หลังจากที่ได้เปรียบเทียบ VPN เหล่านี้ เราได้ผู้ชนะแล้ว!
PureVPN มีการลดความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลดตามระดับทั่ว ๆ ไปซึ่งทำให้มีความเร็วอยู่ระดับกลาง ๆ เมื่อเทียบกับบริการอื่น ๆ Vypr VPN มีความเร็วสูงกว่ามากดังนั้นมั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถทำการสตรีมคุณภาพสูงได้โดยไม่ล่าใช้และสามารถดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ได้โดยที่ความเร็วไม่ตก
| ผู้ให้บริการ VPN |
|
|
|---|---|---|
| การลดความเร็วในการดาวน์โหลด | 40% (UK) | 33% (UK) |
| การลดความเร็วในการอัพโหลด | 37% (FRA) | 33% (FRA) |
| เวลา Ping ไปยัง Google.com | 41ms | 30ms |
| เวลาเฉลี่ยในการเชื่อมต่อ (วินาที) | 11ms | 10ms |
| สามารถหลบหลีกการบล็อคได้สำเร็จสำหรับ |
|
|
| เยี่ยมชมเว็บไซต์ | เยี่ยมชมเว็บไซต์ |
ความเร็วถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเมื่อเลือก VPN ซึ่งความเร็วในการใช้ VPN จะมาพร้อมกับค่าใช้ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยิ่ง VPN มีความเร็วมากเท่าใด คุณยิ่งจะสามารถเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดของเน็ตเวิร์คของคุณได้มากเท่านั้น เวลา Ping มีความสำคัญเทียบเท่ากับความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดสำหรับการสตรีมมิ่ง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความเร็วในการรับข้อมูล เวลา ping ที่น้อยกว่าและแบนด์วิธในการดาวน์โหลดที่สูงจะช่วยให้การสตรีมมิ่งเป็นไปได้อย่างไม่มีสะดุด การใช้เวลาในการเชื่อมต่อที่สั้นกว่าจะช่วยป้องกันความวุ่นวาย ส่วนการเชื่อมต่อที่เสถียรถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่งหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ
รายชื่อเซิร์ฟเวอร์ของ PureVPN อาจจะเป็นจุดแข็งที่สุดของทางบริษัท เนื่องจากมีพื้นที่ให้เลืกกว่า 140 ประเทศ และในแต่ละประเทศส่วนใหญ่ก็มีเซิร์ฟเวอร์ในหลายเมือง Vypr VPN มีเซิร์ฟเวอร์ใน 65 ประเทศรวม 73 เครื่อง — ถึงจะไม่ได้ดีที่สุดแต่ก็ไม่ได้แย่
| ผู้ให้บริการ VPN |
|
|
|---|---|---|
| ตำแหน่งของเซิฟเวอร์ | 180 | 73 |
| ประเทศที่ตั้งเซิฟเวอร์ | 141 | 65 |
| IP Address | 750 | 200000 |
| การสลับเซิฟเวอร์แบบไดนามิค | ||
| เยี่ยมชมเว็บไซต์ | เยี่ยมชมเว็บไซต์ |
เซิฟเวอร์จำนวนมากจะหมายถึงความแออัดที่น้อยลงและความเร็วที่มากยิ่งขึ้น ตำแหน่งที่มากยิ่งขึ้นจะเพิ่มตัวเลือกที่มากยิ่งขึ้น แต่คุณก็ควรตรวจสอบพื้นที่ที่คุณต้องการปลดบล็อกเว็บไซต์ การมี IP addresses จำนวนมากจะช่วยในเรื่องความเป็นส่วนตัว ในขณะที่การสลับเซิฟเวอร์แบบไดนามิคจะเป็นตัวที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้นและติดตามได้ยากยิ่งขึ้น
ข้อดีหลักของ PureVPN คือบริการลูกค้าโดยมี แชทสดตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน บริการตอบคำถามผ่านอีเมล และฐานความรู้ขนาดใหญ่บนเว็บไซต์ ส่วน AirVPN มีเพียงการตอบคำถามผ่านระบบอีเมลและโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่ก็มีฟอรั่มผู้ใช้งานที่มีประโยชน์
| ผู้ให้บริการ VPN |
|
|
|---|---|---|
| ระยะเวลาในการตอบอีเมล | 7 | 8 |
| ช่วยเหลือ 24/7 | ||
| การแชท | ||
| ฐานความรู้ | ||
