Surfshark
9.4
สุดยอด
เยี่ยมชม Surfshark เว็บไซต์

Surfshark รีวิว 2024 - ราคาถูก แต่มันมีอะไรดีบ้างหรือเปล่า?

ภาพรวม Surfshark 2024

เนื่องจากคุณสามารถสมัครสมาชิก Surfshark ได้ในราคาแสนถูก เราจึงสงสัยเกี่ยวกับคุณภาพของบริการดังกล่าวและตัดสินใจที่จะลองทดสอบมันดู เราประเมิน Surfshark ในเรื่องที่สำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงความเร็ว ขนาดของเครือข่าย ฟีเจอร์ความปลอดภัย ความเข้ากันได้และอื่น ๆ อีกมากมาย เรายังทดสอบบริการดังกล่าวแม้แต่ในประเทศจีนและทดสอบกับบริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ มากมาย

Surfshark เป็น VPN ที่ยอดเยี่ยมที่เสนอการตั้งค่าความปลอดภัยขั้นสูงในแบบที่บริการอื่น ๆ ไม่มี ฟีเจอร์อย่าง IP Rotation, การเชื่อมต่อ Dynamic MultiHop ไม่เพียงแต่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังทำให้ใช้งานได้ง่ายด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบางครั้งที่เราพบปัญหาในการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งทันที แถมบริการนี้ยังใช้งานไม่ได้ในประเทศจีนด้วย

อย่างไรก็ตาม เราก็ขอแนะนำให้ใช้แผนสมาชิกระยะยาวของ Surfshark เป็นอย่างยิ่ง (การสมัครสมาชิกแบบ 2 ปี + ฟรี 2 เดือน) เพราะมันเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดที่เราเคยทดสอบมา ซึ่งมีราคาเพียง $2.29 ต่อเดือน Surfshark ยังมีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันบนอุปกรณ์ Android, macOS และ iOS และการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันหากคุณต้องการเวลาเพิ่ม คุณสามารถลองใช้ Surfshark ได้โดยไม่มีความเสี่ยงเนื่องจากการขอเงินคืนนั้นง่ายมากหากคุณไม่พึงพอใจกับบริการดังกล่าว

ลองใช้ Surfshark โดยไม่มีความเสี่ยง

ไม่มีเวลาอ่านใช่ไหม? นี่คือบทสรุปฉบับ 1 นาที

ลองใช้ Surfshark เลยวันนี้!

Surfshark ปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้มากกว่า 28 แพลตฟอร์ม

Surfshark ทำงานร่วมกันกับบริการสตรีมมิ่งหลัก ๆ ได้ นอกจากจะเข้าถึง Netflix, Amazon Prime Video และ Hulu ได้แล้ว Surfshark ยังปลดบล็อกแพลตฟอร์มอื่น ๆ อีก 25 แพลตฟอร์มได้ในระหว่างการทดสอบ ซึ่งรวมถึง:

Disney+ Max NBC Sports Yle Abema TV
BBC iPlayer ITVx All 4 Sky Go UKTV
Apple TV ESPN+ Paramount+ Peacock TV Kodi
Youtube TV fuboTV Crunchyroll Vudu Discovery+
France TV DAZN Sling TV RTÉ Player Rai Play

น่าเสียดายที่ไม่ใช่ทุกเซิร์ฟเวอร์จะสามารถเชื่อมต่อได้สำเร็จในครั้งแรก บ่อยครั้งที่ต้องลองเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ อย่างน้อย 2 ครั้งก่อนที่จะเจอการเชื่อมต่อที่ใช้งานได้ หากคุณไม่อยากเจอเรื่องวุ่นวายแบบนี้ CyberGhost มีเครือข่ายที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อการสตรีมมิ่งสำหรับบริการหลัก ๆ เนื่องจากทีมงานของเราตรวจสอบเป็นประจำ จึงมั่นใจได้ว่าเซิร์ฟเวอร์นั้นใช้งานได้อยู่เสมอ

Netflix: ปลดบล็อกได้

Surfshark เป็นหนึ่งใน VPN ชั้นนำที่เข้าถึง Netflix ของสหรัฐอเมริกาและคลังข้อมูลอื่น ๆ อย่างน้อย 10 คลังข้อมูลทั่วโลกได้ ตอนที่ทดสอบ มันปลดบล็อกแพลตฟอร์มดังกล่าวในประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ได้:

สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส
เยอรมนี อินเดีย อิตาลี เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์

Screenshot of Surfshark streaming Money Heist on Netflix
เซิร์ฟเวอร์ของ Surfshark ในสหรัฐอเมริกาโหลด Money Heist บน Netflix ได้โดยไม่มีปัญหา

ความเร็วการเชื่อมต่อโดยเฉลี่ยด้วย Surfshark นั้นรวดเร็วมากพอที่จะสตรีมรายการต่าง ๆ ในความละเอียดระดับ UHD ได้โดยไม่กระตุกหรือสะดุด — แม้ในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล

Amazon Prime Video: ปลดบล็อกได้

Surfshark สามารถเข้าถึง Amazon Prime Video ในตำแหน่งส่วนใหญ่ได้ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร เซิร์ฟเวอร์บางตำแหน่งที่ทำงานร่วมกันกับแพลตฟอร์มได้คือบอสตัน ชาร์ลอตต์และนิวยอร์กในสหรัฐอเมริกา ลอนดอนและแมนเชสเตอร์ในสหราชอาณาจักร แตกต่างจาก Netflix ไม่ต้องลองเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์หลายครั้งเพื่อเข้าถึง Amazon Prime Video ด้วย Surfshark

ภาพหน้าจอของ Paws of Fury ที่กำลังเล่นบน Amazon Prime Video โดยมี Surfshark เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในบอสตัน สหรัฐอเมริกา
Surfshark ทำงานร่วมกันกับ Amazon Prime Video ได้และไม่กระตุกเลยตลอดภาพยนตร์เรื่อง Paws of Fury ทั้งเรื่อง

Hulu: ปลดบล็อกได้

Surfshark เชื่อมต่อกับ Hulu ผ่านเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกากว่า 10 เซิร์ฟเวอร์ได้อย่างง่ายดายโดยรวามเร็วที่รวดเร็วที่สุดนั้นตกเป็นของเซิร์ฟเวอร์ในบอสตัน ดีทรอยต์และมานาสซาส ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นในการโหลดหนังเรื่อง Mission: Impossible – Fallout รับชมหนังทั้งเรื่องในความละเอียดระดับ UHD ได้โดยไม่สะดุด

SurfsharkVPN works with Hulu USA Mission Impossible
Mission: Impossible – Fallout โหลดขึ้นมาภายในไม่กี่วินาทีบน Hulu และเล่นโดยไม่มีการขัดจังหวะด้วย Surfshark

Disney+: ปลดบล็อกได้

Surfshark มีประสบกับปัญหาในการปลดบล็อก Disney+ ในสหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์และอินเดีย น่าเสียดายที่มันไม่สามารถเข้าถึง Disney+ ในประเทศอื่น ๆ ได้และจะเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ของสหรัฐอเมริกา ตอนหนึ่งของ Secret Invasion โหลดขึ้นมาภายในไม่กี่วินาทีและเล่นได้ในความละเอียดระดับ UHD โดยไม่สะดุด

ภาพหน้าจอของ Secret Invasion ที่เล่นบน Disney+ โดยที่ Surfshark เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา
เซิร์ฟเวอร์ของ Surfshark ในชาร์ลอตต์, สหรัฐอเมริกาปลดบล็อก Secret Invasion ใน Disney+ ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลอง

Max: ปลดบล็อกได้

Surfshark ยังทำให้การเข้าถึง Max (ชื่อเดิม HBO Max) ด้วยเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดเป็นไปได้ วิดีโอโหลดขึ้นมาอย่างรวดเร็วและไม่มีข้อผิดพลาดการเชื่อมต่อเลยในตอนต่าง ๆ ของ Game of Thrones เซิร์ฟเวอร์ในบอสตัน ดัลลัส มานาสซาส ไมอามี นิวยอร์กและแทมปามอบคุณภาพการสตรีมมิ่งที่ดีที่สุด

ภาพหน้าจอของ Secret Invasion ที่เล่นบน Disney+ โดยที่ Surfshark เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา
เซิร์ฟเวอร์ของ Surfshark ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาสามารถเข้าถึง Max ได้อย่างง่ายดาย

Kodi, 10 play, DAZN: ปลดบล็อกได้

เซิร์ฟเวอร์ของ Surfshark ในสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้ดาวน์โหลดและสตรีมแอดออน Kodi อย่าง Popcornflix, Crackle และ Tubi ได้ เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ในนิวยอร์ก โตรอนโตและแวนคูเวอร์สร้างความประทับใจให้กับเราได้เป็นอย่างยิ่งเนื่องจากใช้เวลาในการโหลดวิดีโอได้ไม่นานเกิน 3 วินาที

เช่นเดียวกันกับ DAZN และ 10 play (ซึ่งมีการปิดกั้นทางภูมิศาสตร์ที่แข็งแกร่งที่ VPN บางบริการไม่สามารถปลดบล็อกได้) แม้ว่าเซิร์ฟเวอร์ในเพิร์ธจะไม่สามารถทำงานได้ แต่เซิร์ฟเวอร์ในแอดิเลด, เมลเบิร์น, บริสเบน และซิดนีย์ปลดบล็อก 10 play และเล่นรายการต่าง ๆ ของออสเตรเลียได้อย่างง่ายดาย

เริ่มต้นใช้งาน Surfshark

ความเร็ว

- 9.0 / 10

ความเร็วที่รวดเร็วทั้งเครือข่าย

ประสิทธิภาพความเร็วของ Surfshark นั้นถือว่าดีในทุกตัวเลือกที่ฉันเลือก ผลลัพธ์ Ookla SpeedTest ของฉันแสดงให้เห็นว่าความเร็วการเชื่อมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 39.89 Mbps ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับความเร็วที่ไม่มีการเชื่อมต่อ VPN ของฉัน แต่ถึงอย่างนั้นเซิร์ฟเวอร์ MultiHop ก็ชะลอความเร็วดังกล่าวลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ใช้งานได้

ผลการทดสอบความเร็ว

แม้ว่า Surfshark จะไม่ใช่ VPN ที่รวดเร็วที่สุดในตลาด แต่เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดที่เราทดสอบก็สามารถสนับสนกิจกรรมที่ใช้แบนด์วิดธ์เยอะ เช่น การสตรีมมิ่งและโหลดไฟล์บิทขนาดใหญ่ได้ แม้แต่เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลก็มีความเร็วที่รวดเร็วมากกว่า VPN อื่น ๆ มากมายที่เราทดสอบและสามารถคงความเร็วได้มากกว่าขั้นต่ำ 25Mbps ที่ต้องการสำหรับการสตรีมมิ่งในความละเอียดระดับ UHD

ก่อนอื่นเลย เราเลือกตัวเลือก ‘เซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุด’ และ ‘ประเทศที่ใกล้ที่สุด’ ทั้งสองตัวเลือกเชื่อมต่อเรากับเซิร์ฟเวอร์ของ Surfshark ในเยอรมนี ความแตกต่างทางด้านความเร็วอยู่ที่ประมาณ 9% เท่านั้น ดังนั้นเราจึงสามารถโหลดบิท เล่นเกมและดูวิดีโอในความละเอียดระดับ UHD ได้โดยไม่พบกับการกระตุกเลย

ภาพหน้าจอของผลการทดสอบความเร็วด้วย Surfshark ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เยอรมนีและออสเตรเลีย
เราดำเนินการทดสอบความเร็วในตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนีและออสเตรเลีย

เราพบว่าเซิร์ฟเวอร์ในออสเตรเลียของ Surfshark นั้นช้าที่สุด แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้เนื่องจากมันห่างจากเนเธอร์แลนด์มากและข้อมูลของเราต้องเดินทางไกล แต่ถึงอย่างนั้น ความเร็วที่ลดลงก็แทบจะไม่มีผลใด ๆ กับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงในเยอรมนีและสหราชอาณาจักร เรายังได้รับความเร็วที่ดีที่สุดตอนที่เราใช้โปรโตคอล WireGuard ด้วย

อย่างไรก็ตามคุณไม่ควรคาดหวังถึงการเชื่อมต่อที่รวดเร็วด้วยเซิร์ฟเวอร์ Dynamic MultiHop ของ Surfshark เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวลดความเร็วของเราลงเกือบ 50% นี่ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไรเนื่องจากการรับส่งข้อมูลของเราถูกเปลี่ยนเส้นทางไปผ่าน 2 เซิร์ฟเวอร์ที่แตกต่างกันและเข้ารหัสสองครั้งเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ลองใช้ Surfshark เพื่อความเร็วที่รวดเร็ว

Surfshark รวดเร็วพอสำหรับการเล่นเกมไหม? ใช่ ในตำแหน่งละแวกใกล้เคียง

เพื่อทดสอบความเข้ากันได้ของ Surfshark สำหรับการเล่นเกม เราได้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในลอนดอน เปิดเล่น Left 4 Dead 2 บน Steam และดำเนินการทดสอบความเร็ว Ping ของเราอยู่ที่ 22ms ซึ่งถือว่าดีมาก ๆ สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล 300 ไมล์ (ประมาณ 483 กิโลเมตร) จากตำแหน่งของเรา อัตรา Ping ที่ต่ำเหล่านี้ช่วยให้เราติดตามกับเพื่อนร่วมทีมในระหว่างเกมได้ทัน เราไม่เคยต้องลดความละเอียดของเกมเพื่อยกระดับความเร็วให้ดีขึ้นเลย

ภาพหน้าจอของวิดีโอเกม "Left 4 Dead 2" พร้อม Surfshark ที่เชื่อมต่อกับที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา

ฉันประทับใจกับความเร็วที่รวดเร็วของ Surfshark ตอนที่ฉันเล่นเกมออนไลน์ Left 4 Dead 2

โดยรวมแล้ว Ping ต่ำกว่า 150ms ถือว่าเป็นเรื่องรับได้ แต่เราไม่ได้โชคดีนักกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลของ Surfshark ในออสเตรเลีย ด้วย Ping เกือบจะ 300ms การติดตามเพื่อนร่วมทีมให้ทันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย หากคุณต้องการ VPN ที่มีความเร็วและ Ping ที่เสถียรในทุกตำแหน่ง ExpressVPN คือหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Call of Duty และเกมที่เล่นเร็วอื่น ๆ

ลองใช้ Surfshark สำหรับการเล่นเกมที่รวดเร็ว

ความสำคัญของความเร็วและสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก VPN?

