5 แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows (ทดสอบแล้วในปี 2024)

เอนีมาลิ โอกวอลิ
อัพเดทครั้งล่าสุดโดย เอนีมาลิ โอกวอลิ ใน ตุลาคม 18, 2023

Microsoft Defender คือแอนตี้ไวรัสเริ่มต้นสำหรับ Windows แต่ด้วยการป้องกันที่จำกัด นั่นหมายความว่ามันไม่สามารถติดตามจำนวนการโจมตีทางไซเบอร์ตามเป้าหมายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องได้ทัน หากคุณกำลังมองหาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นแบบไม่ต้องเสียเงิน เรามีแอนตีไวรัสฟรี 100% ที่เสนอการป้องกันภัยคุกคามที่ดี แอนตี้ไวรัสเหล่านี้มีการป้องกันมัลแวร์ที่ทรงพลัง การสแกนระบบ เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพและอื่น ๆ อีกมากมาย

เพื่อประหยัดเวลาของคุณ เราได้ทดสอบและจัดอันดับโปรแกรมแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 11, 10, 8 และ 7 เอาไว้ให้แล้ว โดยรวมแล้ว Avira เป็นแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ด้วยการสแกนแบบเรียลไทม์ การป้องกันแรนซัมแวร์และฟีเจอร์ชั้นนำอื่น ๆ อีกมากมาย คุณสามารถลองใช้ Avira ได้ฟรีบน Windows — ใช้เวลาในการติดตั้งและป้องกันอุปกรณ์ของคุณได้ภายในเวลาสองสามนาที

ลองใช้ Avira ฟรีบน Windows!

คำแนะนำลัด: แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ในปี 2024

  1. Avira#1 โปรแกรมป้องกันไวรัส Windows ฟรี หรับการป้องกันมัลแวร์ขั้นสูงและยังมีเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC แถมมาให้เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
  2. Panda — แอนตี้ไวรัสฟรีที่มาพร้อมกับไฟร์วอลล์ที่ปรับแต่งได้และโหมดสำหรับเล่นเกม (Game Mode) แต่ไม่มีฟีเจอร์สำหรับการท่องเว็บที่ปลอดภัย
  3. TotalAV — กลไกแอนตี้ไวรัสที่ยอดเยี่ยม แต่ทำให้ PC มีช่องโหว่เนื่องจากไม่มีการป้องกันตามเวลาจริงหรือแรนซัมแวร์
อัปเดต 2024: Norton 360 ไม่มีเวอร์ชันฟรีให้ใช้บริการได้อีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows และคุณยังคงสามารถลองใช้ Norton 360 ฟรีเป็นเวลา 60 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน ในการทดสอบ ทีมงานและฉันพบว่า Norton ปิดกั้นภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พุ่งเป้ามาที่ Windows โดยเฉพาะได้

ลองใช้ Avira ฟรีบน Windows!

Microsoft Defender เป็นโปรแกรมที่ดี แต่ไม่มีการป้องกันที่เพียงพอสำหรับ Windows ในปี 2024

Microsoft Defender (ชื่อเดิมคือ “Windows Defender”) เป็นแอนตี้ไวรัสฟรีโดยค่าเริ่มต้นที่มาพร้อมกับ Windows PC ทุกเครื่อง หลังจากที่ดำเนินการทดสอบโดยละเอียดกับทีมงานของฉัน

บริการดังกล่าวมีการป้องกันมัลแวร์พื้นฐานและฟีเจอร์เพิ่มเติมสองสามฟีเจอร์:

  • ตัวเลือกในการตั้งเวลาการสแกน
  • โหมดสำหรับเล่นเกม
  • สแกนบนคลาวด์ที่ส่งผลกระทบต่ำ
  • การป้องกันการฟิชชิ่งสำหรับเบราว์เซอร์ Chrome และ Edge
  • เครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กที่จำกัด

ฉันผิดหวังที่ได้พบว่า Microsoft Defender ไม่สามารถเอาชนะในการแข่งขันได้ แม้ว่าแบรนด์แอนตี้ไวรัสฟรีมักจะมีฟีเจอร์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สำคัญอย่าง VPN, แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง, ผู้จัดการรหัสผ่านและเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC มาให้ — แต่ Microsoft Defender ไม่มีอะไรมาให้เลย

แม้ว่า Microsoft Defender สามารถทำหน้าที่ในฐานะไฟร์วอลล์พื้นฐานได้ แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะดูแลข้อมูลความลับบนอุปกรณ์ Windows ของคุณให้ปลอดภัยได้ ฉันขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณใช้ Microsoft Defender ร่วมกับแอนตี้ไวรัสฟรีอย่าง Avira นี่จะทำให้มั่นใจได้ว่าอย่างน้อยคุณก็ได้รับระดับการป้องกันต่ำสุด

ลองใช้ Avira ฟรีบน Windows!

