พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา เรียนรู้เพิ่มเติม

Wizcase ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2018 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost, Intego และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน Wizcase นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา

Wizcase ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2018 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost, Intego และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน Wizcase นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

Hola vs Hotspot Shield 2024

หลังจากที่ได้เปรียบเทียบ VPN เหล่านี้ เราได้ผู้ชนะแล้ว!

VPN ใดที่ดีกว่ากัน?

ความเร็ว

ผู้ให้บริการ VPN Hola Hotspot Shield
การลดความเร็วในการดาวน์โหลด 80% (UK) 40% (UK)
การลดความเร็วในการอัพโหลด 41% (FRA) 38% (FRA)
เวลา Ping ไปยัง Google.com 300ms 107ms
เวลาเฉลี่ยในการเชื่อมต่อ (วินาที) 19ms 12ms
สามารถหลบหลีกการบล็อคได้สำเร็จสำหรับ Youtube-logo Bbc-logo Netflix-logo Youtube-logo
  เยี่ยมชมเว็บไซต์ เยี่ยมชมเว็บไซต์

ความสำคัญของความเร็วและสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก VPN?

ความเร็วถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเมื่อเลือก VPN ซึ่งความเร็วในการใช้ VPN จะมาพร้อมกับค่าใช้ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยิ่ง VPN มีความเร็วมากเท่าใด คุณยิ่งจะสามารถเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดของเน็ตเวิร์คของคุณได้มากเท่านั้น เวลา Ping มีความสำคัญเทียบเท่ากับความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดสำหรับการสตรีมมิ่ง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความเร็วในการรับข้อมูล เวลา ping ที่น้อยกว่าและแบนด์วิธในการดาวน์โหลดที่สูงจะช่วยให้การสตรีมมิ่งเป็นไปได้อย่างไม่มีสะดุด การใช้เวลาในการเชื่อมต่อที่สั้นกว่าจะช่วยป้องกันความวุ่นวาย ส่วนการเชื่อมต่อที่เสถียรถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่งหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ

เซิร์ฟเวอร์

ผู้ให้บริการ VPN Hola Hotspot Shield
ตำแหน่งของเซิฟเวอร์ 1500 27
ประเทศที่ตั้งเซิฟเวอร์ 195 27
IP Address 10000000 27
การสลับเซิฟเวอร์แบบไดนามิค
  เยี่ยมชมเว็บไซต์ เยี่ยมชมเว็บไซต์

ทำไมฉันถึงต้องสนใจเมื่อดูที่เซิฟเวอร์ และข้อผิดพลาดที่ทุกคนได้ทำมีอะไรบ้าง?

เซิฟเวอร์จำนวนมากจะหมายถึงความแออัดที่น้อยลงและความเร็วที่มากยิ่งขึ้น ตำแหน่งที่มากยิ่งขึ้นจะเพิ่มตัวเลือกที่มากยิ่งขึ้น แต่คุณก็ควรตรวจสอบพื้นที่ที่คุณต้องการปลดบล็อกเว็บไซต์ การมี IP addresses จำนวนมากจะช่วยในเรื่องความเป็นส่วนตัว ในขณะที่การสลับเซิฟเวอร์แบบไดนามิคจะเป็นตัวที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้นและติดตามได้ยากยิ่งขึ้น

บริการลูกค้า

ผู้ให้บริการ VPN Hola Hotspot Shield
ระยะเวลาในการตอบอีเมล X 9
ช่วยเหลือ 24/7
การแชท
ฐานความรู้
วิดีโอแนะนำการใช้งาน
  เยี่ยมชมเว็บไซต์ เยี่ยมชมเว็บไซต์

ทำไมฉันถึงต้องดูที่การช่วยเหลือ ในเมื่อฉันสามารถทำได้เอง?

ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการช่วยเหลือที่ดีมีความจำเป็นเฉพาะในช่วงการติดตั้ง VPN แต่จริง ๆ แล้วก็อาจมีอย่างอื่นที่ท่านอาจต้องการความช่วยเหลือนี้ได้เช่นกัน เช่น การเชื่อมต่อไปยังเซิฟเวอร์บางแห่ง การเปลี่ยนโปรโตคอล และการปรับค่า VPN บนเราท์เตอร์ เป็นต้น เราได้ตรวจสอบ VPN แต่ละตัวเพื่อดูว่ามีการช่วยเหลือเวลาใดบ้าง (ถึงแม้ในช่วงกลางดึก), ระยะเวลาที่พวกเขาตอบสนอง และพวกเขาได้ตอบคำถามเราหรือไม่

ความง่ายต่อการใช้งาน

Hola

การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกัน — สูงสุด 20 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน

คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันได้สูงสุดถึง 20 อุปกรณ์ได้ด้วย Hola VPN Plus ฉันลองเชื่อมต่อกับเดสก์ท็อปและแล็ปท็อป Windows, MacBook Air, โทรศัพท์ Android, iPhone และ PS4 ไม่มีความแตกต่างในด้านของการสตรีมมิ่ง ความเสถียรในการท่องเว็บหรือความเร็วเลย ไม่มีการเชื่อมต่อใดที่ล่าช้าในชั่วโมงที่ฉันเชื่อมต่อเลย

ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ — อุปกรณ์มากมายให้เลือกสรร

คุณสามารถใช้ Hola VPN บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ได้:

  • Windows
  • Android
  • iOS
  • PS4
  • Chrome, Firefox, Opera, Edge และ Internet Explorer

ฉันประสบความสำเร็จในการทดสอบ Hola กับอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากคุณใช้ macOS ในเวอร์ชันที่เก่ากว่า คุณอาจไม่สามารถใช้ Hola VPN ได้ ในระหว่างการทดสอบ ฉันไม่สามารถเชื่อมต่อกับ macOS ของฉันได้ (เนื่องจาก MacBook Air ใช้ macOS เวอร์ชันต่ำกว่า 10.11 ซึ่งไม่รองรับการเข้ารหัส IKEv2)
ภาพหน้าจอของอินเทอร์เฟซ Hola VPN บนอุปกรณ์ที่รองรับ

แอปของ Hola ผสานรวมกันกับอุปกรณ์มากมายได้อย่างราบรื่นซึ่งทำให้การย้ายจากคอมพิวเตอร์ไปยังโทรศัพท์เป็นเรื่องง่ายในเสี้ยววินาที

ส่วนขยายเบราว์เซอร์ทั้งหมดทำงานได้ดีโดยให้คุณปลดบล็อกผ่านเบราว์เซอร์ของคุณแทนที่จะส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ

หากคุณกำลังมองหา VPN สำหรับ Windows เป็นพิเศษ คุณมีอาจพบตัวเลือกที่ดีในคำแนะนำเกี่ยวกับโปรแกรม VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Windows

ส่วนขยายเบราว์เซอร์ Hola VPN — มีประโยชน์สำหรับการปลดบล็อกเบราว์เซอร์ที่เฉพาะเจาะจง

Hola VPN มีส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome, Firefox, Opera และ Microsoft Edge ฉันทดสอบมันกับ Chrome และ Firefox และไม่พบกับปัญหา การเชื่อมต่อนั้นรวดเร็วและช่วยให้ฉันปลดบล็อก Netflix, BBC iPlayer และ Hulu และป้องกันเบราว์เซอร์ของฉันได้ โปรดทราบว่าถ้าหากคุณกำลังใช้ Hola VPN Plus การเข้ารหัสผ่านในส่วนขยายเบราว์เซอร์จะไม่ถูกเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น (และ Free ก็ไม่มีการเข้ารหัสเลย)
ภาพหน้าจอของส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox ของ Hola VPN

คุณสามารถใช้ส่วนขยายของ Hola สำหรับการป้องกันและการปลดบล็อกเบราว์เซอร์ที่เฉพาะเจาะจงได้

ส่วนขยายเบราว์เซอร์เป็นฟีเจอร์ที่มอบความสะดวกสบายให้มากยิ่งขึ้นหากคุณไม่ต้องการเปิด VPN ทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อ สามารถเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายและคุณยังสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับบริการสตรีมมิ่งที่เจาะจงได้ด้วย

การติดตั้งและการตั้งค่าที่ง่ายดาย — พร้อมใช้งานภายใน 5 นาที

  1. ไปที่ hola.org/download และดาวน์โหลดเวอร์ชันที่เหมาะกับอุปกรณ์ของคุณภาพหน้าจอของส่วนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของเว็บไซต์ Hola VPN
  2. เปิดไฟล์ (ที่มีชื่อว่า Hola-Setup.exe บน Windows) และดำเนินการตามกระบวนการติดตั้ง เลือกบัญชี Free หรือ Plusภาพหน้าจอของส่วนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของเว็บไซต์ Hola VPN
  3. เปิดใช้งาน Hola, เลือกประเทศและคลิกเพื่อเชื่อมต่อ!ภาพหน้าจอของอินเทอร์เฟซเซิร์ฟเวอร์แอพ Windows และหน้าจอการเชื่อมต่อสำหรับ Hola

ยกเลิกการติดตั้ง Hola ในไม่กี่วินาที

คุณสามารถยกเลิกการติดตั้ง Hola VPN ได้โดยการไปที่ “Programs and Features” ใน Control Panel ของ Windows และลบโปรแกรมจากที่นั่นได้ หากคุณใช้ Mac ให้ลากแอป Hola VPN จาก Applications ไปยัง Trash และรีสตาร์ทอุปกรณ์ของคุณ

บนมือถือ คุณสามารถแตะที่แอปค้างเอาไว้และคลิก X หรือลากมันไปยัง “ยกเลิกการติดตั้ง” เพื่อลบได้

Hotspot Shield

การเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน — 5 อุปกรณ์พร้อมกัน

คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันจำนวน 5 อุปกรณ์ได้ด้วย Hotspot Shield Premium ฉันทดสอบสิ่งนี้โดยการเชื่อมต่อ PC ระบบปฏิบัติการ Windows จำนวน 2 เครื่อง, โทรศัพท์ Android, iPhone และ iPad ฉันไม่พบความแตกต่างในเรื่องของความเร็วเลยตอนที่ฉันรับชมเนื้อหาบนอุปกรณ์มากมายในเวลาเดียวกัน แผนให้บริการฟรีของ Hotspot Shield อนุญาตให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้น

ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ — รองรับอุปกรณ์มากมาย

คุณสามารถใช้ Hotspot Shield บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ได้:

  • ระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS, Linux, Android และ iOS
  • Smart TV: Fire TV, Android TV และ Smart TV ที่มีการเข้าถึง Google Play Store
  • ส่วนขยายเบราว์เซอร์: Chrome และ Firefox
  • เราเตอร์ที่กำหนด

อุปกรณ์ส่วนใหญ่นั้นสามารถใช้งานได้อย่างที่คุณคิด แต่ฉันประหลาดใจอย่างยิ่งที่แอปสำหรับ Android มีฟีเจอร์มากกว่าแอปสำหรับ iOS (ซึ่งรวมถึง Kill Switch และ Smart VPN) ฉันยินดีที่ได้ทราบว่า Hotspot Shield รองรับ Linux และเราเตอร์ที่กำหนดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากรีวิวเว็บไซต์อื่น ๆ กล่าวอ้างว่าพวกเขาไม่รองรับ

หากคุณกำลังมองหาโปรแกรม VPN ที่มีฟีเจอร์มากมายสำหรับอุปกรณ์ Windows ของคุณ คุณก็มีตัวเลือกดี ๆ อีกมากมายในคำแนะนำสำหรับโปรแกรม VPN สำหรับ Windows ที่ดีที่สุด

ลองใช้ Hotspot Shield ตอนนี้

แอปเฉพาะสำหรับ Windows, Mac, Android, iOS และอื่น ๆ อีกมากมาย — อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและสะอาดตา

แอป Hotspot Shield สำหรับ Windows, macOS และ Linux มีหนึ่งในอินเทอร์เฟซที่สะอาดตาและเป็นมิตรต่อผู้ใช้มากที่สุดที่ฉันเคยใช้งานมา คุณสามารถดูข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องการ เช่น เซิร์ฟเวอร์ ความเร็ว ความหน่วง การใช้งานข้อมูลและการโหลดเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างง่ายดาย

อินเทอร์เฟซของ Hotspot Shield สำหรับอุปกรณ์มือถือเองก็ใช้งานง่าย แต่ขาดข้อมูลเพิ่มเติมที่มีให้บริการบนเวอร์ชันเดสก์ท็อป (ซึ่งรวมถึงความเร็ว การใช้งานข้อมูลและความหน่วง)

ส่วนขยายเบราว์เซอร์ใช้ดีไซน์เดียวกันและมีการแสดงความเร็วและการใช้ข้อมูลจากเซสชันปัจจุบันของคุณ

ภาพหน้าจอของแอป Hotspot Shield บน Windows, Android, Mac และ iOSHotspot Shield มีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ในอุปกรณ์ทั้งหมดที่รองรับ

น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถทดสอบ Hotspot Shield บน MacBook Air ของฉันได้เนื่องจากโปรแกรม VPN ต้องการ OS X 10.12 หรือใหม่กว่า

ส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox — สะดวกสบายและใช้งานง่าย

Hotspot Shield มีส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome และ Firefox ส่วนขยายเป็นวิธีในการรับการป้องกันอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็ว แทนที่จะต้องมานั่งเปิดแอป VPN ทุกครั้งที่คุณต้องการเชื่อมต่อ มันยังอนุญาตให้คุณเลือกเมืองที่เฉพาะเจาะจงในการหลีกเลี่ยงโปรแกรม VPN ฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้ของฟีเจอร์นี้เนื่องจากฉันสามารถปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนการแปลภาษาของเว็บอื่นใด นี่หมายความว่าฉันสามารถรับชม Netflix ในสหรัฐอเมริกาและยังเข้าถึงบัญชีธนาคารท้องถิ่นของฉันได้โดยที่เว็บไซต์ไม่คิดว่าฉันอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา

ภาพหน้าจอของส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ Hotspot Shield สำหรับ Chrome และ Firefoxคุณสามารถใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ Hotspot Shield เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบเส้นทางการเข้าชมของคอมพิวเตอร์ของคุณได้

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือแม้ว่าจะมีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาภายในส่วนขยายเบราว์เซอร์ แต่ฉันไม่สามารถใช้งานได้ แม้ว่าจะหลังจากที่นั่งโหลดส่วนขยายเบราว์เซอร์ 3 ครั้งแล้วก็ตาม ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีโชคเลย

ลองใช้ Hotspot Shield ตอนนี้!

การตั้งค่าและการติดตั้ง — ติดตั้งได้ง่ายภายใน 2 นาที

ข้อดีอย่างเห็นได้ชัดของบริการนี้คือคุณสามารถติดตั้งมันได้ง่าย ๆ ในระหว่างการทดสอบของฉัน ฉันสามารถดาวน์โหลด VPN ติดตั้งและเริ่มต้นใช้งานมันได้ภายใน 2 นาที

  1. ไปที่ hotspotshield.com/vpn/ และดาวน์โหลดโปรแกรม VPN ลงอุปกรณ์ของคุณ
    ภาพหน้าจอของหน้าดาวน์โหลด Hotspot Shield
  2. เปิดไฟล์และเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้ง ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาตั้งแต่ 30 วินาทีไปจนถึงสองสามนาทีโดยขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของคุณ
    สกรีนช็อตของหน้าจอโปรแกรมติดตั้ง Hotspot Shield บน Windows
  3. เปิดใช้งาน Hotspot Shield คลิกที่ไอคอนบัญชีและลงชื่อเข้าใช้ เลือกประเทศและเชื่อมต่อ!
    สกรีนช็อตของหน้าจอล็อกอินบัญชีแอพ Hotspot Shield Windows

ยกเลิกการติดตั้ง Hotspot Shield ได้อย่างรวดเร็ว

คุณสามารถยกเลิกการติดตั้ง Hotspot Shield บน Windows ได้โดยการเปิด “Programs and Features” ในแผงควบคุมและลบมันออกไป บน Mac ให้ลากแอป Hotspot Shield จาก “แอปพลิเคชัน” ไปยัง “ถังขยะ”

บน Android ให้กดแอปค้างไว้และคลิกที่ “ยกเลิกการติดตั้ง” นอกจากนี้คุณยังสามารถลากแอปไปยัง “ยกเลิกการติดตั้ง” เพื่อลบมันออกไปได้ บน iOS ให้กดแอปค้างไว้และคลิกที่ “X” ที่อยู่ด้านบนของแอปเพื่อยกเลิกการติดตั้ง

ราคา

ผู้ชนะก็คือ

เยี่ยมชม Hotspot Shield เว็บไซต์

ถึงเวลาตัดสินใจแล้วว่าอันไหนเหมาะสำหรับคุณ

หรือ

อ่านรีวิว

อ่านรีวิว
พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา เรียนรู้เพิ่มเติม

Wizcase ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2018 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost, Intego และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน Wizcase นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