8 เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ดีที่สุดสำหรับ Chrome (ทั้งแบบฟรีและแบบจ่ายเงิน)
โปรดระวังเมื่อคุณเลือกซอฟต์แวร์ที่ปิดกั้นโฆษณาอันแสนน่ารำคาญและโฆษณาที่เป็นอันตราย – บางซอฟต์แวร์อาจทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ซอฟต์แวร์ปิดกั้นโฆษณมากมาย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งซอฟต์แวร์ฟรี) จริง ๆ แล้วขายข้อมูลของคุณให้กับนักโฆษณาหรือติดตั้งมัลแวร์ เครื่องมือติดตามโฆษณาและไวรัสลงบนอุปกรณ์ของคุณ
เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่รุนแรงเหล่านี้แล้ว การลองใช้โปรแกรมต่าง ๆ ด้วยตัวคุณเองอาจเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง อย่ากังวลไป ฉันได้ทดสอบซอฟต์แวร์ปิดกั้นโฆษณาจำนวน 19 ซอฟต์แวร์เป็นการส่วนตัวเพื่อสร้างรายการ 8 อันดับบริการแบบฟรีและแบบชำระเงินที่พร้อมให้ใช้งานนี้ขึ้นเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องรับมือกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่รุนแรงด้วยตัวคุณเอง ผู้ให้บริการเหล่านี้ลบโฆษณาที่น่ารำคาญ ยกระดับความเร็วในการโหลดและปลอดภัยโดยสมบูรณ์
หากคุณต้องการคำตอบแบบรวดเร็ว เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ดีที่สุดคือ AdBlock เนื่องจากมันลบโฆษณาต่าง ๆ มากมาย ปิดกั้นมัลแวร์และทำงานบนเบราว์เซอร์หลักทั้งหมด (เช่น Chrome, Firefox และอื่น ๆ อีกมากมาย) ได้
คำแนะนำลัด: 8 เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ดีที่สุดที่ใช้งานได้จริงในปี 2024
- AdBlock – เครื่องมือปิดกั้นที่ดีที่สุดสำหรับการลบโฆษณาและมอบความปลอดภัยออนไลน์ที่ครอบคุลม
- Private Internet Access (PIA) – หยุดโฆษณา เครื่องมือติดตามและเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย แต่ไม่สามารถปิดกั้นโฆษณาที่โปรโมทตัวเองอย่างต่อเนื่องจากหน้าเว็บได้
- Opera Browser – เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาพื้นฐานที่ถูกสร้างขึ้นภายในเบราว์เซอร์ Opera แต่ไม่สามารถกำจัดโฆษณาได้ทั้งหมด
- R.O.B.E.R.T. จาก Windscribe – ปิดกั้นโฆษณาและหมวดหมู่ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ของเว็บไซต์ได้ แต่ก็ยังมีโฆษณาที่รุกล้ำบางอย่างปรากฏให้เห็น
- AdLock – เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่มีความสามารถซึ่งไม่มีนโยบาย “โฆษณาที่ยอมรับได้” แต่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อแอปแยกต่างหาก
- AdBlocker Ultimate – เข้ากันได้กับเว็บเบราว์เซอร์มากมาย แต่ไม่สามารถใช้งานกับ Safari ได้
- uBlock Origin – ปิดกั้นโฆษณาได้ดี แต่บริการความช่วยเหลือจำกัดและไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง
- Stands Fair AdBlocker – ดูแลข้อมูลการปิดกั้นโฆษณาของคุณไม่ให้ถูกเปิดเผย แต่พร้อมใช้งานเฉพาะบน Chrome เท่านั้น
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเราที่ WizCase ดังนั้นคุณควรรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มการเป็นเจ้าของเดียวกับ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเราเนื่องจากเรายึดมั่นในระเบียบวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
8 เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาแบบฟรีและแบบชำระเงินที่ดีที่สุดใน 2024
1. AdBlock – อนุญาตให้คุณปรับแต่งความต้องการการปิดกั้นโฆษณาในแบบของคุณเอง
ฟีเจอร์หลัก:
- ปิดกั้นโฆษณาแบนเนอร์ ป๊อปอัพและโฆษณาวิดีโอที่น่ารำคาญส่วนใหญ่ (ยกเว้นโฆษณาที่อยู่ในโปรแกรม “โฆษณาที่ยอมรับได้”)
- หยุดการติดตามโฆษณาทางออนไลน์เพื่อที่ข้อมูลของคุณจะได้ปลอดภัยและไม่ถูกเปิดเผย
- ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นด้วยการลบโฆษณา
- สามารถดาวน์โหลดส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่ใช้งานง่ายได้ภายในเวลาน้อยกว่า 1 นาที
- ฟรี (โดยมีตัวเลือกบริจาคเงิน)
AdBlock เสนอการปิดกั้นโฆษณาในรูปแบบส่วนขยายเว็บเบราว์เซอร์สำหรับเดสก็ท็อปและในรูปแบบแอปสำหรับ Android และ iOS มันทำงานได้ดีในระหว่างการทดสอบของฉันเนื่องจากมันลบวอลเปเปอร์ แบนเนอร์และโฆษณาป๊อปอัพอย่างต่อเนื่องบนเว็บไซต์ข่าวสารอย่าง Daily Mail และ Orlando Sentinel ได้ ฉันประทับใจเป็นอย่างยิ่งที่มันยังสามารถปิดกั้นโฆษณาสตรีมมิ่งวิดีโอบน YouTube ได้อีกด้วย (เนื่องจากเครื่องมือปิดกั้นโฆษณามากมายไม่สามารถใช้งานได้ในแพลตฟอร์มนี้) ด้วย AdBlock ฉันสามารถรับชมเนื้อหาต่าง ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมงได้โดยไม่เห็นโฆษณาแม้แต่โฆษณาเดียว มันยังทำงานบนเว็บไซต์สตรีมมิ่งยอดนิยมอื่น ๆ อย่าง Twitch และ Crunchyroll ได้อีกด้วย
ฟีเจอร์ AdBlock ที่ฉันชื่นชอบคือความสามารถในการปรับแต่งที่ให้คุณควบคุมโฆษณาที่คุณเห็นได้ คุณสามารถหยุดโฆษณาทั้งหมดในทุกเว็บไซต์หรือเฉพาะในหน้าปัจจุบันที่คุณรับชมอยู่ ฉันประหลาดใจที่มันยังให้คุณระบุด้วยว่าคุณต้องอนุญาตโฆษณาบนช่อง YouTube และ Twitch ที่เลือกหรือไม่
แถม AdBlock ยังมีความปลอดภัยเพิ่มเติมในการป้องกันคุณจากซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย มันจะเริ่มต้นด้วยการปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์เพื่อป้องกันอุปกรณ์ของคุณจากการติดมัลแวร์ นอกจากนี้มันยังหยุดนักโฆษณาจากการติดตามการเคลื่อนไหวทางออนไลน์ของคุณโดยการปิดกั้นการติดตาม สิ่งนี้ช่วยป้องกันไม่ให้นักโฆษณาสอดแนมดูเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชม ด้วยฟังก์ชันเหล่านี้ ฉันรู้สึกมั่นใจที่การท่องเว็บของฉันจะไม่ถูกเปิดเผย
ปัญหาเพียงอย่างเดียวกับ AdBlock คือมันเข้าร่วมในโปรแกรม “โฆษณาที่ยอมรับได้” นี่หมายความว่ามันจะอนุญาตโฆษณาบางอย่างให้ปรากฏได้หากมันรู้ว่าโฆษณาดังกล่าวไม่ใช่โฆษณาที่รุกล้ำ จากประสบการณ์ของฉัน ฉันพบว่ามันยังคงปิดกั้นโฆษณาทั้งหมดที่ปรากฏบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ฉันเยี่ยมชม แม้ว่าโปรแกรมโฆษณาที่ยอมรับได้นี้จะหมายถึงว่าอาจมีการอนุญาตให้มีการแสดงโฆษณาเล็กน้อย แต่เกณฑ์ของ Adblock สำหรับโฆษณาที่ไม่รุกล้ำนั้นค่อนข้างเข้มงวด ดังนั้นมึงจึงไม่ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การท่องเว็บของคุณ
AdBlock ไม่เรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าสำหรับการใช้บริการหรือร้องขอข้อมูลบัตรเครดิตสำหรับการลงทะเบียน นั่นหมายความว่าคุณสามารถทดสอบมันได้ฟรี! ตอนที่ฉันทดสอบมันด้วยตัวเอง ฉันพบว่ามันไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงใด ๆ คุณจะถูกถามให้บริจาคเงินเล็กน้อยหากคุณต้องการ การบริจาคดังกล่าวนั้นไม่เป็นการบังคับแต่อย่างใด
AdBlock มีแอปแยกต่างหากสำหรับ: Android และ iOS
ส่วนขยายของ AdBlock พร้อมให้บริการสำหรับ: Chrome, Safari, Firefox และ Microsoft Edge
2. MACE จาก Private Internet Access (PIA) – หยุดนักโฆษณาจากการติดตามคุณ
ฟีเจอร์หลัก:
- หยุดโฆษณาและการติดตามที่ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ความเป็นส่วนตัวและประสบการณ์การออนไลน์ของคุณ
- ทำให้เบราว์เซอร์ของคุณโหลดหน้าเร็วขึ้น
- ปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์ที่อาจเป็นอันตรายต่ออุปกรณ์ของคุณ
- อินเทอร์เฟซเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานซึ่งง่ายสำหรับมือใหม่
- มีมาให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วยการสมัครสมาชิก PIA (ลองใช้งานมันโดยไม่มีความเสี่ยงด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน)
ตอนที่ฉันทดสอบมันกับเว็บไซต์ต่าง ๆ 4 เว็บ MACE จาก PIA สามารถลบป๊อปอัพ แบนเนอร์และโฆษณาวิดีโอได้เกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถปิดกั้นโฆษณาเสนอขายตัวเองของเว็บไซต์ได้ ตอนที่ฉันเยี่ยมชมเว็บไซต์ Wired โฆษณาเดียวที่สามารถหลีกเลี่ยงตัวรองของ MACE มาได้คือโฆษณาที่โปรโมท Wired เอง นี่ไม่ถือเป็นปัญหามากมายอะไรสำหรับฉันเพราะมันผสานรวมกับเว็บไซต์ทั้งหมดได้ดีและฉันไม่คิดว่ามันรบกวนการมองเห็นเหมือนโฆษณาทั่วไป
ฉันรู้สึกปลอดภัยเมื่อใช้ MACE เนื่องจากมันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติมในการป้องกันคุณจากภัยคุกคามทางออนไลน์อื่น ๆตัวอย่างเช่น มันหยุดนักโฆษณาจากการติดตามกิจกรรมของคุณ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนตัวของฉันจะไม่ถูกตรวจสอบและถูกขายให้กับบุคคลที่สามที่ไม่น่าเชื่อถือ นี่ยังหมายความว่าฉันไม่ต้องเห็นโฆษณาเกี่ยวกับสินค้าที่ฉันเห็นเมื่อไม่นานมานี้บนเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องซ้ำไปซ้ำมา ยิ่งไปกว่านั้น PIA ยังมีแอปเฉพาะภาษาไทยให้บริการในอุปกรณ์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ มากมาย
MACE อัปเดตรายการเว็บไซต์ที่สงสัยว่ามีมัลแวร์อย่างต่อเนื่อง มันจะตรวจสอบว่าหน้าเว็บที่คุณกรอกนั้นตรงกับรายการของมันหรือไม่และจะปิดกั้นเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายเพื่อป้องกันไม่ให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ฉันท่องอินเทอร์เน็ตได้อย่างสบายใจเนื่องจากฉันทราบว่า MACE จะป้องกันฉันจากไวรัสที่พยายามรุกรานคอมพิวเตอร์ของฉันผ่านเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย
Mace จาก PIA ต้องการการสมัครสมาชิก แต่คุณสามารถใช้งานมันได้ฟรีหลังจากที่คุณสมัครสมาชิกแล้ว นี่ถือเป็นข้อเสนอที่ดีเนื่องจากคุณจะได้รับฟังก์ชันทั้ง VPN และเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาเพื่อความปลอดภัยโดยสมบูรณ์ หากคุณยังคงไม่มั่นใจเกี่ยวกับ Mace จาก PIA คุณสามารถลองใช้มันฟรี 30 วันจากการใช้การรับประกันยินดีคืนเงินได้เสมอ ตอนที่ฉันติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้า ฉันได้รับเงินคืนภายใน 8 วันเท่านั้น
MACE จาก PIA ทำงานได้บน: Windows, Android, macOS, iOS และ Linux
ความเข้ากันได้กับเว็บเบราว์เซอร์ของ MACE จาก PIA: ใช้งานได้กับเว็บเบราว์เซอร์ทั้งหมดเนื่องจากเป็นโปรแกรมแยกต่างหากและมีส่วนขยายสำหรับ Chrome, Firefox และ Opera
3. Opera Browser – การปิดกั้นโฆษณาพื้นฐานที่ไม่จำเป็นต้องมีส่วนขยาย
ฟีเจอร์หลัก:
- หยุดโฆษณาส่วนใหญ่ด้วยตัวเลือกในการปิดกั้นการติดตาม
- ปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์
- การโหลดหน้าเว็บรวดเร็วมากขึ้น
- ติดตั้งง่ายโดยไม่จำเป็นต้องมีส่วนขยาย
- ฟรี
หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกที่ใช้งานง่าย เบราว์เซอร์ Opera มีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาภายในตัวเพื่อยกระดับประสบการณ์การท่องเว็บของคุณให้ดียิ่งขึ้น นี่หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดส่วนขยายหรือโปรแกรมเพิ่มเติมใด ๆ คุณสามารถเปิดใช้งานมันได้ด้วยไอคอนรูปโล่บนแถบค้นหาเพื่อทำให้โฆษณาหายไปโดยอัตโนมัติ
น่าเสียดายที่มันไม่สามารถปิดกั้นโฆษณาได้ 100% ตอนที่ฉันทดสอบมันบนเว็บไซต์ต่าง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่แล้วโฆษณาป๊อปอัพวิดีโอสามารถหลีกเลี่ยงตัวกรองของมันได้ อย่างไรก็ตามฉันประทับใจที่มันปิดกั้นโฆษณา YouTube ไม่ให้เล่นได้ – แม้ว่ามันจะแสดงหน้าจอดำตลอดระยะเวลาของโฆษณาก็ตาม สำหรับบริการภายในตัวฟรี ฉันคิดว่าข้อจำกัดเหล่านี้ถือเป็นข้อจำกัดที่ยอมรับได้เนื่องจากมันลบโฆษณาที่น่ารำคาญใจได้มากถึง 90%
นอกจากนี้มันยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวบางอย่าง เช่น การปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์มาให้ด้วย คุณสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันการปิดกั้นการติดตามเพื่อให้มั่นใจว่าการเคลื่อนไหวทางออนไลน์ของคุณไม่ถูกตรวจพบโดยนักโฆษณาที่คอยสอดแนมได้อีกด้วย
คุณสามารถลองใช้ Opera ได้ฟรีและตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจำนวนโฆษณาเล็กน้อยนั้นมากเกินไปสำหรับคุณหรือไม่ได้ หากคุณต้องการอิสรภาพจากป๊อปอัพน่ารำคาญอย่างแท้จริง ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้บริการที่น่าเชื่อถือมากกว่าอย่าง AdBlock
เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาของเบราว์เซอร์ Opera มีแอปแยกต่างหากสำหรับ: ยังไม่มี
เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาของเบราว์เซอร์ Opera ทำงานได้บน: Opera
4. R.O.B.E.R.T. จาก Windscribe – ปิดกั้นโฆษณาและเว็บไซต์ไม่พึงประสงค์
ฟีเจอร์หลัก:
- หยุดโฆษณาส่วนใหญ่ไม่ให้ปรากฏบนเว็บไซต์มากมาย
- ปิดกั้นกลุ่มของเว็บไซต์ตามเนื้อหา (เช่น การพนัน สังคม ข่าวปลอม)
- โหลดเว็บไซต์ที่รวดเร็วมากขึ้น
- อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย
- R.O.B.E.R.T. จาก Windscribe มีให้บริการในเวอร์ชันฟรี (แต่มีฟังก์ชันจำกัด)
R.O.B.E.R.T. จาก Windscribe เป็นเครื่องมือความปลอดภัยที่ปรับแต่งได้ซึ่งจะปิดกั้นโฆษณาและภัยคุกคามอื่น ๆ มากมาย ในระหว่างการทดสอบ มันซ่อนโฆษณาบนเว็บไซต์ส่วนใหญ่ได้ถึง 90% มีวิดีโอสองสามวิดีโอที่หลีกเลี่ยงตัวกรองได้ แต่ฉันคิดว่าข้อจำกัดนี้เป็นเรื่องที่พอรับได้เนื่องจากมันมาจากตัวเว็บไซต์เอง ด้วยโฆษณาจำนวนไม่มากที่ใช้ข้อมูลของฉัน ฉันสังเกตเห็นว่าหน้าเว็บนั้นโหลดเร็วขึ้น 2-5 วินาที
ฉันประทับใจที่ R.O.B.E.R.T. ให้คุณปิดกั้นหมวดหมู่ของหน้าเว็บที่มีโฆษณาได้ ฉันพบว่าฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมากเนื่องจากฉันไม่อยากให้ลูก ๆ ของฉันเปิดเว็บการพนันหรือเว็บโป๊โดยไม่ได้ตั้งใจ
นอกจากหยุดโฆษณาได้แล้ว R.O.B.E.R.T. ยังป้องกันคุณจากภัยคุกคามทางด้านความปลอดภัยที่รุนแรงอื่น ๆ ได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่นมันปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์ ลิงก์ฟิชชิ่งและการติดตาม ด้วยการป้องกันแบบนี้ ฉันจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับว่าไวรัสที่เป็นอันตรายจะเข้ามายังคอมพิวเตอร์ของฉันหากฉันเผลอคลิกลิงก์ไม่ดีเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ
สิทธิประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของ Windscribe (ผู้สร้าง R.O.B.E.R.T) คือมันเป็นหนึ่งใน VPN ฟรีที่ปลอดภัยจำนวนไม่มาก ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้งานมันได้โดยไม่มีความเสี่ยง แม้ว่า R.O.B.E.R.T. จะปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์ได้ แต่เวอร์ชันนี้ก็มีข้อจำกัด ตัวอย่างเช่นคุณไม่สามารถปรับแต่งมันให้ปิดกั้นหมวดหมู่เว็บไซต์ได้และมันจะจำกัดข้อมูลรายเดือนเพียง 10 GB เท่านั้น คุณสามารถรับตัวเลือกความปลอดภัยเพิ่มเติมได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันของเวอร์ชันพรีเมียม ตอนที่ฉันดำเนินการผ่านกระบวนการขอเงินคืน ฉันได้รับเงินคืนภายใน 5 วันทำการ
R.O.B.E.R.T. จาก Windscribe ทำงานได้บน: Windows, Android, macOS, iOS และ Linux
ความเข้ากันได้กับเว็บเบราว์เซอร์ของ R.O.B.E.R.T. จาก Windscribe: ใช้งานได้กับเว็บเบราว์เซอร์ทั้งหมดเนื่องจากเป็นโปรแกรมแยกต่างหากและมีส่วนขยายสำหรับ Chrome และ Firefox
5. AdLock – ลบโฆษณาบนเว็บเบราว์เซอร์และแอปอื่น ๆ
ฟีเจอร์หลัก:
- หยุดโฆษณาส่วนใหญ่บนเว็บเบราว์เซอร์และแอปอื่น ๆ
- ป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณโดยการปิดกั้นลิงก์และการติดตามที่เป็นอันตราย
- เพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์
- อินเทอร์เฟซบนระบบปฏิบัติการและเบราว์เซอร์ต่าง ๆ ที่ใช้งานง่าย
- ส่วนขยายเบราว์เซอร์ฟรีสำหรับ Chrome และ Safari
AdLock มอบตัวเลือกในการใช้งานในฐานะส่วนขยายเบราว์เซอร์หรือแอปแยกต่างหากบนเดสก์ท็อปแก่คุณ ฉันเลือกดาวน์โหลดมันแบบแอปเพราะมันช่วยให้ฉันปิดกั้นโฆษณาบนโปรแกรมต่าง ๆ อย่าง Skype (ไม่เพียงแต่เว็บเบราว์เซอร์ของฉันเท่านั้น) ได้
ส่วนขยายเบราว์เซอร์สามารถปิดกั้นป๊อปอัพ แบนเนอร์และโฆษณาวิดีโอได้โดยไม่มีปัญหา ฉันยังประทับใจที่มันหยุดโฆษณา YouTube ไม่ให้เล่นได้โดยสมบูรณ์เพราะมีไม่กี่บริการที่สามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างน่าเชื่อถือ ฉันสามารถดูวิดีโอจริง ๆ ที่ฉันค้นหาได้ทันทีโดยไม่ต้องมานั่งรอให้โฆษณาเล่นจนเสร็จ
ที่ดีที่สุดคือ AdLock ไม่มีรายการ “โฆษณาที่ยอมรับได้” ที่มันอนุญาต นั่นหมายความว่านักโฆษณาไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อให้ปลดบล็อกโฆษณาของตนได้ – สิ่งนี้มักเกิดขึ้นในโปรแกรมอื่น ๆ มากมาย
คุณจะออนไลน์ได้ปลอดภัยมากขึ้นเนื่องจาก Adblock ปิดกั้นเว็บไซต์และลิงก์ที่เป็นอันตรายที่อาจทำให้อุปกรณ์ของคุณติดมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หากมันพบสิ่งที่เป็นอันตรายใด ๆ มันจะส่งข้อความแจ้งเตือนให้กับคุณ ฉันประทับใจอย่างยิ่งที่ฟีเจอร์เหล่านี้สามารถถูกเปิดใช้งานได้อย่างง่ายดายจากอินเทอร์เฟซแอนที่ใช้งานง่าย
โปรดทราบว่าคุณสามารถใช้งานส่วนขยายเว็บเบราว์เซอร์ของ AdLock ได้ฟรี แต่มันจะปิดกั้นเฉพาะโฆษณาบนเว็บเบราว์เซอร์ที่กำหนดที่มันติดตั้งเท่านั้น หากคุณต้องการลบโฆษณาจากแอปอื่น ๆ (เช่น Skype) คุณจะต้องดาวน์โหลดโปรแกรมแยกต่างหากสำหรับ Windows หรือ macOS โปรแกรม macOS เป็นโปรแกรมฟรี แต่คุณจะต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมสมาชิกหากคุณต้องการใช้งานมันบน PC โชคดีที่คุณสามารถทดลองใช้งานมันได้ฟรี 14 วันก่อนที่คุณจะลงทะเบียน
AdLock มีแอปแยกต่างหากสำหรับ: Windows, Android, macOS และ iOS
ส่วนขยาย AdLock พร้อมให้บริการสำหรับ: Chrome และ Safari
6. AdBlocker Ultimate – ปิดกั้นโฆษณาบนเว็บเบราว์เซอร์ต่าง ๆ มากมายได้
ฟีเจอร์หลัก:
- หยุดโฆษณากวนใจบนเบราว์เซอร์และแอป Windows ต่าง ๆ มากมายได้
- ป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณจากมัลแวร์และลิงก์ฟิชชิ่งที่เป็นอันตราย
- เพิ่มประสิทธิภาพระยะเวลาโหลดเว็บไซต์
- อินเทอร์เฟซผู้ใช้ใช้งานง่าย
- ส่วนขยายเว็บเบราว์เซอร์ เบราว์เซอร์ Android และแอป iOS ฟรี
AdBlocker Ultimate โดดเด่นจากบริการอื่น ๆ เพราะมันมีส่วนขยายสำหรับเว็บเบราว์เซอร์มากมาย คุณสามารถใช้มันบน Chrome, Firefox, Microsoft Edge และ Opera ได้ ในระหว่างการทดสอบของฉัน มันหยุดป๊อปอัพ แบนเนอร์และโฆษณาวิดีโอในแต่ละเบราว์เซอร์เหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่อง ฉันประทับใจที่มันยังหยุดโฆษณาที่เล่นบน YouTube ได้อีกด้วย
แม้ว่าส่วนขยายเว็บเบราว์เซอร์จะมีฟีเจอร์ปิดกั้นโฆษณาที่น่าเชื่อถือ แต่มันใช้งานได้เฉพาะบนเบราว์เซอร์ของตัวเองเท่านั้น หากคุณต้องการเป็นอิสระจากโฆษณามากขึ้น AdBlocker Ultimate มีโปรแกรมแยกต่างหากสำหรับ Windows ซึ่งจะหยุดโฆษณาไม่ให้ปรากฏแม้แต่ในแอป นอกจากนี้มันยังมีเบราว์เซอร์พิเศษบน Android ที่จะคัดกรอกงโฆษณาออกไปโดยอัตโนมัติด้วย
ในฐานะผู้ใช้งาน Mac ฉันผิดหวังที่ AdBlocker Ultimate ไม่มีส่วนขยายสำหรับ Safari เนื่องจากฉันใช้งานมันกับ Chrome ดัวนั้นมันคงเป็นเรื่องดีหากมันใช้งานได้ในทั้งสองเบราว์เซอร์ หากเว็บเบราว์เซอร์ที่คุณใช้งานคือ Safari งั้นฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ AdBlock เนื่องจากมันสามารถปิดกั้นโฆษณาบนเบราว์เซอร์ต่าง ๆ ได้ทั้งหมด
ข้อดีเกี่ยวกับ AdBlocker Ultimate คือคุณสามารถใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์และแอปสำหรับสมาร์ทโฟนบน iOS และ Android ได้ฟรี แม้ว่าโปรแกรมสำหรับ Windows จะเป็นบริการแบบชำระเงิน แต่มันก็มีช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรี 14 วันและการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วันหลังจากที่คุณสมัครสมาชิกแล้ว ตอนที่ฉันทดสอบนโยบายนี้ ฉันก็ได้รับเงินคืนหลังจากการดำเนินการอันยาวนาน – ฉันต้องรอให้ AdBlocker Ultimate ดำเนินการคืนเงินให้เสร็จสิ้นถึง 2 สัปดาห์
AdBlocker Ultimate มีแอปแยกต่างหากสำหรับ: Windows, Android และ iOS
ส่วนขยายของ AdBlocker Ultimate พร้อมให้บริการสำหรับ: Chrome, Firefox, Microsoft Edge และ Opera
7. uBlock Origin – เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากรอุปกรณ์ของคุณ
ฟีเจอร์หลัก:
- หยุดโฆษณาบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณจากการติดตามและเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์
- ลดระยะเวลาการโหลดหน้าเว็บ
- ติดตั้งง่าย
- ส่วนขยายเบราว์เซอร์ฟรีสำหรับ Chrome, Microsoft Edge, Firefox และ Opera
uBlock Origin เป็นโปรแกรมปิดกั้นโฆษณาพื้นฐาน เดิมที่มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยมีการปิดกั้นโฆษณาเป็นฟีเจอร์หลัก แต่มันก็ทำงานได้ดี ในระหว่างการทดสอบ มันหยุดโฆษณาบนเว็บไซต์ข่าวสารต่าง ๆ และแม้กระทั่ง YouTube ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื่องจาก uBlock Origin ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากรคอมพิวเตอร์ คุณจะพบว่าอุปกรณ์ของคุณทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อ uBlock Origin ถูกเปิดใช้งานอยู่ โดยส่วนตัวแล้วฉันไม่เห็นการพัฒนาอย่างมากในประสิทธิภาพโดยรวมของระบบของฉัน แต่ฉันสังเกตเห็นว่าหน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น 2-3 วินาทีโดยไม่มีโฆษณา
ส่วนที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ uBlock Origin คือตัวเลือกในการปรับแต่ง คุณสามารถสร้างรายการตัวกรองของคุณเองและกำหนดให้มันปิดกั้นรูปภาพตัวแทนโฆษณาได้ น่าเสียดายทีฟีเจอร์ที่ซับซ้อนกว่านี้อาจเข้าใจและใช้งานอย่างเหมาะสมได้ยากหากคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตามการตั้งค่าเริ่มต้นก็ทำงานได้ดีและสามารถใช้งานได้ง่าย
ข้อเสียอย่างหนึ่งของ uBlock Origin คือมันไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองซึ่งทำให้การค้นหาส่วนขยายที่คุณต้องการเป็นเรื่องยาก นี่หมายความว่าหากคุณต้องการดาวน์โหลดส่วนขยายสำหรับเบราว์เซอร์ต่าง ๆ คุณจะต้องค้นหามันด้วยตัวเองในเครื่องมือค้นหา ฉันยังผิดหวังที่ได้พบว่ามันไม่มีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าให้บริการด้วย
แม้ว่าจะมีข้อจำกัดเหล่านี้ แต่ฉันก็ยังคิดว่านี่เป็นส่วนขยายการปิดกั้นโฆษณาที่ดี คุณสามารถใช้ลิงก์เหล่านี้เพื่อดาวน์โหลดมันและลองใช้งานได้ฟรีบน Chrome, Microsoft Edge, Firefox และ Opera.
uBlock Origin มีแอปแยกต่างหากสำหรับ: ยังไม่มี
ส่วนขยายของ uBlock Origin พร้อมให้บริการสำหรับ: Chrome, Microsoft Edge, Firefox และ Opera
8. Stands Fair AdBlocker – ดูแลประวัติการปิดกั้นโฆษณาของคุณไม่ให้ถูกเปิดเผย
ฟีเจอร์หลัก:
- หยุดสถิติ ป๊อปอัพและโฆษณาวิดีโอมากมาย
- ปิดกั้นลิงก์เว็บไซต์ที่มีการติดตามและมัลแวร์
- ทำให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น
- ติดตั้งง่าย
- ส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome ฟรี
Stands Fair AdBlocker ลบโฆษณาต่าง ๆ ทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉันไม่เคยพบกับโฆษณาใดเลยในขณะใช้งานมันกับ YouTube, Facebook, Forbes, Daily Mail และเว็บไซต์อื่น ๆ นอกจากนี้มันยังป้องกันคุณด้วยฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติมอย่างการปิดกั้นมัลแวร์และการติดตาม
นอกจากนี้ Stands Fair AdBlocker ยังเป็นหนึ่งในโปรแกรมจำนวนไม่มากที่ฉันพบว่าไม่ได้ติดตามประวัติการออนไลน์ของผู้ใช้ใด ๆ โฆษณาทั้งหมดที่มันปิดกั้นจะไม่เชื่อมโยงกับหมายเลข IP, อีเมลหรือ ID ผู้ใช้ของคุณ นี่ทำให้ฉันมั่นใจว่ามันจะไม่ขายข้อมูลของฉันให้กับนักโฆษณาซึ่งเป็นสิ่งที่เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ไม่น่าเชื่อถือมากมายทำ
Stands Fair AdBlocker ยังมอบตัวเลือกในการปรับแต่งที่มีประโยชน์มากมาย ตัวอย่างเช่นคุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าให้อนุญาตโฆษณาบางส่วนหรือทั้งหมดให้ปรากฏบนเว็บไซต์ที่เฉพาะเจาะจงได้ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกให้คุณเปิดใช้งานโฆษณา Facebook หรือเครื่องมือค้นหาด้วย
ข้อเสียหลักของเครื่องมือปิดกั้นโฆษณานี้คือมันพร้อมให้บริการเฉพาะบนเบราว์เซอร์ Chrome เท่านั้น นี่ไม่ถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับฉันเพราะฉันใช้ Chrome เกือบตลอดเวลา อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ใช้งานได้กับเว็บเบราว์เซอร์และแอปทั้งหมด คุณสามารถลองใช้ AdBlock ดูได้
คุณสามารถใช้ Stands Fair AdBlocker ได้ฟรีบนเบราว์เซอร์ Chrome ของคุณ ดังนั้นคุณจึงสามารถทดสอบมันด้วยตัวคุณเองได้โดยไม่มีความเสี่ยง ง่าย ๆ เพียงเพิ่มมันในส่วนขยายและคุณก็สามารถท่องเว็บโดยไม่มีโฆษณากวนใจได้เลย
Stands Fair AdBlocker มีแอปแยกต่างหากสำหรับ: ยังไม่มี
ส่วนขยายของ Stands Fair AdBlocker พร้อมให้บริการสำหรับ: Chrome
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่เป็นอันตรายเหล่านี้
โปรดระวังเมื่อเลือกเครื่องมือปิดกั้นโฆษณา – โปรแกรมปลอมมากมายถูกสร้างขึ้นโดยแฮกเกอร์เพื่อทำให้อุปกรณ์ของคุณติดมัลแวร์! พวกเขาสามารถใช้มันเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงินและข้อมูลลงชื่อเข้าใช้บัญชีหรือเพื่อแสดงโฆษณามากยิ่งขึ้นได้
บริการฟรีส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอันตรายเป็นพิเศษเพราะหลายโปรแกรมแอบเก็บรวบรวมข้อมูลออนไลน์ของคุณ (เช่น ประวัติการท่องเว็บ) อย่างลับ ๆ เพื่อขายให้กับบุคคลที่สามที่ไม่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาฟรียังไม่มีเทคโนโลยีขั้นสูงที่จำเป็นในการป้องกันคุณให้ปลอดภัยจากโฆษณาป๊อปอัพที่รุกล้ำด้วย แม้ว่าจะมีโปรแกรมที่เป็นอันตรายอยู่มากมายในตลาด แต่นี่คือโปรแกรมบางส่วนที่ฉันอยากเตือนคุณเอาไว้เป็นพิเศษ:
- Adblock Focus: เก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างลับ ๆ
- Adblock Pro: รับการจ่ายเงินจากบริษัทเพื่อปลดบล็อกโฆษณาของตน
- AdRemover: มีรหัสแอบแฝงที่อนุญาตให้มันดำเนินการเปลี่ยนแปลงในเว็บเบราว์เซอร์ของคุณ
- Ads Blocker: มีมัลแวร์ซึ่งจะส่งโฆษณาให้กับคุณ
- uBlock: แก้ไขคุกกี้ของคุณเพื่อที่นักพัฒนาจะได้สามารถทำกำไรจากเส้นทางการเข้าชมออนไลน์ของคุณได้เมื่อคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ดังกล่าว
ข้อมูลพื้นฐาน: ทำไมแอดแวร์ถึงเป็นอันตรายและ 5 วิธีในการปิดกั้นมัน
แอดแวร์เป็นซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่จะแสดงโฆษณาออนไลน์และเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคุณ นอกจากจะบดบังหน้าจอของคุณแล้ว โฆษณายังอาจเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของอุปกรณ์ของคุณด้วย โปรดทราบว่าโฆษณา:
- สามารถทำให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณตกอยู่ในความเสี่ยงได้โดยการติดตั้งการติดตาม คุกกี้ เทคโนโลยีการติดตามหรือลายนิ้วมือของเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์ของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต สิ่งนี้ทำให้บุคคลที่สามสามารถเก็บรวบรวมและขายข้อมูลส่วนบุคคลและประวัติการท่องเว็บของคุณได้
- ทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยโดยทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณติดมัลแวร์ที่เป็นอันตราย
- ชะลอความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณและใช้ข้อมูลมากขึ้นแม้ว่าคุณจะไม่ได้ร้องขอให้เห็นมันก็ตาม
5 เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาประเภทต่าง ๆ
อย่าเข้าใจฉันผิด – ตัวเลือกทั้งหมดในรายการนี้สามารถช่วยกำจัดโฆษณาได้ อย่างไรก็ตามหลังจากทำงานในสาขาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มายาวนานกว่า 6 ปี ฉันเชื่อว่าการใช้ VPN ที่มีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาคือวิธีในการป้องกันตัวเองจากแอดแวร์ แฮกเกอร์และภัยคุกคามอื่น ๆ ที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะเลือกตัวเลือกใด อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณตระหนักถึงการป้องกันที่มันมีให้บริการและข้อจำกัดใด ๆ ทีมี:
- VPN ที่มีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณา: ปิดกั้นโฆษณา มัลแวร์และการโจมตีทางไซเบอร์บนเบราว์เซอร์ใด ๆ และอุปกรณ์ส่วนใหญ่ได้ VPN ยังมอบความปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับคุณซึ่งซอฟต์แวร์ประเภทอื่น ๆ ไม่มี (เช่น ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวเพื่อลบการติดตามประวัติการท่องเว็บใด ๆ ของคุณ)
- เบราว์เซอร์พร้อมความสามารถในการปิดกั้นโฆษณาในตัว: ปิดกั้นโฆษณาบางอย่าง แต่ก็ยังมีหลายโฆษณาที่สามารถหลีกเลี่ยงได้
- ส่วนขยายเบราว์เซอร์เครื่องมือปิดกั้นโฆษณา: ปิดกั้นโฆษณาบนเบราว์เซอร์ที่มันติดตั้งอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่จะไม่ป้องกันคุณในแอปหรือเบราว์เซอร์อื่น ๆ
- แอปปิดกั้นโฆษณาแยกต่างหาก: ปิดกั้นโฆษณาบนเว็บเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันอื่น ๆ แต่ไม่เข้ารหัสข้อมูลและไม่ดูแลให้มันไม่ถูกเปิดเผย (เหมือนอย่างที่ VPN ทำ)
- ปิดกั้นโฆษณาบนเราเตอร์ของคุณ: มอบการปิดกั้นโฆษณาในระดับเครือข่ายโดยสมบูรณ์ แต่ติดตั้งยากและต้องใช้เวลา
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องมือปิดกั้นโฆษณา
ฉันจะติดตั้งเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาได้อย่างไร?
มีความต่างในด้านของคำแนะนำในการติดตั้งสำหรับแต่ละโปรแกรมใน 8 เครื่องมือปิดกั้นที่ดีที่สุดในรายการนี้อยู่เล็กน้อย เพื่อการติดตั้งเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ดีที่สุดในไม่กี่นาที ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำลัดนี้:
- สมัครสมาชิกเครื่องมือปิดกั้นโฆษณา คุณสามารถลองใช้ AdBlock ดูได้เนื่องจากมันมีความสามารถในการปิดกั้นโฆษณาที่ดีที่สุด
- เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เปิดใช้งานฟังก์ชันเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาในการตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว
- เริ่มท่องอินเทอร์เน็ตโดยไม่มีโฆษณาได้เลย!
ฉันควรมองหาฟีเจอร์อะไรเมื่อค้นหาเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ปลอดภัย?
นี่เป็นรายการเกณฑ์ที่ฉันใช้ในระหว่างการทดสอบเพื่อสร้างรายการ 8 อันดับเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ดีที่สุดนี้:
- ปิดกั้นโฆษณามากมายได้สำเร็จ: ฉันทดสอบโปรแกรมเหล่านี้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ อย่าง DailyMail, Forbes, Lifehacker, YouTube, Twitch และ Crunchyroll เพื่อดูว่าพวกมันสามารถปิดกั้นโฆษณาแบนเนอร์ ป๊อปอัพ วอลเปเปอร์และโฆษณาวิดีโอได้หรือไม่
- ส่วนขยายหรือปลั๊กอินที่เข้ากันได้เพื่อการป้องกันเว็บเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ
- ใช้งานง่ายด้วยขั้นตอนการติดตั้งที่เรียบง่าย
- อัปเดตเป็นประจำเพื่อตรวจสอบแอดแวร์ล่าสุด
- ใช้งานได้ฟรีหรือมีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี
โปรดระวังเวลาดาวน์โหลดเครื่องมือปิดกั้นโฆษณา – ฉันพบว่าหลายโปรแกรม (โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมฟรี) จะติดตั้งมัลแวร์ลงบนอุปกรณ์ของคุณหรือขายข้อมูลของคุณกับนักโฆษณา ฉันทดสอบ 8 เครื่องมือปิดกั้นที่ดีที่สุดในรายการนี้อย่างรอบคอบเพื่อที่คุณจะไม่ได้ต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์เพื่อค้นหาโปรแกรมที่ใช้งานได้ โปรแกรมทั้งหมดในรายการนี้ปลอดภัย กำจัดโฆษณาที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันคุณจากการเข้าเว็บที่มีมัลแวร์ได้
เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ดีที่สุดสำหรับ Google Chrome, Firefox, Safari และ Microsoft Edge คือโปรแกรมใด?
แต่ละโปรแกรมใน 8 อันดับเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ดีที่สุดในรายการนี้ทำงานร่วมกับเบราว์เซอร์ยอดนิยมเหล่านี้ได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาอันดับ #1 (AdBlock) ทำงานร่วมกับเบราว์เซอร์ทั้งหมดนี้ได้ มันยังเข้ากันได้กับความหลากหลายของระบบปฏิบัติการซึ่งรวมถึง Android และ iOS
เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาใดที่เหมาะสำหรับ YouTube, Twitch และ Crunchyroll มากที่สุด?
ในหมู่เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาทั้งหมดที่ฉันทดสอบ ฉันพบว่า AdBlock เป็นเครื่องมือที่ปิดกั้นโฆษณาที่เล่นบน YouTube Twitch และ Crunchyroll ได้อย่างต่อเนื่องมากที่สุด นอกจากนี้มันยังทำงานได้ดีในด้านการปิดกั้นป๊อปอัพและโฆษณาแบนเนอร์ทุกรูปแบบตอนที่ฉันทดสอบมันบนเว็บไซต์ต่าง ๆ อย่าง Daily Mail และ Lifehacker ด้วย
หยุดโฆษณาน่ารำคาญใจด้วยเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาเลยวันนี้!
คุณไม่จำเป็นต้องทนกับโฆษณาออนไลน์น่ารำคาญใจที่ชะลอความเร็วในการท่องเว็บของคุณ โปรแกรมใด ๆ ใน 8 อันดับเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ดีที่สุดในบทความนี้สามารถกำจัดโฆษณาได้อย่างน่าเชื่อถือ นอกจากนี้พวกมันยังเป็นบริการคุณภาพสูงซึ่งจะป้องกันคุณจากการติดตามและเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายด้วย
หากคุณมีปัญหาในการตัดสินใจเลือกโปรแกรม การทดสอบของฉันแสดงให้เห็นว่า AsBlock เป็นเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่ดีที่สุดที่มีให้บริการ มันปิดบังโฆษณาต่าง ๆ มากมาย ทำงานร่วมกับเว็บเบราว์เซอร์ทั้งหมดได้
สรุป — VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการบล็อกโฆษณาและมัลแวร์ใน 2024
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อ่าน และเรามุ่งมั่นที่จะได้รับความไว้วางใจจากคุณด้วยการทำงานด้วยความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมบางส่วนที่ได้รับการตรวจสอบบนเว็บไซต์นี้: Intego, Cyberghost, ExpressVPN และ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา เนื่องจากเราปฏิบัติตามวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
แสดงความคิดเห็น
ยกเลิก