AzireVPN รีวิว 2024: สมควรซื้อหรือเปล่า?

ภาพรวม AzireVPN 2024

ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ VPN รายเล็ก ผมมีข้อสงสัยว่า AzireVPN จะสามารถแข่งขันกับผู้ให้บริการชั้นนำได้หรือไม่ — และผมคิดถูก AzireVPN มีการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง นโยบายความเป็นส่วนตัวที่มั่นคง และสามารถปลดบล็อก Disney+ และแม้กระทั่งไลบรารี Netflix บางส่วนได้ แต่การตั้งค่านั้นยุ่งยากและโปรแกรมมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่จำกัด เมื่อเทียบกับบริการชั้นยอดแล้ว มันยังเทียบไม่ได้กับคุณสมบัติพิเศษ ความสะดวกในการใช้งาน หรือความสามารถในการปลดบล็อก ผมรู้สึกผิดหวังเช่นกันที่มันไม่สามารถใช้งานได้อย่างเสถียรในประเทศจีนหรือประเทศอื่น ๆ ที่มีการเซ็นเซอร์ที่เข้มงวด

AzireVPN เปิดโอกาสให้คุณทดลองใช้ 7 วันพร้อมการรับประกันคืนเงิน ดังนั้นคุณสามารถทดลองใช้โปรแกรมได้ด้วยตัวคุณเองหากต้องการเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่น

มีเวลาน้อยใช่ไหม? อ่านสรุปข้อมูลทั้งหมดใน 1 นาทีนี้

  • มีความเร็วที่ดี (ยกเว้นเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล) ผมรู้สึกพึงพอใจที่ได้รับความเร็วที่ยอดเยี่ยมกับ AzireVPN ยกเว้นเมื่อผมเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในอีกฟากหนึ่งของโลก ข้ามไปดูผลการทดสอบความเร็วของผม
  • ปลดบล็อก Netflix และ Disney+ ได้สำเร็จ หลังจากขั้นตอนการกำหนดค่าด้วยตนเองที่ซับซ้อน AzireVPN ปลดบล็อก Netflix และ Disney+ ได้สำเร็จ แต่ว่ามันยังใช้ไม่ได้กับ Hulu, BBC iPlayer หรือ Amazon Prime Video ดูการทดสอบการสตรีมของผม
  • AzireVPN เป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวของคุณให้สูงสุด เนื่องจาก AzireVPN ติดตั้งและเป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์แทนที่จะใช้เทคโนโลยีของบุคคลที่สาม ข้อมูลของคุณจึงได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี นอกจากนี้โปรแกรมยังมีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลเพื่อปกป้องคุณ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโตคอลความเป็นส่วนตัว
  • การตั้งค่าที่ยุ่งยากและอินเทอร์เฟซที่ซับซ้อน ไคลเอนต์ดั้งเดิมใช้งานยาก และผมต้องกำหนดค่าด้วยตนเองเพื่อให้โปรแกรมทำงานกับไคลเอนต์ OpenVPN หรือ WireGuard ของบุคคลที่สาม เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้ใช้
  • มีราคาไม่แพง แต่ไม่ได้คุ้มค่าที่สุด การสมัครสมาชิก CyberGhost 2 ปีมีราคาย่อมเยาและให้บริการที่ดีกว่าโดยรวม (และการรับประกันคืนเงินที่นานกว่า) อ่านเกี่ยวกับราคาของ AzireVPN

AzireVPN ปลดบล็อก Netflix และ Disney+ ได้สำเร็จ (แต่ไม่สามารถเข้าถึง Hulu, HBO Max, Amazon Prime Video หรือ BBC iPlayer ได้)

Netflix และ Disney+: ปลดบล็อกได้สำเร็จ

ผมรู้สึกผิดหวังที่การปลดบล็อก Netflix และ Disney+ ด้วย AzireVPN นั้นเป็นกระบวนการทางเทคนิคที่ยุ่งยากและซับซ้อน Netflix นั้นไม่โหลดเมื่อผมเชื่อมต่อโดยตรงผ่านแอปเนทีฟของ AzireVPN — มันทำงานได้เฉพาะในกรณีที่ผมใช้ WireGuard หรือ OpenVPN ผมต้องผ่านขั้นตอนการกำหนดค่าด้วยตนเองที่ซับซ้อนและยาวนานเพื่อให้ไคลเอนต์ VPN โอเพนซอร์สทั้งคู่ทำงานกับ AzireVPN ได้ ผมรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติมมากมาย!

หลังจากเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ AzireVPN ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา เนเธอร์แลนด์ สเปน และเยอรมนีโดยใช้ไคลเอนต์ WireGuard VPN ผมปลดบล็อก Netflix ได้สำเร็จ และรับชม The Crown ได้ในระดับ HD ผมยังสามารถใช้เซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทยเพื่อปลดบล็อก Netflix ได้ แต่มันช้าเกินไปสำหรับผมที่จะดูอะไรก็ตามโดยไม่มีการกระตุก แม้ว่าการตั้งค่าให้โปรแกรมทำงานได้อาจเป็นเรื่องยุ่งยากในตอนแรก แต่ผมก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่มันทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มนี้ได้เนื่องจากมี VPN เพียงแค่ไม่กี่ตัวเท่านั้นที่สามารถปลดบล็อก Netflix ได้

ภาพหน้าจอของ The Crown ที่เล่นบน Netflix ในขณะที่ AzireVPN เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสเปนโดยใช้ไคลเอนต์ WireGuard

เซิร์ฟเวอร์ของ AzireVPN ปลดบล็อก Netflix ได้เมื่อผมเชื่อมต่อกับไคลเอนต์ WireGuard

นอกจากนี้ AzireVPN ยังปลดบล็อก Disney+ ได้ผ่านไคลเอนต์ WireGuard และ OpenVPN ทำให้ผมเข้าสู่ระบบและรับชม Spanish Affair ได้โดยไม่มีอาการหน่วงด้วยการใช้เซิร์ฟเวอร์ในสเปน ผมยังทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และเยอรมนี และพวกมันทั้งหมดปลดบล็อก Disney+ เพื่อให้ผมรับชมภาพยนตร์คลาสสิกที่ผมชื่นชอบได้สำเร็จ

HBO Max, Hulu, BBC iPlayer และ Amazon Prime Video: ถูกบล็อก

ในการทดสอบของผม เซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักรของ AzireVPN ไม่สามารถปลดบล็อก BBC iPlayer ได้ และเซิร์ฟเวอร์ไมอามีและชิคาโกไม่สามารถช่วยให้ผมเข้าถึง Hulu หรือ HBO Max ได้ ผมรู้สึกผิดหวังที่พบข้อผิดพลาดของพร็อกซีขณะพยายามดูภาพยนตร์หรือรายการทีวีบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ นี่เป็นความผิดหวังเนื่องจากบล็อกอื่น ๆ กล่าวอ้างว่าโปรแกรมใช้งานได้กับบริการสตรีมมิ่งเหล่านี้

ภาพหน้าจอของข้อผิดพลาดพร็อกซีของ HBO Max ขณะเชื่อมต่อกับ AzireVPN ผ่าน WireGuard

ผมถูกบล็อกทางภูมิศาสตร์เมื่อพยายามเข้าสู่ HBO Max ด้วย AzireVPN

จากการทดสอบของผม VPN ขั้นสูงเช่น ExpressVPN ปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่งทุกรายการที่กล่าวถึงในรีวิวนี้ได้อย่างง่ายดาย ExpressVPN ยังมีเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วกว่าในหลายประเทศเพื่อให้คุณสามารถสตรีมในระดับ HD โดยไม่มีการกระตุก

ความเร็ว

- 6.0 / 10

AzireVPN มีความเร็วที่เสถียร (ยกเว้นเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ไกลที่สุด)

ความเร็วของ AzireVPN นั้นเร็วอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นบนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ไกลที่สุด ผมอยู่ที่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา และผมรู้สึกดีใจที่ได้รับการเชื่อมต่อที่เสถียรในทุกตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่ผมลองใช้ ยกเว้นเซิร์ฟเวอร์ประเทศไทย

ผลการทดสอบความเร็ว

ความเร็วโดยเฉลี่ยของผมบน AzireVPN คือ 26.2Mbps ผมมีความสุขที่เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้นั้นเร็วพอที่จะให้ผมสตรีมและเล่นเกมได้โดยไม่มีอาการหน่วง

ภาพหน้าจอของการทดสอบความเร็ว 4 ครั้งขณะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ AzireVPN

ความเร็วของผมช้ามากในขณะที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ AzireVPN ในอีกฟากหนึ่งของโลก

การเชื่อมต่อของผมกับเซิร์ฟเวอร์ประเทศไทยบางครั้งช้ามากซะจนไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากประเทศนี้อยู่ในระยะทางไกลที่สุด จึงสมเหตุสมผลที่ความเร็วจะช้าลง — แต่มันไม่เร็วพอที่จะรับชม Netflix หลังจากอาการหน่วงประมาณ 30 วินาที โดยจะเริ่มต้นด้วยคุณภาพที่ต่ำเช่นนี้และมีการกระตุกหลายครั้งซะจนไม่สามารถรับชมรายการได้ แม้แต่หน้าเว็บปกติก็โหลดช้ามากเพราะมีองค์ประกอบมัลติมีเดียมากเกินไป

โดยรวมแล้วผมพบว่าความเร็วของ AzireVPN นั้นดีในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้ แต่ถ้าคุณต้องการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลหรือคุณมีความเร็วพื้นฐานต่ำกว่าที่ผมมี คุณอาจมีปัญหาอย่างใหญ่หลวงในการเชื่อมต่อ เพื่อหลีกเลี่ยงความเร็วที่ช้า ผมขอแนะนำให้คุณลองใช้บริการที่มีความเร็วเยี่ยมยอดเช่น ExpressVPN

ความสำคัญของความเร็วและสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก VPN?

