ความเร็ว | 7.0 / 10 |
เซิร์ฟเวอร์ | 7.0 / 10 |
เป็นมิตรต่อผู้ใช้ | 8.0 / 10 |
บริการลูกค้า | 7.0 / 10 |
ราคา | 7.0 / 10 |
Hide me VPN รีวิว 2024: สมควรซื้อหรือเปล่า?
ภาพรวม Hide me VPN 2024
hide.me อ้างตนว่าเป็น “VPN ที่รวดเร็วที่สุดและมีการป้องกันความเป็นส่วนตัวที่ดีที่สุดของโลก” แต่ฉันสงสัยว่าจริง ๆ แล้วมันคุ้มค่ากับป้ายราคาดังกล่าวหรือเปล่า
แม้ว่าฉันจะประทับใจกับฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวและนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน แต่ฉันก็ไม่คิดว่ามันทำได้ดีขนาดนั้นในส่วนอื่น ๆ ง่าย ๆ เลยก็คือ hide.me ไม่ได้เป็น VPN ที่รวดเร็วที่สุดซึ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ไม่ดีนักหากคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของโลก มีแผนให้บริการฟรีที่ดีในระดับพอใช้แม้ว่ามันจะจำกัดการใช้งานของคุณที่ 10GB, 1 การเชื่อมต่ออุปกรณ์และ 5 เซิร์ฟเวอร์
ฉันคิดว่ามันยังคุ้มค่าที่คุณจะลองทดสอบด้วยตัวคุณเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากการลองใช้เวอร์ชันพรีเมียมของ hide.me นั้นปราศจากความเสี่ยงด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน คุณจะได้รับเงินคืนอย่างง่ายดายผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงหรืออีเมล (และคุณยังได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงเวอร์ชันฟรีด้วย) ตอนที่ฉันทดสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง พวกเขาใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้นในการคืนเงินเข้าบัญชีของฉัน
ลองใช้ hide.me โดยไม่มีความเสี่ยง
ไม่มีเวลาอ่านใช่ไหม? นี่คือบทสรุปฉบับ 1 นาที
- ปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งยอดนิยม hide.me เข้าถึง Netflix, Amazon Prime Video, Disney+, Hulu และอื่น ๆ อีกมากมายได้ ดูว่าเซิร์ฟเวอร์ใดที่ทำงานได้ดีที่สุด
- ความเร็วที่ดีบ้างไม่ดีบ้าง เซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่นที่รวดเร็ว แต่เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลมีระยะเวลาสะดุดและกระตุกมากมาย คลิกที่นี่เพื่อดูผลลัพธ์การทดสอบความเร็ว
- ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ดี รวมถึงการเข้ารหัสระดับทหาร, การป้องกันการรั่วไหล, Kill Switch รุ่นใหม่, Split Tunneling และอื่น ๆ อีกมากมาย อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับว่าแต่ละฟีเจอร์ทำงานยังไงได้ที่นี่
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด hide.me ไม่ต้องการข้อมูลที่ระบุตัวตนได้ใด ๆ (คุณไม่ต้องกรอกแม้กระทั่งที่อยู่อีเมล) ดูว่า hide.me จะดูแลให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยได้นานแค่ไหน
- เข้ากันได้กับ Windows, iPhone, Mac, Android และอื่น ๆ อีกมากมาย แอปที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้อนุญาตให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ 10 อุปกรณ์ ดูว่า hide.me ทำงานได้เป็นอย่างไรในแต่ละอุปกรณ์
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ย่ำแย่ อีเมลและแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมให้บริการ แต่อย่าคาดหวังคำตอบที่มีประโยชน์มากนักสำหรับคำถามทางเทคนิค อ่านประสบการณ์การขอความช่วยเหลือของฉัน
- แผนให้บริการฟรีและพรีเมียมพร้อมให้บริการ มีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันในแผนให้บริการแบบชำระเงิน ดูว่าคุณจะสามารถประหยัดเงินถึง 70 % ได้อย่างไร
hide.me ปลดบล็อก Netflix, Amazon Prime Video, Hulu, Disney+, HBO Max, BBC iPlayer และอื่น ๆ อีกมากมาย
แผนให้บริการพรีเมียมของ hide.me เสนอเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่ง 9 เซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีมมิ่ง แต่ละเซิร์ฟเวอร์นั้นมีตำแหน่งในประเทศที่เฉพาะเจาะจง – ตำแหน่งดังกล่าวรวมถึงออสเตรเลีย ออสเตรีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชาอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา
ทีมงานและฉันทดสอบเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการสตรีมมิ่งเท่านั้น เซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวปลดบล็อก Netflix, Amazon Prime Video, Hulu, Disney+, HBO Max, BBC iPlayer, DAZN และ ESPN ได้
น่าเสียดายที่บัญชีฟรีของ hide.me ปลดบล็อกได้แค่ Netflix เท่านั้น
Netflix: ปลดบล็อกได้
เซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการสตรีมมิ่งจำนวน 9 เซิร์ฟเวอร์ของ hide.me ปลดบล็อกคลังข้อมูล Netflix ของประเทศทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย แต่ถึงอย่างนั้นความเร็วของเซิร์ฟเวอร์และระยะเวลาการสะดุดนั้นก็แตกต่างกันไปตามตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ ตอนที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งในสหรัฐอเมริกา Stranger Things ก็เล่นในความละเอียดระดับ HD ได้โดยมีการสะดุดเล็กน้อย
Amazon Prime: ปลดบล็อกได้
Amazon Prime Video ยังเล่นได้โดยไม่มีปัญหาในเซิร์ฟเวอร์ใด ๆ ของ hide.me ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในเยอรมนีและ The Boys ก็เล่นในคุณภาพระดับ HD ได้โดยไม่สะดุดหรือกระตุก
Hulu: ปลดบล็อกได้
เซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะกับการสตรีมในสหรัฐอเมริกาของ hide.me ทำงานร่วมกับ Hulu ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ ภาพยนตร์ Palm Springs สตรีมด้วยคุณภาพสูงตั้งแต่ต้นจนจบ การเชื่อมต่อมีความเสถียรตลอดเวลา ดังนั้นการสตรีมจึงไม่เคยถูกขัดจังหวะ
Disney+: ปลดบล็อกได้
ระหว่างการทดสอบของฉัน hide.me ปลดบล็อกเนื้อหาของ Disney+ ได้อย่างรวดเร็ว The Mandalorian สตรีมในความละเอียดระดับ UltraHD ได้โดยไม่สะดุด
HBO Max: Unblocked
เซิร์ฟเวอร์ของ hide.me สำหรับการสตรีมมิ่งในสหรัฐอเมริกาทำงานร่วมกันกับ HBO Max ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่เคยมีความเร็วที่ล่าช้าหรือคุณภาพที่ลดลงเลยในตอนที่ฉันเชื่อมต่อ
BBC iPlayer: ปลดบล็อกได้
ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักรและฉันก็สามารถใช้ hide.me เพื่อรับชมรายการใด ๆ บนแพลตฟอร์มได้โดยไม่กระตุก ความเร็วของฉันนั้นรวดเร็วมาก ดังนั้นการสตรีมของฉันจึงโหลดภายใน 5 วินาที คุณภาพวิดีโอก็สมบูรณ์แบบทันทีที่การแข่งขันประจำวันเริ่มเล่น
DAZN: ปลดบล็อกได้ (เยอรมนีและอิตาลี)
แม้ว่าเซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีมมิ่งของ hide.me จะปลดบล็อก DAZN เยอรมนีและอิตาลีได้สำเร็จ แต่คุณภาพวิดีโอนั้นผันผวนอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีสะดุดสองสามนาทีก่อนที่สตรีมจะเริ่มเล่น
ความเร็ว
- 7.0 / 10hide.me รวดเร็วไหม? มันก็แล้วแต่
ตอนที่ฉันทดสอบเซิร์ฟเวอร์ของ hide.me ทั่วโลก ฉันได้รับผลลัพธ์ที่ทั้งดีและไม่ดี ความเร็วนั้นช้ามาก ๆ ในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล แต่เท่ากับความเร็วปกติของฉันในเซิรืฟเวอร์ที่อยู่ใกล้กับตำแหน่งที่แท้จริงของฉัน นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเพราะความเสถียรและความไว้วางใจได้นั้นเป็นสิ่งที่ฉันให้ความสำคัญใน VPN
ผู้ใช้พรีเมียมแอป Windows ของ hide.me สามารถเพิ่มความเร็วได้โดยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ “Bolt” ฉันพบว่าฟีเจอร์นี้ใช้งานได้เป็นบางครั้ง แต่มันช่วยยกระดับการเข้าชมของฉันได้ถึง 4-5% ในหลาย ๆ เซิร์ฟเวอร์
VPN ส่วนใหญที่มีแผนให้บริการฟรีนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อลดถอนความเร็วของคุณ แต่เซิร์ฟเวอร์ฟรีของ hide.me เสนอความเร็วที่เท่ากันกับเซิร์ฟเวอร์ปกติ ดังนั้นในตอนที่ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ฟรีใกล้ฉัน ฉันสามารถใช้ hide.me เพื่อ Torrent ไฟล์ขนาดใหญ่และเล่นเกมโดยไม่กระตุกได้โดยไม่มีปัญหา
ผลการทดสอบความเร็ว
แบบทดสอบของฉันแสดงให้เห็นว่า hide.me มีความเร็วที่เสถียรในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้กับตำแหน่ของฉันมากที่สุดในสหราชอาณาจักร ความเร็วของฉันช้าลงสูงสุดถึง 6% เท่านั้นเพราะ hide.me เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดในประเทศให้กับฉันโดยอัตโนมัติ
ความเร็วของฉันลดลงมากกว่า 60% ตอนที่ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในญี่ปุ่นและออสเตรเลียซึ่งอยู่ห่างจากฉันมากกว่า 9,000 กม. แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ประหลาดใจที่เซิร์ฟเวอร์ในแคนาดาและสหรัฐอเมริกานั้นช้ากว่าความเร็วปกติของฉันเพียง 28-30% เท่านั้นในขณะที่ VPN อื่น ๆ ที่ฉันทดสอบนั้นไม่ได้มีความเร็วมากขนาดนี้ในตำแหน่งเหล่านี้
ฉันโล่งใจที่ความเร็วของฉันไม่เปลี่ยนไปในตอนที่ฉันสลับไปยังบัญชีฟรี ฉันกังวลเนื่องจากตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กจำนวน 5 เซิร์ฟเวอร์โดยทางทฤษฎีแล้วมันจะมีอัตราการโหลดของผู้ใช้สูง แต่ตำแหน่งฟรีทั้งหมดเหล่านี้มอบผลลัพธ์ที่คล้ายกันกับที่ฉันได้รับจากเซิร์ฟเวอร์พรีเมียมซึ่งหมายความว่า hide.me ไม่ได้จำกัดความเร็วเพื่อกระตุ้นให้คุณอัปเกรด – แนวทางปฏิบัติที่ VPN ฟรีอื่น ๆ ทั่วไปทำกัน
ในฐานะผู้สมัครสมาชิกแบบพรีเมียมและผู้ใช้งาน Windows คุณสามารถกระตุ้นความเร็วของคุณได้ตอนที่คุณเปิดใช้งานฟีเจอร์ Bolt ของ hide.me สิ่งนี้ถูกโปรแกรมมาให้มอบความเร็วที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการสตรีมมิ่งและ Torrenting และใช้งานได้ในการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ฉันพบว่ามันทำงานไม่ดีนักอย่างที่ฉันคาดหวังเอาไว้ เนื่องจากความเร็วของฉันบางครั้งก็ดีกว่าตอนที่ไม่ได้เปิดใช้งาน Bolt แต่ถึงอย่างนั้นมันก็อาจมีประโยชน์หากความเร็วปกติของคุณค่อนข้างช้า
ตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ |
ความเร็วขณะที่เปิดใช้งาน Bolt |
ความเร็วขณะที่เปิดไม่ได้ใช้งาน Bolt |
ความเร็วขณะที่ไม่ใช้ VPN |
สหราชอาณาจักร |
73.98Mbps |
68.14Mbps |
75Mbps |
เยอรมนี |
73.48Mbps |
70.93Mbps |
|
อิตาลี |
58.24Mbps |
69.20Mbps |
|
สหรัฐอเมริกา |
60.46Mbps |
64.94Mbps |
|
ญี่ปุ่น |
36.91Mbps |
36.12Mbps |
|
ออสเตรเลีย |
32.41Mbps |
35.78Mbps |
ความเร็วในการเล่นเกม – ล็อบบี้ที่ไม่กระตุกเนื่องจากเวลาหน่วงต่ำและความเร็วสูงที่เสถียร
ฉันเล่นเกมออนไลน์ตลอดเวลา ดังนั้นฉันจึงมีความสุขที่ hide.me ให้ฉันหลีกเลี่ยงการกระตุกใน Warzone, Forza Horizon 4, Counter-Strike, Among Us และล็อบบี้ออนไลน์อื่น ๆ ได้ ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักรและทดสอบเกมที่มีแนวโน้มว่าจะใช้แบนด์วิดธ์ส่วนใหญ่ ฉันตกใจที่ฉันไม่ต้องรับมือกับหน้าจอค้างหรือสะดุดเลย – แชทออนไลน์เองก็ชัดเจนมาก ๆ ด้วย
ฉันยังทดสอบเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างจากฉันและเพราะเวลาแฝงของ hide.me เพิ่มขึ้นในตอนที่คุณเชื่อมต่อกับตำแหน่งที่อยู่ห่างไกล จึงมีการแทรกแซงแชทและกระตุกอยู่บ้าง การแทรกแซงเหล่านี้ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น แต่มันอาจก่อให้เกิดความหงุดหงิดอยู่บ้างได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่พยายามจะยิงเป้าดี ๆ
ความสำคัญของความเร็วและสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก VPN?
ความเร็วถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเมื่อเลือก VPN ซึ่งความเร็วในการใช้ VPN จะมาพร้อมกับค่าใช้ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยิ่ง VPN มีความเร็วมากเท่าใด คุณยิ่งจะสามารถเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดของเน็ตเวิร์คของคุณได้มากเท่านั้น เวลา Ping มีความสำคัญเทียบเท่ากับความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดสำหรับการสตรีมมิ่ง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความเร็วในการรับข้อมูล เวลา ping ที่น้อยกว่าและแบนด์วิธในการดาวน์โหลดที่สูงจะช่วยให้การสตรีมมิ่งเป็นไปได้อย่างไม่มีสะดุด การใช้เวลาในการเชื่อมต่อที่สั้นกว่าจะช่วยป้องกันความวุ่นวาย ส่วนการเชื่อมต่อที่เสถียรถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่งหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ
เซิร์ฟเวอร์
- 7.0 / 10เครือข่ายของเซิร์ฟเวอร์ – การครอบคลุมที่แข็งแกร่งในตำแหน่งยอดนิยม
hide.me มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ด้วยเซิร์ฟเวอร์ 2,400 เซิร์ฟเวอร์ใน 55 ประเทศ เช่นเดียวกันกับ VPN พรีเมียมส่วนใหญ่ hide.me มีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ในภูมิภาคยอดนิยมมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ผิดหวังเกี่ยวกับความบกพร่องในเรื่องของความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ หากคุณต้องการตัวเลือกมากกว่านี้ HMA มีการเชื่อมต่อใน 30 ประเทศซึ่งรวมถึงตำแหน่งที่หาได้ยากอย่างปารากวัย แอลจีเรียและเลบานอน
บริษัทเป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์ hide.me ทั้งหมด สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวของคุณเนื่องจากไม่มีบุคคลที่สามที่สามารถเข้าถึงข้อมูลใด ๆ ของคุณได้
แม้ว่า hide.me จะมีเซิร์ฟเวอร์ 2,400 เซิร์ฟเวอร์ แต่แผนให้บริการฟรีให้คุณใช้งานได้เพียง 5 เซิร์ฟเวอร์เท่านั้น ตัวเลือกที่พร้อมให้บริการอยู่ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนีและเนเธอร์แลนด์
hide.me เหมาะสำหรับการ Torrenting? (พอใช้ได้)
ด้วยการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งและการป้องกันการรั่วไหลของ IP hide.me สนับสนุนการ Torrenting ในเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด (ซึ่งรวมถึงตำแหน่งฟรี) ตอนที่ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในละแวกใกล้เคียง ฉันสามารถดาวน์โหลดไฟล์ขนาด 30GB ได้ภายในเวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่คุณจะเริ่มต้น Torrenting ด้วย VPN อย่าลืมตรวจสอบให้มั่นใจว่าไฟล์ที่คุณกำลังดาวน์โหลดนั้นไม่มีลิขสิทธิ์
แม้ว่าผู้ให้บริการจะไม่ได้มี Port Forwarding มาตรฐานมาให้เนื่องจากความกังวลในเรื่องของความปลอดภัย แต่ฉันก็สามารถเปิดใช้งาน Port Forwarding แบบไดนามิก (หรือที่รู้จักกันในชื่อ UPnP) ด้วยตัวเองได้ในบัญชี hide.me ของฉัน สิ่งนี้เชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์และ Seeder P2P ของฉันโดยตรง ดังนั้นไฟล์ของฉันจึงถูกดาวน์โหลดเร็วกว่าปกติ Port Forwarding แบบไดนามิกพร้อมให้บริการเฉพาะสำหรับผู้สมัครสมาชิกพรีเมียมเท่านั้นและคุณสามารถเปิดใช้งานมันได้ใต้แท็บ “Fixed IP/UPnP” ในการตั้งค่าบัญชีของคุณ
hide.me ยังมาพร้อมกับพร็อกซี SOCKS ซึ่งสามารถกระตุ้นความเร็วในการดาวน์โหลดของคุณได้ด้วย นั่นเป็นเพราะพร็อกซีเปลี่ยนเส้นทางการเข้าชมของคุณไปผ่านเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งซึ่งช่วยลดระยะเวลาที่จำเป็นสำหรับไคลเอนต์ Torrent ของคุณในการเชื่อมต่อกับ Seeder ตอนที่ฉันทดสอบฟีเจอร์นี้ ระยะเวลา Torrenting ของฉันลดลง 10 นาที แต่ถึงอย่างนั้น พร็อกซี SOCKS ก็ใม่ได้มอบการเข้ารหัสใด ๆ ดังนั้นจึงควรใช้มันควบคู่ไปกับการเชื่อมต่อ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงภัยคุกคามทางออนไลน์อย่างแฮกเกอร์และมัลแวร์
หากคุณวางแผนที่จะใช้เซิร์ฟเวอร์ฟรี โปรดทราบว่าแผนให้บริการฟรีของ hide.me จะจำกัดการใช้งานข้อมูลรายเดือนของคุณที่ 10GB นี่เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่ใจกว้างมาก ๆ ในหมู่ VPN ฟรี แต่การดาวน์โหลดไฟล์ทุกวันจะทำให้คุณไปถึงขีดจำกัดอย่างรวดเร็ว
เคล็ดลับที่มีประโยชน์: เพื่อให้ได้รับความปลอดภัยและความเร็วมากที่สุด ให้เปิดใช้งาน Stealth Guard, พร็อกซี SOCKS และ Kill Switch ก่อนที่คุณจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ hide.me
hide.me ทำงานในประเทศจีนได้ไหม? (ไม่ได้)
hide.me ไม่สามารถทำงานในประเทศจีนได้แม้ในตอนที่ใช้ฟีเจอร์ Multihop สำหรับการไม่เปิดเผยตัวตนเพิ่มเติมแล้วก็ตาม เว็บไซต์ยังแม้แต่ระบุด้วยว่า hide.me ไม่สามารถรับประกันการเชื่อมต่อที่ไว้วางใจได้และแนะนำให้สุ่มตรวจเซิร์ฟเวอร์
สิ่งนี้แค่ทำให้คุณเสียเวลา หากคุณต้องการ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ออนไลน์ในประเทศจีน คุณควรใช้ VPN ที่มีความสามารถที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าหลีกเลี่ยงข้อจำกัดที่เข้มงวดได้ จากการทดสอบอย่างเข้มงวด ทีมงานของฉันพบว่ามีเพียง ExpressVPN, PrivateVPN และ Astrill VPN เท่านั้ที่ยังสามารถทำงานในประเทศจีนได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็โปรดทราบว่าการไม่เปิดเผยตัวตนทางออนไลน์ที่ VPN มอบให้คุณนั้นไม่ได้ให้สิทธิ์กับคุณในการใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ในทางที่ผิดกฎหมาย
ฟีเจอร์ความปลอดภัย
การเข้ารหัสที่มีความปลอดภัยสูงสำหรับความปลอดภัยชั้นนำในทุกการเชื่อมต่อ
ด้วยการเข้ารหัส AES 256-บิต hide.me จึงป้องกันข้อมูลของคุณและเส้นทางการเข้าชมอินเทอร์เน็ตแม้กระทั่งใน WiFi สาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพ พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือหมายเลขการเข้ารหัส (‘256’ ในกรณีนี้) แสดงให้เห็นถึงความยาวของคีย์ที่จำเป็นต้องมีเพื่อถอดรหัสข้อมูลของคุณ ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องใช้คีย์ถอดรหัสยาวมากเท่านั้น หากใครสักคนพยายามทำลายการเข้ารหัสของ hide.me ด้วยกำลัง (การสุ่มเดาตัวเลขอย่างต่อเนื่อง) พวกเขาจะต้องใช้ความพยายามถึง 2255 ในการคาดเดา ปัจจุบันการเข้ารหัสนี้เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยมากที่สุด
นอกเหนือจากการเข้ารหัสข้อมูลของคุณที่ปลอดภัยแล้ว hide.me ยังใช้คีย์ 4096- และ 8192-บิตที่ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ของคุณและเซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถถูกทำลายได้ ตัวเลือก RSA สองตัวเลือกเหล่านี้จัดว่าเหนือกว่า 2048 บิตที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม และคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งเนื่องจาก hide.me ปรับใช้คีย์ RSA ที่เหมาะสมให้โดยอัตโนมัติโดยอ้างอิงตามโปรโตคอล VPN ที่คุณกำลังใช้งาน
เพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม hide.me ใช้ Perfect Forward Secrecy (PFS) ซึ่งสร้างคีย์เข้ารหัสใหม่ทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ ระบบจะลบคีย์ดังกล่าวออกตอนที่คุณสิ้นสุดเซสชัน ดังนั้นจึงไม่เปิดโอกาสให้ใครก็ตามมาแฮกมันได้
ด้วยฟีเจอร์ทั้งหมดเหล่านี้หมายความว่าคุณสามารถไว้วางใจ hide.me ให้ป้องกันข้อมูลจองคุณในการเชื่อมต่อใด ๆ ได้ คุณยังไม่ต้องคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าด้วยตัวคุณเองเพื่อเพิ่มความปลอดภัยด้วย – hide.me จะจัดการทั้งหมดให้คุณเองโดยอัตโนมัติ
ความกังวลเพียงอย่างเดียวของฉันคือ hide.me ระบุว่าคุณจะได้รับการเข้ารหัสสูงสุดถึง 256-บิตซึ่งหมายความว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงการเข้ารหัสโดยขึ้นอยู่กับความต้องการในการรับส่งข้อมูลของคุณ ระบบจะกำหนดการเข้ารหัสโดยอัตโนมัติและขึ้นอยู่กับโปรโตคอล VPN ที่คุณเลือก ไม่มีตัวเลือกในการเปลี่ยนแปลงมันด้วยตัวเองซึ่งถือเป็นเรื่องน่ารำคาญเพราะการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งกว่ามีแนวโน้มที่จะชะลอความเร็วของคุณลงซึ่งมันไม่เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่งอยู่เสมอไป
5 โปรโตคอล VPN ซึ่งรวมถึง OpenVPN, WireGuard และ IKEv2
hide.me ทำให้ฉันประทับใจด้วยโปรโตคอล Tunneling ที่ปลอดภัยถึง 5 ตัวเลือกซึ่งอาชนะบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมอย่าง ExpressVPN และ CyberGhost ได้อย่างง่ายดาย ในระหว่างการทดสอบของฉัน ฉันสามารถสลับระหว่างโปรโตคอลดังต่อไปนี้ได้ ทั้งหมดนี้ต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย:
- IKEv2 – มอบการรับส่งข้อมูลที่เสถียรและปลอดภัย แต่มีแนวโน้มว่าจะถูกไฟร์วอลล์ปิดกั้น
- OpenVPN – โปรโตคอลมาตรฐานอุตสาหกรรมที่มาพร้อมกับความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและความเร็วที่รวดเร็วจนเกือบจะเท่ากับอินเทอร์เน็ตปกติของคุณ
- SoftEther VPN – หนึ่งในโปรโตคอลที่มีความปลอดภัยมากที่สุดซึ่งหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ออนไลน์ได้อย่างง่ายดายในขณะที่มอบความเร็วที่ดี แต่ไม่พร้อมให้บริการบนอุปกรณ์มือถือ
- WireGuard – ตัวเลือกยอดนิยมที่มีความเร็วดีที่สุด ความปลอดภัยชั้นนำและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนา
- Secure Socket Tunneling Protocol (SSTP) – ผสานรวมการรับส่งข้อมูล SSL และ TCP เพื่อแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อและความเร็วใด ๆ แต่มี Microsoft เป็นเจ้าของซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลในเรื่องของความเป็นส่วนตัว
หากคุณไม่มั่นใจว่าควรเลือกตัวเลือกไหนดี hide.me สามารถเลือกโปรโตคอลให้คุณโดยอัตโนมัติได้โดยวิเคราะห์การเชื่อมต่อของคุณ การตั้งค่า “อัตโนมัติ” จะถูกเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นตอนที่คุณติดตั้ง hide.me แต่หากคุณต้องการเปลี่ยน ตัวเลือกโปรโตคอลแต่ละตัวเลือกก็มีคำอธิบายที่เข้าใจง่ายอยู่ข้างใต้ตัวเลือก
hide.me ยังให้คุณเลือกโปรโตคอลที่สองในรูปแบบของ “การตั้งค่าทางเลือก” ได้ด้วยหาโปรโตคอลหลักเกิดล้มเหลว แม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่การมีแผนสำรองดี ๆ เอาไว้ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าการรับส่งข้อมูลของคุณจะได้รับการป้องกันในระดับเดียวกัน (หรือใกล้เคียงกันมาก ๆ)
น่าเสียดายที่ตัวเลือกโปรโมคอลนั้นจะแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่คุณใช้งาน โปรโตคอล SSTP และ SoftEther VPN เช่นเดียวกันกับการค่างทางเลือกพร้อมให้บริการเฉพาะบน Windows เท่านั้น
การป้องกันการรั่วไหล – ไม่พบการรั่วไหลของ IP, DNS หรือ WebRTC
จากการทดสอบโดยละเอียด ฉันพบว่า hide.me ไม่ทำให้หมายเลข DNS, IPv4, IPv6 หรือ WebRTC รั่วไหลในเซิร์ฟเวอร์ใด ๆ ฉันใช้ ipleak.net และเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ออสเตรีย แคนาดาและสหรัฐอเมริกา ทุกครั้งที่ฉันดำเนินการทดสอบ ผลลัพธ์จะแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์และ IP ของ hide.me แทนที่จะเป็นของฉัน นี่หมายความว่า hide.me ป้องกันเซสชันทั้งหมดของฉันจากการสอดแนมจากแฮกเกอร์หรือนักโฆษณาได้จริง
