วิธีป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตในปี 2024

โรสแมรี เอส ซิลูไว แอนโธนี
อัพเดทครั้งล่าสุดโดย โรสแมรี เอส ซิลูไว แอนโธนี ใน มิถุนายน 07, 2023

เราได้ลองใช้วิธีการต่าง ๆ มากมายทั้งด้วยเทคโนลีและการเลี้ยงดูแบบดั้งเดิม และเนื่องจากมีสิ่งที่เด็ก ๆ ไม่อยากพูดถึง เราจึงพบว่าสิ่งเดียวที่ทำให้เราสบายใจได้ 100% เลยคือแอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก ๆ

เราทดสอบแอปต่าง ๆ มากกว่า 30 แอปและสรุปได้ว่า Bark เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต Bark จะตรวจจับเนื้อหาที่อาจเป็นอันตราย ซึ่งรวมถึงการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต แนวคิดเรื่องการฆ่าตัวตนและการข่มขู่โดยใช้ความรุนแรงบนบัญชีโซเชียลมีเดีย, อีเมลและ SMS ของบุตรหลานเรา

คุณยังสามารถลองใช้ Bark ได้ฟรีเป็นระยะเวลา 7 วันและทดสอบด้วยตัวเองดูได้ว่าการโต้ตอบทางออนไลน์ของบุตรหลานของคุณนั้นจัดอยู่ในเกณฑ์สุขภาพดีหรือพวกเขาต้องการให้คุณเข้าไปแทรกแซงหรือไม่

ลองใช้ Bark ฟรีเป็นระยะเวลา 7 วัน!

คำแนะนำฉบับย่อ: 3 ขั้นตอนในการป้องกันการกลั่นแกล้งกันบนอินเทอร์เน็ตในปี 2024

  • ใช้แอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก: คุณควรจะใช้แอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่ได้และมีตัวกรองเว็บไซต์ในการตรวจจับเนื้อหาที่เป็นอันตรายในรูปแบบรูปภาพหรือข้อความ ตัวเลือกที่ดีที่สุดที่มีฟีเจอร์เหล่านี้คือ Bark ซึ่งคุณสามารถลองใช้งานได้ฟรี 7 วัน!
  • ตรวจสอบพฤติกรรมทางออนไลน์ของบุตรหลานคุณ: หลังจากที่คุณติดตั้งแอปแล้ว คุณสามารถเริ่มตรวจสอบพฤติกรรมและการโต้ตอบทางออนไลน์ของพวกเขาเพื่อมองหาสัญญาณการกลั่นแกล้งกันบนอินเทอร์เน็ตได้เลย
  • ป้องกันการกลั่นแกล้งกันบนอินเทอร์เน็ต: ดูรายงานในแอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กเพื่อตรวจจับรูปแบบหรือพฤติกรรมที่อาจบ่งบอกว่าบุตรหลานของคุณกำลังถูกกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตและเตรียมพร้อมที่จะช่วยบุตรหลานของคุณควบคุมอารมณ์

5 แนวทางปฏิบัติป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดสำหรับผู้ปกครองในปี 2024

การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่เคยประสบกับการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต แม้ว่าจะมีการพยายามรับมือกับปัญหานี้ เช่น โครงการป้องกันที่ได้รับการปรับปรุงในโรงเรียน แต่การกลั่นแกล้งกันบนอินเทอร์เน็ตก็ยังคงเป็นปัญหาที่แพร่หลายอยู่ดี อย่ารอจนกว่าจะมีใครมาทำหน้าที่ในการปกป้องบุตรหลานของคุณ ลงมือทำเพื่อมีส่วนร่วมในชีวิตของบุตรหลานของคุณและป้องกันโอกาสใด ๆ ที่จะทำให้พวกเขาถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์

ด้านล่างนี้คุณจะพบวิธีการสำหรับการป้องกันการกลั่นแกล้งกันบนอินเทอร์เน็ตที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว แต่หากคุณกำลังเร่งรีบและต้องการคำตอบที่ดีที่สุดตอนนี้ งั้นแอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กก็ควรจะเป็นเครื่องมือแรกในกล่องเครื่องมือของคุณโดยไม่ต้องสงสัย มันจะตรวจสอบโซเชียลมีเดีย อีเมลและการโต้ตอบข้อความ ตรวจสอบว่าเด็ก ๆ เยี่ยมชมเว็บไซต์ใดบ้างและยังมีตัวกรองที่สามารถตรวจจับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต ภาวะซึมเศร้า ความรุนแรงและอื่น ๆ อีกมากมายด้วย

1. ตรวจสอบบุตรหลานของคุณด้วยแอปพรีเมียมสำหรับการควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก

การใช้แอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กที่เหมาะสมคือวิธีการในการป้องกันบุตรหลานของคุณจากการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพที่สุด หลังจากที่คุณติดตั้งแอปบนโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของบุตรหลานแล้ว แอปจะเริ่มตรวจสอบสิ่งที่พวกเขาทำออนไลน์และส่งการแจ้งเตือนให้คุณทราบหากมันตรวจพบภาษาหรือรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต ด้วยการตรวจพบการกลั่นแกล้งกันบนอินเทอร์เน็ตได้ก่อน เราจะสามารถหยุดยั้งเรื่องนั้นได้ไม่ว่าจะเป็นโดยการปิดกั้นแอปที่ที่คนที่ชอบแกล้งคนอื่นอยู่หรือปรับแต่งการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพื่อปิดกั้นคนที่ชอบแกล้งคนอื่นก่อนที่มันจะกลายมาเป็นปัญหาและส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของเด็ก ๆ

Bark ตรวจพบการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต

Bark ตรวจพบการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตในอีเมล

เราทดสอบแอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 30 แอปและแอปส่วนใหญ่ไม่มีฟีเจอร์สำคัญสำหรับการป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต แอปส่วนใหญ่ไม่มีฟีเจอร์ที่สำคัญและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการกลั่นแกล้งทางออนไลน์ เช่น ตัวกรองเว็บไซต์ที่จะส่งการแจ้งเตือนเมื่อมีการใช้คำที่น่าสงสัยในแชท ความคิดเห็น ข้อความส่วนตัวหรือปรากฏบนเว็บไซต์ ฟีเจอร์ที่สำคัญอีกฟีเจอร์หนึ่งคือความสามารถในการตรวจสอบกิจกรรมบนโซเชียลมีเดียและส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้ปกครองเมื่อตัวกรองถูกเรียกใช้ จากแอปต่าง ๆ กว่า 30 แอป มีเพียงสามแอปพลิเคชันเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ของเรา

Bark: ใช้กลไกการเรียนรู้และ AI เพื่อตรวจจับการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตในแอปโซเชียลมีเดียและอีเมลกว่า 30 แอป

จากแอปทั้งหมดที่เราได้ทดสอบ Bark ทำงานได้ดีที่สุด มันเชื่อมต่อกับแอปโซเชียลมีเดีย, SMS และอีเมลกว่า 30 แอปได้โดยตรงและใช้ AI และกลไกการเรียนรู้เพื่อสแกนข้อความ, ข้อความส่วนตัว, แชท, ความคิดเห็นและวิดีโอเพื่อหาอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้อง

ตัวกรองมี 17 หมวดหมู่ ซึ่งรวมถึงการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต การทำร้ายตัวเอง แนวคิดเรื่องการฆ่าตัวตน แอลกอฮอล์และการร่วมเพศและส่งการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ไปยังแดชบอร์ดและการแจ้งเตือนแบบพุชไปยังโทรศัพท์ของเราเมื่อตัวกรองถูกกระตุ้น นอกจากนี้แล้ว Bark ยังอัปโหลดสำเนาข้อความหรือวิดีโอเพื่อที่เราจะได้สามารถตรวจสอบในบริบทนั้น ๆ และดูว่าเราต้องดำเนินการอะไรเพื่อป้องกันบุตรหลานของเรา

Bark ไม่เพียงแต่ส่งการแจ้งเตือนเท่านั้น พวกเขายังร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญสุขภาพเด็กเพื่อมอบ “การดำเนินการที่แนะนำ” สำหรับการแจ้งเตือนแต่ละครั้งที่จะช่วยนำทางคุณผ่านส่วนที่ยากลำบากของการเป็นพ่อแม่และมอบเครื่องมือที่จำเป็นในการพูดคุยกับบุตรหลานของคุณและสิ่งที่คุณควรทำ คุณสามารถลองใช้ Bark ได้ฟรีเป็นระยะเวลา 7 วันและรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการโต้ตอบทางออนไลน์ของบุตรหลานของคุณ

Qustodio: ปิดกั้นหมายเลขโทรศัพท์และข้อมูลติดต่อที่เฉพาะเจาะจงจากการโต้ตอบกับบุตรหลานของคุณ

Qustodio เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี แม้ว่ามันจะไม่สามารถดูข้อความที่ส่งผ่านโซเชียลมีเดียได้อย่าง Bark แต่มันก็มีการตรวจสอบ SMS และการโทรเข้า/ออก ด้วยฟีเจอร์นี้ เราสามารถอ่านข้อความทั้งหมดและปิดกั้นหมายเลขที่เฉพาะเจาะจงหรือหมายเลขที่ไม่รู้จักจากการโทรเข้า/ออกได้ เรายังชอบที่มันติดตามว่าเด็ก ๆ ใช้แต่ละแอปพลิเคชันนานแค่ไหนด้วย เพราะหากเราเห็นระยะเวลาที่ใช้ในบางแอปลดลงอย่างมาก เราก็จะรู้วิธีการตรวจสอบกับเด็ก ๆ

ท้ายที่สุด เราสามารถดูประวัติการค้นหาและเบราว์เซอร์ของเด็ก ๆ ได้ ซึ่งทำให้เราทราบว่าเด็ก ๆ กำลังถูกกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตหรือไม่โดยอ้างอิงเว็บไซต์ที่พวกเขาเยี่ยมชม ตัวอย่างเช่นหากเราเห็นประวัติการค้นหาของเด็ก ๆ เกี่ยวกับการกลั่นแกล้งหรือเขากำลังเยี่ยมชมฟอรั่มออนไลน์ที่พูดคุยเกี่ยวกับการจัดการคนที่ชอบแกล้งคนอื่นหรือทำร้ายเพื่อนร่วมชั้น เราสามารถก้าวเข้ามาและป้องกันไม่ให้เรื่องบานปลายได้

Qustodio มีเวอร์ชันทดลองใช้งาน 30 วันที่ไม่ต้องใช้ข้อมูลบัตรเครดิต ดังนั้นคุณจึงสามารถลองใช้งานเป็นระยะเวลา 30 วันและรับทราบเกี่ยวกับกิจกรรมทางออนไลน์ของบุตรหลานของคุณและดูว่ามีอะไรที่คุณต้องให้ความสนใจหรือไม่

mSpy: บันทึกรูปภาพหน้าจอของการโต้ตอบทางออนไลน์เพื่อช่วยตรวจจับและป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกบุคคลที่สามในกรณีที่คุณต้องการดูทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นบนโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ของบุตรหลานของคุณด้วย แม้ว่า mSpy จะไม่มีตัวกรองในการตรวจจับการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต แต่มันก็มีการบันทึกการกดแป้นพิมพ์และถ่ายรูปภาพหน้าจอเพื่อที่คุณจะได้สามารถดูทุกโพสต์ ความคิดเห็น ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏบนอุปกรณ์นั้น ๆ ได้

เราชอบที่ mSpy มีฟีเจอร์ปิดกั้นแอป ดังนั้นเราจึงมีทางเลือกในการปิดกั้นแอปหากเราเห็นว่าบุตรหลานของเรากำลังถูกล้อเลียนหรือถูกกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต แม้ว่าจะไม่มีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี แต่ mSpy มีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 14 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้และตรวจสอบให้มั่นใจได้ว่าบุตรหลานของคุณไม่ได้กำลังถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์

2. ตั้งค่าการควบคุมความเป็นส่วนตัวและจำกัดผู้ที่มองเห็นโพสต์ของบุตรหลานของคุณได้

สอนบุตรหลานของคุณเกี่ยวกับวิธีการใช้การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบนโซเชียลมีเดียและบัญชีออนไลน์อื่น ๆ สิ่งนี้สามารถช่วยพวกเขาจำกัดจำนวนข้อมูลส่วนบุคคลที่แสดงต่อบุคคลแปลกหน้าทางออนไลน์ สนับสนุนให้พวกเขาระมัดระวังเกี่ยวกับว่าใครที่แอดเข้ามาเป็นเพื่อนหรือผู้ติดตาม และย้ำเตือนพวกเขาว่าอย่าแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ที่อยู่หรือหมายเลขโทรศัพท์ทางออนไลน์ พวกเขาควรตระหนักว่าพวกเขามีพลังในการปิดกั้นและรายงานใครก็ตามที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายฝใจ

การตรวจสอบและอัปเดตการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของบุตรหลานของคุณเป็นประจำก็เป็นความคิดที่ดีและอย่าลืมตรวจสอบให้มั่นใจว่าพวกเขาเข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร พูดคุยกับบุตรหลานของคุณเกี่ยวกับความสำคัญในการระมัดระวังเมื่อโต้ตอบกับคนแปลกหน้าทางออนไลน์และสอนพวกเขาให้เชื่อในสัญชาตญาณของตนเองหากมีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แม้ว่าการตั้งค่าการควบคุมความเป็นส่วนตัวและปิดกั้นผู้คนจะถือเป็นแผนที่ดี แต่คุณจะไม่สามารถอ่านข้อความส่วนบุคคลใด ๆ หรือดูความคิดเห็นที่มุ่งร้ายจากบุคคลที่บุตรหลานของคุณไม่ได้ปิดกั้นได้ ยกเว้นแต่คุณจะติดตั้งแอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กอย่าง Bark

ลองใช้ Bark ฟรีเป็นระยะเวลา 7 วัน!

3. ติดตามบุตรหลานของคุณบนโซเชียลมีเดีย

อาจไม่ใช่เรื่อง “เจ๋ง” สำหรับเด็ก ๆ ที่จะเป็น “เพื่อน” กับผู้ปกครอง แต่มันเป็นวิธีในการป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพหรืออย่างน้อยก็เป็นวิธีที่ได้ผลดี โดยการตรวจสอบบัญชีของพวกเขา คุณจะสามารถระบุคนที่ชอบแกล้งคนอื่นและการกระทำที่พวกเขาทำต่อบุตรหลานของคุณ เช่น ความคิดเห็นหรือข้อความเชิงลบและดำเนินการป้องกันมันได้ นอกจากนี้ นี่ยังมอบความรับผิดชอบต่อบุตรหลานของคุณด้วยเนื่องจากพวกเขาจะรู้ว่ากิจกรรทางออนไลน์ของพวกเขาถูกตรวจสอบและอาจมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตน้อยลง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะติดตามและตรวจสอบบัญชีสาธารณะของพวกเขาทั้งหมด แต่คุณก็จะไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อความส่วนตัวหรือบทสนทนาที่บุตรหลานของคุณคุยในหัวข้ออื่น ๆ ยกเว้นแต่คุณจะใช้แอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กที่ดี

4. อย่าโพสต์เรื่องส่วนตัวหรือเรื่องน่าอายออนไลน์

การดูแลข้อมูลส่วนบุคคลเอาไว้เป็นส่วนตัวคือเครื่องมือสำคัญสำหรับการป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต การกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตมักใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่พวกเขาพบทางออนไลน์เพื่อกลั่นแล้งหรือทำให้เหยื่ออับอาย ด้วยการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและรูปภาพส่วนตัวเอาไว้ เด็ก ๆ จะสามารถลดความเสี่ยงในการตกเป็นเป้าการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตได้ คุณควรสอนบุตรหลานของคุณให้ระมัดระวังเกี่ยวกับข้อมูลที่พวกเขาแบ่งปันทางออนไลน์และย้ำเตือนพวกเขาถึงเรื่องที่ว่าอะไรก็ตามที่แบ่งปันทางออนไลน์อาจถูกนำมาใช้ต่อต้านพวกเขาได้ การให้ความรู้กับบุตรหลานของคุณให้ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างข้อมูลสาธารณะและข้อมูลส่วนบุคคลและผลลัพธ์ที่อาจตามมาของการแบ่งปันข้อมูลทางออนไลน์นั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญ

แม้ว่าจะเป็นคำแนะนำที่ดีที่ไม่ต้องใช้แอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก แต่คุณจะไม่รู้เลยหากมีการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตกำลังเกิดขึ้นกับบุตรหลานของคุณ Bark จะแจ้งเตือนให้คุณทราบหากมีการโพสต์หรือส่งที่เกี่ยวกับการกลั่นแกล้งทางออนไลน์หรือหมวดหมู่ตัวกรองอื่น ๆ มายังบุตรหลานของคุณ

5. สอนบุตรหลานของคุณไม่ให้มีส่วนร่วมกับการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต

หนึ่งในวิธีที่ในการป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือหลีกเลี่ยงการโต้ตอบกับคนที่ชอบรังแกคนอื่น การโต้ตอบกับคนเหล่านี้มักนำไปสู่การล่วงละเมิดเพิ่มเติมและอาจทำให้สถานการณ์บานปลายได้โดยการทำพวกเขารู้สึกมีพลัง โดยการไม่โต้ตอบกลับ คนที่ชอบรังแกผู้อื่นจะสูญเสียพลังในการควบคุมเหยื่อและแนวโน้มที่พฤติกรรมดังกล่าวจะดำเนินต่อไปก็จะน้อยลง

ข้อเสียของวิธีการนี้คือคุณกำลังพึ่งพาให้คนที่ชอบแกล้งคนอื่นยอมแพ้และเลิกลาไปเอง มีหลายครั้งที่คุณต้องบังคับให้บุตรหลานเลิกเล่นโซเชียลมีเดียเพื่อสุขภาพจิตของพวกเขาเอง สำหรับเรื่องนี้ คุณจะต้องมีแอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่สามารถปิดกั้นแอปและเว็บไซต์ได้ แม้ว่า Bark จะเป็นแอปที่ดีที่สุดในการป้องกันและตรวจจับการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต แต่ Qustodio มีเครื่องมือสำหรับการปิดกั้นแอปและเว็บไซต์ที่ดีกว่า หากมีการติดตั้งแอปบนโทรศัพท์ของบุตรหลานของคุณ Qustodio สามารถปิดกั้นมันได้โดยสมบูรณ์หรือตั้งขีดจำกัดเวลาเพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถใช้งานได้เฉพาะตอนที่คุณสามารถควบคุมกิจกรรมทางออนไลน์ได้

ลองใช้ Qustodio ฟรีเป็นระยะเวลา 30 วัน!

แม้ว่าคำแนะนำข้างต้นจะช่วยให้คุณพูดคุยกับบุตรหลานของคุณเกี่ยวกับการแบ่งปันและการโต้ตอบทางออนไลน์ การติดตามพวกเขาบนโซเชียลมีเดียและการปรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว – แต่มันก็มีข้อเสียอย่างหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด บุตรหลานยังเป็นคนที่คุมเกมอยู่และอย่างที่เด็ก ๆ มักจะทำกัน พวกเขามักจะเพิกเฉยต่อคำแนะนำหรือกฎเกณฑ์ของคุณโดยคิดว่าพวกเขาฉลาดกว่าและรู้ดีกว่า นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมแอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตจึงเป็นทางออกที่แท้จริงเพียงอย่างเดียว มันจะนำเอาการควบคุมออกมาจากบุตรหลานและทำให้ผู้ปกครองมีข้อมูลเชิงลึกและเครื่องมือที่จำเป็นในการป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตและดำเนินการได้ทันทีที่มันเกิดขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

แอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กสามารถป้องกันไม่ให้การกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นได้ไหม?

แม้ว่าจะไม่มีเครื่องมือใดที่สามารถป้องกันเรื่องนี้ได้โดยสมบูรณ์ แต่แอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก ๆ ก็สามารถช่วยให้ผู้ปกครองระบุสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตรายและดำเนินการป้องกันมันก่อนที่จะบานปลายได้ ตัวอย่างเช่นบางแอปอนุญาตให้ผู้ปกครองตั้งค่าขีดจำกัดการใช้โซเชียลมีเดียของบุตรหลานหรือปิดกั้นเว็บไซต์หรือแอปที่เฉพาะเจาะจงได้ วิธีในการรับรู้ถึงการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดเลยคือการใช้แอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กอย่าง Bark เนื่องจากมันจะอัปโหลดสำเนาข้อความที่มุ่งร้ายหรืออาจเป็นอันตรายใด ๆ จากโซเชียลมีเดีย, อีเมลหรือ SMS ไปยังแดชบอร์ดสำหรับผู้ปกครอง คุณสามารถลองใช้ Bark ได้ฟรีเป็นเวลา 7 วันและรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการโต้ตอบทางออนไลน์ของบุตรหลานของคุณได้

สามารถใช้แอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กเพื่อตรวจสอบการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตที่เกิดขึ้นแล้วได้ไหม?

ได้ แอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กบางแอปช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูข้อความและกิจกรรมบนโซเชียลมีเดียที่เกิดขึ้นแล้วได้ ตัวอย่างเช่น Bark มีตัวกรองเว็บไซต์ AI ขั้นสูงที่เชี่ยวชาญในการตรวจจับการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต ความคิดเห็น ข้อความส่วนตัวหรือโพสต์ใด ๆ ที่กระตุ้นตัวกรองจะถูกอัปโหลดไปยังแดชบอร์ดของผู้ปกครอง ซึ่งผู้ปกครองสามารถตรวจสอบได้โดยอัตโนมัติ จากนั้นคุณก็สามารถดำเนินการที่เหมาะสม เช่น ปิดกั้นแอป พูดคุยกับบุตรหลานของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือติดต่อโรงเรียนได้ คุณสามารถลองใช้ Bark ฟรีได้เป็นระยะเวลา 7 วันและดูว่ามีแนวโน้มปัญหาอะไรที่คุณควรตระหนักถึงหรือไม่

ฉันสามารถทำอะไรได้บ้างหากบุตรหลานของฉันกำลังถูกกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต?

หากบุตรหลานของคุณกำลังถูกกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต เรื่องสำคัญคือการดำเนินการตามที่เหมาะสมกับสถานการณ์ สนับสนุนให้บุตรหลานของคุณคุยกับคุณหรือผู้ใหญ่ที่ไว้วางใจคนอื่น ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น คุณยังสามารถรายงานพฤติกรรมดังกล่าวไปยังแพลตฟอร์มหรือผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องและพิจารณาการบังคับใช้กฎหมายหากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องรุนแรงได้ เพื่อให้มั่นใจว่าการกลั่นแกล้งนั้นหยุดลงแล้วและเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคตส่วนใหญ่ อย่าลืมตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้ใช้แอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กเพื่อที่คุณจะได้สามารถควบคุมกิจกรรมออนไลน์ของบุตรหลานของคุณได้

เฉพาะแอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กพรีเมียมเท่านั้นที่สามารถป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตได้

เด็ก ๆ จะพบว่าการหาที่ที่ปลอดภัยทางออนไลน์ที่ที่พวกเขาจะไม่ถูกล้อเลียนในเรื่องของมุมมอง ตัวเลือกเสื้อผ้า เพื่อนหรือเรื่องอะไรก็ตามนั้นเป็นเรื่องยากมาก แม้ว่าการอบรมบุตรหลานของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่ควรแชร์และวิธีการประพฤติตนทางออนไลน์จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็มีวิธีการป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตเพียงวิธีเดียวเท่านั้น การติดตั้งแอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กบนโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของบุตรหลานของคุณจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการโต้ตอบทางออนไลน์ของพวกเขา, เว็บไซต์ที่พวกเขาเยี่ยมชมและคำที่ใช้ค้นหา ทันทีที่คุณเห็นจุดเริ่มต้นของการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต คุณจะสามารถปิดกั้นแอปที่พวกเขากำลังใช้และคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้

Bark เป็นแอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กที่เราใช้เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต มันเชื่อมต่อกับแอปโซเชียลมีเดียได้มากกว่า 30 แอป, อีเมลและ SMS และอัปโหลดรูปภาพหน้าจอของรูปภาพ ข้อความและความคิดเห็นใด ๆ ที่กระตุ้นการแจ้งเตือนการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้มันยังจะแจ้งให้คุณทราบด้วยว่าใครคือผู้กลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตเพื่อที่คุณจะได้สามารถหยุดการกลั่นแกล้งและป้องกันบุตรหลานของคุณได้ ลองใช้ Bark ฟรี 7 วันและดูว่าฟีเจอร์การป้องกันการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตนั้นทรงพลังแค่ไหนและสามารถติดตั้งและตั้งค่ามันได้ง่ายเพียงใด

พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา เรียนรู้เพิ่มเติม

Wizcase ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2018 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost, Intego และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน Wizcase นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

คุณชอบบทความนี้ไหม?
โหวตให้คะแนนเลยสิ!
ฉันเกลียดมัน ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ พอใช้ได้ ค่อนข้างดี รักเลย!
4.10 ได้รับการโหวตให้คะแนนโดย 2 ผู้ใช้
ชื่อเรื่อง
ความคิดเห็น
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณ