6 VPN ฟรีที่แนะนำสำหรับ Google Chrome 2024
การค้นหาอย่างรวดเร็วบน Chrome Web Store จะทำให้คุณพบกับผลลัพธ์นับร้อย บางบริการก็ต้องการหลอกคุณและขโมยข้อมูลของคุณ มันเป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าส่วนขยายเบราว์เซอร์ VPN ใดที่ปลอดภัย มั่นคงและใช้งานง่าย
เพื่อช่วยคุณเลือก ฉันได้ทดสอบ VPN ฟรีมากมายเพื่อค้นหา 6 บริการที่ดีที่สุดเพื่อใช้กับ Chrome ฉันตรวจสอบความปลอดภัย ความเสถียรและประสิทธิภาพเพื่อให้มั่นใจว่าบริการที่ฉันแนะนำแต่ละบริการนั้นมีความปลอดภัยระดับพรีเมียมและการเชื่อมต่อที่น่าเชื่อถือ หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเราที่ WizCase ดังนั้นคุณควรรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มการเป็นเจ้าของเดียวกับ ExpressVPN อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเราเนื่องจากเรายึดมั่นในระเบียบวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
ทดลองใช้ ExpressVPN กับ Chrome ฟรี
คำแนะนำลัด: 6 VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Google Chrome
- ExpressVPN: VPN แบบเสียเงินที่ดีที่สุดที่ไม่มีขีดจำกัดข้อมูลการใช้งานสำหรับการสตรีมมิ่ง ท่องเว็บและโหลดบิท แถมยังมอบความสามารถ VPN อย่างเต็มรูปแบบสำหรับเบราว์เซอร์ Chrome ของคุณ — มีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันเพื่อที่คุณจะได้ใช้งานได้โดยไม่ต้องห่วงว่าจะเสียเงินฟรี
- CyberGhost: ส่วนขยายสำหรับ Chrome ฟรี ไม่มีขีดจำกัดข้อมูลหรือขีดจำกัดความเร็วและป้องกันเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย แต่ไม่รองรับเว็บไซต์สตรีมมิ่งหรือ Torrenting
- Hotspot Shield: อนุญาตให้ใช้ข้อมูลได้ฟรี 500MB ต่อวัน แต่ความเร็วช้าและมีเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกาเพียง 1 เซิร์ฟเวอร์
- TunnelBear: อนุญาตให้ใช้ข้อมูลได้ฟรี 500MB ต่อเดือน แต่ไม่รองรับการสตรีมมิ่ง
- Hide.me: อนุญาตให้ใช้ข้อมูลได้ฟรี 2GB ต่อเดือน แต่มีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์น้อย
- Proton VPN: ไม่จำกัดข้อมูลเพื่อการใช้งานรายเดือนฟรีไม่จำกัด แต่จำกัดความเร็วและการเชื่อมต่อ
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อ่าน และเรามุ่งมั่นที่จะได้รับความไว้วางใจจากคุณด้วยการทำงานด้วยความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมบางส่วนที่ได้รับการตรวจสอบบนเว็บไซต์นี้: Intego, Cyberghost, ExpressVPN และ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา เนื่องจากเราปฏิบัติตามวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
วิธีเลือก VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Google Chrome Google Chrome
ในระหว่างการทดสอบ ฉันมุ่งเน้นที่ฟีเจอร์หลักเหล่านี้ในการเลือก VPN ที่ดีที่สุดเพื่อใช้งานกับ Google Chrome:
- ความเข้ากันได้: VPN มีส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome หรือเปล่า? มันใช้งานง่ายไหม?
- ความปลอดภัย: VPN มีการเข้ารหัสระดับทหารเพื่อดูแลข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยหรือเปล่า? มันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ หรือเปล่า? มันเก็บบันทึกข้อมูลของคุณไหม?
- ความน่าเชื่อถือ: คุณสามารถเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายแม้ว่าจะมีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกไม่มากหรือเปล่า? การจำกัดข้อมูลกันคุณจากการท่องเว็บ สตรีมมิ่งและดาวน์โหลดมากเท่าที่คุณต้องการหรือเปล่า?
- บริการลูกค้า: VPN มีบริการลูกค้าสำหรับผู้ใช้ฟรีหรือเปล่า?
