ความเร็ว | 10 / 10 |
เซิร์ฟเวอร์ | 10 / 10 |
เป็นมิตรต่อผู้ใช้ | 10 / 10 |
บริการลูกค้า | 10 / 10 |
ราคา | 9.0 / 10 |
ExpressVPN รีวิว 2024: รวดเร็ว, ปลอดภัย - ยังคงเป็นที่สุด?
ภาพรวม ExpressVPN 2024
บ่อยครั้งที่ ExpressVPN ติดชาร์ตรีวิว VPN อันดับต้น ๆ แต่อันดับที่ได้นั้นคู่ควรกับป้ายราคาพรีเมียมหรือเปล่า? ผมได้ดำเนินการประเมินบริการนี้โดยละเอียด โดยทดสอบความเร็ว ความปลอดภัยและฟังก์ชันการทำงานโดยรวม
หลังจากที่ดำเนินการทดสอบในหลาย ๆ อุปกรณ์และให้ทีมงานที่อยู่ในประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่ประเทศที่มีการเซ็นเซอร์ที่เข้มงวดกว่าอย่างประเทศจีนและตุรกีไปจนถึงประเทศที่เปิดกว้างในยุโรป ExpressVPN ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง ความเร็วที่น่าประทับใจ ผสานรวมเข้ากับมาตรการความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ครบครันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าบริการนี้คู่ควรกับชื่อเสียงที่พวกเขาคู่ควร
แม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่า แต่ส่วนลดครั้งคราวของ ExpressVPN ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้ หากต้องการ คุณก็สามารถทดสอบบริการดังกล่าวได้อย่างเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องเสี่ยงเสียเงินได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันของ ExpressVPN ทุกปัญหาและแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงจะทำให้มั่นใจได้ว่าคุณได้รับการดูแลที่ดี
ลองใช้ ExpressVPN แบบไม่เสี่ยง
ไม่มีเวลาอ่านใช่ไหม? นี่คือสรุปฉบับย่อ (ใช้เวลาอ่าน 1 นาที)
- ปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งได้อย่างง่ายดาย ผมดู Netflix, BBC iPlayer, Disney+ และอื่น ๆ อีกมากมายในความละเอียดระดับ UHD ได้โดยไม่สะดุด นี่คือเว็บไซต์สตรีมมิ่งที่ผมปลดบล็อกได้
- ความเร็วที่ยอดเยี่ยม ผมได้รับความเร็วที่รวดเร็วจากทุกเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก ไม้ว่าจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลยหรือเยอรมนีก็ตาม ข้ามไปยังผลการทดสอบความเร็ว
- ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยขั้นสูง นอกจากการเข้ารหัสระดับทหารและโปรโตคอลรักษาความปลอดภัยมากมาย ExpressVPN มี Kill Switch, Split Tunneling, การป้องกันการรั่วไหลและอื่น ๆ อีกมากมาย ดูฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยทั้งหมด
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ExpressVPN ไม่เก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้ ดูว่านโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานนี้ได้รับการทดสอบอย่างไร
- ใช้งานในประเทศจีนได้ ExpressVPN เป็นหนึ่งใน VPN จำนวนไม่มากที่สามารถหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ที่แข็งแกร่งของภูมิภาคดังกล่าวนี้และใช้งานได้อย่างน่าเชื่อถือในประเทศจีน คลิกที่นี่เพื่อดูผลการทดสอบในประเทศจีน
- แอปเฉพาะสำหรับ Mac, Windows, Android, iPhone และอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถเชื่อมต่อแอปที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้พร้อมกันได้ถึง 8 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน ดูว่าอุปกรณ์ใดที่ทำงานร่วมกันกับ ExpressVPN ได้ดีที่สุด
- ราคาแพงกว่าคู่แข่งเล็กน้อย หลังจากที่ดำเนินการทดสอบโดยละเอียด ผมก็รู้สึกว่านี่เป็นบริการที่คุ้มค่ากับราคาเมื่อพิจารณาถึงฟีเจอร์พรีเมียมทั้งหมดที่มี ดูตัวเลือกราคาทั้งหมด (และดูว่าวิธีหาข้อเสนอลับ)
ExpressVPN ปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ ได้มากกว่า 100 รายการ (Netflix, Amazon Prime Video, Hulu, Disney+, Kodi และอื่น ๆ อีกมากมาย)
ExpressVPN เป็นหนึ่งใน VPN ที่ไว้วางใจเรื่องการสตรีมมิ่งบริการและเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกไว้ทั่วโลกได้มากที่สุด ในระหว่างการทดสอบ ผมเข้าถึง Netflix (สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา เยอรมนีและอื่น ๆ อีกมากมาย), Amazon Prime Video (สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร), Disney+ (ทุกประเทศ), Hulu, Kodi add-ons, BBC iPlayer, Sling TV, Max (ชื่อเดิม HBO Max), Showtime, UKTV, DAZN และ ESPN+ ได้สำเร็จ
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกมากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นคุณจะได้พบกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานได้และรวดเร็วให้เลือกสรรอยู่เสมอ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งหากคุณต้องการเชื่อมต่อในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นที่ที่มีบริการสตรีมมิ่งยอดนิยมที่สุดในโลก
คุณสามารถดูรายการเว็บไซต์ที่ปลดบล็อกได้ทั้งหมดได้บนเว็บไซต์ ExpressVPN ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายเพราะเป็นการแจ้งเตือนให้บริการสตรีมมิ่ง (อย่าง Netflix) ให้หามาตรการที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น การแบ่งปันรายการสาธารณะนี้ถือเป็นการยืนยันกับผมว่า ExpressVPN มั่นใจเป็นอย่างยิ่งในเทคโนโลยี VPN และความสามารถในการปิดกั้นใด ๆ ของตน
หนึ่งในเรื่องที่ทำให้ ExpressVPN โดดเด่นคือจำนวนบริการสตรีมมิ่งระหว่างประเทศจำนวนมากที่ ExpressVPN สามารถปลดล็อกได้นอกเหนือไปจากบริการยอดนิยมอย่าง Netflix, Hulu, Max (HBO), ESPN, Amazon Prime Video และ Disney+ ExpressVPN ให้คุณสตรีมแพลตฟอร์มต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ได้:
Netflix | Hulu | BBC iPlayer | Max | ESPN |
Amazon Prime Video | Disney+ | FuboTV | Channel4 | Hotstar |
DAZN | Sky Go | Showtime | Apple TV+ | SlingTV |
Peacock | Sky TV | ITVX | Paramount+ | BEIN Sports |
Discovery+ | Canal+ | Hallmark Channel | Philo | BritBox |
Crunchyroll | Starz | VUDU | Crave | RaiPlay |
Zattoo | CBC | RTE Player | NowTV | 9Now |
10 Play | SBS On Demand | TVNZ | Virgin Media Player | TF1 Live |
M6 France on 6Play | France TV | TVNow | Sat.1 Live | … และอื่น ๆ อีกเพียบ! |
ผมยังพบด้วยว่าผมสามารถจัดการกับปัญหาที่พบได้ยากสองสามเรื่องในขณะสตรีมมิ่งในเบราว์เซอร์ของผมได้โดยใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ ExpressVPN ด้วย ส่วนขยายนี้ใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงอย่างการปิดกั้นตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของ WebRTC และ HTML5 ซึ่งเป็นเครื่องมือในการรับมือกับเทคนิคการปิดกั้นที่ซับซ้อนกว่า
ผมยังพบด้วยว่าการสลับไปใช้เบราว์เซอร์อื่นหรือใช้ Incognito Mode บ่อยครั้งช่วยแก้ปัญหาได้ การสลับจาก Chrome เป็น Firefox ช่วยให้เข้าถึง Hulu ได้ง่ายมากขึ้นและการใช้ Incognito Mode ก็ช่วยให้ผมเข้าถึง Max (ชื่อเดิม HBO Max) ได้
Netflix
ผมทดสอบผู้ให้บริการต่าง ๆ กว่า 30 ผู้ให้บริการกับ Netflix และ ExpressVPN เป็นหนึ่งใน VPN ชั้นนำของผม บริการนี้สามารถปลดบล็อก Netflix ในประเทศต่าง ๆ กว่า 18 ประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนีและออสเตรเลียได้อย่างสม่ำเสมอ ทุกเซิร์ฟเวอร์ที่ผมทดสอบ ผมสามารถสตรีม Netflix ในความละเอียดระดับ UHD ได้และต้องรอโหลด เพียง 1-3 วินาทีเท่านั้น
ผมประทับใจเป็นอย่างยิ่งกับความเร็วที่รวดเร็วตอนที่ผมเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ New York, Paris, London และ Frankfurt-1
Amazon Prime Video
ผมเข้าถึง Amazon Prime Video ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้อย่างง่ายดายผ่านเซิร์ฟเวอร์ Los Angeles, New York, Washington DC, Docklands และ East London
ในขณะที่ดูรายการ The Boys ผมพบว่ามีการกระตุกประมาณ 4 วินาทีจากเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาและไม่กระตุกเลยจากเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้สหราชอาณาจักรมากกว่า
Hulu
เซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ในสหรัฐอเมริกาปลดบล็อก Hulu ได้โดยไม่มีปัญหาอะไร ผมสามารถสตรีมหนังเรื่อง Palm Springs ผ่านเซิร์ฟเวอร์ New York, New Jersey, Washington และ Los Angeles ในความละเอียดระดับ UHD ได้โดยไม่ถูกรบกวน
หลังจากที่ดู Hulu เป็นเวลานานกว่าชั่วโมงหนึ่ง การเชื่อมต่อ ExpressVPN ของผมก็ยังคงเสถียรดี โดยมีการกระตุกกลางเรื่องที่กินเวลาไม่นานเกินสองสามวิเกิดขึ้นไม่บ่อยนักอยู่บ้าง
Disney Plus
ผมเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์และออสเตรเลียและทุกเซิร์ฟเวอร์ที่ผมทดสอบก็ปลดบล็อก Disney+ ได้อย่างง่ายดาย รายการ The Mandalorian โหลดขึ้นมาภายในไม่กี่วินาทีและผมก็พบการโหลดตอนเริ่มต้นเพียงสองสามวินาทีเท่านั้น
ตอนที่ผมทดสอบความเร็ว เซิร์ฟเวอร์ UK-London เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วที่สุดและเซิร์ฟเวอร์ Australia-Sydney เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ช้าที่สุด ความเร็วที่ได้ยังคงรวดเร็วพอสำหรับการสตรีมในความละเอียดระดับ UHD ดังนั้นผมจึงยิ่งกว่าพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้
Kodi
ExpressVPN อ้างว่าปลดบล็อกอินออน Kodi ที่จำกัดในบางประเทศได้ เพื่อทดสอบเรื่องนี้ ผมเลยลองสตรีมแอดออน Popcornflix (ถูกกฎหมาย แต่จำกัดตามภูมิภาค) ซึ่งพร้อมให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้นดู เซิร์ฟเวอร์ USA-New York และ Canada-Toronto ของ ExpressVPN สตรีมในความละเอียดระดับ UHD ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ถัดมา ผมได้ทดสอบแอดออน Kodi ที่สตรีมไฟล์ BitTorrent ที่แคชไว้ ผมสามารถดูรายการโทรทัศน์และหนังโดเมนสาธารณะในความละเอียดระดับ UHD ได้และต้องรอเพียงไม่กี่วินาทีเพื่อให้สตรีมโหลดขึ้นมาเท่านั้น โบนัสคือการได้รู้ว่าการรับส่งข้อมูลของผมปลอดภัยอยู่ตลอดเวลาในขณะที่ผมสตรีมมิ่งบน Kodi
Max
ผมเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ในสหรัฐอเมริกามากมาย ซึ่งรวมถึง New York, Los Angeles และ New Jersey – ทุกเซิร์ฟเวอร์ที่ผมทดสอบสามารถเข้าถึง Max (ชื่อเดิม HBO Max) ได้โดยไม่มีปัญหา ความเร็วเซิร์ฟเวอร์ของผมยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นผมจึงสามารถสตรีมหนังอย่าง Aquaman ได้โดยไม่สะดุด
ความสามารถในการสตรีมมิ่งของ ExpressVPN ไม่เพียงแต่ครอบคลุมแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยมที่สุดเท่านั้น แต่บริการดังกล่าวยังสามารถเข้าถึงโปรแกรมที่แม้แต่ VPN ชั้นนำอย่าง CyberGhost ประสบปัญหาในการเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย แพลตฟอร์มนี้รวมถึง DAZN, ITVX, Channel 4, Sky GO และบริการในท้องถิ่นอื่น ๆ อย่าง TF1 ไม่ว่าคุณจะมาจากภูมิภาคไหน ExpressVPN ก็สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงเนื้อหาที่บ้านเกิดได้
ความเร็ว
- 10 / 10ExpressVPN เร็วไหม? (ใช่ เร็วมากด้วย!)
ExpressVPN เป็น VPN ที่เร็วที่สุดที่ผมเคยทดสอบ บริการนี้รวดเร็วมากจนบางครั้งผมก็ลืมไปเลยว่าผมเชื่อมต่ออยู่ ตอนนี้ผมใช้ ExpressVPN เพื่อท่องอินเทอร์เน็ต สตรีมรายการโทรทัศน์และหนัง เล่นเกมออนไลน์และโหลดไฟล์บิทขนาดใหญ่ถึง 90GB และมากกว่านี้มาเกือบหนึ่งปีแล้วและผมก็ไม่มีเรื่องให้ต้องบ่นเกี่ยวกับความเร็วเลย
ผลทดสอบความเร็ว
ผมทดสอบความเร็วจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก (ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนร่วมงาน) – และผมก็ประทับใจที่ได้เห็นว่าเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN มีความรวดเร็วสม่ำเสมอกันทั่วโลก
โดยทั่วไปแล้ว เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างจากตำแหน่งที่แท้จริงของคุณมีแนวโน้มที่จะทำงานได้ช้ากว่า แต่น่าประหลาดใจที่ไม่มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนอะไรระหว่างความเร็วของเซิร์ฟเวอร์ ExpressVPN ที่อยู่ใกล้ฝรั่งเศสหรือเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลออกไปเกือบ 17,000 กิโลเมตรในออสเตรเลีย
ผมยังทดสอบโปรโตคอล Lightway และ OpenVPN ของ ExpressVPN เพื่อเปรียบเทียบความเร็วด้วย Lightway ก็อย่างที่ชื่อบอก ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ไม่หนักเครื่อง โดยมีโปรโตคอลที่ประกอบไปด้วยโค้ดประมาณ 2,000 บรรทัด (เทียบกับ 70,000 ของ OpenVPN) เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนสำหรับผมว่าผมสามารถเชื่อมต่อและสลับเปลี่ยนระหว่างเซิร์ฟเวอร์ได้รวดเร็วแค่ไหน นอกจากนี้มันยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมือถือด้วยเนื่องจากมันไม่กินแบตเตอรี่มากนัก
น่าสนใจที่ผมพบว่า OpenVPN เร็วกว่า Lightway เล็กน้อย (ตามขอบเขตความผิดพลาด) แต่ถึงอย่างนั้น สำหรับเพื่อนร่วมงานบางส่วนของผม Lightway เร็วกว่าเล็กน้อย ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าตัวแปรต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณอาจส่งผลต่อโปรโตคอลที่เหมาะสำหรับคุณมากที่สุด โดยทั่วไปแล้ว การเลือกโปรโตคอล “อัตโนมัติ” ที่ให้ ExpressVPN เลือกตัวเลือกที่เหมาะกับคุณที่สุดถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
คุณสามารถดูผลลัพธ์ของแต่ละโปรโตคอลได้ที่ด้านล่าง เมื่อเทียบกับความเร็วปกติของผมที่ 520Mbps ผลลัพธ์ของคุณอาจแตกต่างออกไป แต่ด้านล่างนี้ก็เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีว่าโปรโตคอลใดมีความสามารถอะไรบ้าง
เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ExpressVPN ส่งผลกระทบต่อความเร็วอินเทอร์เน็ตพื้นฐานของผมน้อยที่สุด (ซึ่งหมายความว่ามันจะไม่ทำให้อุปกรณ์ของคุณทำงานช้าลง) เพื่อทดสอบเรื่องนี้ ผมได้เปิดใช้งาน ExpressVPN บน Windows PC ของผมและเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ Melbourne ซึ่งอยู่ห่างจากที่ที่ผมอยู่มากที่สุด ความเร็วในการดาวน์โหลดของผมลดลงเพียง 25% เท่านั้น – ถือว่าไม่มากนักเมื่อพิจารณาถึงระยะทาง
เพื่อการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วที่สุด ผมขอแนะนำให้เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้กับตำแหน่งที่คุณอยู่มากที่สุด แต่หากคุณกำลังอยู่ในระหว่างเดินทางหรือต้องการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างออกไป ExpressVPN ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าบริการนี้เสนอความเร็วการเชื่อมต่อที่ดีทั่วโลก ดังนั้นคุณจะไม่พบกับประสบการณ์การใช้งานที่ช้าเป็นอย่างมาก
เคล็ดลับ: รับความเร็วสูงสุดด้วย ExpressVPN
- เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ “แนะนำ: เซิร์ฟเวอร์ “แนะนำ” เสนอความเร็วที่ดีที่สุดตามระยะทางของคุณจากตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์และจำนวนผู้ใช้ที่เชื่อมต่ออยู่
- เลือกโปรโตคอลรักษาความปลอดภัยที่เร็วกว่า: ผมขอแนะนำให้เลือกโปรโตคอลที่เร็วกว่าอย่าง Lightway หรือ OpenVPN (UDP)
- ติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง: คุณสามารถติดต่อทีมสนับสนุนออนไลน์ได้และพวกเขาจะแนะนำเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วให้กับคุณ
ความเร็วของ ExpressVPN เร็วพอสำหรับเล่นเกมไหม? (ใช่)
การมีความเร็วที่รวดเร็วถือเป็นเรื่องสำคัญเมื่อพูดถึงการเล่นเกม โดยมีเวลาแฝงต่ำเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เวลาแฝง (บ่อยครั้งเรียกว่า ping) เป็นมาตรวัดระยะเวลาที่แพ็กเกตข้อมูลเดินทางระหว่างคอมพิวเตอร์ของคุณและเซิร์ฟเวอร์เกม เวลาแฝงสูงอาจก่อให้เกิดการกระตุกอย่างเห็นได้ชัดในระหว่างเล่นเกม ซึ่งส่งผลเชิงลบต่อปฏิกิริยาและการกำหนดเวลาในเกมของคุณ
ผมตัดสินใจที่จะทดสอบ ExpressVPN กับเกมสองสามเกม ซึ่งรวมถึง Call of Duty: Warzone และ Counter-Strike: Global Offensive (CS:GO) บน Steam เนื่องจากเป็นเกมออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูง เกมเหล่านี้จึงต้องมีการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว เวลาแฝงต่ำเนื่องจากความล่าช้าใด ๆ อาจหมายถึงความแตกต่างระหว่างชนะและแพ้
ผมดีใจมากที่ ExpressVPN ทำได้มากกว่าที่ผมคาดหวังเอาไว้ ตอนที่ผมเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใกล้กับเยอรมนี อัตรา ping ของผมอยู่ที่ประมาณ 55ms เทียบกับปกติที่ 40ms – เหมาะสำหรับการเล่นเกม โดยพื้นฐานแล้ว ผมโอเคกับการเล่นเกมออนไลน์ที่มี ping ต่ำกว่า 90ms แม้ว่าผมจะชอบให้อยู่ต่ำกว่า 65ms โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมที่เล่นเร็วกว่าก็ตาม
โดยรวมแล้ว ผมแทบไม่สังเกตเห็นเลยว่าผมกำลังใช้ VPN อยู่ ยกเว้นแต่ตอนที่เพื่อนร่วมทีมส่วนใหญ่ของผมเริ่มพูดภาษาเยอรมันกัน ผมแม้แต่ใช้งานมันในวันหยุดในตุรกีด้วยและค่า ping ก็อยู่ที่เฉลี่ย 79ms ซึ่งเพียงพอในขณะที่เล่น Warzone ผลลัพธ์ของคุณเองจะแตกต่างออกไปอย่างมากตามระยะห่างของคุณกับเซิร์ฟเวอร์
ความสำคัญของความเร็วและสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก VPN?
ความเร็วถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเมื่อเลือก VPN ซึ่งความเร็วในการใช้ VPN จะมาพร้อมกับค่าใช้ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยิ่ง VPN มีความเร็วมากเท่าใด คุณยิ่งจะสามารถเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดของเน็ตเวิร์คของคุณได้มากเท่านั้น เวลา Ping มีความสำคัญเทียบเท่ากับความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดสำหรับการสตรีมมิ่ง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความเร็วในการรับข้อมูล เวลา ping ที่น้อยกว่าและแบนด์วิธในการดาวน์โหลดที่สูงจะช่วยให้การสตรีมมิ่งเป็นไปได้อย่างไม่มีสะดุด การใช้เวลาในการเชื่อมต่อที่สั้นกว่าจะช่วยป้องกันความวุ่นวาย ส่วนการเชื่อมต่อที่เสถียรถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่งหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ
เซิร์ฟเวอร์
- 10 / 10เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกขนาดใหญ่ (105 ประเทศ)
ExpressVPN เสนอเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะมากสำหรับ VPN แม้ว่าบริการนี้จะไม่ได้มีจำนวนเซิร์ฟเวอร์รวมสูงสุด แต่ตัวเลือกมากมายที่ครอบคลุมหลายพื้นที่ทั่วโลก นี่หมายความว่าคุณจะพบเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงเสมอ ไม้ว่าคุณจะอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ศรีลังกาหรือนิวซีแลนด์ก็ตาม
ตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ครอบคลุมที่ดีที่สุดพร้อมให้บริการในประเทศต่าง ๆ ในยุโรปและอเมริกาเหนือ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีตัวเลือกมากมายในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกาใต้และเอเชียแปซิฟิก
เซิร์ฟเวอร์ Obfuscated – เหมาะสำหรับการซ่อนตัวจากการแอบติดตาม
เซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ทั้งหมดเป็น Obfuscated โดยค่าเริ่มต้น ซึ่งทำให้บริการนี้เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณกำลังเดินทางไปยังประเทศที่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้งาน VPN เซิร์ฟเวอร์ Obfuscated ปิดบังข้อเท็จจริงที่ว่าคุณกำลังใช้ VPN ซึ่งทำให้การหลีกเลี่ยงการตรวจจับแพ็กเกจเชิงลึก (เทคโนโลยีที่ตรวจจับการรับส่งข้อมูล VPN) เป็นเรื่องง่าย
ตอนที่ผมทดสอบจากตุรกี ผมไม่เคยมีปัญหาการเชื่อมต่อเลย – แม้ว่าที่นั่นจะบล็อกเว็บไซต์ของ ExpressVPN ก็ตาม นอกจากนี้บริการดังกล่าวยังเสนอเว็บไซต์สำรองที่มีการอัปเดตเป็นประจำในกรณีที่คุณต้องการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ในขณะที่อยู่ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์เข้มงวด แค่ส่งอีเมลถึงทีมสนับสนุนเพื่อขอลิงก์ที่ใช้งานได้ล่าสุด (support@expressvpn.zendesk.com)
ExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริงสำหรับภูมิภาคที่มีโครงสร้างพื้นฐานไม่เสถียรหรือกฎหมายอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกเซิร์ฟเวอร์ในเวเนซูเอลาที่ขึ้นชื่อเรื่องกฎระเบียบข้อบังคับออนไลน์ที่รัดกุม ExpressVPN จะมอบหมายเลข IP ในเวเนซูเอลาให้กับคุณ แต่เชื่อมต่อคุณกับเซิร์ฟเวอร์ใกล้เคียงในบราซิล สิ่งนี้จะช่วยรับประกันการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและเสถียรในเวลาเดียวกัน
เทคโนโลยี TrustedServer – ลบข้อมูลทั้งหมดจากเซิร์ฟเวอร์โดยอัตโนมัติ
เซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN มากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ทำงานผ่านดิสก์ RAM แทนที่จะเป็นฮาร์ดไดร์ฟ ดิสก์ RAM ต้องใช้พลังงานในการเก็บข้อมูลเอาไว้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นทุกครั้งที่มีการเปิดและปิดเซิร์ฟเวอร์อีกครั้ง ข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบออกไปทันที นั่นหมายความว่าเทคโนโลยี TrustedServer ลบการติดตามข้อมูลส่วนบุคคลและประวัติการท่องเว็บใด ๆ ของคุณออกทุกครั้งที่มีการรีบูต
แม้ว่าฟีเจอร์นี้จะกำลังกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นท่ามกลาง VPN พรีเมียมชั้นนำ แต่ผู้ให้บริการอื่น ๆ มากมายก็ยังคงใช้เซิร์ฟเวอร์ผ่านฮาร์ดไดร์ฟ ปัญหาก็คือฮาร์ดไดร์ฟกักเก็บข้อมูลทั้งหมดเอาไว้จนกว่าจะมีการลบหรือเขียนทับด้วยตัวเอง ข้อมูลดังกล่าวนั้นรวมถึงข้อมูลความลับ ซึ่งสร้างปัญหาความเป็นส่วนตัวที่อาจเกิดขึ้นได้หากเกิดการรั่วไหลหรือโดนแฮก
Smart Location – เหมาะสำหรับการดำเนินการระดับปานกลาง
ในทางทฤษฎีแล้ว ฟีเจอร์ Smart Location จะแนะนำเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงโดยอัตโนมัติเพื่อการเชื่อมต่อที่ดีที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นบางครั้งฟีเจอร์นี้ก็มักแนะนำตัวเลือกที่แปลก เช่น เซิร์ฟเวอร์ในอิตาลีในขณะที่ผมอยู่ที่โปแลนด์หรือเซิร์ฟเวอร์ในนิวยอร์กขณะที่ผมอยู่ในอังกฤษ แม้ว่ามันจะมีเป้าหหมายในการหาเซิร์ฟเวอร์ที่มีความเร็วสูงและเวลาแฝงต่ำ แต่โดยทั่วไปแล้วผมพบว่าตัวเลือกที่เลือกเองนั้นแม่นยำมากกว่า
แม้ว่าการปรับปรุงปัจจุบันจะค่อนข้างคาดเดาได้ยาก แต่ผมก็ชอบที่ได้เห็นฟีเจอร์นี้พัฒนาเพราะมันช่วยประหยัดวินาทีอันล้ำค่าของคุณเมื่อคุณกำลังเร่งรีบ ผมใช้ฟีเจอร์นี้ในผู้ให้บริการ VPN อื่นอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเรื่องนี้เลยทำให้เป็นหนึ่งในจุดอ่อนเล็กน้อยของ ExpressVPN เมื่อเทียบกับคู่แข่ง (โชคดีที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร)
ExpressVPN เหมาะสำหรับการโหลดบิทและ P2P ไหม? ใช่!
ExpressVPN ไม่ได้โฆษณาตัวฟีเจอร์ P2P ของตนมากเหมือนกับที่ VPN อื่น ๆ ทำ ดังนั้นผมเลยคิดว่าบริการนี้ไม่รองรับการโหลดบิท – แต่กลายเป็นว่าผมคิดผิด หลังจากที่ดำเนินการทดสอบโดยละเอียด ผมประทับใจที่ได้พบว่า ExpressVPN จริง ๆ แล้วเป็นหนึ่งใน VPN ที่เหมาะสำหรับการโหลดบิทมากที่สุด
ทุกเซิร์ฟเวอร์ได้รับการปรับปรุงเพื่อกิจกรรม P2P โดยรองรับไคลเอนต์ยอดนิยมอย่าง uTorrent, qBittorrent และ Vuze เรื่องนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดให้ความสำคัญกับความเร็วและความปลอดภัยอย่างเต็มที่
ฟีเจอร์สนับสนุนความเป็นส่วนตัวมากมายทำให้ ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการโหลดบิท การเข้ารหัสระดับทหารจะปิดบังการรับส่งข้อมูลของคุณ การหมุนเวียนหมายเลข IP ยังช่วยให้คุณนำหน้าการติดตามอยู่ก้าวหนึ่งอย่างต่อเนื่องและ Network Lock (Kill Switch ของ ExpressVPN) จะยกเลิกการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณในกรณีที่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์
นอกจากนี้แล้ว เขตอำนาจศาลในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้นยังเสนอการรับประกันเพิ่มเติมด้วย ด้วยการเป็นอิสระจากข้อบังคับการจัดเก็บข้อมูล นี่หมายความว่า ExpressVPN ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายในด้านการจัดเก็บหรือแบ่งปันกิจกรรมออนไลน์ของคุณ แต่ถึงอย่างนั้น นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า ExpressVPN ให้ไฟเขียวแก่คุณในการโหลดไฟล์อะไรก็ได้ที่คุณต้องการ – การดาวน์โหลดสื่อที่ได้รับการคุ้มครองจากลิขสิทธิ์เป็นเรื่องผิดกฎหมายเสมอ ดังนั้นกรุณาใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบด้วย
แน่นอนว่าหากไม่มีความเร็วที่รวดเร็วสูง ทั้งหมดนี้คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โชคดีที่ตามที่เราเห็นกันข้างต้น ExpressVPN มีความเร็วสูง เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นในการทดสอบ P2P ของผม ตอนที่ผมสามารถดาวน์โหลดไฟล์ขนาด 10GB ได้ใน 3 นาทีครึ่งเท่านั้น
ExpressVPN ทำงานในประเทศจีนได้ไหม? (ได้)
การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนนั้นเป็นเรื่องยากมาก ๆ เพราะกฎหมายการเซ็นเซอร์ของประเทศจีน – และ VPN ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถทำงานในประเทศจีนได้แล้ว โชคดีที่ ExpressVPN สามารถหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ที่แข็งแกร่งของประเทศนี้ได้สำเร็จ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้บริการนี้เป็นหนึ่งใน VPN ไม่มากที่สามารถทำได้ การเข้าถึงเว็บไซต์อย่าง Facebook, Google, Wikipedia, YouTube, Netflix และอื่น ๆ นั้นไม่เคยเป็นปัญหาเลย
ExpressVPN ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ในประเทศจีน ซึ่งทำให้บริการนี้เป็นอิสระจากกฎระเบียบข้อบังคับท้องถิ่นและข้อกำหนดในการบันทึกข้อมูล หากคุณกำลังเดินทางไปยังประเทศจีน ผมขอแนะนำให้ดาวน์โหลด ExpressVPN เอาไว้ล่วงหน้าเนื่องจากอาจมีการปิดกั้นเว็บไซต์ที่นั่น หรือคุณสามารถติดต่อ ExpressVPN ผ่านทางอีเมล (support@expressvpn.zendesk.com) เพื่อขอลิงก์สำรองล่าสุด ซึ่งจะช่วยให้คุณดาวน์โหลดแอปจากภายในประเทศจีนได้
หลังจากที่เชื่อมต่อแล้ว การรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของคุณจะได้รับการเข้ารหัสและปิดบังจากการเซ็นเซอร์ รัฐบาลและ ISP ทั้งหมด เพื่อเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม Network Lock ที่เป็น Kill Switch จะปิดกั้นการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตทั้งหมดหากการเชื่อมต่อ VPN เกิดไม่เสถียรหรือไม่ทำงาน สิ่งนี้ช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณรั่วไหลทางออนไลน์และเปิดเผยตัวตนของคุณ
เพื่อยืนยันเรื่องนี้ ทีมงานค้นคว้าของผมจึงได้ดำเนินการทดสอบการรั่วไหลของ DNS จากประเทศจีนในขณะที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ New York ของ ExpressVPN เราไม่พบการรั่วไหล – ดังนั้นคุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่าการรับส่งข้อมูลออนไลน์ของคุณได้รับการป้องกันเป็นอย่างดี
ปัญหาเล็กน้อยที่ผมพบคือไม่ใช่ทุกเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานในประเทศจีนได้ ดังนั้นคุณจะถูกจำกัดโดยตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้ แต่ถึงอย่างนั้น เซิร์ฟเวอร์ในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาของ ExpressVPN ก็สามารถหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ของประเทศจีนได้สำเร็จ
หมายเหตุ! ประเทศจีนแบน VPN ที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล ซึ่งหมายความว่าการใช้งาน ExpressVPN ที่นั่นอาจถือเป็นการทำผิดกฎหมายได้ กรุณาตรวจสอบกฎหมายในท้องถิ่นล่าสุดหากคุณต้องการใช้ ExpressVPN เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดกั้นของรัฐบาล (ในประเทศใดก็ตาม) และอย่าลืมตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณไม่ได้ทำอะไรที่อาจนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายได้
ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัย
มาตรฐานการเข้ารหัสล้ำสมัย – มอบชั้นการป้องกันที่ไม่สามารถทำลายได้
ExpressVPN ใช้การเข้ารหัส AES 256-บิตผสานรวมกันกับคีย์ 4096-บิต RSA และการยืนยัน SHA-512 HMAC เรื่องนี้หมายความว่าอะไร? นี่เป็นมาตรฐานการเข้ารหัสสูงสุดและปัจจุบันก็ได้รับการพิจารณาว่าเป็นมาตรฐานที่แทบจะเจาะไม่ได้เลย
การยืนยัน SHA-512 HMAC ช่วยเพิ่มชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับการถ่ายโอนข้อมูล (เช่นการแชร์ไฟล์ P2P และการโหลดบิท) ทั้งผู้ส่งและผู้รับไฟล์ใช้คีย์ลับร่วมกัน – การเปลี่ยนแปลงคีย์ลับใด ๆ หมายถึงการเชื่อมต่อถูกสกัดกั้น ดังนั้นคุณจะรู้ได้ทันทีว่ามีผู้บุกรุก
โปรโตคอลรักษาความปลอดภัยมากมายที่พร้อมใช้งานในทุกอุปกรณ์
ExpressVPN เสนอโปรโตคอล Lightway อันโดดเด่น ควบคู่ไปกับตัวเลือกมาตรฐานอย่าง OpenVPN (UDP และ TCP) และ IKEv2 ExpressVPN ไม่ได้ทำให้โปรโตคอลทั้งหมดพร้อมใช้งานในทุกอุปกรณ์ แต่ถึงอย่างนั้น แต่ละระบบปฏิบัติการก็มีตัวเลือกมากมาย เช่น:
- Windows – Lightway (UDP และ TCP), OpenVPN (UDP และ TCP), IKEv2 (ExpressVPN เวอร์ชัน 10 เท่านั้น)
- Mac – Lightway (UDP และ TCP), OpenVPN (UDP และ TCP) และ IKEv2
- Android – Lightway (UDP และ TCP), OpenVPN (UDP และ TCP) และ IKEv2.
- iOS – Lightway (UDP และ TCP) และ IKEv2
- Linux – Lightway (UDP และ TCP), OpenVPN (UDP และ TCP) และ IKEv2
- เราเตอร์ – Lightway, OpenVPN และ IKEv2
ผมขอแนะนำให้คุณใช้โปรโตคอลที่ปลอดภัยและล้ำสมัยอย่าง Lightway และ OpenVPN Lightway เป็นโปรโตคอลอันเป็นกรรมสิทธิ์ที่พัฒนาขึ้นสำหรับลูกค้า ExpressVPN โดยเฉพาะและโดยทั่วไปแล้วถือเป็นตัวเลือกที่รวดเร็วที่สุดสำหรับการเชื่อมต่อทั่วโลก
คุณสามารถเลือกโปรโตคอลได้ง่าย ๆ โดยการคลิกที่ไอคอน “การตั้งค่า” และไปยัง “โปรโตคอล” ด้วยการเปิดใช้งานตัวเลือกเริ่มต้น “อัตโนมัติ” ExpressVPN จะเลือกโปรโตคอล VPN ที่ดีที่สุดให้ตามการตั้งค่าเครือข่ายของคุณ สำหรับคนส่วนใหญ่ การเลือกตัวเลือกนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่หากคุณประสบกับปัญหาเครือข่ายใด ๆ คุณก็สามารถสลับเปลี่ยนมันได้อย่างรวดเร็ว
โปรโตคอลที่คุณจะไม่เห็น ExpressVPN รองรับคือ SSTP, PPTP และ L2TP/IPSec โปรโตคอลล้าสมัยเหล่านี้ไม่สามารถติดตามภัยคุกคามที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดที่ผู้ใช้หลายคนได้เจอทัน แม้แต่การมีไว้เป็นตัวเลือกก็อาจทำให้ระบบของคุณมีช่องโหว่สำหรับภัยคุกคามได้หากคุณเผลอไปเลือกเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ
ป้องกันอุปกรณ์ของคุณด้วย ExpressVPN
Kill Switch อัตโนมัติ – ป้องกันการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของคุณให้ปลอดภัยในขณะที่ขาดการเชื่อมต่อได้สำเร็จ
Network Lock ป้องกันข้อมูลหรือข้อมูลการรับส่งใด ๆ จากการรั่วไหลหากการเชื่อมต่อ VPN ของคุณเกิดหลุด ในกรณีที่มีปัญหาด้านการเชื่อมต่อใด ๆ Kill Switch นี้จะตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณลงชั่วคราวจนกว่าจะมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและคุณกลับมาเชื่อมต่อใหม่อีกครั้ง
ฟีเจอร์นี้พร้อมใช้งานบน Windows, Mac, Android, Linux และแอปสำหรับเราเตอร์ ผมทดสอบฟีเจอร์บน Macbook, Windows PC และสมาร์ทโฟนของผม (ที่มีระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 13) และการเชื่อมต่อของผมก็ถูกปิดกั้นได้สำเร็จทุกครั้งที่ผมลองรบกวนการเชื่อมต่อ VPN ด้วยตัวเอง ซอฟต์แวร์เปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอาไว้ให้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นคุณเลยไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการเปิดใช้งาน
Split Tunneling – สำหรับ Windows, Mac, Android และแอปสำหรับเราเตอร์ (มากกว่า VPN อื่น ๆ ส่วนใหญ่)
นี่คือจุดที่ ExpressVPN เป็นผู้ชนะอย่างเห็นได้ชัด VPN มากมายไม่มี Split Tunneling ให้บริการ และแม้ VPN จะมีฟีเจอร์นี้ให้ใช้ก็มีให้ใช้ได้แค่ใน 1 หรือ 2 แอปเท่านั้น – โดยปกติแล้วจะเป็น Android แต่ ExpressVPN เสนอ Split Tunneling บนแอปสำหรับ Android, Windows และเราเตอร์ทั้งหมด
Split Tunneling จะมอบความสามารถในการเลือกแอปที่เฉพาะเจาะจงที่จะหลีกเลี่ยง VPN แก่คุณ สมมติว่าคุณอยากดูรายการในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างประเทศ แต่คุณก็อยากทำการธนาคารออนไลน์ในท้องถิ่นไปด้วย ด้วยการเปิดใช้งาน Split Tunneling คุณจะสามารถตั้งค่าให้ Netflix เชื่อมต่อกับ ExpressVPN ในขณะที่เบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตปกติของคุณหลีกเลี่ยง VPN ได้
น่าเสียดายที่ Split Tunneling ไม่พร้อมใช้งานบน macOS 11 (Big Sur) และใหม่กว่าหรือบน iOS เรื่องนี้เป็นเรื่องโชคร้ายของอุปกรณ์ Apple ซึ่งไม่อนุญาตให้มี Split Tunneling เลยหรืออนุญาตให้ใช้ได้บน macOS ที่มีโปรโตคอลเข้ารหัสเฉพาะ (และเป็นที่นิยมน้อยกว่า) เท่านั้น ซึ่งทำให้การปรับปรุงเป็นเรื่องยากมากขึ้นสำหรับผู้ให้บริการ VPN
ผลการทดสอบการรั่วไหล – ไม่พบการรั่วไหล
แม้ว่า VPN จะเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลออนไลน์ของคุณ แต่ก็ยังเป็นไปได้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะเกิดรั่วไหลผ่าน DNS, WebRTC และ IPv4 ExpressVPN เสนอการทดสอบการรั่วไหลของตนเอง แต่ผมอยากดำเนินการทดสอบด้วยตัวของผมเองที่ ipleak.net
ผมทดสอบเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นบน Mac ของผมและผมก็ยินดีที่จะบอกให้ทราบว่า ExpressVPN ไม่มีการรั่วไหลเลยตลอดเซสชันของผม มีเพียงหมายเลข IPv4 ใหม่ของผมเท่านั้นที่มองเห็นได้และ IPv6 ก็ถูกปิดกั้นไว้ ดังนั้นจึงไม่มีความเสี่ยงที่จะข้อมูลส่วนบุคคลของผมจะเกิดรั่วไหลได้
DNS เข้ารหัสในทุกเซิร์ฟเวอร์
ฟีเจอร์ Encrypted DNS ของ ExpressVPN จะป้องกันความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยทางออนไลน์ของคุณโดยการเข้ารหัสคำขอ DNS ของคุณแทนที่จะเปิดเผยมันกับบุคคลที่สาม นี่หมายความว่า ISP, รัฐบาลหรือพวกชอบสอดแนมไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ไม่สามารถดูได้ว่าคุณกำลังเยี่ยมเว็บไซต์อะไร นอกจากนี้มันยังปิดกั้นโฆษณาและการติดตาม ซึ่งช่วยยกระดับความเป็นส่วนตัวของคุณมากยิ่งขึ้น
ไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ – มันเปิดใช้งานเสมอโดยค่าเริ่มต้นอยู่แล้วเพื่อให้มั่นใจว่าการรับส่งข้อมูลของคุณทั้งหมดได้รับการคุ้มครองตั้งแต่การเชื่อมต่อครั้งแรกของคุณ
Threat Manager – ปิดกั้นการติดตามจากเว็บไซต์
ฟีเจอร์ Threat Manager ของ ExpressVPN เพิ่มการป้องกันความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมโดยการปิดกั้นเว็บไซต์และแอปจากการติดตามคุณและแบ่งปันข้อมูลของคุณ ตลอดจนปิดกั้นเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายโดยสมบูรณ์ Threat Manager พร้อมใช้งานบน Windows, Mac, iOS, Android และ Linux
สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับ Threat Manager คือมันหมายความว่าผมจะไม่เห็นโฆษณาเป้าหมายบนเว็บไซต์หลังจากที่ค้นหาบน Google ที่เฉพาะเจาะจงหรือใช้แอปบางอย่าง Threat Manager จะหยัดเว็บไซต์และแอปจากการติดตามกิจกรรมของคุณ – และแม้ว่าเบราว์เซอร์มากมายจะเสนอการปิดกั้นการติดตามบางประเภทอยู่แล้ว แต่ Threat Manager ยังปิดกั้นแอปจากการติดตามกิจกรรมของคุณด้วย
เข้ากันได้กับ Tor เพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม
ผมพบว่า ExpressVPN ทำงานร่วมกันกับ Tor ได้ดีเป็นพิเศษเนื่องจาก:
- ความเร็วที่ยอดเยี่ยม – แม้ว่าการท่องเว็บบน Tor จะทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตช้าลง แต่ความเร็วที่รวดเร็วของ ExpressVPN จะไม่ส่งผลเสียต่อการเชื่อมต่อของคุณมากนัก
- การเข้ารหัส 256-บิต – ปิดบังการรับส่งข้อมูลจากโหนดทั้งหมดในเครือข่าย Tor
- Kill Switch – ปิดกั้นการรั่วไหลโดยบังเอิญหากการเชื่อมต่อ VPN เกิดถูกขัดจังหวะเพื่อให้ไม่มีการเปิดเผยหมายเลข IP ที่แท้จริงของคุณไปยังการเข้าและออกโหนดของ Tor
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน – หยุดข้อมูลส่วนบุคคลของคุณและกิจกรรม Tor ไม่ให้ถูกบันทึกเก็บไว้
- เซิร์ฟเวอร์บน RAM – ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะถูกลบออกจากเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN
เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ผมขอแนะนำให้เชื่อมต่อกับ ExpressVPN ก่อนเสมอและค่อยเชื่อมต่อกับ Tor วิธีนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ “Tor over VPN” หรือ “Onion over VPN” และป้องกันแม้กระทั่ง Tor จากการมองเห็นหมายเลข IP ที่แท้จริงของคุณ
เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน Keys จาก ExpressVPN
หนึ่งในวิธีการหลัก ๆ ที่ความปลอดภัยทางออนไลน์ของผู้คนถูกรุกล้ำคือการใช้รหัสผ่านที่อ่อนแอสำหรับบัญชีออนไลน์ บริการ Keys ของ ExpressVPN มีเป้าหมายในการแก้ไขเรื่องนี้โดยการเสนอเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่สามารถสร้างและจัดเก็บรหัสผ่านที่แข็งแกร่งมาก (และข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ที่เกี่ยวข้อง) ฟีเจอร์นี้ยังมีการกรอกข้อมูลบนเว็บไซต์และแอปโดยอัตโนมัติเพื่อลดเวลาการลงชื่อเข้าใช้ด้วย
ฟีเจอร์นี้ใช้สถาปัตยกรรมความรู้เป็นศูนย์ ซึ่งหมายความว่ามีเพียงรหัสผ่านหลักของคุณ (หรือไบโอเมตริกบนอุปกรณ์มือถือ) เท่านั้นที่สามารถกู้คืนรายการที่คุณจัดเก็บเอาไว้ได้ นี่หมายความว่าแม้แต่ ExpressVPN เองก็มองไม่เห็นมัน (และหากคุณเกิดลืมรหัสผ่าน คุณก็โชคร้ายไปเลย!)
มันเป็นบริการที่ผมดีใจเสมอที่ได้เห็นการแข่งขันมากขึ้นและด้วยภูมิหลังด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ ExpressVPN ผมจึงมั่นใจในความสามารถในการมอบผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งของพวกเขา จริง ๆ แล้ว Keys ได้รับการตรวจสอบโดยบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำ Cure53 แล้ว ดังนั้นคุณจึงสามารถมั่นใจได้เลยว่ารหัสผ่านของคุณได้รับการจัดเก็บเอาไว้อย่างปลอดภัย (และเป็นส่วนตัว)
โปรดทราบว่าปัจจุบัน Keys กำลังอยู่ในช่วงเปิดตัวและจะค่อย ๆ เปิดให้บริการแก่ผู้ใช้ทุกท่านเมื่อเวลาผ่านไป
ข้อเสียเล็กน้อย: ไม่มีตัวปิดกั้นโฆษณา
ExpressVPN ไม่มีตัวปิดกั้นโฆษณาภายในตัวมาให้แม้ว่าผมจะไม่ได้สนใจมากนักเพราะเรื่องนี้มอบความยืนหยุ่นให้ผมใช้ตัวปิดกั้นโฆษณาที่ผมเลือกเองต่างหากได้ ผมใช้ (และแนะนำ) uBlock Origin และพบว่ามันทำงานร่วมกันกับ ExpressVPN เป็นอย่างดี
แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องที่ไม่มีตัวปิดกั้นโฆษณามาให้ก็ถือเป็นเรื่องแปลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริการ VPN ชั้นนำที่มีทุกอย่างมาให้ ตัวปิดกั้นโฆษณา MACE ของ Private Internet Access ทำได้ดีเป็นอย่างยิ่งในเรื่องการปิดกั้นโฆษณา ตลอดจนมัลแวร์ ตัวปิดกั้นโฆษณาจาก VPN ส่วนใหญ่ที่ผมทดสอบทำงานได้ค่อนข้างแย่ ดังนั้นผมจึงประหลาดใจที่ได้เห็นอะไรอย่าง MACE ในตลาด
ฟีเจอร์ความปลอดภัย
นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด – ทดสอบแล้วและสอบผ่าน
คุณจะพบบริการ VPN มากมายอ้างว่าใช้นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน – แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป ผู้ให้บริการ VPN ยอดนิยมที่มี “นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน” จะยังคงติดตามหมายเลข IP, ตราประทับเวลาการเชื่อมต่อและอุปกรณ์ของผู้ใช้ นั่นจึงเป็นเหตุว่าทำไมจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานได้รับการตรวจสอบและพิสูจน์แล้ว.
ในปี 2017 ทางการตุรกีได้ค้นหาบันทึกผู้ใช้จาก ExpressVPN เนื่องจากนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน ExpressVPN จึงไม่มีข้อมูลอะไรที่จะส่งให้ได้ แต่ถึงอย่างนั้นทางการก็ได้เข้ายึดเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่นเพื่อพยายามกู้คืนข้อมูล แต่ก็ไม่สำเร็จ เรื่องนี้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ – ในโลกแห่งความเป็นจริง – ว่า ExpressVPN พูดความจริงและข้อมูลผู้ใช้ปลอดภัยแค่ไหน
ExpressVPN มอบตัวเลือกในการแบ่งปันข้อมูลของคุณกับทีมเทคนิคเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ ข้อมูลนี้รวมถึงรายงานการทดสอบความเร็ว ความล้มเหลวในการเชื่อมต่อหรืออาการค้างของแอป ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้และไม่สามารถติดตามย้อนกลับมาหาบุคคลหรืออุปกรณ์ใด ๆ ได้ ดังนั้นคุณถึงมั่นใจถึงความเป็นส่วนตัวของคุณได้ เพื่อเป็นการระมัดระวังด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม ผมขอแนะนำให้ปฏิเสธตัวเลือกนี้
ตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น
ExpressVPN มีเจ้าของคือ Express VPN International Limited ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น (BVI) การที่ตำแหน่งของ ExpressVPN อยู่ใน BVI เป็นเรื่องสำคัญเพราะ:
- ไม่มีกฎหมายบังคับให้เก็บข้อมูล – ดังนั้น ExpressVPN จึงไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องเก็บข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับกิจกรรมอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้เอาไว้ ซึ่งแตกต่างจากออสเตรเลียและประเทศอื่น ๆ ในยุโรป
- ไม่มีโครงการเฝ้าระวังมวลชน – เนื่องจากกฎหมายความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดของ BVI ที่ป้องกันผู้พำนักอาศัยและธุรกิจอย่าง ExpressVPN ซึ่งตรงข้ามกับการเฝ้าระวังในวงกว้างที่เห็นได้ในประเทศเช่นสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
- เขตอำนาจศาลที่เป็นอิสระและควบคุมตนเอง – เนื่องจาก ExpressVPN อยู่ภายใต้กฎหมายของ BVI และไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจศาลของประเทศอื่นใด
- อยู่นอก 5, 9 และ 14 Eyes – เนื่องจาก BVI ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานแบ่งปันข่าวกรอง “Eyes” ระหว่างสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ เยอรมนี เบลเยี่ยม อิตาลี สวีเดนและสเปน
การตรวจสอบโดยบุคคลที่สาม – สอบผ่าน
น่าประหลาดใจที่มีหลาย VPN ที่ไม่เคยได้รับการตรวจสอบจากบริษัทบุคคลที่สาม ผมพบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแปลก – ผู้คนไม่ควรพึ่งพาแค่เพียงชื่อเสียงและหลงเชื่อเมื่อประเมินข้อกล่าวอ้างจากผู้ให้บริการ VPN อย่างหลับหูหลับตา
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงประทับใจได้ ExpressVPN ได้รับการตรวจสอบจากบริษัทอิสระมากมายเพื่อสนับสนุนคำสัญญาเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของพวกเขา เริ่มตั้งแต่ปี 2019 ExpressVPN ได้จ้างบริษัทมากมาย โดยเริ่มตันจาก PwC เพื่อยืนยันนโยบายความเป็นส่วนตัว นับตั้งแต่นั้นมา ExpressVPN ก็ได้รับการตรวจสอบจากบริษัทดังต่อไปนี้:
- PwC (PricewaterhouseCoopers) – สำหรับการตรวจสอบครั้งแรกในปี 2019 เพื่อยืนยันนโยบายความเป็นส่วนตัวและเทคโนโลยี TrustedServer ของ ExpressVPN
- Cure53 – เพื่อตรวจสอบส่วนขยายเบราว์เซอร์, โปรโตคอล Lightway และเทคโนโลยี TrustedServer เพื่อหาข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยใด ๆ
- KPMG – เพื่อทดสอบนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานของ ExpressVPN และการปรับปรุง TrustedServer
- ioXt Alliance – ยืนยันและรับรองแอป Android ของ ExpressVPN
- F-secure – ตรวจสอบแอป Windows ของ ExpressVPN เพื่อหาช่องโหว่
จริง ๆ แล้ว ExpressVPN ผ่านการทดสอบจากบริษัทอิสระ 12 แห่งแค่เพียงในปี 2012 เท่านั้น การตรวจสอบนี้รวมถึงนโยบายด้านความเป็นส่วนตัว, เทคโนโลยี TrustedServer, เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน Keys, เราเตอร์ Aircove, โปรโตคอล Lightway และอื่น ๆ อีกมากมาย เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ExpressVPN ไม่มีอะไรต้องปิดบังและให้ความสำคัญกับความโปร่งใส เมื่อเทียบกับ VPN อื่น ๆ มากมายที่เลือกเส้นทางที่ไม่ชัดเจน
มีการเผยแพร่การทดสอบเหล่านี้ส่วนใหญ่อย่างเต็มรูปแบบทางออนไลน์ ExpressVPN ยังเปิดส่วนขยายเบราว์เซอร์เพื่อให้ผู้คนสามารถตรวจสอบรหัสโค้ดด้วยตัวเองอีกด้วย
ตำแหน่งของเซิฟเวอร์
เป็นมิตรต่อผู้ใช้
- 10 / 10การติดตั้งและการตั้งค่าที่ง่ายดายในแอปเฉพาะ (ใช้เวลาน้อยกว่า 2 นาที!)
VPN พรีเมียมไม่มากนักที่เสนอแอปเฉพาะสำหรับประเภทอุปกรณ์ต่าง ๆ มากกว่า 4 หรือ 5 อุปกรณ์ แต่ถึงอย่างนั้น ExpressVPN ก็มีแอปเฉพาะสำหรับ Windows, Android, Mac, iOS, Linux, Amazon Fire TV (ทุกเวอร์ชัน), Amazon Fire Stick (รุ่นที่ 2 ขึ้นไป), Android TV, Nvidia Shield และเราเตอร์
ใช้เวลาในการติดตั้งแอปเหล่านี้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ซึ่งทำให้ ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณเป็นผู้เริ่มต้นหรือมือใหม่สำหรับ VPN ไม่มีการตั้งค่าด้วยตัวเองที่ซับซ้อนและนี่คือภาพรวมฉบับย่อที่จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงกระบวนการดังกล่าว
วิธีการติดตั้ง ExpressVPN:
- ดาวน์โหลด ExpressVPN หากคุณใช้ PC ให้ไปยังเว็บไซต์ ExpressVPN หากคุณใช้มือถือ ให้ไปยังร้านค้าแอปที่เกี่ยวข้องและดาวน์โหลดแอปจากที่นั่น
- เปิดไฟล์ที่ดาวน์โหลด เมื่อหน้าต่างป๊อปอัพปรากฏ ให้คลิก ‘ใช่’ เพื่อติดตั้งแอป เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว! หากเป็นบนมือถือ ง่าย ๆ เพียงติดตั้ง ExpressVPN และก็เปิดใช้งานได้เลย
- ลงชื่อเข้าใช้และเชื่อมต่อ! อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ของแอปพลิเคชันทำให้การเลือกเซิร์ฟเวอร์และเชื่อมต่อไม่ใช่เรื่องยาก
ฟีเจอร์นั้นจะแตกต่างกันออกไปตามแอปเฉพาะของ ExpressVPN แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีฟีเจอร์หลักอย่าง Split Tunneling และ OpenVPN บน iOS ตารางด้านล่างนี้จะสรุปความแตกต่างระหว่างแอปเวอร์ชันต่าง ๆ
Windows | Mac | iOS | Android | Linux | เราเตอร์ | ||
Lightway UDP | ได้รับการปรับปรุงเพื่อความเร็ว ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔***** |
Lightway TCP | ช้ากว่า UDP แต่เชื่อมต่อได้ดีกว่าในบางเครือข่าย | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔***** |
OpenVPN UDP | เสนอความเร็วและความปลอดภัยที่ดี แต่ไม่สามารถใช้งานได้ในทุกเครือข่าย | ✔ | ✔ | ✘ | ✔ | ✔ | ✔ |
OpenVPN TCP | ช้ากว่า OpenVPN UDP แต่ใช้งานได้ดีกว่าในบางเครือข่าย | ✔ | ✔ | ✘ | ✔ | ✔ | ✔ |
IKEv2 | รวดเร็ว แต่ไม่สามารถใช้งานได้ในทุกเครือข่าย | ✘* | ✔ | ✔ | ✘ | ✘ | ✔***** |
Split Tunnelling | อนุญาตให้คุณใช้ได้การเชื่อมต่อ VPN ได้กับแอปที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น | ✔ | ✔** | ✘ | ✔ | ✘ | ✔**** |
Threat Manager | ปิดกั้นการติดตามและเว็บไซต์อันตรายบนรายการที่ไม่อนุญาตของ ExpressVPN | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✘ |
Kill Switch | ตัดการเชื่อมต่อจากอินเทอร์เน็ตของคุณโดยอัตโนมัติหากการเชื่อมต่อ VPN ของคุณเกิดหลุด | ✔ | ✔ | ✔*** | ✔*** | ✔ | ✔ |
Keys | เครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ ExpressVPN | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✘ |
*ExpressVPN เวอร์ชัน 12 สำหรับ Windows ลบการรองรับ IKEv2 และ L2TP/IPSec ออกไป
**Split Tunneling ไม่พร้อมใช้งานสำหรับ ExpressVPN สำหรับ Mac ที่ใช้ macOS 11 (Big Sur) และใหม่กว่า
***”Network Lock” ที่เป็น Kill Switch ของ ExpressVPN จะใช้ชื่อ “การป้องกันเครือข่าย” บน Android และ iOS
****บนเราเตอร์ Split Tunneling จะใช้ชื่อว่า “กลุ่มอุปกรณ์” ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้เฉพาะบนอุปกรณ์ที่รองรับเท่านั้น ไม่ใช่ผ่านการกำหนดค่าด้วยตนเอง
*****มีการรองรับ Lightway และ IKEv2 เฉพาะบนเราเตอร์ VPN ที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น การตั้งค่าด้วยตนเองรองรับเฉพาะ OpenVPN เท่านั้น
แอปเฉพาะสำหรับ Windows, Mac, iOS และ Android – ใช้งานง่าย
ผมใช้ ExpressVPN มาหลายปีและผมต้องบอกเลยว่า – แอปเหล่านี้เป็นหนึ่งในแอปที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ Windows, Mac, iOS และ Android การออกแบบสะอาดตาและเรียบง่ายด้วยเลย์เอาท์ที่ใช้งานง่าย อินเทอร์เฟซแอปนั้นมีหน้าตาคล้ายกันในระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ซึ่งทำให้การสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์อย่างรวดเร็วระหว่างวันเป็นเรื่องง่าย แถมคุณยังสามารถดาวน์โหลดแอปเฉพาะ ExpressVPN ในภาษาต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงภาษาไทยได้อีกด้วย
มีปุ่ม “เปิด/ปิด” ขนาดใหญ่ที่พยายามจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดที่มีให้บริการในคลิกเดียว คุณยังสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์จากรายการเซิร์ฟเวอร์หรือพิมพ์ตำแหน่งที่ต้องการและเลือกเซิร์ฟเวอร์เองก็ได้ บน Windows และ Mac คุณจะได้รับตัวเลือกในการเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่อง – ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมพบว่าสะดวกมากตอนที่ผมลืมเชื่อมต่อ!
เช่นเดียวกันกับแอปสำหรับเดสก์ท็อป แอปสำหรับ Android และ iOS ก็ใช้งานง่ายเหมือนกัน ผมยังสามารถเพิ่มทางลัดไปยังแอปที่ผมชอบ 5 แอป (อย่าง Netflix, Spotify และ Chrome) ซึ่งทำให้การท่องเว็บอย่างปลอดภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
น่าเสียดายที่บน iOS คุณสามารถใช้ได้เพียง Lightway UDP, Lightway TCP และ IKEv2 (ไม่รองรับ OpenVPN) และไม่มีฟีเจอร์ Split Tunneling ด้วย – แต่นอกจากนั้นแล้ว ทั้งแอปสำหรับ iOS และ Android ก็มีฟังก์ชันการทำงานที่เหมือนกันกับแอปสำหรับเดสก์ท็อปทั้งหมด
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีเฉพาะ Android เท่านั้นคือ Protection Summary เครื่องมือนี้มอบข้อมูลเชิงลึกส่วนบุคคลแก่คุณ เช่น จำนวนวันและเปอร์เซ็นต์เวลาที่คุณเชื่อมต่อกับ ExpressVPN แม้ว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะไม่ได้สนใจในฟีเจอร์นี้ แต่ฟีเจอร์นี้อาจมอบความมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยทางดิจิทัลแก่คุณที่ได้ทราบว่าคุณได้รับการป้องกันอย่างต่อเนื่องมานานแค่ไหนแล้ว
สิ่งหนึ่งที่แอปสำหรับ iOS มี แต่ไม่มีให้บริการบน Android คือการตั้งค่า Reinstall VPN Configuration นี่หมายความว่าคุณสามารถรีเซตการตั้งค่าได้ง่าย ๆ หากคุณมีปัญหาโดยที่ไม่ต้องยกเลิกการติดตั้งและติดตั้งแอปใหม่ทั้งหมด (ซึ่งนั่นคือสิ่งที่คุณต้องทำบน Android)
ส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox – รีโมทอันทรงพลังสำหรับแอปหลัก
ExpressVPN เสนอส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับเบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox แอดออนเบราว์เซอร์คือส่วนขยายของแอป ExpressVPN ดังนั้นตัวแอปเพียงอย่างเดียวที่จะทำงานในพื้นหลัง เพื่อรับส่วนขยายเบราว์เซอร์ คุณจะต้องติดตั้งแอป ExpressVPN สำหรับ:
- Mac (เวอร์ชัน 7.1 หรือใหม่กว่า)
- Windows (เวอร์ชัน 6.9 หรือใหม่กว่า)
- Linux (เวอร์ชัน 2.0 หรือใหม่กว่า)
เหตุผลหลักที่ผมชอบส่วนขยายเบราว์เซอร์คือความสะดวกสบาย – ผมสามารถสลับระหว่างเซิร์ฟเวอร์ในเบราว์เซอร์ของผมได้โดยตรงภายในไม่กี่คลิก นี่คือหน้าตาของส่วนขยายดังกล่าวใน Chrome และ Firefox:
แม้ว่าส่วนขย้ายอาจดูเหมือนรีโมทคอนโทรลสำหรับแอปหลัก แต่จริง ๆ แล้วมันเพิ่มฟีเจอร์ที่น่าสนใจสองสามอย่างเข้ามา ฟีเจอร์เหล่านี้นั้นรวมถึง:
- การปลอมแปลงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ HTML5 – วิธีการขั้นสูงในการเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นตามภูมิศาสตร์
- HTTPS ทุกที่ – เปลี่ยนเส้นทางของคุณไปยังเว็บไซต์เวอร์ชันเข้ารหัสที่ปลอดภัยกว่าทุกเมื่อที่ทำได้
- ปิดกั้น WebRTC – ปิดบังหมายเลข IP ของคุณจากการรั่วไหล WebRTC เพื่อป้องกันเว็บไซต์จากการติดตามตำแหน่งและ IP ที่แท้จริงของคุณ
MediaStreamer สำหรับ PS4, Xbox และสมาร์ททีวี – ความปลอดภัยที่จำกัด
MediaStreamer ให้คุณเปลี่ยนตำแหน่งเสมือนจริงบนสมาร์ททีวีและเกมคอนโซลของคุณ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่ง – เช่น หากคุณต้องการดู Netflix ของสหรัฐอเมริกาจากสหราชอาณาจักรบน PS5 หรือ Xbox Series X คุณก็สามารถฟีเจอร์นี้กับ Apple TVs, Samsung Smart TVs, LG Smart TVs, Nintendo Switches, เครื่อง Xboxes และ PlayStation ที่เก่ากว่าและอื่น ๆ อีกมากมายได้
โดยพื้นฐานแล้ว มีหลายความคิดเห็นที่ชอบและไม่ชอบ MediaStreamer แต่โดยส่วนตัวแล้วผมชอบที่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้บน PS4 เพื่อเข้าถึงบริการสตรีมมิ่ง แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ได้เข้ารหัสการรับส่งข้อมูลของคุณ ดังนั้นมันจึงไม่ได้ทำหน้าที่ในฐานะ VPN ได้อย่างเต็มรูปแบบและยังต้องมีการตั้งค่าด้วยตัวเองด้วย อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้มอบโซลูชันในกรณีที่ไม่มีเลย โดยทำให้มันมีค่าสำหรับผมและคนอื่น ๆ อีกมากมาย
แอปเฉพาะสำหรับเราเตอร์ – เหมาะสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไม่จำกัด
สิทธิประโยชน์ที่ดีเป็นอย่างยิ่งคือ ExpressVPN เป็นหนึ่งใน VPN พรีเมียมที่มีแอปเฉพาะสำหรับเราเตอร์ คุณสามารถเชื่อมต่อกับทุกอุปกรณ์ในครัวเรือนของคุณกับ ExpressVPN ได้เมื่อคุณติดตั้งแอปลงบนเราเตอร์ของคุณ (แม้แต่อุปกรณ์ที่ไม่รองรับ VPN เช่น สมาร์ททีวีและเกมคอนโซล) สิ่งนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบที่แข่งขันได้มากในหมู่คู่แข่งพรีเมียม
ที่ดีไปกว่านั้น เราเตอร์ได้รับการพิจารณาว่าเป็น 1 การเชื่อมต่ออุปกรณ์เท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเชื่อมต่ออุปกรณ์กี่อุปกรณ์กับเราเตอร์ดังกล่าว คุณก็ยังมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ว่างอีกหลายอุปกรณ์
เราเตอร์บางรุ่นที่คุณสามารถดาวน์โหลดแอป ExpressVPN ได้นั้นรวมถึง:
- Asus – RT-AC56(U/R/S), RT-AC68U และ RT-AC87U
- Linksys – EA6200, WRT1200AC, WRT1900AC(S) และ WRT3200ACM
- Netgear – R6300v2, R6700v3, Nighthawk R7000 และ Nighthawk R7000P
คุณยังสามารถตั้งค่าและติดตั้ง ExpressVPN ด้วยตัวเองได้หากคุณมีเราเตอร์ที่ต่างออกไป (แม้ว่าจะไม่มีการรองรับเราเตอร์ทุกรุ่นก็ตาม) สามารถตั้งค่าเราเตอร์ Asus, Linksys และ Netgear ส่วนใหญ่ผ่านเบราว์เซอร์ของคุณ ตลอดจนเราเตอร์ D-Link, Xiaomi, TP-Link และ Tomato ได้ด้วยตัวเอง – แต่คุณจะถูกจำกัดให้เปลี่ยนหมายเลข IP ด้วยการตั้งค่าด้วยตัวเอง
แอปเฉพาะสำหรับเราเตอร์มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์มากกว่าแค่ความง่ายในการใช้งาน ผมพบว่าการสลับระหว่างเซิร์ฟเวอร์บนแอปนั้นง่ายขึ้นและผมยังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่าง Network Lock ที่เป็น Kill Switch และ Split Tunneling ได้อีกด้วย จริง ๆ แล้ว ผมยังมีสิทธิ์ในการควบคุม Split Tunneling ในขณะที่ผมสามารถควบคุมว่าอุปกรณ์ใดในครัวเรือนของผมที่เชื่อมต่อกับ VPN บ้างได้
Aircove – เราเตอร์ที่ได้รับการป้องกันเพื่อรับประกันการป้องกันทั้งครอบครัว
Aircove เป็นโซลูชันของ ExpressVPN สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั่วทั้งครัวเรือนหรือธุรกิจของคุณ มันคือเราเตอร์เฉพาะที่มาพร้อมกับการติดตั้งการป้องกันชั้นนำของ ExpressVPN เอาไว้ล่วงหน้า หลังจากที่ติดตั้งแล้ว การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั้งหมดของคุณจะได้รับการป้องกันและเข้ารหัส ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอปหรือวุ่นวายกับการโหลดซอฟต์แวร์บนเราเตอร์ที่อาจไม่สามารถเข้ากันได้
สมาชิกในครัวเรือนและแขกจะได้รับการป้องกันง่าย ๆ โดยการเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่บ้านของคุณและการติดตั้งง่าย ๆ ก็สามารถดำเนินการให้เสร็จได้ภายในไม่กี่นาที นอกจากจะเป็นโซลูชันความปลอดภัยสำหรับทั้งครอบครัวแล้ว Aircove ยังเป็นเราเตอร์อันทรงพลังในตัวมันเองด้วย เราเตอร์รองรับ WiFi 6 แบบดูอัลแบนด์ ความเร็วสูงสุด 1,200Mbps และครอบคลุมพื้นที่สูงสุด 1,600 ตารางฟุต.
การเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน – การครอบคลุมมากมายสำหรับทุกอุปกรณ์ของคุณ
ด้วยการสมัครสมาชิกเดียว 6 หรือ 12 เดือน คุณจะสามารถเชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 8 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน ด้วยแผนสมาชิกรายเดือน ขีดจำกัดการเชื่อมต่อคือ 5 การเชื่อมต่อ ตามที่ระบุไว้ข้างต้น คุณสามารถรับการเชื่อมต่อแบบไม่จำกัดได้หากคุณติดตั้งแอป ExpressVPN บนเราเตอร์ของคุณหรือใช้ Aircove สิ่งนี้ช่วยให้อุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์สามารถใช้ ExpressVPN ได้
จำนวนดังกล่าวอาจไม่มากนักในการแข่งขันที่ที่การเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไม่จำกัดกลายเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ 8 อุปกรณ์ก็น่าจะเพียงพอสำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว
ในระหว่างการทดสอบของผม ผมไม่พบปัญหาในการสลับระหว่าง Macbook, iPhone, iPad, Windows PC และ Samsung S22 ของผมเลย ทุกการใช้งานตั้งแต่การสตรีมมิ่งไปจนถึงกการท่องเว็บเป็นไปอย่างราบรื่นในทุกแพลตฟอร์ม แม้จะมีการใช้การเชื่อมต่อในเวลาเดียวกันสูงสุดเลยก็ตาม
บริการลูกค้า
- 10 / 10เมื่อใดก็ตามที่ผมจ่ายเงินสำหรับบริการ ผมก็คาดหวังจะได้พบกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าคุณภาพ – และ ExpressVPN ก็ทำมันได้
คุณสามารถมองหาความช่วยเหลือได้ 3 ช่องทาง:
- เยี่ยมชมเว็บไซต์ – ซึ่งมีคำแนะนำในการแก้ไขปัญหา คู่มือฉบับเขียนและวิดีโอและคำแนะนำในการติดตั้งใน 16 ภาษา
- อีเมล – ตัวเลือกที่มีประโยชน์สำหรับปัญหาไม่เร่งด่วนหรือหากคุณอยู่ในประเทศที่เว็บไซต์ถูกปิดกั้น
- แชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง – เพื่อคำตอบที่รวดเร็วและมีประโยชน์จากตัวแทนฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
ไม่มีตัวเลือกในการโทรติดต่อ แต่นี่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเพราะผมได้รับความช่วยเหลือทั้งหมดที่ผมต้องการจากตัวเลือกที่มีให้บริการ
แชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง – วิธีในการติดต่อ ExpressVPN ที่ดีที่สุดเพื่อขอความช่วยเหลือที่รวดเร็วและเป็นมิตร
ผมทดสอบตัวเลือกแชทออนไลน์บนเว็บไซต์ ExpressVPN ตอนที่ผมประสบกับปัญหาการเชื่อมต่อแล็ปท็อปของผมกับ Chromecast
แชทออนไลน์คือช่องทางที่ผมเลือกตอนติดต่อกับ ExpressVPN เนื่องจากเป็นช่องทางที่รวดเร็วและง่ายดาย ตอนที่ผมทดสอบแชทออนไลน์ต่ออีกสองสามครั้ง ผมก็ไม่เคยต้องรอนานเกิน 3 นาทีเลย
ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการเชื่อมต่อกับตัวแทนฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่มอบคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและทำไมมันถึงเกิดขึ้ยน ผมได้รับโซลูชัน (เพื่อติดตั้งแอป ExpressVPN บนเราเตอร์ของผมเพื่อที่อุปกรณ์ทั้งหมด ซึ่งรวมถึง Chromecast จะได้เชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ) – ซึ่งแก้ไขปัญหาได้จริง
ฝ่ายสนับสนุนทางอีเมล – ใช้เวลาในการตอบกลับเพียง 30 นาทีเท่านั้น
ผมส่งอีเมลไปหาฝ่ายสนับสนุนลูกค้าหลายฉบับเลยในช่วง 24 ชั่วโมง ผมสอบถามเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสำหรับ Netflix มากที่สุดและพวกเขามีตัวปิดกั้นโฆษณาที่ใช้งานได้หรือไม่ (น่าเสียดายที่ไม่มี) และวิธีใช้โปรโตคอล Lightway ผมยังส่งอีเมลจากที่อยู่อีเมลที่ไม่ได้ลงทะเบียนด้วย เพราะผมอยากดูว่า ExpressVPN จะยังช่วยผมไหมถ้าผมไม่ใช่ลูกค้าปัจจุบัน
ผมประทับใจเป็นอย่างยิ่งกับระยะเวลาการตอบกลับที่รวดเร็ว ผมได้รับการตอบกลับอีเมลของผมภายใน 30 นาทีทุกครั้งและการตอบกลับทั้งหมดก็เป็นมิตรและมีประโยชน์ ไม่มีความแตกต่างอะไรสำหรับระดับบริการที่ผมได้รับ ไม่ว่าผมจะเป็นลูกค้าเดิมหรือแค่สอบถามเกี่ยวกับ VPN ก็ตาม
ทดสอบแล้ว: คำแนะนำการแก้ไขบนเว็บไซต์และหน้าคำถามที่พบบ่อย
ผมพบว่าศูนย์ช่วยเหลือของ ExpressVPN ได้รับการจัดระเบียบเป็นอย่างดีด้วยคำแนะนำเชิงลึกมากมายเกี่ยวกับฟีเจอร์ ปัญหาทางเทคนิคที่พบบ่อยทั่วไปและคำแนะนำในการติดตั้งอุปกรณ์ ผมชอบคู่มือวิดีโอสำหรับหัวข้อทางเทคนิคเพิ่มเติมที่มีประโยชน์เป็นพิเศษ! แม้ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ คุณก็สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของ ExpressVPN เพื่อตั้งค่าที่ซับซ้อนได้ไม่ยาก
เนื่องจาก VPN ชั้นนำมากมาย เช่น IPVanish มีเพียงคุ่มือข้อความและรูปภาพเท่านั้น ผมจึงประทับใจเป็นอย่างยิ่งที่ ExpressVPN มีคู่มือวิดีที่อธิบายโดยละเอียด ซึ่งนอกเหนือไปจากคู่มือและคำตอบคำถามที่พบบ่อยมาตรฐาน วิดีโอเหล่านี้ครอบคลุมปัญหาที่พบบ่อยที่สุดและปฏิบัติตามได้ง่ายไม่ว่าคุณจะมีความรู้ทางด้านเทคนิคหรือไม่ก็ตาม
ทำไมฉันถึงต้องดูที่การช่วยเหลือ ในเมื่อฉันสามารถทำได้เอง?
ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการช่วยเหลือที่ดีมีความจำเป็นเฉพาะในช่วงการติดตั้ง VPN แต่จริง ๆ แล้วก็อาจมีอย่างอื่นที่ท่านอาจต้องการความช่วยเหลือนี้ได้เช่นกัน เช่น การเชื่อมต่อไปยังเซิฟเวอร์บางแห่ง การเปลี่ยนโปรโตคอล และการปรับค่า VPN บนเราท์เตอร์ เป็นต้น เราได้ตรวจสอบ VPN แต่ละตัวเพื่อดูว่ามีการช่วยเหลือเวลาใดบ้าง (ถึงแม้ในช่วงกลางดึก), ระยะเวลาที่พวกเขาตอบสนอง และพวกเขาได้ตอบคำถามเราหรือไม่
ราคา
- 9.0 / 10แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ให้บริการที่มีราคาแพงที่สุด แต่ ExpressVPN ก็มีราคาค่อนข้างแพงกว่าคู่แข่ง แผนสมาชิกระยะเวลา 1 เดือนมีราคาแพงที่สุด ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้เลือกแผนสมาชิกระยะยาว (แผนสมัครสมาชิก: 15 เดือน) เพราะแผนสมาชิกดังกล่าวเสนอความคุ้มค่าให้มากที่สุด แถมคุณยังได้รับส่วนลด 49 % และสามารถรับเพิ่มฟรีได้อีกหลายเดือนด้วย
ตัวเลือกการชำระเงินมากมายพร้อมให้บริการ
คุณสามารถลงทะเบียนสมัครสมาชิกด้วยช่องทางการชำระเงินมากมายได้ จริง ๆ แล้ว ExpressVPN เสนอตัวเลือกการชำระเงินมากกว่าคู่แข่ง คุณสามารถเลือกได้ระหว่าง:
- บัตรเครดิต: Visa, Mastercard, American Express, Discover, JCB, Visa Electron และ Diners Club International
- PayPal
- BitPay (Bitcoin)
- ช่องทางการชำระเงินอื่น ๆ: Alipay, UnionPay, iDEAL, Klarna, WebMoney, Giropay, Yandex Money, Interac Online, Mint, OneCard, Carte Bleue, Maestro, FanaPay และอื่น ๆ อีกมากมาย
แม้ว่าบริการดังกล่าวจะไม่มี QIWI เป็นช่องทางการชำระเงินจากรัสเซียอีกต่อไป แต่ก็ยังมีตัวเลือกการชำระเงินที่ไม่เปิดเผยตัวตนผ่านสกุลเงินดิจิทัล คุณสามารถลงทะเบียนใช้งาน ExpressVPN โดยใช้หนึ่งในช่องทางการชำระเงินเหล่านี้ได้และใช้ที่อยู่อีเมลแบบ “ใช้แล้วทิ้ง” สิ่งนี้ช่วยให้คุณใช้งาน ExpressVPN ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องเปิดเผยชื่อและข้อมูลการเรียกเก็บเงินของคุณ
การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันให้คุณทดลองใช้ ExpressVPN ได้โดยไม่มีความเสี่ยง
ทุกแผนสมาชิกมาพร้อมการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้ ExpressVPN เป็นระยะเวลาสองสามสัปดาห์ได้โดยไม่มีความเสี่ยง หากคุณเกิดเปลี่ยนใจ คุณก็สามารถขอเงินคืนได้จากตัวแทนแชทออนไลน์ ส่วนที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการรับประกันยินดีคืนเงินคือ “ไม่ต้องตอบคำถาม” – ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องบอกเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องการยกเลิก
ผมทดสอบการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันด้วยตัวเอง ผมลงทะเบียนแผนสมาชิก ใช้บริการดังกล่าวเป็นระยะเวลาสองสามสัปดาห์และจากนั้นก็ขอเงินคืนผ่านทางแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง นโยบายการคืนเงินเป็นแบบไม่ต้องตอบคำถามอะไรและคำขอของผมก็ได้รับการอนุมัติภายใน 5 นาที ผมได้รับเงินคืนเข้าบัญชีหลังจากนั้น 5 วัน
ExpressVPN มีแพลนดังต่อไปนี้
บทสรุป
จากการทดสอบของผม ผมยกให้ ExpressVPN เป็นที่หนึ่งในปี 2024 เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วและไว้วางใจได้ ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและฟีเจอร์มากมาย จุดที่ทำให้ผมประทับใจคือการปลดล็อกบริการสตรีมมิ่งยอดนิยมทั้งหมด, การรองรับแอปเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย, P2P ในทุกเซิร์ฟเวอร์และบริการ MediaStreamer ที่มีประโยชน์สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่มีแอปรองรับ
แต่ถึงอย่างนั้นวิธีเดียวที่จะรู้ได้ว่าบริการนี้เป็น VPN ที่ใช่สำหรับคุณหรือไม่คือการทดลองใช้ ExpressVPN ด้วยตัวคุณเอง ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจสมัครสมาชิกระยะยาว ผมขอแนะนำให้คุณทดสอบบริการดังกล่าวด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินดูก่อน วิธีนี้เป็นวิธีที่ให้คุณสามารถดูได้ว่าฟีเจอร์ของ VPN ทำงานได้เป็นอย่างไรบ้างโดยไม่ต้องเสี่ยง หากคุณไม่ประทับใจ การขอคืนเงินจากทีมบริการลูกค้าผ่านแชทออนไลน์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก – เพราะคุณไม่ต้องตอบคำถามอะไร
ลองใช้ ExpressVPN แบบไม่เสี่ยง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ExpressVPN
ฉันจะใช้ ExpressVPN ฟรีได้ยังไง?
แม้ว่าจะไม่มีแผนสมาชิกฟรี แต่คุณสามารถลองใช้ ExpressVPN แบบไม่มีความเสี่ยงได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน หากคุณไม่พึงพอใจในบริการดังกล่าว คุณก็สามารถขอรับเงินคืนได้โดยไม่ต้องตอบคำถามอะไร ตอนที่ผมทดสอบกระบวนการนี้ด้วยตัวเอง ผมก็ขอรับเงินคืนได้ง่าย ๆ ภายในไม่กี่นาทีและผมก็ได้รับเงินคืนเข้าบัญชีภายในเวลาน้อยกว่า 1 สัปดาห์!
มีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันสำหรับ Android และ iOS แต่คุณจะต้องใช้ Apple App Store อย่างระมัดระวัง ExpressVPN ไม่เสนอการคืนเงินให้สำหรับแผนสมาชิกที่สั่งซื้อผ่าน Apple App Store เพื่อการยกเลิกและขอเงินคืน คุณจะต้องติดต่อ Apple เองโดยตรง
จากประสบการณ์ของผม เวอร์ชันทดลองไม่คุ้มกับความยุ่งยากและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ผมพบว่าการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันเป็นวิธีในการทดลองใช้ ExpressVPN และดูว่าคุณชอบบริการดังกล่าวหรือไม่ที่ดีกว่ามาก
ExpressVPN ปลอดภัยสำหรับ Netflix ไหม?
ใช่ ExpressVPN ปลอดภัยสำหรับ Netflix บริการดังกล่าวขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดตามภูมิศาสตร์ของ Netflix ได้อย่างน่าเชื่อถือและเสนอความเร็วในการสตรีมมิ่งที่รวดเร็ว โดยทำให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่น นอกจากนี้ ExpressVPN ยังใช้มาตรฐานการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งเพื่อดูแลให้กิจกรรมออนไลน์ของคุณเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ดังนั้นคุณจึงสามารถสตรีมได้ด้วยความมั่นใจในความปลอดภัยทางดิจิทัลของคุณ
ExpressVPN ดีกว่า NordVPN หรือเปล่า?
อาจจะ – มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณกำลังมองหาจาก VPN VPN ทั้งสองบริการต่างก็มีความเร็วและฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม แต่หากคุณต้องการ VPN ที่ใช้งานได้ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์เข้มงวด ExpressVPN คือตัวเลือกที่ไว้วางใจได้มากที่สุดในตลาด แถมกระบวนการขอเงินคืนของ ExpressVPN ก็ง่ายกว่าของ NordVPN ด้วยนโยบาย “ไม่ต้องตอบคำถาม”
อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่คุณอาจพบว่า NordVPN ตอบโจทย์คุณได้มากกว่า ตัวอย่างเช่น NordVPN มีตัวปิดกั้นโฆษณาภายในตัวและฟีเจอร์ MeshNet อันโดดเด่นที่ให้คุณสร้างเครือข่ายส่วนบุคคลของอุปกรณ์ของคุณสูงสุดถึง 50 อุปกรณ์เพื่อแชร์ไฟล์ เข้าถึงจากระยะไกลหรือปาร์ตี้ LAN
สามารถใช้งาน ExpressVPN ได้อย่างปลอดภัยหรือเปล่า?
ใช่! ExpressVPN เข้ารหัสการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของคุณด้วยมาตรฐาน AES-256-บิต ซึ่งบุคคลที่สามแทบจะเจาะผ่านมันไปไม่ได้เลย ไม่แม้แต่ ExpressVPN ก็ไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรทางออนไลน์ – บริการดังกล่าวใช้นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน (และได้รับการตรวจสอบจากบริษัทอิสระแล้ว) ดังนั้นจึงไม่สามารถติดตามย้อนรอยกลับไปหาผู้ใช้รายบุคคลได้
ExpressVPN ถูกกฎหมายไหม?
ใช่ ExpressVPN เป็นบริการที่ถูกกฎหมาย การใช้ ExpressVPN เพื่อท่องอินเทอร์เน็ตโดยอิสระนั้นถูกกฎหมายโดยขึ้นอยู่กับประเทศของคุณ แต่ถึงอย่างนั้นรัฐบาลที่กดขี่บางแห่งก็มีการเซ็นเซอร์ทางออนไลน์ที่เข้มงวดและแม้กระทั่งแบนหรือไม่สนับสนุนการใช้ VPN ประเทศเหล่านี้รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงรัสเซีย จีน อิหร่าน ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดีอาระเบีย
หากคุณกำลังเดินทางไปและต้องการใช้ ExpressVPN ผมขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ลองตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับของประเทศดังกล่าวก่อนล่วงหน้า
ExpressVPN ทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตของฉันช้าลงไหม?
เล็กน้อยเท่านั้น – แม้ว่าจริง ๆ แล้ว VPN ทั้งหมดจะทำให้ความเร็วของคุณช้าลงเล็กน้อยเนื่องจากการรับส่งข้อมูลไปกลับ แต่ ExpressVPN แทบจะไม่ทำให้ความเร็วของผมช้าลงเลย
ไม่ว่าจะสตรีมมิ่ง ดาวน์โหลดหรือเล่นเกม ExpressVPN ก็รักษาความเร็วที่รวดเร็วดังกล่าวเอาไว้ได้จนบ่อยครั้งเลยที่ผมลืมไปว่าผมเชื่อมต่อกับ VPN อยู่ ด้วยเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่น ผมยังได้รับการเชื่อมต่อที่มีเวลาแฝงต่ำที่ช่วยให้ผมสามารถเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักกับ VPN ส่วนใหญ่
ฉันจะทำอย่างไรหากเซิร์ฟเวอร์ ExpressVPN เกิดล่ม?
หากคุณเกิดเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานไม่ได้ ผมขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ แค่คลิกเพียง 2 ครั้งเพื่อเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ใหม่ แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องนี้ก็เป็นสถานการณ์ที่หาได้ยากมาก ๆ เพราะ ExpressVPN มีอัปไทม์ 99.9% และมีการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์อยู่เป็นประจำ ผมใช้ ExpressVPN มานานหลายปีและแทบไม่เคยเจอข้อผิดพลาดเลย
ExpressVPN ไว้วางใจได้ไหม?
ใช่ จริง ๆ แล้ว ผมพบว่าบริการนี้เป็นบริการที่ไว้วางใจได้มากที่สุดในหมู่ VPN มากมายที่ผมเคยทดสอบ บริการนี้มีอัปไทม์ 99.9%, ความเร็วสูงและความสามารถในการปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่งหลักอย่างต่อเนื่อง นี่หมายความว่าคุณจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียการเชื่อมต่อของคุณในขณะที่นั่งดูรายการบน Netflix, โหลดบิทหรือแม้กระทั่งเล่นเกมออนไลน์สุดโปรดของคุณ
พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและข้อตกลงเชิงพาณิชย์ของเรากับผู้ให้บริการด้วย หน้านี้มีลิงก์ affiliate