| วิดีโอแนะนำการใช้งาน | ||
| เยี่ยมชมเว็บไซต์ | เยี่ยมชมเว็บไซต์ |
ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการช่วยเหลือที่ดีมีความจำเป็นเฉพาะในช่วงการติดตั้ง VPN แต่จริง ๆ แล้วก็อาจมีอย่างอื่นที่ท่านอาจต้องการความช่วยเหลือนี้ได้เช่นกัน เช่น การเชื่อมต่อไปยังเซิฟเวอร์บางแห่ง การเปลี่ยนโปรโตคอล และการปรับค่า VPN บนเราท์เตอร์ เป็นต้น เราได้ตรวจสอบ VPN แต่ละตัวเพื่อดูว่ามีการช่วยเหลือเวลาใดบ้าง (ถึงแม้ในช่วงกลางดึก), ระยะเวลาที่พวกเขาตอบสนอง และพวกเขาได้ตอบคำถามเราหรือไม่
แอปของ PureVPN ใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้งาน VPN มือใหม่ และยังมีการปรับตั้งค่าที่เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์แล้ว อินเทอร์เฟซพื้นฐานก็เรียบง่ายและคุณเพียงต้องเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการและคลิก Connect และมีการตั้งค่าโปรโตคอลให้อัตโนมัติ แต่คุณสามารถเลือกตัวเลือกอื่น ๆ ได้จากรายชื่อที่มี นอกจากนี้ยังมีแท็บที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าและปรับแต่งแอปให้เป็นไปตามต้องการได้
PureVPN มีแอปสำหรับแพลตฟอร์มหลัก ๆ ทั้งหมด และยังมี browser extension อีกด้วย และยังมีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกมากมาย รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการสตรีมมิ่ง การดูการถ่ายทอดกีฬาออนไลน์ การแชร์ไฟล์แบบไม่เปิดเผยตัวตน และการรักษาข้อมูลที่ปลอพภัย หรือคุณสามารถเลือกเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่มีความเร็วสูงที่สุดสำหรับแต่ละประเทศได้
PureVPN ทำงานได้บนโทรศัพท์มือถือ และยังให้คุณสามารถเข้าถึง Netflix และ Hulu ได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานในประเทศจีนได้ด้วย
สำหรับการใช้งาน VyprVPN คุณไม่จำเป็นต้องปรับค่าตามความต้องการซึ่งเป็นสิ่งที่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีความชำนาญด้านเทคนิค อย่างไรก็ตามมีตัวเลือกให้คุณปรับแต่งได้หากต้องการ เพราะฉะนั้นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจะเพลิดเพลินไปกับการปรับการตั้งค่า DNS
เราได้ทดสอบเว็บไซต์หลายเว็บเพื่อดูว่ามันโหลดอย่างไรเมื่อใช้ vpn โดยเว็บไซต์ที่เร็วที่สุดก็โหลดได้อย่างรวดเร็วและเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาก็ทำให้เราสามารถดู Netflix และ BBC ของอเมริกาได้ ส่วนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกาแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับพร็อกซี่ซึ่งทำให้เราไม่สามารถดูได้ เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐฯหลายเครื่องที่เราทดสอบก็ไม่มีปัญหาด้านการกระตุกเมื่อดูรายการบน Netflix แต่เราไม่สามารถดู Hulu ได้เนื่องจาก Hulu บล็อคพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด
เมื่อเราลองใช้แอพพลิเคชัน Outlook ก็พบว่า Gmail บล็อคการเชื่อมต่อ VPN แต่หากเราเข้าสู่ระบบผ่านเว็บไซต์ของ Google เราก็ไม่ได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการพยายามเข้าสู่ระบบ
Vypyr ทำงานได้ในประเทศจีนเนื่องจากมีโปรโตคอล Chameleon ซึ่งสามารถปิดบัง IP ของคุณด้วย OpenVPN โดยไม่ได้ทำให้เซิร์ฟเวอร์เฝ้าระหวังของทางการจีนทราบ
