6 VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024 (ปลอดภัย + ฟรี 100%)
การค้นหา VPN ฟรีที่ปลอดภัยและทำงานได้ดีนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย – แต่ฉันก็ทำได้ มี VPN ฟรีมากมายที่อันตรายเป็นอย่างยิ่งซึ่งทำให้คุณเสี่ยงกับมัลแวร์และการติดตาม แม้ว่ามันจะสอบผ่านในแบบทดสอบด้านความปลอดภัย แต่ VPN ฟรีส่วนใหญ่ก็มีขีดจำกัดข้อมูล ทำงานได้ช้าหรือไม่สามารถปลดบล็อกเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้
ทีมงานและฉันได้ทดสอบ VPN มากกว่า 100 โปรแกรมและฉันก็ได้สร้างรายการ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2024 นี้ขึ้นมา โปรดทราบว่าไม่มี VPN ฟรีใดที่สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพเท่า VPN พรีเมียม คุณจะยังต้องพบกับบางสิ่ง เช่น ขีดจำกัดข้อมูลและความเร็วที่ไม่เสถียร
หากคุณต้องการป้องกันตัวคุณเองจากปัญหาต่าง ๆ ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ ExpressVPN โดยปราศจากความเสี่ยง มันไม่ใช่โปรแกรมฟรี แต่มันเป็น VPN ที่รวดเร็วและไว้วางใจได้มากที่สุดที่ฉันเคยใช้มา มันมีการรับประกันยินดีคืนเงิน 30 วัน (ซึ่งใช้งานได้จริง 100%) ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลว่าคุณจะติดแหงกอยู่กับ VPN ที่คุณไม่ชอบ หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเราที่ WizCase ดังนั้นคุณควรรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มการเป็นเจ้าของเดียวกับ ExpressVPN อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเราเนื่องจากเรายึดมั่นในระเบียบวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
ลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยง!
คำแนะนำฉบับลัด: VPN ฟรีและเสียเงินที่ดีที่สุดที่คุณสามารถไว้วางใจได้ในปี 2024
- ExpressVPN – VPN แบบเสียเงินที่ดีที่สุดที่มาพร้อมความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมและมีความเร็วที่รวดเร็วในเครือข่ายมากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
- Proton VPN – ข้อมูลไม่จำกัดฟรีและความเร็วที่รวดเร็ว แต่มีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เพียง 3 ตำแหน่งเท่านั้น
- Hotspot Shield – ความเร็วที่ดีและไม่จำกัดความเร็ว แต่ไม่สามารถปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ได้
- hide.me – ไม่จำกัดข้อมูลพร้อมตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ฟรี 5 ตำแหน่ง แต่ไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เฉพาะเจาะจงได้หลังจากที่มีการใช้ข้อมูลไป 10GB แล้ว
- TunnelBear – สิทธิ์ในการเข้าถึงตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด 46 ตำแหน่งฟรี แต่จำกัดข้อมูลฟรีเพียง 2GB ต่อเดือนเท่านั้น
- Windscribe – ไว้วางใจได้สำหรับการเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหลัก แต่ระยะเวลาคืนเงินสั้นมากหากคุณอัปเกรด
VPN ฟรีที่ดีที่สุด (ทดสอบแล้วในปี 2024)
1. ExpressVPN – ความเร็วที่รวดเร็วและฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งสำหรับความเป็นส่วนตัวทางออนไลน์
ฟีเจอร์หลัก:
- ข้อมูลไม่จำกัดสำหรับการสตรีมมิ่ง, Torrenting และการเล่นเกมแบบไม่จำกัด
- เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกมากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว, การเข้ารหัสแบบ AES-256 บิต, Kill Switch, การป้องกันการรั่วไหลและเซิร์ฟเวอร์บน RAM
- อนุญาตให้เชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 8 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน
- แอปสำหรับ Windows, Mac, Android, iOS, Linux, Android TV, Amazon Fire TV และ Fire Stick, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ฝ่ายสนับสนุนผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงและอีเมลพร้อมให้บริการ
ExpressVPN ไม่ใช่บริการฟรี ดังนั้นคุณจึงอาจสงสัยว่าแล้วทำไมเราถึงจัดอันดับให้มันเป็น VPN อันดับ #1 ในรายการนี้ เหตุผลก็คือ ExpressVPN มีความเร็วเซิร์ฟเวอร์ที่ยอดเยี่ยม ความปลอดภัยระดับชั้นนำและนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด แม้ว่ามันจะไม่ได้เปิดให้บริการฟรี แต่มันก็มีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถสั่งซื้อได้ด้วยความมั่นใจ หากคุณไม่พึงพอใจ คุณสามารถขอเงินคืนได้ เรื่องนี้ล่ะที่ทำให้บริการไหน ๆ ก็เอาชนะ ExpressVPN ได้ยาก
ในการทดสอบของฉัน ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ มากกว่า 50 เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย ฉันประทับใจที่ ExpressVPN ทำให้เกิดความเร็วล่าช้าลงเล็กน้อยจากความเร็วปกติของฉันที่ 590Mbps เหลือประมาณ 370Mbps นี่ถือว่าเร็วมากเมื่อพิจารณาจากตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ค่อนข้างห่างไกล ฉันไม่พบปัญหากับหน้าที่โหลดช้าลง วิดีโอกระตุกหรือการเล่นเกมที่สะดุดเลย
เนื่องจาก ExpressVPN สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ได้อยู่เสมอ คุณเลยไม่ต้องมานั่งเสียเวลาแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เรื่องนี้ทำให้ ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่เป็นประจำและคุณต้องการเข้าถึงบัญชีสตรีมมิ่งที่บ้านของคุณ ในระหว่างการทดสอบ ExpressVPN ยังสามารถเข้าถึงบริการเหล่านี้ได้อีกด้วย:
Netflix | Disney+ | Hulu | Amazon Prime Video | BBC iPlayer |
Max | Showtime | Peacock TV | YouTube TV | ESPN |
DAZN | CBS | Hotstar | Discovery+ | …และอื่น ๆ อีกมากมาย! |
เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวชั้นนำอยู่เสมอตอนที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ทุกแผนสมาชิกจึงมาพร้อมกับฟีเจอร์ดังต่อไปนี้:
- การเข้ารหัสระดับทหาร AES 256-บิต – ป้องกันการเชื่อมต่อของคุณในทุกเซิร์ฟเวอร์
- การป้องกันการรั่วไหล DNS และ IP – ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ
- Obfuscation ในทุกเซิร์ฟเวอร์ – ปิดบังเส้นทางการรับส่งข้อมูล VPN ของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับพร็อกซีที่สามารถปิดกั้นการเชื่อมต่อของคุณได้
- Kill Switch อัตโนมัติ – ตัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตหากการเชื่อมต่อ VPN เกิดถูกขัดจังหวะ
- เทคโนโลยี TrustedServer – ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ RAM ที่ไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลใด ๆ ทางกายภาพได้
- นโยบายความเป็นส่วนตัวซึ่งไม่มีการบันทึกการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว – ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะไม่มีวันถูกจัดเก็บเอาไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN
คุณสามารถลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยงได้เนื่องจากบริการดังกล่าวมีนโยบายการรับประกันยินดีคืนเงินที่ได้รับการทดลองและทดสอบแล้ว หากคุณไม่พึงพอใจกับบริการดังกล่าว คุณสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้ภายใน 30 วัน – เราทดสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเองและเราก็ทำมันได้ง่าย ๆ VPN อื่น ๆ ที่เราเคยทดสอบเอาแต่ทำให้เราเสียเวลาโดยการพยายามแก้ไขปัญหาหรือดึงให้เราใช้งานอยู่ต่อ แต่ ExpressVPN ดำเนินการคืนเงินให้โดยทันที เราได้รับเงินคืนเข้าบัญชีธนาคารภายใน 5 วัน
คุณสามารถลงทะเบียนสำหรับแผนให้บริการแบบ 1 เดือน, 6 เดือนหรือ 1 ปีโดยแผนที่คุ้มค่าที่สุดมีราคาเพียง $4.99 ต่อเดือนเท่านั้น (การสมัครสมาชิกแบบ 2 ปี + ฟรี 6 เดือน)
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเราที่ WizCase ดังนั้นคุณควรรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มการเป็นเจ้าของเดียวกับ ExpressVPN อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเราเนื่องจากเรายึดมั่นในระเบียบวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
ExpressVPN ทำงานได้บน: Windows, Mac, Linux, Chromebook, Android, iOS, Chrome, Firefox, Edge, PlayStation, Xbox, Nintendo Switch, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Nvidia Shield, Xiaomi Mi Box, Google Chromecast, Roku, Android TVs, สมาร์ททีวี, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
รับข้อเสนอ Black Friday จาก ExpressVPN! คุณสามารถสมัครสมาชิก ExpressVPN ได้ในราคาแสนถูกเพียง $4.99 ต่อเดือน + รับเพิ่มฟรี 6 เดือนฟรีในแผนให้บริการแบบ 2 ปี (ประหยัดได้สูงสุดถึง 61%)! นี่เป็นข้อเสนอจำกัดเวลา ดังนั้นอย่าลืมคว้ามันเอาไว้ก่อนตอนนี้ก่อนมันจะหายไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ได้ที่นี่
2. Proton VPN – ข้อมูลไม่จำกัดฟรีและไม่มีโฆษณา
ฟีเจอร์หลัก:
- ข้อมูลฟรีไม่จำกัดโดยไม่มี
- 24 เซิร์ฟเวอร์ฟรีใน 3 ประเทศ (สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์)
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด, การเข้ารหัสระดับทหาร, Kill Switch และการป้องกันการรั่วไหล
- รองรับการเชื่อมต่อ 1 อุปกรณ์ในแต่ละครั้ง
- เข้ากันได้กับ Windows, Mac, Android, iOS, Linux, Chromebook และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าพร้อมให้บริการผ่านทางอีเมล
Proton VPN มีข้อมูลฟรีไม่จำกัดและสิทธิ์ในการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากคุณสามารถเข้าถึงได้เพียง 3 ประเทศเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น ฉันจึงคาดหวังว่าความเร็วของฉันจะต้องช้าลงในเซิร์ฟเวอร์เหล่านั้นที่อยู่อีกฟากของโลกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามฉันประทับใจกับความเร็วที่รวดเร็ว – ฉันได้รับความเร็วที่ช้าลงโดยเฉลี่ยประมาณ 33% เท่านั้น มีการกระตุกเล็กน้อยตอนที่สตรีมมิ่ง ท่องเว็บและช้อปปิ้งออนไลน์
ฉันประหลาดใจที่ได้พบว่า Proton VPN ยังเป็นตัวเลือกฟรีที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีมมิ่ง Netflix ด้วย บนเว็บไซต์ การสนับสนุนสตรีมมิ่งนั้นพร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการเฉพาะสำหรับผู้สมัครสมาชิก Plus และ Visionary เท่านั้น อย่างไรก็ตามทีมงานและฉันสามารถเข้าถึง Netflix ได้ในทุกประเทศเซิร์ฟเวอร์ในการทดสอบ
บริษัทมีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้วและตั้งอยู่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งมีกฎหมายความเป็นส่วนตัวและการป้องกันข้อมูลที่เข้มงวด กิจกรรมการท่องเว็บของคุณยังได้รับการป้องกันเพิ่มเติมด้วยการเข้ารหัสแบบ AES-256 บิต, Kill Switch และการป้องกันการรั่วไหลด้วย คุณยังสามารถตั้งค่า Split Tunneling หรือปรับแต่งการตั้งค่า DNS ของคุณซึ่งเป็นฟีเจอร์ขั้นสูงที่มักสงวนไว้สำหรับบัญชีที่ชำระเงินได้อีกด้วย
แม้ว่าคุณจะสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้นสำหรับแผนให้บริการฟรี แต่คุณสามารถกำหนดค่า Proton VPN บนเราเตอร์ที่บ้านของคุณได้ สิ่งนี้จะทำให้คุณสามารถป้องกันอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณได้ตราบใดที่อุปกรณ์เหล่านั้นเชื่อมต่อกับ WiFi ของคุณ เพื่อเริ่มต้นใช้งานและดาวน์โหลด Proton VPN ฟรี สิ่งที่คุณต้องมีคือที่อยู่อีเมล คุณไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใด
น่าเสียเยที่คุณจะไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึง SecureCor, Tor หรือเซิร์ฟเวอร์ 10 Gbit ได้ ไม่มีการรองรับ Torrenting ในแผนให้บริการฟรีด้วยเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าเซิร์ฟเวอร์ฟรีจะไม่ทำงานหนักเกินไปสำหรับผู้ใช้ฟรีรายอื่น ๆ แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังหากคุณต้องการแบ่งปันไฟล์ผ่าน BitTorrent
แผนให้บริการแบบชำระเงินของ Proton VPN มีราคาที่แพงเล็กน้อยหากคุณกำลังมองหาการอัปเกรด แผนให้บริการที่มีราคาถูกที่สุดมาพร้อมกับราคา $2.99 ต่อเดือน (แผนสมัครสมาชิก: 2 ปี) ในราคาที่ใกล้เคียงกันนี้ – แต่มีภาระผูกพันสั้นกว่า – คุณสามารถใช้ความเร็วและความปลอดภัยอันยอดเยี่ยมของ ExpressVPN สำหรับ Torrenting, สตรีมมิ่งและอื่น ๆ อีกมากมายได้
Proton VPN ทำงานได้บน: Windows, Mac, Linux, Chromebook, Android, iOS, Chrome, Firefox, Edge, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Google Chromecast, Android TVs, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
3. Hotspot Shield – Catapult Hydra รักษาความเร็วที่เสถียรได้ในเซิร์ฟเวอร์ฟรี
ฟีเจอร์หลัก:
- ดูโฆษณาเพื่อข้อมูลการใช้งานแบบไม่จำกัด
- ตำแหน่งเสมือนจริงฟรีในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและสิงคโปร์
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน การเข้ารหัสแบบ AES 256-บิตและการป้องกันการรั่วไหล
- อนุญาตให้เชื่อมต่อได้เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้น
- แอปฟรีสำหรับ Windows, Mac, iOS และ Android
- ไม่มีฝ่ายสนับสนุนผ่านทางอีเมลหรือแชทสดสำหรับแผนให้บริกาฟรี
Hotspot Shield เสนอข้อมูลรายเดือนแบบไม่จำกัดพร้อมไม่มีขีดจำกัดการใช้งานซึ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่ง ท่องเว็บ ช้อปปิ้งและออนไลน์อื่น ๆ แถมการเชื่อมต่อของคุณยังได้รับการสนับสนุนจากฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวระดับสูงซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณได้รับการป้องกันอยู่ตลอดเวลาด้วย
VPN ฟรีใช้การเข้ารหัสแบบ AES 256-บิตและการป้องกันการรั่วไหลแบบเดียวกันกับเวอร์ชันพรีเมียม (แม้ว่าจะไม่มี Kill Switch ในแผนให้บริการฟรีก็ตาม) ฉันดำเนินการทดสอบการรั่วไหลมากมายและฉันก็ยินดีที่ได้พบว่า Hotspot Shield ปิดบังหมายเลข IP และ DNS ที่แท้จริงของฉันได้สำเร็จ นอกจากนี้คุณยังได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงโปรโตคอล Hydra Catapult, OpenVPN และ IPsec อีกด้วย
ฉันประทับใจกับความเร็วที่รวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ฉันเชื่อมต่อกับโปรโตคอล Hydra Catapult อันเป็นกรรมสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม Hotspot Shield กำหนดแบนด์วิดธ์ไว้ 2Mbps เพื่อพยายามให้คุณอัปเกรด นี่หมายความว่าฉันต้องพบกับการกระตุกอยู่บ้างตอนที่สตรีมมิ่งบน YouTube นอกจากนี้มันยังใช้เวลาในการโหลดเว็บไซต์สักพักด้วย
เช่นเดียวกันกับ VPN ฟรีส่วนใหญ่ Hotspot Shield ไม่ใช่ตัวเลือกที่เชื่อถือได้สำหรับการสตรีมมิ่ง ในระหว่างการทดสอบ บริการนี้สามารถเข้าถึง Disney+ บน Mac ได้ แต่ไม่สามารถเข้าถึงบน Android หรือ Windows ได้ นอกจากนี้มันยังไม่เพียงแต่เข้าถึงคลังข้อมูลในระดับภูมิภาคของ Netflix ได้เท่านั้น แต่เข้าถึงคลังข้อมูลทั่วโลกได้ตามที่ทีมทดสอบทั่วโลกของเรารายงาน
อย่างไรก็ตามข้อเสียอย่างยิ่งคือ VPN ฟรีได้รับการสนับสนุนบางส่วนโดยโฆษณา แม้ว่าบริษัทจะไม่บันทึกกิจกรรมใด ๆ ที่สามารถย้อนกลับไปหาคุณได้ แต่มีการเก็บรวบรวม OS อุปกรณ์และข้อมูลด้านภูมิศาสตร์ทั่วไป นี่หมายความว่าคุณจะเห็นโฆษณาที่ปรับแต่งให้เหมาะกับคุณเมื่อคุณท่องเว็บ
ฉันพบว่า Hotspot Shield เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการท่องเว็บทั่วไปตราบใดที่คุณไม่คิดมากเรื่องโฆษณาที่ปรับแต่งมาสำหรับคุณเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นการสร้างบัญชี Hotspot Shield ฟรีและดาวน์โหลดแอปบนอุปกรณ์ของคุณก็เป็นเรื่องง่าย คุณยังสามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองเวอร์ชันพรีเมียมฟรีเป็นระยะเวลา 7 วันได้อีกด้วย – หากคุณยกเลิกทันที คุณจะยังสามารถใช้งานแผนให้บริการแบบชำระเงินได้ตลอดระยะเวลาทดลองใช้งาน
Hotspot Shield ทำงานได้บน: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, Chromebook, Chrome, Firefox, Edge, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Android TVs, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
4. hide.me – ติดต่อฝ่ายสนับสนุนเพื่อขอความช่วยเหลือผ่านแชทออนไลน์ 24 ชั่วโมง
ฟีเจอร์หลัก:
- สุ่มมอบหมายเซิร์ฟเวอร์ให้หลังจากข้อมูลการใช้งานรายเดือนเกิน 10GB
- ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ฟรีในแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร สเปน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันออกและสหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันตก
- การเข้ารหัสระดับทหาร การป้องกันการรั่วไหลและนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด
- อนุญาตให้เชื่อมต่อได้ 1 อุปกรณ์
- ทำงานได้บน Windows, Mac, Android, iOS, Linux, Amazon Fire TV, Blackberry, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าผ่านทางอีเมลเท่านั้น
แผนให้บริการฟรีของ hide.me มีข้อมูลไม่จำกัดและมอบสิทธิ์ในการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ใน 8 ประเทศ อย่างไรก็ตามหลังจากที่คุณใช้ข้อมูลไป 10GB แล้ว คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้เลือกการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ของคุณอีกต่อไป – คุณจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ฟรีแบบสุ่มโดยอัตโนมัติแทน
ตราบใดที่คุณไม่คิดมากเรื่องตำแหน่งที่คุณเชื่อมต่อ hide.me ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการท่องเว็บที่ปลอดภัย คุณจะได้รับการป้องกันด้วยนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว ดังนั้นประวัติการท่องเว็บและข้อมูลที่ระบุตัวตนได้ของคุณจะไม่มีวันถูกแบ่งปันหรือถูกติดตาม สำนักงานใหญ่ของบริษัทตั้งอยู่ในมาเลเซียซึ่งอยู่นอกเครือข่ายการแบ่งปันข่าวกรองระดับโลกใด ๆ
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันพรีเมียมอย่างการเชื่อมต่ออัตโนมัติ, Split Tunnelling และ Stealth Guard สำหรับเซิร์ฟเวอร์ Obfuscation ด้วย คุณสามารถเลือกโปรโตคอลได้ตั้งแต่ IKEv2, OpenVPN และ SoftEther (WireGuard พร้อมให้บริการเฉพาะสำหรับแผนให้บริการแบบชำระเงินเท่านั้น)
ฉันดำเนินการทดสอบความเร็วในเซิร์ฟเวอร์ฟรีของ hide.me และมันมีความเร็วในการดาวน์โหลดที่รวดเร็วพอ แต่ความเร็วในการอัปโหลดที่ช้า แม้ว่านี่จะเหมาะสำหรับการดาวน์โหลดและการท่องเว็บ แต่ฉันก็พบกับการสะดุดและกระตุกอยู่บ้างตอนอัปโหลดไฟล์และโทรผ่านวิดีโอ
คุณสามารถใช้บริการฟรีของ hide.me ได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนบัญชีหรือเพิ่มบัตรเครดิต เราแค่ดาวน์โหลดแอปฟรีจากเว็บไซต์และเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ คุณยังสามารถใช้บริการแผนสมาชิกระยะยาว (การสมัครสมาชิกแบบ 2 ปี + ฟรี 3 เดือน) ได้ในราคา $2.29 ต่อเดือนและรับการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
hide.me ทำงานได้บน: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, Chromebook, Chrome, Firefox, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Android TV, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
5. TunnelBear – เซิร์ฟเวอร์ฟรีใน 46 ประเทศและข้อมูลรายเดือนขนาด 2GB
ฟีเจอร์หลัก:
- ข้อมูลฟรี 2GB ต่อเดือน
- สิทธิ์ในการเข้าถึงเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกใน 46 ประเทศ
- มาตรฐานการเข้ารหัสขั้นสูง, การป้องกันการรั่วไหล, Kill Switch และนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน
- รองรับการเชื่อมต่อในเวลาเดียวกันได้ไม่จำกัด
- แอปที่เป็นมิตรกับผู้ใช้สำหรับ Windows, Mac, Android, iOS, Linux, เราเตอร์และอื่น ๆ
- ฝ่ายสนับสนุนผ่านทางอีเมลพร้อมให้บริการสำหรับแผนให้บริการฟรี
TunnelBear เป็นตัวเลือกฟรี 100% ที่ให้คุณใช้บริการทั้งเครือข่ายได้ ยกเว้นบางเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา แม้ว่า VPN จะล้มเหลวในการพยายามก่อนหน้านี้หลายครั้ง แต่เซิร์ฟเวอร์ในชิคาโก้ทำงานร่วมกันกับ Netflix ของสหรัฐอเมริกาและ Disney+ ได้อย่างน่าประหลาดใจตามรายงานจากเพื่อนร่วมงานของเราที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา แต่ถึงอย่างนั้นบริการนี้ก็ไม่สามารถเข้าถึง Hulu ได้
แผนสมาชิกฟรีจะป้องกันคุณด้วยฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยที่จำเป็นทั้งหมดและอื่น ๆ อย่าง:
- Kill Switch VigilantBear — ป้องกันข้อมูลจากการรั่วไหลในกรณีที่ VPN ถูกขัดจังหวะ
- เซิร์ฟเวอร์ Obfuscation GhostBear — ปิดบังเส้นทางการรับชม VPN ของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับพร็อกซี
เราพบว่า TunnelBear มีความเร็วที่รวดเร็วในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียง แต่ล่าช้าเมื่อเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลออกไป ความเร็วสำหรับเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่นของเราช้ากว่าความเร็วการเชื่อมต่อปกติของเราที่เพียง 10-12% เท่านั้น ดังนั้นเราจึงไม่สังเกตเห็นผลกระทบใด ๆ ในการท่องเว็บของเรา ตอนที่เราทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในออสเตรเลียที่อยู่ห่างออกไปเกือบ 10,000 ไมล์ ความเร็วของเราลดลงมาประมาณ 50% นี่ถือเป็นเรื่องที่คุณควรพิจารณาหากคุณต้องการการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลออกไป
สำหรับ VPN ที่ทำงานร่วมกันกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมากมายได้อย่าง TunnelBear ข้อมูลการใช้งานฟรี 2GB ต่อเดือนนั้นไม่พอ แต่คุณสามารถแลกรับข้อมูลเพิ่ม 1GB ได้โดยการส่งทวีตโฆษณา TunnelBear และคุณสามารถรับข้อมูลการใช้งานเพิ่มนี้ได้ทุกเดือนโดยการส่งทวีตอีกครั้ง
ใช้เวลาในการดาวน์โหลดแอปฟรีของ TunnelBear และก็สามารถเชื่อมต่อได้เลยภายในไม่กี่นาที คุณจะต้องลงทะเบียนบัญชีก่อนคุณถึงจะสามารถเชื่อมต่อได้ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณใช้ที่อยู่อีเมลปัจจุบันเพื่อที่คุณจะได้สามารถยืนยันบัญชีของคุณได้
TunnelBear ทำงานได้บน: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, Chromebook, Chrome, Firefox และอื่น ๆ อีกมากมาย
6. Windscribe — ทำงานร่วมกันกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหลัก ๆ ด้วยเซิร์ฟเวอร์ฟรีได้
ฟีเจอร์หลัก:
- ข้อมูลการใช้งานที่ 10GB ต่อเดือน
- เซิร์ฟเวอร์ฟรีในตำแหน่งต่าง ๆ มากกว่า 10 ตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา เยอรมนีและอื่น ๆ อีกมากมาย
- การเข้ารหัสระดับทหาร เซิร์ฟเวอร์ที่ไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน ตัวปิดกั้นการติดตามและส่วนขยายเบราว์เซอร์
- อนุญาตให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ในเวลาเดียวกันได้แบบไม่จำกัดจำนวน
- ฝ่ายสนับสนุนอีเมลและคู่มือออนไลน์
- มีสิทธิ์ในการขอเงินคืนภายใน 3 วันหากมีการใช้งานน้อยกว่า 10GB
Windscribe เป็น VPN ฟรีที่ไว้วางใจได้ที่ทำงานร่วมกันกับบริการสตรีมมิ่งส่วนใหญ่ เช่น Disney+, BBC iPlayer, Netflix ของสหราชอาณาจักรและอื่น ๆ อีกมากมายได้ในระหว่างการทดสอบของเรา บริการนี้อาจไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์แรกที่คุณลอง แต่ก็มีเซิร์ฟเวอร์ฟรีมากพอในตำแหน่งยอดนิยมต่าง ๆ อย่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเพื่อค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานได้
การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างออกไปใช้เวลานานกว่าเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้สองสามวินาทีและเราก็สังเกตเห็นถึงความล่าช้าในความเร็วการเชื่อมต่อด้วย แต่แม้ว่าเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลจะทำให้ความเร็วช้าว่า 38% โดยเฉลี่ย แต่เราก็ไม่สังเกตเห็นการกระตุกหรือสะดุดอะไรหลังจากที่โหลดวิดีโอบน YouTube แล้ว
สำหรับ VPN ฟรี Windscribe ถือว่ามีฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยมากมายที่เหนือกว่าการเข้ารหัส AES 256-บิต เซิร์ฟเวอร์ที่ไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานและ Kill Switch คุณยังสามารถใช้บริการพร็อกซี ฟีเจอร์ Split Tunneling และแม้กระทั่งการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ล่าสุดบนอุปกรณ์ที่ใช้งานโดยอัตโนมัติด้วย
เรื่องหนึ่งที่เราไม่ชอบคือ Windscribe อนุญาตให้ขอเงินคืนได้ภายใน 3 วันหลังสั่งซื้อ ระยะเวลานี้ไม่มากพอให้ทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมด แต่เนื่องจาก Windscribe มีแผนสมาชิกฟรีที่แข็งแกร่งที่มาพร้อมกับฟีเจอร์พรีเมียมส่วนใหญ่ เราจึงขอแนะนำให้ทดสอบฟีเจอร์เหล่านี้ด้วยตัวคุณเองก่อนที่จะสมัครสมาชิก
การใช้บริการแผนสมาชิกฟรีนั้นต้องใช้ที่อยู่อีเมลของคุณและคุณจะได้รับข้อมูลการใช้งาน 10GB ต่อเดือนทันที หากคุณแนะนำเพื่อนที่มาสร้างบัญชีฟรี Windscribe และยืนยันอีเมลของพวกเขา คุณจะได้รับเพิ่ม 1GB ต่อเดือน
Windscribe ทำงานได้บน: Windows, Mac, Linux, Android, iOS, Chrome, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
การเปรียบเทียบ VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024 แบบให้เห็นกันชัด ๆ
100% ฟรี | ปลดบล็อก Netflix | ข้อมูลรายเดือน | ประเทศของเซิร์ฟเวอร์ | การรองรับ Torrenting | จำนวนอุปกรณ์สูงสุด | |
ExpressVPN | ✘ | ✔ | ไม่จำกัด | 105 | ✔ | 8 |
Proton VPN | ✔ | ✔ | ไม่จำกัด | 3 | ✔ | 1 |
Hotspot Shield | ✔ | ✔ | ไม่จำกัด | 3 | ✔ | 1 |
hide.me | ✔ | ✘ | ไม่จำกัด | 8 | ✔ | 1 |
TunnelBear | ✔ | ✔ | 2GB | 46 | ✔ | ไม่จำกัด |
Windscribe | ✔ | ✔ | 10GB | 11 | ✔ | ไม่จำกัด |
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเราที่ WizCase ดังนั้นคุณควรรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มการเป็นเจ้าของเดียวกับ ExpressVPN อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเราเนื่องจากเรายึดมั่นในระเบียบวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
หลีกเลี่ยง VPN ฟรีที่เหมือนกับโรคระบาดเหล่านี้
ความจริงอันน่าเศร้าคือคุณไม่สามารถไว้ใจการให้คะแนนของ Google Play หรือ Apple App ได้เสมอ แม้ว่าคุณจะพบ VPN ที่มีการดาวน์โหลดและรีวิวจากผู้ใช้ในเชิงบวกมากมาย แต่มันก็ยังอาจเป็นมัลแวร์ได้ ในความเป็นจริงแล้ว การศึกษาค้นคว้าโดยบริษัทค้นคว้า CSIRO พบว่า 75% ของ VPN ฟรีมีคลังข้อมูลที่ติดตามอย่างน้อย 1 คลังข้อมูล – แม้จะอ้างว่าเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ก็ตาม
จากการค้นคว้าและการทดสอบของฉัน ฉันพบข้อเท็จจริงที่น่าตกใจเกี่ยวกับบริการ VPN มากมายที่ฉันจำเป็นต้องเตือนคุณให้ทราบ
- Cross VPN – แอนตี้ไวรัสพบว่า Cross VPN มีไวรัสโทรจันพร้อมการแจ้งเตือนจากบริการแอนตี้ไวรัสต่าง ๆ ถึง 11 บริการ
- Betternet VPN – โปรโมทตัวเองว่ามุ่งเน้นในเรื่องของความเป็นส่วนตัว แต่ถูกพบว่ามีคลังข้อมูลการติดตามอยู่มากมายในซอฟต์แวร์ เช่น การบันทึกข้อมูลอย่างตำแหน่งทั่วไป ข้อมูลอุปกรณ์และชื่อโดเมนที่คุณเยี่ยมชม
- SuperVPN – VPN ที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ Android และถูกรายงานว่ามีการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้นับล้านราย – รายละเอียดบัตรเครดิต ข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ ข้อมูลตำแหน่งและอื่น ๆ อีกมากมาย
- LinkVPN – เชื่อมโยงกับ SuperVPN โดยไม่มีความโปร่งใสและเชื่อมโยงไปยังประเทศจีนซึ่งแนะนำการบันทึกข้อมูลและความเป็นส่วนตัวที่จำกัดสำหรับผู้ใช้
- Fast Secure Payment – พบว่ามีมัลแวร์ฝังอยู่ในแอป
“ฟรีเมียม” vs VPN ฟรี: ค่าใช้จ่ายแอบแฝงที่คุณควรทราบ
VPN ฟรีเมียมเป็นตัวอย่างของ VPN พรีเมียม มันเป็นแผนให้บริการฟรีที่เปิดให้บริการโดยบริษัท VPN ที่น่าเชื่อถือที่ให้คุณทดลองใช้เวอร์ชันฟรีได้โดยมีข้อจำกัดบางอย่างเพื่อโปรโมทแผนให้บริการแบบชำระเงิน คุณสามารถไว้วางใจ VPN ฟรีเมียมในเรื่องที่พวกเขาจะไม่ขายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ – บริษัทจะไม่ยอมเอาชื่อเสียงของตัวเองมาเสี่ยงและทำลายความไว้วางใจของลูกค้าที่ชำระเงิน
อย่างไรก็ตามคุณจะพบกับค่าใช้จ่ายแอบแฝงในรูปแบบของข้อมูลที่จำกัด ความเร็วที่ล่าช้าและตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่จำกัด พวกเขาทำแบบนี้โดยหวังว่าคุณจะเกิดรำคาญใจและยอมอัปเกรดเป็น VPN พรีเมียม
แม้ว่า VPN จะไม่โปรโมทเวอร์ชันพรีเมียมหรือแสดงโฆษณา แต่ข้อมูลของคุณน่าจะถูกขายให้กับบุคคลที่สาม VPN ฟรีของคุณอาจประกอบไปด้วยมัลแวร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อขุดข้อมูลของคุณเพื่อทำกำไร ในความคิดเห็นส่วนตัวของฉัน นี่เป็นราคาที่สูงที่สุดที่คุณต้องจ่ายเพราะข้อมูลส่วนบุคคลและไฟล์ความลับอาจถูกอาชญากรทางไซเบอร์ขโมยไปได้
ราคาของการใช้ VPN ฟรีนั้นมีมูลค่ามากกว่าราคาของบริการพรีเมียมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อคุณสามารถลองใช้ VPN ชั้นนำอย่าง ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยงได้ คุณยังสามารถทดลองใช้ ExpressVPN เพื่อให้มั่นใจว่ามันเหมาะกับคุณด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันได้ หากคุณไม่พึงพอใจ คุณสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้ตราบใดที่คุณส่งคำขอดังกล่าวภายใน 30 วัน
ฉันทดสอบและจัดอันดับ VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024 อย่างไร
VPN ใด ๆ ก็สามารถได้รับการจัดอันดับใน App Store ได้ด้วยรีวิวเชิงบวก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่อันตราย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันจึงแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณพิจารณาประเด็นด้านล่างเมื่อประเมิน VPN ฟรี:
- รูปแบบของธุรกิจ – คุณไม่ต้องการให้ VPN ฟรีทำเงินจากค่าใช้จ่ายของคุณ VPN ที่คลุมเครือบางบริการมีแอปที่เต็มไปด้วยโฆษณา การติดตามหรือมัลแวร์ (บางครั้งก็มีครบทั้ง 3 อย่าง!) เพื่อแอบเก็บและขายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างเงียบ ๆ
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด – ไม่มี VPN ใดที่ควรปล่อยให้ความเป็นส่วนตัวของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง (หรือละเมิดจุดประสงค์ของการใช้ VPN) ดังนั้นฉันจึงตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของ VPN แต่ละรายการเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของคุณจะไม่มีวันถูกติดตาม บันทึก ขายหรือแบ่งปัน
- ข้อจำกัด – VPN ฟรีมักมาพร้อมกับข้อจำกัดเนื่องจากขาดแหล่งทรัพยากรและเงินทุน นี่อาจรวมถึงความเร็วที่ล่าช้า แบนด์วิดธ์ที่จำกัด เซิร์ฟเวอร์ที่หนาแน่น ไม่รองรับการ Torrenting
- ฟีเจอร์ความปลอดภัย – อย่างน้อยให้มองหาการเข้ารหัส AES-256 บิตและโปรโตคอลอุโมงค์อย่าง WireGuard, OpenVPN และ IKEv2 หลีกเลี่ยงโปรโตคอลอย่าง L2TP/IPSec และ PPTP ซึ่งล้าหลังและควรไม่มีใครใช้งานอีกต่อไป
- แอปที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ – สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการคือการต้องมานั่งเสียเวลาไปกับการตั้งค่าและการติดตั้ง VPN นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม VPN ทั้งหมดที่ฉันทดสอบจึงทำงานได้บน Windows, Mac, Android, iOS และอุปกรณ์ยอดนิยมอื่น ๆ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ VPN ฟรี
VPN ฟรีปลอดภัยจริงหรือเปล่า?
น่าเสียดายที่ VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นไม่ปลอดภัย ในกรณีที่ดีที่สุด ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกเก็บรวบรวมโดยตัวติดตามในขณะที่อุปกรณ์ของคุณถูกรุกรานโดยโฆษณาป๊อปอัพ ในกรณีที่เลวร้าย คุณอาจทำให้อุปกรณ์ของคุณติดมัลแวร์และเปิดเผยไฟล์ความลับกับแฮกเกอร์ ความจริงก็คือมี VPN ฟรีที่ไว้วางใจได้เพียงไม่กี่บริการเท่านั้น – และฉันทดสอบบริการเหล่านั้นทั้งหมดแล้ว
VPN ฟรีที่แนะนำทั้งหมดของฉันมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่แข็งแกร่งและจะไม่ขโมยหรือขายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อสร้างรายได้ ฉันเลือกเฉพาะผู้ให้บริการ VPN ที่มีชื่อเสียงเท่านั้นด้วยเช่นกันเนื่องจากบริษัทเรานี้จะอัปเดตเครือข่าย VPN ของตนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีข้อบกพร่องด้านความปลอดภัย VPN ทั้งหมดมาพร้อมกับการเข้ารหัสระดับทหาร, โปรโตคอลมากมาย, Kill Switch และการป้องกันการรั่วไหล คุณสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะปลอดภัยและกิจกรรมการท่องเว็บของคุณจะไม่ถูกเปิดเผยในทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อ
บริการ VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Netflix คือบริการใด?
แม้ว่า VPN พรีเมียมส่วนใหญ่ทำงานร่วมกันกับ Netflix ของสหรัฐอเมริกาได้ แต่มีเพียงแผนสมาชิกฟรีของ TunnelBear เท่านั้นที่อนุญาตให้สตรีมมิ่ง Netflix ในประเทศต่าง ๆ ได้เพราะบริการนี้มีเซิร์ฟเวอร์มากมายในประเทศต่าง ๆ กว่า 45 ประเทศ ทีมงานของเราในสหราชอาณาจักรรายงานว่าตัวเลือกฟรีอื่น ๆ อย่าง Windscribe และ Proton VPN ช่วยให้พวกเขาสตรีม Netflix ของสหราชอาณาจักรได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีขีดจำกัดข้อมูลการใช้งานสำหรับ VPN เหล่านี้ (ยกเว้น Proton VPN)
หากคุณต้องการ VPN ที่ไม่มีข้อจำกัด ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะมันทำงานร่วมกันกับคลังข้อมูล Netflix ทั่วโลกส่วนใหญ่ได้ ฉันชอบที่มันยังทำงานร่วมกันกับ Amazon Prime Video, Disney+, Hulu, Max, YouTube TV, BBC iPlayer, DAZN และอื่น ๆ ได้อีกด้วย ฉันจึงสามารถติดตามรายการโปรดของฉันได้ทั้งหมด
ฉันควรใช้ VPN ฟรีสำหรับการ Torrenting ไหม?
คุณสามารถใช้ VPN ฟรีสำหรับการ Torrenting ได้ แต่คุณจะต้องเสียสละความเร็วหรือข้อมูล ความเร็วที่ล่าช้าอาจส่งผลให้ต้องนั่งรอการดาวน์โหลดไฟล์เพียงไฟล์เดียวให้เสร็จเป็นเวลาหลายชั่วโมง ในขณะที่ขีดจำกัดข้อมูลต่ำจะจำกัดคุณจากการดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ VPN ฟรีมากมายมีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เพียงไม่กี่ตำแหน่งเท่านั้นซึ่งไม่เหมาะหากคุณต้องการเชื่อมต่อกับประเทศที่เฉพาะเจาะจง
หากคุณต้องการใช้ VPN ในระยะเวลาสั้น ๆ ฉันขอแนะนำให้ใช้ประโยชน์จากการรับประกันยินดีคืนเงินของ VPN พรีเมียม ตัวอย่างเช่น คุณสามารถ Torrent บนเครือข่ายที่ได้รับการปรับแต่งของ CyberGhost ได้เป็นระยะเวลา 45 วันฟรีและขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้เมื่อคุณใช้เสร็จแล้ว
VPN ฟรีทำงานในประเทศจีนได้ไหม?
น่าจะ Hotspot Shield และ hide.me คือ 2 ตัวเลือกที่คุณสามารถลองใช้ได้ ExpressVPN เป็น VPN เดียวที่ทำงานในประเทศจีนได้อย่างเสถียร เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดเป็นแบบ Obfuscated และจะปลอมแปลงข้อมูลของคุณเป็นเส้นทางการรับชมอินเทอร์เน็ตปกติเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบแพ็กเกตเชิงลึกและเครื่องมือระบุ VPN อื่น ๆ
แม้ว่าจะสามารถใช้ VPN ในท้องถิ่นของประเทศจีนได้ แต่ฉันก็ไม่แนะนำให้ใช้เป็นอย่างยิ่ง บ่อยครั้งที่ VPN ฟรีเหล่านี้แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับบุคคลที่สาม หากคุณขุดคุ้ยเบื้องหลังของ VPN ท้องถิ่นเหล่านี้ คุณจะพบข้อมูลประวัติเพียงเล็กน้อยหรือไม่พบเลยหรือไม่มีแม้แต่นโยบายความเป็นส่วนตัว
โปรดทราบว่ารัฐบาลไม่ได้เอาผิดกับการใช้งาน VPN ที่ไม่ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนที่เคยถูกลงโทษสำหรับการใช้งาน VPN ในขณะไปพักร้อน เดินทางไปทำธุรกิจหรือการเดินทางระยะสั้นจนถึงตอนนี้
VPN ฟรีสร้างรายได้ได้อย่างไร?
มีราคาแอบแฝงซึ่งอนุญาตให้ VPN ฟรีสร้างรายได้ได้อยู่เสมอ วิธีการที่พบบ่อยมากที่สุดคือการรุกรานอุปกรณ์ของคุณด้วยโฆษณาป๊อปอัพ แม้ว่ามันจะดูไม่เป็นอันตราย แต่แอดแวร์ทั้งหมดที่ถูกติดตั้งนั้นมาพร้อมกับตัวติดตาม ตัวติดตามจะเก็บแท็บกิจกรรมอินเทอร์เน็ตของคุณซึ่งหมายความว่าประวัติการท่องเว็บของคุณจะไม่ถูกเก็บไว้เป็นความลับหรือเป็นส่วนตัวอีกต่อไป
VPN ฟรีบางบริการยังขายข้อมูลของคุณให้กับนักโฆษณาด้วย พวกเขาติดตามเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชม หมายเลข IP ของคุณและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อของคุณ นี่ถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของคุณอย่างมากและอาจทำให้ความปลอดภัยของคุณตกอยู่ในความเสี่ยงโดยขึ้นอยู่กับข้อมูลใดที่ถูกติดตามและถูกขาย
นาน ๆ ครั้ง VPN ฟรีจะขายข้อมูลของคุณให้กับผู้ประมูลที่ให้ราคาสูงที่สุด – และนี่อาจหมายความว่าข้อมูลของคุณจะตกอยู่ในมือของเหล่าอาชญากรทางไซเบอร์ มันไม่ใช่เรื่องที่พบบ่อยทั่วไป แต่คุณควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมองหาบริการ VPN ฟรี
ฉันสามารถใช้ VPN ฟรีบนอุปกรณ์ใดก็ได้ใช่ไหม?
มันก็แล้วแต่ แต่ VPN ฟรีในรายการนี้มีแอปสำหรับ Windows, Android, Mac และ iOS อย่างไรก็ตามในกรณีส่วนใหญ่คุณจะสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้เพียง 1 อุปกรณ์ต่อครั้งเท่านั้น ดังนั้นหากคุณมีทั้งสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป คุณจะต้องลงชื่อออกจาก VPN บนอุปกรณ์หนึ่งก่อนจึงจะลงชื่อเข้าใช้อีกอุปกรณ์ได้
หากคุณต้องการใช้ VPN ในอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายในเวลาเดียวกัน ExpressVPN เสนอการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเวลาเดียวกันสูงสุดถึง 8 อุปกรณ์ คุณยังสามารถติดตั้งมันลงบนสมาร์ททีวีและเกมคอนโซลซึ่งโดยปกติแล้วไม่มีการรองรับ VPN ให้บริการได้อีกด้วย
หากคุณต้องการการเชื่อมต่อมากกว่า 8 อุปกรณ์ คุณก็สามารถติดตั้งแอปของ ExpressVPN บนเราเตอร์ได้ เมื่อคุณติดตั้ง VPN บนเราเตอร์ของคุณ คุณจะสามารถใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ WiFi ทั้งหมดในครัวเรือนผ่าน VPN ได้
บริการ VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมคือบริการใด? (PUBG, Minecraft, Roblox และอื่น ๆ อีกมากมาย)
น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถแนะนำ VPN ฟรีใด ๆ สำหรับการเล่นเกมออนไลน์ได้ แม้แต่ VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024 ก็ยังไม่สามารถรับประกันการเล่นเกมโดยไม่มีการกระตุกกับคุณได้
ปัญหาอยู่ที่ Ping (หรือเวลาแฝง) นี่คือระยะเวลาที่ข้อมูลไปถึงเซิร์ฟเวอร์และเวลาที่อุปกรณ์ของคุณตอบสนอง VPN ฟรีมี Ping สูง ดังนั้นมันจึงใช้เวลานานมากในการตอบสนองกับเซิร์ฟเวอร์ ในเกมที่เล่นอย่างรวดเร็ว คุณจะประสบกับการล่าช้าและอาจสูญเสียการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์เกมได้
อย่างไรก็ตาม VPN พรีเมียมสามารถลดเวลาแฝงในรูปแบบที่ VPN ฟรีเมียมไม่สามารถทำได้ (หรือไม่มีทรัพยากรมากพอที่จะทำได้) ExpressVPN มีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วและมี Ping ที่ต่ำ เช่นเดียวกันกับแอปที่เฉพาะเจาะจงสำหรับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ คุณจะสามารถติดตั้งมันลงบนคอนโซลสำหรับเล่นเกมอย่าง PlayStation และ Xbox ได้
VPN ฟรีถูกกฎหมายหรือเปล่า?
VPN นั้นถูกกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่ในโลกและการใช้ VPN เพื่อปิดบังหมายเลข IP ของคุณและการดูแลรักษาข้อมูลความลับของคุณให้ปลอดภัยนั้นเป็นเรื่องที่ได้รับการอนุญาตให้ทำได้ แต่ถึงอย่างนั้นการใช้การเชื่อมต่อ VPN เพื่อดำเนินการกิจกรรมทางออนไลน์ที่ผิดกฎหมายอย่างการแฮก การติดตามทางไซเบอร์หรือการแจกจ่ายเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่ถูกกฎหมาย
ทีมงานและฉันไม่ได้ทำพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายใด ๆ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ตระหนักถึงกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับ VPN ในท้องถิ่นของคุณก่อนเชื่อมต่อ คุณต้องดำเนินการตรวจสอบเป็นอย่างยิ่งในประเทศอย่างประเทศจีน เบลารุส รัสเซีย อิหร่านและเกาหลีเหนือที่การใช้ VPN ที่ไม่ได้รับอนุมัตินั้นเป็นเรื่องต้องห้าม
เลือก VPN ที่จะไม่รุกรานความปลอดภัยของคุณ
ตลาดนั้นเต็มไปด้วย VPN ฟรีมากมาย มีหลายบริการที่ทำให้ข้อมูลของคุณและตัวคุณตกอยู่ในความเสี่ยงที่ร้ายแรง ความเร็วที่ล่าช้า การจำกัดแบนด์วิดธ์และข้อจำกัดในการเชื่อมต่อเป็นเรื่องที่น่ารำคาญใจ – การถูกบันทึกและขายข้อมูลเพื่อสร้างรายได้เป็นการรุกรานความปลอดภัยข้อมูลของคุณ
เพื่อดูแลตัวคุณให้ปลอดภัยทางออนไลน์และเพลิดเพลินไปกับอินเทอร์เน็ตโดยไม่มีข้อจำกัด ฉันขอแนะนำให้คุณพิจารณาตัวเลือกคุณภาพยอดเยี่ยมอย่าง ExpressVPN ในระหว่างการทดสอบของฉัน ฉันประทับใจกับความเร็วที่รวดเร็วของ ExpressVPN, ความง่ายในการใช้งานและการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ที่เสถียรทั่วโลก ฉันยังชอบที่มันมีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถของเงินคืนได้เสมอหากคุณไม่พึงพอใจ
ฉันทดสอบการรับประกันยินดีคืนเงินด้วยตัวเองเพื่อให้มั่นใจว่ามันทำงานได้จริง ไม่มีใครกวนใจให้ฉันใช้งานต่อตอนที่ฉันขอเงินคืนผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงและที่ดีไปกว่านั้นคือฉันได้รับเงินคืนเข้าบัญชีของฉันภายใน 5 วัน
บทสรุป – VPN ที่ดีที่สุดในปี 2024 (พร้อมการรับประกันยินดีคืนเงิน)
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อ่าน และเรามุ่งมั่นที่จะได้รับความไว้วางใจจากคุณด้วยการทำงานด้วยความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมบางส่วนที่ได้รับการตรวจสอบบนเว็บไซต์นี้: Intego, Cyberghost, ExpressVPN และ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา เนื่องจากเราปฏิบัติตามวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
แสดงความคิดเห็น
ยกเลิก