ความเร็วถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเมื่อเลือก VPN ซึ่งความเร็วในการใช้ VPN จะมาพร้อมกับค่าใช้ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยิ่ง VPN มีความเร็วมากเท่าใด คุณยิ่งจะสามารถเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดของเน็ตเวิร์คของคุณได้มากเท่านั้น เวลา Ping มีความสำคัญเทียบเท่ากับความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดสำหรับการสตรีมมิ่ง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความเร็วในการรับข้อมูล เวลา ping ที่น้อยกว่าและแบนด์วิธในการดาวน์โหลดที่สูงจะช่วยให้การสตรีมมิ่งเป็นไปได้อย่างไม่มีสะดุด การใช้เวลาในการเชื่อมต่อที่สั้นกว่าจะช่วยป้องกันความวุ่นวาย ส่วนการเชื่อมต่อที่เสถียรถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่งหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ

เซิร์ฟเวอร์

- 6.0 / 10

เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ — มีเพียงแค่ประมาณ 60 เซิร์ฟเวอร์ใน 14 ประเทศ

เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของ AzireVPN นั้นมีขนาดค่อนข้างเล็ก โดยมีเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดประมาณ 60 แห่งใน 14 ประเทศ คุณจะไม่พบเซิร์ฟเวอร์ในตะวันออกกลาง รัสเซีย หรือแอฟริกาเลย และมีเซิร์ฟเวอร์เพียงแค่แห่งเดียวในเอเชีย เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดมีการรักษาความปลอดภัยที่ดี แต่ผมรู้สึกผิดหวังกับปริมาณที่จำกัดของเครือข่าย

การรักษาความปลอดภัย — AzireVPN ช่วยให้ผมไม่เปิดเผยตัวตนทางออนไลน์ (แต่หลังจากที่กำหนดค่าเพิ่มเติมเท่านั้น)

ผมรู้สึกผิดหวังที่ AzireVPN ไม่สามารถซ่อนข้อมูล เช่น ตำแหน่งและที่อยู่ IP ของผมในระหว่างการทดสอบการรั่วไหลของ DNS ได้ นั่นหมายความว่าผมไม่ได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่และไม่เปิดเผยตัวตนซึ่งตรงกันข้ามกับจุดประสงค์ของการใช้ VPN โดยสิ้นเชิง! ผมติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเกี่ยวกับปัญหานี้และพวกเขาบอกว่าผมต้องทำการกำหนดค่าเพิ่มเติมเพื่อหยุดการรั่วไหล

ในขณะที่ผมสามารถทำให้โปรแกรมผ่านการทดสอบการรั่วไหล DNS ได้หลังจากที่กำหนดค่าเพิ่มเติม (และดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติม) ผมรู้สึกรำคาญที่การตั้งค่าเริ่มต้นนั้นไม่ได้ปกป้องผม นอกจากนี้การกำหนดค่าเพิ่มเติมที่จำเป็นนั้นยุ่งยากยิ่งขึ้นหากคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ

 ภาพหน้าจอของการทดสอบการรั่วไหลของ DNS ที่ประสบความสำเร็จ

ในตอนแรก AzireVPN ล้มเหลวในการทดสอบการรั่วไหลของ DNS แต่การกำหนดค่าเพิ่มเติมทำให้ข้อมูลของผมปลอดภัย

AzireVPN นำเสนอความปลอดภัยที่ปรับแต่งได้ — แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับผู้ใช้ระดับเริ่มต้น นฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ผมชอบที่โปรแกรมให้คุณเลือกได้จากโปรโตคอล VPN และพอร์ตไฟร์วอลล์ที่หลากหลายสำหรับแต่ละเซิร์ฟเวอร์รวมถึง NAT/UDP/1194 and NAT/TCP/443 ความสามารถในการปรับแต่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกระดับความปลอดภัยที่แตกต่างกันได้สำหรับสถานการณ์พิเศษ แต่ว่ามันไม่ได้อธิบายถึงประโยชน์หรือข้อเสียของแต่ละตัวเลือก นั่นหมายความว่ามีเพียงผู้ใช้ขั้นสูงเท่านั้นที่จะรู้ว่าตัวเลือกเหล่านี้หมายถึงอะไรหรือใช้งานอย่างไร

ความเป็นส่วนตัว — AzireVPN เป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์และมีนโยบายไม่บันทึกข้อมูล

AzireVPN ให้ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเนื่องจากเป็นเจ้าของและจัดการอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์ของตัวเองทั้งหมด โดยแตกต่างจากบริษัท VPN ขนาดเล็กส่วนใหญ่ ผมรู้สึกประทับใจที่โปรแกรมไม่ได้ใช้การเชื่อมโยงกลุ่มเซิร์ฟเวอร์หรือเซิร์ฟเวอร์เสมือน สิ่งนี้ช่วยให้มันสามารถควบคุมความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวได้ดียิ่งขึ้น แต่ทำให้การจัดหาเซิร์ฟเวอร์ในหลาย ๆ ตำแหน่งทำได้ยากขึ้นเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ใหม่ แม้จะมีเครือข่ายที่เล็กกว่า แต่ผมก็มีความสุขที่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการละเมิดความปลอดภัยกับ AzireVPN (อย่างที่อาจเกิดขึ้นได้กับ VPN ที่เช่าเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดจากบุคคลที่สามที่ไม่ได้รับการยืนยัน)

เนื่องจาก AzireVPN มีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลที่ยอดเยี่ยม จึงไม่มีการบันทึกข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับผู้ใช้ แม้ว่าเซิร์ฟเวอร์จะถูกตรวจจับและถูกตรวจสอบ แต่ก็จะไม่มีข้อมูลอะไรให้ค้นหา นี่เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจาก VPN ที่บันทึกข้อมูลของคุณสามารถยอมรับคำขอของบุคคลที่สามเพื่อเข้าถึงข้อมูลได้ มีการระบุนโยบายการบันทึกข้อมูลไว้อย่างชัดเจนในข้อกำหนดในการให้บริการของ AzireVPN:

ภาพหน้าจอของนโยบายการบันทึกเป็นศูนย์ของ AzireVPN

ผมรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้นหลังจากอ่านนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลอย่างละเอียดของ AzireVPN

ผมรู้สึกผิดหวังที่ไม่พบข้อพิสูจน์ใด ๆ ว่า AzireVPN ได้รับการทดสอบนโยบายของมันโดยอิสระ หากไม่มีการยืนยันจากบุคคลที่สาม คุณก็ต้องเชื่อคำกล่าวอ้างของ AzireVPN ว่าเป็นไปตามนโยบายนี้อย่างแท้จริงและไม่ได้เป็นเพียงแค่แผนการตลาดเท่านั้น โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่อใช้ VPN เช่น ExpressVPN ซึ่งได้เผยแพร่ผลการทดสอบอิสระของนโยบายความปลอดภัย

การ Torrent — สนับสนุน P2P บนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด

แม้ว่า AzireVPN ไม่ได้มีเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกปรับแต่งมาสำหรับการ torrent แต่เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดสนับสนุนการดาวน์โหลดแบบ P2P โดยใช้แอปพลิเคเช่น BitTorrent ผมเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในนอร์เวย์ และดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอขนาด 2.2 GB ได้อย่างไม่มีปัญหา โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาทีและจากการทดสอบ IP และ DNS ของผมไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของผมเลยในระหว่างกระบวนการเรียกดูและดาวน์โหลดไฟล์ แม้ว่า VPN ชั้นยอดจะช่วยให้การ torrent เร็วยิ่งขึ้น ผมก็ยินดีที่ AzireVPN มอบความปลอดภัยและความเร็วที่ดีให้กับผม

ตำแหน่งของเซิฟเวอร์

นอร์เวย์
ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ประเทศอังกฤษ
ประเทศเยอรมัน
ประเทศไทย
ฝรั่งเศส
สวีเดน
สหรัฐ
สเปน
อิตาลี
เดนมาร์ก
เนเธอร์แลนด์
แคนาดา
โรมาเนีย

เป็นมิตรต่อผู้ใช้

- 4.0 / 10

การเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกัน — ผมเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ 5 เครื่องพร้อมกันโดยไม่มีอาการช้าลงที่สังเกตเห็นได้

ผมมีความสุขที่ AzireVPN อนุญาตให้ผมเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ 5 เครื่องพร้อมกันโดยที่ความเร็วไม่ลดลงอย่างสังเกตได้ ผมทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในเยอรมนีบนอุปกรณ์ 5 เครื่อง — โทรศัพท์ Android 2 เครื่อง พีซี Windows 1 เครื่อง iPhone 1 เครื่องและ Mac 1 เครื่อง ความเร็วที่ผมได้รับเหมือนกับตอนที่ผมเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ 1 เครื่องเท่านั้น ผมประทับใจที่สามารถรับชมรายการ Netflix บนอุปกรณ์ทั้ง 5 เครื่องได้โดยไม่มีอาการหน่วงเลย

ความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ — ใช้งานได้กับอุปกรณ์ประเภทหลัก ๆ (รวมถึง Linux และเราเตอร์)

AzireVPN มีแอปสำหรับ Windows, Mac, iOS และ Android ในตอนแรกผมมีปัญหาในการทำให้แอปสำหรับ Windows ทำงานได้อย่างถูกต้องในตอนแรก (แน่นอนว่ามันเทียบไม่ได้กับ VPN อันดับต้น ๆ สำหรับ Windows!) แต่มันก็ทำงานได้ดีหลังจากที่ผมรีสตาร์ทอุปกรณ์และติดตั้งมันลงไปใหม่ ผมยินดีที่ผมไม่พบปัญหาเดียวกันกับอุปกรณ์ที่รองรับอื่น ๆ เวอร์ชัน Android ยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ นั่นก็คือตัวกรองอุโมงค์เสมือนเพื่อแยกแอปออกจาก VPN ที่คุณต้องการเชื่อมต่อโดยใช้เครือข่ายปกติของคุณ

แม้ว่าจะรองรับการเชื่อมต่อเพียงแค่ 5 อุปกรณ์พร้อมกันและใช้ไม่ได้กับอุปกรณ์เช่น Smart TV, Playstation หรือ Amazon Fire Stick แต่คุณสามารถติดตั้งมันบนเราเตอร์ของคุณเพื่อปกป้องอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณได้ในคราวเดียว อย่างไรก็ตามคู่แข่งที่มีราคาใกล้เคียงกันเช่น CyberGhost ปกป้องการเชื่อมต่อได้ถึง 7 อุปกรณ์พร้อมกัน นอกจากนี้ยังใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลายประเภท รวมถึง SmartTV บางรุ่นอีกด้วย

ความง่ายดายในการตั้งค่าและการติดตั้ง — การตั้งค่าที่ซับซ้อนและอินเทอร์เฟซที่ซับซ้อน

เว็บไซต์รีวิว VPN อื่น ๆ กล่าวว่า AzireVPN นั้นติดตั้งง่าย — แต่ไม่ใช่เลย ผมทำตามคำแนะนำพื้นฐานในการติดตั้ง แต่มันใช้ไม่ได้และปล่อยให้ข้อมูลส่วนตัวของผมถูกเปิดเผย

เมื่อผมติดต่อฝ่ายสนับสนุน พวกเขาบอกว่า AzireVPN ต้องการการกำหนดค่าเพิ่มเติม หลังจากติดตั้งไคลเอนต์แล้ว ผมต้องไปที่เว็บไซต์ของบุคคลที่สามเพื่อดาวน์โหลดไคลเอนต์ WireGuard VPN และไฟล์การกำหนดค่า หลังจากเปิดโปรแกรมแล้ว ผมต้องเชื่อมต่อผ่านไคลเอนต์ WireGuard แทนแอป AzireVPN การตั้งค่าให้โปรแกรมทำงานกับ OpenVPN นั้นซับซ้อนมากขึ้นไปอีก! โดยรวมแล้วขั้นตอนการติดตั้งนั้นยาวนาน ซับซ้อน และน่าหงุดหงิด!

ภาพหน้าจอของพรอมต์การเข้าสู่ระบบของ AzireVPN ขณะใช้ไคลเอนต์ OpenVPN

ผมสามารถปรับแต่ง AzireVPN ให้ทำงานได้อย่างถูกต้องได้หลังจากที่กำหนดค่าให้ทำงานกับไคลเอนต์ VPN แบบโอเพนซอร์สเท่านั้น

แม้ว่าไคลเอนต์ของ AzireVPN ควรที่จะทำงานด้วยตัวเอง แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ที่แย่ไปกว่านั้น มือใหม่อาจมีปัญหาในการตั้งค่าด้วย WireGuard หรือ OpenVPN หากพวกเขามีปัญหากับไคลเอนต์ (เช่นเดียวกับที่ผมมี) ผมรู้สึกเสมอว่า VPN อันดับต้น ๆ เช่น ExpressVPN ทำงานได้ดีในทันทีหลังจากดาวน์โหลดโดยไม่จำเป็นต้องกำหนดค่าเพิ่มเติม นั่นเป็นเหตุผลที่ผมรู้สึกรำคาญเป็นพิเศษกับการตั้งค่าที่ซับซ้อนของ AzireVPN