ความเร็วถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเมื่อเลือก VPN ซึ่งความเร็วในการใช้ VPN จะมาพร้อมกับค่าใช้ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยิ่ง VPN มีความเร็วมากเท่าใด คุณยิ่งจะสามารถเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดของเน็ตเวิร์คของคุณได้มากเท่านั้น เวลา Ping มีความสำคัญเทียบเท่ากับความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดสำหรับการสตรีมมิ่ง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความเร็วในการรับข้อมูล เวลา ping ที่น้อยกว่าและแบนด์วิธในการดาวน์โหลดที่สูงจะช่วยให้การสตรีมมิ่งเป็นไปได้อย่างไม่มีสะดุด การใช้เวลาในการเชื่อมต่อที่สั้นกว่าจะช่วยป้องกันความวุ่นวาย ส่วนการเชื่อมต่อที่เสถียรถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่งหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ

เซิร์ฟเวอร์

- 10.0 / 10

เครือข่ายของเซิร์ฟเวอร์ – เครือข่ายของเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3200 เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 100 ประเทศ

Surfshark มีเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ขนาดใหญ่ บริการดังกล่าวมีเซิร์ฟเวอร์ประมาณ 3200 เซิร์ฟเวอร์ในประเทศต่าง ๆ กว่า 100 ประเทศ ซึ่งรวมถึง 37 เซิร์ฟเวอร์เสมือนจริง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คุณก็จะพบเซิร์ฟเวอร์ในละแวกใกล้เคียง

นอกจากนี้ยังมีเซิร์ฟเวอร์คงที่พร้อมให้บริการในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ ญี่ปุ่นและเยอรมนีด้วย เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้อนุญาตให้คุณใช้หมายเลข IP เดิมได้ทุกครั้ง แม้ว่าฟังก์ชันนี้จะทำงานได้ดีในเรื่องของการหลีกเลี่ยงการยืนยันตัวตนเพิ่มเติม แต่หมายเลข IP คงที่นั้นถูกใช้ร่วมกันกับผู้ใช้รายอื่น ๆ มากมายในคราวเดียวและถูกรายงานว่าเกี่ยวข้องกับ VPN อยู่บ่อยครั้ง

เราดีใจที่ได้เห็นว่ามีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ MultiHop มากมายที่เข้ารหัสข้อมูลของคุณสองครั้งโดยการเปลี่ยนเส้นทางไปผ่าน 2 เซิร์ฟเวอร์แทนที่จะเป็น 1 เซิร์ฟเวอร์ เราทดสอบ MultiHop โดยการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์สิงคโปร์-ฮ่องกงและตรวจสอบหมายเลข IP สุดท้ายของเรา ซึ่งก็คือฮ่องกง

Surfshark ยังเสนอ IP เฉพาะที่คุณสามารถสั่งซื้อได้หากคุณเป็นสมาชิกพรีเมียมอยู่แล้ว หมายเลขเหล่านี้แตกต่างจากหมายเลข IP คงที่เพราะไม่มีใครคนอื่นที่ใช้เส้นทางการรับชมหรือรุกล้ำความปลอดภัยของคุณได้ ด้วยการใช้หมายเลข IP ที่ไม่เหมือนใครนี้จะช่วยคุณหลีกเลี่ยงการถูกแบล็กลิสต์เพราะบริการมากมายจะไม่สามารถย้อนรอยกิจกรรม VPN ในอดีตได้ นี่คือสุดยอดขั้นตอนในการป้องกันรอยเท้าทางดิจิทัลของคุณ

Torrenting – อนุญาตให้มีการ P2P ในเซิร์ฟเวอร์ที่เลือก

ความเร็ว ความปลอดภัยและฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวของ Surfshark ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าหรับผู้ชื่นชอบ Torrent ไม่มีขีดจำกัดแบนด์วิดธ์หรือข้อมูลเมื่อดาวน์โหลดด้วย Surfshark และมันเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ Torrenting ยอดนิยมอย่าง qBittorrent และ uTorrent

เว็บไซต์ของ Surfshark ระบุว่าคุณจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ P2P ในประเทศที่เป็นมิตรกับ Torrenting โดยอัตโนมัติหลังจากที่คุณเปิดใช้งานไคลเอนต์ BitTorrent แต่สิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นจริง – ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ปกติในตุรกี, เริ่มต้น Torrenting บน qBittorrent และก็ยังเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์เดิมอยู่ดี

ฉันติดต่อกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงโดยทันทีเนื่องจากฉันดำเนินการ Torrenting ไปแล้วและกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของฉัน ตอนที่เจ้าหน้าที่ขอให้ฉันดำเนินการทดสอบบน IPLeak.net ฉันก็ยังเห็นว่าหมายเลข IP ของฉันยังคงอยู่ในตุรกี แต่เซิร์ฟเวอร์ DNS เปลี่ยนไปเป็นเนเธอร์แลนด์ ตามข้อมูลจากตัวแทน ฉันถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังเซิร์ฟเวอร์ P2P แล้วเนื่องจากหมายเลข DNS เปลี่ยนไปแล้ว

ภาพหน้าจอของผลการทดสอบการรั่วไหลด้วย Surfshark ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา

Surfshark เปลี่ยนหมายเลข DNS ของฉันโดยอัตโนมัติตอนที่ฉันเปิดใช้งานไคลเอนต์ Bittorrent

แม้ว่าฉันจะพึงพอใจที่การรับส่งข้อมูล Torrenting ของฉันปลอดภัย แต่มันก็ใช้เวลามากในการยืนยันหมายเลข DNS ของฉันบนเว็บไซต์ภายนอก ฉันขอแนะนำให้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ P2P จากแท็บ “ตำแหน่ง” เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ แค่พิมพ์คำว่า “P2P” ในแถบค้นหาและคุณจะเห็นรายการเซิร์ฟเวอร์ฉบับเต็ม เซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วที่สุดจะมีไอคอนวงกลมว่างเปล่าอยู่ใกล้ ๆ

ภาพหน้าจอของเซิร์ฟเวอร์ P2P ของ Surfshark บนแอป Mac

ไม่ได้มีการโฆษณาอย่างกว้างขวางบนเว็บไซต์ Surfshark – แต่คุณสามารถเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ P2P ด้วยตนเองได้

Surfshark ทำงานได้ในประเทศจีนได้ไหม? ไม่ได้

แม้แต่โหมด NoBorders ที่อ้างว่าทำงานได้ในประเทศที่เข้มงวด แต่ Surfshark ไม่สามารถทำงานในประเทศจีนได้ ในระหว่างการทดสอบ เพื่อนร่วมงานของเราสามารถเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ได้เพียง 1 เซิร์ฟเวอร์ในไอร์แลนด์ได้เท่านั้น แต่มันก็ล้มเหลวหลังจาก 30 วินาที แม้จะพยายามแก้ไขปัญหาแล้ว แต่เพื่อนร่วมงานของเราไม่สามารถใช้ Surfshark ได้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าแนะนำให้ใช้โปรโตคอล Shadowsocks แต่นั้นก็ไม่ได้ผลเช่นกัน

หากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับคุณ เราขอแนะนำ ExpressVPN เพราะบริการดังกล่าวทำงานในประเทศจีนได้อย่างน่าเชื่อถือ บริการดังกล่าวมาพร้อมกับการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้งานได้โดยไม่มีความเสี่ยงและขอเงินคืนได้โดยไม่ต้องตอบคำถาม เราไม่สนับสนุนให้ใช้ VPN เพื่อทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นโปรดทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายในท้องถิ่นและตระหนักถึงสิ่งที่สามารถทำได้ก่อนที่จะเชื่อมต่อในประเทศจีน

ฟีเจอร์ความปลอดภัย

เมื่อเทียบกับ VPN ชั้นนำอื่น ๆ ที่เรารีวิว Surfshark มีฟีเจอร์ขั้นสูงมากมายนอกเหนือจากการเข้ารหัสมาตรฐาน การป้องกันการรั่วไหลของ IP และ Kill Switch

การเข้ารหัส — หนึ่งในการเข้ารหัสที่ปลอดภัยที่สุดในอุตสาหกรรม

Surfshark ใช้อัลกอริทึมเข้ารหัสระดับอุตสาหกรรมชั้นนำ AES-256 เพื่อป้องกันข้อมูลออนไลน์ของคุณจากแฮกเกอร์และการสอดแนมทางออนไลน์ แม้แต่สุดยอดคอมพิวเตอร์ปัจจุบันยังต้องใช้เวลานานหลายพันล้านปีเพื่อถอดรหัสตัวเข้ารหัสระดับทหารนี้

มาตรฐานการเข้ารหัสยังสนับสนุน Perfect Forward Secrecy ด้วย มันสร้างคีย์เซสชันที่ไม่เหมือนใครและจะถูกละทิ้งเมื่อเซสชันสิ้นสุดลง ด้วยการทำเช่นนี้ แม้แต่แฮกเกอร์ที่เข้าถึงคีย์เข้ารหัสได้ พวกเขาก็จะไม่สามารถถอดรหัสเซสชัน VPN ในอดีตหรืออนาคตของคุณได้ ดังนั้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคุณจึงยังคงปลอดภัยอยู่

โปรโตคอล VPN — เลือกระหว่าง OpenVPN, IKEv2 และ WireGuard

Surfshark เสนอ WireGuard และ OpenVPN ในแอปทั้งหมด นอกจากนี้ยังมี IKEv2 ด้วย แต่เฉพาะบน iOS และ Android เท่านั้น เราใช้โปรโตคอล OpenVPN ที่ปลอดภัยสำหรับกิจกรรม เช่น การธนาคารออนไลน์และไม่เคยพบกับการรั่วไหลด้านความปลอดภัยเล่ย แต่ตอนที่เราให้ความสำคัญเกี่ยวกับความเร็วในขณะที่สตรีมมิ่ง เราจะเปลี่ยนไปใช้ WireGuard เพราะมันรวดเร็วกว่าและไม่ต้องเสียสละความปลอดภัย

Kill Switch — ได้รับการป้องกันอยู่ตลอดเวลา

Surfshark มี Kill Switch ในแอปทั้งหมด แต่ฟีเจอร์ดังกล่าวไม่ได้ถูกเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น Kill Switch จะตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณหาก VPN ของคุณเกิดขาดการเชื่อมต่อไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม สิ่งนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณไม่รั่วไหลในเว็บไซต์ที่คุณกำลังเยี่ยมชมโดยไม่ได้ตั้งใจ หากคุณลืมเปิดฟีเจอร์นี้ คุณสามารถเปิดใช้งานมันได้หลังจากที่เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์แล้วโดยการคลิกที่ลูกศรในแอป

ผลการทดสอบการรั่วไหล – ไม่พบการรั่วไหล DNS, WebRTC หรือ IPv6

VPN มากมายมีการเข้ารหัสที่ยอดเยี่ยม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังทำให้ข้อมูลความลับของคุณรั่วไหลบนเว็บไซต์และแอปที่เฉพาะเจาะจงได้ เพื่อตรวจสอบการป้องกันการรั่วไหลภายในตัวของ Surfshark ฉันจึงเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลียและเยอรมนี

ภาพหน้าจอของผลการทดสอบการรั่วไหลของ Surfshark ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา

Surfshark มีการป้องกันการรั่วไหลภายในตัวที่จะปิดบังหมายเลข IP ที่แท้จริงของคุณเสมอ

ฉันได้ดำเนินการทดสอบผ่าน IPLeak.net ด้วยการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์แต่ละเซิร์ฟเวอร์ – และฉันก็ดีใจที่ได้เห็นว่าหมายเลข IP ที่แท้จริงของฉันได้รับการป้องกันทุกครั้ง Surfshark ยังได้รับการพิสูจน์ในเรื่องการป้องกันการรั่วไหลระดับสูงตอนที่ทดสอบ DNS และ WebRTCleaks

Split Tunneling — เฉพาะแอปสำหรับ Windows และ Android เท่านั้น

ฟังก์ชันการทำงานของ Split Tunneling ของ Surfshark มีชื่อว่า Bypasser และมันมีประโยชน์สำหรับการเลือกเว็บไซต์และแอปที่เฉพาะเจาะจงที่จะหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อ VPN ในแล็ปท็อป Windows ของเรา เราสามารถตั้งแอปและเว็บไซต์ที่เฉพาะเจาะจงที่จะหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยได้จากแผงควบคุม “การตั้งค่า”

ฟีเจอร์ CleanWeb ปิดกั้นโฆษณา มัลแวร์และการติดตาม

จำนวน VPN พรีเมียมที่เริ่มเสนอตัวปิดกั้นโฆษณา มัลแวร์และการติดตามภายในตัวนั้นมีมากขึ้นเรื่อย ๆ – แต่ไม่ใช่ทั้งหมดจะทำงานได้ดี นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงดีใจที่ได้เห็นว่า CleanWeb ปิดกั้นป๊อปอัพ วิดีโอและโฆษณาแบนเนอร์บนเว็บไซต์ข่าวสารอย่าง Daily Mail และ Forbes ได้ทั้งหมด ฉันยังแม้แต่สังเกตเห็นถึงความเร็วในการโหลดที่รวดเร็วขึ้นด้วย!

ภาพหน้าจอของเว็บไซต์ Daily Mail พร้อมฟีเจอร์ CleanWeb ของ Surfshark ที่บล็อกโฆษณาทั้งหมด
ฟีเจอร์ CleanWeb ของ Surfshark ปิดกั้นโฆษณาทั้งหมดบนเว็บไซต์ข่าวสาร Mirror

น่าเสียดายที่ CleanWeb ไม่สามารถปิดกั้นโฆษณา YouTube ได้อย่างมีประสิทธิภาพ — คุณอาจจะยังเห็นโฆษณาก่อนเล่นวิดีโอและระหว่างเล่นวิดีโออยู่บ้างเมื่อรับชมวิดีโอ

เครื่องมือความปลอดภัยเพิ่มเติม — ฟีเจอร์โบนัสมากมาย

  • โหมด Camouflage และ NoBorders — ใช้ Surfshark ในประเทศที่เข้มงวดโดยการปิดบังข้อเท็จจริงที่ว่าคุณกำลังใช้ VPN Camouflage จะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อใช้โปรโตคอล OpenVPN ในขณะที่ NoBorders จะถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อ Surfshark ตรวจพบข้อจำกัดในเครือข่ายของคุณ ดังนั้นคุณจึงสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างเต็มที่ในประเทศต่าง ๆ อย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และตุรกี
  • การหมุนเวียนหมายเลข IP (IP Address Rotation) — ระบบจะเปลี่ยนหมายเลข IP ของคุณทุก ๆ สองสามนาทีโดยไม่ทำให้การเชื่อมต่อของคุณหลุดเพื่อให้การติดตามกิจกรรมของคุณเป็นเรื่องยากมากยิ่งขึ้น
  • GPS Override Feature — ฟีเจอร์ปลอมแปลงตำแหน่งของ Surfshark จะอัปเดตข้อมูลตำแหน่งของอุปกรณ์ Android ของคุณให้ตรงกับตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่คุณกำลังเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ
  • Invisible to Devices Feature — ช่วยให้อุปกรณ์อื่น ๆ ในเครือข่ายพื้นที่ท้องถิ่น (LAN) มองไม่เห็นคุณ ฟีเจอร์นี้พร้อมให้บริการเฉพาะบนอุปกรณ์ Windows และ Android เท่านั้น
  • Smart DNS — ทำให้เข้าถึงบริการสตรีมมิ่งที่ถูกปิดกั้นตามภูมิศาสตร์บนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ VPN เช่น สมาร์ททีวี เกมคอนโซลและ Apple TB ได้
  • ฟังก์ชันหยุดพัก VPN (Pause VPN Function) — Surfshark มีตัวเลือก ‘หยุดพัก (Pause)’ ที่ช่วยให้คุณปิดการเชื่อมต่อเป้นเวลา 5 นาที, 30 นาทีหรือ 2 ชั่วโมงได้
  • Dynamic MultiHop — การเชื่อมต่อเหล่านี้จะเข้ารหัสข้อมูลของคุณสองครั้งเพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติมโดยจะเปลี่ยนเส้นทางการรับชมไปผ่าน 2 เซิร์ฟเวอร์ที่คุณเลือก แทนที่จะเป็นเซิร์ฟเวอร์เดียว
  • การยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน (2FA Authentication) — ตัวเลือกนี้พร้อมให้บริการในแอปทั้งหมดโดยที่ Surfshark จะขอการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยของคุณเอง
  • TrustDNS — แอปแยกต่างหากสำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android ที่จะเชื่อมต่อคุณกับเซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะ แทนที่จะเป็นเซิร์ฟเวอร์ DNS ที่ ISP มอบหมายให้คุณ
  • Surfshark One — นี่คือชุดบริการที่รวม VPN, ระบบการแจ้งเตือนการรั่วไหลของข้อมูลและเครื่องมือค้นหาส่วนตัวที่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม บริการนี้พร้อมใช้งานสำหรับแอป Android, Windows และ macOS

ความเป็นส่วนตัว

นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด

ฉันพบว่าคำแถลงการณ์ความเป็นส่วนตัวของ Surfshark นั้นชัดเจนและเข้าใจได้ง่ายมาก ๆ VPN ที่น่าเชื่อถือควรจะทำแบบนี้ นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานระบุว่าประวัติการท่องเว็บ, หมายเลข IP และข้อมูลที่ระบุตัวตนได้อื่น ๆ ของคุณจะไม่ถูกติดตาม บันทึกหรือแบ่งปัน

ภาพหน้าจอของนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Surfshark
คำแถลงการณ์ด้านความเป็นส่วนตัวของ Surfshark คือหนึ่งในนโยบายที่โปร่งใส่ที่สุดที่เราเคยเห็น

นอกจากนี้ Surfshark ยังใช้เซิร์ฟเวอร์บน RAM เท่านั้น 100% ดังนั้นข้อมูลทั้งหมดของคุณจึงจะถูกลบออกโดยอัตโนมัติทุกเมื่อที่มีการรีบูทเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการด้านความปลอดภัยทั่วไป

แม้ว่ามันจะไม่ได้บันทึกกิจกรรมใด ๆ ของคุณเอาไว้ แต่ Surfshark เก็บที่อยู่อีเมล, รหัสผ่าน (เข้ารหัสเอาไว้) และรายละเอียดการชำระเงินของคุณเอาไว้ หากคุณไม่สะดวกใจกับข้อมูลที่เก็บรวบรวมนี้ คุณก็สามารถลงทะเบียนโดยไม่เปิดเผยตัวตนได้ด้วยการใช้ที่อยู่อีเมลแบบใช้แล้วทิ้งและชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล

ตำแหน่ง – ตั้งอยู่ในเนเธอร์แลนด์

Surfshark มีสำนักงานใหญ่เริ่มต้นอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น แต่ได้มีการย้ายสำนักงานใหญ่มาที่เนเธอร์แลนด์ แม้ว่าเนเธอร์แลนด์จะเป็นสมาชิกของ Nine-Eyes Alliance แต่มันก็ไม่มีกฎหมายการกักเก็บข้อมูลใด ๆ นี่หมายความว่า Surfshark ไม่มีหน้าที่ในการบันทึกข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับคุณ ดังนั้นนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานจึงยังคงมีผลบังคับใช้อยู่

Warrant Canary แจ้งเตือนคุณเกี่ยวกับการแทรกแซงของบุคคลที่สาม

เว็บไซต์ของ Surfshark มีใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะแจ้งให้คุณทราบเมื่อบริษัทได้รับหมายศาลจากรัฐบาลหรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย แม้ว่า Surfshark จะเน้นย้ำว่านโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานจะป้องกันไม่ให้เกิดการส่งบันทึกข้อมูลของผู้ใช้ แต่ฉันก็ชอบที่ฉันสามารถดูว่ามีการออกจดหมายด้านความมั่นคง หมายศาลหรือหมายจับของรัฐบาลหรือไม่

การตรวจสอบความปลอดภัยจากบริษัทอิสระในส่วนขยายของเบราว์เซอร์ (ผ่าน)

เช่นเดียวกันกับผู้ให้บริการ VPN รายอื่น ๆ Surfshark ได้ลงทุนในการตรวจสอบบุคคลที่สามเพื่อยืนยันข้ออ้างเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

ในปี 2018 Cure53 ได้ดำเนินการตรวจสอบอิสระในส่วนขยายเบราว์เซอร์ Firefox และ Chrome บริษัทความปลอดภัยด้านไอทีสัญชาติเยอรยังทำการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานและประเมินความปลอดภัยเซิร์ฟเวอร์ของ Surfshark ในปี 2021 ด้วย เมื่อไม่นานมานี้ Deloitte ได้ตรวจสอบนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานของ Surfshark และยืนยันข้อกล่าวอ้างเหล่านั้น เรายังอ่านรายงานดังกล่าวและไม่พบข้อบกพร่องเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือนโยบายที่สำคัญเลย

ออนไลน์อย่างปลอดภัยด้วย Surfshark

ตำแหน่งของเซิฟเวอร์

ฝรั่งเศส
สหรัฐ
ออสเตรีย
อันดอร์รา
อุซเบกิ
อุรุกวัย
เดนมาร์ก
เบลเยียม
เวียดนาม
เวเนซุเอลา
แคนาดา
แอลจีเรีย
แอลเบเนีย
โมร็อกโก

เป็นมิตรต่อผู้ใช้

- 8.0 / 10

การเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน – ไม่จำกัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน

หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Surfshark คือมันป้องกันอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายในเวลาเดียวกันได้ไม่จำกัด VPN พรีเมียมส่วนใหญ่เสนอการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเวลาเดียวกันเพียง 5 ถึง 10 การเชื่อมต่อเท่านั้นซึ่งก็ถือว่าไม่ได้เพียงพอกับอุปกรณ์ทั้งหมดที่คุณมีเสมอไป

เพื่อทดสอบเรื่องนี้ ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักรผ่านแล็ปท็อป Windows 2 เครื่อง, เดสก์ท็อป Windows 2 เครื่อง, iPhone 13, สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy และ iPad 3 เครื่อง ฉันดีใจที่จะได้รายงานให้ทราบว่าฉันไม่พบปัญหาการเชื่อมต่อและความเร็วที่ช้าลงจนสังเกตเห็นได้ใด ๆ ฉันสังเกตเห็นเพียงการกระตุกอยู่บ้างตอนที่เชื่อมต่อ 8 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกันซึ่งถือว่าน่าประทับใจเนื่องจาก VPN มากมายชะลอความเร็วลงทันทีที่มีการเพิ่มอุปกรณ์เพิ่มเติม นี่หมายความว่าคุณไม่ต้องจ่ายเงินสำหรับการสมัครสมาชิก VPN มากมายหรือเลือกอุปกรณ์ที่คุณต้องการป้องกัน

ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ – แอปเฉพาะสำหรับระบบปฏิบัติการหลัก

เราพบว่า Surfshark เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายเพราะความง่ายในการใช้งานและความเรียบง่าย Surfshark มีแอปสำหรับอุปกรณ์ Windows, Mac, Android, iOS, Linux (Ubuntu และ Debian), Amazon Fire, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้การใช้ Surfshark เพื่อตั้งค่าการเชื่อมต่อ VPN บนสมาร์ททีวีของคุณและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไม่รองรับ VPN อย่างเกมคอนโซลก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ความง่ายในการติดตั้งและการตั้งค่า – การติดตั้งที่ง่ายมาก ๆ

ติดตั้งและใช้งานแอปต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย หลังจากที่ดาวน์โหลดและติดตั้งอย่างรวดเร็ว เราก็สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยภายในเวลาไม่นาน ใช้เวลาประมาณ 6 วินาทีสำหรับ Surfshark ในการเชื่อมต่อเมื่อใดก็ตามที่เราเลือกเซิร์ฟเวอร์หลังจากที่รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ แต่การเชื่อมต่อติดต่อกันใช้เวลาน้อยกว่า 3 วินาทีเสมอ

มีการติดป้ายประเภทของเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดสำหรับการเชื่อมต่อ IP คงที่, MultiHop และ IP เฉพาะเอาไว้อย่างชัดเจนและทำให้การสลับเปลี่ยนเป็นเรื่องง่าย เรายังสามารถสร้างคอมโบการเชื่อมต่อ MultiHop ของเราเองและบันทึกเอาไว้ในรายการโปรดสำหรับการใช้งานครั้งต่อไปได้อย่างง่ายดายด้วย

3 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการติดตั้ง Surfshark บน Windows:

  1. ลงทะเบียน Surfshark เยี่ยมชมเว็บไซต์ เลือกแผนสมาชิกและชำระเงิน Surfshark มีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเสี่ยงเสียเงินฟรี
  2. ดาวน์โหลด Surfshark หลังจากที่คุณดาวน์โหลดและติดตั้งแอปลงบนอุปกรณ์ของคุณแล้ว ให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณ
    ภาพหน้าจอของหน้าเข้าสู่ระบบ Surfshark
  3. เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ เลือกเซิร์ฟเวอร์ เพียงเท่านี้คุณก็พร้อมที่จะท่องเว็บ สตรีม โหลดบิทและเล่นเกมออนไลน์อย่างปลอดภัยแล้ว
    ภาพหน้าจอของเซิร์ฟเวอร์และอินเทอร์เฟซการเชื่อมต่อของ Surfshark

ส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่ไม่หนักเครื่องสำหรับ Chrome และ Firefox

คุณสามารถติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ Surfshark ลงบน Chrome และ Firefox ซึ่งจะเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลเบราว์เซอร์ของคุณและปิดบังหมายเลข IP ของคุณได้ แต่ถึงอย่างนั้นอะไรก็ตามที่คุณทำนอกเบราว์เซอร์จะไม่ได้รับการเข้ารหัส

แม้ว่าคุณจะไม่ได้รับความปลอดภัยระดับ VPN จากส่วนขยายเบราว์เซอร์ แต่มันก็มีประโยชน์เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนหมายเลข IP ของคุณอย่างรวดเร็วสำหรับการสตรีมมิ่ง ฉันทดสอบส่วนขยายเบราว์เซอร์กับ Netflix ของสหรัฐอเมริกาและไม่พบปัญหาการสตรีมมิ่งภาพยนตร์เรื่อง Spider-Man: Into the Spider-Verse เลย

ภาพหน้าจอของส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ Surfshark ที่เชื่อมต่อกับสหรัฐอเมริกาขณะเล่น Spider-Man: Into the Spider-Verse บน Netflix US

ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาและรับชม Netflix ของสหรัฐอเมริกาบนส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome ได้

ส่วนขยายสำหรับ Chrome และ Firefox มีหน้าตาคล้ายกันกับแอป VPN ฉันดีใจที่ได้เห็นว่าฟีเจอร์ตัวปิดกั้นโฆษณา CleanWeb พร้อมให้บริการด้วย ดังนั้นฉันจึงสามารถท่องเว็บไซต์ข่าวสารและช้อปปิ้งได้โดยไม่ถูกโฆษณารบกวน ฉันยังประทับใจที่มีการรองรับภาษาถึง 9 ภาษาด้วย ได้แก่ ภาษาอังกฤษ เยอรมัน สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น โปแลนด์ รัสเซียและจีน

Smart DNS สำหรับสมาร์ททีวี, Apple TV, Xbox และ PlayStation

Surfshark ไม่มีแอป VPN เฉพาะสำหรับสมาร์ททีวี, Apple TV และเกมคอนโซล – แต่มันมี Smart DNS Smart DNS จะไม่เข้ารหัสข้อมูลของคุณเหมือน VPN แต่มันจะเปลี่ยนตำแหน่งเสมือนจริงของอุปกรณ์ของคุณ

บริการลูกค้า

- 10.0 / 10

ฉันพึงพอใจกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ Surfshark มีให้บริการ คุณสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าผ่านอีเมล แบบฟอร์มออนไลน์หรือแชทออนไลน์ได้ ทีมสนับสนุนลูกค้าพร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ หากคุณต้องการแก้ไขปัญหาด้วยตัวคุณเอง คุณก็สามารถลองตรวจสอบหน้าคำถามที่พบบ่อย บทเรียนและคำแนะนำในการติดตั้งบนเว็บไซต์ได้

ฉันทดสอบตัวเลือกฝ่ายสนับสนุนเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อดูว่าบริษัทแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน ฉันพบว่าแชทออนไลน์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการรับความช่วยเหลือโดยละเอียดอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ต้องมองหาความช่วยเหลืออะไรเพิ่มเติมเพราะเว็บไซต์ของ Surfshark มีการแก้ไขปัญหาพื้นฐานเตรียมเอาไว้ให้แล้ว

ทดสอบแล้ว: แชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง

ฉันประทับใจกับการตอบกลับที่รวดเร็วและเป็นมิตร ระหว่างการรีวิวของฉัน ฉันทดสอบฟีเจอร์แชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงหลายครั้งเนื่องจากฉันประสบกับปัญหาทางเทคนิคอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่นฉันไม่สามารถสตรีม Netflix ขณะที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ US-Detroit ได้และฉันก็ประสบกับปัญหาในการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับ P2P ตอน Torrenting

ภาพหน้าจอของฟีเจอร์แชทสดตลอด 24/7 ของ Surfshark พร้อมคำแนะนำในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับ Netflix US และ torrenting

ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงของ Surfshark มอบการแก้ไขที่มีประโยชน์สำหรับการปัญหาของฉัน

ใช้เวลาประมาณ 2 นาทีในการเชื่อมต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าในแต่ละครั้งซึ่งถือว่านานกว่าที่ฉันคาดหวังไว้นิดหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นตัวแทนก็มอบคำแนะนำแบบทีละขั้นตอนและคำอธิบายโดยละเอียดกับฉันและปัญหาของฉันก็ได้รับการแก้ไขอยู่เสมอ

ในแง่ของความสะดวกสบายที่สุดของแชทออนไลน์ Surfshark คือคุณสามารถเข้าถึงมันได้โดยตรงในแอปสำหรับ Windows และ Android – คุณไม่จำเป็นต้องไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ สิ่งที่คุณต้องทำคือไปยัง “การตั้งค่า” และจากนั้นให้เลือก “ขอความช่วยเหลือทันที” เพื่อรับความช่วยเหลือแบบตัวต่อตัว น่าเสียดายที่ฟีเจอร์นี้ยังไม่พร้อมให้บริการบน iOS หรือ Mac

ทดสอบแล้ว: ฝ่ายสนับสนุนอีเมล

ฉันทดสอบฝ่ายสนับสนุนอีเมลของ Surfshark โดยการส่งข้อความมากมายเพื่อถามคำถามเกี่ยวกับฟีเจอร์บางอย่าง เพื่อเป็นการเปรียบเทียบ ฉันยังใช้ที่อยู่อีเมลที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับบัญชี Surfshark ของฉันเพื่อดูว่ามีความแตกต่างในเรื่องของระยะเวลาการตอบกลับหรือไม่ ฉันดีใจที่จะแจ้งให้ทราบว่าฉันได้รับการตอบกลับโดยละเอียดภายในเวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงทุกครั้ง

แม้ว่าฉันจะพึงพอใจกับระยะเวลาการตอบกลับที่รวดเร็ว แต่ฉันแนะนำให้ติดต่อ Surfshark ผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง มันรวดเร็วกว่ามากเพราะคุณสามารถพูดคุยกับตัวแทนฝ่ายสนับสนุนลูกค้าได้โดยตรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีคำถามทางด้านเทคนิคที่เร่งด่วน

หน้าคำถามที่พบบ่อยและคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาออนไลน์

VPN มากมายมีเว็บไซต์ที่มาพร้อมกับส่วนช่วยเหลือที่ได้รับการจัดเรียงมาอย่างไม่ดีที่แทบจะใช้งานไม่ได้ ฉันประทับใจที่ส่วน “ช่วยเหลือ” ของ Surfshark บนเว็บไซต์นั้นครอบคลุมและได้รับการอัปเดตเป็นประจำ ส่วนใหญ่แล้วฉันไม่ต้องติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเนื่องจากฉันสามารถพบคำตอบสำหรับคำถามของฉันได้

หัวข้อจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน: การติดตั้ง การแก้ไขปัญหา บัญชีและคำถามทั่วไป คุณสามารถดูคำแนะนำแบบทีละขั้นตอนสำหรับการติดตั้งและการแก้ไขปัญหาพร้อมด้วยภาพหน้าจอและแม้กระทั่งวิดีโอบทช่วยสอนได้

ลองใช้ Surfshark โดยไม่มีความเสี่ยง

ทำไมฉันถึงต้องดูที่การช่วยเหลือ ในเมื่อฉันสามารถทำได้เอง?

ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการช่วยเหลือที่ดีมีความจำเป็นเฉพาะในช่วงการติดตั้ง VPN แต่จริง ๆ แล้วก็อาจมีอย่างอื่นที่ท่านอาจต้องการความช่วยเหลือนี้ได้เช่นกัน เช่น การเชื่อมต่อไปยังเซิฟเวอร์บางแห่ง การเปลี่ยนโปรโตคอล และการปรับค่า VPN บนเราท์เตอร์ เป็นต้น เราได้ตรวจสอบ VPN แต่ละตัวเพื่อดูว่ามีการช่วยเหลือเวลาใดบ้าง (ถึงแม้ในช่วงกลางดึก), ระยะเวลาที่พวกเขาตอบสนอง และพวกเขาได้ตอบคำถามเราหรือไม่

ราคา

- 10.0 / 10

Surfshark เป็น VPN ที่มีราคาน่าคบหามากเมื่อพิจารณาจากสิ่งที่คุณจะได้รับสำหรับราคาที่ต้องจ่าย แผนสมาชิกของ Surfshark มีอายุการใช้งาน 1 เดือน, 1 ปีและ 2 ปีโดยขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ ยิ่งคุณสมัครสมาชิกบริการดังกล่าวนานเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งได้รับส่วนลดมากขึ้นเท่านั้น แผนสมาชิกระยะยาว (การสมัครสมาชิกแบบ 2 ปี + ฟรี 2 เดือน) มอบส่วนลดให้คุณมากที่สุดในราคาเพียง $2.29/เดือน

ตัวเลือกการชำระเงินมากมาย (รวมถึง Bitcoin)

คุณสามารถชำระเงินได้ด้วยบัตรเครดิต (Visa, MasterCard, American Express และ Discover), สกุลเงินดิจิทัล (Bitcoin, Ethereum และ Ripple), Amazon Pay, Google Pay, PayPal และ Sofort หากคุณต้องการใช้ Surfshark โดยไม่เปิดเผยตัวตน ฉันขอแนะนำให้คุณลงทะเบียนด้วยที่อยู่อีเมลแบบใช้แล้วทิ้งและชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล

หมายเหตุ: Surfshark ไม่รองรับการชำระเงินผ่าน QIWI ดังนั้นหากคุณอยู่ในรัสเซีย คุณยังสามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลเพื่อชำระเงินโดยไม่เปิดเผยตัวตนได้

การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน

หากคุณไม่มั่นใจว่า Surfshark เหมาะกับคุณหรือไม่ คุณสามารถทดลองใช้งานมันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันสำหรับผู้สมัครสมาชิกใหม่ หากคุณไม่พึงพอใจกับ Surfshark ในตอนสิ้นสุดระยะเวลานี้ ให้คุณร้องขอเงินคืนง่าย ๆ ผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงหรือส่งอีเมลไปหาทีมสนับสนุนลูกค้า นอกจากนี้มันยังมีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันด้วย แต่มันพร้อมให้บริการเฉพาะบนอุปกรณ์ Android และ iOS เท่านั้น

ภาพหน้าจอของแชทสดของ Surfshark และคำขอคืนเงิน
เราได้รับเงินคืนเต็มจำนวนจาก Surfshark ตอนที่เราทดสอบการรับประกันยินดีคืนเงิน

เนื่องจาก Surfshark เป็นหนึ่งใน VPN รายเดือนที่ดีที่สุด เราจึงทดสอบการรับประกันยินดีคืนเงินโดยการลงทะเบียนใช้งานแผนสมาชิก 1 เดือน เราขอเงินคืนเต็มจำนวนผ่านแชทออนไลน์ก่อนที่ช่วงระยะเวลา 30 วันจะสิ้นสุดลงและเราก็ได้รับเงินคืนใน 7 วัน เจ้าหน้าที่ไม่แม้แต่ขอเหตุผลสำหรับการยกเลิกด้วยซ้ำ

Surfshark มีแพลนดังต่อไปนี้

1-เดือน
 
$ 10.99
ต่อ เดือน
 
ดูแพลน
2-ปี + 2-เดือน
$10.99
$ 2.29
ต่อ เดือน
ประหยัด 79%
ดูแพลน
ดูแพลน
ประหยัด 79%
12-เดือน
$10.99
$ 3.99
ต่อ เดือน
ประหยัด 64%
ดูแพลน
ดูแพลน
ประหยัด 64%

บทสรุป

คุณควรพิจารณา Surfshark หากคุณกำลังมองหาบริการ VPN คุณภาพสูงที่มีความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่ดี ราคาน่าคบหา ความสามารถในการปลดบล็อกที่ยอดเยี่ยม การเชื่อมต่อในเวลาเดียวกันไม่จำกัดจำนวนและความเร็วสูง นอกจากนี้มันยังเสนอแอปสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายที่ติดตั้งและใช้งานได้ง่ายและพวกเขายังมีแม้กระทั่ง CleanWeb, ตัวปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์ที่มีประโยชน์มาก ๆ เมื่อท่องอินเทอร์เน็ต

ปัญหาเล็ก ๆ หนึ่งเรื่องของ Surfshark คือฟีเจอร์ขั้นสูงบางส่วนพร้อมให้บริการเฉพาะในแอปที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น แต่เรื่องนั้นก็ไม่ได้ลดความประทับใจของฉันที่มีต่อบริการนี้

คุณสามารถลองใช้ Surfshark ด้วยตัวคุณเองฟรีเป็นระยะเวลา 7 วันด้วยเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรีบนอุปกรณ์มือถือหรือเป็นระยะเวลา 30 วันในอุปกรณ์ที่เข้ากันได้ใด ๆ เนื่องจากการรับประกันยินดีคืนเงิน ด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมดด้วยตัวคุณเองได้และหากคุณไม่ชอบ คุณก็สามารถขอเงินคืนผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงได้ง่าย ๆ

ลองใช้ Surfshark โดยไม่มีความเสี่ยงฟรี

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Surfshark

Surfshark ดีไหม?

ใช่ Surfshark เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่มีข้อเสนอมากมาย บริการ Surfshark VPN เป็นบริการที่รวดเร็วและปลอดภัยและมันมาพร้อมกับฟีเจอร์ขั้นสูงมากมายที่ไม่มีการบันทึกข้อมูลใด ๆ เอาไว้ มันใช้เทคโนโลยีสุดล้ำอย่างโปรโตคอล WireGuard VPN และ VPN Kill Switch เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของคุณ มีแอปพลิเคชันพร้อมให้บริการสำหรับระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์หลักทั้งหมด

ฉันสามารถใช้ Surfshark ฟรีได้ไหม?

ได้! แม้ว่า Surfshark จะไม่มีแผนให้บริการฟรี แต่บริการดังกล่าวเสนอเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันหากคุณดาวน์โหลดแอปผ่าน Apple App Store หรือ Google Play Store นอกจากนี้คุณยังสามารถรับบริการ VPN ฟรีเพิ่มต่ออีกหลายเดือนได้จากการแนะนำผู้อื่นด้วย คุณสามารถใช้งานเพิ่มได้ฟรีหนึ่งเดือนเมื่อคุณแนะนำเพื่อนและรางวัลของคุณจะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณแนะนำเพื่อนหลายคน

ตามคำแนะนำทั่วไป ฉันจะขอให้ระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้งาน VPN ฟรี แม้ว่าฉันจะสามารถแนะนำ VPN ฟรี (และปลอดภัย) บางบริการให้ได้ แต่คุณจะพบกับด้วยแบนด์วิดธ์ที่จำกัด ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่น้อยกว่า โฆษณาป๊อปอัพและความเร็วที่ช้าลง การเปิดให้บริการ VPN นั้นมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นจึงไม่มีผู้ให้บริการที่ไว้วางใจได้ที่ไหนจะมอบประสบการณ์คุณภาพให้แบบฟรี ๆ หากมีบริการดังกล่าวจริง ๆ ฉันก็สามารถรับประกันได้เลยว่าคุณกำลังจ่ายเงินในรูปแบบอื่น ฉันเคยเห็นกรณีที่ VPN ที่อันตรายแอบขายประวัติการท่องเว็บ ข้อมูลส่วนบุคคลและแบนด์วิดธ์ของผู้คนเพื่อสร้างรายได้

Surfshark ปลอดภัยจริงไหม?

ใช่ การใช้งาน Surfshark นั้นปลอดภัยจริง ๆ เมื่อคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ ข้อมูลและกิจกรรมทางออนไลน์ของคุณจะได้รับการป้องกันด้วยการเข้ารหัส AES-256-บิต นี่ถือเป็นระดับการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีให้บริการและไม่สามารถถูกเจาะได้

นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดจะทำให้มั่นใจได้ถึงความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของคุณ ไม่มีกิจกรรมการท่องเว็บ รหัสผ่านหรือไฟล์ความลับที่ถูกตรวจสอบหรือบันทึกเอาไว้โดยบุคคลที่สามตอนที่คุณเชื่อมต่อกับ VPN สิ่งนี้รวมถึงตัว Surfshark เองด้วย! ไม่มีใครสามารถแอบดูการกระทำของคุณได้ ดังนั้นความเป็นส่วนตัวของคุณจึงได้รับการป้องกันทางออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ

Surfshark ทำงานร่วมกันกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Netflix และ Amazon Prime Video ได้ไหม?

ได้ ในระหว่างการทดสอบ Surfshark ปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหลัก ๆ ทั้งหมดได้ ซึ่งรวมถึง Netflix, Amazon Prime Video และบริการยอดนิยมอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากคลังข้อมูล Netflix ในสหรัฐอเมริกาแล้ว Surfshark ยังเข้าถึงคลังข้อมูลในประเทศต่าง ๆ เช่น สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่นและอื่น ๆ อีกมากมายได้ สรุปก็คือ Surfshark สามารถเชื่อมต่อกับบริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ กว่า 28 บริการทั่วโลกได้

ฉันสามารถใช้อุปกรณ์มากกว่าหนึ่งอุปกรณ์กับ Surfshark ได้ไหม?

ได้ Surfshark เป็นหนึ่งใน VPN ไม่มากนักที่อนุญาตให้มีการเชื่อมต่อได้แบบไม่จำกัด เราสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์มากมายที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN ตลอดเวลาทิ้งไว้ได้ ใน VPN อื่น ๆ มากมาย เราจะต้องลงชื่อออกเมื่อเราถึงขีดจำกัดจำนวนอุปกรณ์และจากนั้นก็ออนไลน์โดยไม่ได้รับการป้องกันตอนที่เราลืมเชื่อมต่อคืน ด้วย Surfshark ความปลอดภัยของเราได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อความสบายใจของเรา

เปรียบเทียบกับตัวเลือกอื่น
9.8
/ 10
เยี่ยมชม
9.6
/ 10
เยี่ยมชม
9.4
/ 10
เยี่ยมชม
9.4  / 10

พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและข้อตกลงเชิงพาณิชย์ของเรากับผู้ให้บริการด้วย หน้านี้มีลิงก์ affiliate

พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา

Wizcase ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2018 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน Wizcase นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