา
2. TotalAV – ซอฟต์แวร์แอนตี้มัลแวร์ที่มาพร้อมกับส่วนขยายเบราว์เซอร์
ฟีเจอร์หลัก:
- อัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยมในระหว่างการสแกนและในเวลาจริง
- มาพร้อมกับ VPN และผู้จัดการรหัสผ่าน
- รองรับ Windows, Mac, Android และ iOS
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าผ่านแชทออนไลน์ โทรศัพท์และอีเมล
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
TotalAV ป้องกันอุปกรณ์ของคุณจากมัลแวร์ประเภทต่าง ๆ มากมายซึ่งรวมถึงฟิชชิ่ง แรนซัมแวร์และสปายแวร์ ฉันประทับใจกับอัตราการตรวจจับ 100% ในระหว่างการสแกนแม้ว่ามันจะทำคะแนนในการทดสอบการป้องกันตามเวลาจริงได้เพียง 99% เท่านั้นก็ตาม นี่ทำให้ TotalAV ได้เป็นอันดับสองในรายการนี้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังแข็งแกร่งมากกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ในตลาด
โดยค่าเริ่มต้น TotalAV จะกักกันภัยคุกคามที่เป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องดำเนินการโดยทันที เมื่อมีการตรวจพบภัยคุกคาม คุณก็จะได้รับการแจ้งเตือนผ่านป๊อปอัพซึ่งคุณสามารถเลือกลบ กักกันหรือเก็บมันเอาไว้ได้ เมื่อคุณพร้อมแล้ว คุณก็จะสามารถตรวจสอบไฟล์โดยละเอียดและลบมันได้ง่าย ๆ โดยการคลิกที่ปุ่ม “แก้ไขทั้งหมด”
การป้องกันฟิชชิ่งของ TotalAV มาในรูปแบบของส่วนขยายเบราว์เซอร์ Safe Site (Chrome, Firefox และ Edge) ซึ่งมีฐานข้อมูล URL ฟิชชิ่งที่เป็นอันตรายขนาดใหญ่ มันเป็นวิธีในการป้องกันตัวคุณเองจากภัยคุกคามฟิชชิ่งเหล่านี้แบบพาสซีฟและทำงานได้ดีในการทดสอบของฉัน
ฉันพบข้อเสียอย่างยิ่งในอินเทอร์เฟซของผู้ใช้ แม้ว่ามันจะอนุญาตให้เราดำเนินการปรับแต่งมากมายได้ แต่ฟีเจอร์เหล่านั้นไม่มีคำอธิบายที่เหมาะสมซึ่งทำให้เกิดความสับสนในการใช้งาน ฉันชอบเลย์เอาท์ที่ใช้งานง่ายหรืออย่างน้อยก็มีส่วนสนับสนุนที่ดีกว่านี้เพื่อที่ฉันจะได้เปิดดูได้ว่ามีฟีเจอร์อะไรให้บริการบ้าง
คุณสามารถลองใช้ TotalAV ฟรี 30 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน ฉันทดสอบนโยบายดังกล่าวโดยการลงทะเบียนสมัครสมาชิกแบบรายปีก่อนที่จะติดต่อฝ่ายสนับสนุนผ่านทางอีเมล น่าเสียดายที่พวกใช้เวลาถึงสองวันในการตอบกลับฉันว่าฉันต้องการยืนยันขอเงินคืนหรือไม่ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ฉันตอบกลับไปแล้ว ฉันก็ได้รับการยืนยันคืนเงินภายใน 3 ชั่วโมง
3. McAfee – การป้องกันมัลแวร์ทุกประเภทที่แข็งแกร่ง
ฟีเจอร์หลัก:
- ตรวจจับและลบมัลแวร์ในการทดสอบได้อย่างง่ายดาย
- มี VPN, ผู้จัดการรหัสผ่านและเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร
- ทำงานได้บน Windows, Mac, Android และ iOS
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าพร้อมให้บริการผ่านทางโทรศัพท์
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
McAfee เป็นตัวเลือกที่มีความปลอดภัยสูงด้วยคะแนนการตรวจจับมัลแวร์ที่สมบูรณ์เมื่อทดสอบกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ล่าสุด มันยังช่วยป้องกันคุณจากมัลแวร์ที่ “ไม่มีไฟล์” อีกด้วย นี่เป็นภัยคุกคามขั้นสูงซึ่งปรากฏในความจำ (RAM) ของคอมพิวเตอร์ของคุณซึ่งไม่มีการบันทึกจริง ๆ เอาไว้บนฮาร์ดไดร์ฟ ไม่ใช่โปรแกรมแอนตี้มัลแวร์ทั้งหมดจะสามารถป้องกันสิ่งนี้ได้ซึ่งทำให้ McAfee เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและช่วยป้องกันคุณได้แม้กระทั่งภัยคุกคามที่ร้ายแรงเหล่านี้
คุณสามารถใช้การสแกนที่แตกต่างกันได้ 3 ประเภท (การสแกนแบบรวดเร็ว การสแกนแบบเต็มหรือการสแกนแบบกำหนดเอง) และกำหนดให้ตารางการสแกนเป็นประจำได้เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องมานั่งจำว่าต้องเปิดการสแกน เมื่อฉันเปิดใช้งานการสแกนแบบรวดเร็ว ฉันก็ประทับใจที่มันใช้เวลาในการสแกนรายการต่าง ๆ มากกว่า 10,000 รายการน้อยกว่า 5 นาที การสแกนแบบเต็มนั้นรวดเร็วพอ ๆ กับมากกว่า 50 นาทีสำหรับ 590,000
McAfee มาพร้อมกับฟีเจอร์เสริมมากมายเพื่อป้องกันอุปกรณ์ของคุณอย่างเต็มรูปแบบ ฉันชอบเครื่องมือ Ransom Guard ของ McAfee เป็นพิเศษซึ่งจะตรวจจับอุปกรณ์ของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อปิดกั้นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้รับอนุญาตใด ๆ ในไฟล์หรือโฟลเดอร์ Ransom Guard ใช้การเรียนรู้กลไกเพื่อวิเคราะห์มัลแวร์ที่ถูกเผยแพร่ล่าสุดอย่างต่อเนื่อง
ฉันยังเป็นแฟนเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวรและผู้จัดการรหัสผ่านด้วย เครื่องมือกำจัดไฟล์ของ McAfee จะดำเนินการลบข้อมูลของคุณอย่างปลอดภัยโดยการเขียนทับไฟล์ดังกล่าวถึง 10 ครั้งเพื่อให้ไม่สามารถกู้คืนกลับมาได้ ผู้จัดการรหัสผ่านจะเข้ารหัสรหัสผ่านทั้งหมดของคุณเอาไว้หลังรหัสผ่านมาสเตอร์และจากนั้นมันก็จะถูกกรอกลงบนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ มันใช้งานง่าย รวดเร็วและทำงานได้ใน Windows, Mac, Android และ iOS ข้อเสียก็คือเวอร์ชันฟรีอนุญาตให้เก็บได้สูงสุดเพียง 15 รหัสผ่านเท่านั้น
คุณสามารถลองใช้ความสามารถในการป้องกันมัลแวร์ของ McAfee โดยไม่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 30 วันฟรีได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน น่าเสียดายที่ตัวเลือกในการขอเงินคืนนั้นมีเพียงตัวเลือกเดียวซึ่งก็คือการส่งแบบฟอร์มคำขอและจากนั้นก็โทรติดต่อหมายเลขที่คุณได้รับ – ควรจะมีตัวเลือกแชทออนไลน์หรืออีเมล โชคดีที่มันเป็นหมายเลข 0800 (โทรฟรีในสหราชอาณาจักร) และกระบวนการดังกล่าวก็ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ฉันได้รับเงินคืนเข้าบัญชีของฉัน 1 วันต่อมา
4. Bitdefender – ฟีเจอร์ป้องกันมัลแวร์ที่ครอบคลุมเพื่อความปลอดภัยที่ครบวงจร
ฟีเจอร์หลัก:
- กลไกป้องกันมัลแวร์จะช่วยป้องกันคุณจากแรนซัมแวร์ ไวรัสและอื่น ๆ อีกมากมาย
- มีผู้จัดการรหัสผ่าน แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองและเครื่องกำจัดไฟล์ถาวร
- ทำงานได้บน Windows, Mac, Android และ iOS พร้อมแอปในภาษาไทย
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมให้บริการผ่านทางแชทออนไลน์และอีเมล
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
Bitdefender มีชุดฟีเจอร์ป้องกันมัลแวร์ที่แข็งแกร่ง คุณสามารถเลือกประเภทการสแกนได้ 3 ประเภท ได้แก่ การสแกนแบบรวดเร็ว การสแกนแบบเต็มและการสแกนแบบกำหนดเอง ตัวเลือกการสแกนเหล่านี้อนุญาตให้คุณวิเคราะห์ส่วนที่มีความเสี่ยงที่สุดของคอมพิวเตอร์ของคุณ ทุกส่วนของอุปกรณ์หรือเฉพาะโฟลเดอร์ที่คุณสงสัยว่าอาจมีภัยคุกคามได้
ในการทดสอบ Bitdefender ระบุและปิดกั้นไฟล์ที่เป็นอันตรายทั้งหมดในระหว่างการสแกนได้อย่างถูกต้อง อัตราการตรวจจับตามเวลาจริงนั้นต่ำกว่า 99.7% เพียงเล็กน้อย นี่ถือเป็นคะแนนที่ดีและจะช่วยดูแลให้คุณออนไลน์อย่างปลอดภัยจากการผสมผสานของมัลแวร์ซีโร่เดย์และมัลแวร์ที่เก่าแก่กว่าและการโจมตีต่าง ๆ เมื่อพูดถึงการโจมตีฟิชชิ่ง Bitdefender ใช้เทคนิค AI เพื่อวิเคราะห์อีเมลและเว็บไซต์และเปรียบเทียบมันกับการโจมตีที่มีอยู่เพื่อระบุลักษณะทั่วไป
การป้องกันแรนซัมแวร์ของ Bitdefender นั้นแข็งแกร่งมาก ในกรณีที่อุปกรณ์ของคุณเกิดติดมัลแวร์ เครื่องมือกู้คืนแรนซัมแวร์จะถอดรหัสข้อมูลของคุณโดยที่คุณไม่ต้องจ่ายเงินค่าไถ่แก่ผู้ที่โจมตี ในการทดสอบมันยังป้องกันการเข้ารหัสแรนซัมแวร์ระหว่างทางและจากนั้นก็กู้คืนไฟล์ที่ติดมัลแวร์ได้ทันทีอีกด้วย!
นอกจากฟีเจอร์ป้องกันมัลแวร์แล้ว Bitdefender ยังมีเครื่องมือเสริมอย่างเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร ผู้จัดการรหัสผ่านและแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองมาให้ มันยังมีแม้กระทั่ง VPN มาให้ด้วยถึงแม้ว่าฉันจะผิดหวังที่มันมีข้อมูลที่ใช้งานได้รายวันเพียง 200MB ในทุกแผนให้บริการ ยกเว้นเพียงแผนเดียวก็ตาม
คุณสามารถลองดูด้วยตาของคุณเองได้เมื่อคุณลองใช้ Bitdefender ฟรี 30 วันด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน ฉันลงทะเบียนสมัครสมาชิกรายปีและดำเนินการทดสอบเป็นระยะเวลาสองสามสัปดาห์ จากนั้นฉันก็ส่งอีเมลไปยังฝ่ายสนับสนุนลูกค้าและฉันก็ผิดหวังนิดหน่อยที่พวกเขาใช้เวลานานถึง 5 วันในการตอบหลับ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมอะไร ดังนั้นฉันจึงได้รับเงินคืนกลับเข้ามาในบัญชีของฉันภายใน 5 วัน
ลองใช้ Bitdefender ฟรี 30 วัน!
