พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา
การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา

Wizcase ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2018 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost, Intego และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน Wizcase นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

Hotspot Shield vs NordVPN 2024

หลังจากที่ได้เปรียบเทียบ VPN เหล่านี้ เราได้ผู้ชนะแล้ว!


ถ้าคุณกำลังพยายามเลือกบริการที่ดีที่สุดระหว่าง NordVPN และ Hotspot Shield คุณจะมาถูกที่แล้ว เราทราบดีว่าคุณอาจจะตัดสินใจลำบากเพราะการเปรียบเทียบระหว่าง VPN ทั้งสองอันนี้เป็นเรื่องยาก แม้ว่า Hotspot Shield เป็นบริการ VPN ที่ให้คุณใช้งานอินเทอร์เน็ตได้แบบไม่ต้องเปิดเผยตัวตนและไม่ถูกรบกวน NordVPN เป็นบริการที่มีความเร็วสูงที่สุด

และ Nord มี โปรโตคอลเข้ารหัสที่ยอดเยี่ยมและปลอดภัยในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก Hotspot Shield มีชื่อเสียงในด้านแบนด์วิธที่ไม่จำกัด นโยบายไม่บันทึกข้อมูล และการเชื่อมต่อได้กับอุปกรณ์ห้าเครื่อง อ่านต่อเลยเพื่อดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบระหว่างบริการทั้งสอง
ข้อมูลเพิ่มเติม

VPN ใดที่ดีกว่ากัน?

วิธีการใช้แผนภูมิ

ก่อนที่จะเลือก VPN ใด ๆ คุณควรพิจารณาราคาก่อน จากแผนภูมินี้คุณจะเห็นว่า Nord เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า Hotspot Shield

เราได้ทดสอบการทดสอบแบบคู่ขนานบน VPN เพื่อดูว่า VPN ไหนสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด ในการทดสอบทุกครั้ง NordVPN เป็นผู้ชนะที่ชัดเจนและมีความโดดเด่นกว่าด้วย CyberSec ที่ปกป้องคอมพิวเตอร์ของคุณจากมัลแวร์และยังมีเซิร์ฟเวอร์แบบพิเศษ​ เมื่อใช้ NordVPN เรารู้สึกปลอดภัยกว่าใช้ Hotspot Shield

ความเร็ว

NordVPN เป็นหนึ่งใน VPN ที่เร็วที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับเรา ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดทอร์เรนต์หรือดู Netflix ความเร็วก็แทบไม่ลดลงเลย

Hotspot Shield มีระดับความเร็วที่ดีกับเซิร์ฟเวอร์หลายแห่งใน 20 ประเทศ แต่เราพบว่า ระหว่างบริการแบบ Elite กับบริการฟรีมีความแตกต่างกันมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคาดหวังไว้แล้ว

ผู้ให้บริการ VPN
การลดความเร็วในการดาวน์โหลด 40% (UK) 10% (UK)
การลดความเร็วในการอัพโหลด 38% (FRA) 14% (FRA)
เวลา Ping ไปยัง Google.com 107ms 2ms
เวลาเฉลี่ยในการเชื่อมต่อ (วินาที) 12ms 9ms
สามารถหลบหลีกการบล็อคได้สำเร็จสำหรับ Bbc-logo Netflix-logo Youtube-logo Netflix-logo Hulu-logo Kodi-logo Espn-logo Youtube-logo Bbc-logo
  เยี่ยมชมเว็บไซต์ เยี่ยมชมเว็บไซต์

ความสำคัญของความเร็วและสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก VPN?

ความเร็วถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเมื่อเลือก VPN ซึ่งความเร็วในการใช้ VPN จะมาพร้อมกับค่าใช้ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยิ่ง VPN มีความเร็วมากเท่าใด คุณยิ่งจะสามารถเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดของเน็ตเวิร์คของคุณได้มากเท่านั้น เวลา Ping มีความสำคัญเทียบเท่ากับความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดสำหรับการสตรีมมิ่ง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความเร็วในการรับข้อมูล เวลา ping ที่น้อยกว่าและแบนด์วิธในการดาวน์โหลดที่สูงจะช่วยให้การสตรีมมิ่งเป็นไปได้อย่างไม่มีสะดุด การใช้เวลาในการเชื่อมต่อที่สั้นกว่าจะช่วยป้องกันความวุ่นวาย ส่วนการเชื่อมต่อที่เสถียรถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่งหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ

เซิร์ฟเวอร์

Nord มีเซิร์ฟเวอร์ในหลายประเทศมากกว่าHotspot Shield VPN ทั้งสองจะให้คุณเชื่อมต่ออย่างปลอดภัยและเข้าเว็บไซต์อย่าง Hulu และ Netflix ได้

เซิร์ฟเวอร์ของ NordVPN มีประสิทธิภาพดีกว่า Hotspot Shield เนื่องจากมีจำนวนมากกว่าและมีเซิร์ฟเวอร์แบบเฉพาะทางห้าเครื่อง

ผู้ให้บริการ VPN
ตำแหน่งของเซิฟเวอร์ 27 6300
ประเทศที่ตั้งเซิฟเวอร์ 27 111
IP Address 27 5,201+
การสลับเซิฟเวอร์แบบไดนามิค
  เยี่ยมชมเว็บไซต์ เยี่ยมชมเว็บไซต์

ทำไมฉันถึงต้องสนใจเมื่อดูที่เซิฟเวอร์ และข้อผิดพลาดที่ทุกคนได้ทำมีอะไรบ้าง?

เซิฟเวอร์จำนวนมากจะหมายถึงความแออัดที่น้อยลงและความเร็วที่มากยิ่งขึ้น ตำแหน่งที่มากยิ่งขึ้นจะเพิ่มตัวเลือกที่มากยิ่งขึ้น แต่คุณก็ควรตรวจสอบพื้นที่ที่คุณต้องการปลดบล็อกเว็บไซต์ การมี IP addresses จำนวนมากจะช่วยในเรื่องความเป็นส่วนตัว ในขณะที่การสลับเซิฟเวอร์แบบไดนามิคจะเป็นตัวที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้นและติดตามได้ยากยิ่งขึ้น

บริการลูกค้า

ระบบช่วยเหลือและสนับสนุนของ Hotspot Shield ไม่มีการติดต่อส่วนบุคคลใด ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบพูดคุยทางโทรศัพท์ แต่ก็หมายความว่าระบบดังกล่าวช้าและไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยพอใจกับบริการนี้ อย่างไรก็ตามทางบริษัทมีบริการเหล่านี้:




เราต้องบอกว่า NordVPN มีระบบช่วยเหลือและสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถ พูดคุยโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทผ่านการแชทสดตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน หรือติดต่อผ่านทางอีเมล นอกจากนี้ยังมีส่วนคำถามที่พบบ่อย (FAQ) ซึ่งเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่พบเจอ

ผู้ให้บริการ VPN
ระยะเวลาในการตอบอีเมล 9 3
ช่วยเหลือ 24/7
การแชท
ฐานความรู้
วิดีโอแนะนำการใช้งาน
  เยี่ยมชมเว็บไซต์ เยี่ยมชมเว็บไซต์

ทำไมฉันถึงต้องดูที่การช่วยเหลือ ในเมื่อฉันสามารถทำได้เอง?

ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการช่วยเหลือที่ดีมีความจำเป็นเฉพาะในช่วงการติดตั้ง VPN แต่จริง ๆ แล้วก็อาจมีอย่างอื่นที่ท่านอาจต้องการความช่วยเหลือนี้ได้เช่นกัน เช่น การเชื่อมต่อไปยังเซิฟเวอร์บางแห่ง การเปลี่ยนโปรโตคอล และการปรับค่า VPN บนเราท์เตอร์ เป็นต้น เราได้ตรวจสอบ VPN แต่ละตัวเพื่อดูว่ามีการช่วยเหลือเวลาใดบ้าง (ถึงแม้ในช่วงกลางดึก), ระยะเวลาที่พวกเขาตอบสนอง และพวกเขาได้ตอบคำถามเราหรือไม่

ความง่ายต่อการใช้งาน

Hotspot Shield

การเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน — 5 อุปกรณ์พร้อมกัน

คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันจำนวน 5 อุปกรณ์ได้ด้วย Hotspot Shield Premium ฉันทดสอบสิ่งนี้โดยการเชื่อมต่อ PC ระบบปฏิบัติการ Windows จำนวน 2 เครื่อง, โทรศัพท์ Android, iPhone และ iPad ฉันไม่พบความแตกต่างในเรื่องของความเร็วเลยตอนที่ฉันรับชมเนื้อหาบนอุปกรณ์มากมายในเวลาเดียวกัน แผนให้บริการฟรีของ Hotspot Shield อนุญาตให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้น

ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ — รองรับอุปกรณ์มากมาย

คุณสามารถใช้ Hotspot Shield บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ได้:

  • ระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS, Linux, Android และ iOS
  • Smart TV: Fire TV, Android TV และ Smart TV ที่มีการเข้าถึง Google Play Store
  • ส่วนขยายเบราว์เซอร์: Chrome และ Firefox
  • เราเตอร์ที่กำหนด

อุปกรณ์ส่วนใหญ่นั้นสามารถใช้งานได้อย่างที่คุณคิด แต่ฉันประหลาดใจอย่างยิ่งที่แอปสำหรับ Android มีฟีเจอร์มากกว่าแอปสำหรับ iOS (ซึ่งรวมถึง Kill Switch และ Smart VPN) ฉันยินดีที่ได้ทราบว่า Hotspot Shield รองรับ Linux และเราเตอร์ที่กำหนดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากรีวิวเว็บไซต์อื่น ๆ กล่าวอ้างว่าพวกเขาไม่รองรับ

หากคุณกำลังมองหาโปรแกรม VPN ที่มีฟีเจอร์มากมายสำหรับอุปกรณ์ Windows ของคุณ คุณก็มีตัวเลือกดี ๆ อีกมากมายในคำแนะนำสำหรับโปรแกรม VPN สำหรับ Windows ที่ดีที่สุด

ลองใช้ Hotspot Shield ตอนนี้

แอปเฉพาะสำหรับ Windows, Mac, Android, iOS และอื่น ๆ อีกมากมาย — อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและสะอาดตา

แอป Hotspot Shield สำหรับ Windows, macOS และ Linux มีหนึ่งในอินเทอร์เฟซที่สะอาดตาและเป็นมิตรต่อผู้ใช้มากที่สุดที่ฉันเคยใช้งานมา คุณสามารถดูข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องการ เช่น เซิร์ฟเวอร์ ความเร็ว ความหน่วง การใช้งานข้อมูลและการโหลดเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างง่ายดาย

อินเทอร์เฟซของ Hotspot Shield สำหรับอุปกรณ์มือถือเองก็ใช้งานง่าย แต่ขาดข้อมูลเพิ่มเติมที่มีให้บริการบนเวอร์ชันเดสก์ท็อป (ซึ่งรวมถึงความเร็ว การใช้งานข้อมูลและความหน่วง)

ส่วนขยายเบราว์เซอร์ใช้ดีไซน์เดียวกันและมีการแสดงความเร็วและการใช้ข้อมูลจากเซสชันปัจจุบันของคุณ

ภาพหน้าจอของแอป Hotspot Shield บน Windows, Android, Mac และ iOSHotspot Shield มีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ในอุปกรณ์ทั้งหมดที่รองรับ

น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถทดสอบ Hotspot Shield บน MacBook Air ของฉันได้เนื่องจากโปรแกรม VPN ต้องการ OS X 10.12 หรือใหม่กว่า

ส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox — สะดวกสบายและใช้งานง่าย

Hotspot Shield มีส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome และ Firefox ส่วนขยายเป็นวิธีในการรับการป้องกันอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็ว แทนที่จะต้องมานั่งเปิดแอป VPN ทุกครั้งที่คุณต้องการเชื่อมต่อ มันยังอนุญาตให้คุณเลือกเมืองที่เฉพาะเจาะจงในการหลีกเลี่ยงโปรแกรม VPN ฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้ของฟีเจอร์นี้เนื่องจากฉันสามารถปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนการแปลภาษาของเว็บอื่นใด นี่หมายความว่าฉันสามารถรับชม Netflix ในสหรัฐอเมริกาและยังเข้าถึงบัญชีธนาคารท้องถิ่นของฉันได้โดยที่เว็บไซต์ไม่คิดว่าฉันอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา

ภาพหน้าจอของส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ Hotspot Shield สำหรับ Chrome และ Firefoxคุณสามารถใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ Hotspot Shield เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบเส้นทางการเข้าชมของคอมพิวเตอร์ของคุณได้

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือแม้ว่าจะมีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาภายในส่วนขยายเบราว์เซอร์ แต่ฉันไม่สามารถใช้งานได้ แม้ว่าจะหลังจากที่นั่งโหลดส่วนขยายเบราว์เซอร์ 3 ครั้งแล้วก็ตาม ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีโชคเลย

ลองใช้ Hotspot Shield ตอนนี้!

การตั้งค่าและการติดตั้ง — ติดตั้งได้ง่ายภายใน 2 นาที

ข้อดีอย่างเห็นได้ชัดของบริการนี้คือคุณสามารถติดตั้งมันได้ง่าย ๆ ในระหว่างการทดสอบของฉัน ฉันสามารถดาวน์โหลด VPN ติดตั้งและเริ่มต้นใช้งานมันได้ภายใน 2 นาที

  1. ไปที่ hotspotshield.com/vpn/ และดาวน์โหลดโปรแกรม VPN ลงอุปกรณ์ของคุณ
    ภาพหน้าจอของหน้าดาวน์โหลด Hotspot Shield
  2. เปิดไฟล์และเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้ง ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาตั้งแต่ 30 วินาทีไปจนถึงสองสามนาทีโดยขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของคุณ
    สกรีนช็อตของหน้าจอโปรแกรมติดตั้ง Hotspot Shield บน Windows
  3. เปิดใช้งาน Hotspot Shield คลิกที่ไอคอนบัญชีและลงชื่อเข้าใช้ เลือกประเทศและเชื่อมต่อ!
    สกรีนช็อตของหน้าจอล็อกอินบัญชีแอพ Hotspot Shield Windows

ยกเลิกการติดตั้ง Hotspot Shield ได้อย่างรวดเร็ว

คุณสามารถยกเลิกการติดตั้ง Hotspot Shield บน Windows ได้โดยการเปิด “Programs and Features” ในแผงควบคุมและลบมันออกไป บน Mac ให้ลากแอป Hotspot Shield จาก “แอปพลิเคชัน” ไปยัง “ถังขยะ”

บน Android ให้กดแอปค้างไว้และคลิกที่ “ยกเลิกการติดตั้ง” นอกจากนี้คุณยังสามารถลากแอปไปยัง “ยกเลิกการติดตั้ง” เพื่อลบมันออกไปได้ บน iOS ให้กดแอปค้างไว้และคลิกที่ “X” ที่อยู่ด้านบนของแอปเพื่อยกเลิกการติดตั้ง

VS

Nord เป็นอีก VPN ที่จะช่วยให้คุณดูและดาวน์โหลดเนื้อหาต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีดีไซน์ที่สวยงาม และสามารถเข้าถึง Netflix ได้ไม่ยากโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม VPN นี้ยังมาพร้อมกับ kill switch ซึ่งจะช่วยปกป้องคุณหากการเชื่อมต่อของคุณมีปัญหา

แต่ Nord ค่อนข้างอันตรายเมื่อพูดถึงโปรโตคอลความปลอดภัย โดยมีการใช้ PPTP, OpenVPN และ L2TP พร้อมกับการเข้ารหัสแบบ 256-bit AES สองชั้น นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์เหล่านี้:

  • Windows
  • Linux
  • Android
  • OS X
  • iOS
  • เราเตอร์

ราคา

ผู้ชนะก็คือ

เยี่ยมชม NordVPN เว็บไซต์

ถึงเวลาตัดสินใจแล้วว่าอันไหนเหมาะสำหรับคุณ


เราคิดว่า NordVPN เป็นบริการที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับ Hotspot Shield เนื่องจาก มีความเร็วสูงและการสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม ซึ่งจะช่วยซ่อนตำแหน่งที่แท้จริงของคุณเพื่อให้คุณเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดการเข้าถึงจากบางพื้นที่ได้จากทั่วทุกมุมโลก
ข้อมูลเพิ่มเติม
พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา
แชร์และสนับสนุน

WizCase สนับสนุนผู้อ่าน ดังนั้นเราจึงอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเมื่อคุณซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา คุณจะไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมสำหรับผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่คุณซื้อบนเว็บไซต์ของเรา — ค่าคอมมิชชั่นของเรามาจากเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยตรง นอกจากนี้ผู้ให้บริการบางรายยังเป็นของบริษัทแม่ของเราด้วย เรียนรู้เพิ่มเติมWizcase ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2018 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost, Intego และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน Wizcase นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