7 แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 & 11 – ป้องกัน PC 2023

เพ็ญจรัส ศรีประไพ
อัพเดทครั้งล่าสุดโดย เพ็ญจรัส ศรีประไพ ใน มีนาคม 01, 2023

มีแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสนับร้อยแพ็กเกจที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อ Windows ในตลาดซึ่งทำให้การเลือกแพ็กเกจที่ใช่กลายเป็นเรื่องยาก ฉันพบแอนตี้ไวรัสมากมายอ้างตนว่าเป็นแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุด แต่หลังจากที่ทดสอบแอนตี้ไวรัสต่าง ๆ มากมาย ฉันก็พบ 7 แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุด

โชคร้ายที่คุณไม่สามารถพึงพาแค่เฉพาะแอนตี้ไวรัสภายในตัว Window 10/11 เพียงอย่างเดียวได้ แม้ว่ามันจะมีการป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ดี แต่มันก็ไม่แข็งแกร่งเท่ากับตัวเลือกแอนตี้ไวรัสพรีเมียม การพึ่งพาแค่ Microsoft Defender เพียงอย่างเดียวจะทำให้คุณเสี่ยงกับการโจมตีมัลแวร์ขั้นสูง – มัลแวร์เกือบทั้งหมดต่างพุ่งเป้าโดยตรงไปที่จุดอ่อนที่มีอยู่แล้วในระบบปฏิบัติการ Windows

หลังจากการทดสอบโดยละเอียด ฉันพบแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูง 7 แผนให้บริการที่มอบการป้องกันมัลแวร์ที่จำเป็นสำหรับ Windows PC ของคุณ 5 บริการแรกฉันพบว่ามันช่วยดูแลให้ Windows PC ของฉันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยทำคะแนนการทดสอบด้านการตรวจจับได้ดีกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมและมีราคาน่าคบหา Norton คว้าอันดับ 1 สำหรับการป้องกันมัลแวร์อันแข็งแกร่ง ผลกระทบต่อระบบที่น้อยและฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากมาย ที่ดีกว่านั้นคือคุณสามารถลองใช้ Norton ด้วยตัวเอง 60 วันโดยไม่มีความเสี่ยงได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน

ลองใช้ Norton สำหรับ Windows!

คำแนะนำลัด: แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows Security ในปี 2023

  1. Nortonแอนตี้ไวรัสที่ดีสำหรับ for Windows 11, 10 และ 7 ที่มีการตรวจจับมัลแวร์ตามเวลาจริง ฟีเจอร์คุณภาพสูงและการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน
  2. McAfee – การตรวจจับมัลแวร์อันแข็งแกร่งจะป้องกัน Windows PC ของคุณ แต่ไม่มีฟีเจอร์มากเท่ากับแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ
  3. TotalAV – เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC ที่ดีและการป้องกันมัลแวร์ที่แข็งแกร่ง แต่ฝ่ายบริการลูกค้าตอบกลับคำถามช้า
  4. iolo — การเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ชั้นนำสำหรับ Windows และความปลอดภัยอันแข็งแกร่ง แต่มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทำให้ PC ทำงานช้าลงในขณะดำเนินการสแกน
  5. Bitdefender – ฟีเจอร์มากมายและส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของ Windows PC ต่ำ แต่เป็นตัวเลือกที่มีราคาแพง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากปีแรก)
  6. Panda — ฟีเจอร์อันโดดเด่นจะช่วยกำจัดแม้กระทั่ง PC ที่ติดมัลแวร์ส่วนใหญ่ แต่ฟีเจอร์เสริมทำงานได้ไม่ดีนัก
  7. Avira — แอนตี้ไวรัสที่ไม่หนักเครื่องและส่งผลกระทบน้อยที่สุดสำหรับ Windows แต่ไม่ครอบคลุมเหมือนตัวเลือกอื่น ๆ

ฉันจำเป็นต้องมีแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ไหม?

ใช่ คุณต้องมีแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูงสำหรับอุปกรณ์ Windows ของคุณ Microsoft Defender — ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสโดยค่าเริ่มต้นของ Windows (ที่รู้จักกันในชื่อ Windows Defender) — ไม่เพียงพอสำหรับการป้องกัน PC ของคุณจากมัลแวร์ขั้นสูง

คอมพิวเตอร์ Windows เป็นเป้าหมายยอดนิยมมากที่สุดสำหรับมัลแวร์โดยมีมาตรการความปลอดภัยเฉพาะเพียงเล็กน้อยซึ่งทำให้คอมพิวเตอร์มีช่องโหว่มากมายสำหรับการโจมตี Windows ยังเป็นระบบปฏิบัติการยอดนิยมที่สุดในโลกและไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคระดับสูงเพื่อใช้งาน นี่ทำให้ผู้ใช้ Windows มีความเสี่ยงที่จะได้พบกับการสแกมฟิชชิ่ง การดาวน์โหลดที่หลอกลวงและการโจมตีแบบพุ่งเป้าอื่น ๆ

ในขณะที่ Microsoft Defender เสนอการป้องกันโทรจัน ไวรัส แรนซัมแวร์และอื่น ๆ อีกมากมายที่น่าพึงพอใจ แต่มันก็อาจทำให้คุณเสี่ยงที่จะพบกับมัลแวร์ที่มีขนาดเล้กกว่าและเป็นอันตรายน้อยกว่า Microsoft Defender มักพลาดแอดแวร์ “ความเสี่ยงต่ำ” และมัลแวร์อื่น ๆ ที่สร้างความรำคาญ แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายได้ มัลแวร์เหล่านี้ไม่สามารถรุกล้ำ PC หรือขโมยข้อมูลของคุณได้ แต่มันสร้างความรำคาญให้ได้อย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อบริการอย่าง Norton สามารถปิดกั้นมัลแวร์ได้ทุกรูปแบบ — แม้แต่รายการที่มีความเสี่ยงต่ำ

Microsoft Defender ยังไม่มีการอัปเดตที่บ่อยมากพอซึ่งทำให้ PC ของคุณตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับภัยคุกคามใหม่ล่าสุดและแฮกเกอร์ที่ค้นหาช่องโหว่ในการป้องกันของ Windows นี่ถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นไรหากคุณไม่มีข้อมูลความลับหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ บน PC ที่คุณไม่อยากสูญเสีย แต่หากคุณจัดเก็บข้อมูลสำคัญเอาไว้ เช่น ข้อมูลทางการเงิน รหัสผ่านหรือข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ การรับประกันความปลอดภัยของคุณด้วยแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูงนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ

พูดง่าย ๆ ก็คือการเสี่ยงเอาข้อมูลหรืออุปกรณ์ของคุณไปพึ่งพาเพียง Microsoft Defender ในฐานะการป้องกันนั้นไม่คุ้มค่า โดยการใช้ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสชั้นนำ คุณจะสามารถรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ, PC ของคุณและเครือข่ายในบ้านของคุณ

7 แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 11, 10 และ 7 (ทดสอบแล้วเมื่อ มีนาคม 2023)

1. Norton – แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ที่มาพร้อมกับอัตราการตรวจจับที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ

ฟีเจอร์หลัก:

  • สแกนเนอร์มัลแวร์อันแข็งแกร่งจะไม่ทำให้ PC ของคุณช้าลง
  • ฟีเจอร์ที่มีมาให้รวมไฟร์วอลล์ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองและอื่น ๆ อีกมากมาย
  • รองรับ Windows 11, 10 และ 7 (SP1)
  • การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน

หลังจากการทดสอบโดยละเอียด Norton เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับ Windows 10/11 เพราะฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมในราคาที่น่าคบหามาก ๆ การป้องกันแบบหลายชั้นจะช่วยป้องกันมัลแวร์ใหม่ ๆ และมัลแวร์ที่รู้จักตามเวลาจริงและไฟร์วอลล์ขั้นสูงจะปิดกั้นการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ไม่พึงประสงค์ ฉันมีความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นว่ากลไกแอนตี้ไวรัสของ Norton ทำคะแนนได้สมบูรณ์แบบในระหว่างการทดสอบการตรวจจัยและมันปิดกั้นภัยคุกคามตามเวลาจริงได้ถึง 100% นี่หมายความว่ามันไม่ปล่อยให้มัลแวร์แม้แต่ละรายการเดียวบน Windows PC ที่ใช้ทดสอบเล็ดรอดมาได้เลย


ภาพหน้าจอของ Norton 360 บล็อกรายการที่เป็นอันตราย

Norton ไม่อนุญาตให้เข้าถึงเว็บไซต์ที่ทดสอบและรายการที่โฮสต์รหัสที่เป็นอันตราย

เช่นเดียวกันกับการป้องกัน PC จากมัลแวร์ Norton มีฟีเจอร์คุณภาพสูงมากมายที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความปลอดภัยโดยรวม การสแกนที่ส่งผลกระทบต่ำจะไม่ดึงพลังงานจาก CPU ของฉันโดยไม่จำเป็น ดังนั้นฉันจึงสามารถเล่นวิดีโอเกม รับชมภาพยนตร์และทำงานบน PC ของฉันได้โดยไม่ต้องพบกับการกระตุกหรือการรบกวนที่น่ารำคาญ

ฉันชอบที่ Norton มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ฟรีมาให้โดยมันมอบพื้นที่สำหรับไฟล์และข้อมูลสำคัญ ๆ สูงสุดถึง 75GB และยังช่วยป้องกันข้อมูลความลับของฉันจากการโจมตีแรนซัมแวร์ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย ไฟร์วอลล์ภายในตัวจะป้องกัน PC ของฉันในระดับเครือข่ายโดยจะปิดกั้นผู้ใช้และแอปที่ไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้มันยังมีแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองและ VPN ที่ปลอดภัยที่สามารถดาวน์โหลดในรูปแบบแอปเพิ่มเติมซึ่งจะช่วยป้องกันอุปกรณ์ของลูกฉันและปิดบังกิจกรรมออนไลน์ของฉันได้โดยไม่จำกัดข้อมูลและยังมีเซิร์ฟเวอร์ให้บริการมากมาย ฟีเจอร์เสริมจะทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกันที่ไม่เพียงแต่ป้องกันมัลแวร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพยายามเข้าถึง PC ของฉันหรืออุปกรณ์ของลูก ๆ หรือดูว่าฉันกำลังทำอะไรทางออนไลน์ด้วย Norton มอบการป้องกันที่ครอบคลุมสำหรับ Windows PC ของฉันซึ่งมากกว่าแค่การป้องกันมัลแวร์

แม้ว่า Norton จะได้รับการกำหนดค่าให้มอบการป้องกันที่ยอดเยี่ยมโดยอัตโนมัติ แต่การเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก ฟีเจอร์ทั้งหมดได้รับการติดป้ายกำกับมากอย่างชัดเจน ดังนั้นคุณจึงค้นหาสิ่งที่คุณต้องการได้อย่างรวดเร็ว


อินเทอร์เฟซ Norton 360 Windows

การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า Norton นั้นเรียบง่ายโดยฟีเจอร์ทั้งหมดถูกติดป้ายกำกับมาอย่างชัดเจน

Norton มีแผนให้บริการมากมายพร้อมให้บริการในทุกงบประมาณและทุกความต้องการที่เฉพาะเจาะจง แผนให้บริการ Deluxe เป็นแผนให้บริการที่คุ้มค่ามากที่สุด มันครอบคลุม 5 อุปกรณ์, มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 50GB, ไฟร์วอลล์, ผู้จัดการรหัสผ่าน, VPN, PC SafeCam และแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง หากคุณต้องการการป้องกันอุปกรณ์ที่มากขึ้น คุณก็สามารถอัปเกรดเป็น Premium Package ซึ่งรวมใบรับรองสำหรับ 10 อุปกรณ์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 75GB ได้ ที่ราคา $29.99 แพ็กเกจมาตรฐาน Standard คือแผนให้บริการที่ถูกที่สุดของ Norton และเป็นแผนให้บริการที่ยอดเยี่ยมสำหรับบุคคลที่ต้องการป้องกันอุปกรณ์เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้นและไม่ต้องการฟีเจอร์แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง

Norton เป็นตัวเลือกแอนตี้ไวรัสอันดับหนึ่งสำหรับ Windows 11 (และ 10 และ 7!) อย่างไม่ต้องสงสัย แต่คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อคำพูดของฉัน ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ Norton ด้วยตัวคุณเองและใช้ประโยชน์จากการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน เพื่อนร่วมงานของฉันได้ทดสอบการรับประกันยินดีคืนเงินของ Norton และประหลาดใจกับความง่ายในการขอเงินคืนเต็มจำนวนอย่างมาก – แค่ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านแชทออนไลน์ ร้องขอเงินของคุณคืนและมันจะได้รับการดำเนินการภายใน 5-7 วันทำการ แถมคุณยังสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าในภาษาไทยได้อีกด้วย

ลองใช้ Norton ฟรี 60 วัน!

2. McAfee – แอนตี้ไวรัสที่แข็งแกร่งสำหรับ Windows ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยโบนัส

ฟีเจอร์หลัก:

  • กลไกแอนตี้ไวรัสจะป้องกันมัลแวร์ทุกรูปแบบ
  • เครื่องมือพิเศษมากมายที่จะช่วยยกระดับความปลอดภัยของอุปกรณ์โดยรวม
  • พร้อมให้บริการบน Windows 11, 10 และ 7
  • การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน

McAfee เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ Windows PC เพราะฟีเจอร์ความปลอดภัยที่น่าประทับใจและการป้องกันมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยม ในระหว่างการทดสอบ ฉันพบว่า McAfee ตรวจจับและปิดกั้นภัยคุกคามล่าสุดและมัลแวร์ที่ถูกค้นพบก่อนหน้านี้ได้ถึง 100% นี่ถือเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมและทำให้ McAfee เป็นบริการชั้นนำเหมือนกับ Norton ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งอย่างการป้องกันเว็บไซต์ (Web Protection) และ VPN เข้ามา McAfee จึงสามารถใช้วิธีการอันแข็งแกร่งในการป้องกันด้วยฟีเจอร์เสริมทั้งหมดที่มี ฟีเจอร์ดังกล่าวบางส่วนรวมถึง:

  • เครื่องมือป้องกันเว็บไซต์ (Web protection tools): McAfee มีไฟร์วอลล์พรีเมียม การป้องกันฟิชชิ่งและแอดแวร์และการสแกน WiFi เพื่อป้องกันคุณเมื่อคุณออนไลน์
  • สแกนเนอร์ช่องโหว่ (Vulnerability scanner): สแกน Windows OS และแอปที่ติดตั้งของคุณเพื่อตรวจสอบการอัปเดตที่สำคัญและรักษาความปลอดภัย
  • เครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวรและการเข้ารหัส (File shredder and encryption): ลบไฟล์โดยถาวรหรือเข้ารหัสอย่างปลอดภัยเพื่อป้องกันการโจรกรรมอุปกรณ์
  • VPN ที่ปลอดภัย (Secure VPN): เข้ารหัสกิจกรรมออนไลน์ของคุณเพื่อที่จะได้ไม่มีใครมองเห็นสิ่งที่คุณกำลังทำหรือมองเห็นว่าคุณอยู่ที่ไหน – ใช้งานได้ไม่จำกัดข้อมูล
  • การป้องกันโจรขโมยตัวตน (เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) (Identity Theft Protection (US only): ตรวจสอบเว็บมืดและรายงานเครดิตของคุณและจะแจ้งเตือนคุณถึงข้อมูลที่ถูกโจรกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ

เครื่องมือเหล่านี้ช่วยยกระดับความปลอดภัยของ Windows PC ของฉันได้อย่างมากและหากคุณพำนักอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา มันจะช่วยยกระดับความปลอดภัยส่วนบุคคลของคุณด้วยการป้องกันโจรขโมยตัวตน (ID Theft Protection) ที่ดียิ่งกว่านั้นคือฟีเจอร์บางส่วนเหล่านี้เป็นฟีเจอร์พิเศษสำหรับ Windows ดังนั้นคุณจึงสามารถเข้าถึงส่วนเสริมทั้งหมดของ McAfee ได้

แผนให้บริการของ McAfee จัดโครงสร้างตามจำนวนอุปกรณ์ที่คุณต้องการป้องกัน แผนให้บริการ Single Device, Multi-Device และ Family มาพร้อมการป้องกันตามเวลาจริง เครือข่ายรักษาความปลอดภัยที่บ้านเพื่อป้องกันไฟร์วอลล์ของคุณและปิดกั้นแฮกเกอร์ การป้องกันฟิชชิ่งและการป้องกันการฉ้อโกงและผู้จัดการรหัสผ่าน หากคุณเลือกต่ออายุอัตโนมัติเมื่อลงทะเบียน McAfee จะมอบ VPN และเครื่องมือ Identity Theft (สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) กับคุณ ฉันขอแนะนำให้ทำสิ่งนี้เนื่องจากการขอยกเลิกในภายหลังนั้นง่ายมาก

แม้ว่าฉันจะอยากให้ McAfee ขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ แต่มันก็ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในบริการที่ปลอดภัยที่สุดที่มีให้บริการสำหรับ Windows 10/11 หากคุณต้องการลองใช้งานมันบน Windows PC ของคุณ คุณสามารถใช้การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วันของ McAfee เพื่อทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมดได้ โปรดระวังหากคุณไม่ได้สมัครแผนให้บริการแบบต่ออายุโดยอัตโนมัติ คุณจะมีเวลาในการร้องขอเงินคืนเพียง 30 วันเท่านั้น

หลังจากร้องขอเงินคืนพร้อมข้อมูลติดต่อของฉัน ตัวแทนฝ่ายสนับสนุนลูกค้าก็ติดต่อกลับฉันภายในเวลาน้อยกว่า 10 นาทีผ่านทางโทรศัพท์เพื่อแจ้งให้ฉันทราบว่าการขอเงินคืนของฉันได้รับอนุมัติแล้ว หลังจากนั้นเพียง 7 วันฉันก็ได้รับเงินคืนเข้าบัญชี

ลองใช้ McAfee โดยไม่มีความเสี่ยงวันนี้!

3. TotalAV – เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพช่วยยกระดับประสิทธิภาพของ PC และป้องกันมัลแวร์

ฟีเจอร์หลัก:

  • การป้องกันมัลแวร์อันแข็งแกร่งจะป้องกัน PC ของคุณจากซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย
  • ฟีเจอร์เสริมรวมเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพของคุณ
  • พร้อมให้บริการบน Windows 11, 10, 7, Vista และ XP
  • การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน

แผนให้บริการแอนตี้ไวรัสของ TotalAV มอบการป้องกันมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยมโดยมันทำคะแนนได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมในการทดสอบการตรวจจับเมื่อไม่นานมานี้ สิ่งที่ทำให้ TotalAV โดดเด่นสำหรับ Windows PC ของคุ๕อเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพมากมายที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อชยกระดับประสิทธิภาพโดยรวมของคอมพิวเตอร์ของคุณ สิ่งนี้ช่วยมอบการป้องกันระดับพรีเมียมกับคุณและช่วยยกระดับประสิทธิภาพในบริการเดียวซึ่งช่วยให้คุณประหยัดเงินได้ ฟีเจอร์เหล่านี้ ได้แก่:

  • เครื่องมือทำความสะอาดไฟล์ (File cleaner): สแกนคอมพิวเตอร์ของคุณและลบไฟล์ที่ไม่ได้ใช้และไฟล์ซ้ำ
  • เครื่องมือกำจัดแอป (App remover): ยกเลิกการติดตั้งแอปที่แทบไม่ได้ใช้งานที่กินพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย
  • ผู้จัดการโปรแกรมเริ่มต้น (Startup program manager): ยกระดับเวลาเปิดเครื่อง PC โดยการจัดการว่าจะมีโปรแกรมใดบ้างที่จะเริ่มทำงานเมื่อ PC ของคุณทำงาน
  • เครื่องมือจำกัดไฟล์ขยะ (Junk file remover): ตรวจสอบเว็บเบราว์เซอร์ของคุณและล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็น

ฉันพบว่าการมีสิทธิ์ในการเข้าถึงตัวเลือกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเหล่านี้โดยทันทีเป็นวิธีที่ดีในการทำให้ PC ของฉันทำงานได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องย้ายแอปไปย้ายมา


ภาพหน้าจอของผลลัพธ์ Smart Scan

TotalAV แนะนำวิธีที่คุณสามารถยกระดับประสิทธิภาพ PC ของคุณโดยทันที

ฉันประทับใจกับการทำงานของฟีเจอร์เหล่านี้ในระหว่างการทดสอบของฉันและความรวดเร็วของ Windows PC ของฉันหลังจากที่ใช้งานมัน ไม่เพียงแต่ TotalAV จะล้างพื้นที่เกือบ 3GB ที่เกิดจากไฟล์ซ้ำและรายการขยะเท่านั้น แต่มันยังลบคุกกี้จากเบราว์เซอร์ทั้งหมดของฉันด้วย ฉันสามารถกำหนดค่าแอปซึ่งเริ่มทำงานตอนที่ฉันเปิด PC และลดระยะเวลาเปิดเครื่องลงได้มากกว่า 50% จาก 3 นาทีกลายเป็นน้อยกว่า 90 วินาที

โชคร้ายที่ฉันประทับใจกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ TotalAV ไม่มากนัก สิทธิ์ในการเข้าถึงความช่วยเหลือในเวลาที่คุณต้องการถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ฉันพบว่าทั้งแชทออนไลน์และบริการทางอีเมลต่างก็ใช้งานยากและตอบกลับช้า นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากปัญหาเร่งด่วนอาจต้องใช้เวลาในการแก้ไขนานซึ่งเป็นอะไรที่คุณไม่ต้องการเจอหากมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของคุณ

แพ็กเกจที่คุ้มค่ามากที่สุดของ TotalAV คือแผนให้บริการ Internet Security มันรวมใบรับรองสำหรับ 6 อุปกรณ์, เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพระบบ, เครื่องมือทำความสะอาดเบราว์เซอร์, การสแกนบนคลาวด์และ VPN หากคุณไม่ต้องการ VPN คุณสามารถเลือกแพ็กเกจที่มีราคาถูกที่สุดของ TotalAV ได้ ในราคาที่ $29.00 ต่อเดือน แผนให้บริการ Antivirus Pro รวมฟีเจอร์ทั้งหมดที่มีให้บริการในแพ็กเกจ Internet Security ยกเว้น VPN นอกจากนี้คุณยังสามารถจ่ายเงินเพิ่มเล็กน้อยสำหรับแผนให้บริการ Total Security ได้ด้วย มันครอบคลุม 7 อุปกรณ์และยังมีแม้กระทั่งตัวปิดกั้นโฆษณาและตู้นิรภัยรหัสผ่าน

คุณสามารถลองใช้ try TotalAV โดยไม่มีความเสี่ยงฟรีเป็นระยะเวลา 30 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน คุณสามารถโทรหา TotalAV หรือส่งอีเมลขอเงินคืนได้ — ฉันได้รับการยืนัยนทันทีและได้รับเงินคืนกลับมาภายใน 2 วันหลังจากนั้น

ดาวน์โหลด TotalAV สำหรับ Windows!

4. iolo — เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่ช่วยกระตุ้น Windows และความปลอดภัยได้เป็นอย่างมาก

ฟีเจอร์หลัก:

  • การป้องกันมัลแวร์ภัยคุกคามใหม่และภัยคุกคามที่รู้จักอันแข็งแกร่ง
  • เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่น่าประทับใจช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพของ Windows
  • พร้อมให้บริการบน Windows 11, 10, 8, 7
  • การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน

System Mechanic ของ iolo มีฟีเจอร์ที่น่าประทับใจมากมายที่จะช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพของ Windows PC ของคุณ ส่วนเสริมของความปลอดภัยแอนตี้ไวรัสทำให้มันเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งสำหรับการดูแลให้ PC ของคุณทำงานอย่างราบรื่นและปราศจากมัลแวร์

ฟีเจอร์ยอดเยี่ยมของ iolo บางส่วน ได้แก่:

  • PC Cleanup — ลบไฟล์ขยะ ยกเลิกการติดตั้งแอปโดยสมบูรณ์และสร้างพื้นที่ฟรีให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • Startup Optimizer — วิเคราะห์โปรแกรมที่เริ่มทำงานเมื่อ PC ของคุณบูตขึ้นเพื่อที่คุณจะได้สามารถหยุดโปรแกรมที่ไม่จำเป็นซึ่งช่วยยกระดับเวลาในการเปิดเครื่องได้
  • Speed Up — ยกระดับประสิทธิภาพของ CPU, ความเร็วและความเสถียรของ RAM และโอนพลังงานไปสู่ซอฟต์แวร์ที่ส่งผลกระทบมากที่สุดและซอฟต์แวร์ที่มีการใช้งานมากที่สุด
  • Drive Scrubber — ทำความสะอาดไดร์ฟอย่างหมดจด — เช่นเดียวกันกับ USB หรือฮาร์ดไดร์ฟนอก — เพื่อลบไฟล์และโฟลเดอร์ทั้งหมด
  • Search and Recover — กู้คืนไฟล์ที่ลบซึ่งอาจถูกลบไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัว — ปิดการใช้งานการจัดเก็บข้อมูลของ Microsoft, หยุดเว็บไซต์ไม่ให้สร้างโปรไฟล์การท่องเว็บของคุณและปิดกั้นการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเบราว์เซอร์โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ
  • เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน — จัดเก็บข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณอย่างปลอดภัย ไม่จำกัดจำนวนรหัสผ่านและมีการยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอนพร้อมให้บริการ
  • และอื่น ๆ อีกมากมายดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iolo ในรีวิวเชิงลึกนี้

ในระหว่างการทดสอบ เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพของ iolo ทำงานได้อย่างไร้ที่ติ — ฉันล้าง RAM ได้มากกว่า 1.5GB ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการบูตของ PC ได้ครึ่งหนึ่งและช่วยยกระดับประสิทธิภาในขณะที่เล่นเกมและสตรีมมิ่งด้วย

สิ่งที่ทำให้ iolo ทำงานได้รวดเร็วมาก ๆ ก็คือแอปเฉพาะสำหรับ Windows ในขณะที่ฉันหงุดหงิดการเรื่องที่ไม่มีปุ่ม “ย้อนกลับ” ในเมนู ฉันก็พบว่าการค้นหาและเปิดใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องง่าย การเลื่อนเมาส์ไปชี้ที่ไอคอนจะบอกชื่อของแต่ละฟีเจอร์กกับคุณซึ่งทำให้คุณค้นหาสิ่งที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย

สกรีนช็อตของแอพ Windows ของ iolo แสดงอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
ค้นหาและใช้งานเครื่องมือของ iolo ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

น่าเสียดายที่ iolo ไม่ได้รับการทดสอบอิสระอย่างเข้มงวดเหมือนกับแอนตี้ไวรัสชั้นนำอื่น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นในการทดสอบของฉัน iolo ก็ทำงานได้ดี — มันตรวจจับและกักกันไฟล์มัลแวร์ทดสอบทั้งหมดที่ฉันซ่อนไว้ใน PC ของฉันและปิดกั้นเว็บไซต์มัลแวร์ทดสอบได้ ฉันมั่นใจกับผลลัพธ์ที่ได้และมั่นใจว่า iolo สามารถป้องกัน PC ของฉันจากภัยคุกคามล่าสุดได้

ปัญหาหลักเกี่ยวกับ iolo คือการสแกนที่ส่งกระทบอย่างมากซึ่งทำให้คอมพิวเตอร์ของฉันทำงานช้าลงมาก CPU ของฉันพุ่งจาก 15% เป็น 40% และมันทำให้มองเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน — ฉันไม่สามารถใช้ PC ของฉันโดยไม่มีการกระตุกและการรบกวนได้ Deep Scan ของ iolo ใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงในการทำงานจนเสร็จ ดังนั้นฉันจึงแนะนำให้เปิดใช้งานการสแกนเอาไว้เมื่อคุณไม่ได้ใช PC มากนัก

ฉันขอแนะนำแผนให้บริการ System Mechanic Ultimate Defense ของ iolo เนื่องจากมันมอบชุดฟีเจอร์อย่างเต็มรูปแบบให้กับคุณ iolo มีราคาแพงกว่าเล็กน้อย แต่มันก็มอบการติดตั้งสำหรับ Windows PC ในเครือข่ายเดียวกันกับคุณแบบไม่จำกัด คุณสามารถลองใช้ iolo โดยปราศจากความเสี่ยงได้เป็นระยะเวลา 30 วันเพื่อดูให้แน่ใจว่ามันเป็นทางเลือกที่ใช่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจสมัครสมาชิก

บทสรุปของฉัน

iolo เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการการปรับแต่ง PC และการป้องกันมัลแวร์อย่างเต็มรูปแบบ มันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ Windows PC ของคุณอย่างเต็มรูปแบบและดูแลให้มันทำงานอย่างราบรื่นโดยไม่มีการแทรกแซงแบบแมนนวลมากนัก ทั้งหมดนี้ในขณะเดียวกันก็ปกป้องคุณจากภัยคุกคามมัลแวร์ใหม่และที่รู้จัก

ลองใช้ iolo สำหรับ Windows

5. Bitdefender Total Security – ฟีเจอร์ความปลอดภัยมากมายที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ Windows PC

ฟีเจอร์หลัก:

  • สแกนเนอร์ไวรัสที่ยอดเยี่ยมจะป้องกันมัลแวร์ทุกรูปแบบ
  • มาพร้อมกับแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง, VPN, ผู้จัดการรหัสผ่านและอื่น ๆ อีกมากมาย
  • ทำงานได้บน Windows 11, 10 และ 7
  • การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน

Bitdefender ตามหลัง Norton มาติด ๆ เมื่อพูดถึงการป้องกันมัลแวร์เนื่องจากมีอัตราการตรวจจับถึง 100% ในการทดสอบล่าสุด ระดับที่สูงนี้เทียบเท่ากับ Norton และ Bitdefender ก็เป็นที่สองในรายการนี้เพียงเพราะราคาที่สูงกว่าหลังจากการสมัครสมาชิกปีแรก

Bitdefender ยังมีฟีเจอร์ขั้นสูงที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับประสิทธิภาพและการป้องกัน Windows 10/11 ด้วย ในระหว่างการทดสอบของฉัน ทุกฟีเจอร์ทำได้ดีกว่าที่ฉันคาดหวังเอาไว้ ฉันประทับใจเป็นอย่างยิ่งกับเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพของ Bitdefender สำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ ตัวกรองเว็บไซต์เพื่อปิดกั้นเว็บไซต์และลิงก์ที่เป็นอันตราย, VPN, เว็บแคมและการป้องกันไมโครโฟน, แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง, ผู้จัดการรหัสผ่านและเครื่องมือกำจัดไฟล์ คุณสามารถใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมดนี้ได้จากแอปเดสก์ท็อปสำหรับ Windows ที่มีข้อมูลโดยละเอียดและเป็นมิตรกับผู้ใช้ นอกจากนี้คุณยังสามารถดาวน์โหลดแอปในเวอร์ชันภาษาไทยได้อีกด้วย


อินเทอร์เฟซเดสก์ท็อปของ Bitdefender

การดูว่าฟีเจอร์ของ Bitdefender ทำอะไรได้บ้างนั้นเป็นเรื่องง่ายเนื่องจากคำอธิบายที่ชัดเจน

Bitdefender ยังมอบตัวเลือกในการจัดเรียงแดชบอร์ดกับคุณด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถจัดให้ฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อยที่สุดอยู่ในที่ที่คุณเข้าถึงง่ายได้ ระดับการปรับแต่งนี้ถือเป็นเรื่องที่โดดเด่นสำหรับ Bitdefender และทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมหากคุณต้องการการควบคุมรูปลักษณ์และการทำงานของแอนตี้ไวรัสของคุณ

Bitdefender มีแผนให้บริการพิเศษมากมายสำหรับ Windows PC แผนให้บริการพื้นฐานที่สุดสำหรับ Windows มีราคาอยู่ที่ $29.99 และรวมการป้องกันตามเวลาจริง การป้องกันฟิชชิ่งและการป้องกันการฉ้อโกง, VPN, การป้องกันการติดตาม, เบราว์เซอร์ SafePay, ผู้จัดการรหัสผ่านและเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร อย่างไรก็ตามฉันขอแนะนำให้จ่ายเงินเพิ่มเล้กน้อยเป็นแผนให้บริการ Internet Security เพราะมันรวมไฟร์วอลล์, การป้องกันไมโครโฟนและเว็บแคมและแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองมาให้ด้วย คุณสามารถเลือกป้องกันระหว่าง 2, 3, 5 หรือ 10 อุปกรณ์ได้ในทุกแผนให้บริการ (ด้วยราคาที่อ้างอิงตามจำนวนของอุปกรณ์)

ฉันเชื่อว่าแอนตี้ไวรัสนี้เป็นแอนตี้ไวรัสที่คุ้มค่าสำหรับราคาในปีแรกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากคุณสามารถทดสอบ Bitdefender โดยไม่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 30 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน คุณแค่ต้องส่งตั๋วอีเมลผ่านเว็บไซต์เพื่อขอรับเงินคืน Bitdefender ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการส่งอีเมลตอบกลับและฉันก็ได้รับเงินคืนใน 5 วันหลังจากที่การยกเลิกได้รับการยืนยัน

ดาวน์โหลด Bitdefender ตอนนี้!

6. Panda Dome – จัดการ PC ที่ติดไวรัสให้กลับมาทำงานได้

ฟีเจอร์หลัก:

  • ป้องกันการโจมตีมัลแวร์และแรนซัมแวร์ล่าสุดได้
  • ฟีเจอร์ที่มีมาให้รวมถึงชุดกู้ภัย (Rescue Kit), VPN, เครื่องมือป้องกันโจรและผู้จัดการรหัสผ่าน
  • รองรับ Windows 11, 10 และ 7 และ Mac, Android และ iOS
  • การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน

Panda Dome เป็นแอนตี้ไวรัสที่ยอดเยี่ยมอีกโปรแกรมหนึ่งสำหรับ Windows มันมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนใครที่ฉันไม่เคยเห็นในแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสพรีเมียมอื่น ๆ (ไม่แม้แต่ Norton หรือ Bitdefender!) ที่มีชื่อว่า Rescue Kit ฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์พิเศษสำหรับ Windows PC และสามารถช่วยกู้คืนคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัสให้กลับมาทำงานได้ มันมีฟังก์ชันการทำงาน 2 ฟังก์ชัน ได้แก่:

  • สร้างไดร์ฟ USD กู้ภัย (Create a Rescue USB Drive): เสียบไดร์ฟกับ PC ที่ติดไวรัสที่ไม่ยอมทำงานและให้ซอฟต์แวร์ของ Panda กำจัดมัลแวร์อย่างรวดเร็ว
  • ตรวจจับมัลแวร์ขั้นสูงที่ซ่อนตัว (Detect Hidden Advanced Malware): การดาวน์โหลด Cloud Cleaner จะดำเนินการสแกนเชิงลึกโดยละเอียดเพื่อตรวจจับมัลแวร์ซึ่งแอนตี้ไวรัสทั่วไปมักตรวจไม่พบ

ฉันทดสอบ Rescue Kit ของ Panda บนแล็ปท็อป Windows เก่าที่ชอบปิดตัวลงโดยไม่ได้เจตนาเพราะมันติดไวรัสมากมาย ฉันประหลาดใจมากที่มันสามารถลบไวรัสและทำให้ฉันสามารถใช้งานแล็ปท็อปได้อีกครั้งในระยะเวลาประมาณ 20 นาที ตอนที่ฉันทดสอบ Cloud Cleaner Panda ตรวจพบ PUP (โปรแกรมไม่พึงประสงค์) มากมายในเวลาน้อยกว่า 30 นาที การสแกนนี้ละเอียดมาก ๆ และก็ยังทำงานเสร็จภายในเวลาที่ค่อนข้างเร็วด้วย

เช่นเดียวกันกับ Avira Panda เสนอแผนให้บริการฟรีที่ดีพอใช้ มันมีการป้องกันมัลแวร์คุณภาพสูง (มันตรวจจับและปิดกั้นการโจมตีมัลแวร์ตามเวลาจริงได้ 100%) และมีเครื่องมือกู้ภัย USB — ซึ่งเป็นบางสิ่งที่แผนให้บริการแบบชำระเงินมากมายไม่มีให้บริการ แผนให้บริการ Dome Essential ของ Panda มีฟีเจอร์ทั้งหมดที่มีให้บริการในแผนให้บริการฟรีและการป้องกันฟิชชิ่ง, การป้องกัน WiFi, ไฟร์วอลล์และฟีเจอร์สำหรับการท่องเว็บอย่างปลอดภัย แผนให้บริการ Dome Advanced มีราคาที่แพงกว่าเล็กน้อย แต่มีการป้องกันแรนซัมแวร์และแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง

ฉันเลือกแพ็กเกจ Dome Complete เพราะมันมีทุกอย่างจากแผนให้บริการก่อนหน้าและ Data Shield, เครื่องมือทำความสะอาด PC และผู้จัดการรหัสผ่าน การตั้งค่า Password Manager นั้นยาก แต่ก็ทำงานได้ดีหลังจากที่ตั้งค่าเสร็จแล้ว คุณจะต้องเลือก Dome Premium หากคุณต้องการ VPN แต่มันมีราคาที่แพงอย่างมาก นอกจากนี้ VPN ของ Panda เองก็ยังมีข้อจำกัดในแง่ของความเร็วและการเชื่อมต่อที่ใช้งานได้ด้วย ฉันอยากให้ Panda Dome พยายามทำฟีเจอร์เสริมที่ดีกว่านี้และคำนึงถึง “คุณภาพมากกว่าจำนวน” ในแอปของ Windows

ดาวน์โหลด Panda Dome โดยไม่มีความเสี่ยง!

7. Avira – การป้องกันมัลแวร์ที่พุ่งเป้ามาที่ Windows ที่แข็งแกร่ง

ฟีเจอร์หลัก:

  • สแกนมัลแวร์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่จะไม่ทำให้ PC ของคุณทำงานช้าลง
  • ฟีเจอร์พร้อมให้บริการรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ PC, เครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวรและผู้จัดการรหัสผ่าน
  • รองรับ Windows 11, 10 และ 7 และ Mac, Android และ iOS
  • การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน

Avira เป็นแอนตี้ไวรัสที่ไม่หนักเครื่องสำหรับ Windows การสแกนซอฟต์แวร์เป็นไปอย่างรวดเร็วมากซึ่งหมายความว่าคุณไม่ต้องใช้เวลาในการรอให้การสแกนทำงานเสร็จนานก่อนที่คุณจะสามารถใช้ PC ของคุณได้ การสแกนอัจฉริยะ (Smart Scan) ทำงานเสร็จโดยใช้เวลาเพียง 2 นาทีและมันไม่ส่งผลกระทบต่อระบบของคุณเลยในขณะทำงาน ฉันพบว่าฉันสามารถสตรีม เล่นเกมและทำงานบนคอมพิวเตอร์ของฉันได้โดยไม่มีการกระตุก

สิ่งที่ทำให้ Avira โดดเด่นสำหรับฉันก็คือการอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ หนึ่งในภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดสำหรับความปลอดภัย Windows ของคุณคือแอปที่ล้าสมัยเพราะช่องโหว่เหล่านี้เป็นส่วนที่พร้อมให้มัลแวร์มาใช้ประโยชน์ Avira จะตรวจสอบทั้งระบบของคุณเพื่อมองหาการอัปเดตเป็นประจำและจะดาวน์โหลดการอัปเดตเหล่านั้นลงบน PC ของคุณโดยอัตโนมัติซึ่งทำให้มันปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา ฉันชอบฟีเจอร์นี้มาก – แม้ว่าแอนตี้ไวรัสมากมายจะมีฟีเจอร์ที่คล้ายกัน แต่มันก็ไม่ได้ทำงานโดยอัตโนมัติเสมอไป

ฟีเจอร์นี้มีความสำคำญอย่างยิ่งเนื่องจาอการทดสอบมัลแวร์เมื่อไม่นานมานี้ของ Avira แสดงให้เห็นว่ามันตรวจจับและปิดกั้นมัลแวร์เมื่อไม่นานมานี้ได้เพียง 98.9% นี่ถือว่ามากกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม แต่ก็ไม่ใช่คะแนนที่สมบูรณ์แบบเหมือนกับ Norton ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ Avira จะต้องป้องกัน PC ของคุณด้วยการอัปเดตความปลอดภัยล่าสุด

แผนให้บริการของ Avira นั้นไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับ Norton หรือ Bitdefender แต่ก็มีแผนให้บริการฟรีที่ดีพอใช้ แผนให้บริการฟรีรวมเบราว์เซอร์สำหรับการช้อปปิ้งที่ปลอดภัย, Phantom VPN (ที่มีข้อมูลฟรี 500MB ต่อเดือน), ผู้จัดการรหัสผ่านและเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร ฟีเจอร์เพิ่มเติมเพียงอย่างเดียวที่คุณจะได้รับจากแผนให้บริการ Antivirus Pro ของ Avira คือเครื่องมือป้องกันเว็บไซต์และอีเมล แผนให้บริการ Internet Security เสนอความคุ้มค่าได้ดีกว่า Antivirus Pro แต่ก็ยังน่าผิดหวัง มันมี Password Manager เวอร์ชันโปรและ Software and Driver Updater อัตโนมัติมาให้

หากคุณพบว่าตัวเองชอบลืมอัปเดตซอฟต์แวร์และต้องการแอนตี้ไวรัสที่ทั้งไม่หนักเครื่องและรวดเร็ว Avira เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า Microsoft Defender ที่มีติดตั้งมาให้ล่วงหน้าใน Windows มันไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเหมือนกับ Norton หรือ Bitdefender แต่ก็มอบความคุ้มค่าให้ได้ดี

ดาวน์โหลด Avira ฟรีบน Windows!

คำเตือน! หลีกเลี่ยงแบรนด์แอนตี้ไวรัส 2 แบรนด์นี้

1.AVG และ Avast

AVG และบริษัทในเครือ Avast ต่างก็โปรโมทความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวด้วยซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสของพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็กลายเป็นว่าทั้งสองบริษัทนี้ถูกจับได้ว่าจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้มากมาย (ซึ่งรวมถึงชื่อและที่อยู่) ซึ่งจากนั้นก็นำไปขายให้กับบริษัทชื่อดังเพื่อทำกำไร ด้วยเหตุนี้ฉันจึงแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส AVG หรือ Avast ใด ๆ ลงบนอุปกรณ์ของคุณ.

2.Microsoft Defender

Microsoft Defender เป็นชั้นการป้องกันแอนตี้ไวรัสเสริมที่มีมาให้ฟรีสำหรับอุปกรณ์ Windows ทั้งหมด อย่างไรก็ตามมันทำงานได้ไม่ดีมากพอที่จะป้องกัน PC ของคุณจากภัยคุกคามล่าสุด — ไม่มีการอัปเดตที่บ่อยพอที่จะป้องกันการโจมตีซีโร่เดย์ซึ่งทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะพบกับมัลแวร์

คำแนะนำลัด: วิธีใช้แอนตี้ไวรัสบน Windows

  1. เปิดเว็บไซต์ทางการของแอนตี้ไวรัสที่คุณเลือก ฉันแนะนำ Norton เนื่องจากมันเป็นแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows อันดับ #1 ในปี 2023

    สกรีนช็อตของหน้าแรกของเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Norton

  2. เลือกแผนให้บริการที่คุณต้องการสั่งซื้อ Norton มีการรับประกันยินดีคืนเงินที่คุณสามารถใช้เพื่อทดสอบแอนตี้ไวรัสหรือสั่งซื้อสมาชิกได้โดยไม่มีความเสี่ยง

    สกรีนช็อตของหน้าราคาของ Norton เพื่อเปรียบเทียบตัวเลือกการสมัครรับข้อมูลต่างๆ

  3. ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ลงบน Windows PC ของคุณ Windows จะถามว่าคุณต้องการอนุญาตให้แอนตี้ไวรัสดำเนินการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ของคุณหรือไม่
  4. คลิก “ติดตั้ง” และตัวติดตั้งจะถูกดาวน์โหลดและเริ่มติดตั้งแอนตี้ไวรัสให้กับคุณ นี่อาจใช้เวลาหลายนาที – Norton ใช้เวลาในการดาวน์โหลดให้เสร็จน้อยกว่า 4 นาที
  5. ทำความคุ้นเคยกับแอปแอนตี้ไวรัส Norton ใช้งานง่ายและมีป้ายกำกับชัดเจน ดังนั้นคุณจึงสามารถดูฟีเจอร์และการตั้งค่าต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย

    ภาพหน้าจอของแดชบอร์ดแอป Norton 360 สำหรับ Windows

  6. เปิดใช้งานการสแกนไวรัส สิ่งนี้จะตรวจสอบดูว่ามีมัลแวร์ที่ซ่อนตัวอยู่แล้วใด ๆ บน Windows PC ของคุณหรือไม่ มัลแวร์ใด ๆ ก็ตามที่ถูกตรวจพบจะถูกกักกันเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์ของคุณ

    ภาพหน้าจอของคุณสมบัติ Quick Scan ของ Norton 360 หลังจากเรียกใช้การสแกน

  7. เรียบร้อยแล้ว! คุณสามารถกำหนดค่าการตั้งค่าเพิ่มเติมได้หากคุณต้องการหรือคุณสามารถปล่อยให้แอนตี้ไวรัสดำเนินการป้องกัน PC ของคุณโดยอัตโนมัติได้เลย

ตารางเปรียบเทียบ: ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ในปี 2023

Norton McAfee TotalAV iolo Bitdefender Panda Avira
การป้องกันมัลแวร์ตามเวลาจริง
VPN
แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง
เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC
ราคาที่ดีที่สุด $19.99 $24.99 $29.00 $39.95 $19.99 $23.99 $45.99
อุปกรณ์ สูงสุดถึง 10 ไม่จำกัด สูงสุดถึง 6 ไม่จำกัด สูงสุดถึง 10 ไม่จำกัด สูงสุดถึง 5
OS ที่รองรับ Windows, Mac, Android, iOS Windows, Mac, Android, iOS Windows, Mac, Android, iOS Windows Windows, Mac, Android, iOS Windows, Mac, Android, iOS Windows, Mac, Android, iOS
เวอร์ชันฟรี
แอนตี้ฟิชชิ่ง
การรับประกันยินดีคืนเงิน 60 วัน 60 วัน 30 วัน 30 วัน 30 วัน 30 วัน 60 วัน

วิธีที่ฉันทดสอบและจัดอันดับแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows

ฉันตรวจสอบให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส 7 อันดับในรายการนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า Microsoft Defender และมากกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมในเรื่องของความปลอดภัย ฉันทดสอบแอนตี้ไวรัสแต่ละโปรแกรมโดยใช้เกณฑ์ดังต่อไปนี้:

  • กลไกแอนตี้ไวรัสอันแข็งแกร่ง – มัลแวร์ขั้นสูงส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้พุ่งเป้าไปที่ Windows ดังนั้นการมีการตรวจจับมัลแวร์และความสามารถในการปิดกั้นอันแข็งแกร่งจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ฉันทดสอบแอนตี้ไวรัสแต่ละโปรแกรมเพื่อให้มั่นใจว่ามันเป็นไปตามอัตราการตรวจจับมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือมากกว่า (การตรวจจับ 99.1% หรือมากกว่า) ซึ่งจะช่วยรับประกันการป้องกัน Windows PC ของคุณอย่างเต็มรูปแบบ
  • ความเร็วที่รวดเร็ว – มันเป็นเรื่องจริงที่การเปิดใช้งานการสแกนแอนตี้ไวรัสอาจทำให้ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ของคุณช้าลง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีแอนตี้ไวรัสชั้นนำบางโปรแกรมในรายการนี้ที่มีประสิทธิภาพอย่างมากและไม่ส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ ฉันยังทดสอบเพื่อดูด้วยว่ามันสามารถทำงานในพื้นหลังอย่างเงียบ ๆ โดยมีการแจ้งเตือนเพียงเล็กน้อยหรือไม่และการสแกนใช้เวลาโดยรวมนานแค่ไหน
  • ฟีเจอร์โบนัส – แผนให้บริการแอนตี้ไวรัสมากมายมีฟีเจอร์เสริมซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยยกระดับความปลอดภัยและการทำงาน แต่ฟีเจอร์โบนัสเหล่านั้นไม่ได้มีคุณภาพสูงเสมอไป เมื่อฉันพบแอนตี้ไวรัสที่มีฟีเจอร์เสริม เช่น VPN, ผู้จัดการรหัสผ่านหรือเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร ฉันจะทดสอบแต่ละฟีเจอร์เพื่อดูให้แน่ใจว่ามันคุ้มค่ากับการใช้งาน
  • ความคุ้มค่าสำหรับเงิน – บริการแอนตี้ไวรัสทั้งหมดในรายการนี้มีราคาที่สมเหตุสมผล – ที่ดีไปกว่านั้นคือโปรแกรมทั้งหมดมีการรับประกันยินดีคืนเงิน ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้งานมันได้โดยไม่มีความเสี่ยงและสามารถขอรับเงินคืนได้หากคุณเปลี่ยนใจ

คำถามที่พบบ่อย: การใช้แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows บน PC, แล็ปท็อปและแท็บเล็ต

ฉันจำเป็นต้องมีแอนตี้ไวรัสไหมถ้าฉันใช้ Windows 10/11?

จำเป็น คุณจะต้องใช้แอนตี้ไวรัสแม้ว่าคุณจะใช้ Windows 10/11 Microsoft Defender – ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสค่าเริ่มต้นของ Windows (ชื่อเดิม Windows Defender) – ไม่เพียงพอสำหรับการป้องกัน PC ของคุณจากมัลแวร์ขั้นสูง

แม้ว่ามันจะมอบการป้องกันที่น่าพึงพอใจสำหรับโทรจัน ไวรัส แรนซัมแวร์และอื่น ๆ แต่มันก็ทำให้คุณเสี่ยงกับมัลแวร์ที่เป็นอันตรายน้อยกว่าและมีขนาดเล็กกว่า แตกต่างจากบริการชั้นนำ ที่มอบการป้องกันมัลแวร์ที่ครอบคลุม Microsoft Defender มักพลาดแอดแวร์ที่มี “ความเสี่ยงต่ำ” และมัลแวร์อื่น ๆ ที่สร้างความน่ารำคาญ แต่ไม่ได้สร้างความเสียหาย มัลแวร์เหล่านี้จะไม่เข้าถึง PC ของคุณหรือขโมยข้อมูลของคุณ แต่มันจะสร้างความรำคาญให้กับคุณ เมื่อใช้บริการอย่าง Norton มันจะปิดกั้นมัลแวร์ทุกประเภท – แม้กระทั่งรายการที่มีความเสี่ยงต่ำ

Microsoft Defender ยังไม่ได้รับการอัปเดตอยู่เป็นประจำซึ่งทำให้ PC ของคุณมีช่องโหว่สำหรับภัยคุกคามใหม่ล่าสุดและแฮ็กเกอร์สามารถใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนในการป้องกันของ Windows ได้ นี่ถือเป็นเรื่องที่รับได้หากคุณไม่มีข้อมูลความลับหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณไม่ต้องการสูญเสียเก็บเอาไว้บน PC ของคุณ หากคุณจัดเก็บบางสิ่งที่สำคัญอย่างข้อมูลทางการเงิน รหัสผ่านหรือข้อมูลลงชื่อเข้าใช้เอาไว้ คุณควรจะใช้แอนตี้ไวรัสที่มีคุณภาพสูงเพื่อรับประกันความปลอดภัยของตัวคุณเองจะดีกว่า

แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows 11 จะทำงานได้บน Windows 7 และ 10 ได้หรือเปล่า?

แอนตี้ไวรัสส่วนใหญ่ที่ทำงานได้บน Windows 11 จะรองรับ 7 และ 10 ด้วย แต่มันก็ขึ้นอยู่กับแผนให้บริการส่วนบุคคล ตารางเปรียบเทียบด้านบน จะบอกรายละเอียดว่าแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสใดบ้างที่เข้ากันได้กับ Windows 7 และ 8 เช่นเดียวกันกับ Windows 10/11 หากคุณยังคงไม่มั่นใจ คุณสามารถดูความต้องการของระบบในแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสที่คุณเลือกได้ ข้อมูลเหล่านี้จะพร้อมให้บริการบนเว็บไซต์ของแอนตี้ไวรัสซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ในหน้าเดียวกันกับรายละเอียดแผนให้บริการ ที่นั่นคุณจะได้เห็นเวอร์ชันของ Windows ที่บริการดังกล่าวรองรับ

แอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10/11 คือแอนตี้ไวรัสใด?

แพ็กเกจแอนตี้ไวรัสฟรีจะไม่ป้องกัน Windows PC ด้วยซอฟต์แวร์ระดับสูงเดียวกันกับบริการพรีเมียม มันจะไม่มีฟีเจอร์อย่างการตรวจจับมัลแวร์ตามเวลาจริง เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC และผลกระทบต่อระบบต่ำที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อครอบคลุม Windows ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการพึ่งพาแอนตี้ไวรัสฟรีในการป้องกันอุปกรณ์ของคุณ

อย่างไรก็ตามคุณสามารถทดสอบแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสพรีเมียมมากมายโดยไม่มีความเสี่ยงได้ – บางโปรแกรมมีเวอร์ชันทดลองและโปรแกรมอื่น ๆ อย่าง Norton ก็มีการรับประกันยินดีคืนเงินที่ให้คุณทดสอบบริการและรับเงินคืนเต็มจำนวนได้หากคุณเปลี่ยนใจ Norton มีการรับประกันยินดีคืนเงิน 60 วันอันแสนใจกว้างที่คุณสามารถใช้เพื่อดูว่าโปรแกรมดังกล่าวเหมาะกับคุณหรือไม่ได้

แอนตี้ไวรัสจะทำให้คอมพิวเตอร์ Windows ของฉันทำงานช้าลงไหม?

บางครั้งก็ใช่ – การใช้แอนตี้ไวรัสโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิดใช้งานการสแกนระบบโดยละเอียดอาจเป็นสาเหตุให้ PC ของคุณทำงานช้าลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสในรายการนี้ได้รับการทดสอบโดยละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่ามันจะไม่ทำให้คอมพิวเตอร์ Windows ของคุณทำงานช้า ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้งานมันได้โดยไม่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพใด ๆ

การใช้แอนตี้ไวรัสที่ไม่เหมาะสมสำหรับ PC ของคุณอาจเป็นสาเหตุทำให้ระบบของคุณทำงานช้าได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากคุณเล่นวิดีโอเกมโดยส่วนใหญ่ แต่ใช้แอนตี้ไวรัสที่ไม่มีการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกม คุณจะสังเกตเห็นการกระตุกและการสะดุดเมื่อคุณเล่น สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นในกรณีที่คุณรับชมรายการและภาพยนตร์ออนไลน์ มี PC ที่ล้าสมัยหรือเปิดใช้งานแอปที่ต้องใช้พลังงาน CPU ระดับสูงได้ โชคดีที่มีแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูงที่จะไม่ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้าลง คุณจะไม่พบการกระตุกหรือการรบกวนใด ๆ เมื่อคุณลองใช้ Norton ฟรี 60 วัน

ฉันสามารถใช้แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows บน Android, iOS หรือ Mac ได้ไหม?

โดยปกติแล้วได้ – แผนให้บริการแอนตี้ไวรัสส่วนใหญ่ที่พร้อมให้บริการบน Windows จะเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์มอื่น ๆ ด้วย คุณสามารถดูได้ว่าบริการแอนตี้ไวรัสใดที่ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการณ์อื่น ๆ ได้บ้างโดยการดูที่ตารางเปรียบเทียบ

แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10/11, Norton เข้ากันได้กับแพลตฟอร์มมากมาย – โดยขึ้นอยู่กับแผนให้บริการที่คุณเลือก คุณสามารถป้องกันอุปกรณ์ Windows, Mac, Android และ iOS ได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์ คุณควรทราบว่าบริการแอนตี้ไวรัสส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับมัลแวร์บน Windows เป็นหลัก (เนื่องจากมันเป็นมัลแวร์ที่พบบ่อยที่สุด) และอาจไม่สามารถมอบการป้องกันในระดับเดียวกันบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้

ใช้ Norton ฟรี 60 วัน!

ป้องกัน PC Windows 10/11 ของคุณด้วยแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูง

มัลแวร์ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ใช้ผลประโยชน์จากช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ Windows ซึ่งทำให้การป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสชั้นนำเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ด้วยแอนตี้ไวรัสมากมายที่สัญญาว่าจะมอบการป้องกันที่ดีที่สุด การตัดสินใจที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องยาก หลังจากการทดสอบโดยละเอียด ฉันได้ทำงานอย่างหนักเพื่อคุณและสามารถแนะนำ Norton ในฐานะแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับคอมพิวเตอร์ Windows 10 ของคุณได้อย่างมั่นใจ

Norton มอบการป้องกันมัลแวร์ตามเวลาจริงที่ครอบคลุมและฟีเจอร์เสริมคุณภาพสูงมากมายสำหรับความปลอดภัย Windows หลายชั้น ที่ดีที่สุดคือมันมีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วันที่แสนใจกว้างที่ให้คุณทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมดโดยไม่มีความเสี่ยงได้เป็นระยะเวลา 60 วันเต็ม หากคุณเปลี่ยนใจเกี่ยวกับการสมัครสมาชิก คุณสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้ – ง่าย ๆ!


สรุป – ซอฟต์แวร์เหล่านี้เป็นซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับพีซีที่ใช้ Windows ในปี 2023

ตัวเลือกยอดนิยม
Norton
$9.99 / ปี ประหยัด  60%
McAfee
$39.99 / ปี ประหยัด  50%
TotalAV
$19.00 / ปี ประหยัด  61%
iolo
$25.09 / ปี ประหยัด  59%
Bitdefender
$19.99 / ปี ประหยัด  44%
Panda
$23.99 / ปี ประหยัด  64%
Avira
$26.99 / ปี ประหยัด  55%
คุณชอบบทความนี้ไหม?
โหวตให้คะแนนเลยสิ!
ฉันเกลียดมัน ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ พอใช้ได้ ค่อนข้างดี รักเลย!
4.50 ได้รับการโหวตให้คะแนนโดย 2 ผู้ใช้
ชื่อเรื่อง
ความคิดเห็น
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณ