ความเร็ว | 4.0 / 10 |
เซิร์ฟเวอร์ | 5.0 / 10 |
เป็นมิตรต่อผู้ใช้ | 7.0 / 10 |
บริการลูกค้า | 6.0 / 10 |
ราคา | 7.0 / 10 |
VPNCity รีวิว 2024: สมควรซื้อหรือเปล่า?
ภาพรวม VPNCity 2024
VPNCity เป็นโปรแกรม VPN ราคาถูกที่ฉันไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ดังนั้นฉันจึงไม่ได้คาดหวังว่ามันจะทำงานได้ดีเท่าไหร่นัก
ฉันทดลองเซิร์ฟเวอร์ของ VPNCity มากกว่า 40 เซิร์ฟเวอร์บนอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อทดสอบความเร็ว ความสามารถในการสตรีมมิ่ง ความปลอดภัยและบริการลูกค้า หลังจากการทดสอบโดยละเอียด ฉันก็ได้ข้อสรุปว่า VPNCity มอบฟีเจอร์มากมายสำหรับโปรแกรม VPN พื้นฐาน มีตัวเลือกที่ราคาเป็นมิตรในตลาดไม่มากนักที่สามารถเอาชนะความสามารถของ VPNCity ได้:
- มอบการเข้ารหัสระดับทหารในการป้องกันอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ
- ปลดบล็อกรายการโปรดของคุณและภาพยนตร์บน Netflix, Disney Plus, Amazon Prime Video และบริการสตรีมมิ่งหลักอื่น ๆ ได้
- เข้าถึงเว็บไซต์และการสตรีมบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันได้โดยไม่มีปัญหาด้านการเชื่อมต่อ
- ดาวน์โหลด Torrent ได้อย่างปลอดภัยและไม่เปิดเผยตัวตน
อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการความเร็วที่รวดเร็วมั่นคง ตัวเลือกความปลอดภัยเพิ่มเติมและฟีเจอร์ขั้นสูงกว่า (เช่น โปรแกรม VPN ที่ใช้งานในประเทศจีนได้) ในราคาที่ถูกกว่า Surfshark เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า VPNCity นอกจากนี้ Surfshark ยังมีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันมาให้ด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถลองใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้ฟรี 30 วัน! หากคุณไม่พึงพอใจ คุณสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าในภาษาไทยและขอเงินคืนได้
ไม่มีเวลาอ่านใช่ไหม? นี่คือบทสรุปฉบับ 1 นาที
- ความเร็วสำหรับการสตรีมมิ่งและการดาวน์โหลดที่ไม่สม่ำเสมอ ความเร็วโดยเฉลี่ยนั้นเร็วมาก แต่ฉันก็พบการล่าช้าเป็นบางครั้ง อ่านรีวิวเกี่ยวกับผลการทดสอบความเร็วของฉัน
- ปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ ได้ ฉันประทับใจกับจำนวนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่โปรแกรมปลดบล็อกได้ ดูว่าฉันสามารถเข้าถึงเว็บไซต์สตรีมมิ่งใดได้บ้าง
- เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์น่าประทับใจ มีเซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีมมิ่งที่รวดเร็วและเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการ Torrent ขนาดใหญ่ซึ่งมอบตัวเลือกให้ฉันได้เชื่อมต่อเยอะมาก ดูการทดสอบเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของฉัน
- ความปลอดภัยน่าเชื่อถือในการดูแลคุณให้ปลอดภัย VPNCity ใช้การเข้ารหัสระดับทหารเพื่อป้องกันข้อมูลของคุณ แต่นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานพวกเขายังไม่ได้รับการทดสอบ ดูฟีเจอร์ความปลอดภัย
- ใช้งานในประเทศจีนไม่ได้สม่ำเสมอ ตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าไม่สามารถรับประกันได้ว่า VPNCity จะทำงานในประเทศจีนได้เสมอ สำรวจตัวเลือกโปรแกรม VPN สำหรับประเทศจีน
- ฝ่ายบริการลูกค้าควรได้รับการปรับปรุง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าตอบกลับคำถามของฉันอย่างรวดเร็ว แต่ฉันไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนในทันที ดูแชทออนไลน์ของฉันกับฝ่ายบริการลูกค้า
- ความคุ้มค่าที่ดีกว่าผู้ให้บริการ VPN ขนาดเล็กส่วนใหญ่ ด้วยฟีเจอร์ที่แข็งแกร่งกว่าผู้ให้บริการขนาดเล็กส่วนใหญ่ VPNCity มอบความคุ้มค่าที่ดีสำหรับโปรแกรม VPN พื้นฐาน อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีรับการสมัครสมาชิกฟรี
VPNCity ปลดบล็อก HBO NOW, Hulu, BBC iPlayer, YouTube Premium ได้
สำหรับผู้ให้บริการขนาดเล็กแบบนี้ โปรแกรม VPN นี้ถือว่าทำได้ดีมากในเรื่องการหลีกเลี่ยงการปิดกั้นทางภูมิศาสตร์ นอกจาก Netflix แล้ว ฉันยังสามารถปลดบล็อก unblocked HBO, Hulu, BBC iPlayer และ YouTube Premium ได้อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย ตัวโปรแกรมมีแม้กระทั่งเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการสตรีมมิ่งสำหรับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่เฉพาะเจาะจงด้วย!
Netflix: ปลดบล็อกได้
VPNCity มีเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งที่ใช้งานกับ Netflix ได้ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและออสเตรเลียซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดพร็อกซีของ Netflix ได้สำเร็จ ฉันสามารถรับชมเนื้อหาในท้องถิ่นในทุกคลังข้อมูลเนื้อหาที่ฉันทั้งสอบทั้งหมดได้โดยไม่มีการโหลด หลังจากได้รับการยืนยันแล้วว่าเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการสตรีมมิ่งใช้งานได้ ฉันก็อยากดูว่าฉันจะสามารถปลดบล็อกเนื้อหาในภูมิภาคอื่นใดได้บ้าง (แม้ว่าจะไม่มีเซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีมมิ่งเฉพาะสำหรับ Netflix ในรายการก็ตาม) ฉันทดสอบเซิร์ฟเวอร์ของ VPNCity ในเยอรมนี ญี่ปุ่นและโมรอกโกและแต่ละเซิร์ฟเวอร์ก็อนุญาตให้ฉันเข้าถึงรายการโทรทัศน์ในท้องถิ่นและภาพยนตร์บน Netflix ได้!
Amazon Prime Video: ปลดบล็อกได้บางส่วน
VPNCity ไม่มีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับการสตรีมมิ่ง Amazon Prime Video อย่างไรก็ตามันมี 3 เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและออสเตรเลียที่ถูกติดป้ายไว้ว่า “บริการสตรีมมิ่งอื่น ๆ” เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ปลดบล็อกคลังข้อมูลเนื้อหาของ Prime Video ในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียได้ แต่ไม่สามารถปลดบล็อกคลังข้อมูลของสหราชอาณาจักรได้ ฉันประหลาดที่ผู้ให้บริการขนาดเล็กน้อยใช้งานกับบริการสตรีมมิ่งยอดนิยมได้ ด้วยการใช้เซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีมมิ่งในซิดนีย์ ฉันสามารถรับชม Guava Island ได้และไม่เคยต้องรอให้โหลดเลย
ฉันลองใช้เซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ในออสเตรีย แคนาดา เยอรมนี โปแลนด์และอุรุกวัย — แต่ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ใดเลยที่ใช้งานได้ แต่ถึงอย่างนั้นคลังข้อมูลเนื้อหาของสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียก็มอบสิทธิ์ในการเข้าถึงเนื้อหาสตริมมิ่งของ Amazon Prime Video ส่วนใหญ่กับคุณแล้ว ดังนั้นคุณจะไม่พลาดรายการยอดนิยมใด ๆ
รับชม Prime Video ด้วย VPNCity
Disney+: ปลดบล็อกได้บางส่วน
ด้วยการใช้เซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งสำหรับ Disney+ จำนวน 3 เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย ฉันสามารถลงชื่อเข้าใช้และรับชม Hamilton ได้โดยไม่มีปัญหา
ฉันสงสัยว่าฉันสามารถปลดบล็อกเนื้อหาของ Disney+ ในประเทศอื่น ๆ ได้ไหม แต่ฉันก็ต้องผิดหวัง ฉันลองใช้เซิร์ฟเวอร์ปกติของ VPNCity ที่อยู่ในฝรั่งเศส แคนาดา อิตาละและอินเดีย แต่ฉันก็พบกับข้อความผิดพลาดของ Disney+ ทั้งหมด
HBO NOW: ปลดบล็อกได้
VPNCity มาพร้อมกับเซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีมมิ่ง HBO NOW และมันทำงานได้ดีเลยทีเดียว ฉันสามารถลงชื่อเข้าใช้บัญชี HBO ของฉันได้ทันทีและรับชม Bohemian Rhapsody ในความคมชัดระดับ HD ได้โดยไม่มีการกระตุกหรือการโหลด
ความเร็วนั้นรวดเร็วในช่วงตอนกลางวัน แต่ฉันเกรงว่าฉันจะไม่ได้มีตัวเลือกอื่นหากเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งของ VPNCity หนาแน่นและช้า ฉันพยายามลงชื่อเข้าใช้จากเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา แต่ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ใดที่ใช้งานได้เลย
Hulu: ปลดบล็อกได้
แม้ว่า VPNCity จะไม่ได้มีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับ Hulu แต่ตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์นิวยอร์กก็อนุญาตให้ฉันลงชื่อเข้าใช้ Hulu ได้ทันทีและรับชม Futurama แม้ในความคมชัดระดับ HD ได้ การสตรีมของฉันนั้นเริ่มเล่นทันทีและฉันไม่เคยต้องรอให้มันโหลดเลย
หลังจากดำเนินการทดสอบเพิ่มเติม ฉันก็ตระหนักได้ว่าเซิร์ฟเวอร์นิวยอร์กและเซิร์ฟเวอร์ “บริการสตรีมมิ่งอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกา” เป็นเซิร์ฟเวอร์เดียวกัน — มันมีหมายเลข IP เดียวกัน ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาอื่นใดที่ใช้งานกับ Hulu ได้ในระหว่างการทดสอบของฉัน แม้ว่าจะเล่น Futurama ได้โดยไม่มีการโหลดหรือการลดคุณภาพก็ตาม แต่คุณจะไม่มีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์อื่นให้สลับไปใช้ได้หากเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกาดังกล่าวเกิดหนาแน่นอนในช่วงที่มีการใช้งานเยอะ
BBC iPlayer: ปลดบล็อกได้
ด้วยเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับการสตรีมมิ่ง BBC iPlayer ฉันปลดบล็อกแพลตฟอร์มและรับชม EastEnders โดยไม่กระตุกได้ทันที
หลังจากทดสอบเซิร์ฟเวอร์ BBC iPlayer ในลอนดอน ฉันก็มีความสงสัยเซิรืฟเวอร์สหราชอาณาจักรอื่น ๆ (ตั้งอยู่ในแมนเชสเตอร์) ว่าใช้งานได้ไหม ฉันดีใจที่ได้พบว่ามันใช้งานได้เช่นเดียวกันกับเซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีมมิ่ง เป็นเรื่องดีที่มีเซิร์ฟเวอร์มากมายสำหรับการรับชม BBC เผื่อในกรณีที่หนึ่งในเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวช้าเพราะมีผู้ใช้งานมากจนเกินไป
รับชม BBC iPlayer ด้วย VPNCity
YouTube Premium: ปลดบล็อกได้
VPNCity มีเซิร์ฟเวอร์ YouTube Premium ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและออสเตรเลียและเซิร์ฟเวอร์ทั้ง 3 เซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมให้บริการก็ปลดบล็อก YouTube Premium ได้ทันที ความเร็วก็รวดเร็วพอสำหรับการสตรีมหนึ่งในรายการ YouTube ที่ฉันชอบ Could You Survive the Movies? ในความคมชัดระดับ HD โดยไม่ต้องโหลด
ความเร็ว
- 4.0 / 10ความเร็วเซิร์ฟเวอร์ของ VPNCity นั้นไม่สม่ำเสมอ บางครั้งฉันก็ได้รับความเร็วที่รวดเร็วมากและในเวลาอื่น ๆ เซิร์ฟเวอร์ก็ชะลอความเร็วการเชื่อมต่อของฉันอย่างมาก ตอนที่ความเร็วช้าที่สุด ความเร็วของฉันอยู่ที่เพียง 2.6 Mbps จากเซิร์ฟเวอร์ลอนดอน สหราชอาณาจักรซึ่งไม่เร็วพอในการรับชมในความคมชัดระดับ HD บน 1 อุปกรณ์
ความเร็วที่ช้าลงอาจเป็นปัญหาใหญ่ในการรับชมโทรทัศน์และภาพยนตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากฉันมีเซิร์ฟเวอร์ VPNCity เพียง 1 เซิร์ฟเวอร์ที่ปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่งนั้น ๆ ได้ หากความเร็วของคุณช้าลง คุณจะไม่มีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์อื่นให้เปลี่ยนไปใช้
ฉันลองรับชม Netflix บนอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อดูว่าการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากนั้นจะก่อให้เกิดการกระตุกหรือไม่ ตอนที่รับชม Stranger Things บน Windows PC และโทรศัพท์ Android 2 เครื่อง ฉันก็ไม่พบกับการกระตุกใด ๆ จากเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้ฉันที่สุดเลย (ในสหรัฐอเมริกา) ในขณะที่ทดสอบจำนวนอุปกรณ์เดียวกันนี้กับเซิร์ฟเวอร์เยอรมนี ฉันต้องรอสองสามวินาทีเพื่อให้การสตรีมเริ่มต้นขึ้น
คุณสามารถลองใช้ VPNCity ฟรี 30 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินเพื่อให้มันใจว่ามันเร็วพอสำหรับการรับชมบนอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณหรือไม่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจสมัครสมาชิก หากคุณไม่ต้องการรับมือกับปัญหาที่ฉันเผชิญ ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ ExpressVPN ฉันสามารถรับชมรายการโปรดของฉันได้โดยมีการโหลดเพียงไม่กี่วินาทีและไม่มีการล่าช้าในตอนต่าง ๆ ทั้งหมด
ความสำคัญของความเร็วและสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก VPN?
