รัสเซียปิดกั้น 50 VPN – ผู้ให้บริการรายไหนที่ยังใช้งานได้อยู่
ในเดือนเมษายน 2018 รัฐบาลรัสเซียประกาศว่าจะปิดกั้น 50 พร็อกซีและบริการ VPN เพื่อจำกัดการเข้าถึงของ Telegram โดยไม่ได้ระบุว่า VPN ใดที่ถูกบล็อก เจ้าหน้าที่ได้ทำการโจมตีผู้ให้บริการ VPN ในประเทศ
และเนื่องจากความตึงเครียดระหว่าง Telegram และรัฐบาลที่ยังคงมีอยู่ VPN ในรัสเซียจึงถูกบล็อกมากขึ้นเรื่อย ๆ
การแบน Telegram
Roscomnadzor ผู้ดูแลการสื่อสารโทรคมนาคมของรัสเซียได้ปิดกั้น VPN และพร็อกซีกว่า 50 รายการในการประมูลเพื่อปิดกั้นการเข้าถึง Telegram ย้อนกลับไปในเดือนเมษายนปี 2018 รัฐบาลรัสเซียขอให้ Apple และ Google ลบแอพพลิเคชั่นส่งข้อความเข้ารหัส Telegram เนื่องจากไม่สามารถถอดรหัสให้กับหน่วยงานของรัสเซีย เช่น Federal Security Service ได้
Telegram ได้พยายามหลีกเลี่ยงรัฐบาลโดยย้ายบางส่วนของบริการไปยังโฮสต์เซิร์ฟเวอร์อื่น แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เพียงพอ ในการตอบโต้ รัสเซียปิดกั้นหมายเลข IP มากกว่า 15.8 ล้านหมายเลข ซึ่งส่งผลต่อบริการอื่น ๆ เช่น เกม, ค้าปลีก, ธนาคารและอื่น ๆ
นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่น – VPN ผู้ให้บริการ VPN ระดับพรีเมี่ยมชั้นนำยังความสามารถในการเข้าถึงเว็บไซต์ บริการและแอพพลิเคชั่นที่ถูกบล็อกเกือบทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลรัสเซียจึงเดินหน้าต่อไปอีกขั้นหนึ่งและดำเนินการห้ามใช้ VPN ต่าง ๆ เพื่อขจัดปัญหานี้อย่างสมบูรณ์ แต่พวกเขาไม่ได้บอกว่าเป็นบริการไหน
VPN ใดที่ยังใช้งานได้
โชคดีที่ VPN นั้นมีความยืดหยุ่นอย่างไม่น่าเชื่อและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาสถานะการให้บริการของตนในรัสเซีย เราได้ทดสอบบริการ VPN นับไม่ถ้วนเพื่อดูว่าบริการใดบ้างที่ยังใช้
1. ExpressVPN
คุณสมบัติหลัก:
- การเข้ารหัส AES-256 bit
- เซิร์ฟเวอร์ 3000 + แห่งใน 148 แห่งใน 105 ประเทศ
- ความเร็วที่น่าประทับใจ
ExpressVPN ถือเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดในโลก ExpressVPN ไม่เพียง แต่รักษาความปลอดภัยข้อมูลของคุณด้วยการเข้ารหัส AES 256-bit แต่ยังช่วยให้คุณไม่เปิดเผยตัวตนเมื่อใช้งานออนไลน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน ExpressVPN จะไม่เก็บข้อมูลหรือบันทึกกิจกรรมใด ๆ ที่ส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งรวมถึงชื่อผู้ใช้, รหัสผ่านประวัติการค้นหา ฯลฯ
ในขณะที่ ExpressVPN มอบการรักษาความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ พวกเขายังคงรักษาความเร็วที่ไม่เป็นรองใครไว้ได้ตลอด ระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพมีความเค็วที่สม่ำเสมอและน่าเชื่อถือทั้งในระยะทางไกลและระยะสั้น
เนื่องจากบริการ VPN นี้มีให้บริการในแพลตฟอร์มส่วนใหญ่รวมถึง Windows, MacOS, iOS และ Android คุณจะไม่มีปัญหาในการเข้าถึงบริการส่งข้อความ Telegram จากทุกที่ในโลก
อัปเดต 2024! ExpressVPN ปรับลดราคาภายในช่วงระยะเวลาที่จำกัดเหลือเพียง $6.67 ต่อเดือนเท่านั้นในแผนให้บริการแบบ 1 ปี (คุณสามารถประหยัดเงินได้สูงสุดถึง 49%) + รับเพิ่มอีก 3 เดือนฟรี! นี่เป็นข้อเสนอจำกัดเวลา ดังนั้นอย่าลืมคว้ามันเอาไว้เลยตอนนี้ก่อนที่มันจะหายไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ได้ที่นี่
2. CyberGhost VPN
คุณสมบัติหลัก:
- การเข้ารหัส AES-256 bit
- 11.800 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ
- รองรับอุปกรณ์ได้สูงสุด 7 เครื่องพร้อมกัน
CyberGhost VPN เป็น VPN ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าถึง Telegram พวกเขามีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 11.800 แห่งใน 100 ประเทศเพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสถานที่ต่าง ๆ
คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 7 อุปกรณ์ในบัญชีเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่มีช่องโหว่ระหว่างอุปกรณ์หากคุณเลือกที่จะเข้าถึงข้อมูลของคุณบนแล็ปท็อป โทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ซึ่งหมายความว่าทุกคนในครอบครัวของคุณสามารถเข้าถึง Telegram ได้ในเวลาเดียวกัน
CyberGhost ยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงที่ใช้การเข้ารหัส AES 256-bit, ความเร็วที่รวดเร็วและการรับประกันคืนเงิน 45 วัน
อัปเดต 2024! คุณสามารถสมัครสมาชิก CyberGhost ได้ในราคาแสนถูกเพียง $2.03 ต่อเดือน + รับเพิ่มฟรี 4 เดือนฟรีในแผนให้บริการแบบ 2 ปี (ประหยัดได้สูงสุดถึง 84%)! นี่เป็นข้อเสนอจำกัดเวลา ดังนั้นอย่าลืมคว้ามันเอาไว้ก่อนตอนนี้ก่อนมันจะหายไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ได้ที่นี่
3. NordVPN – VPN พรีเมียมที่มีราคาถูกในแผนให้บริการระยะยาว
คุณสมบัติหลัก:
- มีการสมัครสมาชิกในระยะสั้นและระยะยาวพร้อมให้บริการ
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
- 6.300 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกใน 110 ประเทศ
- ไม่จำกัดแบนด์วิดธ์
- ป้องกันได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน
NordVPN เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดในตลาด – และคุณสามารถใช้บริการแผนให้บริการที่มีราคาถูกมากได้ตอนที่คุณลงทะเบียนสำหรับแผนให้บริการระยะยาว แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเรื่องหนึ่งที่คุณควรทราบ นั่นก็คือเมื่อถึงเวลาต่ออายุการสมัครสมาชิกของคุณ ราคาจะปรับขึ้นค่อนข้างมาก
ฉันประทับใจเป็นอย่างยิ่งกับประสิทธิภาพสูงของเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดที่ฉันทดสอบ แค่เพราะ VPN มีเซิร์ฟเวอร์นับพันเซิร์ฟเวอร์ ไม่ได้หมายความว่าเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดนั้นจะใช้งานได้จริง เซิร์ฟเวอร์อาจประสบปัญหาในการปลดบล็อกเว็บไซต์ในท้องถิ่นได้ – และบางเซิร์ฟเวอร์ก็อาจยะไม่สามารถเชื่อมต่อได้เลย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็สามารถปลดบล็อก Netflix, Disney+, Hulu, Amazon Prime Video, BBC iPlayer และ HBO Max ด้วยเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ มากมายในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม ฉันพบปัญหากับการใช้งานแอปเฉพาะ Fire TV ของ NordVPN แม้ว่ามันจะทำงานได้และปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่งได้บางส่วน แต่บางครั้งมันก็มีปัญหาในการปลดบล็อก Netflix ของสหรัฐอเมริกาและค้างอยู่เรื่อย ๆ นอกจากนี้ฉันยังพบว่าอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ NordVPN สำหรับอุปกรณ์เดสก์ท็อปนั้นมีความเป็นมิตรน้อยกว่า ExpressVPN และ CyberGhost
NordVPN มีฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวดังต่อไปนี้:
- การเข้ารหัส AES 256-บิต
- Kill Switch ที่ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณหากการเชื่อมต่อ VPN ของคุณเกิดหลุดขึ้นมากระทันหัน
- ตัวปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์ภายในตัวเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องใช้ตัวปิดกั้นโฆษณาของบุคคลที่สาม
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้วโดยสมบูรณ์ (ตรวจสอบโดย PwC) – NordVPN ไม่ได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่ระบุตัวตนได้เอาไว้ขณะที่คุณเชื่อมต่อกับ VPN
นอกจากนี้แล้ว NordVPN ยังมี Threat Protection ที่จะป้องกันคุณจากไวรัส เว็บไซต์ที่ติดไวรัสและตัวติดตามรวมมาให้ด้วย – และมันทำงานได้เมื่อใดก็ตามที่คุณเปิดแอป NordVPN เอาไว้แม้ว่าคุณจะไม่ได้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ก็ตาม
คุณสามารถสตรีม, Torrent และท่องเว็บฟรีสูงสุดถึง 30 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินของ NordVPN มันมีแผนให้บริการที่มีราคาแสนถูกเพียง $3.09 ต่อเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับเงินของคุณกลับคืนมาจริง ๆ ฉันจึงได้ทดสอบการรับประกันยินดีคืนเงินของ NordVPN ดู ในตอนแรกทีมสนับสนุนพยายามจะมอบระยะเวลาทดลองใช้งานเพิ่มเติมกับฉัน – แต่พวกเขาดำเนินการคืนเงินให้กับฉันทันทีหลังจากที่ฉันบอกพวกเขาว่าฉันไม่สนใจระยะเวลาทดลองใช้งานเพิ่มเติมนั้น ฉันได้รับเงินคืนกลับมาใน 6 วันทำการ
NordVPN ปลดบล็อก: Netflix, Amazon Prime Video, BBC iPlayer, Hulu, Disney+, Vudu, SkyTV, HBO Go, HBO Now, Sky, SHOWTIME, DAZN, ESPN, YouTube TV และอื่น ๆ อีกมากมายได้
NordVPN ทำงานได้บน: Windows, Mac OS, Android, iOS, Windows Phone, Chromebook, Linux, Chrome, Firefox, Fire Stick และ Android TV
สรุป
ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ VPN ไหนจากรายการของเรา คุณจะสามารถ ยังสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่หลากหลายจากทั่วโลกด้วยการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์
VPN ที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนำเสนอช่วงทดลองใช้งานหรือรับประกันคืนเงิน ทำไมไม่ลองใช้ด้วยตัวคุณเองหล่ะ!
