6 แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ PC, Mac และโทรศัพท์ปี (2024)
การค้นหาโปรแกรมแอนตี้ไวรัสฟรีออนไลน์นั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การค้นหาโปรแกรมที่ทำงานได้จริงเป็นเรื่องยาก ฉันทดสอบแอนตี้ไวรัสฟรีมากมายและพบว่ามีบางโปรแกรมที่ทำให้คุณเผชิญกับมัลแวร์ บริการฟรีอื่น ๆ ก็ทำงานได้ดีในตอนแรก แต่กลายเป็นว่ามันเป็นช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรีที่จะหมดอายุในไม่กี่สัปดาห์และทิ้งให้คุณไม่ได้รับการป้องกัน
เพื่อช่วยดูแลคุณให้ปลอดภัย ฉันได้ทดสอบและจัดอันดับ 6 แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows, Mac, Android และ iOS Avira เป็นแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024 – แต่แม้ว่ามันจะมีสแกนเนอร์ไวรัสที่แข็งแกร่งและฟีเจอร์ดี ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีแอนตี้ไวรัสคุณภาพใดที่สามารถรับมือกับการป้องกันมัลแวร์ที่ซับซ้อนและมัลแวร์ขั้นสูงฟรีได้
โชคดีที่มีผู้ให้บริการแอนตี้ไวรัสพรีเมียมราคาถูกมากมายและฉันเชื่อว่าการลงทุนเพื่อดูแลให้ไฟล์ความลับ รูปภาพและรหัสผ่านของคุณปลอดภัยนั้นถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่า โดยส่วนตัวแล้วฉันชอบใช้แอนตี้ไวรัสที่แข็งแกร่ง แต่มีราคาย่อมเยาอย่าง Norton 360 คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการตัดสินใจโดยทันที – คุณสามารถลองใช้ Norton โดยไม่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 60 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน
ลองใช้ Norton 360 เป็นระยะเวลา 60 วัน!
คำแนะนำลัด: แอนตี้ไวรัส (ฟรี) ที่ดีที่สุดในปี 2024
- Avira – แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีสำหรับทุกแพลตฟอร์มที่มาพร้อมกับการป้องกันตามเวลาจริง การสแกนที่รวดเร็วและแม่นยำ แถมยังมีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพผ่านการสนับสนุนอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายด้วย ลองใช้ Avira ฟรี!
- Panda – ฟีเจอร์เสริมคุณภาพสูง แต่ขาดการป้องกันแรนซัมแวร์
- TotalAV – การสแกนที่รวดเร็วสามารถตรวจจับภัยคุกคามมัลแวร์ที่รู้จักได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่มีฟีเจอร์เสริม
- Bitdefender – มีการป้องกันมัลแวร์ขั้นสูงและแอปสำหรับเดกส์ท็อป แต่ยังขาดฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
- Sophos – การป้องกัน Mac และ iOS ที่ยอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับอินเทอร์เฟซที่สะอาดตาและไม่มีโฆษณารุกล้ำ แต่ยังขาดการป้องกันแรนซัมแวร์และเครื่องมือกำจัดมัลแวร์
- Kaspersky – เสนอการป้องกันแรนซัมแวร์ แต่มีเครื่องมือการป้องกันความเป็นส่วนตัวที่จำกัด
6 แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows, Android, Mac และ iOS (อัปเดตเมื่อ 2024)
1. Avira – แอนตี้ไวรัสฟรีที่มาพร้อมกับการป้องกันมัลแวร์ตามเวลาจริงสำหรับทุกอุปกรณ์
ฟีเจอร์หลัก:
- การสแกนไวรัสที่แข็งแกร่งจะตรวจจับมัลแวร์ทุกรูปแบบ
- มี VPN, การท่องเว็บที่ปลอดภัย เครื่องมือปิดกั้นการติดตามและโฆษณาและอื่น ๆ อีกมากมาย
- ฐานข้อมูลความรู้แบบคอมมูนิตี้พร้อมให้บริการบนเว็บไซต์
- ทำงานได้บน Windows, Mac, Android และ iOS
Avira เป็นแอนตี้ไวรัสฟรีที่ยอดเยี่ยมเพราะการป้องกันตามเวลาจริง สแกนเนอร์มัลแวร์ที่แม่นยำและฟีเจอร์เสริม แผนให้บริการฟรีใช้ Avira Protection Cloud ซึ่งเป็นเครือข่ายมัลแวร์บนคลาวด์เดียวกันกับเวอร์ชันพรีเมียม Protection Cloud ได้รับการอัปเดตทุกวันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามล่าสุดและมอบการป้องกันที่ยอดเยี่ยมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในการทดสอบเมื่อไม่นานมานี้ Avira ตรวจพบภัยคุกคามทางออนไลน์ล่าสุดทั้งหมด
ฉันประทับใจกับความเร็วของการสแกนไวรัสของ Avira หลังจากที่ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เรียบร้อยแล้ว ฉันก็เปิดใช้งาน Status Scan โดยทันทีเพื่อตรวจสิบปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวและประสิทธิภาพ – และมันใช้เวลาในการดำเนินการให้เสร็จน้อยกว่าหนึ่งนาที! ฉันพบกับแอปที่ล้าสมัย ปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวของ Windows และรายการไม่สำคัญที่ควรลบออกอีกเกือบ 400MB โชคร้ายที่การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต้องการให้คุณอัปเกรดเป็นแผนแบบชำระเงิน
อย่างไรก็ตามนี่ถือเป็นความไม่สะดวกสบายเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ มากมายที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว มันมีไฟร์วอลล์ฟรีในการป้องกันเครือข่ายของคุณและ VPN ที่มีขีดจำกัดข้อมูล 500MB เพื่อปิดบังกิจกรรมออนไลน์ของคุณ แม้ว่า 500MB จะไม่ได้เยอะมาก แต่คุณก็สามารถเพิ่มมันเป็น 1GB ได้โดยการลงทะเบียนฟรีกับ Avira Avira ยังมีผู้จัดการรหัสผ่านและเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวรเพื่อยกระดับความปลอดภัยและเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยให้อุปกรณ์ของคุณทำงานอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้นได้ การหาเครื่องมือคุณภาพสูงมากมายโดยไม่มีค่าใช้จ่ายนั้นถือเป็นเรื่องยากมาก ๆ
ฉันชอบเป็นอย่างยิ่งที่ Avira ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์ที่คุณสามารถติดตั้งได้ คุณไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนบัญชีหรือกรอกข้อมูลชำระเงินใด ๆ – แต่ฉันขอแนะนำให้คุณลงทะเบียนบัญชีหากคุณต้องการป้องกันอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย สิ่งนี้จะช่วยให้คุณได้เข้าถึงแดชบอร์ดส่วนกลางของ Avira ได้ ฉันพบว่ามันมีประโยชน์ในการดูภาพรวมความปลอดภัยของอุปกรณ์ต่าง ๆ และดูว่าแต่ละฟีเจอร์ทำอะไรได้บ้าง
ข้อเสียอย่างยิ่งของแผนให้บริการฟรีของ Avira คือขาดฝ่ายสนับสนุนลูกค้า ไม่มีตัวเลือกในการติดต่อโดยตรง ดังนั้นหากคุณเกิดพบกับปัญหา คุณจะต้องตรวจสอบดูฐานข้อมูลความรู้เพื่อหาคำตอบ แม้ว่าจะมีบทความเกี่ยวกับข้อมูลอุปกรณ์โดยรวมที่มีประโยชน์อยู่บ้าง แต่การค้นหาคำตอบสำหรับปัญหาที่เฉพาะเจาะจงนั้นเป็นเรื่องยาก คุณสามารถสอบถามคอมมูนิตี้ดูได้ แต่มีหลายคำถามที่ไม่ได้รับการตอบกลับในช่วงหลายเดือนหรือแม้แต่หลายปีที่ผ่านมา
เป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องทราบว่า Avira มีชุดฟีเจอร์ที่แตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้แอปไหน แอป Windows ของ Avira เป็นแอปที่ครอบคลุมมากที่สุดโดยมีแอปเพิ่มประสิทธิภาพระบบแยกต่างหากที่มีชื่อว่า System Speedup Pro เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของ PC เวอร์ชันสำหรับ Mac มีเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพเป็นของตัวเอง แต่มันไม่ครอบคลุมเท่ากับเวอร์ชัน PC อย่างไรก็ตามคุณจะยังสามารถเข้าถึงกลไกมัลแวร์อันแข็งแกร่งของ Avira ได้ไม่ว่าคุณจะใช้แอปใดก็ตาม
หากคุณยินดีที่จะละทิ้งฝ่ายสนับสนุนลูกค้า Avira เป็นแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีสำหรับ PC, Mac และอุปกรณ์มือถือ เนื่องจากแผนให้บริการฟรีนั้นไม่ต้องการบัญชีเพื่อใช้งาน ฉันจึงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการดาวน์โหลด Avira เพื่อลองใช้ด้วยตัวเองและดูว่ามันเหมาะกับคุณหรือไม่เป็นเรื่องที่คุ้มค่า
2. Panda – เครื่องมือฟรีมากมายเพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวทางออนไลน์
ฟีเจอร์หลัก:
- การป้องกันตามเวลาจริงจะช่วยปิดกั้นมัลแวร์และไวรัสได้อย่างง่ายดาย
- ฟีเจอร์เสริมอันแข็งแกร่งซึ่งรวมถึง Rescue Kit ที่ไม่เหมือนใคร, VPN, โหมดสำหรับเล่นเกม (Game Mode) และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ฝ่ายสนับสนุนผ่านทางโทรศัพท์ตลอด 24 ชั่วโมงในแคนาดา สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา
- รองรับ Windows, Mac, Android และ iOS
Panda Free Antivirus เพิ่มความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณด้วยฟีเจอร์เสริม แผนให้บริการฟรีเสนอส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยม เช่น VPN, การเพิ่มประสิทธิภาพ Game Mode, ชุดกู้ภัย USB, เครื่องมือตรวจสอบการดำเนินการและการป้องกันโจร ในการทดสอบ Panda ยังสามารถปิดกั้นมัลแวร์ที่มีอยู่ทุกประเภทได้สำเร็จอีกด้วย
ฉันประทับใจกับ VPN ของ Panda เป็นพิเศษ มันขับเคลื่อนโดย Hotspot Shield VPN ดังนั้นคุณจึงสามารถไว้วางใจได้ว่ามันจะดูแลให้การเชื่อมต่อและข้อมูลของคุณปลอดภัย ฉันดำเนินการทดสอบการรั่วไหลของข้อมูลหลายครั้งและ VPN ของ Panda ก็สอบผ่านทั้งหมด แผนให้บริการฟรีมีข้อมูลจำกัดและจำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มากนัก – 150 MB ต่อวันและมีตำแหน่ง “อัตโนมัติ” เพียงตำแหน่งเดียว อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการความปลอดภัยเพิ่มเติมในขณะท่องเว็บและช้อปปิ้งออนไลน์ นี่ถือตัวเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างดี
Rescue Kit ของ Panda เป็นฟีเจอร์ที่น่าประทับใจที่ฉันไม่เคยเห็นในแอนตี้ไวรัสฟรีอื่น ๆ มันสร้าง USB กู้ภัยที่จะกำจัดมัลแวร์จากคอมพิวเตอร์ Windows ที่ติดไวรัสหากอุปกรณ์ไม่ยอมบูต มันใช้สแกนเนอร์ที่ล้างทำความสะอาดเชิงลึกซึ่งมีชื่อว่า Cloud Cleaner ที่จะตรวจจับมัลแวร์ที่แอนตี้ไวรัสอื่น ๆ อาจพลาดไป ตอนที่ฉันทดสอบฟีเจอร์นี้ Rescue Kit ช่วยฉันกำจัดภัยคุกคามทั้งหมดได้ภายในเวลาน้อยกว่า 20 นาที
ข้อเสียอย่างมากของ Panda คือการขาดการป้องกันตามเวลาจริงบน Mac, Android และ iOS – แม้ว่าฟีเจอร์นี้จะพร้อมให้บริการฟรีบน Windows ก็ตาม นี่หมายความว่าผู้ใช้ Windows จะได้รับการป้องกันที่ดีที่สุดจากแผนให้บริการฟรีของ Panda ฉันขอแนะนำให้คุณทดลองใช้ Panda ด้วยตัวคุณเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากคุณสามารถติดตั้ง Panda บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ไม่จำกัด คุณไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนบัญชีเพื่อเริ่มใช้งาน
3. TotalAV – สแกนเนอร์ไวรัสฟรีที่ตรวจจับร่องรอยของมัลแวร์ที่มีอยู่ทั้งหมด
ฟีเจอร์หลัก:
- สแกนเนอร์ไวรัสอันแข็งแกร่งที่จะตรวจจับและลบการติดมัลแวร์ที่เป็นที่รู้จัก
- มีเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ เครื่องมือตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูลเฉพาะสำหรับมือถือเท่านั้น ผู้จัดการรูปภาพและเครื่องมือค้นหาตำแหน่งอุปกรณ์มาให้ด้วย
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่พร้อมให้บริการผ่านแชทออนไลน์และอีเมล
- รองรับ Windows, Mac, Android และ iOS
แอนตี้ไวรัสฟรีของ TotalAV มีความเร็วในการสแกนที่รวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ในการทดสอบ มันตรวจจับและลบมัลแวร์ประเภทที่มีอยู่ทั้งหมดได้ ตอนที่ฉันเปิดใช้งาน Full Scan บนเดสก์ท็อปของฉัน มันใช้เวลาในการสแกนไฟล์เกือบ 1 ไฟล์ในเวลา 20 นาทีเท่านั้น นี่ถือว่ารวดเร็วเทียบเท่ากับโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ต้องเสียเงิน เช่น Norton 360 ที่ดีที่สุดคือฉันไม่สังเกตเห็นความล่าช้าในขณะที่สแกนกำลังทำงานเลย ดังนั้นฉันจึสามารถดำเนินการใช้ PC ของฉันได้โดยไม่มีการกระตุกหรือล่าช้า
TotalAV ยังมี Smart Scan ฟรีซึ่งค้นหาการติดมัลแวร์ที่รวดเร็วและมีแม้กระทั่งคำแนะนำในการเพิ่มประสิทธิภาพมาให้ ตอนที่ฉันเปิดใช้งานการสแกนบน Windows และ Mac TotalAV ตรวจพบคุกกี้ที่ติดตามและไฟล์ซ้ำที่สามารถลบได้นับร้อยรายการ มันยังแสดงให้ฉันเห็นด้วยว่ามีโปรแกรมที่ไม่จำเป็นใดบ้างกำลังทำงานอยู่ในช่วงเปิดเครื่องเพื่อที่ฉันจะได้สามารถปิดใช้งานและยกระดับระยะเวลาการบูตของอุปกรณ์ของฉันได้
แอปมือถือยังมาพร้อมกับเครื่องมือตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูล ผู้จัดการรหัสผ่านและเครื่องมือค้นหาตำแหน่งอุปกรณ์ฟรีอีกด้วย แอปสำหรับ Android ยังมีเครื่องมือปิดกั้นแอปซึ่งจะป้องกันการเข้าถึงแอปที่คุณเลือกโดยไม่ได้รับอนุญาต
น่าเสียดายที่แผนให้บริการฟรีไม่มีการป้องกันตามเวลาจริง ฟีเจอร์ขั้นสูงนี้ถูกสงวนเอาไว้เฉพาะสำหรับผู้สมัครสมาชิกระดับพรีเมียมเท่านั้น แม้ว่าจะไม่มีการป้องกันตามเวลาจริง แต่ TotalAV ก็เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสฟรีและความเร็วในการสแกนอันน่าประทับใจก็เป็นวิธีการในการตรวจอุปกรณ์ของคุณอย่างรวดเร็วโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
4. Bitdefender – เต็มไปด้วยฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงมากมายสำหรับ Windows และ Android
ฟีเจอร์หลัก:
- การป้องกันตามเวลาจริงจากมัลแวร์ (เฉพาะ Windows เท่านั้น) และเครื่องมือกำจัดไวรัส
- มีการป้องกันฟิชชิ่ง การป้องกันการฉ้อโกง (เฉพาะ Windows เท่านั้น) แถม VPN และเครื่องมือความเป็นส่วนตัวบัญชี (เฉพาะมือถือเท่านั้น)
- บริการลูกค้าผ่านแชทออนไลน์ ฝ่ายสนับสนุนผ่านทางโทรศัพท์ อีเมลและคอมมูนิตี้ออนไลน์
- รองรับ Windows, Mac, Android และ iOS
Bitdefender Free Antivirus มอบการป้องกันภัยคุกคามขั้นสูงจากมัลแวร์ที่รู้จักและมัลแวร์ใหม่ ๆ – แอปสำหรับ Windows ยังมาพร้อมกับการป้องกันตามเวลาจริงด้วย ฉันชอบแอป Mobile Security ฟรีของ Bitdefender ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ไม่พร้อมให้บริการบนเวอร์ชันเดสก์ท็อป
แอป Mobile Security สำหรับ iOS และ Android มี VPN ที่มาพร้อมกับข้อมูลรายวันขนาด 200MB ซึ่งมอบการเชื่อมต่อเข้ารหัสที่ปลอดภัยสำหรับการท่องเว็บ การธนาคารและการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ปลอดภัย พวกเขายังมีเครื่องมือ Account Privacy ที่จะตรวจสอบที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อมองหาการรั่วไหลของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น ฉันชอบที่ฉันสามารถเพิ่มบัญชีมากมายสำหรับ Bitdefender เพื่อตรวจสอบโดยอัตโนมัติได้และมันยังมีแอปพร้อมให้บริการในภาษาไทยด้วย
จริง ๆ แล้วแอปสำหรับ Android ฟรีของ Bitdefender เป็นหนึ่งในแอปที่ดีที่สุดในตลาด มันมีการสแกนมัลแวร์คุณภาพสูงที่มอบระดับการป้องกันเดียวกันกับแอปพรีเมียม หลังจากการสแกนมัลแวร์ครั้งแรก Bitdefender จะใช้โหมด AutoPilot เพื่อตรวจสอบมัลแวร์ในแอปและการดาวน์โหลดใหม่ ๆ โดยอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยีบนคลาวด์ที่ใช้ในการดำเนินการสแกน แอปมือถือจึงไม่หนักเครื่องเลยและยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของอุปกรณ์ต่ำมากด้วย
น่าเสียดายที่ไม่มีแอปของ Bitdefender ใดที่มาพร้อมกับการป้องกันแรนซัมแวร์ซึ่งฉันพบว่ามันเป็นเรื่องที่น่ากังวลเพราะการโจมตีประเภทนี้กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
Bitdefender ต้องการให้คุณกรอกที่อยู่อีเมลของคุณ อย่างไรก็ตามคุณจะไม่ต้องกรอกข้อมูลการชำระเงินใด ๆ และคุณสามารถใช้งานมันบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากเท่าที่คุณต้องการ ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ Bitdefender Antivirus Free ด้วยตัวเองเพื่อดูว่ามันทำงานได้ดีสำหรับคุณหรือไม่
ดาวน์โหลด Bitdefender ฟรีวันนี้!
5. Sophos – แอนตี้ไวรัสฟรีที่ไม่หนักเครื่องเพื่อการป้องกันมัลแวร์พื้นฐาน
ฟีเจอร์หลัก:
- ป้องกันภัยคุกคามมัลแวร์ที่รู้จัก
- มีตัวกรองเว็บไซต์ การจัดการจากระยะไกลและอื่น ๆ อีกมากมาย
- ฐานข้อมูลออนไลน์ที่พร้อมให้บริการสำหรับผู้ใช้ฟรี
- ทำงานได้บน Windows, Mac, Android และ iOS
Sophos Home Free เป็นซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่ไม่หนักเครื่องเลย ส่วนใหญ่แล้วนี่เป็นเพราะ Sophos ได้รับการออกแบบมาสำหรับการใช้งานจากระยะไกล เมื่อคุณคลิกที่ฟีเจอร์ในแดชบอร์ดแอนตี้ไวรัส คุณจะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าเว็บเบราว์เซอร์โดยอัตโนมัติ นี่ทำให้มั่นใจได้ว่า Sophos จะส่งผลกระทบต่อระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ของคุณเพียงเล็กน้อย
ในแง่ของการป้องกันมัลแวร์ Sophos ป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่รู้จักทั้งหมดได้ด้วยการป้องกันตามเวลาจริงแบบผสานรวม น่าเสียดายที่ฟีเจอร์ที่สำคัญอย่างการป้องกันแรนซัมแวร์ (Ransomware Protection) และความปลอดภัยของเว็บไซต์ (Web Security) พร้อมให้บริการเฉพาะ Sophos Home เวอร์ชันพรีเมียมเท่านั้น อย่างไรก็ตามอัตราการตรวจจับของ Sophos Home Free นั้นก็ทำได้ยอดเยี่ยมในการทดสอบเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นคุณจึงสามารถมั่นใจได้เลยว่าอุปกรณ์ของคุณจะปลอดภัยจากมัลแวร์ต่าง ๆ ทั่วไปทั้งหมด
แอปฟรีสำหรับ Android และ iOS ยังมอบฟีเจอร์ความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น การสแกนเครือข่ายเพื่อตรวจสอบปัญหาของ WiFi และผู้จัดการรหัสผ่านมาให้ด้วย อย่างไรก็ตามความครอบคลุมมือถือของ Sophos อยู่ภายใต้แบรนด์อื่นที่เรียกว่า Sophos Intercept X แม้ว่า Intercept X จะมีการป้องกันเดียวกันมากมายเหมือนกันกับเวอร์ชัน Windows และ Mac แต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่น่าสับสนที่ Sophos ไม่ได้ยึดมั่นในการออกแบรนด์ Home Free สำหรับเวอร์ชันมือถือ
หากคุณต้องการการป้องกันไวรัสที่ส่งผลกระทบต่ำที่ทำงานอย่างเงียบ ๆ ในพื้นหลัง Sophos Home Free มอบระดับการป้องกันที่ดีพอใช้และที่ดีไปกว่านั้นคือคุณสามารถติดตั้ง Sophos ลงบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ไม่จำกัดจำนวน
6. Kaspersky – การป้องกันแรนซัมแวร์และการป้องกันตามเวลาจริงฟรี
ฟีเจอร์หลัก:
- ตรวจจับและกักกันมัลแวร์ที่รู้จักและป้องกันแรนซัมแวร์
- มี VPN, ผู้จัดการรหัสผ่าน แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองและอื่น ๆ อีกมากมาย
- แชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงและฝ่ายสนับสนุนผ่านทางโทรศัพท์ ระบบอีเมลตั๋วและฐานข้อมูลออนไลน์
- รองรับ Windows, Android และ iOS
Kaspersky Security Cloud เป็นตัวเลือกสำหรับการป้องกันแอนตี้ไวรัสฟรีที่แข็งแกร่งเพราะมันมาพร้อมกับการป้องกันตามเวลาจริงและการป้องกันแรนซัมแวร์ ฟีเจอร์ System Watcher อันซับซ้อนจะตรวจจับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายและจากนั้นก็จะ “ย้อนกลับ” ระบบของคุณเพื่อย้อนรอยความเสียหาย
มีข้อเสียในแผนให้บริการฟรีของ Kaspersky อยู่บ้าง ประการแรกคือมันไม่พร้อมให้บริการบน Mac – คุณจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงการป้องกันแอนตี้ไวรัสฟรีเฉพาะบน Windows, Android และ iOS เท่านั้น ประการที่สองคือ VPN ฟรีมีข้อมูลรายวันให้เพียง 200MB และผู้จัดการรหัสผ่านก็สามารถจะเก็บข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ได้จำกัดเพียง 15 รายการเท่านั้น – ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ประการที่สามคือคุณจะต้องดาวน์โหลดฟีเจอร์ทั้งสองอย่างนี้แยกต่างหาก (มันไม่รวมมาให้ในแอนตี้ไวรัส) สุดท้ายคือ Kaspersky เก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้เพื่อเติมฐานข้อมูลภายในของมัลแวร์ที่มีอยู่ โชคดีที่คุณสามารถเลือกปิดการใช้งานข้อมูลเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของคุณได้
แม้ว่าจะมีปัญหาเหล่านี้ แต่ฉันก็ยังคงพึงพอใจกับซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรีของ Kaspersky เพราะมันมอบการป้องกันที่ยิ่งกว่ามากเพียงพอฟรี อย่างไรก็ตามหากคุณกำลังมองหาฟีเจอร์ขั้นสูงกว่านี้ ผู้ให้บริการฟรีอื่น ๆ อย่าง Avira และ TotalAV นั้นมีฟังก์ชันการทำงานมากกว่าทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ แต่หากคุณต้องการทดสอบมันด้วยตัวคุณเอง คุณสามารถดาวน์โหลด Kaspersky ฟรีและป้องกันอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สูงสุดถึง 3 อุปกรณ์ในบัญชีเดียว
โบนัส: Norton 360 – แอนตี้ไวรัสราคาถูกที่มอบการป้องกันแบบจัดเต็มสำหรับทุกอุปกรณ์
ฟีเจอร์หลัก:
- การป้องกันตามเวลาจริงจากภัยคุกคามล่าสุด
- มี VPN ไม่จำกัด แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง ผู้จัดการรหัสผ่าน พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์และอื่น ๆ อีกมากมาย
- บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงผ่านแชทออนไลน์ ฝ่ายสนับสนุนผ่านทางโทรศัพท์และฟอรั่มคอมมูนิตี้
- ป้องกันอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์โดยขึ้นอยู่กับแผนให้บริการที่สมัครสมาชิก
- รองรับ Windows, Mac, Android และ iOS
แม้ว่ามันจะไม่ได้เปิดให้บริการฟรีอีกต่อไป แต่ Norton 360 ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าแก่การลงทุนในฐานะแอนตี้ไวรัสที่ครอบคลุมมากที่สุดสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ ความปลอดภัยตามเวลาจริงอันแข็งแกร่งจะตรวจจับภัยคุกคามมัลแวร์ล่าสุดด้วยการวิเคราะห์ SONAR เทคโนโลยีนี้สามารถจับคู่พฤติกรรมของเว็บไซต์หรือการดาวน์โหลดมัลแวร์ที่รู้จักเพื่อระบุว่ามันมีความเสี่ยงหรือไม่
นอกจากการป้องกันมัลแวร์ระดับสูงของ Norton แล้ว ตัวแอปยังเต็มไปด้วยฟีเจอร์เสริมมากมาย ฉันชื่นชอมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ซึ่งมอบสถานที่ในการสำรองเอกสารที่สำคัญและป้องกันมันจากการติดแรนซัมแวร์เป็นพิเศษ VPN ของ Norton เองก็มีประโยชน์ ด้วยข้อมูลไม่จำกัด คุณจะสามารถคงความปลอดภัยในการเชื่อมต่อเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ฉันใช้ VPN ตอนที่ฉันนำ iPhone ติดตัวไปกับฉันเพื่อที่ฉันจะได้ปลอดภัยแม้ในตอนที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย WiFi สาธารณะ
Norton 360 ยังมีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้มาให้ด้วยซึ่งผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้จากการใช้ Norton Mobile Security สำหรับ Android และ iOS:
- เบราว์เซอร์ที่ปลอดภัย: ปิดกั้นลิงก์และเว็บไซต์ที่น่าสงสัยเพื่อหลีกเลี่ยงการสแกมฟิชชิ่งและเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยมัลแวร์
- ไฟร์วอลล์: ป้องกันเครือข่ายของคุณจากการเชื่อมต่อไม่พึงประสงค์และหยุดการโจมตีขาออกที่อาจเกิดขึ้นจากอุปกรณ์ของคุณ
- แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง: มอบการติดตามตำแหน่ง GPS เครื่องมือติดตามเวลาหน้าจอ ตัวกรองเว็บไซต์และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ผู้จัดการรหัสผ่าน: จัดเก็บรหัสผ่านอย่างปลอดภัยได้ไม่จำกัดเพื่อความสะดวกสบายสำหรับการลงชื่อเข้าใช้บัญชี
แม้ว่ามันจะไม่ใช่บริการฟรี แต่คุณก็สามารถลงทะเบียนการสมัครสมาชิก Norton 360 เพื่อใช้ประโยชน์จากความปลอดภัยชั้นนำได้ ฉันพบว่า Norton 360 Deluxe เป็นตัวเลือกที่มอบความคุ้มค่าให้กับเงินได้มากที่สุดโดยมอบการป้องกันสำหรับ 5 อุปกรณ์ พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ขนาด 50GB และแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง คุณสามารถลองใช้แผนให้บริการของ Norton 360 ทั้งหมดก่อนที่คุณจะตัดสินใจสมัครสมาชิกได้ – Norton มอบเวลาในการทดสอบบริการโดยไม่มีความเสี่ยงด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน หากคุณเกิดเปลี่ยนใจ การขอเงินคืนเต็มจำนวนก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ลองใช้ Norton 360 เป็นระยะเวลา 60 วัน!
ตารางเปรียบเทียบ: ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุด (ทุกอุปกรณ์) ในปี 2024
การป้องกันตามเวลาจริง | เครื่องมือกำจัดมัลแวร์ | VPN | ไฟร์วอลล์ | เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ | |
Avira | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ |
Panda | ✔ | ✔ | ✔ | ✘ | ✘ |
TotalAV | ✘ | ✔ | ✘ | ✔ | ✔ |
Bitdefender | ✔ | ✔ | ✔ | ✘ | ✔ |
Sophos | ✔ | ✔ | ✘ | ✘ | ✘ |
Kaspersky | ✔ | ✔ | ✔ | ✘ | ✔ |
โบนัส: Norton 360 | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ |
ลองใช้ Norton 360 โดยไม่มีความเสี่ยง!
แบรนด์แอนตี้ไวรัสฟรีที่ไม่ได้รับการจัดอันดับในรายการนี้
ในระหว่างการทดสอบของฉัน ฉันพบกับแอนตี้ไวรัสที่มีชื่อเสียงมากมายที่มีเวอร์ชันฟรีที่ไม่สามารถทำงานได้ตามมาตรฐานในระดับสูงเดียวกันกับบริการอื่น ๆ ในรายการนี้ได้
AVG และ Avast
AVG เป็นหนึ่งในแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสฟรีที่มีชื่อเสียงที่สุดในตลาด แต่ฉันไม่สามารถแนะนำมันได้เพราะบริษัทแม่ Avast เมื่อไม่นานมนี้ Avast ถูกเปิดเผยว่าขายข้อมูลของผู้ใช้ฟรีให้กับบุคคลที่สามซึ่งรวมถึงนิสัยการท่องเว็บ การสั่งซื้อและแม้กระทั่งการค้นหา นี่ถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวอย่างมากและในฐานะคน ๆ หนึ่งที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูล ฉันแนะนำให้หนีห่างจาก AVG เพื่อความปลอดภัย
Microsoft Defender
Microsoft ใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการพัฒนาแอนตี้ไวรัสฟรีภายในตัว Microsoft Defender ก่อนหน้าเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Windows Defender บริการฟรีนี้มาพร้อมกับการป้องกันตามเวลาจริง ไฟร์วอลล์และตัวเลือกแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง อย่างไรก็ตามเนื่องจาก Microsoft Defender พร้อมให้บริการเฉพาะบน Windows ดังนั้นมันจึงไม่ใช่แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับทุกอุปกรณ์
Malwarebytes
ฉันชอบแผนให้บริการ Premium ของ Malwarebytes ซึ่งทำงานได้ยอดเยี่ยมในแง่ของความปลอดภัยและการป้องกันมัลแวร์ อย่างไรก็ตามแผนให้บริการฟรีนั้นเป็นเหมือนเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรีมากกว่า มันจะป้องกันอุปกรณ์ของคุณจากมัลแวร์เป็นระยะเวลา 14 วัน จากนั้นก็จะถูกจำกัดด้วยตัวเลือกในการสแกนที่น้อยลง อย่างไรก็ตามคุณไม่จำเป็นต้องเชื่อคำพูดของฉัน – คุณสามารถลองใช้ Malwarebytes ด้วยตัวคุณเองและดูว่าตัวเลือกพรีเมียมนั้นคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปหรือเปล่า
วิธีที่ฉันทดสอบแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในปี 2024
ฉันทดสอบแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสฟรี 20 แผนเพื่อค้นหาตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Windows, Mac, Android และ iOS ฉันตรวจสอบมันกับเกณฑ์ดังต่อไปนี้เพื่อค้นหาแอนตี้ไวรัสที่คู่ควรกับการดาวน์โหลด:
- ฟรีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย – ฉันตรวจสอบว่าทุกแอนตี้ไวรัสนั้นเปิดให้บริการฟรีจริง ๆ ไม่ใช่แค่เป็นเวอร์ชันทดลอง แม้ว่าบางซอฟต์แวร์จะต้องการให้คุณสร้างบัญชี แต่ไม่มีแอปใดในรายการนี้ที่จะขอข้อมูลการชำระเงิน
- การป้องกันมัลแวร์ – การสแกนอุปกรณ์ของคุณเพื่อหามัลแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นเหตุผลหลักสำหรับการใช้งานซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส ฉันรวมแอนตี้ไวรัสที่สามารถตรวจจับภัยคุกคามมัลแวร์ทั้งหมดและกักกันมันได้ เช่นเดียวกันกับการป้องกันตามเวลาจริงด้วย
- ส่งผลต่อประสิทธิภาพต่ำ – ฉันตรวจสอบความเร็วและการใช้งาน CPU สำหรับแต่ละแอนตี้ไวรัสเพื่อให้มั่นใจว่าผลกระทบของซอฟต์แวร์นั้นต่ำในทุกอุปกรณ์ ฉันยังตรวจสอบดูด้วยว่าฉันเห็นโฆษณาหรือได้รับการแจ้งเตือนให้อัปเกรดเป็นเวอร์ชันเสียเงินบ่อยแค่ไหน
- ความง่ายในการใช้งาน – ผู้ใช้ทุกคนควรสามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสได้ ไม่ใช่แค่ผู้ใช้ที่มีความรู้ทางเทคโนโลยีเท่านั้น ฉันตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกบริการในรายการของฉันเสนอประสบการณ์ผู้ใช้ที่ใช้งานง่ายทั้งบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์มือถือ
- ฟีเจอร์เสริม – แต่ละแอนตี้ไวรัสมีคะแนนพิเศษสำหรับแอดออนอย่าง VPN, ผู้จัดการรหัสผ่านหรือฟีเจอร์เพิ่มประสิทธิภาพ ฉันตรวจสอบดูว่าฉันต้องจ่ายเงินสำหรับส่วนเสริมเพิ่มเติมเหล่านี้เพื่อเข้าถึงแบบเต็มรูปแบบหรือไม่
- ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ – แอนตี้ไวรัสฟรีมากมายนั้นทำงานได้บน Windows แต่ฉันตรวจสอบดูว่าแผนให้บริการฟรีเหล่านี้ทำงานได้ดีแค่ไหนกับ Mac, Android และ iOS ฉันยังตรวจสอบด้วยว่ามีฟีเจอร์ใดบ้างสำหรับแต่ละอุปกรณ์
คำถามที่พบบ่อย: แอนตี้ไวรัสฟรีสำหรับ Windows, Android, Mac และ iOS
แอนตี้ไวรัสฟรีปลอดภัยมากแค่ไหน?
แอนตี้ไวรัสฟรีนั้นปลอดภัยสำหรับการใช้งานตราบใดที่คุณเลือกซอฟต์แวร์จากบริษที่มีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามคุณจะพบว่าแม้แต่โปรแกรมแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดก็ยังมีข้อจำกัด บริการฟรีส่วนใหญ่ขาดการป้องกันมัลแวร์และแรนซัมแวร์ตามเวลาจริงซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ได้รับการป้องกันจากการโจมตีล่าสุด ซอฟต์แวร์จะทำงานเพื่อลบและตรวจจับภัยคุกคามที่รู้จัก แต่การพึ่งพาแอนตี้ไวรัสฟรีเป็นการป้องกันเพียงอย่างเดียวนั้นอาจทำให้อุปกรณ์ของคุณมีช่องโหว่สำหรับมัลแวร์ใหม่ล่าสุดได้
แอนตี้ไวรัสฟรีคุณภาพต่ำนั้นขึ้นชื่อเรื่องการชายข้อมูลของผู้ใช้ให้กับบริษัทใหญ่ ๆ เพื่อสร้างรายได้ซึ่งถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ที่แย่ไปกว่านั้นคือมัลแวร์และไวรัสอาจปลอมแปลงตัวเองเป็นซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรีเพื่อหลอกผู้ใช้ให้ดาวน์โหลดโดยไม่รู้ตัวได้
เพื่อให้ได้การป้องกันแอนตี้ไวรัสในระดับที่สมบูรณ์มากที่สุด ฉันขอแนะนำให้ลงทุนกับแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสพรีเมียม บริการอย่าง Norton 360 มอบความครอบคลุมที่มีประสิทธิภาพสำหรับอุปกรณ์ของคุณด้วยความปลอดภัยตามเวลาจริงและการสแกนมัลแวร์ที่แข็งแกร่งในราคาที่สมเหตุสมผลมาก ๆ มันยังมีแม้กระทั่งการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วันมาให้ด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถทดสอบบริการและตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันเป็นซอฟต์แวร์ที่เหมาะกับคุณหรือไม่ได้โดยปราศจากความเสี่ยง
ลองใช้ Norton 360 โดยไม่มีความเสี่ยง!
แอนตี้ไวรัสฟรีกับแอนตี้ไวรัสเสียเงินแตกต่างกันไหม?
แตกต่าง มีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสฟรีดี ๆ อยู่บ้าง แต่โดยปกติแล้วมันจะไม่มีฟีเจอร์สำคัญหลายอย่าง ตัวอย่างเช่นแอนตี้ไวรัสฟรีส่วนใหญ่ไม่มีการป้องกันตามเวลาจริงซึ่งทำให้ความปลอดภัยอุปกรณ์ของคุณตกอยู่ในความเสี่ยงเมื่อพูดถึงภัยคุกคามใหม่
หากคุณใช้งานอุปกรณ์ของคุณทั่วไปและไม่ได้เก็บข้อมูลสำคัญอะไรเอาไว้ งั้นแอนตี้ไวรัสฟรีก็อาจจะมอบการป้องกันที่คุณต้องการมากพอ แพ็กเกจแอนตี้ไวรัสแบบเสียเงินจะมอบการป้องกันที่สำคัญมากขึ้นสำหรับภัยคุกคามมัลแวร์ใหม่และมัลแวร์ที่รู้จัก
มีแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดที่ไม่มีโฆษณาไหม?
Avira เป็นแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดที่ไม่มีโฆษณาซึ่งถือว่าเหมาะเนื่องจากมันเป็นแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดในตลาด! บริษัทที่เสนอบริการฟรีนั้นขึ้นชื่อเรื่องการซื้อโฆษณาเนื่องจากมันเป็นวิธีเดียวในการสร้างรายได้หรือเพื่อรบกวนคุณให้มากพอที่คุณจะอัปเกรดเป็นแผนให้บริการแบบพรีเมียมเพื่อกำจัดโฆษณา โชคดีที่มีผู้ให้บริการฟรีสองสามผู้ให้บริการอย่าง Avira ที่ไม่มีโฆษณาหรือมีแต่ก็น้อยมาก
อย่างไรก็ตามแม้ว่า Avira จะไม่มีโฆษณา แต่มันก็มีกลยุทธ์การขายเพื่อพยายามและทำให้คุณอัปเกรดเป็นแผนให้บริการแบบเสียเงิน คุณจะได้รับการแจ้งเตือนให้คุณสั่งซื้อเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะอย่างนิ่งเมื่อคุณพยายามเข้าถึงฟีเจอร์ที่ถูกล็อกเอาไว้หลังกำแพงชำระเงิน อย่างไรก็ตามนี่ถือว่าน่ารำคาญน้อยกว่าโฆษณาปกติและเป็นความไม่สะดวกเพียงเล็กน้อยจากผลิตภัณฑ์คุณภาพฟรีของ Avira
แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows คือโปรแกรมใด?
อ้างอิงตามการทดสอบของฉัน Avira เป็นแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows การป้องกันมัลแวร์ตามเวลาจริงและฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ ในเวอร์ชันฟรีได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถมอบการป้องกันภัยคุกคามทางออนไลน์ที่แข็งแกร่งได้ แม้ว่า VPN ของ Avira จะถูกจำกัดข้อมูลรายเดือนเพียง 1GB แต่ฟีเจอร์อื่น ๆ นั้นไม่ถูกจำกัด คุณสามารถดำเนินการสแกนบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ใช้เบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยและจัดเก็บรหัสผ่านอย่างปลอดภัยได้มากเท่าที่คุณต้องการ – ทั้งหมดนี้จากแอปเดสก์ท็อปที่แสนใช้งานง่ายของ Avira
Avira Free Security สำหรับ Windows ยังทำงานได้ดีกว่าแอนตี้ไวรัสฟรี Microsoft Defender ที่มีมาให้ในเครื่องของ Microsoft เมื่อ 2 บริการทำงานร่วมกัน มันจะมอบการครอบคลุมได้ค่อนข้างดี – Avira อัปเดตตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อให้นำหน้าภัยคุกคามล่าสุดซึ่งช่วยปิดช่องว่างการอัปเดตที่ไม่สม่ำสมเสมอของ Microsoft ได้
แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับโทรศัพท์ Android คือโปรแกรมใด?
จากโปรแกรมแอนตี้ไวรัสฟรีทั้งหมดที่ฉันทดสอบ Bitdefender Free Antivirus เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Android ไม่เพียงแต่มันจะมีการป้องกันตามเวลาจริงเท่านั้น แต่ฟีเจอร์ AutoPilot ยังดำเนินการสแกนแอปและการดาวน์โหลดทั้งหมดเพื่อมองหามัลแวร์โดยอัตโนมัติด้วย แอปยังส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของโทรศัพท์ของคุณไม่มากและกินแบตไม่เยอะเนื่องจากเทคโนโลยีบนคลาวด์
ดาวน์โหลด Bitdefnder สำหรับ Android!
แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Mac คือโปรแกรมใด?
ฉันทดสอบซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสชั้นนำสำหรับ Mac ทั้งหมดและ Avira Free Security คือตัวเลือกที่ดีที่สุด มันเป็นหนึ่งในแผนให้บริการฟรีจำนวนไม่มากที่มีการป้องกันตามเวลาจริง คุณยังได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึง VPN, ไฟร์วอลล์แบบผสานรวมสำหรับการป้องกันเครือข่ายและเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ Mac ของคุณด้วย
แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone หรือ iPad คือโปรแกรมใด?
อ้างอิงจากการทดสอบ แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iOS คือ Avira Free Security ฉันพบว่ามันเป็นแอปที่ส่งผลกระทบต่ำที่มาพร้อมกับฟีเจอร์เสริมมากมายที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยได้ – รวมถึง VPN, เครื่องมือปิดกั้นสายเรียกเข้าและเครื่องมือป้องกันโจร มันมีแม้กระทั่ง Photo Cleaner ที่จะช่วยล้างพื้นที่บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ฉันยังชอบฟีเจอร์ Privacy Manager ที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย การดำเนินการนี้จะดาวน์โหลดโปรไฟล์ที่หยุดการบันทึกการสนทนา “หวัดดี Siri” ของคุณและส่งไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงบริการ
ป้องกันอุปกรณ์ของคุณจากมัลแวร์ด้วยซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรี
เนื่องจากภัยคุกคามทางออนไลน์นั้นมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นการป้องกันเดสก์ท็อปและอุปกรณ์ของคุณจากมัลแวร์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ แพ็กเกจแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดนั้นจากบริษัทที่น่าเชื่อถือที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคุณเป็นลำดับแรก – และไม่ได้เป็นเวอร์ชันทดลองใช้ฟรีที่จำกัดที่พยายามจะให้คุณสมัครสมาชิกหลังใช้งานไม่กี่สัปดาห์
หลังจากการทดสอบโดยละเอียด Avira ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดเพราะการป้องกันตามเวลาจริงจากมัลแวร์และภัยคุกคามอื่น ๆ อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่าไม่มีแอนตี้ไวรัสฟรีใดที่สามารถป้องกันคุณจากภัยคุกคามทั้งหมดได้
แม้ว่าการมีชั้นการป้องกันพื้นฐานจะดีกว่าไม่มีอะไรเลย แต่คุณจะปลอดภัยกว่ามากหากคุณเลือกแอนตี้ไวรัสพรีเมียมราคาถูก นี่เป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีข้อมูลหรือไฟล์ที่เป็นความลับมากมายจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ส่วนบุคคลของคุณ Norton 360 เป็นแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดซึ่งมีราคาย่อมเยาและมันยังมาพร้อมกับการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วันด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถลองใช้ Norton 360 โดยไม่มีความเสี่ยงเพื่อตรวจสอบดูว่ามันเป็นโปรแกรมที่เหมาะกับคุณหรือไม่ได้
ดาวน์โหลด Norton 360 โดยไม่มีความเสี่ยง!
แสดงความคิดเห็น
ยกเลิก