🚀ความเร็ว | 10 / 10 |
📍เซิร์ฟเวอร์ | 10 / 10 |
👍เป็นมิตรต่อผู้ใช้ | 10 / 10 |
📞บริการลูกค้า | 10 / 10 |
🏷️ราคา | 9.0 / 10 |
คุณจะพบรีวิวเชิงบวกมากมายเกี่ยวกับ ExpressVPN ทางออนไลน์ – แต่การรีวิวทั้งหมดเหล่านั้นฟังดูดีเกินกว่าจะเป็นจริง ดังนั้นฉันจึงต้องการหลักฐานที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงคำบรรยายสวยหรู
จริง ๆ แล้ว ExpressVPN นั้นดีกว่าคู่แข่งมากแค่ไหนโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยแผนสมัครสมาชิกที่มีราคาแพงของพวกเขา? แม้ว่าฉันจะพบราคาส่วนลดของ ExpressVPN แต่มันก็ยังคงมีราคาสูงกว่า CyberGhost และโปรแกรม VPN ชั้นนำอื่น ๆ ฉันต้องการทราบว่ามันคุ้มค่ากับเงินที่ฉันจ่ายไปหรือไม่ (หรือหากมันเป็นการกล่าวอ้างที่เกินจริงหรือเปล่า)
เพื่อค้นหาคำตอบที่แท้จริง ฉันจึงได้รวบรวมทีมค้นคว้าทั่วโลกเพื่อสร้างบทวิเคราะห์ฉบับเต็มจาก 10 ประเทศซึ่งรวมถึงประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างประเทศจีนและตุรกี การทดสอบทั้งหมดนั้นจัดทำขึ้นบน Windows, Mac, Android, iOS และแม้กระทั่ง Amazon Fire Stick นอกจากนี้ฉันยังตรวจสอบความจริงเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของ ExpressVPN และทดสอบความเร็วในขณะสตรีมมิ่ง, Torrenting และเล่นเกมด้วย
ฉันประหลาดใจที่ได้พบว่า ExpressVPN คู่ควรกับชื่อเสียงที่ยอดเยี่ยมและฉันคิดว่ามันคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปอย่างแน่นอน ผลการทดสอบฉบับเต็มของฉันอยู่ที่ด้านล่าง — แม้ว่าการทดสอบ ExpressVPN ด้วยตัวคุณเองจะไม่มีความเสี่ยงเนื่องจากการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันก็ตาม หากคุณพบว่ามันไม่เป็นไปตามความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของคุณ คุณสามารถร้องขอเงินคืนได้ง่าย ๆ ผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง
ทดลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 30 วัน!
อัปเดต กุมภาพันธ์ 2023! ExpressVPN ปรับลดราคาภายในช่วงระยะเวลาที่จำกัดเหลือเพียง $6.67 ต่อเดือนเท่านั้นในแผนให้บริการแบบ 1 ปี (คุณสามารถประหยัดเงินได้สูงสุดถึง 49%) + รับเพิ่มอีก 3 เดือนฟรี! นี่เป็นข้อเสนอจำกัดเวลา ดังนั้นอย่าลืมคว้ามันเอาไว้เลยตอนนี้ก่อนที่มันจะหายไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ได้ที่นี่
ลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยง!
ExpressVPN เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับการสตรีมมิ่งเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้นและเครื่องเล่นมีเดียมากมายทั่วโลก ในระหว่างการทดสอบของฉัน ฉันเข้าถึง Netflix (สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร บราซิลและอื่น ๆ), Amazon Prime Video (สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจกัร), Disney+ (ทุกประเทศ), Hulu, แอดออน Kodi, BBC iPlayer, Sling TV, HBO, Showtime, UKTV, DAZN และ ESPN+ ได้สำเร็จ
ท่ามกลางโปรแกรม VPN ทั้งหมดที่ฉันได้ทดสอบ มีผู้ให้บริการจำนวนไม่มากนักที่สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งทั้งหมดนี้ได้ นอกจากนี้ ExpressVPN ยังสามารถช่วยคุณปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งในท้องถิ่นของประเทศไทย อย่าง Workpoint และ Doonee เมื่อคุณอยู่ต่างประเทศได้อีกด้วย ผู้ให้บริการ VPN มากมายไม่มีเซิร์ฟเวอร์ที่น่าเชื่อถือมากพอ (หรือไม่มีเซิร์ฟเวอร์ใด ๆ) ในประเทศไทย (เช่น IPVanish) ดังนั้นฉันจึงประทับใจที่เห็นว่า ExpressVPN มี
เมื่อพูดถึงความเร็วในการสตรีมมิ่ง ExpressVPN อัปเดตเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกมากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์อยู่เสมอเพื่อที่คุณจะได้มีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานได้ที่รวดเร็วให้เลือกสรร นี่ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งหากคุณต้องการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรที่ที่บริการสตรีมมิ่งยอดนิยมที่สุดในโลกส่วนใหญ่ตั้งอยู่
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นเกี่ยวกับ ExpressVPN คือ จำนวนบริการสตรีมมิ่งระหว่างประเทศที่ ExpressVPN สามารถปลดบล็อกได้ที่นอกเหนือจากบริการอันเป็นที่นิยมอย่าง Netflix, Hulu, HBO Max, ESPN, Amazon Prime Video และ Disney+
ExpressVPN อนุญาตให้คุณสตรีมในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง:
Netflix | Hulu | BBC iPlayer | HBO | ESPN |
Amazon Prime Video | Disney+ | FuboTV | ITV Hub | Hotstar |
DAZN | Sky Go | Showtime | Apple TV+ | SlingTV |
Discovery+ | BEIN Sports | Hallmark Channel | Philo | BritBox |
Crunchyroll | Starz | VUDU | Channel4 | RaiPlay |
Zattoo | CBC | RTE Player | NowTV | 9Now |
10 Play | SBS On Demand | TVNZ | Virgin Media Player | TF1 Live |
M6 France on 6Play | France TV | Canal+ | TVNow | Sat.1 Live |
สิ่งหนึ่งที่ฉันพบคือหากฉันประสบกับความยากลำบากในการปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่ง ฉันสามารถเปลี่ยนเบราว์เซอร์หรือใช้ Incognito Mode ซึ่งบ่อยครั้งมักจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ การสลับจาก Chrome เป็น Firefox จะช่วยแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อตอนที่ฉันกำลังทดสอบ ExpressVPN กับ Hulu และการใช้ Incognito Mode ก็ช่วยในการเข้าถึง HBO Max ด้วย
รับชม Netflix และอื่น ๆ ด้วย ExpressVPN!
ฉันทดสอบผู้ให้บริการกว่า 30 รายกับ Netflix และ ExpressVPN เป็นหนึ่งในตัวเลือก VPN ชั้นนำของฉัน มันสามารถปลดบล็อก Netflix ได้อย่างต่อเนื่องในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 18 ประเทศซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี อสเตรเลีย
ในเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดที่ฉันทดสอบ ฉันสามารถรับชม Netflix ในคุณภาพระดับ HD ได้และต้องรอโหลดเพียง 1-3 วินาทีเท่านั้น ฉันประทับใจเป็นอย่างยิ่งกับเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ที่ที่ความเร็วของฉันอยู่ระหว่าง 400-490 Mbps:
เคล็ดลับมีประโยชน์: วิธีหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดพร็อกซีของ Netflix
หากคุณกำลังเผชิญหน้ากับพร็อกซีผิดพลาดของ Netflix งั้นนี่คือขั้นตอนในการแก้ไขมัน การแก้ไขที่รวดเร็วที่สุดคือล้างแคชของเบราว์เซอร์เพื่อลบข้อมูลที่ถูกจัดเก็บอยู่ใด ๆ หากยังคงไม่สามารถใช้งาน Netflix ได้ ให้ลองสลับไปใช้เซิร์ฟเวอร์อื่นในประเทศหรือภูมิภาคเดียวกันหรือส่งข้อความไปยังทีมช่วยเหลือทางแชทตลอด 24 ชั่วโมงของ ExpressVPN พวกเขาจะแนะนำเซิร์ฟเวอร์ Netflix ที่ใช้งานได้เสมอภายในเวลาไม่กี่นาที
รับชม Netflix ด้วย ExpressVPN!
ในระหว่างการทดสอบ ฉันสามารถเข้าถึง Amazon Prime Video ได้อย่างง่ายดาย สหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักร บนเซิร์ฟเวอร์ ลอสแองเจลิส, นิวยอร์ก, วอชิงตัน ดีซี, ดอคแลนด์ และ ลอนดอนตะวันออก
ทุกเซิร์ฟเวอร์ที่ฉันทดสอบมอบการสตรีมมิ่งคุณภาพสูงพร้อมการโหลดเล็กน้อยและไม่กระตุกเลย
รับชม Amazon Prime Video ด้วย ExpressVPN!
เซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกาของ ExpressVPN ปลดบล็อก Hulu ได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ ฉันสามารถรับชมภาพยนตร์เรื่อง Transformers บนเซิร์ฟเวอร์นิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ วอชิงตันและลอสแองเจลิสในความคมชัดระดับ HD ได้โดยไม่มีการรบกวน แม้ว่าหลังจากที่รับชม Hulu เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว แต่การเชื่อมต่อกับ ExpressVPN ของฉันก็ยังคงเสถียรดี
ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์และออสเตรเลียและเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดที่ฉันทดสอบปลดบล็อก Disney+ ได้อย่างง่ายดาย รายการ The Mandalorian ใช้เวลาโหลดภายในเสี้ยววินาทีและฉันพบกับการโหลดในช่วงแรกไม่กี่วินาทีเท่านั้น
ตอนที่ฉันดำเนินการทดสอบความเร็ว เซิร์ฟเวอร์สหราชอาณาจักร–ลอนดอนเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วที่สุดและเซิร์ฟเวอร์ออสเตรเลีย–ซิดนีย์นั้นเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ช้าที่สุด ความเร็วยังรวดเร็วพอสำหรับการสตรีมในความละเอียดระดับ HD ดังนั้นฉันจึงพึงพอใจกับผลลัพธ์นี้อย่างมาก
รับชม Disney+ ด้วย ExpressVPN!
ExpressVPN กล่าวอ้างว่าสามารถปลดบล็อกแอดออน Kodi ที่จำกัดในบางประเทศได้ เพื่อทดสอบสิ่งนี้ ฉันจึงทดลองใช้แอดออน Popcornflix (ถูกกฎหมาย แต่มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์) ซึ่งพร้อมให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้นและมันก็ใช้งานได้ – ฉันสามารถรับชมภาพยนตร์เรื่อง Teenage Mutant Ninja Turtles: Out of the Shadows โดยใช้เซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา-นิวยอร์กและแคนาดา-โตรอนโตได้สำเร็จ
จากนั้นฉันก็ทดสอบแอดออน Kodi ที่สตรีมไฟล์แคช BitTorrent ดู ฉันสามารถรับชมรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ใหม่ ๆ ในความคมชัดระดับ HD ได้และต้องรอให้สตรีมโหลดเพียงไม่กี่วินาที ของแถมก็คือการได้รู้ว่าเส้นทางการเข้าชมของฉันปลอดภัยตลอดเวลาในขณะที่ฉันรับชม Kodi
ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาของ ExpressVPN หลายเซิร์ฟเวอร์ซึ่งรวมถึงนิวยอร์ก ลอสแองเจลิสและนิวเจอร์ซีย์ — ทุกเซิร์ฟเวอร์ที่ฉันทดสอบปลดบล็อก HBO Max ได้โดยไม่มีปัญหา ความเร็วเซิร์ฟเวอร์ของฉันนั้นยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นฉันจึงสามารถสตรีมรายการอย่าง Selena & Chef ได้โดยไม่ต้องนั่งรอโหลด เซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วที่สุดสำหรับฉันคือนิวยอร์ก มันมีความเร็วอยู่ที่ 93Mbps ซึ่งมากกว่าเพียงพอที่จะรับชมวิดีโอในคุณภาพระดับ Ultra HD
ExpressVPN เป็นหนึ่งใน VPN ที่รวดเร็วที่สุดที่เราเคยทดสอบ – บางครั้งฉันก็ลืมไปด้วยซ้ำว่าฉันเชื่อมต่อมันอยู่! การสลับเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์นั้นก็รวดเร็วอย่างมากด้วยเช่นกัน (มันใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที) และฉันไม่เคยประสบกับความล้มเหลวในการเชื่อมต่อใด ๆ เลย
ตอนนี้ฉันใช้งาน ExpressVPN เพื่อท่องอินเทอร์เน็ต รับชมรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ใหม่ ๆ ออนไลน์ เล่นเกมและ Torrent ไฟล์ขนาดใหญ่ 90GB หรือมากกว่านี้มาเป็นระยะเวลาเกือบหนึ่งปีแล้วและฉันไม่มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับความเร็วของพวกเขาเลย
ฉันดำเนินการทดสอบความเร็วจากหลาย ๆ ตำแหน่งทั่วโลก (ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานของฉัน) — และฉันก็ประทับใจที่ได้เห็นว่าเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN นั้นมีความรวดเร็วที่เสถียรทั่วโลก พูดโดยรวมก็คือเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลจากตำแหน่งที่แท้จริงของคุณนั้นมีแนวโน้มที่จะทำงานได้ช้าลง อย่างไรก็ตามไม่มีความแตกต่างมากนักระหว่างความเร็วเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ในตำแหน่งที่อยู่ใกล้เคียงกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลหลายพันกิโลเมตร
นอกจากนี้ฉันยังทดสอบโปรโตคอล Lightway ของ ExpressVPN และ OpenVPN เพื่อดูว่ามันสามารถช่วยกระตุ้นความเร็วของฉันได้หรือไม่ Lightway โปรโตคอล VPN ของ ExpressVPN ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานทรัพยากรน้อยลงในขณะที่รักษาความปลอดภัยและความเร็วอันยอดเยี่ยมเอาไว้ โปรโตคอล UDP ของ OpenVPN ด้วยโปรโตคอลทั้งสองนี้ ความเร็วของฉันอยู่ที่เฉลี่ย 400 Mbps แม้ว่าโปรโตคอล L2TP/IPsec จะมีความเร็วสูงสุด แต่ฉันก็ยังคงแนะนำให้คุณเลือกโปรโตคอล Lightway หรือ OpenVPN โดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยที่ดีกว่า
เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง ExpressVPN ส่งผลกระทบต่อความเร็วการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตปกติของฉันน้อยที่สุด (ซึ่งหมายความว่ามันจะไม่ทำให้อุปกรณ์ของคุณทำงานช้าลง) เพื่อดำเนินการทดสอบในเรื่องนี้ ฉันได้เปิดใช้งาน ExpressVPN บนแล็ปท็อป Windows ของฉันและเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในปารีสซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลจากตำแหน่งของฉันมากที่สุด ความเร็วในการดาวน์โหลดของฉันช้าลงเพียง 25% เท่านั้น — ซึ่งถือว่าไม่มากเมื่อพิจารณาถึงระยะทางที่ห่างไกล
เพื่อการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วที่สุด ฉันยังคงแนะนำให้ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้กับตำแหน่งทางกายภาพของคุณมากที่สุด แต่หากคุณกำลังเดินทางหรือต้องการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล ExpressVPN ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเสนอความเร็วในการเชื่อมต่อที่ดีทั่วโลก ดังนั้นคุณจะไม่ประสบกับความเร็วที่ช้าลงอย่างมาก
เคล็ดลับ: รับความเร็วที่เร็วที่สุดด้วย ExpressVPN
ทดลองใช้ความเร็วที่รวดเร็วของ ExpressVPN เลยวันนี้!
ในฐานะเกมเมอร์ ฉันรู้ดีว่าการมีความเร็วที่รวดเร็วในขณะที่เล่นเกมนั้นสำคัญแค่ไหน น่าเสียดายที่คุณจะพบว่านักรีวิวส่วนใหญ่จะทดสอบความเร็วพื้นฐานโดยไม่มีกิจกรรมอะไรในพื้นหลังเลย
เมื่อใช้งาน VPN มันมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าคุณจะประสบปัญหาเมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์เกมและการกระตุกในระหว่างเล่นเกม นั่นคือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงทดสอบ ExpressVPN กับ Counter-Strike: Global Offensive (CS:GO) บน Steam เกมออนไลน์นี้ต้องการแบนด์วิดธ์จำนวนมากและความเร็วการเชื่อมต่อที่ยอดเยี่ยม การล่าช้าใด ๆ อาจหมายถึงความต่างระหว่างชัยชนะและความแพ้พ่าย
ฉันประหลาดใจอย่างยิ่งกับประสิทธิภาพของ ExpressVPN – เมื่อฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในเยอรมนี อัตรา Ping ของฉันอยู่ที่ 33ms (ฉันพบว่าอะไรก็ตามที่อยู่ต่ำกว่า 50 ms ถือว่าโอเคสำหรับการเล่นเกม) แม้ว่าด้วยการกระทำที่ใช้ความเร็วสูงทั้งหมด ฉันก็ไม่ประสบการปัญหาการเชื่อมต่อหรือการกระตุกใด ๆ ฉันแทบไม่สังเกตเห็นเลยว่าฉันเชื่อมต่อกับ VPN อยู่ นอกจากผู้เล่นร่วมของฉันส่วนใหญ่ตอนนี้พูดภาษาเยอรมัน ฉันยังเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับความละเอียดที่ต่ำกว่านี้เอาไว้ด้วย – แต่ฉันเล่น CS:GO ในความคมชัดระดับ HD ได้ในระหว่างเซสชั่นทั้งหมดของฉัน
ExpressVPN ยังช่วยยกระดับแม้กระทั่งความเร็วในการเล่นเกมของฉัน บางครั้งฉันพบการกระตุกอย่างมากในขณะที่เล่น Call of Duty เนื่องจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของฉันจำกัดความเร็วของฉัน หลังจากที่เชื่อมต่อกับหนึ่งในเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ฉันก็พบกับการกระตุกที่น้อยลงทันทีและพบกับการเล่นเกมที่มีการตอบสนองดีมากขึ้น
หากคุณกำลังใช้งาน VPN เมื่อเล่นเกม ExpressVPN เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเนื่องจากความเร็วที่รวดเร็ว ฉันแนะนำให้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อ Ping ที่น้อยที่สุดและความเร็วที่รวดเร็วที่สุด
ความเร็วถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเมื่อเลือก VPN ซึ่งความเร็วในการใช้ VPN จะมาพร้อมกับค่าใช้ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยิ่ง VPN มีความเร็วมากเท่าใด คุณยิ่งจะสามารถเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดของเน็ตเวิร์คของคุณได้มากเท่านั้น เวลา Ping มีความสำคัญเทียบเท่ากับความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดสำหรับการสตรีมมิ่ง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความเร็วในการรับข้อมูล เวลา ping ที่น้อยกว่าและแบนด์วิธในการดาวน์โหลดที่สูงจะช่วยให้การสตรีมมิ่งเป็นไปได้อย่างไม่มีสะดุด การใช้เวลาในการเชื่อมต่อที่สั้นกว่าจะช่วยป้องกันความวุ่นวาย ส่วนการเชื่อมต่อที่เสถียรถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่งหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ
ExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ใน 94 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากสำหรับ VPN ใด ๆ แม้ว่ามันจะไม่ได้มีจำนวนเซิร์ฟเวอร์รวมที่สูงที่สุด แต่ ExpressVPN ก็มีการครอบคลุมเซิร์ฟเวอร์ที่กว้างที่สุดทั่วโลก นี่หมายความว่าคุณจะพบเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงเสมอไม่ว่าคุณจะพำนักอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา คีร์กีสถาน ฝรั่งเศส ศรีลังกาหรือนิวซีแลนด์
การครอบคลุมเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดนั้นมีให้บริการสำหรับประเทศในยุโรปและอเมริกาเหนือ แต่ก็ยังมีตัวเลือกที่แข็งแกร่งในตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกาใต้และเอเชียแปซิฟิก
นอกจากนี้ ExpressVPN ยังเสนอตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริงในประเทศจ่าง ๆ ที่ที่โครงสร้างไม่เสถียรหรือมีกฎหมายอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดให้บริการอีกด้วย ตัวอย่างเช่นลองจินตนาการดูว่าคุณต้องการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศเวเนซูเอล่า (ประเทศที่ขึ้ชื่อเรื่องข้อบังคับทางออนไลน์ที่เข้มงวด) คุณจะได้รับมอบหมายหมายเลข IP ของเวเนซูเอล่า แต่จริง ๆ แล้ว ExpressVPN จะเชื่อมต่อคุณกับเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศบราซิลซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและเสถียรตลอดเวลา
ExpressVPN ไม่ได้โฆษณาฟีเจอร์ P2P มากนักเหมือนกับที่ VPN อื่น ๆ ทำ ดังนั้นฉันจึงคิดว่ามันอาจไม่รองรับ Torrenting – แต่ฉันคิดผิด หลังจากที่ดำเนินการทดสอบโดยละเอียด ฉันประทับใจที่ได้ทราบว่าจริง ๆ แล้ว ExpressVPN เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Torrenting นี่คือ 5 เหตุผลหลักว่าทำไม:
Torrent อย่างปลอดภัยด้วย ExpressVPN!
เมื่อฉันทดสอบ ExpressVPN ในประเทศจีน ฉันพบว่ามันเป็นหนึ่งใน VPN จำนวนไม่มากที่หลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ที่แข็งแกร่งของประเทศดังกล่าวได้สำเร็จ ฉันไม่เคยประสบกับปัญหาใด ๆ ในการเข้าถึงเว็บไซต์อย่าง Facebook, Instagram, Google, Gmail, WhatsApp, Wikipedia, YouTube และ Netflix
คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับกฎหมายการเซ็นเซอร์ที่เข้มงวดด้วยเช่นกัน ExpressVPN ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ใด ๆ ให้บริการในประเทศจีนซึ่งหมายความว่าผู้ให้บริการไม่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบิดข้อบังคับของประเทศจีนหรือเก็บบันทึกข้อมูลของผู้ใช้ แต่คุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ของประเทศจีนแทนได้
เมื่อเชื่อมต่อแล้ว เส้นทางการเข้าชมอินเทอร์เน็ตของคุณจะถูกเข้ารหัสและถูกปิดบังจากการเซ็นเซอร์ รัฐบาลและ ISP ทั้งหมด ในฐานะมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติม Network Lock Kill Switch จะปิดกั้นเส้นทางการเข้าชมอินเทอร์เน็ตทั้งหมดหากการเชื่อมต่อ VPN เกิดอ่อนแอหรือหยุดทำงาน สิ่งนี้ป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ของคุณจากการรั่วไหลทางออนไลน์และการเปิดเผยข้อมูลตัวตนของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อยืนยันในเรื่องนี้ ฉันได้ทดสอบการรั่วไหลของ DNS จากประเทศจีนในขณะที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ลอสแองเจลิสของ ExpressVPN ฉันไม่พบการรั่วไหล – ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่าเส้นทางออนไลน์ของฉันได้รับการป้องกันที่ดี
ข้อเสียเล็กน้อยหนึ่งประการที่ฉันพบคือไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดจะใช้งานในประเทศจีนได้ ดังนั้นคุณจึงต้องจำกัดตัวเลือกที่คุณสามารถใช้งานได้ลงเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่เคยพบปัญหาในการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ที่ฉันต้องการเลย
แค่อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณดาวน์โหลด ExpressVPN แล้วก่อนที่คุณจะเดินทางไปยังประเทศจีนเพราะเว็บไซต์จะถูกปิดกั้นในประเทศดังกล่าว แม้ว่ามันอาจจะยังไม่สายเกินไป – วิธีที่บางครั้งก็ใช้งานได้คือติดตั้งเบราว์เซอร์ Tor และดาวน์โหลด ExpressVPN จากเว็บไซต์ .onion (https://expressobutiolem.onion)
รับ ExpressVPN สำหรับประเทศจีน!