6 VPN ฟรียอดนิยมสำหรับ Google Chrome
1. ExpressVPN – เซิร์ฟเวอร์พรีเมียมนับพันสำหรับการเชื่อมต่อ Chrome ที่น่าเชื่อถือ
ฟีเจอร์หลัก:
- เซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 105 ประเทศ
- การท่องเว็บที่รวดเร็วและการสตรีมมิ่งโดยไม่มีข้อมูลจำกัด
- การเข้ารหัสระดับทหาร
- มีแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงและฝ่ายสนับสนุนลูกค้าพร้อมให้บริการ
- การรับประกันยินดีคืนเงิน 30 วัน
แม้ว่ามันจะไม่ได้ฟรีโดยสมบูรณ์ แต่ ExpressVPN เป็น VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Google Chrome และมีการรับประกันยินดืคืนเงินภายใน 30 วัน นี่หมายความว่าคุณสามารถทดสอบ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยงหรือไม่มีข้อผูกมัดได้ หากคุณไม่พึงพอใจ คุณมีเวลา 30 วันเต็มในการขอรับเงินคืน
ExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์นับพันเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกซึ่งทำให้การป้องกันการเชื่อมต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ในระหว่างการทดสอบของฉัน ฉันสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในตำแหน่งใด ๆ ของ ExpressVPN จากส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome ได้
การเพิ่มส่วนขยาย ExpressVPN ไปยัง Chrome นั้นใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที คุณสามารถพบส่วนขยายได้ที่ Chrome Web Store หรือผ่านเว็บไซต์ ExpressVPN หลังจากที่ดาวน์โหลดเสร็จเรียบร้อยแล้ว อินเทอร์เฟซก็เรียบง่ายและใช้งานง่าย คุณสามารถคลิกที่ปุ่มเปิด/ปิดขนาดใหญ่เพื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดหรือค้นหาประเทศที่เฉพาะเจาะจงได้ ฉันใช้รูปแบบการเชื่อมต่อทั้งสองเพื่อป้องกันเบราว์เซอร์ Chrome ของฉันและไม่พบกับปัญหาใด ๆ ExpressVPN ใช้การเข้ารหัสระดับทหารเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของคุณได้รับการป้องกัน
คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อคำพูดของฉันในเรื่องนี้ คุณสามารถลองใช้ ExpressVPN ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน 30 วันได้ ไม่เหมือนกับ VPN อื่น ๆ ExpressVPN มีนโยบายคืนเงินแบบ “ไม่ต้องตอบคำถาม” สิ่งนี้ทำให้การใช้การรับประกันยินดีคืนเงินหากคุณคิดว่าโปรแกรมนี้ไม่เหมาะกับคุณเป็นเรื่องที่รวดเร็วและง่ายดาย ตอนที่ฉันทดสอบมันด้วยตัวเอง คำขอคืนเงินของฉันได้รับการอนุมัติภายในเวลาน้อยกว่า 1 นาทีผ่านแชทออนไลน์ – และฉันก็ได้รับเงินคืนเข้าบัญชีธนาคารใน 4 วันเท่านั้น
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเราที่ WizCase ดังนั้นคุณควรรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มการเป็นเจ้าของเดียวกับ ExpressVPN อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเราเนื่องจากเรายึดมั่นในระเบียบวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
รับข้อเสนอ Black Friday จาก ExpressVPN! คุณสามารถสมัครสมาชิก ExpressVPN ได้ในราคาแสนถูกเพียง ต่อเดือน + รับเพิ่มฟรี 4 เดือนฟรีในแผนให้บริการแบบ 2 ปี (ประหยัดได้สูงสุดถึง %)! นี่เป็นข้อเสนอจำกัดเวลา ดังนั้นอย่าลืมคว้ามันเอาไว้ก่อนตอนนี้ก่อนมันจะหายไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ได้ที่นี่
2. CyberGhost – ส่วนขยายสำหรับ Chrome ฟรีมอบความเร็วที่รวดเร็วและปิดกั้นเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย
ฟีเจอร์หลัก:
- 8 เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา เยอรมนี เนเธอร์แลนด์และโรมาเนียและในส่วนขยายสำหรับ Chrome
- ไม่มีขีดจำกัดความเร็วหรือข้อมูลเพื่อการท่องเว็บไซต์ที่รวดเร็ว
- การเข้ารหัสระดับทหาร
- ปิดกั้นเนื้อหาที่เป็นอันตรายเพื่อป้องกันข้อมูลของคุณ
- มีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าพร้อมให้บริการผ่านทางแชทออนไลน์
ส่วนขยายสำหรับ Chrome ของ CyberGhost นั้นเปิดให้บริการฟรี 100% – ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน! การติดตั้งในคลิกเดียวนั้นเรียบง่ายและฉันก็สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ CyberGhost ได้ภายในเวลาน้อยกว่า 5 นาที จากส่วนขยายฟรี ฉันสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ โรมาเนียและสหรัฐอเมริกาได้ การเชื่อมต่อเหล่านี้เกิดขึ้นเกือบจะโดยทันที ดังนั้นเบราว์เซอร์ของฉันจึงได้รับการป้องกันโดยไม่ต้องรอนาน
แม้ว่าส่วนขยายเบราว์เซอร์บางรายการจะจำกัดความเร็ว แต่ฉันพบว่า CyberGhost มีความเร็วที่รวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อในตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่มีให้บริการทั้งหมด ในระหว่างการทดสอบของฉัน ความเร็วของฉันอยู่ที่ 108Mbps – ช้ากว่าความเร็วปกติของฉันที่อยู่ที่ 115Mbps เพียง 6% เท่านั้น ตามที่ฉันคาดการณ์เอาไว้ เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลจะมีความเร็วที่ช้ากว่าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50Mbps แม้ว่าสิ่งนี้จะลดความเร็วของฉันลงไปถึงครึ่งหนึ่ง แต่การเชื่อมต่อของ CyberGhost ก็ยังถือว่ารวดเร็วพอสำหรับฉันที่จะท่องเว็บออนไลน์โดยไม่มีการกระตุกหรือสะดุด
CyberGhost มีเครื่องมือปิดกั้นเนื้อหาที่เป็นอันตรายซึ่งจะตรวจจับเว็บไซต์และการดาวน์โหลดที่มีมัลแวร์หรืออะไรก็ตามที่ไม่พึงประสงค์ ฉันพบว่าเครื่องมือปิดกั้นของ CyberGhost นั้นไม่เพียงแต่เปลี่ยนเส้นทางของฉันให้อยู่ห่างจากเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายเท่านั้น แต่มันยังปิดกั้นโฆษณาป๊อปอัพได้อีกด้วย สิ่งนี้ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นเพื่อการท่องเว็บออนไลน์ที่ราบรื่นมากขึ้น
ฉันประทับใจที่ได้พบว่าส่วนขยายของ CyberGhost สามารถช่วยป้องกันเส้นทางการเข้าชมออนไลน์ของฉันให้ปลอดภัยได้อย่างง่ายดาย ฉันดำเนินการทดสอบการรั่วไหลมากมายเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของฉันปลอดภัยภายในการเชื่อมต่อเข้ารหัสและ CyberGhost ก็สอบผ่านทุกการทดสอบ – ไม่มีการรั่วไหลของข้อมูลเกิดขึ้นเลย ฉันยังตรวจสอบรายงานที่ว่า CyberGhost ไม่ได้ป้องกันการรั่วไหล WebRTC ดูอีกด้วยและฉันสามารถยืนยันได้ว่าฉันไม่พบกับการรั่วไหลของ WebRTC ใด ๆ ในระหว่างการทดสอบของฉันเลย
แตกต่างจากแอป VPN อย่างเต็มรูปแบบของ CyberGhost ส่วนขยายเบราว์เซอร์จะไม่ป้องกันการเชื่อมต่อทั้งหมดของคุณ – เฉพาะเว็บเบราว์เซอร์เท่านั้น มันยังไม่มี Kill Switch มาให้ด้วยซึ่งหมายความว่าข้อมูลของคุณอาจตกอยู่ในความเสี่ยงได้หากการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ถูกแทรกแซง แม้ว่าการเชื่อมต่อของฉันจะเสถียร แต่นี่ก็อาจเป็นปัญหาสำหรับคุณได้หากคุณพำนักอาศัยอยู่ในประเทศที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่น่าเชื่อถือน้อยกว่า
เนื่องจากเป็นส่วนขยายฟรี CyberGhost สำหรับ Chrome จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการดูแลให้กิจกรรมทางออนไลน์และหมายเลข IP ของคุณปลอดภัยในขณะท่องเว็บ สามารถใช้งานได้ง่ายและใช้เวลาในการดาวน์โหลดและติดตั้งเพียงไม่กี่นาที แต่มันจะไม่ป้องกันทั้งอุปกรณ์ของคุณและไม่รองรับการสตรีมมิ่งหรือ Torrenting สำหรับฟีเจอร์เหล่านี้ ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ CyberGhost ฟรีเป็นระยะเวลา 45 วันโดยใช้การรับประกันยินดีคืนเงิน
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเราที่ WizCase ดังนั้นคุณควรรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มการเป็นเจ้าของเดียวกับ CyberGhost VPN อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเราเนื่องจากเรายึดมั่นในระเบียบวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
CyberGhost ทำงานได้บน: Windows, Android, macOS, iOS, Linux, Chrome, Firefox, PlayStation, Xbox, Smart TVs, Apple TV, Amazon Firestick, Amazon Fire TV, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
CyberGhost ปลดบล็อก: Netflix, Disney+, Amazon Prime, Comedy Central, BBC iPlayer, Display+, ESPN, National Geographic, NBC Sports, HBO, YouTube TV, Sling TV และอื่น ๆ อีกมากมาย.
3. Hotspot Shield – ข้อมูลรายเดือนฟรี 15GB ต่อเดือนมอบการสตรีมมิ่งและการท่องเว็บที่ปลอดภัย
ฟีเจอร์หลัก:
- มีเซิร์ฟเวอร์ให้บริการ 4 เซิร์ฟเวอร์ในแคนาดา เยอรมนี เนเธอร์แลนด์และรัสเซีย
- ความเร็วจำกัดที่ 2Mbps แต่เร็วพอสำหรับการท่องเว็บออนไลน์
- มีข้อมูลให้บริการ 500MB
- การเข้ารหัสแบบ AES-256 บิต
- มีบริการทางเทคนิคสำหรับผู้ใช้งานฟรี
Hotspot Shield มีส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใช้งานที่น่าประทับใจ แค่ดาวน์โหลดส่วนขยายจาก Chrome Web Store และคุณจะสามารถเชื่อมต่อได้ทันทีโดยเลือกหนึ่งในตำแหน่งทั้ง 4 ที่พร้อมให้บริการ – แคนาดา เยอรมนี เนเธอร์แลนด์หรือรัสเซีย การเปลี่ยนตำแหน่งก็ง่ายเช่นกัน แค่เปิดส่วนขยายและคลิกตำแหน่งที่แตกต่างกันเพื่อเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ
ฉันประทับใจกับฟีเจอร์ความปลอดภัยเสริมของส่วนขยาย ฟีเจอร์เหล่านี้สามารถถูกปิดและเปิดได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถปรับแต่ความต้องการสำหรับความปลอดภัยได้ด้วยตัวคุณเอง
ฟีเจอร์เหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อดูแลให้การท่องเว็บ Chrome ของคุณเป็นความลับ เป็นอิสระจากโฆษณาป๊อปอัพและป้องกันคุณจากเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย
ในขณะที่ทดสอบบริการนี้ ฉันสามารถรับชมวิดีโอ YouTube โดยไม่มีโฆษณาในคุณภาพระดับ SD ได้หนึ่งชั่วโมงก่อนที่มันจะถึงขีดจำกัดข้อมูล 500MB เพื่อรับชมโดยไม่มีขีดจำกัดคุณภาพหรือข้อมูล คุณสามารถทดลองใช้บริการพรีเมียมของ Hotspot Shield ได้ด้วยรับประกันยินดีคืนเงิน คุณสามารถทดลองใช้ VPN ได้เป็นระยะเวลา 45 วันและรับเงินคืนเต็มจำนวน
4. TunnelBear – ข้อมูลรายเดือนฟรี 500Mb ต่อเดือนและตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ 23 ตำแหน่งให้เชื่อมต่อ
ฟีเจอร์หลัก:
- เซิร์ฟเวอร์ใน 23 ประเทศ – รวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและแคนาดา
- ไม่มีการลดแบนด์วิดธ์เพื่อความเร็วที่รวดเร็ว
- จำกัดข้อมูลรายเดือน 500MB ต่อเดือน
- การเข้ารหัสระดับทหารและนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน
- บริการลูกค้าผ่านตั๋วอีเมล
ส่วนขยาย Chrome ของ TunnelBear ใช้งานง่ายมาก ๆ แค่ดาวน์โหลดมันจาก Chrome Web Store ลงชื่อเข้าใช้หรือสร้างบัญชีและเลือกหนึ่งในเซิร์ฟเวอร์ทั้ง 23 เซิร์ฟเวอร์เพื่อเชื่อมต่อ
แม้ว่ามันจะไม่มีความปลอดภัยเสริมอย่างที่ส่วนขยายอื่น ๆ มี แต่มันก็ดูแลให้ตำแหน่งของคุณเป็นนิรนามและป้องกันข้อมูลของคุณ ฉันทดสอบการรั่วไหลของ DNS มากมายเพื่อให้มั่นใจว่าหมายเลข IP ของฉันปลอดภัยและ TunnelBear ก็สอบผ่านทุกครั้ง
แม้ว่าหมายเลข IP ของฉันจะถูกซ่อนเอาไว้ แต่ฉันก็ไม่สามารถรับชม Netflix ของสหรัฐอเมริกาด้วย TunnelBear ได้ ด้วยข้อมูลเพียง 500MB ต่อเดือน การสตรีมรายการตอนหนึ่งให้จบนั้นยึงถือเป็นเรื่องที่ยาก นี่หมายความว่า TunnelBear เวอร์ชั่นฟรีนั้นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับการสตรีมมิ่งหรือการดาวน์โหลด
คุณสามารถอัปเกรตเป็นบริการพรีเมียมสำหรับข้อมูลที่ไม่จำกัดได้ หากคุณไม่พึงพอใจ คุณสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ TunnelBear เพื่อขอรับเงินคืนได้
5. Hide.me – ข้อมูลรายเดือนจำกัด 2GB ต่อเดือนและไม่มีโฆษณาเมื่อใช้ Chrome
ฟีเจอร์หลัก:
- ส่วนขยายมีเซิร์ฟเวอร์ให้บริการ 3 เซิร์ฟเวอร์ในแคนาดา เนเธอร์แลนด์และเยอรมนี
- จะไม่จำกัดแบนด์วิดธ์เพื่อให้มั่นใจว่าความเร็วรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- ข้อมูลฟรีรายเดือน 2GB ต่อเดือน
- การเข้ารหัสระดับทหาร
- มีบริการลูกค้าให้บริการสำหรับผู้ใช้งานฟรี
Hide.me เป็นบริการที่ดีที่ไม่มีโฆษณาหรือการจำกัดแบนด์วิดธ์ ฟีเจอร์ความปลอดภัยของพวกเขาจะรับประกันว่ากิจกรรมการท่องเว็บของคุณนั้นเป็นนิรนามและได้รับการป้องกันในขณะที่คุณใช้งาน Google Chrome
ในขณะที่เชื่อมต่อกับส่วนขยาย คุณสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ ได้ถึง 3 เซิร์ฟเวอร์หรือเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดโดยอัตโนมัติ มันไม่มีการเข้ารหัสเหมือนกับ VPN เดสก์ท็อปฟรีอื่น ๆ แต่มันจะปิดบังหมายเลข IP ของคุณ ดังนั้นคุณจึงสามารถท่องเว็บและสตรีมเว็บไซต์และบริการในประเทศอื่น ๆ จากประเทศไทยได้
เพื่อเข้ารหัสการเชื่อมต่อของคุณโดยใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์ Hide.me คุณต้อง SOCKS (Socket Secure) หากคุณไม่ได้เปิดใช้งาน SOCKS ข้อมูลของคุณจะไม่ถูกเข้ารหัส แต่หมายเลข IP ของคุณจะถูกปิดบังเอาไว้
ในขณะที่ทดสอบ ฉันเปิดใช้งาน SOCKS – ฉันสามารถท่องเว็บและเข้าถึงข้อมูลความลับอย่างบัญชีธนาคารของฉันได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้มั่นใจถึงความปลอดภัยของข้อมูลของคุณคือทดลองใช้บริการพรีเมียมของ Hide.me คุณสามารถทดลองใช้งานได้ฟรี 30 วันโดยไม่มีความเสี่ยงด้วยรับประกันยินดีคืนเงิน!
6. Proton VPN – การใช้งานข้อมูลรายเดือนฟรีไม่จำกัดพร้อมสิทธิ์ในการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ใน 3 ประเทศ
ฟีเจอร์หลัก:
- 3 ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์สำหรับผู้ใช้งานฟรี – สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศสและญี่ปุ่น
- ความเร็วในตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ทั้ง 3 แห่งมีความเสถียร
- อนุญาตให้ใช้ข้อมูลฟรีได้ไม่จำกัด
- การเข้ารหัสระดับทหาร
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานและไม่มีโฆษณา
Proton VPN เป็นหนึ่งในบริการฟรีเพียงแห่งเดียวที่ให้คุณใช้ข้อมูลรายเดือนฟรีได้ไม่จำกัด นี่หมายความว่าคุณสามารถใช้ Chrome โดยไม่ระบุตัวตนและปลอดภัยได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการใช้งานข้อมูลของคุณ ด้วยการไม่จำกัดข้อมูล คุณสามารถสตรีมและท่องเว็บได้มากเท่าที่คุณต้องการ
หากการสตรีมมิ่งคือสิ่งที่คุณให้ความสำคัญ งั้นคุณควรทราบว่าฉันประสบปัญหาในการเชื่อมต่อกับ Netflix โดยการใช้บริการฟรีของ Proton VPN บริการสตรีมมิ่งอย่าง Hulu มีให้บริการเฉพาะผู้ใช้พรีเมียมเท่านั้น แต่ตัวเลือกฟรีอย่าง YouTube หรือ Crackle นั้นใช้งานได้ดี ในขณะที่ทดสอบบริการดังกล่าว ฉันรับชมภาพยนตร์บน Crackle และประสบกับการกระตุกเฉพาะในช่วงระหว่างพักเบรกโฆษณาเท่านั้น
อินเตอร์เฟซแผนที่ของ Proton VPN ทำให้การเลือกตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมเป็นเรื่องง่าย ในฐานะผู้ใช้ฟรี คุณจะถูกจำกัดตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์เหลือเพียง 3 เซิร์ฟเวอร์ แต่คุณสามารถดูตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ มากมายที่มีให้บริการสำหรับสมาชิกที่ชำระเงินได้
บริการฟรีของ Proton VPN จำกัดความเร็ว การแบ่งปันไฟล์แบบ P2P และจำนวนอุปกรณ์ที่คุณสามารถเชื่อมต่อได้ เพื่อทดลองใช้บริการโดยไม่มีข้อจำกัด ผู้ใช้งานฟรีสามารถรับเวอร์ชั่นทดลองฟรีพรีเมียม 7 วันโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ จากนั้นคุณสามารถอัปเกรดหรือเปลี่ยนการสมัครสมาชิกของคุณได้ทุกเมื่อผ่านทางแดชบอร์ดบัญชีของคุณ
วิธีเพิ่มส่วนขยาย VPN ไปยัง Chrome
4 ขั้นตอนในการเพิ่มส่วนขยาย VPN ไปยัง Chrome:
- รับ VPN ด้วยส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome ฉันขอแนะนำให้ใช้ ExpressVPN เพราะมันมีขั้นตอนในการติดตั้งที่แสนง่ายดายเพียง 2 ขั้นตอน
- ไปยังเว็บไซต์ของ VPN และมองหาส่วน “Apps”
- คลิก “Add to Chrome” คุณจะถูกนำไปยัง Google Chrome Web Store.