ผมยังพบว่าอินเทอร์เฟซของ AzireVPN นั้นซับซ้อน ตัวอย่างเช่น ใน Windows คุณจะต้องป้อนรหัสผ่านใหม่ทุกครั้งที่เชื่อมต่อใหม่ เมื่อคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์บน Windows หรือ Mac แล้ว จะไม่มีอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่แสดงข้อมูลเช่นประเทศที่คุณเชื่อมต่ออยู่ ตัวเลือกเดียวของคุณใน Windows ก็คือไอคอนแถบงานขนาดเล็กที่แสดงว่าคุณเชื่อมต่ออยู่ ในการทดสอบของผม ข้อผิดพลาดของการออกแบบเหล่านี้ทำให้มันใช้งานยากกว่าบริการ VPN ชั้นนำเช่น ExpressVPN

 ภาพหน้าจอของเมนูสถานะถาดระบบของ Azire

เนื่องจากไม่สามารถดูอินเทอร์เฟซได้หลังจากที่ผมเชื่อมต่อ ผมมักจะลืมว่าผมเชื่อมต่อกับประเทศใดอยู่

นอกจากนี้ยังมีไอคอน “?” เล็ก ๆ บนหน้าจอหลัก ผมคิดว่ามันจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับแอป แต่มันทำให้รูปร่างเคอร์เซอร์ของผมเปลี่ยนไปและไม่มีผลกระทบอื่นใด ข้อบกพร่องเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า AzireVPN ยังคงต้องทำการปรับปรุงบางอย่างก่อนที่อินเทอร์เฟซจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์

 ภาพหน้าจอหลักของอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ AzireVPN

ผมรู้สึกสับสนกับไอคอนความช่วยเหลือที่ใช้ไม่ได้บนหน้าจอหลักของ AzireVPN

สุดท้ายผมต้องใช้ AzireVPN ผ่านไคลเอนต์ WireGuard เท่านั้น ผมรู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถรับ AzireVPN เวอร์ชัน Windows ที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ได้ภายในแอปของตัวเอง

บริการลูกค้า

- 2.0 / 10

AzireVPN ให้การสนับสนุนทางอีเมลเท่านั้น — คุณจะไม่พบความช่วยเหลือผ่านการแชทสดหรือทางโทรศัพท์ โชคดีที่ทีมงานตอบกลับอีเมลเป็นอย่างดี ผมส่งคำถามไปตอนเที่ยงว่าทำไม DNS ของผมถึงรั่วไหลและได้รับการตอบกลับในประมาณ 1.5 ชั่วโมงต่อมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าอธิบายว่าผมต้องใช้ไคลเอนต์ WireGuard เพื่อเชื่อมต่อแทนแอปเนทีฟของ AzireVPN จากนั้นให้ลิงก์ไปยังคำแนะนำเพื่อให้ผมลองตั้งค่า ผมรู้สึกยินดีที่เจ้าหน้าที่มีความสุภาพมากและคำแนะนำของเขาก็ทำตามได้ง่าย

 ภาพหน้าจอของการสนับสนุน AzireVPN ตอบสนองต่อตั๋วคำร้องขอความช่วยเหลือ

การสนับสนุนทางอีเมลของ AzireVPN ให้คำตอบที่เป็นประโยชน์สำหรับคำถามของผมในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง

เว็บไซต์ยังมีคำถามที่พบบ่อยทั่วไปและคู่มือการติดตั้งโดยละเอียด ซึ่งช่วยให้ผมทราบวิธีกำหนดค่าให้ทำงานกับไคลเอนต์ OpenVPN และ WireGuard ผมรู้สึกขอบคุณที่คำแนะนำนั้นใช้งานง่ายและมีการจัดระเบียบอย่างดี เนื่องจากการกำหนดค่าแอปของบุคคลที่สามเหล่านี้ต้องใช้ความรู้ทางเทคนิค

ถึงแม้ว่าการสนับสนุนทางอีเมลและคำถามที่พบบ่อยจะเป็นประโยชน์ แต่ผมรู้สึกผิดหวังที่ AzireVPN ไม่มีตัวเลือกการสนับสนุนในทันที บริการชั้นยอดเช่น ExpressVPN สามารถช่วยคุณแก้ไขปัญหาทางอีเมล บล็อกที่เป็นประโยชน์ แชทสด และการสนับสนุนทางโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่พร้อมตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับบริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันแม้ว่าคุณจะไม่ใช่ลูกค้าก็ตาม

ทำไมฉันถึงต้องดูที่การช่วยเหลือ ในเมื่อฉันสามารถทำได้เอง?

ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการช่วยเหลือที่ดีมีความจำเป็นเฉพาะในช่วงการติดตั้ง VPN แต่จริง ๆ แล้วก็อาจมีอย่างอื่นที่ท่านอาจต้องการความช่วยเหลือนี้ได้เช่นกัน เช่น การเชื่อมต่อไปยังเซิฟเวอร์บางแห่ง การเปลี่ยนโปรโตคอล และการปรับค่า VPN บนเราท์เตอร์ เป็นต้น เราได้ตรวจสอบ VPN แต่ละตัวเพื่อดูว่ามีการช่วยเหลือเวลาใดบ้าง (ถึงแม้ในช่วงกลางดึก), ระยะเวลาที่พวกเขาตอบสนอง และพวกเขาได้ตอบคำถามเราหรือไม่

ราคา

- 7.0 / 10

ผมชอบที่ AzireVPN มีแผนราคาที่ย่อมเยาอย่างแท้จริง — แต่อาจไม่สะดวกนิดนึงตรงที่ราคาของมันแสดงในสกุลเงินโครนาสวีเดนและยูโรเท่านั้น เนื่องจากผมคุ้นเคยกับราคาในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ผมจึงต้องประสบปัญหาในการค้นหาอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันเพื่อให้ทราบว่าผมจะถูกเรียกเก็บเงินเป็นจำนวนเท่าใด ราคาต่อเดือนจะลดลงเมื่อสมัครแผนใช้งานที่นานขึ้น ดังนั้นแผนการสมัครสมาชิกนานกว่าจึงให้ความคุ้มค่ามากกว่า

คุณสามารถชำระค่า AzireVPN ได้ด้วย PayPal, บัตรเครดิต, สกุลเงินคริปโต และแม้กระทั่งเงินสด! ความสามารถในการชำระด้วยเงินสดเป็นตัวเลือกพิเศษที่ผมไม่เคยพบกับ VPN อื่น ๆ คุณสามารถส่งเงินสดไปยังที่อยู่ของบริษัทในสวีเดน เมื่อ AzireVPN ได้รับการชำระเงินแล้ว สำนักงานจะเปิดใช้งานการสมัครของคุณ

ถึงแม้ว่าผมรู้สึกประทับใจกับตัวการชำระเงินที่หลากหลาย ผู้ให้บริการจำนวนมากนำเสนอมูลค่าโดยรวมที่ดีกว่า AzireVPN ตัวอย่างเช่น CyberGhost ดีกว่า AzireVPN ในทุกหมวดหมู่ประสิทธิภาพและมีแผนราคาที่ประหยัดกว่าหากคุณสมัครสมาชิกแบบ 2 ปี AzireVPN ให้การรับประกันคืนเงินภายใน 7 วันเท่านั้น (ซึ่งไม่สามารถใช้ได้กับแผนราคาแบบ 1 เดือน) ในทางกลับกัน คุณสามารถทดลองใช้ CyberGhost ได้ฟรี 45 วัน ไม่ว่าคุณจะเลือกแผนราคาใดก็ตาม

หากคุณลองใช้ AzireVPN การรับประกันคืนเงินนั้นใช้งานง่าย ผมส่งอีเมลหาฝ่ายสนับสนุนในวันอาทิตย์เพื่อขอรับเงินคืนและผมได้รับเงินคืนผ่าน PayPal ในวันถัดไป ผมชื่นชมที่พวกเขาไม่เสียเวลาถามคำถามหรือพยายามเหนียวรั้งให้ผมใช้บริการต่อไป

 ภาพหน้าจอของชุดข้อความอีเมลที่แสดงกระบวนการยกเลิกและการคืนเงิน AzireVPN

ฝ่ายสนับสนุนของ AzireVPN ตอบกลับอย่างรวดเร็วและดำเนินการตามคำขอคืนเงินของผมในวันทำการถัดไป

AzireVPN มีแพลนดังต่อไปนี้

1 เดือน
 
€ 10.00
ต่อ เดือน
 
ดูแพลน
1 ปี
$10.00
€ 5.00
ต่อ เดือน
ประหยัด 50%
ดูแพลน
ดูแพลน
ประหยัด 50%
3 เดือน
$10.00
€ 6.70
ต่อ เดือน
ประหยัด 33%
ดูแพลน
ดูแพลน
ประหยัด 33%

บทสรุป

เมื่อพิจารณาว่าเป็น VPN ที่มีขนาดเล็ก ผมรู้สึกประทับใจกับความเป็นส่วนตัวของ AzireVPN — แต่มันใช้งานยากเกินไปและมีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่จำกัดสำหรับผมจนไม่สามารถสามารถแนะนำมันเหนือตัวเลือกอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้มันยังใช้ไม่ได้ในประเทศจีน ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะมี VPN เพียงไม่กี่ตัวที่สามารถหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ของประเทศจีนได้

หาก AzireVPN มีราคาถูกกว่านี้ ผมอาจแนะนำมันให้เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ด้านเทคนิคมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแผน CyberGhost บางแผนมีราคาที่ถูกกว่าและให้เซิร์ฟเวอร์และคุณสมบัติต่าง ๆ กับคุณมากกว่า มันจึงยังคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าแม้จะพิจารณาจากแง่มุมนั้นก็ตาม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AzireVPN

AzireVPN เป็นผู้ให้บริการ VPN ที่ดีหรือไม่?

AzireVPN มีการรักษาความปลอดภัยที่ดีและนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ดยอดเยี่ยม แต่อินเตอร์เฟซของโปรแกรมที่มีความซับซ้อนนั้นใช้งานยากและมีคุณสมบัติที่จำกัด ถึงแม้ว่ามันจะดีกว่าบริษัท VPN อื่น ๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน คุณสามารถได้รับบริการที่มีคุณภาพดีกว่าในราคาที่ถูกลงได้

ตัวอย่างเช่น แผนระยะยาวของ CyberGhost มีราคาต่ำกว่าราคากาแฟหนึ่งถ้วย นอกจากนี้ยังมีการรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม ความเร็วที่เร็วกว่า และช่วยให้คุณเข้าถึงการสตรีมมิ่งและแพลตฟอร์มการ torrent ได้มากกว่า AzireVPN นอกจากนี้คุณสามารถทดลองใช้ CyberGhost ได้ฟรี 45 วันพร้อมด้วยการรับประกันคืนเงิน (ในขณะที่ AzireVPN เสนอการรับประกันคืนเงินภายใน 7 วันสำหรับบางแผนเท่านั้น)

ผมสามารถรับ AzireVPN ได้ฟรีหรือไม่?

AzireVPN มีการรับประกันคืนเงินภายใน 7 วันเพื่อให้คุณสามารถทดลองใช้งานได้โดยปราศจากความเสี่ยง โปรดทราบว่านโยบายนี้ใช้ไม่ได้กับแผนแบบ 1 เดือน ดังนั้นคุณต้องสมัครใช้แผน 3 เดือน 12 เดือน หรือ 24 เดือน คุณถึงจะมีสิทธิ์นี้

แม้ว่าจะมี VPN ฟรีจำนวนมาก แต่ VPN มีฟรีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ปลอดภัยจริง ๆ — VPN อื่น ๆ ส่วนใหญ่จะส่งโฆษณาอันตรายถึงคุณและขโมยข้อมูลของคุณ แม้กระทั่งตัวเลือกที่ปลอดภัยก็จำกัดข้อมูลความเร็วและเซิร์ฟเวอร์ของคุณ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณจึงควรใช้ประโยชน์จากการรับประกันคืนเงินที่นำเสนอโดยบริการระดับพรีเมียมเช่น ExpressVPN แทน มันนำเสนอประสิทธิภาพระดับสูงสุดและคุณสามารถลองแผนใด ๆ ของ ExpressVPN ได้ฟรีพร้อมการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

AzireVPN ปลอดภัยจริง ๆ หรือไม่?

เมื่อผมกำหนดค่าด้วยไคลเอนต์ OpenVPN หรือ WireGuard AzireVPN ช่วยให้ผมไม่ถูกเปิดเผยตัวตนทางออนไลน์และห้ามบุคคลที่สามเช่น ISP ของผมไม่ให้เห็นกิจกรรมออนไลน์ของผม อย่างไรก็ตาม AzireVPN ปล่อยข้อมูลบางส่วนของผมให้รั่วไหลในขณะที่ผมเรียกดูเว็บก่อนที่จะตั้งค่าโปรแกรมให้ทำงานกับไคลเอนต์แยกต่างหาก นอกจากนี้โปรแกรมยังไม่มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยขั้นสูง (เช่นโปรแกรมบล็อกมัลแวร์) เพื่อหยุดแฮกเกอร์ไม่ให้ขโมยรหัสผ่านและข้อมูลอื่น ๆ ของคุณ

เนื่องจากข้อจำกัดเหล่านี้ ผมขอแนะนำให้คุณใช้บริการที่ปลอดภัยที่สุดในตลาดเช่น ExpressVPN นอกเหนือจากการเข้ารหัสระดับทหารแล้ว บริษัทยังมีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้ที่ได้รับการทดสอบโดยอิสระ

ทดลองใช้ AzireVPN ฟรี

เปรียบเทียบกับตัวเลือกอื่น
9.8
/ 10
เยี่ยมชม
9.6
/ 10
เยี่ยมชม
9.4
/ 10
เยี่ยมชม
5.0  / 10
พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา เรียนรู้เพิ่มเติม

Wizcase ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2018 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost, Intego และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน Wizcase นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