5 สุดยอดโปรแกรมป้องกันไวรัสบน iOS (iPhone และ iPad) 2024
ไม่มีเวลาอ่านใช่ไหม? นี่คือแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ iOS ในปี 2024
Norton เป็นแอนตี้วรัส iOS ที่ดีที่สุดที่มาพร้อมกับการป้องกันเว็บไซต์, การสแกน WiFi, การป้องกัน SMS, VPN ภายในตัวและอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ดีที่สุดคือคุณสามารถลองใช้ Norton โดยไม่มีความเสี่ยงบน iOS ได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน
iOS เป็นระบบปฏิบัติการมือถือที่ปลอดภัยที่สุดเพราะแอป “แซนด์บ็อกซ์” อย่างไรก็ตาม คุณควรทราบว่าอุปกรณ์ iOS นั้นยังคงมีช่องโหว่สำหรับภัยคุกคามทางออนไลน์ เช่น การฟิชชิ่ง การสแกมทางอีเมล โฆษณาป๊อปอัพและภัยคุกคามทางออฟไลน์อย่างโจร
การป้องกันอุปกรณ์ของคุณจากความเสี่ยงเหล่านี้นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นผมจึงคัดเลือกโซลูชันแอนตี้ไวรัส iOS ชั้นนำอย่างรอบคอบ ผมได้ประเมินแอปพลิเคชันความปลอดภัยมากมายที่มีให้บริการในร้านค้าแอปของ Apple แต่ละตัวเลือกเหล่านี้มอบฟังก์ชันความปลอดภัยที่ล้ำค่า เช่น การป้องกันเว็บไซต์, การป้องกัน SMS และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งหมดนี้จะช่วยทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของอุปกรณ์ของคุณ
โดยรวมแล้ว Norton Mobile Security เป็นแอนตี้ไวรัส iOS ที่ดีที่สุดโดยมีการป้องกันเว็บไซต์ที่ยอดเยี่ยม, VPN ภายในตัวและฝ่ายสนับสนุนลูกค้าชั้นเลิศ นอกจากนี้คุณยังสามารถลองใช้ Norton บน iOS โดยไม่มีความเสี่ยงได้อีกด้วยเพราะบริการดังกล่าวมีการรับประกันยินดีคืนเงินที่แสนใจกว้างถึง 60 วัน
ลองใช้ Norton โดยไม่มีความเสี่ยง!
คู่มือฉบับย่อ: โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone และ iPad ในปี 2024
- Norton – แอนตี้ไวรัส iOS อันดับที่ #1 ที่ป้องกันอุปกรณ์ของคุณจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั้งหมดได้ ลองใช้ Norton โดยไม่มีความเสี่ยง
- TotalAV – มี VPN ที่จะช่วยยกระดับความปลอดภัยทางออนไลน์ แต่ไม่มีการป้องกัน SMS
- McAfee – มีสแกนเนอร์ WiFi เพื่อตรวจสอบว่าคุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ปลอดภัยหรือไม่ แต่ฟีเจอร์ดังกล่าวไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้เท่า Norton
- Bitdefender – เสนอการป้องกันเว็บไซต์ที่ยอดเยี่ยมเพื่อป้องกันเว็บไซต์อันตราย แต่ VPN จำกัดข้อมูลการใช้งาน 200MB/วันในแผนสมาชิกส่วนใหญ่
- Avira – มีเครื่องมือป้องกันโจรที่มีประโยชน์เพื่อติดตามอุปกรณ์ที่ถูกขโมย แต่ไม่มีสแกนเนอร์ WiFi
5 โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone และ iPad (ทดสอบเมื่อ 2024)
1. Norton – แอนตี้ไวรัส iOS ที่ดีที่สุดที่มีการป้องกั้นขั้นสูงสำหรับภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั้งหมด
คุณสมบัติที่สำคัญ:
- เสนอการป้องกันเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางออนไลน์
- มีความปลอดภัย WiFi และ VPN ที่มีการเข้ารหัส AES 256-บิต
- มีแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงและฝ่ายสนับสนุนผ่านทางโทรศัพท์
- ใช้งานได้บน iOS 14.0 และใหม่กว่า (iPhone, iPad และ iPod Touch)
- รับประกันคืนเงิน 60 วัน
Norton Mobile Security สำหรับ iOS นั้นดีที่สุดเนื่องจากมีการป้องกันระดับสูงสุดจากภัยคุกคามออนไลน์ คุณลักษณะการป้องกันเว็บที่มีความแม่นยำสูงจะบล็อกเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย และหยุดการดาวน์โหลดที่เป็นอันตรายและการหลอกลวงแบบฟิชชิง ฉันได้ลองเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ทดสอบหลายแห่งและ Norton บล็อกได้ทุกเว็บไซต์
ในระหว่างการทดสอบ การป้องกันเว็บไซต์ของ Norton ป้องกันผมจากเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยทั้งหมดได้ ผมลองโหลดเว็บไซต์มากมายที่รู้กันว่ามีมัลแวร์และการป้องกันเว็บไซต์ของ Norton ก็แสดงคำเตือนกับผมก่อนที่จะโหลดมันขึ้นมา ในทางกลับกัน Safari อนุญาตการเข้าถึงเว็บไซต์บางเว็บไซต์เหล่านี้ ซึ่งหมายความว่า Norton เป็นตัวเลือกที่น่าไว้วางใจมากกว่าความปลอดภัยภายในตัวของ Apple ในบางครั้ง
Norton ยังมี VPN ภายในตัวที่ยอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับเซิร์ฟเวอร์มากมายในตำแหน่งต่าง ๆ กว่า 25 ตำแหน่ง เพื่อนร่วมงานและผมใช้มันเพื่อเข้าถึง Netflix ในบ้านเกิดได้ ซึ่งรวมถึง Netflix ของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ VPN ของ Norton ยังมอบความเร็วการเชื่อมต่อที่รวดเร็วด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าคุณจะสามารถท่องเว็บได้อย่างราบรื่นและสตรีมในความละเอียดระดับ UHD ได้โดยไม่กระตุกหรือสะดุด
นอกจากฟีเจอร์ข้างต้นแล้ว Norton ยังมีเครื่องมือเหล่านี้สำหรับความปลอดภัย iOS เพิ่มเติมด้วย:
- การป้องกันการโทรและ SMS – ปิดกั้นสายโทรที่ไม่พึงประสงค์และลิงก์ที่ไม่ปลอดภัยในข้อความ
- การสแกนความปลอดภัย – ตรวจสอบอุปกรณ์ของคุณเพื่อให้มั่นใจว่า OS และแอปของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุด
- การตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูล – ให้คุณตรวจสอบว่ารหัสผ่านหรือข้อมูลความลับของคุณรั่วไหลทางออนไลน์หรือไม่
- เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาและการติดตาม – ทำงานร่วมกันกับ VPN เพื่อปิดกั้นคุกกี้ การติดตามและไฟล์อื่น ๆ ที่อาจติดตามกิจกรรมทางออนไลน์ของคุณ
ผมยังพบด้วยว่าแอปที่ไม่หนักเครื่องของ Norton นั้นไม่ส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ แม้ในขณะที่ทำงานอย่างต่อเนื่องในพื้นหลัง แถมมันยังมีขนาดมากกว่า 100MB เล็กน้อย ซึ่งหมายความว่ามันมีขนาดเล็กกว่าแอนตี้ไวรัส iOS อื่น ๆ
Norton ยังมีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยมผ่านทางแชทออนไลน์ ฝ่ายสนับสนุนทางโทรศัพท์และฐานข้อมูลความรู้ออนไลน์ ผมติดต่อกับเจ้าหน้าที่ทางแชทออนไลน์ได้ภายในหนึ่งนาทีทุกเมื่อที่ผมต้องการความช่วยเหลือและเจ้าหน้าที่ก็ให้คำตอบที่มีประโยชน์กับคำถามของผมเสมอ
คุณสามารถใช้ Norton บน iOS ด้วยแผนสมาชิก Norton Mobile Security ที่ครอบคลุม 1 อุปกรณ์ได้ แต่ถึงอย่างนั้นแผนสมาชิก 360 Deluxe ของ Norton จะมอบความคุ้มค่าได้มากที่สุด มันมีราคาเพียง /ปีและให้คุณป้องกันได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์ในขณะที่มีฟีเจอร์เสริมอย่างเครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กและเครื่องมือจัดการรหัสผ่านมาให้ด้วย
การสมัครสมาชิกทั้งหมดของ Norton นั้นมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงิน 60 วัน เพื่อให้คุณสามารถทดลองใช้บริการได้โดยปราศจากความเสี่ยง ฉันทดสอบนโยบายการคืนเงิน และพวกเขาใช้เวลาน้อยกว่า 5 นาทีในการอนุมัติคำขอของฉันผ่านแชทสดตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้นฉันได้รับเงินคืนใน 5 วัน!
2. TotalAV – ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ iOS ของคุณในขณะที่ป้องกันมันจากภัยคุกคามทางออนไลน์
คุณสมบัติที่สำคัญ:
- มี VPN ภายในตัวเพื่อเข้ารหัสและป้องกันกิจกรรมทางออนไลน์ของคุณ
- มีเครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพที่จะทำให้อุปกรณ์ iOS ของคุณมีพื้นที่ว่างมากขึ้น
- ป้องกันเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายด้วย WebShield
- ป้องกัน iOS 11.0 และใหม่กว่า (iPhone, iPad และ iPod Touch)
- รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
แอป TotalAV Mobile Security มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายสำหรับอุปกรณ์ iOS คุณสมบัติทั้งหมด (เช่น การสแกนหรือการตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์) สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว นี่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ที่เพิ่งเริ่มใช้โปรแกรมป้องกันไวรัส
ฉันประทับใจเป็นอย่างยิ่งกับเครื่องมือจัดการรูปภาพของ TotalAV ซึ่งเป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างในอุปกรณ์ของคุณ ตรวจสอบรูปภาพของคุณเพื่อค้นหาภาพที่ซ้ำกัน รูปภาพที่ถูกคัดกรอง รูปภาพที่กินพื้นที่ และอื่น ๆ – และช่วยให้คุณลบพวกมันออกได้ในทันที เมื่อฉันเรียกใช้เครื่องมือจัดการรูปภาพ มันใช้เวลาน้อยกว่า 10 วินาทีในการตรวจสอบรูปภาพขนาด 5GB บน iPhone ของฉัน ฉันพบรูปภาพที่ฉันสามารถลบได้มากกว่า 500 รูป ซึ่งเพิ่มพื้นที่ว่างกว่า 1.2GB บนอุปกรณ์ของฉัน
TotalAV ยังมี Smart Scan เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ iOS ของคุณเพื่อมองหาช่องโหว่ด้วย ใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีในการดำเนินการให้เสร็จและไฮไลท์ว่า OS หรือแอปใด ๆ ของคุณต้องได้รับการอัปเดตหรือไม่เพื่อป้องกันช่องโหว่ที่ผู้โจมตีอาจใช้ประโยชน์ได้
นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือตรวจสอบรหัส QR ที่ไม่เหมือนใครใน TotalAV ที่จะปิดกั้นเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังรหัส QR เว็บไซต์ฟิชชิ่งในทุกวันนี้ใช้รหัส QR เพื่อหลอกให้คุณเปิดมัน แต่ TotalAV จะตรวจสอบรหัสเหล่านี้และปิดกั้นเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายใด ๆ ที่พวกมันพยายามจะเปิดขึ้นมา
แม้ว่าจะไม่ได้มีฟีเจอร์มากมายเหมือน Norton แต่ TotalAV ก็มีเครื่องมือดังต่อไปนี้สำหรับความปลอดภัย iOS ที่ได้รับการปรับปรุง:
- WebShield – หยุดคุณจากการเปิดเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยที่อาจทำให้อุปกรณ์ติดมัลแวร์
- VPN ภายในตัว – ใช้การเข้ารหัส AES 256-บิตที่เป็นมาตรฐานระดับอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันกิจกรรมออนไลน์ของคุณ
- การตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูล – ตรวจสอบว่ารหัสผ่านของคุณรั่วไหลในการรั่วไหลของข้อมูลหรือไม่
แผน Mobile Security ของ TotalAV เป็นหนึ่งในตัวเลือกแยกต่างหากที่มีราคาแพงกว่า หากคุณลงทุนในแพ็คเกจ Total Security แทน คุณสามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ถึง 6 เครื่องในหลายแพลตฟอร์ม (รวมถึง iOS) ในราคาเดียวกัน นอกจากนี้คุณสามารถใช้การรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันของ TotalAV เพื่อทดสอบบริการโดยปราศจากความเสี่ยงได้ ฉันโทรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเพื่อขอเงินคืน และมันถูกดำเนินการใน 5 นาที ฉันได้รับเงินคืนภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์
3. McAfee Mobile Security – ฟีเจอร์เสริมที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสำหรับ iOS
คุณสมบัติที่สำคัญ:
- มีสแกนเนอร์ WiFi และการป้องกันเว็บไซต์ที่จะดูแลให้คุณออนไลน์อย่างปลอดภัย
- มีการป้องกัน ID เพื่อตรวจสอบรหัสผ่านและข้อมูลที่รั่วไหล
- มี VPN ภายในตัวที่มาพร้อมกับการเข้ารหัส AES 256-บิต
- ป้องกันอุปกรณ์บน iOS 14.0 และใหม่กว่า (iPhone, iPad และ iPod Touch)
- มีการรับประกันยินดีคืนเงิน 30 วัน
McAfee มอบความปลดอภัยที่ยอดเยี่ยมบนอุปกรณ์ iOS ต้องขอบคุณฟีเจอร์ความปลอดภัยที่หลากหลาย แต่ถึงอย่างนั้น หนึ่งในด้านที่โดดเด่นของ McAfee ก็คือมันแสดงคะแนนการป้องกันจาก 1000 คะแนนที่จะทำให้คุณรู้ว่าอุปกรณ์ของคุณปลอดภัยมากแค่ไหน หากคะแนนของคุณต่ำ มันก็จะให้คำแนะนำแก่คุณเพื่อยกระดับคะแนนให้มากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ Safe Browsing ใน McAfee ช่วยคุณหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย ในการทดสอบของผม McAfee ปิดกั้นเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายทั้งหมดที่ผมพยายามจะเปิดได้ แถมยังมี VPN ภายในตัวเพื่อเข้ารหัสเส้นทางการรับส่งข้อมูลของคุณและสแกนเนอร์ WiFi ที่จะตรวจสอบเครือข่ายของคุณและทำให้มั่นใจว่าคุณปลอดภัยจากผู้บุกรุก
นอกจากนี้คุณยังจะได้รับฟีเจอร์ดังต่อไปนี้ในแอป iOS ของ McAfee เพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติมด้วย:
- การสแกนระบบ – ตรวจสอบอุปกรณ์สำหรับการอัปเดต OS และแอปเพื่อป้องกันช่องโหว่
- การตรวจสอบ ID – ตรวจสอบที่อยู่อีเมลสูงสุดถึง 10 ที่อยู่เพื่อมองหาการรั่วไหลและแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัย
แอปของ McAfee นั้นใช้งานได้ง่าย แต่ยากกว่า Norton เล็กน้อย ดังนั้นการค้นหาฟีเจอร์ที่คุณต้องการอาจใช้เวลานานกว่า แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่หนักเครื่อง ไม่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วและไว้วางใจได้
คุณสามารถป้องกันอุปกรณ์ iOS อุปกรณ์เดียวได้ด้วยแผนสมาชิก McAfee Mobile Security แต่ถึงอย่างนั้น แผนสมาชิก Total Protection Plus ของ McAfee ก็มอบความคุ้มค่าได้ดีกว่าโดยเสนอฟีเจอร์มากกกว่าและให้คุณป้องกันได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกันในราคาเพียง $49.99/ปี
นอกจากนี้ยังมีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันที่ให้คุณลองใช้ McAfee ได้โดยไม่มีความเสี่ยงบนอุปกรณ์ iOS ของคุณ หากไม่พึงพอใจ คุณสามารถร้องขอเงินคืนได้ง่าย ๆ โดยการติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ McAfee ผ่านทางโทรศัพท์ ผมได้รับเงินคืนภายใน 7 วันหลังส่งคำขอคืนเงินตอนที่ผมทดสอบเสร็จแล้ว
4. Bitdefender – ป้องกันความเป็นส่วนตัวของคุณโดยการช่วยคุณตรวจสอบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณรั่วไหลหรือไม่ในการรั่วไหลของข้อมูล
คุณสมบัติที่สำคัญ:
- ให้คุณตรวจสอบบัญชีที่ถูกรุกล้ำและข้อมูลที่รั่วไหลในการรั่วไหลของข้อมูล
- มีการสแกนความปลอดภัยที่ให้เคล็ดลับเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของอุปกรณ์ให้ดียิ่งขึ้น
- รองรับ iOS 12.0 ขึ้นไป (iPhone, iPad และ iPod Touch)
- มี VPN ภายในตัวที่มีการเข้ารหัส AES 256-บิต
- การรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
Bitdefender มีเครื่องมือมากมายเพื่อป้องกันอุปกรณ์ iOS ฟีเจอร์ที่ดีที่สุดคือเครื่องมือความเป็นส่วนตัวของบัญชี (Account Privacy) ซึ่งให้คุณตรวจสอบได้ว่าข้อมูลใด ๆ ของคุณรั่วไหลหรือไม่ ผมยังชอบที่เครื่องมือนี้ให้คุณใช้ที่อยู่อีเมลได้หลายที่อยู่ ซึ่งนั่นทำให้มั่นใจได้ว่าอีเมลทั้งหมดของคุณนั้นปลอดภัยและได้รับการป้องกัน
ผมยังพบด้วยว่า VPN ของ Bitdefender มอบความปลอดภัยที่ไว้วางใจได้ตลอดการทดสอบของผม ผมทดสอบเซิร์ฟเวอร์มากมายและ Bitdefender ก็ดูแลให้ผมปลอดภัยโดยการทำให้มั่นใจว่าหมายเลข IP ของผมหรือข้อมูลที่ระบุตัวตนได้อื่น ๆ นั้นไม่รั่วไหล
น่าเสียดายที่แผนสมาชิกส่วนใหญ่จำกัดข้อมูลการใช้งาน VPN ที่ 200MB/วัน ซึ่งรวมกันเท่ากับ 6GB/เดือน ข้อมูลการใช้งานนี้ถือว่ามากเพียงพอสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่แอปอย่าง Norton เสนอการใช้งาน VPN แบบไม่จำกัด
นอกจากนี้คุณยังจะได้รับฟีเจอร์ความปลอดภัย iOS ดังต่อไปนี้จากแอปของ Bitdefender ด้วย:
- การป้องกันเว็บไซต์ – หยุดคุณจากการเปิดเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยที่มีมัลแวร์
- การสแกนความปลอดภัย – ตรวจสอบอุปกรณ์ของคุณและให้เคล็ดลับเพื่อปรับปรุงความปลอดภัย
แม้ว่าแผนสมาชิก Mobile Security จะให้คุณป้องกันได้ 1 อุปกรณ์ แต่คุณควรเลือกแผนสมาชิก Total Security ของ Bitdefender เพื่อความคุ้มค่าที่สุด มันป้องกันอุปกรณ์ iOS ได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์และเสนอฟีเจอร์ที่สำคัญของ Bitdefender ในราคาเพียง $40.99/ปี
คุณสามารถลองใช้ Bitdefender โดยไม่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 30 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน คุณสามารถขอเงินคืนได้ง่าย ๆ โดยการติดต่อฝ่ายสนับสนุนหากคุณไม่พึงพอใจและผมได้รับเงินคืนภายใน 5 วันหลังจากที่ส่งคำขอคืนเงิน
5. Avira – มอบเครื่องมือป้องกันโจรเพื่อช่วยกู้คืนอุปกรณ์ iOS ที่ถูกขโมยไป
คุณสมบัติที่สำคัญ:
- ช่วยหาตำแหน่งอุปกรณ์ที่ถูกขโมยด้วยฟีเจอร์ป้องกันโจรที่ไว้วางใจได้
- เสนอ VPN ที่ไว้วางใจได้และการป้องกันเว็บไซต์เพื่อป้องกันกิจกรรมทางออนไลน์ของคุณ
- รองรับ iOS 12 ขึ้นไป (iPhone, iPad และ iPod Touch)
- ให้คุณปิดกั้นสายโทรศัพท์และข้อความที่ไม่ต้องการทั้งหมดได้
- รับประกันคืนเงินภายใน 60 วัน
Avira Mobile Security เป็นแอนตี้ไวรัสที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์มากมายสำหรับ iOS มันมีฟังก์ชันการทำงานมากมายเพื่อยกระดับการป้องกัน iOS แต่ฟีเจอร์การป้องกันขโมยเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด การป้องกันขโมยจะให้คุณติดตามอุปกรณ์ เปิดใช้เสียงสัญญาณและแม้กระทั่งลบข้อมูลของคุณออกจากระยะไกลได้ในกรณีที่ถูกขโมย
ผมดีใจมากที่ได้เห็นว่าการป้องกันเว็บไซต์ที่ไว้วางใจได้ของ Avira หยุดผมจากการเปิดเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายได้ในการทดสอบของผม นอกจากนี้ยังมี VPN ภายในตัวที่มาพร้อมกับการเข้ารหัส AES 256-บิตด้วย ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมในขณะที่ท่องเว็บ คุณยังได้รับฟีเจอร์ดังต่อไปนี้สำหรับการป้องกันเพิ่มเติมด้วย:
- การตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูล – ตรวจสอบว่าบัญชีของคุณรั่วไหลในการรั่วไหลของข้อมูลหรือไม่
- เครื่องมือปิดกั้นการโทรเข้า – ปิดกั้นการโทรเข้าและข้อความรบกวนที่ไม่พึงประสงค์
- เครื่องมือวิเคราะห์อุปกรณ์ – สแกนอุปกรณ์ของคุณและแนะนำการเพิ่มประสิทธิภาพต่าง ๆ มากมาย
- เครื่องมือจัดการความเป็นส่วนตัว – ป้องกันการลงชื่อเข้าใช้ที่ไม่พึงประสงค์และบทวิเคราะห์ข้อมูลบทสนทนา Siri ของคุณ
แม้ว่ามันจะเป็นแอนตี้ไวรัสที่ดีโดยรวม แต่ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ Avira นั้นแย่มาก ไม่มีแชทออนไลน์และฝ่ายสนับสนุนทางอีเมลก็ใชเวลานานกว่าหนึ่งวันในการตอบกลับ ในทางกลับกัน คุณจะได้รับการตอบกลับโดยทันทีผ่านแชทออนไลน์ของ Norton ในทุกเมื่อที่คุณต้องการความช่วยเหลือ
แผนสมาชิก Mobile Security ของ Avira ป้องกันอุปกรณ์ iOS ได้เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้น ดังนั้นคุณจึงควรเลือกแผนสมาชิก Prime ของ Avira เพื่อความคุ้มค่าที่ดีที่สุด แผนสมาชิกดังกล่าวป้องกันอุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกันในราคาเพียง $59.99/ปี
แน่นอนว่าคุณสามารถลองใช้ Avira โดยไม่มีความเสี่ยงได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วันและคุณสามารถขอเงินคืนได้ฝ่าย ๆ โดยการส่งอีเมลไปหาฝ่ายสนับสนุนของ Avira หากคุณไม่พึงพอใจ ผมได้รับเงินคืนภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่มีการยืนยันคำขอคืนเงินของผมแล้ว
แบรนด์โปรแกรมป้องกันไวรัสชั้นยอดที่ไม่ติดอันดับ
นี่คือโปรแกรมป้องกันไวรัสสองโปรแกรมที่คุณควรหลีกเลี่ยง หากคุณกำลังมองหาการป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ iOS ของคุณ
1. Intego
Intego ถูกออกแบบมาโดยเน้นไปที่เครื่อง Mac ทำให้มันเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ Mac ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ iOS ด้วย ดังนั้นฉันจึงประหลาดใจที่พบว่า Intego ไม่มีแอปสำหรับมือถือ
2. iolo
iolo เป็นแอนตี้ไวรัสที่ยอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับการสแกนไวรัสที่ไว้วางใจได้และฟีเจอร์ความปลอดภัยและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอื่น ๆ น่าเสียดายที่มันเป็นแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ที่ไม่มีแอปสำหรับ iOS ซึ่งหมายความว่าคุณไม่สามารถใช้บริการดังกล่าวเพื่อป้องกัน iPhones หรือ iPad ของคุณได้
ตารางเปรียบเทียบ: สุดยอดแอปป้องกันไวรัสสำหรับอุปกรณ์ iOS ใด ๆ ของปี 2024
การป้องกันเว็บ | VPN | การป้องกันระบบเครือข่าย WiFi | การป้องกัน SMS | การรับประกันเงินคืน | |
Norton | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | 60 วัน |
TotalAV | ✔ | ✔ | ✘ | ✘ | 30 วัน |
McAfee | ✔ | ✔ | ✔ | ✘ | 30 วัน |
Bitdefender | ✔ | ✔ | ✘ | ✘ | 30 วัน |
Avira | ✔ | ✔ | ✔ | ✘ | 60 วัน |
5 ขั้นตอนง่าย ๆ: วิธีการติดตั้งแอนตี้ไวรัสบน iOS
- สมัครสมาชิกแผนบริการที่เข้ากันได้กับ iOS สมัครสมาชิกแผนบริการใด ๆ ของแอนตี้ไวรัสที่คุณเลือกที่เข้ากันได้กับ iOS ผมแนะนำให้คุณเลือก Norton เพื่อป้องกันอุปกรณ์ iOS ของคุณเพราะฟีเจอร์การป้องกันที่ยอดเยี่ยม
- ดาวน์โหลดแอนตี้ไวรัสลงบนอุปกรณ์ iOS ของคุณ เปิดร้านค้าแอปของ Apple และดาวน์โหลดแอปที่คุณสมัครสมาชิกเอาไว้
- ลงชื่อเข้าใช้ด้วยข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณ ลงชื่อเข้าใช้แอปด้วยข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ที่คุณลงทะเบียนไว้ตอนสมัครสมาชิก
- ไปยังเมนูความปลอดภัย แตะที่ปุ่มความปลอดภัย (Security) เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ความปลอดภัยต่าง ๆ
- ป้องกันอุปกรณ์ iOS ของคุณ ใช้การสแกนอุปกรณ์และฟีเจอร์อื่น ๆ เพื่อป้องกัน iPhone และ iPad ของคุณเลย
ฉันทดสอบและจัดอันดับโปรแกรมป้องกันไวรัสยอดนิยมสำหรับ iOS อย่างไร
ฉันได้พิจารณาแพ็คเกจโปรแกรมป้องกันไวรัสมากกว่า 20 แพ็คเกจเพื่อค้นหาแอปที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ iOS ฉันทดสอบโดยใช้ iPhone XS และ iPad ของฉัน ทั้งคู่ทำงานบน iOS 15 นี่คือเกณฑ์ที่ฉันใช้ตรวจสอบเทียบกัน:
- การป้องกันทางออนไลน์และเว็บไซต์ – ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดสำหรับอุปกรณ์ iOS ของคุณก็คือการโจมตีทางเว็บไซต์ – การหลอกลวงแบบฟิชชิง เว็บไซต์ปลอม การเชื่อมต่อ WiFi สาธารณะ และตัวติดตามกิจกรรม ฉันทดสอบโปรแกรมป้องกันไวรัสแต่ละตัวเพื่อค้นหาคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น การท่องเว็บอย่างปลอดภัย การสแกนความปลอดภัยของ WiFi และเครื่องมือป้องกันตัวติดตาม เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับการปกป้องจากภัยคุกคามเหล่านี้
- การใช้งานง่าย – ฉันดูว่าการตั้งค่าโปรแกรมป้องกันไวรัสนั้นใช้เวลานานเพียงใด รวมถึงผสานรวมเข้ากับระบบปฏิบัติการได้ดีเพียงใด ฉันตรวจสอบด้วยว่าแอปไม่ได้ใช้พื้นที่มากเกินไปหรือทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วเกินไป
- การป้องกันการโจรกรรมและความปลอดภัยของอุปกรณ์ – อีกหนึ่งความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่สำหรับอุปกรณ์ iOS ของคุณก็คือการถูกขโมย ฉันทดสอบความสามารถในการป้องกันการโจรกรรมของโปรแกรมป้องกันไวรัสแต่ละตัวเพื่อตรวจสอบการเข้าถึงจากระยะไกล สัญญาณเตือนการโจรกรรม และความสามารถในการลบข้อมูลทั้งหมด
- การเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ – บริการแอนตี้ไวรัสชั้นนำควรจะป้องกันได้มากกว่าแค่ iPhone หรือ iPad ของคุณ ฉันจัดอันดับแผนสมัครสมาชิกที่ป้องกันอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากมายเนื่องจากนี่เป็นการมอบระดับการป้องกันโดยรวมที่ดียิ่งขึ้นสำหรับคุณ
- ความคุ้มค่าเงิน – ฉันพิจารณาคุณสมบัติอันหลากหลายที่โปรแกรมป้องกันไวรัสนำเสนอ และตรวจสอบว่าคุณสมบัติเหล่านี้ทำงานได้ดีเพียงใด เพื่อดูว่าโปรแกรมใดให้คุณค่าที่ดีที่สุด
- ตัวเลือกการสนับสนุนลูกค้า – การตอบกลับอย่างรวดเร็วสำหรับปัญหาที่คุณอาจมีกับโปรแกรมป้องกันไวรัสของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญ ฉันทดสอบตัวเลือกการสนับสนุนลูกค้าที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อค้นหาว่าตัวเลือกใดตอบกลับอย่างเร็วที่สุด
คำถามที่พบบ่อย: แอปป้องกันไวรัสสำหรับ iPhone และ iPad ของ Apple
ฉันจำเป็นต้องใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสสำหรับ iPhone หรือ iPad หรือไม่?
จำเป็น ถึงแม้ว่า iOS จะมีความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม แต่มันก็ไม่ได้รับการปกป้องอย่างสมบูรณ์แบบจากภัยคุกคามออนไลน์ วิธีการ “แซนด์บ็อกซ์” ของ Apple สำหรับแอปหมายความว่าแอปสามารถทำงานได้เฉพาะในพื้นที่ที่กำหนด – โดยไม่สามารถเข้าถึงแอปอื่นเพื่อเผยแพร่ไวรัสได้ นี่คือการรักษาความปลอดภัยจากไวรัสชั้นยอดของ Apple แต่นี่เป็นการโจมตีออนไลน์เพียงแค่ 1 ประเภทเท่านั้น ภัยคุกคามต่อ iOS มาจากเว็บไซต์ สแปม หรือฟิชชิ่ง แฮกเกอร์ แอดแวร์ และสปายแวร์ เครือข่าย WiFi ที่ไม่ปลอดภัย และอื่น ๆ
แอปป้องกันไวรัสคุณภาพสูงสำหรับ iOS จะช่วยให้คุณสามารถบล็อกการเชื่อมต่อที่อาจเป็นอันตรายและการโจมตีออนไลน์ที่ออกแบบมาเพื่อทำลายข้อมูลของคุณได้ บริการอย่าง Norton จะช่วยปกป้องอุปกรณ์ iOS ของคุณจากภัยคุกคามทางเว็บไซต การโจรกรรม และอัปเดตแอปของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงช่องโหว่ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้งานมันได้บนหลายแพลตฟอร์มเพื่อปกป้องอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ
ฉันสามารถสแกน iPhone หรือ iPad เพื่อหามัลแวร์ได้หรือไม่?
ไม่ได้ – เนื่องจาก “แซนด์บ็อกซ์” แอปป้องกันไวรัสไม่สามารถสแกนอุปกรณ์ iOS ของคุณได้เนื่องจากแอปไม่สามารถโต้ตอบกับแอปอื่นได้ แต่แอปป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ iOS จะปกป้องอุปกรณ์และข้อมูลของคุณจากภัยคุกคามภายนอก เช่น การหลอกลวงแบบฟิชชิ่งและการสูญหายหรือการโจรกรรม
แอปป้องกันไวรัสไม่ได้สแกนหาไวรัส แต่ค้นหาช่องโหว่และช่องว่างด้านความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น โปรแกรมป้องกันไวรัสสามารถตรวจจับได้ว่าระบบปฏิบัติการของคุณมีการอัปเดตหรือไม่และขอให้คุณดาวน์โหลดการอัปเดท โปรแกรมป้องกันไวรัสของคุณยังสามารถสแกนการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณเพื่อค้นหาปัญหาด้านความปลอดภัยและแนะนำขั้นตอนในการแก้ไขปัญหา
แอปป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดบน iOS คือแอปใด?
แอปป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ iOS คือ Norton Mobile Security ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันไวรัสที่จำเป็นในการปกป้อง iPhone ของคุณจากการโจมตีทางเว็บ แฮกเกอร์ และเครือข่าย WiFi ที่ไม่ปลอดภัย คุณยังจะได้รับ VPN ที่ปลอดภัยเพื่อปกปิดกิจกรรมและสถานที่ของคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือตรวจสอบเว็บมืดของ Norton เพื่อตรวจสอบการละเมิดข้อมูลสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
ทุกแผนการสมัครสมาชิกจาก Norton มีการรับประกันคืนเงิน 60 วัน ฉันชอบที่ฉันพวกเขาให้เวลานานมากสำหรับการทดสอบ Norton โดยปราศจากความเสี่ยงและการตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันเหมาะกับฉัน เหนือสิ่งอื่นใด การอนุมัติเงินคืนใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที และฉันจะได้รับเงินคืนภายใน 5 วัน!
ฉันสามารถใช้แอนตี้ไวรัส iOS ฟรีแทนได้ไหม?
ได้ แต่ผมไม่แนะนำให้ใช้ แตกต่างจากแอนตี้ไวรัสพรีเมียมที่ดีที่สุด แอนตี้ไวรัส iOS ฟรีไม่ได้มีฟีเจอร์ความปลอดภัยมากนักและมักจะมีแอปที่ดูรกที่เต็มไปด้วยโฆษณาน่ารำคาญมากมาย
แม้ว่าจะมีแอนตี้ไวรัส iOS ฟรีที่มีประสิทธิภาพที่คุณสามารถลองใช้งานดูได้ แต่คุณจะได้รับความปลอดภัยที่ดีที่สุดด้วยแอปความปลอดภัยพรีเมียมชั้นนำ
ปกป้องอุปกรณ์ iOS ของคุณด้วยแอปป้องกันไวรัสระดับพรีเมียม
ซอฟต์แวร์ของ Apple มีความปลอดภัยจากไวรัส แต่การใช้งานโดยไม่มีการป้องกันเพิ่มเติมจะทำให้ iPhone และ iPad ของคุณเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางออนไลน์ได้ ถึงแม้ว่าจะมีโปรแกรมป้องกันไวรัสฟรี คุณก็ยังไม่สามารถปกป้องอุปกรณ์ iOS ของคุณจากการหลอกลวงแบบฟิชชิ่งและแฮกเกอร์ได้
วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์และข้อมูลของคุณก็คือการใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสระดับพรีเมียม แอปอย่าง Norton Mobile Security ปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากภัยคุกคามและนำเสนอคุณสมบัติพิเศษที่ปรับปรุงความเป็นส่วนตัวของคุณ
นอกจากนี้โปรแกรมป้องกันไวรัสทั้งหมดในรายการนี้ยังมีการรับประกันคืนเงินที่คุณสามารถใช้เพื่อทดสอบบริการก่อนที่จะสมัครสมาชิกได Norton ให้เวลาคุณ 60 วันเต็มในการทดสอบการรักษาความปลอดภัยบนมือถือโดยปราศจากความเสี่ยง!
แสดงความคิดเห็น
ยกเลิก