รีวิว Bitdefender ปี 2024: ฟรีกับจ่ายเงินแบบไหนดีกว่ากัน?
ภาพรวม Bitdefender 2024
ด้วยผู้ใช้มากกว่าครึ่งพันล้านรายทั่วโลก ฉันจึงไม่ประหลาดใจที่ Bitdefender ได้รับการจัดอันดับในรายการซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสชั้นนำของฉัน หลังจากการทดสอบหลายครั้ง ฉันประทับใจกับประสิทธิภาพของทั้งแผนให้บริการฟรีและแผนให้บริการแบบชำระเงิน
ในระหว่างการทดสอบของฉัน Bitdefender ประสบความสำเร็จในเรื่องการตรวจจับและการลบมัลแวร์ที่สมบูรณ์แบบในทุกแผนให้บริการ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เสริมมากมาย เช่น แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง การปิดกั้นเว็บแคมและไมโครโฟน ไฟร์วอลล์และผู้จัดการรหัสผ่าน
Bitdefender ก็ยังเป็นหนึ่งในโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดในปี 2024 แตกต่างจากคู่แข่งแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ มากมาย คุณสามารถลองใช้งาน Bitdefender ด้วยช่วงเวลาทดลองฟรี 30 วันได้ (ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต)! แถมคุณยังสามารถใช้ Bitdefender ต่อไปได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน ฉันทดสอบด้วยตัวเองแล้วและได้รับเงินคืนกลับเข้าบัญชีภายใน 5 วันเท่านั้น
ไม่มีเวลาอ่านใช่ไหม? นี่คือบทสรุปฉบับ 1 นาที
- การตรวจจับและการกำจัดมัลแวร์ที่มีประสิทธิภาพ ป้องกันคุณด้วยการตรวจจับมัลแวร์ขั้นสูง การสแกนตามเวลาจริงและความปลอดภัยในการป้องกันแรนซัมแวร์และฟิชชิ่งที่แข็งแกร่ง ข้ามไปเพื่อดูว่า Bitdefender ทำงานได้เป็นอย่างไรในแบบทดสอบการตรวจจับมัลแวร์
- ฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติมที่ครอบคลุม ด้วยผู้จัดการรหัสผ่าน, VPN, เครื่องมือกำจัดไฟล์, แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองและอื่น ๆ อีกมากมาย Bitdefender มอบการป้องกันมากกว่าแอนตี้ไวรัสมาตรฐานให้กับคุณ สำรวจฟีเจอร์ทั้งหมดและดูว่ามันคู่ควรกับการใช้งานหรือไม่
- แอปที่มีความเป็นมิตรต่อผู้ใช้ทั้งเวอร์ชันเดสก์ท็อปและมือถือ พร้อมให้บริการบน Windows, Mac, Android, iOS และอุปกรณ์ IoT บางอุปกรณ์ เครื่องมือติดตั้งอัตโนมัติทำให้ติดตั้ง Bitdefender บนเดสก์ท็อปของคุณนั้นง่ายมาก ๆ และตัวแอปเองก็ใช้งานง่าย แอปสำหรับมือถือยังเป็นแอปที่ใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่อีกด้วย ดูว่าแอปต่าง ๆ แตกต่างกันอย่างไร
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่มีประโยชน์พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีแชทออนไลน์ อีเมลและบริการผ่านทางโทรศัพท์ให้บริการ เช่นเดียวกับฟอรั่มที่ที่คุณสามารถถามคำถามกับผู้ใช้รายและผู้เชี่ยวชาญรายอื่น ๆ ได้ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ Bitdefender
- ตัวเลือกพรีเมียมมากมายและเวอร์ชันฟรีที่จำกัด แผนให้บริการ Total Security เป็นแผนที่มอบความคุ้มค่าโดยรวมที่ดีที่สุดและรองรับ Mac น่าเสียดายที่แผนให้บริการเบื้องต้น 2 แผนพร้อมให้บริการเฉพาะ Windows เท่านั้น ดูว่าแต่ละแผนมอบอะไรให้กับเงินที่คุณจ่ายบ้าง
ความปลอดภัย
ไม่ต้องสงสัยเลยในเรื่องนี้ – Bitdefender เป็นหนึ่งในโปรแกรมในการป้องกันคุณจากมัลแวร์และไวรัสที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะเลือกแผนให้บริการใดก็ตาม คุณจะได้รับการป้องกันด้วยซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสพื้นฐาน แม้กระทั่งแผนให้บริการฟรีเองก็จะตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีอยู่แม้ว่าคุณจะไม่ได้รับความปลอดภัยขั้นสูงในระดับเดียวกันกับลูกค้าที่ชำระเงินก็ตาม
การสแกนไวรัส – มีการสแกนหลายรูปแบบพร้อมอัตราการตรวจจับ 100%
ทีมงานและฉันตั้งเครื่องทดสอบ Windows ขึ้นและดาวน์โหลดมัลแวร์และไวรัสโดยเจตนา Bitdefender ตรวจจับมัลแวร์ได้ถึง 100% – มันตรวจพบแม้กระทั่งภัยคุกคามที่ถูกค้นพบเพียง 4 สัปดาห์ก่อนหน้าการทดสอบด้วย! แม้ว่า Bitdefender จะทำเครื่องหมายไฟล์ที่ไม่ได้เป็นอันตรายใด ๆ ว่าเป็นอันตรายถึง 7 ไฟล์ แต่ฉันก็ยังประทับใจกับผลลัพธ์นี้อย่างมากอยู่ดี นี่ถือว่าน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของแบรนด์แอนตี้ไวรัสอื่น ๆ ที่ฉันทดสอบ
เมื่อพูดถึงการป้องกัน Mac Bitdefender ตรวจพบไฟล์ที่เป็นอันตายทั้งหมดในการทดสอบของแน เพื่อนร่วมงานรายหนึ่งรายงานผลลัพธ์เดียวกัน (มันตรวจพลาดไป 1 ไฟล์ในอุปกรณ์ของเธอ) ผลลัพธ์ดังกล่าวทำให้ Bitdefender ได้รับการจัดให้อยู่ในระดับเดียวกันกับคู่แข่งชั้นนำอย่าง Norton 360 ในการทดสอบทั้งหมด
Bitdefender เสนอการสแกนที่หลากหลายในการดูแลให้คุณปลอดภัย:
- การสแกนแบบรวดเร็ว (Quick Scan): ตรวจสอบส่วนต่าง ๆ ของฮาร์ดไดร์ฟที่มีความเสี่ยงจะติดไวรัสสูงสุด
- การสแกนระบบ (System Scan): สแกนทั้งอุปกรณ์ของคุณเพื่อมองหาภัยคุกคาม
- การสแกนช่องโหว่ (Vulnerability Scan): ตรวจสอบระบบของคุณเพื่อมองหาการตั้งค่าที่อาจก่อให้เกิดอันตรายและการขาดการอัปเดตเพื่อปิดช่องโหว่ทางด้านความปลอดภัย
- การสแกนป้องกันสภาพแวดล้อม (Rescue Environment Scan): รีบูตระบบของคุณในโหมดที่ปลอดภัยเพื่อค้นหาและกำจัดภัยคุกคามที่กำจัดยากที่คุณไม่สามารถกำจัดได้ในโหมดระบบปฏิบัติการปกติ
- การสแกนแบบกำหนดเอง (Custom Scan): เลือกส่วนของฮาร์ดไดร์ฟที่คุณต้องการค้นหา กำนดเวลาการสแกนและสิ่งที่ต้องการค้นหา
การสแกนระบบ (System Scan) ใช้เวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาด 980GB (2 191 971 ไฟล์) 48 นาทีในขณะที่การสแกนแบบรวดเร็ว (Quick Scan) ใช้เวลาเพียง 7 นาที (10 938 ไฟล์) แม้ว่าการสแกนระบบ (System Scan) จะใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการทำงาน แต่มันก็ใช้เวลาน้อยลงในการสแกนครั้งต่อ ๆ มาเนื่องจาก Bitdefender จะทำเครื่องหมายไฟล์บางไฟล์ว่าปลอดภัย ตอนที่ฉันเปิดใช้งานการสแกนระบบ (System Scan) ในวันอื่น มันใช้เวลา 10 นาทีในการสแกนไฟล์จำนวน 1 461 329 ไฟล์เพียง 10 นาทีเท่านั้น!