ฉันยังได้รับการป้องกันจากการรั่วไหลของข้อมูลตอนที่ฉันใช้บัญชีฟรีเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ hide.me ด้วย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับความปลอดภัย ดังนั้นข้อมูลของคุณจึงปลอดภัยตลอดเวลาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Kill Switch ขั้นสูง – ป้องกันข้อมูลของคุณโดยไม่ปิดการใช้งานการรับส่งข้อมูลของคุณ
hide.me ใช้ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ที่ทำให้ Kill Switch มีประสิทธิภาพมากกว่าผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ในตอนแรกฉันคิดว่า Kill Switch ของ hide.me ทำงานได้ไม่ดีนักเพราะผู้ให้บริการไม่ได้ตัดการเชื่อมต่อของฉันตอนที่ฉันสลับเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ – แต่ฉันคิดผิด
แทนที่จะปิดอะแดปเตอร์เครือข่ายของคุณ Kill Switch กลับทำงานเหมือนกับไฟร์วอลล์และปิดกั้นการรับส่งข้อมูลที่มาจากนอกการเชื่อมต่อ VPN สิ่งนี้ช่วยป้องกันการรั่วไหลโดยไม่ได้ตั้งใจในระหว่างขาดการเชื่อมต่อซึ่งโดยทางเทคนิคแล้วก็ยังเป็นไปได้ด้วย Kill Switch ปกติ (แม้ว่าจะน่าสงสัยก็ตาม)
โปรดทราบว่า Kill Switch จะถูกปิดการใช้งานเอาไว้โดยค่าเริ่มต้น ดังนั้นคุณต้องเปิดใช้งานมันทันทีที่คุณติดตั้ง hide.me บนอุปกรณ์ของคุณ
แอป iOS ของ hide.me ไม่มี Kill Switch แต่ VPN ส่วนใหญ่ก็ไม่มี ดังนั้น hide.me จึงไม่ได้ทำให้ฉันประหลาดใจในเรื่องนั้น ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ CyberGhost เพราะมันเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการไม่มากนักที่ฉันใช้ Kill Switch บน iOS ได้ ดังนั้น iPhone หรือ iPad ของคุณจึงปลอดภัยตลอดเวลาด้วยเช่นกัน
Stealth Guard – ป้องกันแอปที่เฉพาะเจาะจงหรือเครือข่ายทั้งหมดของคุณ
Stealth Guard มอบการป้องกันเพิ่มเติมให้กับคุณโดยการปิดกั้นแอปในตอนที่คุณไม่ได้เชื่อมต่อกับ hide.me คุณมี 2 ตัวเลือกตอนที่คุณเปิดใช้งานมัน คุณสามารถปิดกั้นแอปที่เฉพาะเจาะจงหรือคุณสามารถปิดกั้นแอปทั้งหมดเลยก็ได้
ไม่สำคัญว่าคุณจะชำระเงินค่าสมัครสมาชิกของคุณหรือไม่เพราะ hide.me ให้คุณใช้ Stealth Guard ในแผนให้บริการฟรีด้วยเช่นกัน ถือเป็นข้อเสนอที่หาได้ยากเนื่องจาก VPN ฟรีส่วนใหญ่จำกัดฟีเจอร์ความปลอดภัยที่โดดเด่นที่คุณสามารถใช้งานได้เพื่อบังคับให้คุณอัปเกรด เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวทำให้ hide.me เป็นตัวเลือกที่ควรลองใช้งานดูแม้ว่าจะมีข้อจำกัดในบัญชีฟรีอยู่บ้างก็ตาม
Multihop Double VPN เพิ่มความเป็นส่วนตัวของคุณให้สูงสุด
hide.me ให้คุณเปลี่ยนเส้นทางของคุณไปผ่านหลายเซิร์ฟเวอร์ได้ในครั้งเดียวซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการปลดบล็อกเว็บไซต์ที่ดื้อดึง Double VPN จะห่อหุ้นเส้นทางการเข้าชมของคุณในความปลอดภัยแบบ 2 ชั้น – ข้อมูลขาออกของคุณจะได้รับการเข้ารหัสจากเซิร์ฟเวอร์แรกและข้อมูลขาเข้าของคุณจะได้รับการเข้ารหัสจากเซิร์ฟเวอร์ที่สอง
สามารถปรับแต่งฟีเจอร์ Multihop ได้ คุณสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ขาเข้าและเซิร์ฟเวอร์ขาออกจากประเทศใดก็ได้ในรายการเซิร์ฟเวอร์ (ซึ่งรวมถึงเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการสตรีมมิ่ง)
น่าเสียดายที่ Multihop พร้อมให้บริการเฉพาะในการสมัครสมาชิกพรีเมียมเท่านั้น
Split Tunneling – พร้อมให้บริการบน Windows, Android, macOS และเราเตอร์
มีฟีเจอร์ Split Tunneling สำหรับ Windows, Android, macOS และเราเตอร์ Split Tunneling เป็นฟีเจอร์ที่ให้คุณเลือกแอปที่เฉพาะเจาะจงที่จะใช้การรับส่งข้อมูล VPN
มันเป็นส่วนเสริมที่ดีหากคุณควบคุมอุปกรณ์ LAN ใด ๆ อยู่ (เช่น เครื่องพิมพ์) ผ่าน WiFi ของคุณหรือต้องการที่จะท่องเว็บภายในประเทศ เช่น การธนาคารหรือข่ายสารในขณะที่ Torrenting หรือสตรีมมิ่งไปด้วย
น่าเสียดายที่ฟีเจอร์นี้ไม่พร้อมให้บริการบน iPhone หรือ iPad เนื่องจากมันไม่ได้รับการรองรับจากแพลตฟอร์ม iOS
พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ฟรี – ฟีเจอร์โบนัสในแผนให้บริการระยะยาว
hide.me ร่วมมือกับ Internxt Drive เพื่อมอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 2TB ให้กับผู้สมัครสมาชิก Internxt เป็นผู้ให้บริการแบบความรู้เป็นศูนย์ซึ่งหมายความว่าเอกสารทั้งหมดของคุณจะได้รับการเข้ารหัสด้วยคีย์ส่วนบุคคลเพื่อที่จะได้ไม่มีใคร (ไม่แม้แต่ Internxt) ที่สามารถดูไฟล์ใด ๆ ของคุณได้
ข้อเสนอนี้พร้อมให้บริการกับแผนสมัครสมาชิกแบบ 1 ปีและ 2 ปีและคุณจะต้องแลกรับรหัสเพื่อเข้าถึงบัญชี Internxt Drive ของคุณ ฉันยังต้องกรอกรายละเอียดชำระเงินของฉันเพื่อสร้างบัญชีด้วย แต่ Internxt Drive ไม่ได้เรียกเก็บเงินจากบัตรของฉัน
ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัว
นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน – ไม่มีการเก็บข้อมูลการท่องเว็บเอาไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของ hide.me
ตามนโยบายความเป็นส่วนตัว hide.me ไม่มีวันเก็บข้อมูลเกี่ยวกับอะไรก็ตามที่สามารถระบุตัวตนของคุณได้ทันที นี่รวมถึงลักษณะนิสัยการท่องเว็บ ตำแหน่งทางกายภาพ หมายเลข IP เดิมและชื่อ-นามสกุล
แม้ว่า VPN มากมายจะโกหกเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ แต่นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานของ hide.me ได้รับการยืนยันด้วยรายงานการตรวจสอบประจำปีที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ รายงานนี้เปิดให้สาธารณะเข้าดูและระบุจำนวนคำขอทางกฎหมายที่ได้รับตั้งแต่ปี 2013 รายงานแสดงให้เห็นว่า hide.me บอกเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีอะไรให้แบ่งปันเพราะพวกเขาไม่ได้จัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้
แต่ถึงอย่างนั้น hide.me ก็เก็บที่อยู่อีเมลของคุณเอาไว้ในเวอร์ชันที่เข้ารหัส เช่นเดียวกันกับชื่อผู้ใช้ที่มอบหมายให้แบบสุ่ม หมายเลข IP ของ VPN และปริมาณข้อมูลที่คุณใช้ แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็สามารถลบที่อยู่อีเมลของคุณจากบัญชีของคุณได้หลังจากที่คุณสมัครสมาชิกแล้ว หากคุณไม่ต้องการให้ข้อมูลใด ๆ เลยในเซิร์ฟเวอร์ของ hide.me การบันทึกข้อมูลเล็กน้อยถือเป็นแนวทางปฏิบัติทั่วไปแม้แต่สำหรับ VPN ที่ปลอดภัยที่สุดอย่าง ExpressVPN และ CyberGhost
ฉันดีใจที่ได้เห็นว่า hide.me มีความมุ่งมั่นที่จะสอนผู้ใช้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต พวกเขาเข้าร่วมใน i2Coalition นี่เป็นส่วนหนึ่งของ VPN Trust Initiative (VTI) ซึ่งตรวจสอบสมาชิกและผู้ให้บริการอื่น ๆ ในตลาดเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาให้ความสนใจกับความปลอดภัยของผู้ใช้มากกว่าเงินกำไร เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ hide.me จึงต้องพิสูจน์ว่าพวกเขาโปร่งใสอย่างแท้จริงในเรื่องเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติและแบ่งปันผลลัพธ์การตรวจสอบ นอกจาก hide.me แล้ว i2Coalition ยังมีบริการที่โดดเด่นอื่น ๆ ด้วย เช่น ExpressVPN, IPVanish และ PureVPN
เขตอำนาจศาลของบริษัท – กฎหมายมาเลเซียป้องกันนโยบายความเป็นส่วนตัวของ hide.me
สำนักงานใหญ่ของ hide.me ตั้งอยู่ในมาเลเซีย ตำแหน่งนี้ถือเป็นตำแหน่งที่ดีเนื่องจากกฎหมายมาเลเซียไม่ต้องการให้ hide.me เก็บบันทึกผู้ใช้บางส่วน นอกจากนี้มาเลเซียยังอยู่นอกกลุ่มแบ่งปันข่าวกรองขนาดใหญ่ เช่น 5-, 9- และ 14-Eyes (ซึ่งมีประเทศอเมริกาเหนือและยุโรปบางประเทศ) ดังนั้นหากผู้ให้บริการได้รับคำขอให้แบ่งปันข้อมูลของผู้ใช้เพื่อสนับสนุนการสืบสวนอาชญากรรม พวกเขาก็ไม่มีไฟล์ที่จะส่งให้ซึ่งทำให้ข้อมูลของคุณเป็นส่วนตัวโดยสมบูรณ์
การตรวจสอบอิสระ – นโยบายความเป็นส่วนตัวที่ได้รับการยืนยันแล้วยืนยันถึงความโปร่งใสอย่างเต็มรูปแบบ
hide.me ผ่านการตรวจสอบอิสระที่ดำเนินการโดยนักวิเคราะห์ความปลอดภัยที่มีชื่อเสียงอย่างมากจาก DefenseCode LTD, Leon Juranic ในปี 2015 รายงานยืนยันว่า hide.me ไม่ได้บันทึกกิจกรรมหรือข้อมูลของผู้ใช้เอาไว้ในเซิร์ฟเวอร์
การตรวจสอบจากบุคคลที่สามเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการค้นหาว่า VPN กำลังพูดความจริงเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวไหม โดยปกติแล้วจะดำเนินการโดยบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำที่รู้ว่าต้องมองหาอะไร hide.me เป็นคนนำสิ่งนี้เข้ามาในอุตสาหกรรมเพราะมันเป็นผู้ให้บริการแรกในตลาดที่อาสาให้บุคคลที่สามเข้ามาตรวจสอบ – และนี่ก็ทำให้ฉันเชื่อว่าพวกเขาไม่มีอะไรจะต้องปิดบัง
ตำแหน่งของเซิฟเวอร์
เป็นมิตรต่อผู้ใช้
- 8.0 / 10การเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน – ให้คุณลงชื่อเข้าใช้บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน
hide.me รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ 10 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกันซึ่งถือว่ามากกว่าที่ VPN พรีเมียมมากมายเสนอให้ นี่หมายความว่าคุณสามารถใช้ฟีเจอร์ของ hide.me ส่วนใหญ่ได้โดยการติดตั้งมันลงบนอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ
ฉันคิดว่าความเร็วอาจลดลงตอนที่ฉันเชื่อมต่อในหลาย ๆ อุปกรณ์ – แต่ hide.me ดูแลให้ความเร็วของฉันเร็วอย่างเท่าเทียมแม้ในตอนที่ฉันใช้การเชื่อมต่อสูงสุด ฉันใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อรับชมเนื้อหา BBC iPlayer ในความละเอียดระดับ HD ได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่สะดุด ขณะที่ Torrenting ไฟล์ขนาดใหญ่อีก 2 ไฟล์และพูดคุยกับเพื่อผ่านวิดีโอแชท ฉันไม่พบการแทรกแซงใด ๆ เลยซึ่งทำให้ hide.me เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการทำงานหลายอย่าง
แต่ถึงอย่างนั้นแผนให้บริการฟรีของ hide.me ก็ทำงานได้ใน 1 อุปกรณ์ต่อครั้งเท่านั้น นี่ถือเป็นข้อจำกัดมาก ๆ และอาจเป็นเรื่องน่ารำคาญหากคุณมักสลับเปลี่ยนอุปกรณ์ของคุณอยู่บ่อย ๆ
หากคุณคิดว่า 10 การเชื่อมต่อนั้นไม่เพียงพอ IPVanish อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเนื่องจากมันไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์ที่คุณสามารถใช้ในเวลาเดียวกัน IPVanish ยังมีราคาที่ถูกกว่า hide.me ด้วยที่ราคา $3.00 /เดือน
ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ – ทำงานบนระบบปฏิบัติการยอดนิยมได้ แต่ไม่สามารถทำงานบนสมาร์ททีวีหรือเกมคอนโซลได้มากนัก
เพื่อทำให้การเชื่อมต่อในเวลาเดียวกันของคุณสูงสุด hide.me ให้คุณตั้งค่าการเชื่อมต่อ VPN บน:
- อุปกรณ์มือถือ: iOS 11 หรือใหม่กว่า, Android 6.0 หรือเก่ากว่าและ Blackberry
- PC: Windows 10, Windows 8, Windows 7, Windows XP, Windows Vista, macOS 10.15 หรือมากกว่าและ Linux Ubuntu และ Fedora 24+
- สมาร์ททีวี: Android TV และ Amazon Fire TV
- อุปกรณ์แคสต์ติ้งและสตรีมเมอร์: Amazon Firestick และ Kodi (LibreELEC และ OpenELEC)
- เราเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ: AsusWRT, Netgear, OpenWRT, Tomato, DD-WRT, TP-Link, pfSense, Linksys, Synology, Mikrotik และ QNAP
มันไม่ได้มีความเข้ากันได้ที่กว้างขวางที่สุดที่ VPN สามารถเสนอให้ได้ แต่ก็มากเพียงพอที่จะทำให้ผู้ใช้ทั่วไปพึงพอใจ คุณสามารถเชื่อมต่อกับ PC, อุปกรณ์มือถือและอื่น ๆ อีกมากมายได้อย่างสะดวกสบาย
hide.me ยังทำงานบน Linux ได้อีกด้วยเนื่องจากแอปพร้อมให้บริการในรูปแบบของไฟล์โอเพ่นซอร์สบน Github แต่ถึงอย่างนั้น เวอร์ชัน Linux ก็มีแค่โปรโตคอล WireGuard เท่านั้น ดังนั้นการรับส่งข้อมูลของคุณจึงปลอดภัยมาก ๆ แต่คุณจะไม่สามารถปรับแต่งการเชื่อมต่อตามความต้องการของคุณได้
ที่น่ารำคาญคือ hide.me ไม่มี Smart DNS ดังนั้นคุณจะต้องตั้งค่า VPN ของคุณบนเราเตอร์เพื่อใช้มันบนเกมคอนโซลและอุปกรณ์สตรีมมิ่งอย่าง Roku หรือ Chromecast โชคดีที่บริการดังกล่าวเข้ากันได้กับเราเตอร์มากมายและติดตั้งได้ง่ายมาก ๆ
การติดตั้ง hide.me ในเราเตอร์ของคุณจะเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณทั้งหมดเข้ากับ VPN แม้ว่าจะมีข้อจำกัดการเชื่อมต่อในเวลาเดียวกัน มันมีประโยชน์อย่างยิ่งหากคุณใช้แผนให้บริการฟรีของ hide.me เนื่องจากโดยทางเทคนิคแล้วเราเตอร์คือ 1 อุปกรณ์ – ดังนั้นการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณกับเซิร์ฟเวอร์จะทำให้อุปกรณ์ทั้งหมดของคุณใช้งานได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ข้อเสียหลักคือคุณไม่สามารถพกพาเราเตอร์ของคุณไปกับคุณได้ตอนที่คุณออกไปข้างนอกหรือเดินทาง ดังนั้นวิธีการนี้จะใช้ได้เฉพาะตอนที่คุณอยู่ที่บ้านเท่านั้น
ความง่ายของการตั้งค่าและการติดตั้ง
การติดตั้งแอปของ hide.me นั้นง่ายเพียงเลือกอุปกรณ์ของคุณบนเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ดาวน์โหลดไฟล์และติดตั้ง ขั้นตอนดังกล่าวใช้เวลา 2 นาทีพอดีใน PC และ Amazon Fire Stick ของฉัน แต่การติดตั้ง hide.me บนโทรศัพท์ของฉันนั้นเร็วกว่านั้นมาก หลังจากที่ติดตั้งแล้ว ฉันต้องเลือกว่าฉันต้องการใช้ผู้ให้บริการฟรีหรือลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่ชำระเงินของฉันและฉันก็สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใด ๆ ได้ทันที
หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับการติดตั้งแอปบนอุปกรณ์ใด ๆ hide.me มีคำแนะนำโดยละเอียดบนเว็บไซต์ ฉันใช้มันเพื่อติดตั้ง hide.me บนเราเตอร์ของฉันและดำเนินการกระบวนการต่าง ๆ เสร็จภายในระยะเวลาน้อยกว่า 5 นาที