- เลือก “Add to Chrome” และ “Add Extension”
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเราที่ WizCase ดังนั้นคุณควรรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มการเป็นเจ้าของเดียวกับ ExpressVPN อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเราเนื่องจากเรายึดมั่นในระเบียบวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
วิธีเพิ่มส่วนขยาย VPN ไปยังโหมดไม่ระบุตัวตน
Chrome ปิดกั้นส่วนขยายเมื่อคุณใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตน นี่เป็นเพราะเบราว์เซอร์ไม่สามารถทำให้มั่นใจได้ว่าส่วนขยายจะไม่ได้ติดตามกิจกรรมการออนไลน์ของคุณ หากคุณใช้ VPN ฟรีที่ปลอดภัย คุณก็ยังสามารถใช้ส่วนขยายในโหมดไม่ระบุตัวตนได้ นี่คือวิธีเพิ่มส่วนขยาย:
5 ขั้นตอนในการเพิ่มส่วนขยาย VPN ไปยังโหมดไม่ระบุตัวตน:
- ดาวน์โหลดส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ VPN ฟรีที่เชื่อถือได้จากเว็บไซต์ VPN หรือใน Google Chrome Web Store
- ใน Chrome ให้คลิกที่จุด 3 จุดที่อยู่ด้านบนทางขวาของเบราว์เซอร์เพื่อเปิดเมนู
- เลื่อนเม้าไปชี้ที่ “More tools” และคลิกที่เมนู “Extensions”
- คลิก “Details” บนส่วนขยาย VPN
- เลื่อนลงมาหาตัวเลือก “Allow in incognito” จากนั้นคลิกเพื่อเปิดใช้งานมัน
ข้อเสียของ VPN ฟรี
มี VPN ฟรีนับพันบริการที่สามารถใช้งานได้ แต่บริการส่วนใหญ่แล้วไม่ปลอดภัยมากพอในการดูแลข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย ในกรณีที่ดีที่สุดนี่อาจหมายความว่าตำแหน่งทั่วไปของคุณจะถูกแบ่งปันกับนักโฆษณาเพราะมันเป็นวิธีในการสร้างรายได้ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือฟีเจอร์ความปลอดภัยที่จำกัดนั้นอาจหมายความได้ว่าข้อมูลของคุณไม่ได้รับการเข้ารหัสอย่างเหมาะสมซึ่งมันเปิดช่องโหว่ให้กับแฮ็กเกอร์และสายลับ หาก VPN ฟรีเก็บข้อมูลของคุณ มันอาจถูกนำไปขายให้กับผู้ที่ประมูลราคาสูงสุดหรือส่งมอบให้กับหน่วยงานรัฐบาล
VPN ฟรีที่คุณสามารถไว้วางใจได้และบริการที่ฉันแนะนำเป็นวิธีที่ปลอดภัยในการท่องเว็บบนอินเทอร์เน็ต แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาทั้งหมดต่างก็มีข้อจำกัด ข้อจำกัดที่ VPN ฟรีมีนั้นได้รับการออกแบบเพื่อกระตุ้นให้คุณลงทะเบียนสมัครสมาชิกแบบชำระเงิน พวกเขาจำกัดจำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่คุณสามารถเชื่อมต่อได้ เช่นเดียวกับการใช้งานข้อมูลที่อนุญาตและความเร็วในการดาวน์โหลด นี่หมายความว่าคุณจะประสบกับการกระตุกและการโหลดที่ช้าในระหว่างสตรีมมิ่ง เซิร์ฟเวอร์หนาแน่นและกิจกรรมออนไลน์ที่ช้า หากคุณต้องการทดลองใช้ VPN พรีเมียมฟรี คุณสามารถใช้รับประกันยินดีคืนเงินได้ CyberGhost อนุญาตให้ผู้สมัครสมาชิกใหม่ทดลองใช้งานบริการของพวกเขาเป็นระยะเวลา 45 วันและรับเงินคืนของคุณได้อย่างง่ายดาย ฝ่ายบริการลูกค้าดำเนินการคืนเงินของฉันภายในเวลาน้อยกว่า 3 วันทำการ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับส่วนขยายของ Google Chrome
โหมดไม่ระบุตัวตนของ Google Chrome ไม่ระบุตัวตนจริง ๆ หรือเปล่า?
ไม่ โหมดไม่ระบุตัวตนจะไม่เข้ารหัสกิจกรรมออนไลน์หรือทำให้คุณเป็นนิรนาม เมื่อคุณไปยังโหมดไม่ระบุตัวตน Chrome ระบุให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่คุณไปเยี่ยมชม ISP ของคุณและผู้ดูแลเครือข่าย (เช่น โรงเรียนหรือเจ้านายของคุณ) ยังคงสามารถดูกิจกรรมของคุณได้
โหมดไม่ระบุตัวตนจะมีประโยชน์หากคุณไม่ต้องการให้ประวัติการท่องเว็บหรือข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณถูกบันทึกเก็บเอาไว้ หากคนอื่นใช้ Chrome บนอุปกรณ์ของคุณ พวกเขาจะไม่สามารถดูเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมหรือลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่คุณเข้าถึงในขณะใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตนได้
VPN ฟรีสำหรับ Chrome ใดบ้างที่ฉันควรหลีกเลี่ยง?
ด้วยจำนวน VPN ฟรีที่มีให้ดาวน์โหลดมากมาย การตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้เฉพาะ VPN ที่คุณสามารถไว้วางใจได้นั้นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ นี่คือรายการ VPN ฟรีบางส่วนที่คุณไม่ควรใช้กับ Chrome:
Hola VPN
แม้ว่าการดาวน์โหลดและการติดตั้งบริการนี้ในเบราว์เซอร์ Chrome ของคุณจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่คุณก็ควรหลีกเลี่ยงมันไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม Hola VPN ไม่มีการเข้ารหัส ดังนั้นข้อมูลใด ๆ ที่ส่งหรือได้รับจากเว็บไซต์นั้นสามารถถูกอ่านและระบุได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้มันยังบันทกข้อมูลของคุณในระหว่างใช้งานเป็นจำนวนมากซึ่งรวมถึงเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมและข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ แล้วเว็บไซต์นี้จะแบ่งปันข้อมูลของคุณกับบุคคลที่สามที่ไม่รู้จักเพื่อสร้างรายได้
Cross VPN
Cross VPN ถูกทำเครื่องหมายว่ามีไวรัสโทรจันโดย VirusTotal เว็บไซต์ที่วิเคราะห์ไฟล์และ URL เพื่อตรวจจับมัลแวร์ Cross VPN ได้รับการจัดอันดับ AV-rank ในอันดับที่ 11 ซึ่งหมายความว่ามันมีผลการทดสอบว่ามีมัลแวร์ในโปรแกรมแอนตี้ไวรัสต่าง ๆ 11 โปรแกรม การดาวน์โหลด VPN ฟรีนี้เพื่อใช้กับ Chrome จะทำให้อุปกรณ์ของคุณตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะติดไวรัสจากซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย
VPN จะทำให้ความเร็วในการท่องเว็บของฉันช้าลงไหม?
ไม่ว่าคุณจะใช้ VPN ฟรีหรือ VPN พรีเมียม คุณก็มีแนวโน้มที่จะได้สัมผัสกับความเร็วที่ช้าลงเล็กน้อย นี่เป็นเพราะเส้นทางการเข้าชมของคุณจะต้องผ่านกระบวนการเข้ารหัสก่อนที่จะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตซึ่งส่งผลต่อความเร็วของคุณ
หากคุณใช้ VPN ฟรีที่มีการจำกัดเซิร์ฟเวอร์หรือแบนด์วิดธ์ งั้นคุณก็มีแนวโน้มที่จะประสบกับความช้าที่สังเกตเห็นได้มากกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเชื่อมต่อในช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูง
ฉันทดสอบความเร็วใน VPN ฟรีทั้งหมดในรายการของฉันช่วงที่มีการเชื่อมต่อเยอะในประเทศไทย ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดที่มีให้บริการสำหรับแต่ละ VPN และเทียบกับความเร็ว ISP ปกติของฉัน นี่คือผลลัพธ์ที่ได้:
ชื่อ VPN และตำแหน่งเซิร์เวอร์ | ความเร็ว ISP มาตรฐาน (Mbps) | เซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดในช่วงเวลาที่มีการเชื่อมต่อมากที่สุด (Mbps) | ความเร็วที่ลดลงใน Mbps |
Proton VPN – ฝรั่งเศส | 52.15 | 43.48 | -8.67 |
Hide.me – เนเธอร์แลนด์ | 52.15 | 29.84 | -22.13 |
Hotspot Shield – สหรัฐอเมริกา | 52.15 | 30.35 | -21.8 |
TunnelBear – สหราชอาณาจักร | 52.15 | 41.64 | -10.51 |
ตามที่คาดหวังไว้ VPN ที่มีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ห่างไกลจากฉันมากที่สุดประสบกับความเร็วที่ลดลงมากที่สุด อย่างไรก็ตามทุกเซิร์ฟเวอร์มีความเร็วที่รวดเร็วมากพอที่จะสตรีมในคุณภาพระดับ UltraHD หรือ 4K แม้ในช่วงเวลาการเชื่อมต่อที่แน่นหนาที่สุดก็ตาม
พร็อกซีและส่วนขยายของ Chrome แตกต่างกันอย่างไร?
แตกต่างจาก ส่วนขยาย VPN สำหรับ Chrome ฟรี พร็อกซีเป็นเพียงเซิร์ฟเวอร์ที่คุณสามารถเชื่อมต่อเพื่อปิดบังตำแหน่งที่แท้จริงของคุณ แม้ว่าพร็อกซีจะเสนอรูปแบบการหลีกเลี่ยงการปิดกั้นตามภูมิศาสตร์ที่ไม่หนักเครื่องมากกว่า แต่มันก็ไม่สามารถเทียบเท่าในเรื่องของความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ VPN มอบให้ได้
ที่แย่ไปกว่านั้นคือพร็อกซีฟรีมากมายกล่าวอ้างตนว่าสามารถมอบบริการได้เหมือนกับส่วนขยายของ VPN แต่จริง ๆ แล้วมันกลับมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การขยายข้อมูลผู้ใช้ในกรณีที่หายากหรือแม้แต่ดึงพลังการประมวลผลของผู้ใช้งานฟรีเพื่อใช้ในการโจมตีบอทเน็ต
คุณควรใช้ส่วนขยาย VPN สำหรับ Chrome จากผู้ให้บริการที่ไว้วางใจได้จะดีกว่า ExpressVPN เสนอความปลอดภัยที่ดีที่สุดในการป้องกันข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยในขณะที่คุณท่องเว็บ สตรีมหรือ Torrent แม้ว่ามันจะไม่ใช่บริการฟรี แต่คุณสามารถซื้อ ExpressVPN อย่างมั่นใจได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน หากคุณไม่พึงพอใจกับการสั่งซื้อ คุณสามารถรับเงินคืนเต็มจำนวนภายใน 30 วันได้
ดูแลตัวเองให้ปลอดภัยด้วย VPN สำหรับ Google Chrome ที่น่าเชื่อถือ
Google Chrome ไม่ปลอดภัยมากเพียงพอที่จะดูแลให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยโดยไม่มีความช่วยเหลือ ด้วยการใช้หนึ่งใน VPN ฟรีที่ฉันแนะนำ คุณจะสามารถป้องกันข้อมูลของคุณในขณะท่องเว็บด้วย Chrome ได้
แต่จำไว้ว่า VPN ฟรีส่วนใหญ่มีข้อจำกัด หากคุณต้องการสตรีม Netflix จากประเทศไทยหรือ Torrent โดยไม่ระบุตัวตน คุณจะต้องมีสิทธิ์ในการเข้าถึง VPN พรีเมียม
หากคุณต้องการ VPN ที่ไม่มีข้อจำกัด แต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะสมัครแผนให้บริการแบบชำระเงิน คุณสามารถใช้บริการพรีเมียมที่มีการรับประกันยินดีคืนเงินได้ ExpressVPN มอบโอกาสให้คุณได้ทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมดเป็นระยะเวลา 30 วันและรับเงินคืนได้เต็มจำนวนหากคุณไม่พึงพอใจsatisfied.
สรุป – นี่คือโปรแกรม VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Google Chrome
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อ่าน และเรามุ่งมั่นที่จะได้รับความไว้วางใจจากคุณด้วยการทำงานด้วยความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมบางส่วนที่ได้รับการตรวจสอบบนเว็บไซต์นี้: Intego, Cyberghost, ExpressVPN และ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา เนื่องจากเราปฏิบัติตามวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
แสดงความคิดเห็น
ยกเลิก