3 แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 11, 10, 8 และ 7 (อัปเดตเมื่อ 2024)

1. Avira Free Security — แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ที่ดีที่คุณใช้งานได้ฟรี

ฟีเจอร์หลัก:

  • สแกนเนอร์ตามเวลาจริงตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์ล่าสุด
  • ฟีเจอร์โบนัสรวมผู้จัดการรหัสผ่าน เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC และเครื่องมือกำจัดไฟล์
  • รองรับ Windows ทุกเวอร์ชัน
  • มีบริการลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์และอีเมล
  • ใช้งานได้สูงสุด 5 อุปกรณ์

Avira เป็นแอนตี้ไวรัสฟรีที่ยอดเยี่ยมสำหรับอุปกรณ์ Windows ของคุณ ไม่เพียงแต่กลไกแอนตี้ไวรัสของ Avira จะมีอัตราการตรวจจับที่เกือบสมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่มันยังมีการป้องกันตามเวลาจริงและการป้องกันแรนซัมแวร์ (ซึ่งแบรนด์ส่วนใหญ่จะให้คุณจ่ายเงินซื้อ) มาให้ด้วย

เราประทับใจกับคะแนนอัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่สูงของ Avira ในระหว่างการทดสอบของเรา บริการดังกล่าวทำคะแนนได้เกือบจะสมบูรณ์แบบที่ 99.9% ซึ่งถือว่าสูงมากกว่าแอนตี้ไวรัสพรีเมียมมากมายที่มีให้บริการ มีประเภทการสแกนให้เลือก 2 ประเภทและนี่คือผลลัพธ์จากการทดสอบของเรา:

  • การสแกนอัจฉริยะ (Smart Scan) — ตรวจสอบรายการต่าง ๆ 58,000 รายการได้ในเวลาประมาณ 2 นาทีโดยมองหามัลแวร์และวิธีในการยกระดับประสิทธิภาพอุปกรณ์
  • การสแกนฉบับเต็ม (Full Scan) — สแกนรายการต่าง ๆ มากกว่า 850,000 รายการใน 1 ชั่วโมง 45 นาทีโดยตรวจสอบไฟล์และโฟลเดอร์ทั้งหมดบนอุปกรณ์ของเรา

ในระหว่างการทดสอบ Smart Scan ได้แนะนำให้เราลบไฟล์รีจิสทรีที่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้มีพื้นที่ว่างเพิ่มเติมบน PC ของเรา แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ไม่สามารถดำเนินการนี้ได้ ยกเว้นแต่เราจะอัปเกรดเป็นแผนสมาชิกแบบเสียเงิน ซึ่งถือว่าน่าผิดหวัง

ภาพหน้าจอของหน้าผลการสแกนอัจฉริยะของ Avira Antivirus
Smart Scan ของ Avira ตรวจพบมุลแวร์และปัญหาการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ
ผลการตรวจจับมัลแวร์ที่น่าประทับใจของ Avira นั้นเป็นเพราะเทคโนโลยีผสานรวมบนคลาวด์ ซึ่งจะช่วยอัปเดตการป้องกันแบบเรียลไทม์ นี่หมายความว่าคุณจะต้องออนไลน์เพื่อให้ได้รับระดับการป้องกันที่ดีที่สุด แถมเทคโนโลยีบนคลาวด์ยังช่วยทำให้ผลกระทบต่อระบบต่ำด้วย — เราไม่สังเกตเห็นความแตกต่างในประสิทธิภาพของ PC ของเราแม้ในระหว่างที่สแกนระบบอย่างเต็มรูปแบบ
ภาพหน้าผลการสแกนอัจฉริยะของแอนติไวรัส Avira
Avira ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์โดยไม่มีโฆษณามากมายมาบดบังเป็นเรื่องง่าย

ข้อจำกัดเป็นอย่างมากเพียงอย่างเดียวคือแผนสมาชิกฟรีนั้นจะไม่ให้สิทธิ์ในการเข้าถึงฝ่ายสนับสนุนลูกค้าอย่างเต็มที่ — คุณสามารถใช้ได้เพียงแค่เว็บไซต์เท่านั้น ตามที่กล่าวไปข้างต้น ฝ่ายสนับสนุนพรีเมียมของ Avira ไม่มีแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงและระยะเวลาการตอบกลับอีเมลและโทรศัพท์นั้นก็แย่มาก

แผนสมาชิกฟรีของ Avira ทำงานได้ดี แต่ไม่มีฟีเจอร์สองสามฟีเจอร์ที่คุณสามารถรับได้จากแผนสมาชิกรีเมียมเท่านั้น คุณสามารถดู Avira Free เทียบกับ Avira Prime ซึ่งมีฟีเจอร์ทั้งหมดได้ดังนี้:

Avira Free Avira Prime
อุปกรณ์ 5 5
การสแกนมัลแวร์
การป้องกันแบบเรียลไทม์
การป้องกันแรนซัมแวร์
การป้องกันฟิชชิ่ง
VPN 500MB/เดือน ไม่จำกัด
เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ
เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน
ฝ่ายบริการลูกค้า เว็บไซต์เท่านั้น เว็บไซต์ อีเมลและโทรศัพท์

คุณสามารถลองใช้แผนสมาชิกพรีเมียมของ Avira ได้โดยไม่มีความเสี่ยงเพราะมีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน แผนสมาชิกต่าง ๆ คุ้มค่ากับเงินที่ต้องชำระในปีแรก แต่ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในการต่ออายุ — และ Avira มีราคาแถงกว่าตัวเลือกพรีเมียมอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม หากคุณเกิดเปลี่ยนใจ การขอเงินคืนนั้นง่ายมาก เราทดสอบกระบวนการนี้ด้วยตัวเองและประทับใจกับความเร็วในการได้รับเงินคืน

ลองใช้ Avira ฟรีบน Windows!

2. Panda Free Antivirus — การป้องกันที่ดีสำหรับ Windows ที่มาพร้อมกับไฟล์วอลล์และโหมดสำหรับเล่นเกม (Game Mode)

ฟีเจอร์หลัก:

  • แอนตี้ไวรัสที่แข็งแกร่งที่จะตรวจจับแอดแวร์ สปายแวร์และแรนซัมแวร์
  • ฟีเจอร์รวมไฟร์วอลล์ โหมดสำหรับเล่นเกม (Game Mode) และ VPN (เวอร์ชันจำกัด)
  • เข้ากันได้กับ Windows 7, 8, 10 และ 11
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง อีเมลและโทรศัพท์
  • ป้องกันได้ 1 อุปกรณ์

แผนสมาชิกแอนตี้ไวรัสฟรีของ Panda มีฟีเจอร์ขั้นสูงมากมาย ซึ่งรวมถึงการป้องกันแบบเรียลไทม์, ไฟร์วอลล์, โหมดสำหรับเล่นเกม (Game Mode) และ USB Rescue Kit เราประหลาดใจที่ได้เห็นว่ามีฟีเจอร์เหล่านี้ให้บริการในแผนสมาชิกฟรีเพราะคู่แข่งมากมายมักจะจำกัดฟีเจอร์เหล่านี้เอาไว้สำหรับแผนสมาชิกพรีเมียม การป้องกันแบบเรียลไทม์ของ Panda ทำคะแนนได้ดีกมาก ๆ ในการทดสอบเมื่อไม่นานมานี้ โดยปิดกั้นภัยคุกคามซีโร่เดย์ได้ถึง 99.4% คะแนนนี้เป็นรองเพียงบริการพรีเมียมอย่าง Norton เท่านั้น

โหมดสำหรับเล่นเกม (Game Mode) จะป้องกันการแจ้งเตือนไม่ให้ปรากฏขึ้นตอนที่คุณเปิดใช้งานแอปเต็มจอ ฉันพบว่าไฟล์วอลล์เองก็ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ — คุณสามารถตั้งค่ามันด้วยตัวกรองตามตำแหน่งได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตั้งค่าไฟล์วอลล์เฉพาะสำหรับเครือข่าย WiFi สาธารณะและเครือข่ายที่บ้านได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถดาวน์โหลดแอปในภาษาไทยได้อีกด้วย

แอนตี้ไวรัสฟรีของ Panda มอบสิทธิ์ในการเข้าถึงการสแกนอุปกรณ์ทั้ง 3 ตัวเลือกแก่คุณ — Full, Critical และ Custom ในระหว่างการทดสอบของเรา เราได้รับผลลัพธ์ดังต่อไปนี้:

  • การสแกนแบบ Full — ตรวจสอบรายการต่าง ๆ กว่า 850,000 รายการในเวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง โดยตรวจสอบไฟล์และโฟลเดอร์ทั้งหมดในอุปกรณ์ของเรา
  • การสแกนแบบ Critical — ตรวจสอบรายการ 95,000 ไฟล์ใน 7 นาทีในพื้นที่ที่มีแนวโน้มว่าจะถูกมัลแวร์โจมตีมากที่สุด (เมมโมรี่ กระบวนการที่ทำงานอยู่ คุกกี้และอื่น ๆ อีกมากมาย)
ภาพหน้าแอนติไวรัสฟรีของ Panda บนอุปกรณ์ Windows แสดงว่าการสแกนทั้ง 3 รูปแบบสามารถใช้งานได้
ไคุณสามารถเลือกการสแกนใด ๆ ของ Panda ด้วยแอนตี้ไวรัสฟรีได้

เรายังประทับใจกับฟีเจอร์ Rescue Kit ของ Panda ด้วย — คุณสามารถใช้มันเพื่อสร้าง USB กู้ภัยสำหรับอุปกรณ์ที่มัลแวร์ที่ไม่สามารถดาวน์โหลดกย ารป้องกันแอนตี้ไวรัสได้ ใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีในการสร้าง USB ด้วยคำแนะนำที่ปฏิบัติตามได้ง่าๆ ของ Panda และ USB ดังกล่าวก็ช่วยซ่อมแซม Windows PC ของเราภายในเวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น

ข้อเสียคือ Panda ไม่มีการป้องกันแรนซัมแวร์ (ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับแอนตี้ไวรัสฟรี) และมี VPN ที่จำกัด — มีข้อมูลฟรีให้ใช้งานได้เพียง 150MB ต่อวันเท่านั้น ซึ่งนั่นเพียงพอสำหรับการท่องเว็บตามปกติเท่านั้น Panda ยังไม่มีฟีเจอร์ Safe Browsing ในเวอร์ชันฟรีด้วย ดังนั้นคุณจึงจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับการโจมตีฟิชชิ่งจนกระทั่งคุณดาวน์โหลดไฟล์มาแล้ว

หากคุณต้องการ VPN แบบไม่จำกัด การป้องกันแรนซัมแวร์และฟีเจอร์ชั้นนำอย่างเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ เครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กและไฟร์วอลล์ที่ปรับแต่งได้ เราขอแนะนำให้คุณลองใช้แพ็กเกจ Panda Dome Complete โดยไม่มีความเสี่ยง นี่คือการเปรียบเทียบฉบับย่อระหว่างแผนสมาชิกฟรีและแผนสมาชิก Complete:

Panda Dome Free Panda Dome Complete
อุปกรณ์ ไม่จำกัด 1 (โดยมีตัวเลือกในการอัปเกรดแบบที่ต้องชำระเงินเพิ่ม)
การสแกนมัลแวร์
การป้องกันแบบเรียลไทม์
การป้องกันแรนซัมแวร์
VPN 150MB/วัน ไม่จำกัด
เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ
ไฟร์วอลล์
เครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก

ราคาแผนสมาชิกปีแรกของ Panda Dome Complete มีราคาย่อมเยามากและมีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันเผื่อคุณเกิดเปลี่ยนใจ

ลองใช้ Panda ฟรีบน Windows!

3. TotalAV Free Antivirus — Smart Scan ที่ได้รับการปรับแต่งจะช่วยป้องกัน Windows จากมัลแวร์ที่มีอยู่

ฟีเจอร์หลัก:

  • สแกนเนอร์ขั้นสูงที่จะตรวจจับและกักกันมัลแวร์
  • มาพร้อมกับเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ PC
  • ทำงานบน Windows ได้ทุกเวอร์ชัน
  • มีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าพร้อมให้บริการผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง อีเมลและโทรศัพท์
  • ใบรับรองสำหรับ 1 อุปกรณ์เท่านั้น

TotalAV มีแผนสมาชิกฟรีที่มาพร้อมอัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าจะไม่มีการป้องกันแบบเรียลไทม์และการป้องกันแรนซัมแวร์ก็ตาม เมื่อไม่มีฟีเจอร์เหล่านี้ แอนตี้ไวรัสฟรีของ TotalAV จึงไม่สามารถป้องกันคุณจากภัยคุกคามล่าสุดได้และจะทำให้อุปกรณ์ Windows ของคุณมีช่องโหว่สำหรับการโจมตีซีโร่เดย์ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการตรวจจับมัลแวร์ที่มีอยู่ที่แอบซ่อนอยู่ในไฟล์และโฟลเดอร์ของคุณ

ในการทดสอบ TotalAV ตรวจจับมัลแวร์ได้ถึง 100% ในระหว่างการสแกน Smart Scan ตรวจสอบไฟล์มากกว่า 55,000 ไฟล์โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที เราประทับใจกับข้อเท็จจริงที่ว่า TotalAV สามารถตรวจจับคุกกี้ติดตาม ประวัติการค้นหา ไฟล์ซ้ำและโปรแกรมที่ทำงานโดยอัตโนมัติที่ทำให้คอมพิวเตอร์ของเราทำงานช้าลงในตอนเปิดเครื่อง ที่ดีไปกว่านั้นคือเราไม่สังเกตเห็นความล่าช้าใด ๆ ใน Windows PC ที่ใช้ทดสอบในระหว่างการสแกน

ภาพหน้าจอของผลลัพธ์ Smart Scan
Smart Scan ของ TotalAV แสดงไฟล์ซ้ำ ไฟล์ขยะและคุกกี้ติดตาม

Full Scan ตรวจสอบไฟล์มากกว่า 940,000 ไฟล์ภายในเวลาประมาณ 22 นาที นั่นเป็นความเร็วที่ค่อนข้างน่าประทับใจเนื่องจากมันรวดเร็วพอ ๆ กับแอนตี้ไวรัสพรีเมียมอย่าง Norton นอกจากนี้คุณยังสามารถดาวน์โหลดแอปเฉพาะของ TotalAV ในภาษาไทยได้อีกด้วย

น่าเสียดายที่ TotalAV ไม่ได้มาพร้อมกับฟีเจอร์เสริมใด ๆ ในแผนให้บริการฟรี (เช่น VPN, ผู้จัดการรหัสผ่านหรือแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง) ฉันพบว่าการดูว่าฟีเจอร์ใดฟรีหรือไม่ฟรีในแอปนั้นเป็นเรื่องยาก ในแดชบอร์ดของ TotalAV ไม่มีป้ายกำกับที่บ่งบอกว่านี่เป็นฟีเจอร์ฟรีเลย ฉันต้องเข้าดูแต่ละฟีเจอร์ — จึงได้เห็นว่ามีฟีเจอร์บางอย่างไม่เปิดให้บริการฟรี TotalAV แจ้งเตือนฉันหลังจากที่ฉันคลิกเข้าไปและแสดงข้อความอัปเกรดเพื่อขอให้ฉันซื้อเวอร์ชันพรีเมียม

หากคุณต้องการทดสอบฟีเจอร์พรีเมียมของ TotalAV บางส่วน คุณควรลงทะเบียนใช้งานหนึ่งในแผนสมาชิกที่มีให้บริการ แผนสมชิก Internet Security ของ TotalAV มีการป้องกันแบบเรียลไทม์และป้องกันได้สูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ แถมยังมีฟีเจอร์ VPN แบบไม่จำกัดอีกด้วย นี่คือความแตกต่างระหว่างแผนสมาชิกฟรีและแผนสมาชิก Internet Security ของ TotalAV:

TotalAV Free TotalAV Internet Security
อุปกรณ์ 1 5
การสแกนมัลแวร์
การป้องกันฟิชชิ่ง
การป้องกันแบบเรียลไทม์
การป้องกันแรนซัมแวร์
VPN ไม่จำกัด
เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ
WebShield
การตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูล

ทุกแผนสมาชิกมีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถลองใช้งาน TotalAV ได้โดยไม่มีความเสี่ยงเพื่อดูให้มั่นใจว่ามันเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณ เราลงทะเบียนแผนสมาชิกพรีเมียมเพื่อทดสอบฟีเจอร์ต่าง ๆ และประทับใจกับประสิทธิภาพที่ได้

ลองใช้ TotalAV ฟรีบนWindows!

โบนัส: Norton — แอนตี้ไวรัสราคาถูกที่ดีที่สุดสำหรับ Windows และใช้งานได้ฟรี 60 วัน

ฟีเจอร์หลัก:

  • กลไกแอนตี้ไวรัสที่ยอดเยี่ยมจะป้องกันคุณจากมัลแวร์ ฟิชชิ่ง แรนซัมแวร์และอื่น ๆ
  • ฟีเจอร์รวมการป้องกันเว็บแคม, VPN, ผู้จัดการรหัสผ่านและไฟร์วอลล์
  • เข้ากันได้กับ Windows 7, 8, 10 และ 11
  • มีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าให้บริการผ่านอีเมล แชทออนไลน์และโทรศัพท์ตลอด 24 ชั่วโมง
  • รองรับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 อุปกรณ์

แม้ว่ามันจะไม่ใช่ตัวเลือกฟรี แต่ Norton 360 ก็สมควรได้รับการกล่าวถึงเนื่องจากมันเป็นแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ในปี 2024 ในการทดสอบ Norton มีอัตราการตรวจจับมัลแวร์ 100% ในการสแกน แม้จะมีราคาที่น่าคบหา แต่ Norton ก็มีฟีเจอร์พรีเมียมต่าง ๆ มากมาย นี่รวมถึง VPN, การป้องกันเว็บแคม, ไฟร์วอลล์อัจฉริยะ, ผู้จัดการรหัสผ่าน, แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองและการสำรองข้อมูลบนคลาวด์เข้ารหัส มันมอบความคุ้มค่าให้กับเงินได้อย่างยอดเยี่ยมหากคุณมองหาการป้องกันสูงสุดสำหรับอุปกรณ์ Windows ของคุณ

อย่าเพิ่งเชื่อคำพูดของฉัน — คุณสามารถลองใช้ Norton โดยไม่มีความเสี่ยงได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน ฉันทดสอบสิ่งนี้ด้วยตัวเองโดยการลงทะเบียนใช้งาน Norton, ทดลองใช้งานมันเป็นระยะเวลาสองสามสัปดาห์และร้องขอเงินคืนผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง คำขอคืนเงินของฉันได้รับการอนุมัติภายใน 5 นาทีและฉันได้รับเงินคืนเข้าบัญชีใน 5 วันต่อมา

ลองใช้ Norton 360 โดยไม่มีความเสี่ยง

ตารางเปรียบเทียบ: แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows (ทุกเวอร์ชัน) ในปี 2024

สแกนเนอร์ไวรัส การป้องกันแบบเรียลไทม์ การป้องกันแรนซัมแวร์ ไฟร์วอลล์ เครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ
1. Avira
2. Panda
3. TotalAV
Bonus: Norton

คำเตือน! แอนตี้ไวรัสฟรีเหล่านี้ไม่เพียงพอสำหรับความปลอดภัย Windows อย่างเต็มรูปแบบ

1. Avast และ AVG

Avast และบริษัทย่อย AVG เคยเป็นแอนตี้ไวรัสที่เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับ Windows น่าเสียดายที่มีการค้นพบว่า Avast เก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้อย่างลับ ๆ และขายมันให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ผ่านบริษัทย่อย Jumpshot นี่รวมถึงข้อมูลการท่องเว็บและแม้กระทั่งการเยี่ยมชมเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่ แม้ว่า Avast จะอ้างว่าข้อมูลทั้งหมดถูกขายโดยไม่ระบุตัวตน แต่มันก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าข้อมูลนี้สามารถเชื่อมโยงกลับมายังผู้ใช้ที่เฉพาะเจาะจงได้ เนื่องจากการละเมิดด้านความไว้วางใจนี้ ฉันจึงไม่สามารถจัดอันดับให้ทั้ง Avast (หรือบริษัทย่อย AVG) อยู่ในรายการได้แม้ว่าทั้งสองโปรแกรมจะเปิดให้บริการฟรีก็ตาม

2. Microsoft Defender

แม้ว่า Microsoft Defender นั้นจะดีกว่าการไม่มีแอนตี้ไวรัสไว้ใช้งานเลย แต่มันไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะพึ่งพาเป็นโปรแกรมเพียงโปรแกรมเดียวได้ แม้ว่ามันจะทำการสแกนและทำเครื่องหมายมัลแวร์ที่มีอยู่ในการทดสอบได้ แต่ Microsoft Defender ล้มเหลวในการทดสอบ PC ในเวลาจริงหรือในการโจมตีแรนซัมแวร์ที่ซับซ้อน คุณควรใช้แอนตี้ไวรัสฟรีจาก Avira, หรือแบรนด์อื่น ๆ ในรายการนี้จะดีกว่า — คุณยังจะได้รับฟีเจอร์อย่าง VPN, แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองและเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ฟีเจอร์ทั้งหมดเหล่านี้เป็นฟีเจอร์ที่ Microsoft Defender ล้มเหลวในการให้บริการ

วิธีใช้แอนตี้ไวรัสฟรีบน Windows ในปี 2024

  1. ดาวน์โหลดแอนตี้ไวรัสฟรีสำหรับอุปกรณ์ Windows ของคุณ ฉันขอแนะนำ Avira Free Security เนื่องจากมันเป็นแอนตี้ไวรัส Windows ฟรีที่ยอดเยี่ยม
  2. เปิดใช้งานซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสของคุณ คุณจะไม่ต้องตั้งค่าบัญชีหรือแจ้งข้อมูลบัตรเครดิตใด ๆ
  3. เปิดใช้งานการสแกนเพื่อตรวจจับมัลแวร์ใด ๆ บน PC ของคุณ ฉันขอแนะนำให้เปิดการใช้งานการสแกนแบบเต็มเพื่อตรวจจับภัยคุกคามที่มีอยู่ใด ๆ
  4. แก้ไขปัญหาต่าง ๆ แอนตี้ไวรัสจะแนะนำคุณผ่านขั้นตอนต่าง ๆ คุณสามารถตั้งค่าฟีเจอร์อย่างผู้จัดการรหัสผ่านหรือส่วนขยายเบราว์เซอร์ได้

ลองใช้ Avira ฟรีบน Windows!

ฉันให้คะแนนโปรแกรมแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows อย่างไร

ฉันตรวจสอบผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ฟรีมากมายเพื่อเลือก 6 ตัวเลือกที่ดีที่สุด ฉันใช้คอมพิวเตอร์ Windows 10 64-บิตเพื่อทดสอบแอนตี้ไวรัสแต่ละโปรแกรมตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้:

  • 100% ฟรี — แอนตี้ไวรัสมากมายกล่าวอ้างว่าเป็นให้บริการฟรี แต่จริง ๆ แล้วเป็นช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรีที่จำกัด (หรือแย่กว่าโดยการร้องขอข้อมูลบัตรเครดิตของคุณ) โดยส่วนตัวฉันได้ดาวน์โหลดแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows แต่ละโปรแกรมเพื่อให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงใด ๆ
  • สแกนเนอร์ไวรัสที่แข็งแกร่ง — ฉันตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอนตี้ไวรัสฟรีแต่ละโปรแกรมมีความสามารถในการตรวจจับและปิดกั้นไวรัส โทรจัน วอร์มและมัลแวร์อื่น ๆ ตัวเลือกที่ดีที่สุดจะมีแม้กระทั่งการป้องกันภัยคุกคามที่ซับซ้อนตามเวลาจริง เช่น แรนซัมแวร์
  • ความเร็วในการสแกนที่รวดเร็ว — แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดใช้การสแกนบนคลาสด์เพื่อยกระดับความเร็วในการสแกน ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่ามีการตรวจพบและกำจัดมัลแวร์ทั้งหมดอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบต่อ Windows PC ของคุณน้อยที่สุด
  • ฟีเจอร์เสริม — แอนตี้ไวรัสฟรีมากมายมีฟีเจอร์โบนัส เช่น VPN, แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองและผู้จัดการรหัสผ่าน อย่างไรก็ตามบางฟีเจอร์นั้นมักมีข้อจำกัด (ตัวอย่างเช่น VPN อาจมีข้อมูลที่ใช้งานได้จำกัด)
  • แอปสำหรับ Windows ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ — แม้ว่ามันจะเปิดให้บริการฟรี แต่แอนตี้ไวรัสเองก็ต้องทำงานบน Windows 11, 10, 8 และ 7 ได้ดีโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบ
  • ราคาอัปเกรดที่ดี —เราค้นคว้าเกี่ยวกับตัวเลือกราคาสำหรับแอนตี้ไวรัสทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับความคุ้มค่ามากที่สุดหากคุณตัดสินใจที่จะอัปเกรดเป็นตัวเลือกพรีเมียม แถมบริการที่แนะนำทั้งหมดนี้ยังมีการรับประกันยินดีคืนเงินด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถทดสอบซอฟต์แวร์ได้โดยไม่มีความเสี่ยง

คำถามที่พบบ่อย: การใช้แอนตี้ไวรัสฟรีบน Windows PC, แล็ปท็อปและแท็บเล็ต

Windows จำเป็นต้องมีแอนตี้ไวรัสหรือไม่?

จำเป็น คุณจะต้องดาวน์โหลดแอนตี้ไวรัสบน Windows Windows เป็นระบบปฏิบัติการยอดนิยมที่สุดในโลกและมันเป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีมัลแวร์มากมาย แม้ว่า Windows จะมาพร้อมกับ Microsoft Defender ที่ติดตั้งมาล่วงหน้าก่อนล้ว แต่มันเป็นเพียงชั้นการป้องกันพื้นฐานและจะไม่ป้องกันคุณได้ดีเหมือนกับบริษัทแอนตี้ไวรัสโดยเฉพาะ แม้แต่แบรนด์แอนตี้ไวรัสฟรีมากมายยังทำงานได้ดีกว่า Microsoft Defender ซะอีก

Microsoft Defender ดีพอสำหรับ Windows ไหม?

แม้มันจะมีการป้องกันที่ดี แต่ Microsoft ไม่แข็งแกร่งพอที่จะป้องกันอุปกรณ์ Windows ของคุณจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ใหม่ ๆ จริง ๆ ฉันขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ Microsoft Defender เป็นแอนตี้ไวรัสหลักของคุณเนื่องจากมันไม่มีฟีเจอร์มากมายที่คุณสามารถรับได้จากโปรแกรมฟรีอื่น ๆ คุณสามารถลองใช้ Avira ฟรีบน Windows และรับฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมายและอัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่สูงกว่า Microsoft Defender ได้ แม้ว่ามันจะขาดฟีเจอร์ไปมากมาย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ใช้อะไรเลย (หรือแค่ใช้ Microsoft Defender เพียงโปรแกรมเดียว)

แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows คือโปรแกรมใด?

อ้างอิงตามการทดสอบ แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows คือ Norton 360 Norton 360 มีการป้องกันที่แข็งแกร่งสำหรับ Windows 11, 10, 8 และ 7 มันยังมาพร้อมกับฟีเจอร์เสริมอย่าง VPN ที่ไม่จำกัดข้อมูล แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง ผู้จัดการรหัสผ่าน ไฟร์วอลล์และอื่น ๆ อีกมากมาย Norton 360 มีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วันซึ่งช่วยให้คุณได้ทดสอบซอฟต์แวร์โดยไม่มีความเสี่ยงและรับเงินคืนได้หากคุณไม่พึงพอใจ

แอนตี้ไวรัสฟรีปลอดภัยสำหรับ Windows ไหม?

มันก็แล้วแต่ คุณไม่ควรดาวน์โหลดแอนตี้ไวรัสฟรีใด ๆ ก็ได้บนอุปกรณ์ Windows ของคุณ — น่าเสียดายที่โปรแกรมส่วนใหญ่ที่มีให้บริการบนอินเทอร์เน็ตนั้นจริง ๆ แล้วมีมัลแวร์ซ่อน

อยู่ อย่างไรก็ตามฉันได้ดำเนินการตรวจสอบแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ในปี 2024 เป็นการส่วนตัวแล้ว แอนตี้ไวรัสแต่ละโปรแกรมเป็นโปรแกรมที่ได้รับการยอมรับซึ่งเปิดให้บริการโดยบริษัทที่มีชื่อเสียง — บางโปรแกรมยังมาพร้อมกับ VPN, ผู้จัดการรหัสผ่านและเครื่องมืออื่น ๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย โปรแกรมฟรีได้รับการสนับสนุนโดยลูกค้าที่จ่ายเงินของแต่ละบริษัท ดังนั้นคุณจึงจะได้พบกับข้อจำกัดบางอย่างหรือการแจ้งเตือนขอให้คุณอัปเกรด (แม้ว่าฉันจะคิดว่ามันคุ้มค่ากับการได้ใช้แอนตี้ไวรัสฟรีที่น่าเชื่อถือก็ตาม!)

หากคุณไม่ต้องการรับมือกับข้อจำกัดหรือโฆษณา คุณสามารถพิจารณาการใช้แอนตี้ไวรัสพรีเมียมสำหรับ Windows แทนได้เสมอ ตัวอย่างเช่น ฉันเปิดใช้งาน Norton 360 ในการทดสอบมากมายและพบว่ามันมีอัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่สมบูรณ์แบบและมีฟีเจอร์มากมาย เช่น แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง, VPN, ไฟร์วอลล์, ผู้จัดการรหัสผ่านและอื่น ๆ อีกมากมาย

ป้องกัน Windows PC ของคุณด้วยแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุด

การป้องกัน Windows PC ของคุณจากไวรัส แรนซัมแวร์และมัลแวร์อื่น ๆ ถือเป็นเรื่องที่จำเป็น — และไม่จำเป็นต้องเสียเงินสักบาท คุณสามารถใช้แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดในปี 2023 ควบคู่กับ Microsoft Defender เพื่อระดับการป้องกันที่ดีได้ ในฐานะบริการยอดเยี่ยม Avira Free Security ยังมีแม้กระทั่งการป้องกันแบบเรียลไทม์และการป้องกันแรนซัมแวร์ด้วย 

ท้ายที่สุดแล้ว วิธีเดียวีท่คุณจะได้รับการป้องกันอย่างเต็มรูปแบบคือการสมัครสมาชิกแอนตี้ไวรัสพรีเมียม มิเช่นนั้น PC ของคุณจะยังคงมีช่องโหว่ในการโจมตีจากภัยคุกคามล่าสุด เราขอแนะนำให้คุณลองใช้แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดในตลาด Norton — คุณสามารถทดสอบ Norton โดยไม่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 60 วันได้เพราะบริการดังกล่าวมีการรับประกันยินดีคืนเงินหากคุณเปลี่ยนใจ


สรุป – แอนติไวรัส Windows ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024 (มีการรับประกันคืนเงิน)

อันดับสูงสุด ตัวเลือกยอดนิยม
Avira
$ 26.99 / year ประหยัด  43%
Panda
$ 23.99 / year ประหยัด  50%
TotalAV
$ 19.00 / year ประหยัด  84%

พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและข้อตกลงเชิงพาณิชย์ของเรากับผู้ให้บริการด้วย หน้านี้มีลิงก์ affiliate

พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา

Wizcase ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2018 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost, Intego และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน Wizcase นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

คุณชอบบทความนี้ไหม?
โหวตให้คะแนนเลยสิ!
ฉันเกลียดมัน ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ พอใช้ได้ ค่อนข้างดี รักเลย!
3.87 ได้รับการโหวตให้คะแนนโดย 3 ผู้ใช้
ชื่อเรื่อง
ความคิดเห็น
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณ