7 แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 & 11 – ป้องกัน PC 2023
มีแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสนับร้อยแพ็กเกจที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อ Windows ในตลาดซึ่งทำให้การเลือกแพ็กเกจที่ใช่กลายเป็นเรื่องยาก ฉันพบแอนตี้ไวรัสมากมายอ้างตนว่าเป็นแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุด แต่หลังจากที่ทดสอบแอนตี้ไวรัสต่าง ๆ มากมาย ฉันก็พบ 7 แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุด
โชคร้ายที่คุณไม่สามารถพึงพาแค่เฉพาะแอนตี้ไวรัสภายในตัว Window 10/11 เพียงอย่างเดียวได้ แม้ว่ามันจะมีการป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ดี แต่มันก็ไม่แข็งแกร่งเท่ากับตัวเลือกแอนตี้ไวรัสพรีเมียม การพึ่งพาแค่ Microsoft Defender เพียงอย่างเดียวจะทำให้คุณเสี่ยงกับการโจมตีมัลแวร์ขั้นสูง – มัลแวร์เกือบทั้งหมดต่างพุ่งเป้าโดยตรงไปที่จุดอ่อนที่มีอยู่แล้วในระบบปฏิบัติการ Windows
หลังจากการทดสอบโดยละเอียด ฉันพบแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูง 7 แผนให้บริการที่มอบการป้องกันมัลแวร์ที่จำเป็นสำหรับ Windows PC ของคุณ 5 บริการแรกฉันพบว่ามันช่วยดูแลให้ Windows PC ของฉันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยทำคะแนนการทดสอบด้านการตรวจจับได้ดีกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมและมีราคาน่าคบหา Norton คว้าอันดับ 1 สำหรับการป้องกันมัลแวร์อันแข็งแกร่ง ผลกระทบต่อระบบที่น้อยและฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากมาย ที่ดีกว่านั้นคือคุณสามารถลองใช้ Norton ด้วยตัวเอง 60 วันโดยไม่มีความเสี่ยงได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน
คำแนะนำลัด: แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows Security ในปี 2023
- Norton – แอนตี้ไวรัสที่ดีสำหรับ for Windows 11, 10 และ 7 ที่มีการตรวจจับมัลแวร์ตามเวลาจริง ฟีเจอร์คุณภาพสูงและการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน
- McAfee – การตรวจจับมัลแวร์อันแข็งแกร่งจะป้องกัน Windows PC ของคุณ แต่ไม่มีฟีเจอร์มากเท่ากับแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ
- TotalAV – เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC ที่ดีและการป้องกันมัลแวร์ที่แข็งแกร่ง แต่ฝ่ายบริการลูกค้าตอบกลับคำถามช้า
- iolo — การเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ชั้นนำสำหรับ Windows และความปลอดภัยอันแข็งแกร่ง แต่มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทำให้ PC ทำงานช้าลงในขณะดำเนินการสแกน
- Bitdefender – ฟีเจอร์มากมายและส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของ Windows PC ต่ำ แต่เป็นตัวเลือกที่มีราคาแพง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากปีแรก)
- Panda — ฟีเจอร์อันโดดเด่นจะช่วยกำจัดแม้กระทั่ง PC ที่ติดมัลแวร์ส่วนใหญ่ แต่ฟีเจอร์เสริมทำงานได้ไม่ดีนัก
- Avira — แอนตี้ไวรัสที่ไม่หนักเครื่องและส่งผลกระทบน้อยที่สุดสำหรับ Windows แต่ไม่ครอบคลุมเหมือนตัวเลือกอื่น ๆ
ฉันจำเป็นต้องมีแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ไหม?
ใช่ คุณต้องมีแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูงสำหรับอุปกรณ์ Windows ของคุณ Microsoft Defender — ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสโดยค่าเริ่มต้นของ Windows (ที่รู้จักกันในชื่อ Windows Defender) — ไม่เพียงพอสำหรับการป้องกัน PC ของคุณจากมัลแวร์ขั้นสูง
คอมพิวเตอร์ Windows เป็นเป้าหมายยอดนิยมมากที่สุดสำหรับมัลแวร์โดยมีมาตรการความปลอดภัยเฉพาะเพียงเล็กน้อยซึ่งทำให้คอมพิวเตอร์มีช่องโหว่มากมายสำหรับการโจมตี Windows ยังเป็นระบบปฏิบัติการยอดนิยมที่สุดในโลกและไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคระดับสูงเพื่อใช้งาน นี่ทำให้ผู้ใช้ Windows มีความเสี่ยงที่จะได้พบกับการสแกมฟิชชิ่ง การดาวน์โหลดที่หลอกลวงและการโจมตีแบบพุ่งเป้าอื่น ๆ
ในขณะที่ Microsoft Defender เสนอการป้องกันโทรจัน ไวรัส แรนซัมแวร์และอื่น ๆ อีกมากมายที่น่าพึงพอใจ แต่มันก็อาจทำให้คุณเสี่ยงที่จะพบกับมัลแวร์ที่มีขนาดเล้กกว่าและเป็นอันตรายน้อยกว่า Microsoft Defender มักพลาดแอดแวร์ “ความเสี่ยงต่ำ” และมัลแวร์อื่น ๆ ที่สร้างความรำคาญ แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายได้ มัลแวร์เหล่านี้ไม่สามารถรุกล้ำ PC หรือขโมยข้อมูลของคุณได้ แต่มันสร้างความรำคาญให้ได้อย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อบริการอย่าง Norton สามารถปิดกั้นมัลแวร์ได้ทุกรูปแบบ — แม้แต่รายการที่มีความเสี่ยงต่ำ
Microsoft Defender ยังไม่มีการอัปเดตที่บ่อยมากพอซึ่งทำให้ PC ของคุณตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับภัยคุกคามใหม่ล่าสุดและแฮกเกอร์ที่ค้นหาช่องโหว่ในการป้องกันของ Windows นี่ถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นไรหากคุณไม่มีข้อมูลความลับหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ บน PC ที่คุณไม่อยากสูญเสีย แต่หากคุณจัดเก็บข้อมูลสำคัญเอาไว้ เช่น ข้อมูลทางการเงิน รหัสผ่านหรือข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ การรับประกันความปลอดภัยของคุณด้วยแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูงนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
พูดง่าย ๆ ก็คือการเสี่ยงเอาข้อมูลหรืออุปกรณ์ของคุณไปพึ่งพาเพียง Microsoft Defender ในฐานะการป้องกันนั้นไม่คุ้มค่า โดยการใช้ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสชั้นนำ คุณจะสามารถรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ, PC ของคุณและเครือข่ายในบ้านของคุณ
7 แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 11, 10 และ 7 (ทดสอบแล้วเมื่อ มีนาคม 2023)
1. Norton – แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ที่มาพร้อมกับอัตราการตรวจจับที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ
ฟีเจอร์หลัก:
- สแกนเนอร์มัลแวร์อันแข็งแกร่งจะไม่ทำให้ PC ของคุณช้าลง
- ฟีเจอร์ที่มีมาให้รวมไฟร์วอลล์ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองและอื่น ๆ อีกมากมาย
- รองรับ Windows 11, 10 และ 7 (SP1)
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน
หลังจากการทดสอบโดยละเอียด Norton เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับ Windows 10/11 เพราะฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมในราคาที่น่าคบหามาก ๆ การป้องกันแบบหลายชั้นจะช่วยป้องกันมัลแวร์ใหม่ ๆ และมัลแวร์ที่รู้จักตามเวลาจริงและไฟร์วอลล์ขั้นสูงจะปิดกั้นการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ไม่พึงประสงค์ ฉันมีความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นว่ากลไกแอนตี้ไวรัสของ Norton ทำคะแนนได้สมบูรณ์แบบในระหว่างการทดสอบการตรวจจัยและมันปิดกั้นภัยคุกคามตามเวลาจริงได้ถึง 100% นี่หมายความว่ามันไม่ปล่อยให้มัลแวร์แม้แต่ละรายการเดียวบน Windows PC ที่ใช้ทดสอบเล็ดรอดมาได้เลย

เช่นเดียวกันกับการป้องกัน PC จากมัลแวร์ Norton มีฟีเจอร์คุณภาพสูงมากมายที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความปลอดภัยโดยรวม การสแกนที่ส่งผลกระทบต่ำจะไม่ดึงพลังงานจาก CPU ของฉันโดยไม่จำเป็น ดังนั้นฉันจึงสามารถเล่นวิดีโอเกม รับชมภาพยนตร์และทำงานบน PC ของฉันได้โดยไม่ต้องพบกับการกระตุกหรือการรบกวนที่น่ารำคาญ
ฉันชอบที่ Norton มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ฟรีมาให้โดยมันมอบพื้นที่สำหรับไฟล์และข้อมูลสำคัญ ๆ สูงสุดถึง 75GB และยังช่วยป้องกันข้อมูลความลับของฉันจากการโจมตีแรนซัมแวร์ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย ไฟร์วอลล์ภายในตัวจะป้องกัน PC ของฉันในระดับเครือข่ายโดยจะปิดกั้นผู้ใช้และแอปที่ไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้มันยังมีแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองและ VPN ที่ปลอดภัยที่สามารถดาวน์โหลดในรูปแบบแอปเพิ่มเติมซึ่งจะช่วยป้องกันอุปกรณ์ของลูกฉันและปิดบังกิจกรรมออนไลน์ของฉันได้โดยไม่จำกัดข้อมูลและยังมีเซิร์ฟเวอร์ให้บริการมากมาย ฟีเจอร์เสริมจะทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกันที่ไม่เพียงแต่ป้องกันมัลแวร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพยายามเข้าถึง PC ของฉันหรืออุปกรณ์ของลูก ๆ หรือดูว่าฉันกำลังทำอะไรทางออนไลน์ด้วย Norton มอบการป้องกันที่ครอบคลุมสำหรับ Windows PC ของฉันซึ่งมากกว่าแค่การป้องกันมัลแวร์
แม้ว่า Norton จะได้รับการกำหนดค่าให้มอบการป้องกันที่ยอดเยี่ยมโดยอัตโนมัติ แต่การเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก ฟีเจอร์ทั้งหมดได้รับการติดป้ายกำกับมากอย่างชัดเจน ดังนั้นคุณจึงค้นหาสิ่งที่คุณต้องการได้อย่างรวดเร็ว

Norton มีแผนให้บริการมากมายพร้อมให้บริการในทุกงบประมาณและทุกความต้องการที่เฉพาะเจาะจง แผนให้บริการ Deluxe เป็นแผนให้บริการที่คุ้มค่ามากที่สุด มันครอบคลุม 5 อุปกรณ์, มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 50GB, ไฟร์วอลล์, ผู้จัดการรหัสผ่าน, VPN, PC SafeCam และแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง หากคุณต้องการการป้องกันอุปกรณ์ที่มากขึ้น คุณก็สามารถอัปเกรดเป็น Premium Package ซึ่งรวมใบรับรองสำหรับ 10 อุปกรณ์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 75GB ได้ ที่ราคา $29.99 แพ็กเกจมาตรฐาน Standard คือแผนให้บริการที่ถูกที่สุดของ Norton และเป็นแผนให้บริการที่ยอดเยี่ยมสำหรับบุคคลที่ต้องการป้องกันอุปกรณ์เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้นและไม่ต้องการฟีเจอร์แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง
Norton เป็นตัวเลือกแอนตี้ไวรัสอันดับหนึ่งสำหรับ Windows 11 (และ 10 และ 7!) อย่างไม่ต้องสงสัย แต่คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อคำพูดของฉัน ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ Norton ด้วยตัวคุณเองและใช้ประโยชน์จากการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน เพื่อนร่วมงานของฉันได้ทดสอบการรับประกันยินดีคืนเงินของ Norton และประหลาดใจกับความง่ายในการขอเงินคืนเต็มจำนวนอย่างมาก – แค่ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านแชทออนไลน์ ร้องขอเงินของคุณคืนและมันจะได้รับการดำเนินการภายใน 5-7 วันทำการ แถมคุณยังสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าในภาษาไทยได้อีกด้วย
2. McAfee – แอนตี้ไวรัสที่แข็งแกร่งสำหรับ Windows ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยโบนัส
ฟีเจอร์หลัก:
- กลไกแอนตี้ไวรัสจะป้องกันมัลแวร์ทุกรูปแบบ
- เครื่องมือพิเศษมากมายที่จะช่วยยกระดับความปลอดภัยของอุปกรณ์โดยรวม
- พร้อมให้บริการบน Windows 11, 10 และ 7
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน
McAfee เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ Windows PC เพราะฟีเจอร์ความปลอดภัยที่น่าประทับใจและการป้องกันมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยม ในระหว่างการทดสอบ ฉันพบว่า McAfee ตรวจจับและปิดกั้นภัยคุกคามล่าสุดและมัลแวร์ที่ถูกค้นพบก่อนหน้านี้ได้ถึง 100% นี่ถือเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมและทำให้ McAfee เป็นบริการชั้นนำเหมือนกับ Norton ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งอย่างการป้องกันเว็บไซต์ (Web Protection) และ VPN เข้ามา McAfee จึงสามารถใช้วิธีการอันแข็งแกร่งในการป้องกันด้วยฟีเจอร์เสริมทั้งหมดที่มี ฟีเจอร์ดังกล่าวบางส่วนรวมถึง:
- เครื่องมือป้องกันเว็บไซต์ (Web protection tools): McAfee มีไฟร์วอลล์พรีเมียม การป้องกันฟิชชิ่งและแอดแวร์และการสแกน WiFi เพื่อป้องกันคุณเมื่อคุณออนไลน์
- สแกนเนอร์ช่องโหว่ (Vulnerability scanner): สแกน Windows OS และแอปที่ติดตั้งของคุณเพื่อตรวจสอบการอัปเดตที่สำคัญและรักษาความปลอดภัย
- เครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวรและการเข้ารหัส (File shredder and encryption): ลบไฟล์โดยถาวรหรือเข้ารหัสอย่างปลอดภัยเพื่อป้องกันการโจรกรรมอุปกรณ์
- VPN ที่ปลอดภัย (Secure VPN): เข้ารหัสกิจกรรมออนไลน์ของคุณเพื่อที่จะได้ไม่มีใครมองเห็นสิ่งที่คุณกำลังทำหรือมองเห็นว่าคุณอยู่ที่ไหน – ใช้งานได้ไม่จำกัดข้อมูล
- การป้องกันโจรขโมยตัวตน (เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) (Identity Theft Protection (US only): ตรวจสอบเว็บมืดและรายงานเครดิตของคุณและจะแจ้งเตือนคุณถึงข้อมูลที่ถูกโจรกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ
เครื่องมือเหล่านี้ช่วยยกระดับความปลอดภัยของ Windows PC ของฉันได้อย่างมากและหากคุณพำนักอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา มันจะช่วยยกระดับความปลอดภัยส่วนบุคคลของคุณด้วยการป้องกันโจรขโมยตัวตน (ID Theft Protection) ที่ดียิ่งกว่านั้นคือฟีเจอร์บางส่วนเหล่านี้เป็นฟีเจอร์พิเศษสำหรับ Windows ดังนั้นคุณจึงสามารถเข้าถึงส่วนเสริมทั้งหมดของ McAfee ได้
แผนให้บริการของ McAfee จัดโครงสร้างตามจำนวนอุปกรณ์ที่คุณต้องการป้องกัน แผนให้บริการ Single Device, Multi-Device และ Family มาพร้อมการป้องกันตามเวลาจริง เครือข่ายรักษาความปลอดภัยที่บ้านเพื่อป้องกันไฟร์วอลล์ของคุณและปิดกั้นแฮกเกอร์ การป้องกันฟิชชิ่งและการป้องกันการฉ้อโกงและผู้จัดการรหัสผ่าน หากคุณเลือกต่ออายุอัตโนมัติเมื่อลงทะเบียน McAfee จะมอบ VPN และเครื่องมือ Identity Theft (สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) กับคุณ ฉันขอแนะนำให้ทำสิ่งนี้เนื่องจากการขอยกเลิกในภายหลังนั้นง่ายมาก
แม้ว่าฉันจะอยากให้ McAfee ขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ แต่มันก็ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในบริการที่ปลอดภัยที่สุดที่มีให้บริการสำหรับ Windows 10/11 หากคุณต้องการลองใช้งานมันบน Windows PC ของคุณ คุณสามารถใช้การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วันของ McAfee เพื่อทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมดได้ โปรดระวังหากคุณไม่ได้สมัครแผนให้บริการแบบต่ออายุโดยอัตโนมัติ คุณจะมีเวลาในการร้องขอเงินคืนเพียง 30 วันเท่านั้น
หลังจากร้องขอเงินคืนพร้อมข้อมูลติดต่อของฉัน ตัวแทนฝ่ายสนับสนุนลูกค้าก็ติดต่อกลับฉันภายในเวลาน้อยกว่า 10 นาทีผ่านทางโทรศัพท์เพื่อแจ้งให้ฉันทราบว่าการขอเงินคืนของฉันได้รับอนุมัติแล้ว หลังจากนั้นเพียง 7 วันฉันก็ได้รับเงินคืนเข้าบัญชี
ลองใช้ McAfee โดยไม่มีความเสี่ยงวันนี้!
3. TotalAV – เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพช่วยยกระดับประสิทธิภาพของ PC และป้องกันมัลแวร์
ฟีเจอร์หลัก:
- การป้องกันมัลแวร์อันแข็งแกร่งจะป้องกัน PC ของคุณจากซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย
- ฟีเจอร์เสริมรวมเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพของคุณ
- พร้อมให้บริการบน Windows 11, 10, 7, Vista และ XP
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
แผนให้บริการแอนตี้ไวรัสของ TotalAV มอบการป้องกันมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยมโดยมันทำคะแนนได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมในการทดสอบการตรวจจับเมื่อไม่นานมานี้ สิ่งที่ทำให้ TotalAV โดดเด่นสำหรับ Windows PC ของคุ๕อเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพมากมายที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อชยกระดับประสิทธิภาพโดยรวมของคอมพิวเตอร์ของคุณ สิ่งนี้ช่วยมอบการป้องกันระดับพรีเมียมกับคุณและช่วยยกระดับประสิทธิภาพในบริการเดียวซึ่งช่วยให้คุณประหยัดเงินได้ ฟีเจอร์เหล่านี้ ได้แก่:
- เครื่องมือทำความสะอาดไฟล์ (File cleaner): สแกนคอมพิวเตอร์ของคุณและลบไฟล์ที่ไม่ได้ใช้และไฟล์ซ้ำ
- เครื่องมือกำจัดแอป (App remover): ยกเลิกการติดตั้งแอปที่แทบไม่ได้ใช้งานที่กินพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย
- ผู้จัดการโปรแกรมเริ่มต้น (Startup program manager): ยกระดับเวลาเปิดเครื่อง PC โดยการจัดการว่าจะมีโปรแกรมใดบ้างที่จะเริ่มทำงานเมื่อ PC ของคุณทำงาน
- เครื่องมือจำกัดไฟล์ขยะ (Junk file remover): ตรวจสอบเว็บเบราว์เซอร์ของคุณและล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็น
ฉันพบว่าการมีสิทธิ์ในการเข้าถึงตัวเลือกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเหล่านี้โดยทันทีเป็นวิธีที่ดีในการทำให้ PC ของฉันทำงานได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องย้ายแอปไปย้ายมา

ฉันประทับใจกับการทำงานของฟีเจอร์เหล่านี้ในระหว่างการทดสอบของฉันและความรวดเร็วของ Windows PC ของฉันหลังจากที่ใช้งานมัน ไม่เพียงแต่ TotalAV จะล้างพื้นที่เกือบ 3GB ที่เกิดจากไฟล์ซ้ำและรายการขยะเท่านั้น แต่มันยังลบคุกกี้จากเบราว์เซอร์ทั้งหมดของฉันด้วย ฉันสามารถกำหนดค่าแอปซึ่งเริ่มทำงานตอนที่ฉันเปิด PC และลดระยะเวลาเปิดเครื่องลงได้มากกว่า 50% จาก 3 นาทีกลายเป็นน้อยกว่า 90 วินาที
โชคร้ายที่ฉันประทับใจกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ TotalAV ไม่มากนัก สิทธิ์ในการเข้าถึงความช่วยเหลือในเวลาที่คุณต้องการถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ฉันพบว่าทั้งแชทออนไลน์และบริการทางอีเมลต่างก็ใช้งานยากและตอบกลับช้า นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากปัญหาเร่งด่วนอาจต้องใช้เวลาในการแก้ไขนานซึ่งเป็นอะไรที่คุณไม่ต้องการเจอหากมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของคุณ
แพ็กเกจที่คุ้มค่ามากที่สุดของ TotalAV คือแผนให้บริการ Internet Security มันรวมใบรับรองสำหรับ 6 อุปกรณ์, เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพระบบ, เครื่องมือทำความสะอาดเบราว์เซอร์, การสแกนบนคลาวด์และ VPN หากคุณไม่ต้องการ VPN คุณสามารถเลือกแพ็กเกจที่มีราคาถูกที่สุดของ TotalAV ได้ ในราคาที่ $29.00 ต่อเดือน แผนให้บริการ Antivirus Pro รวมฟีเจอร์ทั้งหมดที่มีให้บริการในแพ็กเกจ Internet Security ยกเว้น VPN นอกจากนี้คุณยังสามารถจ่ายเงินเพิ่มเล็กน้อยสำหรับแผนให้บริการ Total Security ได้ด้วย มันครอบคลุม 7 อุปกรณ์และยังมีแม้กระทั่งตัวปิดกั้นโฆษณาและตู้นิรภัยรหัสผ่าน
คุณสามารถลองใช้ try TotalAV โดยไม่มีความเสี่ยงฟรีเป็นระยะเวลา 30 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน คุณสามารถโทรหา TotalAV หรือส่งอีเมลขอเงินคืนได้ — ฉันได้รับการยืนัยนทันทีและได้รับเงินคืนกลับมาภายใน 2 วันหลังจากนั้น
ดาวน์โหลด TotalAV สำหรับ Windows!
4. iolo — เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่ช่วยกระตุ้น Windows และความปลอดภัยได้เป็นอย่างมาก
ฟีเจอร์หลัก:
- การป้องกันมัลแวร์ภัยคุกคามใหม่และภัยคุกคามที่รู้จักอันแข็งแกร่ง
- เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่น่าประทับใจช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพของ Windows
- พร้อมให้บริการบน Windows 11, 10, 8, 7
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
System Mechanic ของ iolo มีฟีเจอร์ที่น่าประทับใจมากมายที่จะช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพของ Windows PC ของคุณ ส่วนเสริมของความปลอดภัยแอนตี้ไวรัสทำให้มันเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งสำหรับการดูแลให้ PC ของคุณทำงานอย่างราบรื่นและปราศจากมัลแวร์
ฟีเจอร์ยอดเยี่ยมของ iolo บางส่วน ได้แก่:
- PC Cleanup — ลบไฟล์ขยะ ยกเลิกการติดตั้งแอปโดยสมบูรณ์และสร้างพื้นที่ฟรีให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- Startup Optimizer — วิเคราะห์โปรแกรมที่เริ่มทำงานเมื่อ PC ของคุณบูตขึ้นเพื่อที่คุณจะได้สามารถหยุดโปรแกรมที่ไม่จำเป็นซึ่งช่วยยกระดับเวลาในการเปิดเครื่องได้
- Speed Up — ยกระดับประสิทธิภาพของ CPU, ความเร็วและความเสถียรของ RAM และโอนพลังงานไปสู่ซอฟต์แวร์ที่ส่งผลกระทบมากที่สุดและซอฟต์แวร์ที่มีการใช้งานมากที่สุด
- Drive Scrubber — ทำความสะอาดไดร์ฟอย่างหมดจด — เช่นเดียวกันกับ USB หรือฮาร์ดไดร์ฟนอก — เพื่อลบไฟล์และโฟลเดอร์ทั้งหมด
- Search and Recover — กู้คืนไฟล์ที่ลบซึ่งอาจถูกลบไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
- ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัว — ปิดการใช้งานการจัดเก็บข้อมูลของ Microsoft, หยุดเว็บไซต์ไม่ให้สร้างโปรไฟล์การท่องเว็บของคุณและปิดกั้นการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเบราว์เซอร์โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ
- เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน — จัดเก็บข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณอย่างปลอดภัย ไม่จำกัดจำนวนรหัสผ่านและมีการยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอนพร้อมให้บริการ
- และอื่น ๆ อีกมากมาย — ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iolo ในรีวิวเชิงลึกนี้
ในระหว่างการทดสอบ เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพของ iolo ทำงานได้อย่างไร้ที่ติ — ฉันล้าง RAM ได้มากกว่า 1.5GB ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการบูตของ PC ได้ครึ่งหนึ่งและช่วยยกระดับประสิทธิภาในขณะที่เล่นเกมและสตรีมมิ่งด้วย
สิ่งที่ทำให้ iolo ทำงานได้รวดเร็วมาก ๆ ก็คือแอปเฉพาะสำหรับ Windows ในขณะที่ฉันหงุดหงิดการเรื่องที่ไม่มีปุ่ม “ย้อนกลับ” ในเมนู ฉันก็พบว่าการค้นหาและเปิดใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องง่าย การเลื่อนเมาส์ไปชี้ที่ไอคอนจะบอกชื่อของแต่ละฟีเจอร์กกับคุณซึ่งทำให้คุณค้นหาสิ่งที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย

น่าเสียดายที่ iolo ไม่ได้รับการทดสอบอิสระอย่างเข้มงวดเหมือนกับแอนตี้ไวรัสชั้นนำอื่น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นในการทดสอบของฉัน iolo ก็ทำงานได้ดี — มันตรวจจับและกักกันไฟล์มัลแวร์ทดสอบทั้งหมดที่ฉันซ่อนไว้ใน PC ของฉันและปิดกั้นเว็บไซต์มัลแวร์ทดสอบได้ ฉันมั่นใจกับผลลัพธ์ที่ได้และมั่นใจว่า iolo สามารถป้องกัน PC ของฉันจากภัยคุกคามล่าสุดได้
ปัญหาหลักเกี่ยวกับ iolo คือการสแกนที่ส่งกระทบอย่างมากซึ่งทำให้คอมพิวเตอร์ของฉันทำงานช้าลงมาก CPU ของฉันพุ่งจาก 15% เป็น 40% และมันทำให้มองเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน — ฉันไม่สามารถใช้ PC ของฉันโดยไม่มีการกระตุกและการรบกวนได้ Deep Scan ของ iolo ใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงในการทำงานจนเสร็จ ดังนั้นฉันจึงแนะนำให้เปิดใช้งานการสแกนเอาไว้เมื่อคุณไม่ได้ใช PC มากนัก
ฉันขอแนะนำแผนให้บริการ System Mechanic Ultimate Defense ของ iolo เนื่องจากมันมอบชุดฟีเจอร์อย่างเต็มรูปแบบให้กับคุณ iolo มีราคาแพงกว่าเล็กน้อย แต่มันก็มอบการติดตั้งสำหรับ Windows PC ในเครือข่ายเดียวกันกับคุณแบบไม่จำกัด คุณสามารถลองใช้ iolo โดยปราศจากความเสี่ยงได้เป็นระยะเวลา 30 วันเพื่อดูให้แน่ใจว่ามันเป็นทางเลือกที่ใช่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจสมัครสมาชิก
บทสรุปของฉัน
iolo เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการการปรับแต่ง PC และการป้องกันมัลแวร์อย่างเต็มรูปแบบ มันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ Windows PC ของคุณอย่างเต็มรูปแบบและดูแลให้มันทำงานอย่างราบรื่นโดยไม่มีการแทรกแซงแบบแมนนวลมากนัก ทั้งหมดนี้ในขณะเดียวกันก็ปกป้องคุณจากภัยคุกคามมัลแวร์ใหม่และที่รู้จัก
5. Bitdefender Total Security – ฟีเจอร์ความปลอดภัยมากมายที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ Windows PC
ฟีเจอร์หลัก:
- สแกนเนอร์ไวรัสที่ยอดเยี่ยมจะป้องกันมัลแวร์ทุกรูปแบบ
- มาพร้อมกับแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง, VPN, ผู้จัดการรหัสผ่านและอื่น ๆ อีกมากมาย
- ทำงานได้บน Windows 11, 10 และ 7
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
Bitdefender ตามหลัง Norton มาติด ๆ เมื่อพูดถึงการป้องกันมัลแวร์เนื่องจากมีอัตราการตรวจจับถึง 100% ในการทดสอบล่าสุด ระดับที่สูงนี้เทียบเท่ากับ Norton และ Bitdefender ก็เป็นที่สองในรายการนี้เพียงเพราะราคาที่สูงกว่าหลังจากการสมัครสมาชิกปีแรก
Bitdefender ยังมีฟีเจอร์ขั้นสูงที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับประสิทธิภาพและการป้องกัน Windows 10/11 ด้วย ในระหว่างการทดสอบของฉัน ทุกฟีเจอร์ทำได้ดีกว่าที่ฉันคาดหวังเอาไว้ ฉันประทับใจเป็นอย่างยิ่งกับเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพของ Bitdefender สำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ ตัวกรองเว็บไซต์เพื่อปิดกั้นเว็บไซต์และลิงก์ที่เป็นอันตราย, VPN, เว็บแคมและการป้องกันไมโครโฟน, แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง, ผู้จัดการรหัสผ่านและเครื่องมือกำจัดไฟล์ คุณสามารถใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมดนี้ได้จากแอปเดสก์ท็อปสำหรับ Windows ที่มีข้อมูลโดยละเอียดและเป็นมิตรกับผู้ใช้ นอกจากนี้คุณยังสามารถดาวน์โหลดแอปในเวอร์ชันภาษาไทยได้อีกด้วย

Bitdefender ยังมอบตัวเลือกในการจัดเรียงแดชบอร์ดกับคุณด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถจัดให้ฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อยที่สุดอยู่ในที่ที่คุณเข้าถึงง่ายได้ ระดับการปรับแต่งนี้ถือเป็นเรื่องที่โดดเด่นสำหรับ Bitdefender และทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมหากคุณต้องการการควบคุมรูปลักษณ์และการทำงานของแอนตี้ไวรัสของคุณ
Bitdefender มีแผนให้บริการพิเศษมากมายสำหรับ Windows PC แผนให้บริการพื้นฐานที่สุดสำหรับ Windows มีราคาอยู่ที่ $29.99 และรวมการป้องกันตามเวลาจริง การป้องกันฟิชชิ่งและการป้องกันการฉ้อโกง, VPN, การป้องกันการติดตาม, เบราว์เซอร์ SafePay, ผู้จัดการรหัสผ่านและเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร อย่างไรก็ตามฉันขอแนะนำให้จ่ายเงินเพิ่มเล้กน้อยเป็นแผนให้บริการ Internet Security เพราะมันรวมไฟร์วอลล์, การป้องกันไมโครโฟนและเว็บแคมและแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองมาให้ด้วย คุณสามารถเลือกป้องกันระหว่าง 2, 3, 5 หรือ 10 อุปกรณ์ได้ในทุกแผนให้บริการ (ด้วยราคาที่อ้างอิงตามจำนวนของอุปกรณ์)
ฉันเชื่อว่าแอนตี้ไวรัสนี้เป็นแอนตี้ไวรัสที่คุ้มค่าสำหรับราคาในปีแรกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากคุณสามารถทดสอบ Bitdefender โดยไม่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 30 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน คุณแค่ต้องส่งตั๋วอีเมลผ่านเว็บไซต์เพื่อขอรับเงินคืน Bitdefender ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการส่งอีเมลตอบกลับและฉันก็ได้รับเงินคืนใน 5 วันหลังจากที่การยกเลิกได้รับการยืนยัน
6. Panda Dome – จัดการ PC ที่ติดไวรัสให้กลับมาทำงานได้
ฟีเจอร์หลัก:
- ป้องกันการโจมตีมัลแวร์และแรนซัมแวร์ล่าสุดได้
- ฟีเจอร์ที่มีมาให้รวมถึงชุดกู้ภัย (Rescue Kit), VPN, เครื่องมือป้องกันโจรและผู้จัดการรหัสผ่าน
- รองรับ Windows 11, 10 และ 7 และ Mac, Android และ iOS
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
Panda Dome เป็นแอนตี้ไวรัสที่ยอดเยี่ยมอีกโปรแกรมหนึ่งสำหรับ Windows มันมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนใครที่ฉันไม่เคยเห็นในแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสพรีเมียมอื่น ๆ (ไม่แม้แต่ Norton หรือ Bitdefender!) ที่มีชื่อว่า Rescue Kit ฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์พิเศษสำหรับ Windows PC และสามารถช่วยกู้คืนคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัสให้กลับมาทำงานได้ มันมีฟังก์ชันการทำงาน 2 ฟังก์ชัน ได้แก่:
- สร้างไดร์ฟ USD กู้ภัย (Create a Rescue USB Drive): เสียบไดร์ฟกับ PC ที่ติดไวรัสที่ไม่ยอมทำงานและให้ซอฟต์แวร์ของ Panda กำจัดมัลแวร์อย่างรวดเร็ว
- ตรวจจับมัลแวร์ขั้นสูงที่ซ่อนตัว (Detect Hidden Advanced Malware): การดาวน์โหลด Cloud Cleaner จะดำเนินการสแกนเชิงลึกโดยละเอียดเพื่อตรวจจับมัลแวร์ซึ่งแอนตี้ไวรัสทั่วไปมักตรวจไม่พบ
ฉันทดสอบ Rescue Kit ของ Panda บนแล็ปท็อป Windows เก่าที่ชอบปิดตัวลงโดยไม่ได้เจตนาเพราะมันติดไวรัสมากมาย ฉันประหลาดใจมากที่มันสามารถลบไวรัสและทำให้ฉันสามารถใช้งานแล็ปท็อปได้อีกครั้งในระยะเวลาประมาณ 20 นาที ตอนที่ฉันทดสอบ Cloud Cleaner Panda ตรวจพบ PUP (โปรแกรมไม่พึงประสงค์) มากมายในเวลาน้อยกว่า 30 นาที การสแกนนี้ละเอียดมาก ๆ และก็ยังทำงานเสร็จภายในเวลาที่ค่อนข้างเร็วด้วย
เช่นเดียวกันกับ Avira Panda เสนอแผนให้บริการฟรีที่ดีพอใช้ มันมีการป้องกันมัลแวร์คุณภาพสูง (มันตรวจจับและปิดกั้นการโจมตีมัลแวร์ตามเวลาจริงได้ 100%) และมีเครื่องมือกู้ภัย USB — ซึ่งเป็นบางสิ่งที่แผนให้บริการแบบชำระเงินมากมายไม่มีให้บริการ แผนให้บริการ Dome Essential ของ Panda มีฟีเจอร์ทั้งหมดที่มีให้บริการในแผนให้บริการฟรีและการป้องกันฟิชชิ่ง, การป้องกัน WiFi, ไฟร์วอลล์และฟีเจอร์สำหรับการท่องเว็บอย่างปลอดภัย แผนให้บริการ Dome Advanced มีราคาที่แพงกว่าเล็กน้อย แต่มีการป้องกันแรนซัมแวร์และแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง
ฉันเลือกแพ็กเกจ Dome Complete เพราะมันมีทุกอย่างจากแผนให้บริการก่อนหน้าและ Data Shield, เครื่องมือทำความสะอาด PC และผู้จัดการรหัสผ่าน การตั้งค่า Password Manager นั้นยาก แต่ก็ทำงานได้ดีหลังจากที่ตั้งค่าเสร็จแล้ว คุณจะต้องเลือก Dome Premium หากคุณต้องการ VPN แต่มันมีราคาที่แพงอย่างมาก นอกจากนี้ VPN ของ Panda เองก็ยังมีข้อจำกัดในแง่ของความเร็วและการเชื่อมต่อที่ใช้งานได้ด้วย ฉันอยากให้ Panda Dome พยายามทำฟีเจอร์เสริมที่ดีกว่านี้และคำนึงถึง “คุณภาพมากกว่าจำนวน” ในแอปของ Windows
ดาวน์โหลด Panda Dome โดยไม่มีความเสี่ยง!
7. Avira – การป้องกันมัลแวร์ที่พุ่งเป้ามาที่ Windows ที่แข็งแกร่ง
ฟีเจอร์หลัก:
- สแกนมัลแวร์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่จะไม่ทำให้ PC ของคุณทำงานช้าลง
- ฟีเจอร์พร้อมให้บริการรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ PC, เครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวรและผู้จัดการรหัสผ่าน
- รองรับ Windows 11, 10 และ 7 และ Mac, Android และ iOS
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
Avira เป็นแอนตี้ไวรัสที่ไม่หนักเครื่องสำหรับ Windows การสแกนซอฟต์แวร์เป็นไปอย่างรวดเร็วมากซึ่งหมายความว่าคุณไม่ต้องใช้เวลาในการรอให้การสแกนทำงานเสร็จนานก่อนที่คุณจะสามารถใช้ PC ของคุณได้ การสแกนอัจฉริยะ (Smart Scan) ทำงานเสร็จโดยใช้เวลาเพียง 2 นาทีและมันไม่ส่งผลกระทบต่อระบบของคุณเลยในขณะทำงาน ฉันพบว่าฉันสามารถสตรีม เล่นเกมและทำงานบนคอมพิวเตอร์ของฉันได้โดยไม่มีการกระตุก
สิ่งที่ทำให้ Avira โดดเด่นสำหรับฉันก็คือการอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ หนึ่งในภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดสำหรับความปลอดภัย Windows ของคุณคือแอปที่ล้าสมัยเพราะช่องโหว่เหล่านี้เป็นส่วนที่พร้อมให้มัลแวร์มาใช้ประโยชน์ Avira จะตรวจสอบทั้งระบบของคุณเพื่อมองหาการอัปเดตเป็นประจำและจะดาวน์โหลดการอัปเดตเหล่านั้นลงบน PC ของคุณโดยอัตโนมัติซึ่งทำให้มันปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา ฉันชอบฟีเจอร์นี้มาก – แม้ว่าแอนตี้ไวรัสมากมายจะมีฟีเจอร์ที่คล้ายกัน แต่มันก็ไม่ได้ทำงานโดยอัตโนมัติเสมอไป
ฟีเจอร์นี้มีความสำคำญอย่างยิ่งเนื่องจาอการทดสอบมัลแวร์เมื่อไม่นานมานี้ของ Avira แสดงให้เห็นว่ามันตรวจจับและปิดกั้นมัลแวร์เมื่อไม่นานมานี้ได้เพียง 98.9% นี่ถือว่ามากกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม แต่ก็ไม่ใช่คะแนนที่สมบูรณ์แบบเหมือนกับ Norton ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ Avira จะต้องป้องกัน PC ของคุณด้วยการอัปเดตความปลอดภัยล่าสุด
แผนให้บริการของ Avira นั้นไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับ Norton หรือ Bitdefender แต่ก็มีแผนให้บริการฟรีที่ดีพอใช้ แผนให้บริการฟรีรวมเบราว์เซอร์สำหรับการช้อปปิ้งที่ปลอดภัย, Phantom VPN (ที่มีข้อมูลฟรี 500MB ต่อเดือน), ผู้จัดการรหัสผ่านและเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร ฟีเจอร์เพิ่มเติมเพียงอย่างเดียวที่คุณจะได้รับจากแผนให้บริการ Antivirus Pro ของ Avira คือเครื่องมือป้องกันเว็บไซต์และอีเมล แผนให้บริการ Internet Security เสนอความคุ้มค่าได้ดีกว่า Antivirus Pro แต่ก็ยังน่าผิดหวัง มันมี Password Manager เวอร์ชันโปรและ Software and Driver Updater อัตโนมัติมาให้
หากคุณพบว่าตัวเองชอบลืมอัปเดตซอฟต์แวร์และต้องการแอนตี้ไวรัสที่ทั้งไม่หนักเครื่องและรวดเร็ว Avira เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า Microsoft Defender ที่มีติดตั้งมาให้ล่วงหน้าใน Windows มันไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเหมือนกับ Norton หรือ Bitdefender แต่ก็มอบความคุ้มค่าให้ได้ดี
ดาวน์โหลด Avira ฟรีบน Windows!
คำเตือน! หลีกเลี่ยงแบรนด์แอนตี้ไวรัส 2 แบรนด์นี้
1.AVG และ Avast
AVG และบริษัทในเครือ Avast ต่างก็โปรโมทความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวด้วยซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสของพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็กลายเป็นว่าทั้งสองบริษัทนี้ถูกจับได้ว่าจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้มากมาย (ซึ่งรวมถึงชื่อและที่อยู่) ซึ่งจากนั้นก็นำไปขายให้กับบริษัทชื่อดังเพื่อทำกำไร ด้วยเหตุนี้ฉันจึงแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส AVG หรือ Avast ใด ๆ ลงบนอุปกรณ์ของคุณ.
2.Microsoft Defender
Microsoft Defender เป็นชั้นการป้องกันแอนตี้ไวรัสเสริมที่มีมาให้ฟรีสำหรับอุปกรณ์ Windows ทั้งหมด อย่างไรก็ตามมันทำงานได้ไม่ดีมากพอที่จะป้องกัน PC ของคุณจากภัยคุกคามล่าสุด — ไม่มีการอัปเดตที่บ่อยพอที่จะป้องกันการโจมตีซีโร่เดย์ซึ่งทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะพบกับมัลแวร์
คำแนะนำลัด: วิธีใช้แอนตี้ไวรัสบน Windows
- เปิดเว็บไซต์ทางการของแอนตี้ไวรัสที่คุณเลือก ฉันแนะนำ Norton เนื่องจากมันเป็นแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows อันดับ #1 ในปี 2023
- เลือกแผนให้บริการที่คุณต้องการสั่งซื้อ Norton มีการรับประกันยินดีคืนเงินที่คุณสามารถใช้เพื่อทดสอบแอนตี้ไวรัสหรือสั่งซื้อสมาชิกได้โดยไม่มีความเสี่ยง
- ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ลงบน Windows PC ของคุณ Windows จะถามว่าคุณต้องการอนุญาตให้แอนตี้ไวรัสดำเนินการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ของคุณหรือไม่
- คลิก “ติดตั้ง” และตัวติดตั้งจะถูกดาวน์โหลดและเริ่มติดตั้งแอนตี้ไวรัสให้กับคุณ นี่อาจใช้เวลาหลายนาที – Norton ใช้เวลาในการดาวน์โหลดให้เสร็จน้อยกว่า 4 นาที
- ทำความคุ้นเคยกับแอปแอนตี้ไวรัส Norton ใช้งานง่ายและมีป้ายกำกับชัดเจน ดังนั้นคุณจึงสามารถดูฟีเจอร์และการตั้งค่าต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
- เปิดใช้งานการสแกนไวรัส สิ่งนี้จะตรวจสอบดูว่ามีมัลแวร์ที่ซ่อนตัวอยู่แล้วใด ๆ บน Windows PC ของคุณหรือไม่ มัลแวร์ใด ๆ ก็ตามที่ถูกตรวจพบจะถูกกักกันเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์ของคุณ
- เรียบร้อยแล้ว! คุณสามารถกำหนดค่าการตั้งค่าเพิ่มเติมได้หากคุณต้องการหรือคุณสามารถปล่อยให้แอนตี้ไวรัสดำเนินการป้องกัน PC ของคุณโดยอัตโนมัติได้เลย
ตารางเปรียบเทียบ: ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ในปี 2023
Norton | McAfee | TotalAV | iolo | Bitdefender | Panda | Avira | |
การป้องกันมัลแวร์ตามเวลาจริง | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ |
VPN | ✔ | ✔ | ✔ | ✘ | ✔ | ✔ | ✔ |
แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง | ✔ | ✔ | ✘ | ✘ | ✔ | ✔ | ✘ |
เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ |
ราคาที่ดีที่สุด | $19.99 | $24.99 | $29.00 | $39.95 | $19.99 | $23.99 | $45.99 |
อุปกรณ์ | สูงสุดถึง 10 | ไม่จำกัด | สูงสุดถึง 6 | ไม่จำกัด | สูงสุดถึง 10 | ไม่จำกัด | สูงสุดถึง 5 |
OS ที่รองรับ | Windows, Mac, Android, iOS | Windows, Mac, Android, iOS | Windows, Mac, Android, iOS | Windows | Windows, Mac, Android, iOS | Windows, Mac, Android, iOS | Windows, Mac, Android, iOS |
เวอร์ชันฟรี | ✘ | ✘ | ✘ | ✘ | ✘ | ✔ | ✔ |
แอนตี้ฟิชชิ่ง | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✘ |
การรับประกันยินดีคืนเงิน | 60 วัน | 60 วัน | 30 วัน | 30 วัน | 30 วัน | 30 วัน | 60 วัน |
วิธีที่ฉันทดสอบและจัดอันดับแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows
ฉันตรวจสอบให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส 7 อันดับในรายการนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า Microsoft Defender และมากกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมในเรื่องของความปลอดภัย ฉันทดสอบแอนตี้ไวรัสแต่ละโปรแกรมโดยใช้เกณฑ์ดังต่อไปนี้:
- กลไกแอนตี้ไวรัสอันแข็งแกร่ง – มัลแวร์ขั้นสูงส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้พุ่งเป้าไปที่ Windows ดังนั้นการมีการตรวจจับมัลแวร์และความสามารถในการปิดกั้นอันแข็งแกร่งจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ฉันทดสอบแอนตี้ไวรัสแต่ละโปรแกรมเพื่อให้มั่นใจว่ามันเป็นไปตามอัตราการตรวจจับมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือมากกว่า (การตรวจจับ 99.1% หรือมากกว่า) ซึ่งจะช่วยรับประกันการป้องกัน Windows PC ของคุณอย่างเต็มรูปแบบ
- ความเร็วที่รวดเร็ว – มันเป็นเรื่องจริงที่การเปิดใช้งานการสแกนแอนตี้ไวรัสอาจทำให้ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ของคุณช้าลง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีแอนตี้ไวรัสชั้นนำบางโปรแกรมในรายการนี้ที่มีประสิทธิภาพอย่างมากและไม่ส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ ฉันยังทดสอบเพื่อดูด้วยว่ามันสามารถทำงานในพื้นหลังอย่างเงียบ ๆ โดยมีการแจ้งเตือนเพียงเล็กน้อยหรือไม่และการสแกนใช้เวลาโดยรวมนานแค่ไหน
- ฟีเจอร์โบนัส – แผนให้บริการแอนตี้ไวรัสมากมายมีฟีเจอร์เสริมซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยยกระดับความปลอดภัยและการทำงาน แต่ฟีเจอร์โบนัสเหล่านั้นไม่ได้มีคุณภาพสูงเสมอไป เมื่อฉันพบแอนตี้ไวรัสที่มีฟีเจอร์เสริม เช่น VPN, ผู้จัดการรหัสผ่านหรือเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร ฉันจะทดสอบแต่ละฟีเจอร์เพื่อดูให้แน่ใจว่ามันคุ้มค่ากับการใช้งาน
- ความคุ้มค่าสำหรับเงิน – บริการแอนตี้ไวรัสทั้งหมดในรายการนี้มีราคาที่สมเหตุสมผล – ที่ดีไปกว่านั้นคือโปรแกรมทั้งหมดมีการรับประกันยินดีคืนเงิน ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้งานมันได้โดยไม่มีความเสี่ยงและสามารถขอรับเงินคืนได้หากคุณเปลี่ยนใจ
คำถามที่พบบ่อย: การใช้แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows บน PC, แล็ปท็อปและแท็บเล็ต
ฉันจำเป็นต้องมีแอนตี้ไวรัสไหมถ้าฉันใช้ Windows 10/11?
จำเป็น คุณจะต้องใช้แอนตี้ไวรัสแม้ว่าคุณจะใช้ Windows 10/11 Microsoft Defender – ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสค่าเริ่มต้นของ Windows (ชื่อเดิม Windows Defender) – ไม่เพียงพอสำหรับการป้องกัน PC ของคุณจากมัลแวร์ขั้นสูง
แม้ว่ามันจะมอบการป้องกันที่น่าพึงพอใจสำหรับโทรจัน ไวรัส แรนซัมแวร์และอื่น ๆ แต่มันก็ทำให้คุณเสี่ยงกับมัลแวร์ที่เป็นอันตรายน้อยกว่าและมีขนาดเล็กกว่า แตกต่างจากบริการชั้นนำ ที่มอบการป้องกันมัลแวร์ที่ครอบคลุม Microsoft Defender มักพลาดแอดแวร์ที่มี “ความเสี่ยงต่ำ” และมัลแวร์อื่น ๆ ที่สร้างความน่ารำคาญ แต่ไม่ได้สร้างความเสียหาย มัลแวร์เหล่านี้จะไม่เข้าถึง PC ของคุณหรือขโมยข้อมูลของคุณ แต่มันจะสร้างความรำคาญให้กับคุณ เมื่อใช้บริการอย่าง Norton มันจะปิดกั้นมัลแวร์ทุกประเภท – แม้กระทั่งรายการที่มีความเสี่ยงต่ำ
Microsoft Defender ยังไม่ได้รับการอัปเดตอยู่เป็นประจำซึ่งทำให้ PC ของคุณมีช่องโหว่สำหรับภัยคุกคามใหม่ล่าสุดและแฮ็กเกอร์สามารถใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนในการป้องกันของ Windows ได้ นี่ถือเป็นเรื่องที่รับได้หากคุณไม่มีข้อมูลความลับหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณไม่ต้องการสูญเสียเก็บเอาไว้บน PC ของคุณ หากคุณจัดเก็บบางสิ่งที่สำคัญอย่างข้อมูลทางการเงิน รหัสผ่านหรือข้อมูลลงชื่อเข้าใช้เอาไว้ คุณควรจะใช้แอนตี้ไวรัสที่มีคุณภาพสูงเพื่อรับประกันความปลอดภัยของตัวคุณเองจะดีกว่า
แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows 11 จะทำงานได้บน Windows 7 และ 10 ได้หรือเปล่า?
แอนตี้ไวรัสส่วนใหญ่ที่ทำงานได้บน Windows 11 จะรองรับ 7 และ 10 ด้วย แต่มันก็ขึ้นอยู่กับแผนให้บริการส่วนบุคคล ตารางเปรียบเทียบด้านบน จะบอกรายละเอียดว่าแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสใดบ้างที่เข้ากันได้กับ Windows 7 และ 8 เช่นเดียวกันกับ Windows 10/11 หากคุณยังคงไม่มั่นใจ คุณสามารถดูความต้องการของระบบในแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสที่คุณเลือกได้ ข้อมูลเหล่านี้จะพร้อมให้บริการบนเว็บไซต์ของแอนตี้ไวรัสซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ในหน้าเดียวกันกับรายละเอียดแผนให้บริการ ที่นั่นคุณจะได้เห็นเวอร์ชันของ Windows ที่บริการดังกล่าวรองรับ
แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10/11 คือแอนตี้ไวรัสใด?
แพ็กเกจแอนตี้ไวรัสฟรีจะไม่ป้องกัน Windows PC ด้วยซอฟต์แวร์ระดับสูงเดียวกันกับบริการพรีเมียม มันจะไม่มีฟีเจอร์อย่างการตรวจจับมัลแวร์ตามเวลาจริง เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC และผลกระทบต่อระบบต่ำที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อครอบคลุม Windows ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการพึ่งพาแอนตี้ไวรัสฟรีในการป้องกันอุปกรณ์ของคุณ
อย่างไรก็ตามคุณสามารถทดสอบแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสพรีเมียมมากมายโดยไม่มีความเสี่ยงได้ – บางโปรแกรมมีเวอร์ชันทดลองและโปรแกรมอื่น ๆ อย่าง Norton ก็มีการรับประกันยินดีคืนเงินที่ให้คุณทดสอบบริการและรับเงินคืนเต็มจำนวนได้หากคุณเปลี่ยนใจ Norton มีการรับประกันยินดีคืนเงิน 60 วันอันแสนใจกว้างที่คุณสามารถใช้เพื่อดูว่าโปรแกรมดังกล่าวเหมาะกับคุณหรือไม่ได้
แอนตี้ไวรัสจะทำให้คอมพิวเตอร์ Windows ของฉันทำงานช้าลงไหม?
บางครั้งก็ใช่ – การใช้แอนตี้ไวรัสโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิดใช้งานการสแกนระบบโดยละเอียดอาจเป็นสาเหตุให้ PC ของคุณทำงานช้าลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสในรายการนี้ได้รับการทดสอบโดยละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่ามันจะไม่ทำให้คอมพิวเตอร์ Windows ของคุณทำงานช้า ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้งานมันได้โดยไม่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพใด ๆ
การใช้แอนตี้ไวรัสที่ไม่เหมาะสมสำหรับ PC ของคุณอาจเป็นสาเหตุทำให้ระบบของคุณทำงานช้าได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากคุณเล่นวิดีโอเกมโดยส่วนใหญ่ แต่ใช้แอนตี้ไวรัสที่ไม่มีการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกม คุณจะสังเกตเห็นการกระตุกและการสะดุดเมื่อคุณเล่น สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นในกรณีที่คุณรับชมรายการและภาพยนตร์ออนไลน์ มี PC ที่ล้าสมัยหรือเปิดใช้งานแอปที่ต้องใช้พลังงาน CPU ระดับสูงได้ โชคดีที่มีแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูงที่จะไม่ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้าลง คุณจะไม่พบการกระตุกหรือการรบกวนใด ๆ เมื่อคุณลองใช้ Norton ฟรี 60 วัน
ฉันสามารถใช้แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows บน Android, iOS หรือ Mac ได้ไหม?
โดยปกติแล้วได้ – แผนให้บริการแอนตี้ไวรัสส่วนใหญ่ที่พร้อมให้บริการบน Windows จะเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์มอื่น ๆ ด้วย คุณสามารถดูได้ว่าบริการแอนตี้ไวรัสใดที่ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการณ์อื่น ๆ ได้บ้างโดยการดูที่ตารางเปรียบเทียบ
แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10/11, Norton เข้ากันได้กับแพลตฟอร์มมากมาย – โดยขึ้นอยู่กับแผนให้บริการที่คุณเลือก คุณสามารถป้องกันอุปกรณ์ Windows, Mac, Android และ iOS ได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์ คุณควรทราบว่าบริการแอนตี้ไวรัสส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับมัลแวร์บน Windows เป็นหลัก (เนื่องจากมันเป็นมัลแวร์ที่พบบ่อยที่สุด) และอาจไม่สามารถมอบการป้องกันในระดับเดียวกันบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้
ป้องกัน PC Windows 10/11 ของคุณด้วยแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูง
มัลแวร์ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ใช้ผลประโยชน์จากช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ Windows ซึ่งทำให้การป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสชั้นนำเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ด้วยแอนตี้ไวรัสมากมายที่สัญญาว่าจะมอบการป้องกันที่ดีที่สุด การตัดสินใจที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องยาก หลังจากการทดสอบโดยละเอียด ฉันได้ทำงานอย่างหนักเพื่อคุณและสามารถแนะนำ Norton ในฐานะแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับคอมพิวเตอร์ Windows 10 ของคุณได้อย่างมั่นใจ
Norton มอบการป้องกันมัลแวร์ตามเวลาจริงที่ครอบคลุมและฟีเจอร์เสริมคุณภาพสูงมากมายสำหรับความปลอดภัย Windows หลายชั้น ที่ดีที่สุดคือมันมีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วันที่แสนใจกว้างที่ให้คุณทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมดโดยไม่มีความเสี่ยงได้เป็นระยะเวลา 60 วันเต็ม หากคุณเปลี่ยนใจเกี่ยวกับการสมัครสมาชิก คุณสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้ – ง่าย ๆ!