ความเร็วถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเมื่อเลือก VPN ซึ่งความเร็วในการใช้ VPN จะมาพร้อมกับค่าใช้ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยิ่ง VPN มีความเร็วมากเท่าใด คุณยิ่งจะสามารถเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดของเน็ตเวิร์คของคุณได้มากเท่านั้น เวลา Ping มีความสำคัญเทียบเท่ากับความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดสำหรับการสตรีมมิ่ง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความเร็วในการรับข้อมูล เวลา ping ที่น้อยกว่าและแบนด์วิธในการดาวน์โหลดที่สูงจะช่วยให้การสตรีมมิ่งเป็นไปได้อย่างไม่มีสะดุด การใช้เวลาในการเชื่อมต่อที่สั้นกว่าจะช่วยป้องกันความวุ่นวาย ส่วนการเชื่อมต่อที่เสถียรถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่งหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ
เซิร์ฟเวอร์
- 5.0 / 10เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ — เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่สำหรับผู้ให้บริการที่มีขนาดเล็ก
ฉันประทับใจกับเครือข่ายของ VPNCity ที่มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3,000 เซิร์ฟเวอร์ในประเทศต่าง ๆ กว่า 30 ประเทศ เซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาทำงานได้ดีในเรื่องการตอบโจทย์ความต้องการในการสตรีมมิ่งของฉันซึ่งถือเป็นเรื่องดีเมื่อพิจารณาถึงว่าผู้ให้บริการขนาดเล็กส่วนใหญ่ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับแต่งสำหรับการสตรีมมิ่ง
ความปลอดภัย — การเข้ารหัสที่ทรงพลังและการปิดกั้นโฆษณาภายในตัว
VPNCity อ้างว่าใช้การเข้ารหัสระดับทหาร 256-บิตซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ตำแหน่งของคุณและข้อมูลส่วนตัวจะไม่มีวันรั่วไหล ฉันทดสอบการเข้ารหัสกับการรั่วไหลของ DNS เพื่อดูว่าหมายเลข IP ที่แท้จริงของฉันถูกเปิดเผยหรือไม่ หลังจากที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสวีเดน การทดสอบ DNS แสดงให้เห็นว่าหมายเลข IP ที่แท้จริงของฉันถูกปิดบังเอาไว้ นี่หมายความว่าการเชื่อมต่อของฉันปลอดภัยและการเข้ารหัสก็กำลังทำงาน
เนื่องจากผู้ให้บริการ VPN ขนาดเล็กจำนวนมากไม่มีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณามาให้ ดังนั้นฉันจึงค่อนข้างประหลาดใจที่ VPNCity ปิดกั้นโฆษณาใด ๆ บนเว็บเบราว์เซอร์ของฉัน (แม้ว่าฉันจะต้องเปิดใช้งานมันด้วยตัวเองก็ตาม) นี่ถือเป็นโบนัสที่สำคัญสำหรับฉันเพราะโฆษณามักมีมัลแวร์ซึ่งสามารถขโมยข้อมูล เช่น ข้อมูลลงชื่อเข้าใช้และข้อมูลบัตรเครดิตของคุณได้ อย่างไรก็ตามมันไม่มีเครื่องมือปิดกั้นมัลแวร์จริง ๆ มาให้ นี่หมายความว่าการคลิกลิงก์ที่เป็นอันตรายอาจเป็นการติดตั้งมัลแวร์ที่เป็นอันตรายกับอุปกรณ์ของคุณได้
ความเป็นส่วนตัว — Kill Switch ป้องกันตัวตนของคุณ แต่นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานยังไม่ได้รับการทดสอบ
VPNCity บอกว่าตนเป็นผู้ให้บริการ VPN ที่ไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานโดยกล่าวอ้างว่าไม่มีการบันทึกข้อมูลการท่องเว็บใด ๆ ของคุณเอาไว้ อย่างไรก็ตามแม้ว่านโยบายความเป็นส่วนตัวจะระบุว่าไม่มีการบันทึกข้อมูลเอาไว้ แต่มันก็ไม่เคยถูกตรวจสอบหรือทดสอบเลย ฉันจะรู้สึกมั่นใจมากกว่านี้หาก VPNCity รับการทดสอบจากบริษัทภายนอกที่พิสูจน์ว่านโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานของพวกเขานั้นเป็นเรื่องจริง
VPNCity ยังมี Kill Switch ซึ่งจะเปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและการถ่ายโอนข้อมูลของคุณหากคุณยกเลิกการเชื่อมต่อจากโปรแกรม VPN นี่จะป้องกันหมายเลข IP ที่แท้จริง ตำแหน่งและข้อมูลอื่น ๆ ของคุณไม่ให้ถูกเปิดเผย คุณแค่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดใช้งานมันแล้วในเมนูการตั้งค่า
การ Torrenting — รองรับการ Torrent ในทุกเซิร์ฟเวอร์ แต่ไม่มีการป้องกันมัลแวร์
VPNCity ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการ Torrenting แต่มันกล่าวอ้างว่าเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขานั้นรองรับการดาวน์โหลดแบบ P2P หลังจากที่ทดสอบเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ มากมายในเกือบทุกทวีป เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดอนุญาตให้ฉัน Torrent เอกสารบน Pirate Bay ได้ ความกังวลอย่างยิ่งในการดาวน์โหลด Torrent ของฉันคือความปลอดภัยและ VPNCity ก็มีฟีเจอร์ที่น่าเชื่อถือ (เช่น นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน การเข้ารหัสระดับสูงและ Kill Switch) ซึ่งจะดูแลให้ฉันปลอดภัยทางออนไลน์
ฉันแค่อยากให้ VPNCity มีเครื่องมือปิดกั้นมัลแวร์มาให้ด้วย เว็บไซต์ Torrent นั้นเต็มไปด้วยโฆษณาที่อาจจะพยายามติดตั้งมัลแวร์ลงบนคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อติดตามหรืออ่านข้อมูลของคุณก็เป็นได้
ดาวน์โหลด Torrent ด้วย VPNCity
ใช้ VPNCity ในประเทศจีนได้ไหม? (ไม่น่าไว้วางใจ)
แม้ว่าเว็บไซต์รีวิวโปรแกรม VPN อื่น ๆ จะบอกว่าใช้ได้ แต่ VPNCity ใช้งานในประเทศจีนไม่ได้ ที่จริงแล้วมีโปรแกรม VPN เพียงไม่กี่โปรแกรมเท่านั้นที่มีเทคโนโลยีในการหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์อินเทอร์เน็ตของประเทศจีน เว็บไซต์ VPNCity และเว็บไซต์รีวิวโปรแกรม VPN อื่น ๆ บอกว่ามันใช้งานในประเทศจีนได้ แต่ไม่สามารถรับประกันได้ 100% ว่าจะใช้งานได้ ExpressVPN เป็นโปรแกรม VPN ทางเลือกที่ฉันเคยใช้ในช่วงเดินทางไปยังประเทศจีนและมันก็หลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์ได้เสมอโดยที่รัฐบาลไม่สามารถดูกิจกรรมทางออนไลน์ของฉันได้
ตำแหน่งของเซิฟเวอร์
เป็นมิตรต่อผู้ใช้
- 7.0 / 10การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกัน — อนุญาตให้ใช้งานได้สูงสุด 12 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน
VPNCity อนุญาตให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันได้ 6, 8, 10 หรือ 12 อุปกรณ์โดยขึ้นอยู่กับประเภทการสมัครสมาชิกของคุณ ยิ่งสมัครสมาชิกนานแค่ไหน อุปกรณ์ที่คุณสามารถเชื่อมต่อได้ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ฉันทดลองสตรีมมิ่งบนอุปกรณ์ต่าง ๆ จำนวน 5 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน ได้แก่ Windows PC จำนวน 2 เครื่อง โทรศัพท์ Android จำนวน 2 เครื่องและ Amazon Fire Stick ในระหว่างการทดสอบของฉัน ฉันไม่พบกับปัญหาการเชื่อมต่อหรือความเร็วที่ช้าลงใด ๆ
ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ — อุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายและส่วนขยายเบราว์เซอร์
VPNCity ทำงานได้บนอุปกรณ์ แอปและระบบปฏิบัติการต่าง ๆ มากมาย มันเข้ากันได้กับ Windows, Android, macOS, iOS, Android TV, Fire TV Stick, Chrome, Firefox และ Shadowsocks ได้ เนื่องจากฉันมักใช้งาน Amazon Fire Stick เพื่อรับชมรายการต่าง ๆ กับครอบครัวของฉัน ฉันจึงมีความสุขที่ได้เห็นว่ามันเข้ากันได้กับ VPNCity นอกจากนี้ฉันยังมีความสุขที่ได้เห็นว่ามันทำงานกับ Smart TV ใด ๆ ก็ตามที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV ได้อีกด้วย (โปรแกรม VPN ขนาดเล็กส่วนใหญ่จะไม่สามารถทำได้)
ฉันพบว่าการใช้งานส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่ผสานรวมสำหรับ Chrome และ Firefox เป็นเรื่องที่สะดวกสบายและใช้งานง่าย อย่างไรก็ตามหากคุณกำลังมองหาโปรแกรม VPN เพื่อป้องกันเกมคอนโซลอย่าง Xbox หรือ PS4 VPNCity จะใช้งานไม่ได้
การตั้งค่าและการติดตั้ง — ตั้งค่าง่าย แต่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพอยู่บ้างบน Windows
มีเว็บไซต์รีวิวเว็บไซต์หนึ่งอ้างว่าเมนูการตั้งค่าของ VPNCity ใช้งานไม่ได้ แต่ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ สิ่งหนึ่งที่คุณควรทราบคือคุณไม่สามารถเปลี่ยนตัวเลือกบางอย่างได้เมื่อคุณเชื่อมต่อแล้ว ดังนั้นคุณอาจจะต้องยกเลิกการเชื่อมต่อก่อน ฉันได้รับการแจ้งเตือนตอนที่ฉันเชื่อมต่อหรือยกเลิกการเชื่อมต่อ ดังนั้นการดูว่ากิจกรรมทางออนไลน์ของฉันได้รับการป้องกันหรือไม่จึงเป็นเรื่องง่าย
บางครั้งฉันก็ประสบกับปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ VPNCity บน Windows — แอปมีการกระตุก หากฉันต้องการย้ายหน้าต่างของแอปหรือเลือกเซิร์ฟเวอร์ใหม่ มันจะมีช่วงระยะเวลาดีเลย์ประมาณ 3-5 วินาทีก่อนที่แอปจะตอบกลับ ฉันไม่มั่นใจว่าอะไรที่ทำให้เป็นแบบนี้ แต่มันเกิดขึ้นประมาณ 25% ของระยะเวลาที่ VPN ถูกเปิดใช้งาน โชคดีที่ฉันไม่พบกับการล่าช้าหรือการค้างใด ๆ บนเวอร์ชัน Android แม้ว่าฉันจะเปิดแอปอื่น ๆ ในเวลาเดียวกันจำนวนมากก็ตาม
ยกเลิกการติดตั้ง VPNCity ได้อย่างรวดเร็ว
บน Windows PC ของฉัน ฉันยกเลิกการติดตั้งมันผ่านเครื่องมือโปรแกรม Add/Remove ใน Control Panel ได้เลย สิ่งที่ฉันต้องทำก็คือลากไอคอนมาทิ้งลงในถังขยะเท่านั้น — ง่ายมาก
หากคุณต้องการทดสอบว่าแอปทำงานได้เป็นอย่างไรบนอุปกรณ์ของคุณ VPNCity มีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันให้คุณได้ทดสอบด้วยตัวเอง
บริการลูกค้า
- 6.0 / 10ฝ่ายบริการลูกค้าของ VPNCity ตอบกลับคำถามของฉัน แต่ฉันไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการตอนที่ฉันพยายามจะแก้ไขปัญหา ฉันติดต่อพวกเขาผ่านทางอีเมลและแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อสอบถามว่า VPNCity ใช้งานในประเทศจีนได้ไหม ในแชทออนไลน์ ฉันได้รับการตอบกลับจากตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าในเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาที แต่เธอไม่ได้ตอบคำถามของฉัน ฉันถามอีกครั้งและตัวแทนก็ตามฉันว่า “โดยปกติ” แล้วมันใช้งานได้และฉันสามารถทดลองใช้งานมันได้ฟรี 7 วัน
ตอนที่ฉันถามคำถามเดียวกันนี้ผ่านทางอีเมล เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าก็บอกฉันว่า “พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่” เพื่อให้ VPN ใช้งานในประเทศจีนได้ จากนั้นก็ส่งลิงก์เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันมาให้กับฉันเพื่อทดลองดูว่ามันใช้งานได้หรือไม่ ทั้งตัวแทนในแชทออนไลน์และตัวแทนทางอีเมลไม่สามารถให้คำตอบสำหรับคำถามของฉันอย่างชัดเจนได้ นี่ถือว่าไม่น่าไว้วางใจอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโปรแกรม VPN ขนาดใหญ่กว่าอย่าง ExpressVPN ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ของประเทศจีนได้อย่างปลอดภัยและไม่เปิดเผยตัวตน
ทำไมฉันถึงต้องดูที่การช่วยเหลือ ในเมื่อฉันสามารถทำได้เอง?
ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการช่วยเหลือที่ดีมีความจำเป็นเฉพาะในช่วงการติดตั้ง VPN แต่จริง ๆ แล้วก็อาจมีอย่างอื่นที่ท่านอาจต้องการความช่วยเหลือนี้ได้เช่นกัน เช่น การเชื่อมต่อไปยังเซิฟเวอร์บางแห่ง การเปลี่ยนโปรโตคอล และการปรับค่า VPN บนเราท์เตอร์ เป็นต้น เราได้ตรวจสอบ VPN แต่ละตัวเพื่อดูว่ามีการช่วยเหลือเวลาใดบ้าง (ถึงแม้ในช่วงกลางดึก), ระยะเวลาที่พวกเขาตอบสนอง และพวกเขาได้ตอบคำถามเราหรือไม่
ราคา
- 7.0 / 10คุณสามารถจ่ายเงินซื้อ VPNCity ได้ด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิต, PayPal, Alipay หรือสกุลเงินดิจิทัล ฉันชื่นชมที่พวกเขามีตัวเลือกสกุลเงินดิจิทัลเนื่องจากมันทำให้ฉันมั่นใจได้ว่าการชำระเงินของฉันจะไม่ถูกเปิดเผย VPNCity มีแผนให้บริการต่าง ๆ มากมาย — แต่เช่นเดียวกันกับโปรแกรมอื่น ๆ คุณจะประหยัดเงินได้มากกว่าในแผนการสมัครสมาชิกระยะยาว แต่ละแผนมาพร้อมกับการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันซึ่งถือเป็นระยะเวลามาตรฐานในโปรแกรม VPN พรีเมียมส่วนใหญ่ แต่ไม่เพียงเท่านั้น มันยังมีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันมาให้ด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถลองใช้งานโดยไม่มีความเสี่ยงได้ตลอดทั้งสัปดาห์
ตอนที่ฉันทดสอบนโยบายการคืนเงินผ่านแชทออนไลน์ของ VPNCity ฉันถูกถามสองครั้งก่อนที่คำขอของฉันจะได้รับการดำเนินการ ฉันขอเงินคืนครั้งแรกและเจ้าหน้าที่ก็บอกฉันเพียงแต่วิธีการยกเลิกบัญชีของฉัน หลังจากที่ฉันสอบถามเป็นครั้งที่สอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าจึงส่งลิงก์ให้ฉันส่งคำขอคืนเงิน หากฉันไม่สอบถามอีกครั้ง ฉันคงจะได้ทำแค่ยกเลิกการสมัครสมาชิกของฉันและการชำระเงินต่อเนื่องใด ๆ โดยไม่ได้รับเงินคืน ถึงแม้ว่าจุดนี้จะเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง แต่ฉันก็ได้รับเงินคืนเข้าบัญชีของฉันภายในเวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง (คุณจะได้รับเงินคืนเร็วขึ้นหากคุณใช้ PayPal เหมือนกับฉัน)
หากคุณสั่งซื้อการสมัครสมาชิก VPNCity ของคุณบนอุปกรณ์มือถือของคุณ เงินคืนของคุณจะได้รับการดำเนินการผ่าน App Store หรือ Google Play Store นี่อาจใช้เวลานานมากกว่าผ่านทางแชทออนไลน์ของ VPNCity
เคล็ดลับลับ: ฉันได้รับการเสนอส่วนลด 50% ตอนที่ฉันขอให้ยกเลิก หากคุณต้องการยกเลิกทันทีหลังจากที่คุณสมัครสมาชิก พวกเขาอาจมอบส่วนลดให้คุณครึ่งหนึ่งเพื่อที่คุณจะได้เป็นลูกค้าต่อไป!
แม้ว่ามันจะมีฟีเจอร์และเซิร์ฟเวอร์น้อยกว่าโปรแกรม VPN ที่ทรงพลังกว่าอย่าง ExpressVPN แต่ VPNCity ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณไม่ต้องการจ่ายเงินมากในแผนให้บริการระยะสั้น
VPNCity มีแพลนดังต่อไปนี้
บทสรุป
หากคุณมีงบประมาณที่จำกัดและต้องการใช้โปรแกรม VPN ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น VPNCity เป็นตัวเลือกครบวงจรที่ไว้วางใจได้ ฉันพึงพอใจกับเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ ความสามารถในการปลดบล็อก ฟีเจอร์ความปลอดภัยและการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมาก หากคุณต้องการดาวน์โหลด Torrent โดยไม่มีปัญหาและมั่นใจว่าไม่มีการเก็บบันทึกกิจกรรมของคุณ งั้นคุณควรลองใช้ Surfshark แทน ไม่เพียงแต่ว่ามันจะมีราคาถูกเท่านั้น แต่คุณยังสามารถทดลองใช้งานมันได้ฟรี 30 วัน!
คำถามที่พบบ่อย
? ฉันสามารถใช้ VPNCity ฟรีได้ไหม?
VPNCity มีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ฟรีในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แม้ว่าหลังจากที่คุณสมัครสมาชิกแล้ว คุณก็ยังสามารถขอรับเงินคืนได้หากคุณยกเลิกภายใน 30 วัน นี่เป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้โปรแกรม VPN ฟรีที่อาจทำให้ข้อมูลของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง โปรแกรม VPN ฟรีมากมายขายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ทำให้คุณเสี่ยงกับแฮกเกอร์และภัยคุกคามมัลแวร์ โปรแกรม VPN ฟรียังมีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์จำนวนไม่มาก จำกัดการใช้งานข้อมูลและมีปัญหาในการปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่ง คุณจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้เมื่อใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัย เซิร์ฟเวอร์นับพันเซิร์ฟเวอร์ แบนด์วิดธ์ไม่จำกัดและความสามารถในการปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่งหลักทั้งหมดของ VPNCity
หากคุณตัดสินใจสมัครสมาชิก VPNCity มีโปรแกรมแนะนำแสนใจกว้างที่ที่คุณสามารถใช้งานได้ฟรีเมื่อคุณแนะนำเพื่อนหรือครอบครัวของคุณ การแนะนำคน 1 คนจะทำให้คุณใช้งานได้ฟรีหนึ่งเดือน ถ้าได้ 2 คน คุณจะได้รับ 6 เดือนฟรีและ 3 คนขึ้นไป คุณจะใช้งานได้ฟรี 3 ปี หากคุณรู้จักใครสักคนที่ต้องการโปรแกรม VPN ข้อเสนอแนะนำนี้จะเป็นวิธีที่ดีในการใช้งานโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท
? VPNCity เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าโปรแกรม VPN ราคาแพงหรือเปล่า?
? VPNCity สามารถดูแลให้ฉันปลอดภัยได้จริงหรือเปล่า?
ฉันทดสอบการเข้ารหัสระดับทหารของ VPNCity และสามารถยืนยันได้ว่ามันดูแลให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แฮกเกอร์และรัฐบาลได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้มันยังมีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ป้องกันเครื่องมือติดตามและป๊อปอัพที่มีไวรัสได้อีกด้วย แม้ว่ามันจะมีเครื่องมือปิดกั้นมัลแวร์แยกต่างหาก แต่คุณก็ยังคงต้องระมัดระวัง — มันจะไม่ป้องกันคุณหากคุณคลิกลิงก์ที่เป็นอันตรายเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ โปรแกรม VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Windows และระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ส่วนใหญ่มีระบบการปิดกั้นมัลแวร์มาให้ในตัว
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อ่าน และเรามุ่งมั่นที่จะได้รับความไว้วางใจจากคุณด้วยการทำงานด้วยความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมบางส่วนที่ได้รับการตรวจสอบบนเว็บไซต์นี้: Intego, Cyberghost, ExpressVPN และ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา เนื่องจากเราปฏิบัติตามวิธีการทดสอบที่เข้มงวด