การป้องกันตามเวลาจริง – ตรวจจับและปิดกั้นการโจมตีทางไซเบอร์ได้ถึง 99.7%
การตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอนตี้ไวรัสของคุณสามารถกำจัดซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายหลังจากการติดไวรัสได้จริงนั้นเป็นเรื่องสำคัญ – มันจะดีซะกว่าหากสามารถป้องกันการติดไวรัสได้ตั้งแต่แรก
Bitdefender ตรวจจับภัยคุกคามตามเวลาจริงได้ถึง 99.7% ซึ่งถือเป็นอัตราการตรวจจับที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ มีคู่แข่งแอนตี้ไวรัสจำนวนไม่มากที่สามารถทำคะแนนออกมาได้ดีขนาดนี้ จริง ๆ แล้วมีเพียงไม่กี่ตัวเลือกในตลาดเท่านั้นที่สามารถทำได้ดีกว่า (เช่น Norton 360 ซึ่งสามารถทำคะแนนได้ 100% ในการทดสอบเดียวกัน) สำหรับการทดสอบนี้ ฉันได้เปิดอีเมลและเว็บไซต์ที่มีการติดมัลแวร์บน PC อย่างแน่นอนหลายครั้ง ฉันมีความสุขที่ได้พบผลบวกผิดพลาด (ไฟล์ที่ปลอดภัยที่ถูกทำเครื่องหมายว่าเป็นอันตราย) 0 ครั้ง
มันขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของภัยคุกคาม (การดาวน์โหลดไฟล์หรือเว็บไซต์) Bitdefender จะแจ้งเตือนคุณด้วยการแจ้งเตือนหรือหรือแจ้งเตือนโดยตรงในหน้าต่างเบราว์เซอร์ จากนั้นมันก็จะตัดสินใจว่าจะปิดกั้นหรือกักกันไฟล์ดังกล่าว แต่คุณสามารถยกเลิกการตัดสินใจนี้ได้หากคุณคิดว่าไฟล์ดังกล่าวนั้นปลอดภัย
การป้องกันฟิชชิ่ง – ตรวจพบอีเมล ลิงก์และเว็บไซต์สแกม 94%
การโจมตีฟิชชิ่งเกิดขึ้นเมื่อแฮกเกอร์พยายามหลอกให้คุณกรอกข้อมูลลงชื่อเข้าใช้และข้อมูลทางการเงินหรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ลงในเว็บไซต์หรืออีเมลที่ดูเหมือนจะถูกกฎหมาย Bitdefender ทำคะแนนในด้านอัตราการตรวจจับได้สูงถึง 94% ในระหว่างการทดสอบฟิชชิ่งซึ่งมันช่วยกำจัดภัยคุกคามใหม่ล่าสุดส่วนใหญ่ก่อนที่มันจะก่อปัญหาได้
Bitdefender ปกป้องคุณจากการฟิชชิ่งด้วยเครื่องมือต่าง ๆ มากมายซึ่งรวมถึง:
- ตัวกรอง URL เพื่อจับคู่เว็บไซต์ที่เป็นอันตรายกับฐานข้อมูลที่มีอยู่
- ตัวกรองการศึกษาการสำนึกเพื่อตรวจสอบลักษณะการสแปมในอีเมลและเว็บไซต์
- โมดูลของเบย์ (Bayesian module) เพื่อระบุว่าอีเมลนั้นเป็นฟิชชิ่งหรือไม่โดยอ้างอิงตามการวิเคราะห์คำ
- Web Shield เพื่อตรวจสอบและป้องกันกิจกรรมบนเครือข่ายของคุณ
การป้องกันแรนซัมแวร์ – เครื่องมือตรวจสอบพฤติกรรมเสนอตัวเลือกความปลอดภัยขั้นสูงและการกู้คืนไฟล์
แรนซัมแวร์เกิดขึ้นเมื่อแฮกเกอร์เข้ารหัสฮาร์ดไดร์ฟบางส่วนหรือทั้งหมดของคุณและบังคับให้คุณจ่ายเงินค่าไถเพื่อถอดรหัสมัน ที่แย่กว่านั้นคือคุณอาจไม่สามารถกู้คืนไฟล์อันแสนล้ำค่าของคุณกลับมาได้แม้ว่าคุณจะยอมจ่ายเงินก้อนโตก็ตาม
Bitdefender ป้องกันการโจมตีแรนซัมแวร์ด้วยเครื่องมือตรวจสอบพฤติกรรม (Behavior Monitor) ซึ่งจะป้องกันมัลแวร์จากการแก้ไขไฟล์ของคุณ ในขณะที่สำรองข้อมูล มันจะจดจำไฟล์ที่สำคัญของคุณและคัดลอกมันไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย นั่นหมายความว่าหากคุณตกเป็นเหยื่อของการโจมตีแรนซัมแวร์ คุณก็สามารถกู้คืนเอกสารเหล่านี้ได้ง่าย ๆ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ดำเนินการสำรองข้อมูลเอาไว้ แต่คุณก็สามารถใช้เครื่องมือการแก้ไขแรนซัมแวร์ (Ransomware Remediation) ของ Bitdefender เพื่อพยายามถอดรหัสข้อมูลของคุณโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินได้
การป้องกันนี้จะไม่รบกวนโปรแกรมอื่น ๆ คุณสามารถเพิ่มแอปพลิเคชันที่ยกเว้นได้เพื่อที่ Bitdefender จะได้ไม่แทรกแซงความสามารถในการแก้ไขไฟล์ดังกล่าวนั้น
ประสิทธิภาพระบบ – ส่งผลกระทบต่อความเร็วเล็กน้อย แต่ไม่มีการกระตุกหรือค้าง
การเปิดใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัสนั้นต้องใช้ทรัพยากรระบบซึ่งหมายความว่าคุณจะได้พบกับความเร็วที่ช้าลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โชคดีที่ Bitdefender ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ของคุณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในการทดสอบของฉัน ฉันเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ Bitdefender กับบริการแอนตี้ไวรัสชั้นนำอย่าง Norton 360 อย่างใกล้ชิด ฉันประหลาดใจที่มันส่งผลกระทบเล็กน้อยเท่ากันกับ Norton ทั้งการเปิดใช้งานแอปและความเร็วในการโอนไฟล์ มันทำให้คอมพิวเตอร์ของฉันช้าลงนิดหน่อยตอนที่เปิดหน้าเว็บ (17% เมื่อเทียบกับ Norton 9%) แต่คุณจะไม่สังเกตเห็นถึงความแตกต่างดังกล่าว ความเร็วที่ช้าลงไม่กี่วินาทีนั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับฉันตราบใดที่ไม่มีการกระตุกหรือการค้าง – บางสิ่งที่ฉันไม่เคยพบเมื่อใช้ Bitdefender เลย
ในขณะที่เปิดใช้งานการสแกนระบบแบบเต็ม การใช้งาน CPU ของฉันเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 9% อย่างไรก็ตามไม่มีผลกระทบที่สังเกตเห็นได้ในประสิทธิภาพของอุปกรณ์
ฟีเจอร์ส
Bitdefender มีส่วนเสริมความปลอดภัยเพิ่มเติมมากมายที่เหนือกว่าข้อเสนอส่วนใหญ่ของแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ มันมีส่วนเสริมที่โดดเด่น (ซึ่งรวมถึง File Shredder, SafePay และอื่น ๆ อีกมากมาย) ที่ฉันแทบไม่เคยเห็นในโปรแกรมอื่น ๆ อย่างไรก็ตามเครื่องมืออื่น ๆ เหล่านี้บางส่วน (อย่าง VPN) ไม่เป็นไปอย่างที่ฉันคาดหวังเอาไว้เท่าไหร่นัก
ไฟร์วอลล์ – ใช้งานง่ายพร้อมตัวเลือกมากมายสำหรับผู้ใช้ขั้นสูง
ไฟล์วอลล์ของ Bitdefender เพิ่มชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมโดยการป้องกันซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายไม่ให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ การป้องกันนี้ยังหยุดอาชญากรทางไซเบอร์ไม่ให้เชื่อมต่อถึงคุณด้วย ไฟร์วอลล์จะวิเคราะห์แอปพลิเคชันที่คุณติดตั้งและปรับแต่งตัวเองโดยอ้างอิงตามประเภทเครือข่ายที่คุณเลือก (ไดนามิก บ้าน/ที่ทำงานหรือสาธารณะ) คุณยังสามารถปรับแต่งกฎเพื่อควบคุมแอปเฉพาะเจาะจงที่คุณต้องการให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย
ฟีเจอร์ไฟร์วอลล์ที่มีประโยชน์อีกฟีเจอร์หนึ่งคือ Alert Mode ซึ่งจะแจ้งเตือนคุณเมื่อมีแอปพยายามจะออนไลน์ เช่นเดียวกันกับ Stealth Mode จะซ่อนคุณจากอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน ฉันพึงพอใจที่แอปนี้ช่วยปิดบังตัวคุณจากพวกชอบสอดแนมแม้กระทั่งใน WiFi สาธารณะ
ฉันพบว่าการตั้งค่าความปลอดภัยของไฟร์วอลล์นั้นมีประโยชน์อย่างมาก ดังนั้นมันจึงน่าผิดหวังที่มันมีให้บริการเฉพาะในแพ็กเกจ Bitdefender Internet Security และ Total Security เท่านั้น
Antispam – ปิดกั้นการสแปม แต่ใช้งานได้บางแพลตฟอร์มอีเมลเท่านั้น
สแปมมักทำให้คุณเสี่ยงที่จะพบกับการฟิชชิ่ง อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะไม่ใช่การโจมตีที่กำหนดเป้าหมาย แต่อีเมลขยะก็ยังเป็นปัญหาอยู่ดีและมันอาจทำให้คุณไม่เห็นข้อความสำคัญ ๆ ได้
ฟีเจอร์ Antispam ของ Bitdefender เชื่อมต่อกับ Outlook หรือ Thunderbird และคัดกรองอีเมลขยะได้ง่าย ๆ คุณสามารถเพิ่มอีเมลในข้อมูลผู้ติดต่อที่รู้จักที่ไม่ควรถูกคัดกรองหรือทำเครื่องหมายว่าเป็นอีเมลสแปมที่คุณรู้ว่าเป็นอันตรายได้ คุณยังสามารถส่งตัวอย่างสแปมหรืออีเมลที่ถูกกฎหมายเพื่อสอนฟีเจอร์ Antispam ให้จดจำอีเมลขยะให้ดียิ่งขึ้นได้
เนื่องจากฉันใช้ Outlook ที่ที่ทำงาน ฉันจึงคิดว่าฟีเจอร์นี้มีประโยชน์ อย่างไรก็ตามหากคุณใช้บริการอีเมลอื่น ๆ ฟีเจอร์นี้จะไม่มีประโยชน์อะไรเนื่องจากมันไม่รองรับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ส่วนใหญ่
การป้องกันเว็บแคมและเสียง – แจ้งเตือนคุณเมื่อมีแอปเข้าถึงกล้องหรือไมโครโฟนของคุณ
อาชญากรทางไซเบอร์กำลังพุ่งเป้าไปที่วิดีโอและเสียงเพื่อขโมยข้อมูลของคุณมากขึ้นเรื่อย ๆ – แม้แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของรัฐบาลเองก็ยอมรับว่าพวกเขาแปะเทปเอาไว้ที่เว็บแคมเพื่อความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติม โชคดีที่ Bitdefender มีซอฟต์แวร์ในการปิดกั้นเว็บแคมและไมโครโฟนของคุณ มันยังแจ้งเตือนคุณด้วยว่าโปรแกรมใดที่พยายามเข้าถึงมัน ฟีเจอร์นี้ทำให้ฉันมั่นใจว่าแฮกเกอร์จะไม่สามารถแอบรับชมหรือรับฟังฉันในขณะใช้งานคอมพิวเตอร์ได้
ท่องเว็บอย่างปลอดภัยด้วย Bitdefender
ผู้จัดการรหัสผ่าน – รวดเร็วและใช้งานง่ายพร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลไม่จำกัด
นี่เป็นหนึ่งในผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดที่ฉันเคยทดสอบ ในแผนให้บริการแบบชำระเงินทุกแผน Bitdefender สามารถจัดเก็บข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณและกรอกมันบนเว็บไซต์เมื่อต้องการได้โดยอัตโนมัติ ไม่มีขีดจำกัดสำหรับจำนวนรหัสผ่านที่จัดเก็บได้ คู่แข่งอย่าง McAfee อนุญาตให้คุณจัดเก็บรหัสผ่านได้เพียง 15 รหัสผ่านเท่านั้น ยกเว้นแต่ว่าคุณจะจ่ายเงินเพิ่มซึ่งก็มอบพื้นที่จัดเก็บไม่พออยู่ดี
ฉันประทับใจเป็นอย่างยิ่งกับความเร็วในการกรอกรหัสอัตโนมัติของ Bitdefender บนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อ ฉันทดสอบผู้จัดการรหัสผ่านมากมายและมีบางครั้งที่มีการดีเลย์ก่อนที่มันจะกรอกข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของฉัน อย่างไรก็ตามฉันทดสอบบนเว็บไซต์ต่าง ๆ กว่า 15 เว็บไซต์และ Bitdefender ก็กรอกข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของฉันในเวลา 1 วินาทีเสมอ!
Bitdefender VPN – ฟีเจอร์ครบวงจร แต่มีให้บริการเฉพาะในแผนให้บริการพรีเมียมเท่านั้น
ฉันชอบที่ Bitdefender มี VPN ให้บริการในทุกแผนให้บริการและมันใช้งานได้บนอุปกรณ์ Windows, Android, Mac และ iOS ฉันเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า VPN เป็นโปรแกรมสำคัญในการดูแลให้ประวัติการท่องเว็บออนไลน์ของคุณเป็นส่วนตัว ปลดบล็อกเนื้อหาที่ถูกจำกัดและปิดบังหมายเลข IP ที่แท้จริงของคุณ
คุณจะถูกจำกัดข้อมูล 200MB ต่อวันต่ออุปกรณ์ ยกเว้นแต่ว่าคุณจะสมัครสมาชิกในแผนให้บริการพรีเมียมของ Bitdefender ข้อมูลที่อนุญาตให้ใช้งานได้นั้นถือว่าน้อยมากจนแทบจะว่าว่าไร้ประโยชน์ก็ได้ ข้อมูลของฉันหมดลงใน 30 วินาทีหลังจากที่ฉันเปิดการทดสอบความเร็วเพียงครั้งเดียว! นอกจากนี้คุณยังไม่สามารถเลือกตำแหน่งของคุณเองได้ – VPN จะเชื่อมต่อคุณกับตำแหน่งที่มันเชื่อว่าดีที่สุดโดยอัตโนมัติ แม้ว่านี่จะไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่มันก็ยังมีที่แย่กว่านี้ ตัวอย่างเช่น Phantom VPN ในเวอร์ชันฟรีของ Avira มีข้อมูลให้ใช้งานเพียง 500MB เท่านั้นสำหรับตลอดทั้งเดือน
Premium VPN ของ Bitdefender เป็นโปรแกรมที่ดี แต่ฉันไม่มั่นใจว่ามันคู่ควรกับการอัปเกรดการสมัครสมาชิกไหม คุณจะได้รับข้อมูลที่ไม่จำกัดและการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ใน 27 ประเทศ แต่คุณจะไม่สามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมากมายได้ ฉันสามารถเชื่อมต่อได้เพียง Netflix ฉันไม่สามารถใช้งานกับ Disney+ หรือ HBO Max ได้ อย่างไรก็ตามความเร็วของฉันนั้นรวดเร็วพอที่จะรับชมในความคมชัดระดับ 4K UltraHD และ Torrent ไฟล์ขนาดใหญ่ได้ ฉันรับชมภาพยนตร์เรื่อง Leave No Trace บน Netflix ได้โดยมีการสะดุดน้อยกว่า 5 วินาที
สรุปก็คือ VPN ของ Bitdefender เป็นโปรแกรมที่ดีหากคุณไม่มี VPN แต่มันก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดที่มีให้บริการ หากคุณกำลังมองหาแอนตี้ไวรัสที่มี VPN ประสิทธิภาพสูงรวมมาให้ด้วย Norton 360 มี VPN ให้บริการพร้อมข้อมูลการใช้งานไม่จำกัดในทุกแผนให้บริการ ยกเว้นแผนให้บริการพื้นฐาน
ส่วนขยายเบราว์เซอร์ Anti-Tracker – ปิดกั้นนักโฆษณาไม่ให้ตรวจสอบกิจกรรมทางออนไลน์ของคุณ
หากคุณเป็นเหมือนกับฉัน คุณจะต้องเกลียดการติดตามโดยเครื่องมือติดตามในอินเทอร์เน็ต นักโฆษณาใช้เครื่องมือติดตามในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ แถมยังลดความเร็วในการท่องเว็บของคุณลงด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงมีความสุขที่ส่วนขยายเบราว์เซอร์ Anti-Tracker ของ Bitdefender ปิดกั้นการติดตามบน Google Chrome, Mozilla Firefox และ Microsoft Edge ได้
ฉันเปรียบเทียบฟีเจอร์นี้กับปลั๊กอิน Privacy Badger ของ Electronic Frontier Foundation ในเว็บไซต์มากมาย ฉันมีความสุขที่ปลั๊กอินของ Bitdefender ปิดกั้นการติดตามได้มากกว่าคู่แข่ง!
File Shredder และ Safe File – ลบข้อมูลความลับโดยไม่ให้ติดตามได้
หากคุณมีข้อมูลความลับเก็บเอาไว้ในฮาร์ดไดร์ฟของคุณที่คุณต้องการซ่อนหรือทำลาย การลบมันตามปกตินั้นไม่พอ ทุกวันนี้ซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนสามารถกู้คืนไฟล์ที่คุณคิดว่าถูกลบไปตลอดกาลแล้วได้
File Shredder ของ Bitdefender ช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยการเขียนทับไฟล์ของคุณด้วยข้อมูลใหม่หลาย ๆ ครั้งแทนที่จะแค่ลบมัน ฉันทดสอบมันโดยการกำจัดไฟล์วิดีโอขนาด 5GB ซึ่งใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมงในการดำเนินการ นี่ถือเป็นข้อเสียของการลบแบบนี้ – ไฟล์ขนาดใหญ่อาจใช้เวลาในการดำเนินการมาก แต่นอกจากจะทำลายฮาร์ดไดร์ฟของคุณทิ้งแล้ว ฉันก็ไม่พบวิธีในการลบบางสิ่งตลอดกาลที่ดีกว่านี้แล้ว
หากคุณไม่พร้อมที่จะลบไฟล์ที่มีข้อมูลความลับ แต่อยากเก็บมันเอาไว้เป็นความลับ ฟีเจอร์ Safe File ทำหน้าที่เหมือนตู้นิรภัยสำหรับไฟล์ส่วนบุคคล เมื่อคุณโอนเอกสารไปยังโฟลเดอร์ Safe File เอกสารดังกล่าวจะไม่สามารถถูกเข้าถึงหรือเปลี่ยนแปลงโดยที่คุณไม่ทราบได้
SafePay – การธนาคารและการช้อปปิ้งพร้อมชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติม
การใช้เว็บไซต์ธนาคารหรืออีคอมเมิร์ซในเบราว์เซอร์ปกติอาจทำให้อาชญากรทางไซเบอร์ขโมยข้อมูลทางการเงินของคุณได้ คีย์ล็อกเกอร์สามารถดักจับชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของคุณ ผู้รุกรานอาจถ่ายรูปกิจกรรมของคุณอย่างลับ ๆ และการโจมตีแบบแทรกกลางอาจสกัดกั้นข้อมูลในการเชื่อมต่อที่ใช้ร่วมกันหรือไม่ปลอดภัยได้
เมื่อคุณเปิดใช้งาน Bitdefender SafePay คุณจะเปิดสภาพแวดล้อมเดสก์ท็อปที่แตกต่างที่ไม่มีลิงก์ไปยังเดสก์ท็อปที่มีอยู่ของคุณ ฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงนี้จะช่วยป้องกันการถ่ายรูปหน้าจอ การสกัดกั้นข้อมูลและคีย์ล็อกเกอร์ มันยังปิดกั้นเว็บไซต์ที่น่าสงสัยและส่วนขยายเบราว์เซอร์ไม่ให้โหลดตั้งแต่แรกด้วย สิ่งนี้ช่วยให้คุณทำการธนาคารออนไลน์หรือช้อปปิ้งได้โดยไม่ต้องกังวล
ฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ SafePay และฉันแนะนำให้ฉันมันเมื่อใดก็ตามที่คุณต้องแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวที่เป็นความลับ นอกจากนี้มันยังผสานรวมกับ Password Wallet และ VPN ของ Bitdefender เพื่อการป้องกันเพิ่มเติมและความง่ายในการใช้งานอีกด้วย
ทำการธนาคารอย่างปลอดภัยด้วย Bitdefender
แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง – ตรวจสอบกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ตของลูกคุณจากระยะไกล
คุณสามารถใช้เครื่องมือแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองของ Bitdefender เพื่อระบุตำแหน่งอุปกรณ์ของลูกคุณ ติดตามระยะเวลาที่พวกเขาใช้ออนไลน์และปิดกั้นเว็บไซต์หรือแอปได้ นี่ถือเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์สำหรับการปิดกั้นการเข้าถึงเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่และปิดการเข้าถึงโซเชียลมีเดยหรือแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชั่วคราว
คุณสามารถเพิ่มโปรไฟล์ให่ของลูกไปยังบัญชีคุณและกำหนดเป็นอุปกรณ์เฉพาะได้ง่าย ๆ เมื่อคุณส่งและเปิดลิงก์ดาวน์โหลดบนอุปกรณ์ใหม่ มันจะเปิดใช้งานซอฟต์แวร์โดยอัตโนมัติ น่าเสียดายที่แต่ละอุปกรณ์ทำงานได้ด้วยโปรไฟล์เพียง 1 โปรไฟล์เท่านั้น (ในขณะที่ Norton รองรับสูงสุดถึง 14 โปรไฟล์) หากลูกของคุณใช้ PC ร่วมกันกับคุณ นั่นหมายความว่าคุณจะต้องปิดการใช้งานการควบคุมเหล่านี้เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการใช้มัน
ความง่ายต่อการใช้งาน
แอปของ Bitdefender มีอินเทอร์เฟซในตัวที่ดีและมีคำอธิบายง่าย ๆ ซึ่งแม้แต่มือใหม่ก็สามารถเข้าใจการตั้งค่าได้ไม่ยาก ผู้ใช้ขั้นสูงยังได้รับอิสระในการกำหนดค่าความปลอดภัยที่เฉพาะเจาะจงได้
คุณสามารถติดตั้งแอป Bitdefender เวอร์ชันเดสก์ท็อปและมือได้ภายในไม่กี่คลิก ง่าย ๆ เพียงดาวน์โหลดและเปิดใช้งานตัวติดตั้ง Bitdefender บน Windows หรือ Mac และมันจะถูกดาวน์โหลดและติดตั้งโดยอัตโนมัติ บนอุปกรณ์ Windows ของฉัน มันใช้เวลาตั้งแต่เริ่มจนจบประมาณ 5 นาที ฉันยังแนะนำให้คุณดาวน์โหลดแอปมือถือจากลิงก์นี้เพื่อที่คุณจะได้สามารถรับเงินคืนได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องผ่านร้านค้า Google Play หรือ Apple App Store นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว คุณยังสามารถดาวน์โหลดแอปในภาษาไทยได้อีกด้วย
แอปสำหรับเดสก์ท็อป – อินเทอร์เฟซที่ดีพร้อมตัวเลือกที่มีคำอธิบายชัดเจนสำหรับ Windows และ Mac
แอป Bitdefender เวอร์ชันเดสก์ท็อปสำหรับ Windows และ Mac ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีและสามารถกำหนดค่าเองได้ คุณสามารถจัดการแดชบอร์ดของคุณเพื่อการเข้าถึงฟีเจอร์ที่คุณโปรดปรานอย่างรวดเร็วซึ่งรวมถึงการสแกนที่เฉพาะเจาะจง, Safepay และอื่น ๆ อีกมากมาย
ฉันพบว่า Bitdefender เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการติดตั้งแอนตี้ไวรัสและลืมมันไปเลย ไฟร์วอลล์จะกำหนดค่าตัวเองใหม่อย่างต่อเนื่องและคุณสามารถเปิดใช้งานการอัปเดตแบบเงียบ ๆ เพื่อที่มันจะไม่ได้รับกวนคุณเมื่อใดก็ตามที่มีการอัปเดต คุณยังสามารถกำหนดตารางการสแกนปกติเพื่อที่ระบบจะได้จัดการมันด้วยตัวเองและตรวจจับภัยคุกคามโดยที่คุณไม่ต้องแทรกแซง
แอปสำหรับมือถือ – ดีไซน์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้พร้อมฟีเจอร์เสริมสำหรับ Android และ iPhone
Bitdefender Mobile Security เป็นแอปคู่หูที่ดีในการดูแลให้อุปกรณ์มือถือของคุณปลอดภัยเหมือนกับคอมพิวเตอร์ของคุณ ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ที่ทำให้แผนให้บริการ Total และ Premium Security มีความคุ้มค่าเมื่อพิจารณาถึงว่ามันช่วยป้องกันอุปกรณ์ของคุณด้วย สำหรับ Android คุณจะได้รับการป้องกันดังต่อไปนี้:
- การสแกนภัยคุกคาม (Threat Scanning): สแกนอุปกรณ์ของคุณเพื่อมองหามัลแวร์ แรนซัมแวร์ แอปพลิเคชันที่อาจไม่พึงประสงค์ แอดแวร์ แอปลอมและอื่น ๆ อีกมากมาย
- VPN: เข้ารหัสการเชื่อมต่อมือถือและปิดบังข้อมูลของคุณ
- การป้องกันเว็บไซต์ (Web Protection): สแกนหน้าเว็บตามเวลาจริงเพื่อปิดกั้นเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย
- การป้องกันการโจรกรรม (Anti-Theft): ให้คุณลบ ปิดกั้น หาตำแหน่งและกู้คืนหรือลบข้อมูลจากอุปกรณ์ของคุณจากระยะไกลในกรณีที่อุปกรณ์ถูกขโมยได้
- ความเป็นส่วนตัวของบัญชี (Account Privacy): สแกนที่อยู่อีเมลของคุณเป็นประจำเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าคุณได้ตกเป็นส่วนหนึ่งของการรั่วไหลของข้อมูลหรือไม่
- การปิดกั้นแอป (App Lock): เพิ่มรหัส PIN ในแอปใด ๆ เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต
โปรดทราบว่าบน iOS คุณจะเข้าถึงได้แค่ฟีเจอร์การป้องกันเว็บไซต์, VPN และความเป็นส่วนตัวของบัญชี หากคุณต้องการการป้องกันเพิ่มเติมบน iPhone หรือ iPad ของคุณ อาจมีตัวเลือกซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อน iOS ที่ดีกว่า
ตอนที่ฉันดาวน์โหลด Bitdefender บนโทรศัพท์ Android ของฉัน มันแนะนำฉันผ่านภาพรวมที่รวดเร็วเพื่ออธิบายว่าแต่ละฟีเจอร์คืออะไร แดชบอร์ดจะแสดงให้คุณเห็นว่าอุปกรณ์ของคุณนั้นปลอดภัยหรือไม่และมอบสิทธิ์ในการเข้าถึง VPN ภายในตัวอย่างง่ายดายให้กับคุณ ที่นี่คุณจะพบการดำเนินการที่แนะนำบางอย่างเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของอุปกรณ์ของคุณ
ฉันสแกนโทรศัพท์ของฉันและมีความสุขที่ได้เห็นว่ามันไม่มีแอปที่เป็นอันตราย เครื่องมือ Account Privacy ยังแจ้งเตือนให้ฉันทราบด้วยว่ามันพบอีเมลของฉันใน 8 การรั่วไหลของข้อมูลนับตั้งแต่ปี 2010 ฉันตระหนักถึงการรั่วไหลส่วนใหญ่ แต่มันก็แจ้งเตือนฉันถึงการรั่วไหลเมื่อไม่นานมานี้ซึ่งช่วยให้ฉันเปลี่ยนรหัสผ่านของบริการที่ได้รับผลกระทบได้ทันที
บริการลูกค้า
นอกจากฐานข้อมูลความรู้แล้ว Bitdefender มอบช่องทางในการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า 3 ช่องทาง – แชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง อีเมลและโทรศัพท์ ฉันทดสอบตัวเลือกทั้ง 3 ตัวเลือกและฉันได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์ทุกครั้ง แต่แชทออนไลน์เป็นช่องทางที่รวดเร็วที่สุด
แชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง – ช่องทางการขอความช่วยเหลือที่รวดเร็วที่สุด
แชทออนไลน์ของ Bitdefender เป็นวิธีขอความช่วยเหลือที่รวดเร็วที่สุด คุณจะพบตัวเลือกแชทออนไลน์ได้ง่าย ๆ (ไม่เหมือนคู่แข่งบางรายอย่าง Avast) และฉันได้รับการเชื่อมต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าภายใน 1 นาที ฉันสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมาย เช่น File Shredder และช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรีและได้รับการตอบกลับที่รวดเร็วและมีประโยชน์เสมอ
บริการความช่วยเหลือผ่านอีเมล – ใช้เวลารอการตอบกลับประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
หากคุณไม่มีเวลาพูดคุยผ่านทางแชทออนไลน์ บริการความช่วยเหลือผ่านอีเมลของ Bitdefender ก็เป็นช่องทางที่รวดเร็วและมีประโยชน์ ตอนที่ฉันทดสอบฟีเจอร์นี้ พวกเขาใช้เวลาในการตอบกลับประมาณ 75 นาทีและอีเมลที่ได้รับนั้นก็อธิบายข้อมูลที่น่าสับสนที่ฉันพบเห็นบนเว็บไซต์ได้
บริการความช่วยเหลือผ่านโทรศัพท์ – บริการความช่วยเหลือที่ช้ากว่า แต่ก็เหมาะสำหรับคำถามที่มีความซับซ้อนมากกว่า
ฉันมีความสุขที่ได้เห็นว่าบริการความช่วยเหลือผ่านโทรศัพท์ของ Bitdefender มีให้บริการใน 17 ประเทศในภาษาสเปน ฝรั่งเศส เยอรมันและญี่ปุ่น คุณยังสามารถติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ระหว่างประเทศโดยใช้ภาษาอังกฤษได้อีกด้วย
ฉันโทรติดต่อสายด่วนในสหราชอาณาจักร เวลา 15:30 น. CET และต้องถือสายรอนานน้อยกว่า 12 นาที นี่ก็ไม่ถือว่าแย่ไปซะทีเดียวสำหรับบริการความช่วยเหลือผ่านโทรศัพท์ แต่มันก็นานกว่าการใช้แชทออนไลน์มาก อย่างไรก็ตามมันเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณมีคำถามเกี่ยวกับบางอย่างที่ซับซ้อน ฉันพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเกี่ยวกับปัญหา Bitdefender VPN ไม่ทำงานกับซอฟต์แวร์ P2P ซึ่งพวกเขาก็อธิบายว่ามันเป็นสิ่งที่คุณสามารถตั้งค่าได้ในตัวเลือกขั้นสูง
ฟอรั่มคอมมูนิตี้ – มีประโยชน์สำหรับปัญหาที่เร่งด่วนน้อย
ฟอรั่มเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการตรวจสอบก่อนที่จะติดต่อฝ่ายสนับสนุน มันมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ที่ผู้ใช้คนอื่นได้รับการแก้ไขแล้ว มันพร้อมให้บริการในภาษาอังกฤษ เยอรมัน สเปน ฝรั่งเศสและโรมาเนีย ฟอรั่มของ Bitdefender นั้นใช้งานง่ายและประกอบไปด้วยหัวข้อที่มีประโยชน์มากมายที่คุณสามารถค้นหาดูได้
ตอนที่ฉันต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการลบ Bitdefender ออกจาก PC ของฉันโดยสมบูรณ์ ฉันมีความสุขที่ฉันพบหัวข้อที่บอกวิธีแก้อย่างรวดเร็ว
ราคา
Bitdefender เสนอการเข้าถึงฟีเจอร์ตามราคา ตัวอย่างเช่น แผนให้บริการฟรีจะไม่มีการป้องกันแรนซัมแวร์ขั้นสูงและการกู้คืนและแผนให้บริการ Premium เท่านั้นที่มีข้อมูล VPN ให้บริการไม่จำกัด อย่างไรก็ตามฉันพบว่าแผนให้บริการแบบชำระเงินส่วนใหญ่มอบความคุ้มค่าที่ดีเมื่อพิจารณาถึงว่าพวกเขามอบความปลอดภัยอันยอดเยี่ยมจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ล่าสุดเป็นระยะเวลาหนึ่งปี
Bitdefender Free – ใบอนุญาตสำหรับ 1 อุปกรณ์เท่านั้นแลไม่มีการป้องกันแรนซัมแวร์ขั้นสูง
Bitdefender Free เป็นแอนตี้ไวรัสพื้นฐานที่สุดซึ่งไม่น่าแปลกใจเนื่องจากมันเปิดให้บริการฟรี แม้ว่ามันจะสามารถตรวจจับและปิดกั้นแรนซัมแวร์ส่วนใหญ่ได้ แต่คุณจะไม่ได้รับการป้องกันจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ขั้นสูงล่าสุด นอกจากนี้คุณยังไม่ได้รับฟีเจอร์เสริมที่คุณจะได้รับใน Bitdefender Antivirus Plus เช่น ผู้จัดการรหัสผ่าน, SafePay, VPN, สแกนเนอร์ช่องโหว่, การตรวจจับไฟล์ที่ปลอดภัย, เครื่องมือป้องกันการติดตามและแม้กระทั่งฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
Bitdefender Free มีซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสหลักซึ่งรวมถึง:
- การตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูง
- เครื่องมือป้องกันมัลแวร์
- การป้องกันตามเวลาจริง การป้องกันฟิชชิ่งและการป้องกันการฉ้อโกง (เฉพาะ Windows เท่านั้น)
- ตัวกรองเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย
- เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
- การสแกนบนคลาวด์เพื่อลดผลกระทบต่อระบบ
แม้ว่าเวอร์ชันฟรีจะทำงานได้ค่อนข้างดี แต่ฉันก็ไม่สามารถแนะนำมันในฐานะโซลูชันแอนตี้ไวรัสที่น่าเชื่อถือได้เนื่องจากมันขาดการป้องกันแรนซัมแวร์ขั้นสูง แรนซัมแวร์เป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ร้ายแรกที่สุดที่คุณสามารถเผชิญได้และคุณจะต้องสูญเสียมากกว่าแค่เงินหากแฮกเกอร์ตัดสินใจที่จะยึดครองเอกสารความลับของคุณเอาไว้
Bitdefender Antivirus Plus – แผนให้บริการพื้นฐาน (เฉพาะ Windows เท่านั้น)
Antivirus Plus มีฟีเจอร์ทั้งหมดที่ Bitdefender Free มีให้บริการเช่นเดียวกับ:
- การป้องกันสำหรับ 1, 3, 5 หรือ 10 อุปกรณ์ (โดยราคาจะถูกกำหนดตามจำนวนอุปกรณ์)
- การป้องกันภัยคุกคามบนเครือข่าย
- การป้องกันแรนซัมแวร์หลายชั้น
- การประเมินช่องโหว่
- การป้องกันสภาพแวดล้อม
- คำแนะนำความปลอดภัย Autopilot
- โปรไฟล์สำหรับเกม ภาพยนตร์และทำงาน
- โหมดแบตเตอรี่
- VPN (อนุญาตให้ใช้งานได้ 200MB ต่อวัน)
- การป้องกันการติดตาม
- เบราว์เซอร์ SafePay
- คำแนะนำความปลอดภัยของ Wi-Fi
- การป้องกันโซเชียลเน็ดเวิร์ก
- ผู้จัดการรหัสผ่าน
- File shredder
- การป้องกันการสแปม
- ตัวเลือกฝ่ายสนับสนุนลูกค้าทุกช่องทาง
ฉันพบว่าแผนให้บริการ Antivirus Plus ของ Bitdefender เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณมีไฟร์วอลล์ที่น่าเชื่อถืออยู่แล้วและไม่ต้องการฟีเจอร์แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง อย่างไรก็ตามฉันไม่แนะนำมันเนื่องจากมันมีราคาเท่ากันกับ Bitdefender Internet Security และขาดฟีเจอร์เสริมบางอย่างไป
Bitdefender Internet Security – การป้องกันที่ดี (เฉพาะ Windows เท่านั้น)
หากคุณต้องการป้องกันเฉพาะอุปกรณ์ Windows เท่านั้น Internet Security ของ Bitdefender เป็นตัวเลือกที่มีราคาสมเหตุสมผล (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสองคนหรือครอบครัวขนาดเล็ก) แผนให้บริการนี้มีฟีเจอร์ทั้งหมดของ Antivirus Plus แถม:
- การป้องกันสำหรับ 1, 3, 5 หรือ 10 อุปกรณ์ (โดยราคาจะถูกกำหนดตามจำนวนอุปกรณ์)
- การป้องกันไมโครโฟนและเว็บแคม
- แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง
- ไฟร์วอลล์
ส่วนเสริมของไฟร์วอลล์นั้นได้รับการพัฒนาเหนือกว่าแผนให้บริการ Antivirus Plus อย่างมากซึ่งฉันคิดว่ามันทำให้แผนนี้มีความคุ้มค่าในราคาที่แตกต่างกันเล็กน้อย
Bitdefender Total Security – มอบความคุ้มค่าสำหรับการลงทุนมากที่สุด
Total Security เป็นแผนให้บริการที่ฉันลงทะเบียนใช้และฉันขอแนะนำให้ใช้แผนนี้เป็นอย่างยิ่ง แผนนี้มีฟีเจอร์ทั้งหมดที่ Internet Security มีให้บริการและ:
- และการป้องกันสำหรับ 5 หรือ 10 อุปกรณ์ (โดยราคาจะถูกกำหนดตามจำนวนอุปกรณ์)
- ความเข้ากันได้กับ Windows, macOS, Android และ iOS
- OneClick Optimizer
- การป้องกันการโจรกรรม
มันเป็นแผนสมัครสมาชิก Bitdefender ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ Mac และใครก็ตามที่ต้องการป้องกันคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือของตนในเวลาเดียวกัน เครื่องมือป้องกันการโจรกรรมก็เป็นฟีเจอร์ที่ดีสำหรับการกู้คืนอุปกรณ์ที่ถูกขโมยหรือป้องกันข้อมูลของคุณจากระยะไกลโดยการลบข้อมูลออกหากคุณไม่สามารถกู้อุปกรณ์คืนมาได้
Bitdefender Premium Security – สุดยอดแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสที่มาพร้อมกับ VPN
Bitdefender Premium Security เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากคุณต้องการ VPN สำหรับความปลอดภัยเพิ่มเติมและฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่รวดเร็ว คุณจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงฟีเจอร์ของ Total Security ทั้งหมด แถม:
- การป้องกันสำหรับ 10 อุปกรณ์
- เส้นทาง VPN ไม่จำกัด
- ได้รับความช่วยเหลือก่อนใคร
ช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรี 30 วัน – ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินโดยทันที
คุณสามารถใช้แผนให้บริการใด ๆ ของ Bitdefender ฟรีด้วยช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรี 30 วันเพื่อทดสอบมันด้วยตัวคุณเองก่อนที่จะตัดสินใจสมัครสมาชิกได้ คุณแค่ต้องกรอกที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อลงทะเบียน (ไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิต)
หลังจากนั้นคุณจะสามารถสร้างบัญชี, ย้อนกลับไปยัง Central, คลิก “Try Bitdefender”, เลือกอุปกรณ์ที่คุณต้องการป้องกันและจากนั้นก็คลิก “Me” ในหน้าสุดท้าย บันทึกและเปิดใช้งานตัวติดตั้งและคุณก็จะเริ่มต้นใช้ช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรีทันที
การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน – รับเงินคืนโดยปราศจากความเสี่ยง 100%
นอกจากช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรี 30 วันแล้ว คุณยังสามารถใช้ประโยชน์จากการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันของ Bitdefender ที่มีให้บริการในทุกแผนให้บริการได้อีกด้วย นั่นหมายความว่าคุณจะสามารถทดลองใช้งานโดยไม่มีความเสี่ยงได้นานถึง 60 วัน!
เพื่อยืนยันว่านโยบายนี้เป็นเรื่องจริง ฉันจึงได้ส่งอีเมลร้องขอเงินคืนไปหา Bitdefender พวกเขาใช้เวลาในการตอบกลับ 5 วันซึ่งน่าแปลกใจเมื่อพิจารณาถึงความเร็วที่อีเมลความช่วยเหลือปกติได้รับการตอบกลับ โชคดีที่พวกเขาไม่ทำให้ฉันเสียเวลาด้วยการถามคำถามต่าง ๆ และฉันได้รับเงินคืนเข้าบัญชีใน 5 วันต่อมา
บทสรุป
หลังจากที่ทดสอบโดยละเอียด ฉันสามารถบอกได้ว่า Bitdefender เป็นหนึ่งในแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสในตลาดที่ฉันโปรดปราน อัตราการตรวจจับมัลแวร์และการป้องกันตามเวลาจริงทำงานได้เกือบสมบูรณ์แบบและมันป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์อื่น ๆ อย่างการฟิชชิ่งและแรนซัมแวร์ได้
แผนให้บริการฟรีก็ทำงานได้ไม่เลวเช่นกัน มันมีการป้องกันธรรมดา ๆ สำหรับมัลแวร์ที่รู้จักทั้งหมด แต่ไม่มีอะไรมากกว่านี้แล้ว แพ็กเกจ Total Security เป็นตัวเลือกอันดับแรกของฉันเนื่องจากมันมอบความสมดุลที่ยอดเยี่ยมระหว่างความปลอดภัยสูง ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์มากมายและการเข้าถึงแอปสำหรับมือถือที่มีฟีเจอร์ครบวงจร น่าเสียดายที่ฉันผิดหวังกับ VPN ของ Bitdefender – คุณถูกจำกัดให้ใช้งานได้เพียง 200MB ต่อวันเท่านั้นในทุกแผนให้บริการ ยกเว้นแผนเดียว เมื่อฉันเปรียบเทียบมันกับชุดความปลอดภัยอย่าง Norton 360 (ซึ่งมี VPN ให้บริการไม่จำกัดข้อมูลในทุกแผนให้บริการ) แพ็กเกจของ Bitdefender ถือเป็นตัวเลือกที่อ่อนแอกว่า
แต่อย่าเพิ่งเชื่อคำพูดของฉัน คุณสามารถทดลองใช้ Bitdefender ด้วยตัวคุณเองได้โดยใช้ช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรี 30 วันสำหรับแผนให้บริการแบบชำระเงินใด ๆ ก็ได้ – หรือแม้กระทั่ง 60 วันเมื่อคุณผสานการใช้งานระหว่างช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรีกับการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
คำถามที่พบบ่อย: แอนตี้ไวรัส Bitdefender
? Bitdefender มีเวอร์ชันฟรีไหม?
มี Bitdefender มีเวอร์ชันฟรีที่เสนอการป้องกันมัลแวร์ ฟิชชิ่งและตัวกรองเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม มันไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงกว่าอย่างการกู้คืนแรนซัมแวร์, ไฟร์วอลล์, VPN, ผู้จัดการรหัสผ่านและฟีเจอร์อื่น ๆ
แม้ว่าการใช้เวอร์ชันฟรีจะดีกว่าไม่ใช้อะไรเลย แต่คุณก็จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้เผชิญกับการโจมตีขั้นสูงและไม่ได้รับเครื่องมือการกู้คืน ฉันเป็นแฟนแพ็กเกจ Total Security เนื่องจากมันมีฟีเจอร์ขั้นสูง รองรับ Windows, Mac, Android และ iOS และป้องกันอุปกรณ์ของคุณจากโจรได้ คุณสามารถทดลองใช้งานมันได้ฟรี 30 วันและยังใช้ประโยชน์จากการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันเพิ่มเติมอีกได้ – ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถทดลองใช้งานมันได้โดยไม่มีความเสี่ยงนานถึง 60 วัน!
? Bitdefender จะทำให้อุปกรณ์ของฉันช้าลงไหม?
ช้าลงเล็กน้อยเท่านั้น Bitdefender ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของอุปกรณ์น้อยกว่าแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ ส่วนใหญ่ ในการทดสอบโดยละเอียดของฉัน ฉันสังเกตเห็นว่าความเร็วในการเปิดเว็บไซต์นั้นช้าลงเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามฉันไม่คิดว่านี่เป็นปัญหาใหญ่อะไรเพราะซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสใด ๆ ต่างก็ส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ของคุณ นี่เป็นเพราะซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสใช้ทรัพยากรระบบของคุณเพื่อมอบการป้องกันและการสแกนตามเวลาจริง แต่ฉันคิดว่านี่เป็นความไม่สะดวกสบายเพียงเล็กน้อยเมื่อพิจารณาถึงอัตราการตรวจจับที่เกือบจะสมบูรณ์แบบของ Bitdefender!
? สามารถใช้งาน Bitdefender บนอุปกรณ์ใดได้บ้าง?
Bitdefender พร้อมให้บริการสำหรับอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการหลัก ๆ ทั้งหมด นี่รวมถึงอุปกรณ์ Windows, Mac, Android, iOS และ IoT (เช่น Bitdefender Box และ Netgear Armor) อย่างไรก็ตามแพ็กเกจ Antivirus Plus และ Internet Security พร้อมให้บริการเฉพาะ Windows เท่านั้น
Bitdefender มีอัตราการตรวจจับที่ดีสำหรับอุปกรณ์ทุกประเภทและแอปสำหรับมือถือนั้นจริง ๆ แล้วก็มีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ซึ่งแตกต่างจากแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ มากมาย
? ฉันจะติดตั้ง Bitdefender ได้อย่างไร?
คุณสามารถติดตั้ง Bitdefender บน Windows หรือ Mac ของคุณได้โดยการดาวน์โหลดไฟล์ตัวติดตั้งจากเว็บไซต์ Bitdefender และเปิดใช้งานมัน มันจะดำเนินการดาวน์โหลดไฟล์ที่จำเป็นโดยอัตโนมัติและติดตั้งทุกสิ่งให้กับคุณ จากนั้นคุณก็สามารถลงชื่อเข้าใช้และเริ่มต้นใช้งานซอฟต์แวร์ได้โดยทันที
สำหรับ Android และ iOS คุณสามารถดาวน์โหลดแอปโดยใช้ลิงก์นี้เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรีโดยไม่มีความเสี่ยง 60 วัน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณผสมผสานช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรีและการรับประกันยินดีคืนเงินซึ่งสิ่งนี้เป็นไปไม่ได้เลยหากคุณลงทะเบียนผ่านร้านค้าแอป เมื่อคุณสมัครสมาชิกเสร็จแล้ว ให้คุณลงชื่อเข้าใช้และเพลิดเพลินกับการป้องกันใหม่โดยไม่มีความเสี่ยงได้เลย!
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อ่าน และเรามุ่งมั่นที่จะได้รับความไว้วางใจจากคุณด้วยการทำงานด้วยความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมบางส่วนที่ได้รับการตรวจสอบบนเว็บไซต์นี้: Intego, Cyberghost, ExpressVPN และ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา เนื่องจากเราปฏิบัติตามวิธีการทดสอบที่เข้มงวด