ExpressVPN ใช้การเข้ารหัสแบบ AES 256 บิตผสานรวมกันกับคีย์ RSA 4096 บิตและการยืนยันตัวตน SHA-512 HMAC สิ่งนี้หมายถึงอะไร? นี่เป็นมาตรฐานการเข้ารหัสสูงสุดและปัจจุบันได้รับการพิจารณาว่าเป็นเทคโนโลยีที่แทบจะไม่สามารถเจาะได้
การยืนยันตัวตน SHA-512 HMAC เพิ่มชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับการถ่ายโอนข้อมูล (เช่น การแบ่งปันไฟล์แบบ P2P และ Torrenting) ทั้งผู้รับและผู้ส่งไฟล์จะใช้คีย์ลับที่แชร์ให้ – การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในคีย์ลับนั้นหมายถึงการเชื่อมต่อถูกบุกรุก ดังนั้นคุณจะทราบได้ทันทีหากมีใครสักคนเข้าถึงข้อมูล
ExpressVPN เสนอโปรโตคอล Lightway ที่โดดเด่นควบคู่ไปกับตัวเลือกมาตรฐานอย่าง OpenVPN (UDP and TCP), IKEv2 และ L2TP/IPSec Lightway เป็นโปรโตคอลอันเป็นกรรมสิทธิ์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับลูกค้า ExpressVPN ในการทดสอบของฉัน ฉันพบว่ามันมีความเร็วที่รวดเร็วกว่าและมีความปลอดภัยที่แข็งแกร่งกว่าโปรโตคอลรุ่นที่เก่ากว่า (ซึ่งรวมถึง OpenVPN ที่เป็นที่นิยม) อย่าสับสน Lightway กับ WireGuard ซึ่งช่วยยกระดับความเร็วและความปลอดภัยได้คล้ายกัน แต่เป็นโอเพ่นซอร์ส (ดังนั้นผู้ให้บริการ VPN ใด ๆ ก็ตามจึงสามารถใช้เทคโนโลยนี้ได้)
ExpressVPN มาสามารถทำให้โปรโตคอลทั้งหมดพร้อมให้บริการในทุกอุปกรณ์แม้ว่าระบบปฏิบัติการณ์แต่ละระบบจะมอบตัวเลือกมากมายให้กับคุณก็ตาม ฉันขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณยึดติดกับโปรโตคอลที่ปลอดภัยอย่าง Lightway, OpenVPN และ IKEv2
คุณสามารถเลือกโปรโตคอลได้ง่าย ๆ โดยการคลิกที่ไอคอน “การตั้งค่า” และนำทางไปยัง “โปรโตคอล” ด้วยตัวเลือก “อัตโนมัติ” โดยค่าเริ่มต้นที่เปิดใช้งานอยู่ ExpressVPN จะเลือกโปรโตคอล VPN ที่ดีที่สุดโดยอ้างอิงตามการตั้งค่าเครือข่ายของคุณ ในกรณีส่วนใหญ่ ทางเลือกนี้จะเป็นโปรโตคอล Lightway หรือ OpenVPN (UDP) ทั้งสองตัวเลือกต่างก็มอบรูปแบบการผสมผสานของความเร็วและความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นฉันจึงขอแนะนำให้ใช้ตัวเลือกอัตโนมัติเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโปรโตคอลด้วยตัวเอง
ExpressVPN ทำให้การตั้งค่าโปรโตคอลต่าง ๆ สำหรับความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของคุณเป็นเรื่องง่าย
Kill Switch อัตโนมัติของ ExpressVPN (ซึ่งพวกเขาเรียกว่า “Network Lock”) ทำให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์และกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตของคุณจะยังถูกปิดบัง – โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเชื่อมต่อ VPN อ่อนแอหรือคุณกำลังสลับเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ ฟีเจอร์นี้พร้อมให้บริการบน Windows, Mac, Android (เวอร์ชั่น 7.4 เป็นต้นไป), Linux และแอปเราเตอร์ อย่างไรก็ตาม ฉันผิดหวังที่ได้พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่พร้อมให้บริการบน iOS หากคุณต้องการชั้นความป้องกันเพิ่มเติมบน iPhone หรือ iPad ของคุณ CyberGhost มี Kill Switch ให้บริการในแอปสำหรับ iOS
ฉันทดสอบ Kill Switch บน Macbook Pro, Windows PC และสมาร์ทโฟนของฉัน (ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 9) และอินเทอร์เน็ตของฉันถูกปิดกั้นทุกครั้งที่ฉันรบกวนการเชื่อมต่อ VPN ด้วยตัวเอง มันถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องเสียเวลามานั่งเปิดมัน
ป้องกันอุปกรณ์ของคุณด้วย ExpressVPN!
นี่คือที่ที่ ExpressVPN เป็นผู้ชนะอย่างเห็นได้ชัด มี VPN จำนวนไม่มากนักที่มี Split Tunneling และแม้แต่ VPN ที่มีสิ่งนี้ก็ยังมีให้บริการในแอปเพียง 1 หรือ 2 แอปเท่านั้น – โดยปกติแล้วจะเป็น Android ถึงอย่างนั้น ExpressVPN ก็มี Split Tunneling ในแอปพร้อมให้บริการทั้งหมด Android, Windows, Mac และเราเตอร์ (ปัจจุบันยังไม่พร้อมให้บริการสำหรับ iOS)
Split Tunneling เป็นฟีเจอร์ VPN ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก ข้อดีของ Split Tunneling คือความสามารถในการเลือกแอปที่เฉพาะเจาะจงเพื่อหลีกเลี่ยง VPN สมมติว่าคุณต้องการรับชมรายการบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างประเทศ (เช่น Netflix ของสหรัฐอเมริกาหรือ BBC iPlayer ของสหราชอาณาจักร) – แต่คุณก็ต้องการตรวจสอบข่าวสารท้องถิ่นในประเทศของคุณด้วย ด้วยการเปิดใช้งาน Split Tunneling คุณจะสามารถตั้งค่าให้ Netflix ยังคงเชื่อมต่อกับ ExpressVPN ในขณะที่เบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตปกติของคุณจะหลีกเลี่ยง VPN ได้
เพื่อดูว่าฟีเจอร์ Split Tunneling ทำงานได้ดีหรือไม่ ครั้งแรกฉันได้แยกแอปเบราว์เซอร์ Chrome ออกจากการใช้งาน ExpressVPN จากนั้นฉันก็เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักรและเริ่มต้นสตรีมมิ่ง BBC iPlayer ในขณะที่ตอนหนึ่งของรายการ Killing Eve กำลังเล่น ฉันก็ท่องเว็บเพื่อมองหาเครื่องชงกาแฟบน Google ได้ ฉันยินดีที่ได้เห็นเฉพาะตัวเลือกจากผู้ขายในท้องถิ่นที่แสดงราคาในเงินบาทเท่านั้น (แทนที่จะเป็นผู้ขายปลีกในสหราชอาณาจักรในราคาเงินปอนด์!)
ลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยง!
นี่เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ความปลอดภัยที่โดดเด่นที่สุดของ ExpressVPN และมันทำให้บริการนี้แตกต่างจากคู่แข่งด้วย เซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ดำเนินการผ่านดิสก์ RAM แทนที่จะเป็นฮาร์ดไดร์ฟ ดิสก์ RAM ต้องการพลังงานเพื่อจัดเก็บข้อมูล ดังนั้นทุกครั้งที่มีการเปิดและปิดอีกครั้ง ข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบทิ้งโดยทันทีและไม่เพียงแต่ข้อมูลเท่านั้นที่ถูกลบ – ผู้ใช้ที่ไม่พึงประสงค์ใด ๆ บนเซิร์ฟเวอร์ก็จะถูกลบในระหว่างการรีบูตนี้ด้วย
โดยทั่วไปแล้วอุตสาหกรรมจะเปิดใช้งานเซิร์ฟเวอร์ผ่านฮาร์ดไดร์ฟ ปัญหาก็คือฮาร์ดไดร์ฟนั้นจะบันทึกข้อมูลทั้งหมดเอาไว้จนกว่าพวกเขาจะลบมันด้วยตัวเองหรือมีการเขียนข้อมูลทับ ข้อมูลดังกล่าวรวมถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนซึ่งสร้างปัญหาความเป็นส่วนตัวให้เกิดขึ้นได้หากมีการรั่วไหลหรือถูกแฮ็ก
สิ่งที่ทำให้เทคโนโลยี TrustedServer แตกต่างคือมันทำให้แน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมดบนเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ถูกลบทุกครั้งที่มีการรีบูต มันเป็นฟีเจอร์ที่น่าประทับใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจาก VPN พรีเมียมจำนวนน้อยมากที่มีชั้นความปลอดภัยแบบนี้สำหรับผู้ใช้
แม้ว่า VPN จะเข้ารหัสเส้นทางออนไลน์ของคุณก็ตาม แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่ข้อมูลของคุณจะรั่วไหลในวิธีอื่น ๆ – ดังนั้นการรับ VPN ที่ป้องกันการรั่วไหลได้เป็นพิเศษจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ
ExpressVPN มีแบบทดสอบการรั่วไหลของตัวเอง แต่ฉันต้องการเปิดใช้งานการทดสอบอิสระของฉันเอง ฉันทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นบน Mac ของฉันโดยใช้ ipleak.net ผลลัพธ์ที่ได้น่ะหรือ? ฉันพบการรั่วไหลเป็นศูนย์ในระหว่างเซสชั่นการท่องเว็บทั้งหมดของฉัน
มีการมองเห็นเฉพาะหมายเลข IPv4 ใหม่ของฉันเท่านั้นและ IPv6 ถูกปิดกั้น ดังนั้นจึงไม่มีความเสี่ยงของการรั่วไหลซึ่งเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของฉัน
ฟีเจอร์ผู้จัดการภัยคุกคาม (Threat Manager) ของ ExpressVPN ช่วยเพิ่มการป้องกันความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมโดยการปิดกั้นเว็บไซต์และแอปไม่ให้ติดตามและปบ่งปันข้อมูลของคุณ เช่นเดียวกันกับการปิดกั้นเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายโดยสมบูรณ์ ปัจจุบันผู้จัดการภัยคุกคามพร้อมให้บริการเฉพาะบน Mac, iOS และ Linux เท่านั้น แต่ ExpressVPN จะเปิดให้บริการฟีเจอร์นี้ในแพลตฟอร์มทั้งหมดในเร็ว ๆ นี้
สิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับผู้จัดการภัยคุกคาม (Threat Manager) คือฉันจะไม่ได้เห็นโฆษณาเป้าหมายบนเว็บไซต์หลังจากที่ฉันทำการค้นหาบน Google หรือใช้แอปที่เฉพาะเจาะจง ผู้จัดการภัยคุกคามจะหยุดเว็บไซต์และแอปไม่ให้ติดตามกิจกรรมของคุณ – และแม้ว่าเบราว์เซอร์มากมายจะเสนอการปิดกั้นการติดตามประเภทนี้อยู่บ้างแล้วก็ตาม ผู้จัดการภัยคุกคาม (Threat Manager) ยังปิดกั้นแอปจากการติดตามกิจกรรมของคุณด้วยเช่นกัน สามารถเลื่อนเปิดและปิดฟีเจอร์นี้ได้ง่าย ๆ ในการตั้งค่าของ ExpressVPN หรือเมนูที่เกี่ยวข้อง
ฉันพบว่า ExpressVPN ใช้งานร่วมกับ Tor ได้เป็นอย่างดีเนื่องจาก:
เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่มากยิ่งขึ้น ฉันขอแนะนำให้เชื่อมต่อ ExpressVPN ก่อน จากนั้นจึงค่อยเชื่อมต่อกับ Tor วิธีนี้เป็นวิธีที่รู้จักกันในชื่อ “Tor เหนือ VPN” หรือ “Onion เหนือ VPN” และมันจะป้องกัน Tor จากการมองเห็นหมายเลข IP ที่แท้จริงของคุณ
ไม่เหมือนกับ VPN อื่น ๆ ExpressVPN มีแม้กระทั่งเว็บไซต์ .onion ของตัวเองในเครือข่าย Tor สิ่งนี้ช่วยให้คุณเข้าถึงหน้าหลักของ ExpressVPN และดาวน์โหลดแอปได้ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากคุณอยู่ในประเทศที่ห้ามใช้ VPN
น่าเสียดาย ExpressVPN ไม่ได้มาพร้อมกับเครื่องมือปิดกั้นโฆษณา นี่ถือว่าแปลกอยู่นิดหน่อยเพราะคุณจะพบว่า VPN พรีเมียมส่วนใหญ่ เช่น CyberGhost มีฟีเจอร์นี้
แม้ว่านี่อาจฟังดูเป็นข้อเสียเล็ก ๆ แต่จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้สนใจอะไรนักเนื่องจากมันมอบความยืดหยุ่นในการให้ฉันเลือกใช้เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาแยกต่างหากด้วยตัวของฉันเอง ตัวเลือกของฉันคือเครื่องมือปิดกั้นโฆษณา uBlock Origin ซึ่งฉันใช้งานมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้วและฉันพบว่ามันใช้งานร่วมกับ ExpressVPN ได้ดีมาก ๆ
ลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยง!
คุณจะพบว่ามีบริการ VPN จำนวนมากที่กล่าวว่าตนไม่บันทึกข้อมูลใด ๆ – แต่มันก็ไม่จริงเสมอไป ผู้ให้บริการ VPN ยอดนิยมที่มี “นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน” จะยังคงติดตามหมายเลข IP ของผู้ใช้ การประทับเวลาการเชื่อมต่อและอุปกรณ์ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานของ ExpressVPN ที่ได้รับการรับรองและพิสูจน์แล้วถึงสำคัญนัก
ในปี 2017 หน่วยงานของประเทศตุรกีได้ออกคำสั่งขอบันทึกผู้ใช้จาก ExpressVPN อย่างไรก็ตามไม่มีการมอบข้อมูลใด ๆ ให้ทั้งสิ้นอันเนื่องมาจากผลของนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน นอกจากนี้ ExpressVPN ยังไม่อยู่ภายใต้กฎหมายของตุรกีเนื่องจากบริษัทตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น จากนั้นหน่วยงานของประเทศตุรกีได้เข้ายึดเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN โดยพยายามจะเอาข้อมูลผู้ใช้งาน แต่ก็ไม่สำเร็จ ExpressVPN แถลงการณ์การสรุปผลการค้นหา (ที่ไม่สำเร็จ) เอาไว้ที่นี่:
“ตามที่เราได้แจ้งต่อหน่วยงานของประเทศตุรกีในเดือนมกราคมปี 2017 ExpressVPN ไม่มีและไม่เคยเก็บบันทึกการเชื่อมต่อของลูกค้าใด ๆ อันเป็นสิ่งที่ทำให้เราทราบว่าลูกค้าท่านใดที่กำลังใช้งานหมายเลข IP ที่เฉพาะเจาะจงที่ผู้ตรวจสอบอ้างถึง นอกจากนี้เรายังไม่สามารถดูได้ด้วยว่าลูกค้าท่านใดที่เข้าถึง Gmail หรือ Facebook ในระหว่างช่วงเวลาต้องสงสัยเนื่องจากเรามิได้เก็บบันทึกกิจกรรม เราเชื่อมั่นว่าการเข้ายึดของผู้ตรวจสอบและการตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่ต้องสงสัยจะยืนยันในสิ่งที่กล่าวมานี้”
อย่างที่คุณเห็นหน่วยงานไม่สามารถรับข้อมูลใด ๆ จากลูกค้าของ ExpressVPN ได้ – เพราะไม่มีบันทึกใด ๆ ที่สามารถเข้าถึงได้
ExpressVPN ยังมอบตัวเลือกในการแบ่งปันข้อมูลกับทีมงานทางเทคนิคเพื่อวัตถุประสงค์ในการวินิจฉัยเท่านั้น ข้อมูลนี้ประกอบไปด้วยรายงานการทดสอบความเร็ว ความล้มเหลวในการเชื่อมต่อหรือการล้มเหลวของแอป ข้อมูลทั้งหมดเป็นนิรนามและบุคคลหรืออุปกรณ์ใด ๆ ก็ไม่สามารถติดตามได้ ดังนั้นความเป็นส่วนตัวของคุณก็จะยังคงปลอดภัย เพื่อความปลอดภัยเป็นพิเศษ ฉันยังคงแนะนำให้เลือกตัวเลือกนี้
ลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยง!
ExpressVPN เป็นของ Express VPN International Limited ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น (BVI) สถานที่ตั้งของ ExpressVPN ใน BVI ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะ:
VPN จำนวนไม่มากที่ได้รับการตรวจสอบอิสระโดยบริษัทบุคคลที่สาม ฉันพบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลก – ผู้คนควรไม่ต้องพึ่งพาอะไรนอกจากชื่อเสียงและเชื่อมั่นในสิ่งที่ผู้ให้บริการ VPN กล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานงั้นหรือ?
นี่คือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงประทับใจที่ ExpressVPN มีการตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันคำสัญญาเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ในปี 2019 ExpressVPN ได้ว่าจ้าง PwC ให้ยืนยันเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัวของพวกเขา หลังจากที่มีการตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์และรหัสโดยละเอียดแล้ว PwC ก็ยืนยันว่า ExpressVPN ปฏิบัติตามคำชี้แจงเรื่องความเป็นส่วนตัวที่เผยแพร่โดยสมบูรณ์ (รวมถึงนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน) PwC ยังตรวจสอบฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สำคัญซึ่งรวมถึงเทคโนโลยี TrustedServer เพื่อยืนยันว่าทั้งหมดทำงานได้ตามที่โฆษณา
ExpressVPN ยังทำงานร่วมกับบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ Cure53 เพื่อตรวจสอบส่วนขยายเบราว์เซอร์ใด ๆ สำหรับข้อบกพร่องด้านความปลอดภัย ผลลัพธ์ของการตรวจสอบฉบับเต็มได้ถูกเผยแพร่แก่สาธารณชนทางออนไลน์ ExpressVPN ยังโอเพ่นซอร์สส่วนขยายเบราว์เซอร์ของตนเพื่อที่ผู้คนจะได้สามารถตรวจสอบรหัสด้วยตัวพวกเขาเองได้
สำหรับฉันแล้วสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ExpressVPN ไม่มีอะไรแอบซ่อนและมุ่งมั่นที่จะสร้างความโปร่งใสโดยสมบูรณ์กับผู้ใช้ของพวกเขา
วิธีการที่รวดเร็วที่สุดในการเร่มต้นใช้งานก็คือดาวน์โหลดแอป ExpressVPN เวอร์ชันภาษาไทยโดยตรงจากเว็บไซต์ ExpressVPN จะตรวจจับว่าคุณกำลังใช้อุปกรณ์อะไรอยู่และสร้างปุ่มดาวน์โหลดให้โดยอัตโนมัติ หลังจากที่คุณดาวน์โหลดแอปเรียบร้อยแล้ว เว็บไซต์ก็จะมอบรหัสที่ไม่เหมือนใครกับคุณเพื่อลงชื่อเข้าใช้ จากนั้นซอฟต์แวร์ก็จะตั้งค่ารายละเอียดของคุณให้กับคุณซึ่งทำให้กระบวนการติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่นและง่ายดาย
ด้วยการสมัครสมาชิกเพียงครั้งเดียว คุณจะสามารถใช้งานบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถรับการเชื่อมต่อแบบไม่จำกัดจำนวนได้ด้วยหากคุณติดตั้งแอป ExpressVPN บนเราเตอร์ของคุณ สิ่งนี้อนุญาตให้อุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์ใช้ ExpressVPN ได้
ฟีเจอร์ที่มีให้บริการอาจแตกต่างกันไปในแอป ExpressVPN เวอร์ชันต่าง ๆ โดยฟีเจอร์ที่สำคัญอย่าง Split Tunneling และ OpenVPN นั้นไม่มีให้บริการใน iOS ตารางด้านล่างจะสรุปความแตกต่างระหว่างแอปต่าง ๆ
Windows | Mac | iOS | Android | Linux | เราเตอร์ | ||
Lightway UDP | ได้รับการปรับปรุงความเร็ว ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ |
Lightway TCP | ช้ากว่า UDP แต่เชื่อมต่อได้ดีกว่าในบางเครือข่าย | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ |
OpenVPN UDP | เสนอความเร็วและความปลอดภัยที่ดี แต่ไม่สามารถทำงานได้ในทุกเครือข่าย | ✔ | ✔ | ✘ | ✔ | ✔ | ✔ |
OpenVPN TCP | ช้ากว่า OpenVPN UDP แต่ทำงานได้ดีกว่าในบางเครือข่าย | ✔ | ✔ | ✘ | ✔ | ✔ | ✔ |
IKEv2 | รวดเร็ว แต่ไม่สามารถทำงานได้ในทุกเครือข่าย | ✔* | ✔ | ✔ | ✘ | ✘ | ✔ |
L2TP/IPsec | ความปลอดภัยที่ต่ำกว่า — ควรใช้เฉพาะในกรณีที่โปรโตคอลอื่น ๆ ทั้งหมดใช้งานไม่ได้ | ✔* | ✔ | ✘ | ✘ | ✘ | ✘ |
Split Tunnelling | อนุญาตให้คุณใช้การเชื่อมต่อ VPN เฉพาะกับแอปที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น | ✔ | ✔** | ✘ | ✔ | ✔ | ✔ |
Threat Manager | ปิดกั้นตัวติดตามและเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายในรายการที่ปิดกั้นของ ExpressVPN | ✘ | ✔ | ✔ | ✘ | ✔ | ✘ |
Kill Switch | ยกเลิกการเชื่อมต่อจากอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติหากการเชื่อมต่อ VPN ของคุณเกิดหลุด | ✔ | ✔ | ✘ | ✔ | ✔ | ✔ |
* เวอร์ชัน ExpressVPN ล่าสุดสำหรับ Windows (เวอร์ชัน 12) ลบการรองรับสำหรับ IKEv2 และ L2TP/IPSec ออกไป
** Split Tunneling ไม่พร้อมให้บริการกับ ExpressVPN สำหรับ Mac ที่ใช้ macOS 11 (Big Sur) และรุ่นที่ใหม่กว่า
ติดตั้ง ExpressVPN ภายในเวลาน้อยกว่า 2 นาที!
ฉันใช้งาน ExpressVPN มาเกือบหนึ่งปีแล้วและฉันต้องบอกว่า – แอปนี้เป็นหนึ่งในแอปที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ Windows, Mac, iOS และ Android การออกแบบที่สะอาดตาและเรียบง่ายพร้อมเลย์เอาท์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ อินเตอร์เฟซแอปนั้นมีรูปแบบเหมือนกันในระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกันซึ่งทำให้การสลับเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ระหว่างวันอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องง่าย
มีปุ่ม “เปิด/ปิด” ขนาดใหญ่ที่อนุญาตให้คุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วที่สุดที่มีให้บริการในคลิกเดียว คุณยังสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์จากรายการเซิร์ฟเวอร์หรือกรอกตำแหน่งและเลือกเซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเองได้ สำหรับผู้ใช้ Windows และ Mac คุณจะได้รับตัวเลือกในการเปิดใช้งาน ExpressVPN โดยอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่อง (ฉันพบว่าสิ่งนี้สะดวกสบายมาก)
เหมือนกับแอปเดสก์ท็อป ทั้งแอป Android และ iOS ก็มีระบบนำทางที่ใช้งานง่ายเช่นกัน ฉันพบว่าฟีเจอร์หนึ่งคลิกนั้นเป็นประโยชน์อย่างมากซึ่งช่วยให้ฉันเชื่อมต่อกับตำแหน่งที่ฉันต้องการได้อย่างรวดเร็ว ฉันยังสามารถเพิ่มทางลัดเพื่อไปยัง 5 แอปที่ฉันโปรดปราน (เช่น Netflix, Spotify และ Chrome) ได้อีกด้วยซึ่งทำให้การท่องอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยรวดเร็วยิ่งขึ้น
แอปบนมือถือทั้งสองแอปยังมีโปรโตคอล OpenVPN ความปลอดภัยสูง มีโปรแกรม VPN จำนวนไม่มากที่มี OpenVPN สำหรับอุปกรณ์มือถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง iOS (โดยปกติแล้วมันจะเป็นโปรโตคอล IKEv2/IPsec แทน) น่าเสียดายที่ iOS ไม่มีฟีเจอร์ Split Tunneling – แต่นอกเหนือจากนั้นทั้งแอป Android และ iOS ต่างก็มีฟังก์ชันการทำงานที่เหมือนกันกับแอปเดสก์ท็อป
สุดท้ายคือแอปสำหรับ Android มีฟีเจอร์ Protection Summary สุดพิเศษด้วย เครื่องมือนี้มอบข้อมูลเชิงลึกส่วนบุคคลกับคุณ เช่น จำนวนวันและเปอร์เซ็นต์ของเวลาที่คุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN (เพื่อป้องกันหมายเลข IP ของคุณ) สิ่งนี้ช่วยให้ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถควบคุมความปลอดภัยส่วนตัวของฉันได้มากขึ้นโดยมันช่วยให้ฉันตรวจสอบได้ว่าฉันใช้แอปเมื่อไหร่และบ่อยแค่ไหน
ExpressVPN มีส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับเบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox แอดออนเบราว์เซอร์เป็นส่วนขยายของแอป ExpressVPN ดังนั้นตัวแอปเองจึงต้องทำงานในพื้นหลัง เพื่อรับส่วนขยายเบราว์เซอร์ คุณจำเป็นต้องติดตั้งแอป ExpressVPN สำหรับ:
เหตุผลหลักที่ฉันชอบส่วนขยายเบราว์เซอร์คือเพื่อความสะดวกสบาย – ฉันสามารถสลับเปลี่ยนระหว่างเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างง่ายดายโดยตรงในเบราว์เซอร์และของฉันโดยการคลิกไม่กี่ครั้ง นี่คือหน้าตาของมันบน Chrome และ Firefox:
MediaSteamer ให้คุณเปลี่ยนตำแหน่งเสมือนของคุณในเกมคอนโซลและสมาร์ททีวีได้ นี่ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่งรายการออนไลน์ – ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการรับชม Netflix ของสหรัฐอเมริกาจากสหราชอาณาจักรบน PlayStation 4 นอกจาก PlayStation 4 แล้วคุณยังสามารถใช้ MediaStreamer บน Apple TV, Samsung Smart TV, LG สมาร์ททีวี, Nintendo Switch และ Xbox One ได้อีกด้วย
พูดกันตามตรงเลยก็คือฉันไม่ชอบใช้ MediaStreamer ด้วยเหตุผลสองสามประการ ประการแรกคือมันไม่เข้ารหัสเส้นทางการเข้าชมอินเทอร์เน็ตของคุณ ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิประโยชน์ด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับ VPN ประการที่สองคือคุณต้องตั้งค่า MediaStreamer ด้วยตัวเอง แม้ว่าการติดตั้งตามคำแนะนำบนเว็บไซต์ ExpressVPN จะเป็นเรื่องง่าย แต่ฉันชอบใช้แอปเราเตอร์เฉพาะมากกว่า MediaStreamer
ข้อดีอย่างยิ่งคือ ExpressVPN เป็นหนึ่งใน VPN พรีเมียมเดียวที่มีแอปเราเตอร์เฉพาะ คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดในครัวเรือนของคุณกับ ExpressVPN ได้เมื่อคุณติดตั้งแอปบนเราเตอร์ของคุณ (แม้อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น สมาร์ททีวีและเกมคอนโซลจะไม่รองรับ VPN ก็ตาม) สิ่งนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งพรีเมียมอย่าง CyberGhost, Private Internet Access และ HMA อย่างมาก ที่ดีไปกว่านั้นคือเราเตอร์ได้รับการพิจารณาว่าเป็นการเชื่อมต่อ 1 อุปกรณ์ ดังนั้นคุณยังเหลือการเชื่อมต่ออีก 4 การเชื่อมต่อที่สามารถใช้งานได้
คุณสามารถใช้งานแอปเราเตอร์บน Asus RT-AC56(U/R/S), Asus RT-AC68U, Asus RT-AC87U, Linksys EA6200, Linksys WRT1200AC, Linksys WRT1900AC(S), Linksys WRT3200ACM, Netgear R6300v2, Netgear R6700v3, Netgear Nighthawk R7000 และ Netgear Nighthawk R7000P ได้
แม้ว่าคุณจะสามารถกำหนดค่าเราเตอร์ให้ใช้งานกับ ExpressVPN ด้วยตัวเองได้ก็ตาม แต่ฉันแนะนำให้ใช้แอปเราเตอร์แทน ฉันพบว่าการสลับระหว่างเซิร์ฟเวอร์บนแอปนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าและฉันยังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์อย่าง Split Tunneling และ Network Lock Kill Switch ได้อีกด้วย
เมื่อใดก็ตามที่ฉันจ่ายเงินซื้อโปรแกรม ฉันคาดหวังจะได้เห็นบริการลูกค้าคุณภาพ – และ ExpressVPN ก็ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
คุณสามารถขอความช่วยเหลือในวิธีต่าง ๆ ได้ 3 วิธี:
ไม่มีตัวเลือกในการพูดคุยทางโทรศัพท์ แต่นี่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับฉันเพราะฉันได้รับความช่วยเหลือทั้งหมดที่ฉันต้องการจากตัวเลือกที่มีให้บริการข้างต้น
ฉันส่งอีเมลมากมายไปยังฝ่ายบริการลูกค้าในช่วงระยะเวลา 24 ชั่วโมง ฉันสอบถามว่าเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดสำหรับ Netflix คือเซิร์ฟเวอร์ใดและมีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาให้บริการหรือไม่ (โชคร้ายที่ไม่มี) ฉันส่งอีเมลจากที่อยู่อีเมลที่ไม่ได้ลงทะเบียนเนื่องจากฉันต้องการดูว่า ExpressVPN จะช่วยเหลือฉันหรือไม่หากฉันไม่ใช่ลูกค้าปัจจุบัน
ExpressVPN ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการติดตั้งโปรตคอล Lightway ที่ปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ กับฉัน
ฉันประทับใจอย่างยิ่งกับการตอบกลับที่รวดเร็ว! ฉันได้รับการตอบกลับมายังอีเมลของฉันภายใน 30 นาทีทุกครั้งและการตอบกลับทั้งหมดก็เป็นมิตรและมีประโยชน์ ไม่มีความแตกต่างในด้านระดับของบริการที่ฉันได้รับไม่ว่าฉันจะเป็นลูกค้าปัจจุบันหรือแค่มีคำถามเกี่ยวกับ VPN ก็ตาม
ฉันทดสอบตัวเลือกแชทออนไลน์บนเว็บไซต์ ExpressVPN เมื่อฉันประสบกับปัญหาการเชื่อมต่อแล็ปท็อปของฉันกับ Chromecast
มันใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าผู้ที่มอบคำอธิบายเกี่ยวกับว่ามันเกิดอะไรขึ้นและทำไมโดยละเอียด ฉันได้รับทางแก้ไข (ติดตั้งแอป ExpressVPN บนเราเตอร์ของฉันเพื่อที่อุปกรณ์ทั้งหมดรวมถึง Chromecast ของฉันจะได้เชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ) – ซึ่งแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ
แชทออนไลน์เป็นช่องทางที่ฉันแนะนำในการติดต่อ ExpressVPN เนื่องจากมันเป็นวิธีที่รวดเร็วและง่ายดายอย่างมาก ตอนที่ฉันทดสอบแชทออนไลน์สองสามครั้ง ฉันไม่เคยต้องรอการตอบกลับนานเกิน 3 นาทีเลย
ฉันพบว่าเว็บไซต์ของ ExpressVPN ได้รับการจัดระเบียบเป็นอย่างดีด้วยบทความเชิงลึกมากมายเกี่ยวกับฟีเจอร์ ปัญหาทางเทคนิคทั่วไปและคำแนะนำในการติดตั้งอุปกรณ์ ฉันชื่นชอบวิดีโอแนะนำที่มีประโยชน์ในหัวข้อทางด้านเทคนิคเพิ่มเติม! แม้ว่าคุณจะเป็นผู้เริ่มต้น แต่คุณก็สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของ ExpressVPN เพื่อดำเนินการตั้งค่าที่ซับซ้อนได้ง่าย ๆ
เว็บไซต์มีแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์มาก ๆ หากคุณต้องการแก้ไขปัญหาด้วยตัวคุณเอง
ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการช่วยเหลือที่ดีมีความจำเป็นเฉพาะในช่วงการติดตั้ง VPN แต่จริง ๆ แล้วก็อาจมีอย่างอื่นที่ท่านอาจต้องการความช่วยเหลือนี้ได้เช่นกัน เช่น การเชื่อมต่อไปยังเซิฟเวอร์บางแห่ง การเปลี่ยนโปรโตคอล และการปรับค่า VPN บนเราท์เตอร์ เป็นต้น เราได้ตรวจสอบ VPN แต่ละตัวเพื่อดูว่ามีการช่วยเหลือเวลาใดบ้าง (ถึงแม้ในช่วงกลางดึก), ระยะเวลาที่พวกเขาตอบสนอง และพวกเขาได้ตอบคำถามเราหรือไม่
อัปเดต กุมภาพันธ์ 2023! ExpressVPN ปรับลดราคาภายในช่วงระยะเวลาที่จำกัดเหลือเพียง $6.67 ต่อเดือนเท่านั้นในแผนให้บริการแบบ 1 ปี (คุณสามารถประหยัดเงินได้สูงสุดถึง 49%) + รับเพิ่มอีก 3 เดือนฟรี! นี่เป็นข้อเสนอจำกัดเวลา ดังนั้นอย่าลืมคว้ามันเอาไว้เลยตอนนี้ก่อนที่มันจะหายไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ได้ที่นี่
คุณสามารถชำระเงินค่าสมัครสมาชิก ExpressVPN โดยใช้ช่องทางใด ๆ ดังต่อไปนี้ได้:
ผมชอบอย่างยิ่งที่ ExpressVPN เสนอตัวเลือกการชำระเงินแบบไม่เปิดเผยตัวตน เช่น Mint และสกุลเงินดิจิทัล คุณสามารถลงทะเบียน ExpressVPN ได้อย่างง่ายดายโดยใช้หนึ่งในช่องทางการชำระเงินเหล่านี้และใช้ที่อยู่อีเมลปลอม สิ่งนี้ช่วยให้คุณใช้งาน ExpressVPN ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องเปิดเผยชื่อและข้อมูลการเรียกเก็บเงินของคุณ เมื่อผสมผสานกับนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด นี่หมายความว่าจะไม่มีใครสามารถเชื่อมโยงกิจกรรมทางออนไลน์ของคุณกับตัวตนที่แท้จริงของคุณได้
ลงทะเบียนใช้งาน ExpressVPN เลยวันนี้!
เคล็ดลับเฉพาะวงใน: ExpressVPN เสนอโปรโมชั่นสำหรับการสมัครสมาชิกอยู่เป็นประจำ แต่ผู้คนมักจะพลาดมันไป ดูหน้านี้เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด
ทุกแผนให้บริการมาพร้อมกับการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้ ExpressVPN เป็นระยะเวลาสองสามสัปดาห์ได้โดยไม่มีความเสี่ยงใด ๆ หากคุณเปลี่ยนใจในภายหลัง คุณสามารถขอเงินคืนจากเจ้าหน้าที่ผ่านแชทออนไลน์หรือยกเลิกการสมัครสมาชิกของคุณบนเว็บไซต์ได้ ส่วนที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการรับประกันยินดีคืนเงินคือ “ไม่ต้องตอบคำถามใด ๆ” – ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องบอกเหตุผลว่าทำไมคุณถึงยกเลิก (ไม่เหมือนกับ VPN อื่น ๆ ที่ถ่วงเวลาคุณโดยการพยายามแก้ไขปัญหาที่คุณกำลังเผชิญและโน้มน้าวให้คุณใช้งานต่อ)
ฉันยังทดสอบการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันด้วยตัวฉันเอง ฉันลงทะเบียนในแผนให้บริการ ใช้บริการเป็นระยะเวลา 29 วันและจากนั้นก็ขอเงินคืน มันได้รับการอนุมัติภายในไม่กี่นาทีและฉันได้รับเงินคืนภายในหนึ่งสัปดาห์
อ้างอิงตามการทดสอบของฉัน ฉันพิจารณาแล้วว่า ExpressVPN ยังคงเป็นบริการที่ดีที่สุดใน กุมภาพันธ์ 2023 เนื่องจากความเร็วที่รวดเร็ว ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและเครือข่ายของเซิร์ฟเวอร์ที่น่าเชื่อถือ ฟีเจอร์พรีเมียมของพวกเขายังมอบความคุ้มค่าให้กับการลงทุนในการสมัครสมาชิกระยะยาวด้วย คุณจะได้รับการเข้าถึงฟีเจอร์ชั้นนำไม่จำกัดที่คุณจะไม่พบใน VPN อื่น ๆ ในตลาด เช่น การรองรับ Torrenting ในเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดและการเข้าถึงเว็บไซต์สตรีมมิ่งมากกว่า 100 เว็บไซต์ทั่วโลก
หนทางเดียวที่จะทราบได้ว่า ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณหรือไม่คือการทดลองใช้ด้วยตัวคุณเอง ดังนั้นก่อนตัดสินใจสมัครสมาชิก ฉันแนะนำให้คุณทดลองใช้งานเป็นระยะเวลา 30 วันดูก่อน
การรับประกันยินดีคืนเงินเป็นวิธีที่ปราศจากความเสี่ยงเพื่อดูว่าฟีเจอร์ VPN จริง ๆ แล้วทำงานได้เป็นอย่างไรบ้าง หากคุณไม่พึงพอใจ คุณก็สามารถรับเงินคืนจากทีมบริการลูกค้าผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงได้อย่างง่ายดาย – ไม่ต้องตอบคำถามใด ๆ
ทดลองใช้ ExpressVPN เลยตอนนี้!
แม้ว่าจะไม่มีแผนให้บริการฟรี คุณสามารถทดสอบ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยงได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน หากคุณไม่พึงพอใจกับบริการดังกล่าว คุณก็สามารถขอรับเงินคืนได้โดยไม่ต้องตอบคำถามใด ๆ ตอนที่ฉันดำเนินการขอเงินคืนด้วยตัวเอง ฉันก็ได้รับเงินคืนอย่างง่ายดายในไม่กี่นาทีและฉันก็ได้รับเงินคืนกลับเข้าบัญชีธนาคารของฉันภายในระยะเวลาน้อยกว่า 1 สัปดาห์!
มีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันสำหรับ Android และ iOS แต่คุณจะต้องระมัดระวังมาก ๆ เกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไข ตัวอย่างเช่นคุณจะไม่มีสิทธิ์สำหรับการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน นอกจากนี้คุณยังต้องยกเลิกอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนที่ช่วงระยะเวลาทดลองใช้งานจะสิ้นสุดลง มิเช่นนั้นคุณจะถูกเรียกเก็บเงินและถูกล็อกในการสมัครสมาชิกโดยอัตโนมัติ คุณไม่สามารถติดต่อ ExpressVPN ผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงในเรื่องเกี่ยวกับปัญหาการชำระเงินใด ๆ ได้อีกด้วยเนื่องจากบัญชีของคุณได้รับการจัดการโดย Apple App Store หรือร้านค้า Google Play
จากประสบการณ์ของฉัน ช่วงระยะเวลาทดลองใช้งานไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหรือความยุ่งยาก ฉันพบว่าการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันนั้นเป็นวิธีการในการทดลองใช้งาน ExpressVPN และดูว่าคุณชอบมันหรือไม่ที่ดีกว่า
อ้างอิงตามผลการทดสอบล่าสุดของฉัน — ใช่ ผมพบว่า ExpressVPN มีความเร็วในด้านของการสตรีมมิ่ง การ Torrenting และการเล่นเกมที่รวดเร็วกว่า NordVPN อยู่เสมอ นอกจากนี้มันยังทำงานได้ดีในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์ทางอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวด เช่น ประเทศจีน แถมขั้นตอนการขอเงินคืนของ ExpressVPN ก็ง่ายดายกว่า NordVPN อีกด้วยเนื่องจากมันใช้นโยบาย “ไม่ต้องตอบคำถามใด ๆ”
ถึงอย่างนั้นก็มีบางกรณีที่คุณอาจพบว่า NordVPN เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีกว่า ตัวอย่างเช่น NordVPN มีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาภายในตัว
ปลอดภัย! ExpressVPN เข้ารหัสเส้นทางการเข้าชมอินเทอร์เน็ตของคุณด้วยมาตรฐาน AES-256-บิตซึ่งบุคคลที่สามแทบจะไม่สามารถแฮ็กได้เลย การเข้ารหัสระดับนี้ยังถูกใช้งานโดยรัฐบาลและหน่วยงานทหารทั่วโลกเพื่อป้องกันข้อมูลความลับ ไม้เพียงแต่ว่า ExpressVPN จะไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรทางออนไลน์เท่านั้น – แต่มันยังมีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดด้วย ดังนั้นจึงไม่มีข้อมูลสำหรับการติดตามผู้ใช้ใด ๆ
ใช่ ExpressVPN เป็นโปรแกรมที่ถูกกฎหมาย ขึ้นอยู่กับประเทศของคุณ การใช้งาน ExpressVPN ในการท่องอินเทอร์เน็ตอย่างอิสระนั้นเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามรัฐบาลบางแห่งมีการเซ็นเซอร์ทางออนไลน์ที่เข้มงวดและแม้แต่ห้ามหรือจำกัดการใช้งาน VPN นี่รวมถึง แต่ไม่จำกัดประเทศรัสเซีย จีน อิหร่าน ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิอาราเบีย
หากคุณกำลังเดินทางไปต่างประเทศและต้องการใช้ ExpressVPN ฉันขอแนะนำอย่างยิ่งให้ตรวจสอบกฎหมายและกฎระเบียบข้อบังคับของประเทศนั้น ๆ ก่อนล่วงหน้า
ในขณะที่ VPN อื่น ๆ อาจทำให้ความเร็วของอุปกรณ์ของฉันช้าลงอย่างมาก แต่ฉันไม่ประสบกับความล่าช้าอย่างมีนัยสำคัญตอนที่ฉันทดสอบ ExpressVPN เลย
มันเป็นเรื่องปกติที่จะพบกับความเร็วที่ช้าลงเมื่อใช้ VPN เนื่องจากเส้นทางการเข้าชมอินเทอร์เน็ตของคุณต้องถูกเข้ารหัสก่อน จากนั้นมันก็จะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ VPN อย่างไรก็ตาม ExpressVPN มีความเร็วที่รวดเร็วอยู่แล้ว ดังนั้นฉันจึงแทบไม่สังเกตเห็นความแตกต่างตอนที่ฉันกำลังรับชมรายการออนไลน์ ดาวน์โหลดหรือแม้กระทั่งเล่นเกมเลย
นี่ถือเป็นสถานการณ์ที่แปลกอย่างมากเนื่องจาก ExpressVPN ดูแลเซิร์ฟเวอร์อย่างสม่ำเสมอ แถมฉันก็ใช้งาน ExpressVPN ทุกวันเป็นระยะเวลาเกือบหนึ่งปีแล้วและฉันไม่เคยพบข้อผิดพลาดเซิร์ฟเวอร์ใด ๆ เลย
แต่หากคุณยังพบเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่สามารถใช้งานได้ ฉันแนะนำให้ลองสลับเซิร์ฟเวอร์ดู การเปลี่ยนไปยังเซิร์ฟเวอร์ใหม่นั้นคุณแค่ต้องคลิกเพียง 2 ครั้งเท่านั้น
หากคุณเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์เฉพาะเจาะจงซึ่งขัดข้อง งั้นฉันขอแนะนำให้ติดต่อทีมบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงผ่านแชทออนไลน์แทน การรับรายการเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการอัปเดตนั้นเป็นเรื่องที่รวดเร็วและง่ายดายเสมอ
ได้ จริง ๆ แล้วฉันพบว่ามันเป็นแอปที่ไว้วางใจได้มากที่สุดในหมู่ VPN มากมายที่ฉันทดสอบ ความเร็วและความสามารถในการปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่งหลัก ๆ ที่ง่ายดายจะทำให้คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียการเชื่อมต่อในขณะที่กำลังรับชมรายการบน Netflix หรือเล่น Call of Duty Warzone โดยใช้ ExpressVPN
WizCase เป็นเว็บไซต์รีวิวอิสระ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้อ่าน ดังนั้นเราจึงอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเมื่อคุณสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา คุณไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มสำหรับอะไรก็ตามที่คุณสั่งซื้อบนเว็บไซต์ของเรา — ค่าคอมมิชชั่นของเรามาจากเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยตรง
สนับสนุน WizCase เพื่อช่วยเรารับประกันคำแนะนำที่ซื่อสัตย์และยุติธรรม แชร์เว็บไซต์ของเราเพื่อสนับสนุนเรา!