5. Intego – ตรวจจับมัลแวร์ทั้งหมดบน PC และ Mac ได้ (แม้กระทั่งการโจมตีทางไซเบอร์ล่าสุด)
ฟีเจอร์หลัก:
- การป้องกันตามเวลาจริงที่ตรวจจับและกักกันมัลแวร์ได้ทั้งหมด
- มี Web Shield เพื่อปิดกั้น URL ที่เป็นอันตรายโดยอัตโนมัติ
- รองรับ Windows และ Mac
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าผ่านแชทออนไลน์และอีเมล
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
Intego ตรวจจับและกักกันมัลแวร์ได้ 100% ใน PC และ Mac ที่ใช้ทดสอบของฉัน การป้องกันตามเวลาจริงตรวจพบมัลแวร์ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ แถมยังไม่พลาดภัยคุกคามใด ๆ ในระหว่างการสแกนแบบด่วนหรือการสแกนระบบแบบเต็มเลย
นอกจากมัลแวร์เดิม ๆ ที่ตรวจพบได้ด้วยคำนิยามที่รู้จักแล้ว Intego ยังป้องกันคุณจากภัยคุกคามที่เพิ่งเผยแพร่เข้ามาในโลกนี้ได้อีกด้วย ในการดำเนินการดังกล่าว มันใช้ Prevention Engine ขั้นสูงซึ่งถูกเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น ระบบนี้จะตรวจจับมัลแวร์แปลก ๆ ที่การสแกนปกติมักจะพลาดไป
แอปของ Intego สำหรับ Windows และ Mac นั้นไม่หนักเครื่องและใช้งานง่ายโดยมันจะทำการสแกนโดยไม่ทำให้ระบบของฉันช้าลงจนสังเกตเห็นได้ ใน Windows Intego ใช้ความจำ 46-47MB และ CPU 2%
คุณสามารถลองใช้ Intego โดยไม่มีความเสี่ยงได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันหรือทดลองใช้งานเป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์โดยใช้เวอร์ชันทดลองฟรีได้
ตารางเปรียบเทียบ: ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ดีที่สุดในปี 2024
| การป้องกันและการลบมัลแวร์ | ไฟร์วอลล์ | VPN | เวอร์ชันฟรี | การรับประกันยินดีคืนเงิน | |
| 1. Norton | ✔ | ✔ | ✔ | ✘ | 60 วัน |
| 2. TotalAV | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | 30 วัน |
| 3. McAfee | ✔ | ✔ | ✔ | ✘ | 30 วัน |
| 4. Bitdefender | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | 30 วัน |
| 5. Intego | ✔ | ✘ | แอดออน | ✘ | 30 วัน |
ไม่มีแบรนด์ป้องกันมัลแวร์ใดเหล่านี้ที่ทำงานได้ดีพอ
1. Avast และ AVG
ในตอนต้นปี 2020 นักข่าวและนักวิจัยด้านความปลอดภัยได้ค้นพบว่า Avast ได้รวบรวมและขายข้อมูลของผู้ใช้ผ่านบริษัทย่อย Jumpshot แม้ว่าพวกเขาจะอ้างว่าข้อมูลนี้ไม่เปิดเผยตัวตนโดยสมบูรณ์ แต่มันก็มีข้อมูลส่วนบุคคลรวมอยู่ด้วย เช่น การค้นหาผ่าน Google และเว็บไซต์ที่เยี่ยมชม ด้วยข้อมูลนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเชื่อว่ามันสามารถเชื่อมโยงกับผู้ใช้รายบุคคลในบางกรณีได้ Jumpshot ปิดตัวลงตั้งแต่นั้น แต่อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Avast ได้สูญเสียความไว้วางใจจากหลาย ๆ คน (ซึ่งรวมถึงตัวฉันเอง)
โชคร้ายที่ Avast เป็นเจ้าของ AVG และมีส่วนร่วมในข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการขายข้อมูลนี้ด้วย
2. Microsoft Defender
มันอาจจะฟรีและมีอัตราการป้องกันที่ดี แต่ Microsoft Defender ขาดการป้องกันมัลแวร์ที่ครบวงจรที่คู่แข่งมีให้บริการ สิ่งนี้ทำให้คุณเสี่ยงกับภัยคุกคามทางออนไลน์ต่าง ๆ มากขึ้น (เช่น การฟิชชิ่งหรือแรนซัมแวร์) และอาจส่งผลให้เกิดข้อมูลสูญหาย การรั่วไหลของบัญชีและอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้คุณยังต้องคำนึงถึงฟีเจอร์ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยทางออนไลน์ได้เป็นอย่างมากซึ่งรวมถึง VPN, ผู้จัดการรหัสผ่านและเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวรที่ตัวเลือกที่ฉันแนะนำส่วนใหญ่ทีให้บริการ
ฉันจัดอันดับโปรแกรมป้องกันมัลแวร์ที่ดีที่สุดอย่างไร
เกณฑ์เหล่านี้เป็นเกณฑ์ที่ฉันใช้เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ป้องกันมัลแวร์ที่ดีที่สุดในตลาด:
- ความปลอดภัย – ส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ใด ๆ ก็คืออัตราการตรวจจับและกำจัดมัลแวร์ที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากการทดสอบโปรแกรมเหล่านี้ ฉันได้ตรวจสอบให้มั่นใจว่าโปรแกรมเหล่านี้ทำได้ตามที่กล่าวอ้าง
- ฟีเจอร์เสริม – การป้องกันมัลแวร์อย่างเดียวก็ดี แต่ฉันชอบเมื่อชุดความปลอดภัยมีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อื่น ๆ รวมมาให้ด้วย (ซึ่งรวมถึง VPN หรือการสำรองข้อมูลบนคลาวด์) ซึ่งทำให้ความปลอดภัยของอุปกรณ์ของฉันสมบูรณ์ ฉันใช้แต่ละฟีเจอร์เหล่านี้เพื่อยืนยันว่าฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับแพ็กเกจโดยรวม
- ประสิทธิภาพสูง – นอกจากการป้องกันที่น่าเชื่อถือแล้วตัวเลือกทั้งหมดต้องมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมซึ่งฉันทดสอบโดยการวัดความเร็วในช่วงเวลาต่าง ๆ แม้ว่าจะมีปัญหาในด้านประสิทธิภาพเล็กน้อยเมื่อเปิดใช้งานโปรแกรมป้องกันมัลแวร์ แต่มันก็ควรจะน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- ความเรียบง่าย – การค้นหาและการใช้งานฟังก์ชันของโปรแกรมป้องกันมัลแวร์ควรง่ายทั้งสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ใช้ขั้นสูง ฉันได้ตรวจสอบอินเทอร์เฟซและตัวเลือกเมนูทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจว่ามันเป็นมิตรต่อผู้ใช้ทุกคน
- ความคุ้มค่ากับเงิน – ราคาต้องเหมาะกับสิ่งที่แพ็กเกจมีให้บริการโดยรวม นี่รวมถึงระดับของความปลอดภัย ฟีเจอร์ ฝ่ายสนับสนุนที่พร้อมให้บริการและคุณสามารถขอรับเงินคืนได้หรือไม่หากคุณเกิดเปลี่ยนใจ ฉันเปรียบเทียบแพ็กเกจโดยรวมของแต่ละโปรแกรมกับราคาเพื่อตัดสินว่ามันคุ้มค่ากับเงินหรือเปล่า
คำถามที่พบบ่อย: การป้องกันและการกำจัดมัลแวร์
โปรแกรมป้องกันมัลแวร์ฟรีที่ดีที่สุดคือโปรแกรมใด?
Bitdefender เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ป้องกันมัลแวร์ฟรีที่ดีที่สุดในตลาด อย่างไรก็ตามเวอร์ชันฟรีมีข้อจำกัดมาก ๆ เมื่อพูดถึงประเภทของมัลแวร์ขั้นสูงซึ่งรวมถึงแรนซัมแวร์ หากคุณต้องการมั่นใจถึงความปลอดภัยของไฟล์ในอุปกรณ์ของคุณและได้รับการป้องกันจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั้งหมด ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้เวอร์ชันพรีเมียมและดูว่ามันเหมาะกับงบประมาณของคุณหรือไม่
แอปป้องกันมัลแวร์ใดเป็นแอปที่ดีที่สุดในปี 2024?
จากการทดสอบของฉัน ฉันพบว่าการป้องกันมัลแวร์ที่ดีที่สุดคือ Norton มันทำคะแนนได้ดีในการสแกนมัลแวร์และการทดสอบการป้องกันตามเวลาจริง คุณยังสามารถใช้ VPN แบบไม่จำกัดข้อมูลซึ่งจะช่วยดูแลให้คุณไม่ถูกเปิดเผยตัวตนในขณะที่ท่องเว็บและ Torrenting และมอบสิทธิ์ในการเข้าถึง Netflix ของสหรัฐอเมริกากับคุณ สุดท้ายมันยังมีฟีเจอร์มากมายที่ช่วยเติมเต็มความปลอดภัยพื้นฐานของคุณตั้งแต่ Cloud Backup ซึ่งจะช่วยป้องกันแรนซัมแวร์ ผู้จัดการรหัสผ่านเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลงชื่อเข้าใช้และฟีเจอร์แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองเพื่อป้องลูก ๆ ของคุณทางออนไลน์
คุณสามารถลองใช้ Norton ฟรี 60 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน ฉันได้รับเงินคืนอย่างง่ายดายหลังจากที่ใช้งานมาเป็นระยะเวลาสองสามสัปดาห์โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงและคำขอคืนเงินก็ได้รับการอนุมัติภายในไม่กี่นาที ฉันได้รับเงินคืนภายใน 5 วันเท่านั้น
ความแตกต่างระหว่างไวรัสและมัลแวร์หรือแอนตี้ไวรัสและแอนตี้มัลแวร์คืออะไร?
ไวรัสเป็นมัลแวร์ประเภทหนึ่ง มัลแวร์นั้นรวมถึงประเภทภัยคุกคามทางไซเบอร์ประเภทต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงไวรัส แรนซัมแวร์ แอดแวร์ สแกมฟิชชิ่ง โทรจัน เวิร์ม รูทคิท สปายแวร์ แอดแวร์และอื่น ๆ
ทุกวันนี้คำว่า “แอนตี้ไวรัส” และ “แอนตี้มัลแวร์” ถูกนำมาใช้แทนกันได้ แบรนด์แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดจะมีทั้งฟีเจอร์แอนตี้มัลแวร์รวมมาให้ในซอฟต์แวร์ ในอดีต ผู้ให้บริการแอนตี้มัลแวร์บางรายเสนอการป้องกันพิเศษจากประเภทมัลแวร์ที่เฉพาะเจาะจง (เช่น แรนซัมแวร์) อย่างไรก็ตามปัจจุบันแทบไม่มีความต่างในเรื่องนี้แล้ว
ดาวน์โหลดแอนตี้มัลแวร์ที่ดีที่สุด
ป้องกันอุปกรณ์ของคุณจากภัยคุกคามทางออนไลน์มากมายด้วยโปรแกรมป้องกันมัลแวร์คุณภาพ
หลาย ๆ คนไม่ให้ตระหนักถึงสิ่งดี ๆ ที่โปรแกรมป้องกันมัลแวร์สามารถทำให้พวกเขาได้ – จนกระทั่งมันสายเกินไป ด้วยอินเทอร์เน็ตที่เต็มไปด้วยภัยคุกคามมัลแวร์ในเวลานี้ คุณจึงตกอยู่ในความเสี่ยงร้ายแรงทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อหากคุณไม่ได้รับการป้องกันที่เหมาะสม โชคดีที่ 5 โปรแกรมข้างต้นจะดูแลให้อุปกรณ์ของคุณปลอดภัยในขณะที่มอบสิทธิ์ในการเข้าถึงฟีเจอร์เสริมที่มีประโยชน์อย่าง VPN และผู้จัดการรหัสผ่านกับคุณ
หลังจากทดสอบโดยละเอียด ฉันพบว่าโปรแกรมป้องกันมัลแวร์ที่ดีที่สุดคือ Norton มันคือผู้นำในตลาดด้วยอัตราการตรวจจับมัลแวร์ 100% ในขณะการสแกนและการป้องกันภัยคุกคามมัลแวร์ตามเวลาจริงถึง 100% ผสานรวมกับ VPN ที่ไม่จำกัดข้อมูล แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองและฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย Norton คือตัวเลือกอันดับ #1 สำหรับการป้องกันมัลแวร์ของฉัน ที่ดียิ่งกว่านั้นคือคุณสามารถลองใช้ Norton ฟรี 60 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน
