8 VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2023 (ปลอดภัย + ฟรี 100%)
การค้นหา VPN ฟรีที่ปลอดภัยและทำงานได้ดีนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย – แต่ฉันก็ทำได้ มี VPN ฟรีมากมายที่อันตรายเป็นอย่างยิ่งซึ่งทำให้คุณเสี่ยงกับมัลแวร์และการติดตาม แม้ว่ามันจะสอบผ่านในแบบทดสอบด้านความปลอดภัย แต่ VPN ฟรีส่วนใหญ่ก็มีขีดจำกัดข้อมูล ทำงานได้ช้าหรือไม่สามารถปลดบล็อกเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้
ทีมงานและฉันได้ทดสอบ VPN มากกว่า 100 โปรแกรมและฉันก็ได้สร้างรายการ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2023 นี้ขึ้นมา โปรดทราบว่าไม่มี VPN ฟรีใดที่สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพเท่า VPN พรีเมียม คุณจะยังต้องพบกับบางสิ่ง เช่น ขีดจำกัดข้อมูลและความเร็วที่ไม่เสถียร
หากคุณต้องการป้องกันตัวคุณเองจากปัญหาต่าง ๆ ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ ExpressVPN โดยปราศจากความเสี่ยง มันไม่ใช่โปรแกรมฟรี แต่มันเป็น VPN ที่รวดเร็วและไว้วางใจได้มากที่สุดที่ฉันเคยใช้มา มันมีการรับประกันยินดีคืนเงิน 30 วัน (ซึ่งใช้งานได้จริง 100%) ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลว่าคุณจะติดแหงกอยู่กับ VPN ที่คุณไม่ชอบ
ลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยง!
คำแนะนำฉบับลัด: VPN ฟรีและเสียเงินที่ดีที่สุดที่คุณสามารถไว้วางใจได้ในปี 2023
- ExpressVPN – ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในระดับที่ยอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับความเร็วที่รวดเร็วในเครือข่ายของเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก ลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยง!
- CyberGhost – เซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อการสตรีมมิ่งและโหลดบิท แต่เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลจะเป็นสาเหตุให้เกิดความล่าช้าอย่างเห็นได้ชัด
- NordVPN – เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วและไว้วางใจได้ แต่มีจำนวนเซิร์ฟเวอร์ Obfuscated ที่จำกัด
- Surfshark – เสนอการเชื่อมต่อในเวลาเดียวกันแบบไม่จำกัด แต่แผนสมาชิก 1 เดือนมีราคาแพง
- Proton VPN – ข้อมูลไม่จำกัดฟรีและความเร็วที่รวดเร็ว แต่มีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เพียง 3 ตำแหน่งเท่านั้น
- Hotspot Shield – ความเร็วที่ดีและไม่จำกัดความเร็ว แต่ไม่สามารถปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ได้
- hide.me – ไม่จำกัดข้อมูลพร้อมตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ฟรี 5 ตำแหน่ง แต่ไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เฉพาะเจาะจงได้หลังจากที่มีการใช้ข้อมูลไป 10GB แล้ว
- TunnelBear – สิทธิ์ในการเข้าถึงตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด 45 ตำแหน่งฟรี แต่จำกัดข้อมูลฟรีเพียง 500MB ต่อเดือนเท่านั้น
ทางเลือก VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2023
1. ExpressVPN – ความเร็วที่รวดเร็วและฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งสำหรับความเป็นส่วนตัวทางออนไลน์
ฟีเจอร์หลัก:
- ข้อมูลไม่จำกัดสำหรับการสตรีมมิ่ง, Torrenting และการเล่นเกมแบบไม่จำกัด
- เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกมากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว, การเข้ารหัสแบบ AES-256 บิต, Kill Switch, การป้องกันการรั่วไหลและเซิร์ฟเวอร์บน RAM
- อนุญาตให้เชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 8 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน
- แอปสำหรับ Windows, Mac, Android, iOS, Linux, Android TV, Amazon Fire TV และ Fire Stick, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ฝ่ายสนับสนุนผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงและอีเมลพร้อมให้บริการ
ExpressVPN ไม่ใช่บริการฟรี ดังนั้นคุณจึงอาจสงสัยว่าแล้วทำไมเราถึงจัดอันดับให้มันเป็น VPN อันดับ #1 ในรายการนี้ เหตุผลก็คือ ExpressVPN มีความเร็วเซิร์ฟเวอร์ที่ยอดเยี่ยม ความปลอดภัยระดับชั้นนำและนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด แม้ว่ามันจะไม่ได้เปิดให้บริการฟรี แต่มันก็มีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถสั่งซื้อได้ด้วยความมั่นใจ หากคุณไม่พึงพอใจ คุณสามารถขอเงินคืนได้ เรื่องนี้ล่ะที่ทำให้บริการไหน ๆ ก็เอาชนะ ExpressVPN ได้ยาก
ในการทดสอบของฉัน ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ มากกว่า 50 เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย ฉันประทับใจที่ ExpressVPN ทำให้เกิดความเร็วล่าช้าลงเล็กน้อยจากความเร็วปกติของฉันที่ 590Mbps เหลือประมาณ 370Mbps นี่ถือว่าเร็วมากเมื่อพิจารณาจากตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ค่อนข้างห่างไกล ฉันไม่พบปัญหากับหน้าที่โหลดช้าลง วิดีโอกระตุกหรือการเล่นเกมที่สะดุดเลย
เราดีใจที่ได้พบว่า ExpressVPN ทำงานร่วมกันกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ได้อยู่เสมอ เราเลยไม่ต้องมานั่งเสียเวลามองหาเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานได้ – สามารถเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดได้ตั้งแต่ครั้งแรก เรื่องนี้ทำให้ ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่เป็นประจำและคุณต้องการเข้าถึงบัญชีสตรีมมิ่งที่บ้านของคุณ ในระหว่างการทดสอบ ExpressVPN สามารถเข้าถึงบริการดังต่อไปนี้ได้:
Netflix | Disney+ | Hulu | Amazon Prime Video | BBC iPlayer |
HBO Max | Showtime | Peacock TV | YouTube TV | ESPN |
DAZN | CBS | Hotstar | Discovery+ | …และอื่น ๆ อีกมากมาย! |
เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวชั้นนำอยู่เสมอตอนที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ทุกแผนสมาชิกจึงมาพร้อมกับฟีเจอร์ดังต่อไปนี้:
- การเข้ารหัสระดับทหาร AES 256-บิต – ป้องกันการเชื่อมต่อของคุณในทุกเซิร์ฟเวอร์
- การป้องกันการรั่วไหล DNS และ IP – ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ
- Obfuscation ในทุกเซิร์ฟเวอร์ – ปิดบังเส้นทางการรับส่งข้อมูล VPN ของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับพร็อกซีที่สามารถปิดกั้นการเชื่อมต่อของคุณได้
- Kill Switch อัตโนมัติ – ตัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตหากการเชื่อมต่อ VPN เกิดถูกขัดจังหวะ
- เทคโนโลยี TrustedServer – ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ RAM ที่ไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลใด ๆ ทางกายภาพได้
- นโยบายความเป็นส่วนตัวซึ่งไม่มีการบันทึกการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว – ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะไม่มีวันถูกจัดเก็บเอาไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN
คุณสามารถลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยงได้เนื่องจากบริการดังกล่าวมีนโยบายการรับประกันยินดีคืนเงินที่ได้รับการทดลองและทดสอบแล้ว หากคุณไม่พึงพอใจกับบริการดังกล่าว คุณสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้ภายใน 30 วัน – เราทดสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเองและเราก็ทำมันได้ง่าย ๆ VPN อื่น ๆ ที่เราเคยทดสอบเอาแต่ทำให้เราเสียเวลาโดยการพยายามแก้ไขปัญหาหรือดึงให้เราใช้งานอยู่ต่อ แต่ ExpressVPN ดำเนินการคืนเงินให้โดยทันที เราได้รับเงินคืนเข้าบัญชีธนาคารภายใน 5 วัน
คุณสามารถลงทะเบียนสำหรับแผนให้บริการแบบ 1 เดือน, 6 เดือนหรือ 1 ปีโดยแผนที่คุ้มค่าที่สุดมีราคาเพียง $6.67 ต่อเดือนเท่านั้น (แผนสมัครสมาชิก: 15 เดือน)
ExpressVPN ทำงานได้บน: Windows, Mac, Linux, Chromebook, Android, iOS, Chrome, Firefox, Edge, PlayStation, Xbox, Nintendo Switch, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Nvidia Shield, Xiaomi Mi Box, Google Chromecast, Roku, Android TVs, สมาร์ททีวี, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
อัปเดต 2023! ExpressVPN ปรับลดราคาภายในช่วงระยะเวลาที่จำกัดเหลือเพียง $6.67 ต่อเดือนเท่านั้นในแผนให้บริการแบบ 1 ปี (คุณสามารถประหยัดเงินได้สูงสุดถึง 49%) + รับเพิ่มอีก 3 เดือนฟรี! นี่เป็นข้อเสนอจำกัดเวลา ดังนั้นอย่าลืมคว้ามันเอาไว้เลยตอนนี้ก่อนที่มันจะหายไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ได้ที่นี่
2. CyberGhost – เซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการสตรีมมิ่ง, Torrenting และอื่น ๆ อีกมากมาย
ฟีเจอร์หลัก:
- ไม่มีขีดจำกัดข้อมูลหรือแบนด์วิดธ์เพื่อการท่องอินเทอร์เน็ตแบบไม่จำกัด
- มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 10.529 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกใน 100 ประเทศ
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว, Kill Switch, การป้องกันการรั่วไหลและการเข้ารหัสระดับสูง
- เชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 7 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน
- ทำงานได้บน Windows, Mac, Android, iOS, Linux, Android TV, Amazon Fire TV, Amazon Fire Stick, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าตลอด 24/ ชั่วโมงผ่านแชทออนไลน์และอีเมล
CyberGhost เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับมือใหม่เนื่องจากมันแบ่งเซิร์ฟเวอร์ออกตามกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจง เช่น การสตรีมมิ่ง, Torrenting และการเล่นเกม เซิร์ฟเวอร์เฉพาะเหล่านี้ได้รับการทดสอบเป็นประจำและได้รับการปรับแต่งเพื่อรับประกันถึงการเชื่อมต่อที่ราบลื่น
ในแอปสำหรับ Windows คุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งได้โดยการคลิกที่ For streaming, For torrenting หรือ For gaming server lists ใน Mac คุณจะมีหมวดหมู่แค่ For downloading (Torrenting) และ For streaming เท่านั้น นี่คือฟีเจอร์ทั้งหมดที่คุณไม่น่าจะเคยเห็นใน VPN ฟรี

ในระหว่างการทดสอบของเรา เราพบว่าเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อการสตรีมมิ่งของ CyberGhost ทำงานได้อย่างไรที่ติซึ่งมาพร้อมกับบริการอีกมากมายซึ่งรวมถึง:
Netflix | Disney+ | Hulu | HBO Max | BBC iPlayer |
Amazon Prime Video | Showtime | Yle | Rai Play | …และอื่น ๆ อีกมากมาย! |
เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวชั้นนำอยู่เสมอตอนที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ CyberGhost คุณจะพบว่าทุกแผนสมาชิกมาพร้อมกับฟีเจอร์ระดับชั้นนำดังต่อไปนี้:
- การเข้ารหัสระดับทหาร AES 256-บิต – ทุกเซิร์ฟเวอร์รับประกันว่าการเชื่อมต่อของคุณจะปลอดภัย
- Kill Switch อัตโนมัติ – ปิดกั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตโดยทันทีหากการเชื่อมต่อ VPN ถูกขัดจังหวะโดยไม่คาดคิด
- การป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล – ปิดกั้นการรั่วไหลของ DNS และ IP ซึ่งช่วยปิดบังตัวตนของคุณตอนที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ของ CyberGhost
- WiFi Auto-Connect – เริ่มการเชื่อมต่อ VPN โดยอัตโนมัติตอนที่ใช้เครือข่าย WiFi ที่ไม่ปลอดภัยซึ่งช่วยป้องกันคุณจากแฮกเกอร์และสายลับ
- ตัวปิดกั้นโฆษณาอันตราย – หยุดโฆษณาที่มีมัลแวร์เพื่อหลีกเลี่ยงการสแกมฟิชชิ่งและลิงก์เว็บไซต์ที่เป็นอันตราย
- เซิร์ฟเวอร์ Obfuscated “NoSpy” ขั้นสูง – เพื่อการไม่เปิดเผยตัวตนโดยสมบูรณ์ตอนที่ส่งหรือรับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
- นโยบายความเป็นส่วนตัวซึ่งไม่บันทึกข้อมูลที่ได้รับการทดสอบแล้วและเซิร์ฟเวอร์บน RAM – รับประกันว่าข้อมูลของคุณจะไม่มีวันถูกบันทึกหรือจัดเก็บตอนที่คุณเชื่อมต่อ
ข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดคือความเร็วของเราลดลงเฉลี่ย 34.7% จาก 350Mbps เหลือประมาณ 228.41Mbps เรายังสังเกตเห็นความล่าช้ามากขึ้นในการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลเมื่อเทียบกับ VPN อื่น ๆ ในรายการนี้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นความเร็ว – ทั้งในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้และไกล – ก็ยังมากกว่าที่คุณจะได้รับจาก VPN ฟรี
แม้ว่า CyberGhost จะมีแผนสมาชิกมากมาย แต่เราพบว่าแผนสมาชิกที่คุ้มค่ามากที่สุดมีราคาเพียง $2.03 ต่อเดือนเท่านั้น (การสมัครสมาชิกแบบ 2 ปี + ฟรี 4 เดือน) จริง ๆ แล้ว นี่ทำให้มันเป็นหนึ่งใน VPN รายเดือนที่มีราคาน่าคบหามากที่สุดด้วย
แม้ว่ามันจะไม่ใช่บริการฟรี แต่ CyberGhost ก็มีการรับประกันยินดีคืนเงินที่แสนใจกว้าง – มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะหากคุณกำลังเดินทางไปต่างประเทศหรือแค่ต้องการใช้ VPN ในระยะเวลาสั้น ๆ เพราะคุณสามารถร้องขอเงินคืนได้ภายใน 45 วัน เราทดสอบกระบวนการขอเงินคืนนี้ด้วยตัวเองแล้วและเจ้าหน้าที่แชทออนไลน์ก็ใช้เวลาเพียงสองสามนาทีเท่านั้นในการจัดการคืนเงินให้เรา เราได้รับเงินคืนภายในหนึ่งสัปดาห์
CyberGhost ทำงานได้บน: Windows, Mac, Linux, Android, iOS, Raspberry Pi, Chrome, Firefox, PlayStation, Xbox, Nintendo Switch, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Roku, สมาร์ททีวี, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
รับข้อเสนอ Black Friday และข้อเสนอ Cyber Monday จาก CyberGhost! คุณสามารถสมัครสมาชิก CyberGhost ได้ในราคาแสนถูกเพียง $2.03 ต่อเดือน + รับเพิ่มฟรี 4 เดือนฟรีในแผนให้บริการแบบ 2 ปี (ประหยัดได้สูงสุดถึง 84%)! นี่เป็นข้อเสนอจำกัดเวลา ดังนั้นอย่าลืมคว้ามันเอาไว้ก่อนตอนนี้ก่อนมันจะหายไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ได้ที่นี่
3. NordVPN – ประสิทธิภาพระดับไฮเอนท์ในราคารายเดือนแสนถูก
ฟีเจอร์หลัก:
- ไม่จำกัดข้อมูลเพื่อการสตรีมมิ่ง โหลดบิทและเล่นเกมได้อย่างราบรื่น
- เครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 5.974 เซิร์ฟเวอร์ในประเทศต่าง ๆ กว่า 60 ประเทศ
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว, การเข้ารหัส AES-256 บิตและฟีเจอร์ CyberSec
- รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเวลาเดียวกันสูงสุดถึง 6 การเชื่อมต่อ
- รองรับ Windows, Mac, Android, iOS, Linux, Android TV, Amazon Fire TV and Fire Stick, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
- แชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงและฝ่ายสนับสนุนทางอีเมลพร้อมให้บริการ
แม้ว่า NordVPN จะไม่ได้เปิดให้บริการฟรีโดยสมบูรณ์ แต่มันก็ได้รับการจัดอันดับในระดับที่สูงมากในหมู่ตัวเลือก VPN ที่มีราคาน่าคบหา ด้วยเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมและราคาที่น่าคบหา NordVPN จึงเป็นทางเลือกสำหรับ VPN ฟรี 100% ที่ยอดเยี่ยม
แตกต่างจาก VPN ฟรี NordVPN มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 5.974 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกซึ่งช่วยมอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรให้กับผู้ใช้ เราลองเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ NordVPN อยู่หลายเซิร์ฟเวอร์ในประเทศต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลียและเยอรมนี ในทุกกรณี เราสามารถท่องเว็บได้อย่างรวดเร็วและสตรีมมิ่งในความละเอียดระดับ UHD ได้โดยไม่สะดุด นอกจากนี้ยังมีการรองรับเส้นทางการรับส่งข้อมูล P2P ในหลาย ๆ เซิร์ฟเวอร์พร้อมแบนด์วิดธ์ไม่จำกัดตามมาตรฐานในทุกเซิร์ฟเวอร์ ความสามารถในการรองรับการใช้งานที่หลากหลายนี้คือสิ่งที่คุณจะไม่พบใน VPN ฟรี

NordVPN ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยมมากมายได้ซึ่งช่วยให้คุณเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ มากมายได้ ในการทดสอบของเรา NordVPN ปลดบล็อกบริการดังต่อไปนี้ได้:
Netflix | Amazon Prime Video | BBC iPlayer | Hulu | Disney+ |
SkyTV | HBO Max | SHOWTIME | DAZN | …และอื่น ๆ อีกมากมาย! |
บริการดังกล่าวเสนอชุดฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเพื่อทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของข้อมูลของคุณ:
- การเข้ารหัสระดับทหาร AES 256-บิต – ป้องกันการรับส่งข้อมูลของคุณในทุกเซิร์ฟเวอร์
- การป้องกันการรั่วไหล DNS และ IP – ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล
- ฟีเจอร์ CyberSec – ปิดกั้นมัลแวร์และโฆษณาน่ารำคาญ
- Kill Switch อัตโนมัติ – ยกเลิกการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหากการเชื่อมต่อ VPN เกิดหลุด
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว – รับประกันว่าข้อมูลของคุณจะไม่มีวันถูกบันทึกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของ NordVPN
ข้อเสียเล็กน้อยเรื่องหนึ่งคือความสามารถของเซิร์ฟเวอร์ Obfuscated ที่จำกัด ซึ่งอาจเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการหลีกเลี่ยงการปิดกั้น VPN ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์ทางออนไลน์ที่เข้มงวด อย่างไรก็ตาม คุณควรทราบว่า NordVPN มีเซิร์ฟเวอร์ Obfuscated อย่างน้อย 2 เซิร์ฟเวอร์ในภูมิภาคหลักแต่ละภูมิภาคทั่วโลก สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่า NordVPN ยังมอบโซลูชันที่ไว้วางใจได้สำหรับผู้ใช้ในประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นและรักษาความเป็นส่วนตัวทางออนไลน์
มีแผนสมาชิกที่มีระยะเวลาการใช้งานที่ต่างกันมากมายให้เลือกสรร โดยแผนสมาชิกระยาวจะมอบความคุ้มค่ามากที่สุดในราคาเพียง $2.99 ต่อเดือน (แผนสมัครสมาชิก: 2 ปี) โดยรวมแล้ว ราคาของ NordVPN ถือว่าแข่งขันได้และมอบความคุ้มค่าได้ดีกว่า VPN ฟรี ซึ่งมักมาพร้อมกับข้อจำกัดในแง่ของความเร็ว ความปลอดภัยและสิทธิ์ในการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์
คุณสามารถลองใช้ NordVPN ได้อย่างมั่นใจเนื่องจากมันมีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน เราทดสอบการรับประกันนี้ด้วยตัวเองผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงและพบว่าขั้นตอนดังกล่าวเป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย เราได้รับเงินคืนเข้าบัญชีใน 6 วันทำการเท่านั้น
NordVPN ทำงานได้บน: Windows, Mac, Linux, Chromebook, Android, iOS, Chrome, Firefox, Edge, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Nvidia Shield, Xiaomi Mi Box, Google Chromecast, Android TVs, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
4. Surfshark – ผู้ให้บริการ VPN ราคาสบายกระเป๋าที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบ ∞
ฟีเจอร์หลัก:
- ไม่มีขีดจำกัดข้อมูลหรือแบนด์วิดธ์เพื่อการท่องอินเทอร์เน็ตได้แบบไม่จำกัด
- 3200 เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 100 ประเทศ
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด, Kill Switch, การป้องกันการรั่วไหล, การเข้ารหัสขั้นสูงและโหมด Camouflage (โหมดพรางตัว)
- การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันแบบ ∞
- ทำงานได้บน Windows, Mac, Android, iOS, Linux, Android TV, Amazon Fire TV, Amazon Fire Stick, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงผ่านแชทออนไลน์และอีเมล
Surfshark โดดเด่นเพราะความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันแบบ ∞ จำนวน สิ่งนี้ช่วยให้คุณป้องกันอุปกรณ์ทั้งหมดที่บ้านของคุณได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการลงชื่อออกจาก VPN หลังจากที่คุณถึงขีดจำกัดการเชื่อมต่อสูงสุดแล้ว ฟีเจอร์นี้ทำให้ Surfshark แตกต่างจากทั้ง VPN ฟรีและ VPN พรีเมียมมากมาย ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าทุกอุปกรณ์ในครัวเรือนของคุณจะได้รับประโยชน์จากความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยระดับชั้นนำ
ในระหว่างการทดสอบฟีเจอร์การเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไม่จำกัดของ Surfshark เราเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ถึง 10 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกันและพบว่ามันสามารถรักษาความเร็ว ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามากพอสำหรับการสตรีมมิ่งในความละเอียดระดับ Ultra High Definition (UHD) และการเล่นเกมเวลาแฝงต่ำในเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ใกล้กัน นอกจากนี้เรายังพบด้วยว่า Surfshark เป็นบริการที่พึ่งพาได้ที่มอบสิทธิ์ในการเข้าถึงแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง:
Netflix | Amazon Prime Video | BBC iPlayer | Hulu | …และอื่น ๆ อีกมากมาย! |
นอกจากนี้มันยังมอบฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวระดับชั้นนำที่หาได้ยากที่พร้อมให้บริการใน VPN ฟรีด้วย ฟีเจอร์เหล่านี้จะทำให้มั่นใจได้ถึงการป้องกันกิจกรรมทางออนไลน์ของคุณ:
- การเข้ารหัสระดับทหาร AES 256-บิต – ดูแลให้เส้นทางการรับส่งข้อมูลของคุณในทุกเซิร์ฟเวอร์ปลอดภัย
- การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) – เพิ่มชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับกระบวนการลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณ
- โหมด Camouflage – ปิดบังการใช้ VPN ของคุณจาก ISP และผู้ดูแลเครือข่าย
- ฟีเจอร์ CleanWeb – ปิดกั้นมัลแวร์ การฟิชชิ่งและโฆษณาน่ารำคาญ
- Kill Switch อัตโนมัติ – ยกเลิกการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตหากการเชื่อมต่อ VPN เกิดหลุด
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด – ยืนยันว่าข้อมูลของคุณจะไม่มีวันถูกจัดเก็บเอาไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของ Surfshark
ข้อเสียเล็กน้อยอย่างหนึ่งของ Surfshark นั้นแผนสมาชิก 1 เดือนมีราคาค่อนข้างแพง ซึ่งเทียบเท่ากับ ExpressVPN ได้เลย อย่างไรก็ตาม แผนสมาชิกระยะยาวกว่านั้นมีราคาที่ถูกลงอย่างมาก มันทำให้ Surfshark เป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์มากขึ้น หากคุณยอมสมัครสมาชิกระยะยาว คุณก็สามารถใช้ประโยชน์จากส่วนลดสำหรับแผนสมาชิกระยะยาวได้ที่ $1.99 ต่อเดือน (แผนสมัครสมาชิก: 2 ปี)
เนื่องจากมันไม่ใช่บริการฟรีโดยสมบูรณ์ ดังนั้นคุณจะต้องดีใจที่ได้รู้ว่า Surfshark มีการรับประกันยินดีคืนเงิน หากคุณไม่พึงพอใจ คุณสามารถส่งคำขอเงินคืนได้ภายใน 30 วัน ในการทดสอบของเรา เราขอคืนเงินผ่านแชทออนไลน์และได้รับเงินคืน 4 วันหลังจากนั้น
Surfshark ทำงานได้บน: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, Chromebook, Chrome, Firefox, Edge, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Android TVs, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
VPN ฟรี 100% ที่ดีที่สุดในปี 2023
1. Proton VPN – ข้อมูลไม่จำกัดฟรีและไม่มีโฆษณา
ฟีเจอร์หลัก:
- ข้อมูลฟรีไม่จำกัดโดยไม่มี
- 24 เซิร์ฟเวอร์ฟรีใน 3 ประเทศ (สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์)
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด, การเข้ารหัสระดับทหาร, Kill Switch และการป้องกันการรั่วไหล
- รองรับการเชื่อมต่อ 1 อุปกรณ์ในแต่ละครั้ง
- เข้ากันได้กับ Windows, Mac, Android, iOS, Linux, Chromebook และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าพร้อมให้บริการผ่านทางอีเมล
Proton VPN มีข้อมูลฟรีไม่จำกัดและสิทธิ์ในการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากคุณสามารถเข้าถึงได้เพียง 3 ประเทศเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น ฉันจึงคาดหวังว่าความเร็วของฉันจะต้องช้าลงในเซิร์ฟเวอร์เหล่านั้นที่อยู่อีกฟากของโลกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามฉันประทับใจกับความเร็วที่รวดเร็ว – ฉันได้รับความเร็วที่ช้าลงโดยเฉลี่ยประมาณ 33% เท่านั้น มีการกระตุกเล็กน้อยตอนที่สตรีมมิ่ง ท่องเว็บและช้อปปิ้งออนไลน์
ฉันประหลาดใจที่ได้พบว่า Proton VPN ยังเป็นตัวเลือกฟรีที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีมมิ่ง Netflix ด้วย บนเว็บไซต์ การสนับสนุนสตรีมมิ่งนั้นพร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการเฉพาะสำหรับผู้สมัครสมาชิก Plus และ Visionary เท่านั้น อย่างไรก็ตามทีมงานและฉันสามารถเข้าถึง Netflix ได้ในทุกประเทศเซิร์ฟเวอร์ในการทดสอบ

บริษัทมีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้วและตั้งอยู่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งมีกฎหมายความเป็นส่วนตัวและการป้องกันข้อมูลที่เข้มงวด กิจกรรมการท่องเว็บของคุณยังได้รับการป้องกันเพิ่มเติมด้วยการเข้ารหัสแบบ AES-256 บิต, Kill Switch และการป้องกันการรั่วไหลด้วย คุณยังสามารถตั้งค่า Split Tunneling หรือปรับแต่งการตั้งค่า DNS ของคุณซึ่งเป็นฟีเจอร์ขั้นสูงที่มักสงวนไว้สำหรับบัญชีที่ชำระเงินได้อีกด้วย
แม้ว่าคุณจะสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้นสำหรับแผนให้บริการฟรี แต่คุณสามารถกำหนดค่า Proton VPN บนเราเตอร์ที่บ้านของคุณได้ สิ่งนี้จะทำให้คุณสามารถป้องกันอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณได้ตราบใดที่อุปกรณ์เหล่านั้นเชื่อมต่อกับ WiFi ของคุณ เพื่อเริ่มต้นใช้งานและดาวน์โหลด Proton VPN ฟรี สิ่งที่คุณต้องมีคือที่อยู่อีเมล คุณไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใด
น่าเสียเยที่คุณจะไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึง SecureCor, Tor หรือเซิร์ฟเวอร์ 10 Gbit ได้ ไม่มีการรองรับ Torrenting ในแผนให้บริการฟรีด้วยเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าเซิร์ฟเวอร์ฟรีจะไม่ทำงานหนักเกินไปสำหรับผู้ใช้ฟรีรายอื่น ๆ แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังหากคุณต้องการแบ่งปันไฟล์ผ่าน BitTorrent
แผนให้บริการแบบชำระเงินของ Proton VPN มีราคาที่แพงเล็กน้อยหากคุณกำลังมองหาการอัปเกรด แผนให้บริการที่มีราคาถูกที่สุดมาพร้อมกับราคา $4.99 ต่อเดือน (แผนสมัครสมาชิก: 2 ปี) ในราคาที่ใกล้เคียงกันนี้ – แต่มีภาระผูกพันสั้นกว่า – คุณสามารถใช้ความเร็วและความปลอดภัยอันยอดเยี่ยมของ ExpressVPN สำหรับ Torrenting, สตรีมมิ่งและอื่น ๆ อีกมากมายได้
Proton VPN ทำงานได้บน: Windows, Mac, Linux, Chromebook, Android, iOS, Chrome, Firefox, Edge, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Nvidia Shield, Xiaomi Mi Box, Google Chromecast, Android TVs, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
2. Hotspot Shield – การท่องเว็บความเร็วสูงที่มาพร้อมกับข้อมูลฟรี 500MB ต่อวัน
ฟีเจอร์หลัก:
- ไม่จำกัดข้อมูลรายเดือน – ไม่มีขีดจำกัดการใช้งาน
- 1 เซิร์ฟเวอร์เสมือนฟรีในสหรัฐอเมริกา
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน การเข้ารหัสแบบ AES 256-บิตและการป้องกันการรั่วไหล
- อนุญาตให้เชื่อมต่อได้เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้น
- แอปฟรีสำหรับ Windows, Mac, iOS และ Android
- ไม่มีฝ่ายสนับสนุนผ่านทางอีเมลหรือแชทสดสำหรับแผนให้บริกาฟรี
Hotspot Shield เสนอข้อมูลรายเดือนแบบไม่จำกัดพร้อมไม่มีขีดจำกัดการใช้งานซึ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่ง ท่องเว็บ ช้อปปิ้งและออนไลน์อื่น ๆ แถมการเชื่อมต่อของคุณยังได้รับการสนับสนุนจากฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวระดับสูงซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณได้รับการป้องกันอยู่ตลอดเวลาด้วย
VPN ฟรีใช้การเข้ารหัสแบบ AES 256-บิตและการป้องกันการรั่วไหลแบบเดียวกันกับเวอร์ชันพรีเมียม (แม้ว่าจะไม่มี Kill Switch ในแผนให้บริการฟรีก็ตาม) ฉันดำเนินการทดสอบการรั่วไหลมากมายและฉันก็ยินดีที่ได้พบว่า Hotspot Shield ปิดบังหมายเลข IP และ DNS ที่แท้จริงของฉันได้สำเร็จ นอกจากนี้คุณยังได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงโปรโตคอล Hydra Catapult, OpenVPN และ IPsec อีกด้วย
ฉันประทับใจกับความเร็วที่รวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ฉันเชื่อมต่อกับโปรโตคอล Hydra Catapult อันเป็นกรรมสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม Hotspot Shield กำหนดแบนด์วิดธ์ไว้ 2Mbps เพื่อพยายามให้คุณอัปเกรด นี่หมายความว่าฉันต้องพบกับการกระตุกอยู่บ้างตอนที่สตรีมมิ่งบน YouTube นอกจากนี้มันยังใช้เวลาในการโหลดเว็บไซต์สักพักด้วย

คุณไม่สามารถปลดบล็อก Netflix และบริการสตรีมมิ่งตามตำแหน่งอื่น ๆ ได้ ฟังก์ชันนี้สงวนเอาไว้สำหรับผู้ใช้พรีเมียมของ Hotspot Shield เท่านั้น – และหากคุณจะชำระเงิน CyberGhost มีเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการสตรีมมิ่งและมันมีราคาเพียง $2.03 ต่อเดือน (เทียบกับแผนให้บริการที่มีราคาถูกที่สุดของ Hotspot Shield ที่ราคา $2.99 ต่อเดือน)
อย่างไรก็ตามข้อเสียอย่างยิ่งคือ VPN ฟรีได้รับการสนับสนุนบางส่วนโดยโฆษณา แม้ว่าบริษัทจะไม่บันทึกกิจกรรมใด ๆ ที่สามารถย้อนกลับไปหาคุณได้ แต่มีการเก็บรวบรวม OS อุปกรณ์และข้อมูลด้านภูมิศาสตร์ทั่วไป นี่หมายความว่าคุณจะเห็นโฆษณาที่ปรับแต่งให้เหมาะกับคุณเมื่อคุณท่องเว็บ
ฉันพบว่า Hotspot Shield เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการท่องเว็บทั่วไปตราบใดที่คุณไม่คิดมากเรื่องโฆษณาที่ปรับแต่งมาสำหรับคุณเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นการสร้างบัญชี Hotspot Shield ฟรีและดาวน์โหลดแอปบนอุปกรณ์ของคุณก็เป็นเรื่องง่าย คุณยังสามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองเวอร์ชันพรีเมียมฟรีเป็นระยะเวลา 7 วันได้อีกด้วย – หากคุณยกเลิกทันที คุณจะยังสามารถใช้งานแผนให้บริการแบบชำระเงินได้ตลอดระยะเวลาทดลองใช้งาน
Hotspot Shield ทำงานได้บน: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, Chromebook, Chrome, Firefox, Edge, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Android TVs, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
3. hide.me – ไม่มีขีดจำกัดข้อมูลและตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ฟรี 5 ตำแหน่ง
ฟีเจอร์หลัก:
- ข้อมูลไม่จำกัดที่ไม่มีการควบคุมความเร็ว
- 5 ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ฟรี (สหรัฐอเมริกาตะวันออก, สหรัฐอเมริกาตะวันตก, แคนาดา, เยอรมนีและเนเธอร์แลนด์)
- การเข้ารหัสระดับทหาร การป้องกันการรั่วไหลและนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด
- อนุญาตให้เชื่อมต่อได้ 1 อุปกรณ์
- ทำงานได้บน Windows, Mac, Android, iOS, Linux, Amazon Fire TV, Blackberry, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าผ่านทางอีเมลเท่านั้น
แผนให้บริการฟรีของ hide.me มีข้อมูลไม่จำกัดและมอบสิทธิ์ในการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ใน 8 ประเทศ อย่างไรก็ตามหลังจากที่คุณใช้ข้อมูลไป 10GB แล้ว คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้เลือกการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ของคุณอีกต่อไป – คุณจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ฟรีแบบสุ่มโดยอัตโนมัติแทน
ตราบใดที่คุณไม่คิดมากเรื่องตำแหน่งที่คุณเชื่อมต่อ hide.me ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการท่องเว็บที่ปลอดภัย คุณจะได้รับการป้องกันด้วยนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว ดังนั้นประวัติการท่องเว็บและข้อมูลที่ระบุตัวตนได้ของคุณจะไม่มีวันถูกแบ่งปันหรือถูกติดตาม สำนักงานใหญ่ของบริษัทตั้งอยู่ในมาเลเซียซึ่งอยู่นอกเครือข่ายการแบ่งปันข่าวกรองระดับโลกใด ๆ
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันพรีเมียมอย่างการเชื่อมต่ออัตโนมัติ, Split Tunnelling และ Stealth Guard สำหรับเซิร์ฟเวอร์ Obfuscation ด้วย คุณสามารถเลือกโปรโตคอลได้ตั้งแต่ IKEv2, OpenVPN และ SoftEther (WireGuard พร้อมให้บริการเฉพาะสำหรับแผนให้บริการแบบชำระเงินเท่านั้น)
ฉันดำเนินการทดสอบความเร็วในเซิร์ฟเวอร์ฟรีของ hide.me และมันมีความเร็วในการดาวน์โหลดที่รวดเร็วพอ แต่ความเร็วในการอัปโหลดที่ช้า แม้ว่านี่จะเหมาะสำหรับการดาวน์โหลดและการท่องเว็บ แต่ฉันก็พบกับการสะดุดและกระตุกอยู่บ้างตอนอัปโหลดไฟล์และโทรผ่านวิดีโอ

น่าเสียดายที่ทีมงานและฉันไม่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมากมายผ่านเซิร์ฟเวอร์ฟรีของ hide.me ได้ ฉันสามารถเข้าถึง Netflix ของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้เป็นบางครั้ง แต่คุณจะต้องอดทนและลองเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ มากมายเพื่อค้นหาตัวเลือกที่ใช้งานได้
ในแผนให้บริการพรีเมียมของ hide.me Netflix และ Amazon Prime Video ก็ยังไม่สามารถทำงานได้อยู่เสมอสำหรับฉัน – ดังนั้นการอัปเกรดจากแผนให้บริการฟรีจึงไม่คุ้มค่า แผนให้บริการที่มีราคาถูกที่สุดเมื่อพิจารณาถึงข้อจำกัดเหล่านี้คือแผนให้บริการที่มีราคา $2.59 ต่อเดือน (แผนสมัครสมาชิก: 2 - ปี) แผนให้บริการที่มีราคาถูกที่สุดของ CyberGhost มีราคาถูกกว่าและให้คุณได้เข้าถึง Netflix, Amazon Prime Video และอื่น ๆ อีกมากมายได้
แม้ว่าฉันจะไม่แนะนำตัวเลือกนี้สำหรับการสตรีมมิ่ง, Torrenting หรือการเล่นเกม แต่ hide.me ก็ดูแลข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยในขณะท่องเว็บ คุณสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่าย ๆ – เพียงดาวน์โหลด hide.me ลงบนอุปกรณ์ของคุณฟรี คุณยังไม่จำเป็นต้องสร้างชื่อผู้ใช้หรือกรอกที่อยู่อีเมลด้วย
hide.me ทำงานได้บน: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, Chromebook, Chrome, Firefox, PlayStation, Xbox, Nintendo Switch, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Android TV, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
4. TunnelBear – เซิร์ฟเวอร์ฟรีใน 45 ประเทศและข้อมูลรายเดือนขนาด 500MB
ฟีเจอร์หลัก:
- ข้อมูลฟรี 500MB ต่อเดือน
- สิทธิ์ในการเข้าถึงเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกใน 45 ประเทศ
- มาตรฐานการเข้ารหัสขั้นสูง, การป้องกันการรั่วไหล, Kill Switch และนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน
- รองรับการเชื่อมต่อในเวลาเดียวกันได้ไม่จำกัด
- แอปที่เป็นมิตรกับผู้ใช้สำหรับ Windows, Mac, Android, iOS, Linux, เราเตอร์และอื่น ๆ
- ฝ่ายสนับสนุนผ่านทางอีเมลพร้อมให้บริการสำหรับแผนให้บริการฟรี
VPN ฟรีของ TunnelBear ให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์พรีเมียมทั้งหมดในแผนให้บริการแบบชำระเงินได้ นี่รวมถึงสิทธิ์ในการเข้าถึงเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกซึ่งหมายความว่าคุณสามารถท่องอินเทอร์เน็ตจากทุกที่ได้อย่างง่ายดาย
น่าเสียดายที่การอนุญาตให้ใช้ข้อมูลได้เพียง 500MB ต่อเดือนนั้นไม่มากพอซึ่งคุณจะต้องอยากอัปเกรดก่อนที่จะหมดวัน ฉันเริ่มรับชมซีรีย์บน BBC iPlayer และ VPN ก็หยุดสตรีมมิ่งก่อนที่ตอนหนึ่งตอนจะจบลง นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งเพราะ TunnelBear ทำงานร่วมกันกับ Netflix และ Amazon Prime Video ได้ (และมี VPN ฟรีไม่มากนักที่ทำได้)

ฉันแลกรับข้อมูลเพิ่มเติมขนาด 1GB โดยการทวีตเกี่ยวกับบริการนี้ – เพื่อดูว่านี่เป็นของขวัญแบบครั้งเดียวและเดือนหน้าฉันจะพบกับขีดจำกัดข้อมูลขนาด 500MB อีกไหมเท่านั้น การอัปเกรดเป็นแผนให้บริการพรีเมียมของ TunnelBear มีราคา $4.17 ต่อเดือน (แผนสมัครสมาชิก: 2 ปี) ในราคาเกือบจะครึ่งหนึ่งนี้ คุณสามารถใช้ประโยชน์จากเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งของ CyberGhost สำหรับการสตรีมมิ่งแทนได้
อย่างไรก็ตาม TunnelBear ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีพอใช้งานได้หากคุณต้องการท่องอินเทอร์เน็ตเป็นพัก ๆ เท่านั้น TunnelBear ใช้การเข้ารหัสแบบ AES-256 บิตและการป้องกันการรั่วไหลในเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ฉันประทับใจเป็นอย่างยิ่งกับฟีเจอร์ GhostBear ซึ่งดัดแปลงการเชื่อมต่อของคุณและทำให้มันดูเหมือนกับการเข้าชมอินเทอร์เน็ตปกติ TunnelBear ยังได้รับการตรวจสอบจากบริษัทตรวจสอบความปลอดภัยอิสระทุกปีเพื่อยืนยันว่าไม่มีการบันทึกข้อมูลผู้ใช้เอาไว้อีกด้วย
ใช้เวลาน้อยกว่า 1 นาทีในการดาวน์โหลดแอปฟรีของ TunnelBear และลงทะเบียนสำหรับบัญชี คุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้ทันทีที่คุณติดตั้งเสร็จและเริ่มต้นใช้บริการดังกล่าว
TunnelBear ทำงานได้บน: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, Chromebook, Chrome, Firefox และอื่น ๆ อีกมากมาย
การเปรียบเทียบ VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2023 แบบให้เห็นกันชัด ๆ
100% ฟรี | ปลดบล็อก Netflix | ข้อมูลรายเดือน | ประเทศของเซิร์ฟเวอร์ | การรองรับ Torrenting | จำนวนอุปกรณ์สูงสุด | |
ExpressVPN | ✘ | ✔ | ไม่จำกัด | 105 | ✔ | 8 |
CyberGhost | ✘ | ✔ | ไม่จำกัด | 100 | ✔ | 7 |
NordVPN | ✘ | ✔ | ไม่จำกัด | 60 | ✔ | 6 |
Surfshark | ✘ | ✔ | ไม่จำกัด | 100 | ✔ | ∞ |
Proton VPN | ✔ | ✔ | ไม่จำกัด | 3 | ✘ | 1 |
Hotspot Shield | ✔ | ✔ | ไม่จำกัด | 1 | ✔ | 1 |
hide.me | ✔ | ✔ | 10GB | 4 | ✘ | 1 |
TunnelBear | ✔ | ✔ | 500MB | 100 | ✔ | ∞ |
ไม่ว่าคุณจะเลือก VPN ฟรีตัวเลือกไหนก็ตาม คุณจะต้องรับมือกับข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ขีดจำกัดข้อมูลและข้อจำกัดเซิร์ฟเวอร์
หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเหล่านี้ ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยง แม้ว่ามันจะเป็น VPN แบบชำระเงิน แต่มันก็มีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน หากคุณเกิดเปลี่ยนใจเกี่ยวกับบริการนี้ คุณสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้ภายใน 30 วัน คุณสามารถดำเนินการได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยง VPN ฟรีที่เหมือนกับโรคระบาดเหล่านี้
ความจริงอันน่าเศร้าคือคุณไม่สามารถไว้ใจการให้คะแนนของ Google Play หรือ Apple App ได้เสมอ แม้ว่าคุณจะพบ VPN ที่มีการดาวน์โหลดและรีวิวจากผู้ใช้ในเชิงบวกมากมาย แต่มันก็ยังอาจเป็นมัลแวร์ได้ ในความเป็นจริงแล้ว การศึกษาค้นคว้าโดยบริษัทค้นคว้า CSIRO พบว่า 75% ของ VPN ฟรีมีคลังข้อมูลที่ติดตามอย่างน้อย 1 คลังข้อมูล – แม้จะอ้างว่าเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ก็ตาม
จากการค้นคว้าและการทดสอบของฉัน ฉันพบข้อเท็จจริงที่น่าตกใจเกี่ยวกับบริการ VPN มากมายที่ฉันจำเป็นต้องเตือนคุณให้ทราบ
- Cross VPN – แอนตี้ไวรัสพบว่า Cross VPN มีไวรัสโทรจันพร้อมการแจ้งเตือนจากบริการแอนตี้ไวรัสต่าง ๆ ถึง 11 บริการ
- Betternet VPN – โปรโมทตัวเองว่ามุ่งเน้นในเรื่องของความเป็นส่วนตัว แต่ถูกพบว่ามีคลังข้อมูลการติดตามอยู่มากมายในซอฟต์แวร์ เช่น การบันทึกข้อมูลอย่างตำแหน่งทั่วไป ข้อมูลอุปกรณ์และชื่อโดเมนที่คุณเยี่ยมชม
- SuperVPN – VPN ที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ Android และถูกรายงานว่ามีการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้นับล้านราย – รายละเอียดบัตรเครดิต ข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ ข้อมูลตำแหน่งและอื่น ๆ อีกมากมาย
- LinkVPN – เชื่อมโยงกับ SuperVPN โดยไม่มีความโปร่งใสและเชื่อมโยงไปยังประเทศจีนซึ่งแนะนำการบันทึกข้อมูลและความเป็นส่วนตัวที่จำกัดสำหรับผู้ใช้
- Fast Secure Payment – พบว่ามีมัลแวร์ฝังอยู่ในแอป
“ฟรีเมียม” vs VPN ฟรี: ค่าใช้จ่ายแอบแฝงที่คุณควรทราบ
VPN ฟรีเมียมเป็นตัวอย่างของ VPN พรีเมียม มันเป็นแผนให้บริการฟรีที่เปิดให้บริการโดยบริษัท VPN ที่น่าเชื่อถือที่ให้คุณทดลองใช้เวอร์ชันฟรีได้โดยมีข้อจำกัดบางอย่างเพื่อโปรโมทแผนให้บริการแบบชำระเงิน คุณสามารถไว้วางใจ VPN ฟรีเมียมในเรื่องที่พวกเขาจะไม่ขายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ – บริษัทจะไม่ยอมเอาชื่อเสียงของตัวเองมาเสี่ยงและทำลายความไว้วางใจของลูกค้าที่ชำระเงิน
อย่างไรก็ตามคุณจะพบกับค่าใช้จ่ายแอบแฝงในรูปแบบของข้อมูลที่จำกัด ความเร็วที่ล่าช้าและตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่จำกัด พวกเขาทำแบบนี้โดยหวังว่าคุณจะเกิดรำคาญใจและยอมอัปเกรดเป็น VPN พรีเมียม
แม้ว่า VPN จะไม่โปรโมทเวอร์ชันพรีเมียมหรือแสดงโฆษณา แต่ข้อมูลของคุณน่าจะถูกขายให้กับบุคคลที่สาม VPN ฟรีของคุณอาจประกอบไปด้วยมัลแวร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อขุดข้อมูลของคุณเพื่อทำกำไร ในความคิดเห็นส่วนตัวของฉัน นี่เป็นราคาที่สูงที่สุดที่คุณต้องจ่ายเพราะข้อมูลส่วนบุคคลและไฟล์ความลับอาจถูกอาชญากรทางไซเบอร์ขโมยไปได้
ราคาของการใช้ VPN ฟรีนั้นมีมูลค่ามากกว่าราคาของบริการพรีเมียมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อคุณสามารถลองใช้ VPN ชั้นนำอย่าง ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยงได้ คุณยังสามารถทดลองใช้ ExpressVPN เพื่อให้มั่นใจว่ามันเหมาะกับคุณด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันได้ หากคุณไม่พึงพอใจ คุณสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้ตราบใดที่คุณส่งคำขอดังกล่าวภายใน 30 วัน
ฉันทดสอบและจัดอันดับ VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2023 อย่างไร
VPN ใด ๆ ก็สามารถได้รับการจัดอันดับใน App Store ได้ด้วยรีวิวเชิงบวก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่อันตราย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันจึงแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณพิจารณาประเด็นด้านล่างเมื่อประเมิน VPN ฟรี:
- รูปแบบของธุรกิจ – คุณไม่ต้องการให้ VPN ฟรีทำเงินจากค่าใช้จ่ายของคุณ VPN ที่คลุมเครือบางบริการมีแอปที่เต็มไปด้วยโฆษณา การติดตามหรือมัลแวร์ (บางครั้งก็มีครบทั้ง 3 อย่าง!) เพื่อแอบเก็บและขายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างเงียบ ๆ
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด – ไม่มี VPN ใดที่ควรปล่อยให้ความเป็นส่วนตัวของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง (หรือละเมิดจุดประสงค์ของการใช้ VPN) ดังนั้นฉันจึงตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของ VPN แต่ละรายการเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของคุณจะไม่มีวันถูกติดตาม บันทึก ขายหรือแบ่งปัน
- ข้อจำกัด – VPN ฟรีมักมาพร้อมกับข้อจำกัดเนื่องจากขาดแหล่งทรัพยากรและเงินทุน นี่อาจรวมถึงความเร็วที่ล่าช้า แบนด์วิดธ์ที่จำกัด เซิร์ฟเวอร์ที่หนาแน่น ไม่รองรับการ Torrenting และไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Netflix
- ฟีเจอร์ความปลอดภัย – อย่างน้อยให้มองหาการเข้ารหัส AES-256 บิตและโปรโตคอลอุโมงค์อย่าง WireGuard, OpenVPN และ IKEv2 หลีกเลี่ยงโปรโตคอลอย่าง L2TP/IPSec และ PPTP ซึ่งล้าหลังและควรไม่มีใครใช้งานอีกต่อไป
- แอปที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ – สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการคือการต้องมานั่งเสียเวลาไปกับการตั้งค่าและการติดตั้ง VPN นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม VPN ทั้งหมดที่ฉันทดสอบจึงทำงานได้บน Windows, Mac, Android, iOS และอุปกรณ์ยอดนิยมอื่น ๆ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ VPN ฟรี
VPN ฟรีปลอดภัยจริงหรือเปล่า?
น่าเสียดายที่ VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นไม่ปลอดภัย ในกรณีที่ดีที่สุด ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกเก็บรวบรวมโดยตัวติดตามในขณะที่อุปกรณ์ของคุณถูกรุกรานโดยโฆษณาป๊อปอัพ ในกรณีที่เลวร้าย คุณอาจทำให้อุปกรณ์ของคุณติดมัลแวร์และเปิดเผยไฟล์ความลับกับแฮกเกอร์ ความจริงก็คือมี VPN ฟรีที่ไว้วางใจได้เพียงไม่กี่บริการเท่านั้น – และฉันทดสอบบริการเหล่านั้นทั้งหมดแล้ว
VPN ฟรีที่แนะนำทั้งหมดของฉันมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่แข็งแกร่งและจะไม่ขโมยหรือขายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อสร้างรายได้ ฉันเลือกเฉพาะผู้ให้บริการ VPN ที่มีชื่อเสียงเท่านั้นด้วยเช่นกันเนื่องจากบริษัทเรานี้จะอัปเดตเครือข่าย VPN ของตนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีข้อบกพร่องด้านความปลอดภัย VPN ทั้งหมดมาพร้อมกับการเข้ารหัสระดับทหาร, โปรโตคอลมากมาย, Kill Switch และการป้องกันการรั่วไหล คุณสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะปลอดภัยและกิจกรรมการท่องเว็บของคุณจะไม่ถูกเปิดเผยในทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อ
บริการ VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Netflix คือบริการใด?
VPN ฟรีทำงานร่วมกันกับ Netflix ได้ – และเรายังมีคำแนะนำเกี่ยวกับ VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Netflix เตรียมเอาไว้ให้ด้วย อย่างไรก็ตาม โปรดทราบง่าคุณจะต้องพบกับข้อจำกัดบางอย่าง นี่รวมถึงขีดจำกัดข้อมูล ข้อจำกัดด้านความเร็วหรือสิทธิ์ในการเข้าถึงจำนวนเซิร์ฟเวอร์และคลังข้อมูล Netflix ที่ไม่มากนัก
ตัวอย่างเช่น Hotspot Shield ทำงานร่วมกันกับ Netflix ของสหรัฐอเมริกาได้ – แต่คุณจะได้รับข้อมูลฟรีเพียง 500MB ต่อเดือนเท่านั้น TunnelBear สามารถปลดบล็อก Netflix ได้ในเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกทั้งหมด แต่คุณจะถูกจำกัดข้อมูลฟรีเพียง 500MB ต่อเดือนเท่านั้น
ในฐานะแฟนที่ชอบสตรีมมิ่ง โดยส่วนตัวแล้วฉันอยากได้ VPN ที่ไม่มีข้อจำกัด (เพื่อที่ฉันจะได้ติดตามรายการที่ฉันชอบในความละเอียดระดับ HD ได้มากเท่าที่ฉันต้องการ!) ฉันพบว่า ExpressVPN เชื่อมต่อกับ Netflix ทั่วโลกได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นคุณจึงสามารถเข้าถึงบัญชีสตรีมมิ่งในท้องถิ่นของคุณได้จากทุกที่ ฉันชอบที่มันยังทำงานร่วมกันกับ Amazon Prime Video, Disney+, Hulu, HBO Max, YouTube TV, BBC iPlayer, DAZN และอื่น ๆ ได้อีกด้วย ฉันจึงสามารถติดตามรายการโปรดของฉันได้ทั้งหมด
ฉันควรใช้ VPN ฟรีสำหรับการ Torrenting ไหม?
คุณสามารถใช้ VPN ฟรีสำหรับการ Torrenting ได้ แต่คุณจะต้องเสียสละความเร็วหรือข้อมูล ความเร็วที่ล่าช้าอาจส่งผลให้ต้องนั่งรอการดาวน์โหลดไฟล์เพียงไฟล์เดียวให้เสร็จเป็นเวลาหลายชั่วโมง ในขณะที่ขีดจำกัดข้อมูลต่ำจะจำกัดคุณจากการดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ VPN ฟรีมากมายมีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เพียงไม่กี่ตำแหน่งเท่านั้นซึ่งไม่เหมาะหากคุณต้องการเชื่อมต่อกับประเทศที่เฉพาะเจาะจง
หากคุณต้องการใช้ VPN ในระยะเวลาสั้น ๆ ฉันขอแนะนำให้ใช้ประโยชน์จากการรับประกันยินดีคืนเงินของ VPN พรีเมียม ตัวอย่างเช่น คุณสามารถ Torrent บนเครือข่ายที่ได้รับการปรับแต่งของ CyberGhost ได้เป็นระยะเวลา 45 วันฟรีและขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้เมื่อคุณใช้เสร็จแล้ว
VPN ฟรีทำงานในประเทศจีนได้ไหม?
คำตอบสั้น ๆ เลยคือไม่ได้ มีเพียง VPN แบบชำระเงินเพียงไม่กี่บริการเท่านั้นที่ยังคงทำงานในประเทศจีนได้เนื่องจากการหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ของประเทศจีนนั้นเป็นเรื่องยากเป็นอย่างยิ่ง หากคุณกำลังมุ่งหน้าไปยังประเทศจีนในการเดินทางต่างประเทศ ฉันขอแนะนำให้คุณดาวน์โหลดหนึ่งใน VPN เหล่านี้ก่อนที่คุณจะเข้าประเทศ (เนื่องจากเว็บไซต์ VPN จะถูกปิดกั้นภายในประเทศ)
แม้ว่าจะสามารถใช้ VPN ในท้องถิ่นของประเทศจีนได้ แต่ฉันก็ไม่แนะนำให้ใช้เป็นอย่างยิ่ง บ่อยครั้งที่ VPN ฟรีเหล่านี้แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับบุคคลที่สาม หากคุณขุดคุ้ยเบื้องหลังของ VPN ท้องถิ่นเหล่านี้ คุณจะพบข้อมูลประวัติเพียงเล็กน้อยหรือไม่พบเลยหรือไม่มีแม้แต่นโยบายความเป็นส่วนตัว
โปรดทราบว่ารัฐบาลไม่ได้เอาผิดกับการใช้งาน VPN ที่ไม่ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนที่เคยถูกลงโทษสำหรับการใช้งาน VPN ในขณะไปพักร้อน เดินทางไปทำธุรกิจหรือการเดินทางระยะสั้นจนถึงตอนนี้
VPN ฟรีสร้างรายได้ได้อย่างไร?
มีราคาแอบแฝงซึ่งอนุญาตให้ VPN ฟรีสร้างรายได้ได้อยู่เสมอ วิธีการที่พบบ่อยมากที่สุดคือการรุกรานอุปกรณ์ของคุณด้วยโฆษณาป๊อปอัพ แม้ว่ามันจะดูไม่เป็นอันตราย แต่แอดแวร์ทั้งหมดที่ถูกติดตั้งนั้นมาพร้อมกับตัวติดตาม ตัวติดตามจะเก็บแท็บกิจกรรมอินเทอร์เน็ตของคุณซึ่งหมายความว่าประวัติการท่องเว็บของคุณจะไม่ถูกเก็บไว้เป็นความลับหรือเป็นส่วนตัวอีกต่อไป
VPN ฟรีบางบริการยังขายข้อมูลของคุณให้กับนักโฆษณาด้วย พวกเขาติดตามเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชม หมายเลข IP ของคุณและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อของคุณ นี่ถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของคุณอย่างมากและอาจทำให้ความปลอดภัยของคุณตกอยู่ในความเสี่ยงโดยขึ้นอยู่กับข้อมูลใดที่ถูกติดตามและถูกขาย
นาน ๆ คũ