Mozilla VPN รีวิว 2024: ยังไม่พร้อมใช้งาน

ภาพรวม Mozilla VPN 2024

หมายเหตุ! คุณสามารถสมัครสมาชิกใช้บริการ Mozilla VPN ได้หากคุณพำนักอาศัยอยู่ใน 6 ประเทศนี้เท่านั้น: สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์และมาเลเซีย

ฉันหวังว่าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์นี้จะทำงานได้ดี แต่มันกลายเป็นว่า Mozilla VPN นั้นเป็นผู้ให้บริการพื้นฐานที่ไม่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะโปรแกรม VPN ที่ดีที่สุดได้

ด้วยความเร็วที่รวดเร็วกว่า ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งกว่า เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่ดีกว่าและความพร้อมใช้งานในประเทศต่าง ๆ ที่มากกว่า โปรแกรม VPN พรีเมียมอย่าง CyberGhost จึงมอบความคุ้มค่าโดยรวมได้ดีกว่า หากคุณลงทะเบียนสำหรับแผนสมัครสมาชิกแบบ 2 ปี CyberGhost จะมีราคาที่ถูกกว่า Mozilla VPN อย่าเพิ่งเชื่อคำพูดของฉัน – ลองใช้ CyberGhost ฟรี 45 วันด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินและเปรียบเทียบมันกับ Mozilla VPN ด้วยตัวคุณเอง!

ไม่มีเวลาอ่านใช่ไหม? นี่คือบทสรุปฉบับ 1 นาที

  • ปลดบล็อกได้เฉพาะ Netflix และ BBC iPlayer เท่านั้น ฉันประหลาดใจที่มันหลีกเลี่ยงการจำกัดที่แข็งแกร่งที่สุดใน Netflix และ BBC ได้ แต่ไม่สามารถใช้งานในเว็บไซต์สตรีมมิ่งอื่น ๆ ได้ ข้ามไปยังผลการสตรีมมิ่งของฉัน
  • ความเร็วที่ดีทั่วโลก ฉันได้รับความเร็วที่รวดเร็วเสมอจากเซิร์ฟเวอร์ของ Mozilla VPN ในยุโรป เอเชีย ออสเตรเลียและอเมริกา ดูผลการทดสอบความเร็วของฉัน
  • เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่จำกัด Mozilla VPN มีเซิร์ฟเวอร์มากมายในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 30 ประเทศ แต่ยังไม่ครอบคลุมทุกทวีป ดูผลการทดสอบเซิร์ฟเวอร์ของฉัน
  • Kill Switch อัตโนมัติ แต่อาจเก็บบันทึกข้อมูล ฉันรักที่ Kill Switch ของ Mozilla VPN ถูกเปิดใช้งานถาวรเพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม แต่คำแถลงการณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวระบุว่ามันอาจเก็บข้อมูลของคุณไว้ชั่วคราว อ่านสิ่งที่ฉันพบในนโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดตั้งและใช้งานง่าย แต่ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์จำกัดมาก Mozilla VPN ใช้งานได้ง่าย แต่ปัจจุบันมันรองรับประเภทอุปกรณ์ต่าง ๆ เพียง 3 ประเภทเท่านั้น ดูว่ามันรองรับอุปกรณ์ใดบ้าง
  • ราคาที่น่าคบหา แต่โปรแกรม VPN อื่น ๆ มอบความคุ้มค่าได้ดีกว่า ราคาของ Mozilla นั้นเป็นราคาที่ไม่มีอะไรแอบแฝงและเป็นราคาที่น่าคบหา แต่โปรแกรม VPN พรีเมียมยังมอบอะไรให้ได้มากกว่าในราคาเท่านี้ อ่านเกี่ยวกับราคาและตัวเลือกการคืนเงิน

Mozilla VPN ปลดบล็อก Netflix และ BBC iPlayer ได้ (แต่ไม่สามารถเข้าถึง Hulu, HBO, Amazon Prime Video หรือ Disney+ ได้)

แม้ว่าบล็อกเกี่ยวกับโปรแกรม VPN อื่น ๆ จะกล่าวอ้างว่า Mozilla VPN สามารถปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งใด ๆ ได้ แต่ฉันก็ประหลาดใจที่ได้เห็นว่ามันสามารถหลีกเลี่ยงการปิดกั้นที่แข็งแกร่งที่สุดในคลังข้อมูลของ Netflix ทั่วโลกและยังปลดบล็อกได้แม้กระทั่ง BBC iPlayer! แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่แข็งแกร่งพอที่จะหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดพร็อกซี IP ในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ ที่ฉันทดสอบ

Netflix: ปลดบล็อกได้

ฉันสามารถปลดบล็อก Netflix ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร บราซิล ญี่ปุ่น สเปนและออสเตรเลียได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ ความเร็วของฉันนั้นดีสม่ำเสมอ – ฉันไม่เคยต้องรอให้รายการหรือภาพยนตร์ของฉันโหลดก่อนแม้ในตอนที่ฉันรับชมในความคมชัดระดับ HD ด้วยเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลออกไปก็ตาม

ภาพหน้าจอของ Takki ที่เล่นแบบ HD บน Netflix ขณะที่ Mozilla VPN เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในแมนเชสเตอร์สหราชอาณาจักร

Mozilla VPN ปลดบล็อก Netflix ทั่วโลกได้ซึ่งทำให้ฉันรับชมรายการและภาพยนตร์ที่จำกัดตามตำแหน่งได้

BBC iPlayer: ปลดบล็อกได้

ฉันสตรีมมิ่งอย่างราบรื่นบน BBC iPlayer ได้เช่นกัน ทั้งเซิร์ฟเวอร์ Manchester และ London ต่างก็หลีกเลี่ยงการปิดกั้นตามตำแหน่งที่แข็งแกร่งของ BBC ได้ซึ่งทำให้ฉันสามารถรับชม The Young Offenders ได้โดยไม่มีการกระตุก เมื่อฉันกดข้ามวิดีโอไปข้างหน้า ฉันต้องรอประมาณ 5 วินาทีเพื่อเริ่มเล่นต่อและคุณภาพวิดีโอก็ลดลงเล็กน้อย – แต่มันจะเป็นแบบนั้นเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น

ภาพหน้าจอของ BBC iPlayer ที่กำลังเล่น The Young Offenders ขณะที่ Mozilla VPN เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในลอนดอนสหราชอาณาจักร

ฉันสามารถรับชมรายการบน BBC iPlayer ได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ ในขณะใช้เซิร์ฟเวอร์สหราชอาณาจักรของ Mozilla VPN

HBO NOW, Hulu, Amazon Prime Video, Disney+: ถูกปิดกั้น

เว็บไซต์สตรีมมิ่งอื่น ๆ จะแสดงข้อความผิดพลาดกับคุณเมื่อคุณพยายามลงชื่อเข้าใช้หรือรับชมรายการหรือภาพยนตร์ด้วย Mozilla VPN ใน HBO NOW ฉันทดสอบตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ จำนวน 15 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกและฉันไม่สามารถเข้าถึงหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ได้ไม่ว่าฉันจะใช้เซิร์ฟเวอร์ใดก็ตาม

ภาพหน้าจอของข้อผิดพลาดบน HBO NOW ขณะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ New York, NY ของ Mozilla VPN

HBO NOW ตรวจพบการเชื่อมต่อ Mozilla VPN ของฉันและปิดกั้นฉันจากการลงชื่อเข้าใช้ไม่ว่าจากเซิร์ฟเวอร์ใดก็ตาม

หากคุณต้องการใช้งาน Hulu, Amazon Prime Video, Disney+ และอื่น ๆ อีกมากมาย คุณจะต้องมีโปรแกรม VPN ขั้นสูงกว่านี้ ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ ExpressVPN – เซิร์ฟเวอร์ของพวกเขานั้นรวดเร็วมากสำหรับการสตรีมมิ่งในความคมชัดระดับ HD และฉันยังไม่พบเว็บไซต์สตรีมมิ่งที่มันไม่สามารถปลดบล็อกได้อีกด้วย หากคุณไม่พึงพอใจกับบริการดังกล่าว คุณสามารถขอรับเงินคืนได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน – แค่อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ขอเงินคืนภายใน 30 วัน

ความเร็ว

- 8.0 / 10

ความเร็วเซิร์ฟเวอร์ของ Mozilla VPN นั้นค่อนข้างรวดเร็วสำหรับผู้ให้บริการระดับกลาง แต่ฉันพบกับความเร็วที่ช้าลงเมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลจากตำแหน่งของฉัน

ความเร็วโดยเฉลี่ยจากการทดสอบของฉันอยู่ที่ประมาณ 43 Mbps แม้ว่านี่จะลดลงจากความเร็วปกติของฉัน 20% แต่การพบกับความเร็วที่ช้าลงเมื่อเชื่อมต่อกับโปรแกรม VPN นั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างปกติอยู่แล้วเพราะข้อมูลของคุณจะถูกส่งไปผ่านชั้นการเข้ารหัสก่อนที่มันจะเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง โดยรวมแล้วแต่ละเซิร์ฟเวอร์ที่ฉันทดสอบนั้นมีความเร็วที่เร็วมากเพียงพอสำหรับกิจกรรมที่ใช้แบนด์วิดธ์จำนวนมาก เช่น การพูดคุยทางวิดีโอ การเล่นเกมและการสตรีมมิ่งในความคมชัดระดับ HD

ภาพหน้าจอการทดสอบความเร็ว 4 ระดับด้วย Mozilla VPN ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก

ฉันได้รับความเร็วที่รวดเร็วเสมอด้วย Mozilla VPN

ด้วยความเร็วของ Mozilla VPN คุณจะไม่มีวันต้องรอให้วิดีโอโหลด (แม้กระทั่งในความคมชัดสูง) นอกจากนี้มันยังรวดเร็วพอที่คุณจะไม่ต้องมานั่งรับมือกับการกระตุกในช่วงเวลาที่สำคัญเมื่อคุณเล่นเกมหรือพูดคุยผ่านทางวิดีโอกับเพื่อนหรือครอบครัว

ความสำคัญของความเร็วและสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก VPN?

ความเร็วถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเมื่อเลือก VPN ซึ่งความเร็วในการใช้ VPN จะมาพร้อมกับค่าใช้ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยิ่ง VPN มีความเร็วมากเท่าใด คุณยิ่งจะสามารถเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดของเน็ตเวิร์คของคุณได้มากเท่านั้น เวลา Ping มีความสำคัญเทียบเท่ากับความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดสำหรับการสตรีมมิ่ง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความเร็วในการรับข้อมูล เวลา ping ที่น้อยกว่าและแบนด์วิธในการดาวน์โหลดที่สูงจะช่วยให้การสตรีมมิ่งเป็นไปได้อย่างไม่มีสะดุด การใช้เวลาในการเชื่อมต่อที่สั้นกว่าจะช่วยป้องกันความวุ่นวาย ส่วนการเชื่อมต่อที่เสถียรถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่งหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ

เซิร์ฟเวอร์

- 7.0 / 10

เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ – เซิร์ฟเวอร์ที่ทำสัญญาและไม่มีตัวเลือกการกำหนดค่า

Mozilla VPN ทำสัญญาใช้เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดจาก Mullvad VPN มันเป็นเรื่องที่น่าสับสนสำหรับฉันที่โปรแกรม VPN เช่าเซิร์ฟเวอร์จากบริการอื่น แถมนี่หมายความว่าก่อนที่จะใช้บริการ Mozilla VPN คุณจะต้องพิจารณานโยบายความเป็นส่วนตัวของ Mullvad VPN ด้วย ด้วยเหตุนี้ฉันจึงไม่มั่นใจว่าทำไมเราถึงไม่ควรใช้โปรแกรม VPN ดังกล่าวไปเลยหากคุณต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาอยู่แล้ว

แม้ว่า Mozilla VPN (ผ่าน Mullvad VPN) จะเสนอตัวเลือกในประเทศต่าง ๆ จำนวน 30 ประเทศ แต่หากนั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับ คุณ คุณก็สามารถไว้วางใจในเรื่องความเร็วที่รวดเร็ว การเชื่อมต่อที่เสถียรสม่ำเสมอและการเข้ารหัส 256-บิตที่ทรงพลังเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้

อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการตัวเลือกที่สามารถกำหนดค่าต่าง ๆ ได้ คุณจะไม่พบตัวเลือกมากมายนักที่นี่ คุณสามารถเลือกปิดใช้งาน IPv6 (ซึ่งจะถูกเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น) ได้ แต่ก็ทำได้แค่นั้น ในกรณีที่คุณไม่มั่นใจว่า IPv6 ทำหน้าที่อะไร – โดยปกติแล้วมันจะย้ายข้อมูลของคุณไปยังเว็บไซต์อย่างรวดเร็วและปลอดภัย มันเป็นฟีเจอร์ที่ค่อนข้างใหม่ ดังนั้นเว็บไซต์มากมายจึงยังไม่ได้รองรับฟีเจอร์นี้

สกรีนช็อตของหน้าจอการตั้งค่าเครือข่ายของ Mozilla VPN

เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของ Mozilla VPN นั้นดี แต่ความบกพร่องในเรื่องของตัวเลือกอาจทำให้คุณผิดหวังได้หากคุณเป็นผู้ใช้งานขั้นสูง

ความปลอดภัย – โปรโตคอล VPN ปลอดภัย แต่ไม่มีเครื่องมือปิดกั้นมัลแวร์

Mozilla VPN ดูแลข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยด้วยโปรโตคอล WireGuard VPN รหัสของมันนั้นมีความซับซ้อนน้อยกว่าโปรโตคอลอื่น ๆ ซึ่งทำให้มันตรวจจับปัญหาด้านความปลอดภัยได้ง่ายกว่า เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ฉันจึงได้ใช้ระบบทดสอบการรั่วไหลของ DNS เพื่อดูว่าหมายเลข IP ของฉันถูกเปิดเผยหรือไม่ – ตำแหน่งที่แท้จริงของฉันในสหรัฐอเมริกาได้รับการปิดบังเอาไว้โดยสมบูรณ์

ภาพหน้าจอของการทดสอบการรั่วไหลของ DNS ขณะที่ Mozilla VPN เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ลักเซมเบิร์ก

การทดสอบการรั่วไหลของ DNS แสดงให้เห็นว่า Mozilla VPN ป้องกันการเชื่อมต่อของคุณและปิดบังตัวตนทางออนไลน์ของคุณได้

แม้ว่า Mozilla VPN จะทำหน้าที่ได้ดีในเรื่องการป้องกันการเชื่อมต่อของคุณและปิดบังตำแหน่งที่แท้จริงของคุณ แต่มันก็ไม่ได้มีฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติมเหมือนกับที่คู่แข่งที่แข็งแกร่งรายอื่น ๆ มี (เช่น เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาหรือมัลแวร์)

ความเป็นส่วนตัว – Kill Switch อัตโนมัติ แต่มีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่น่าสงสัย

Kill Switch ของ Mozilla VPN ทำหน้าที่ได้ดีในการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหากการเชื่อมต่อของคุณเกิดหลุดขึ้นมาโดยกะทันหัน ฉันชอบอย่างยิ่งที่ทั้งเวอร์ชันเดสก์ท็อปและมือถือต่างก็มี Kill Switch อัตโนมัติที่ถูกเปิดใช้งานอยู่ตลอดเวลา น่าเสียดายนโยบายความเป็นส่วนตัวของพวกเขาต้องได้รับการพัฒนาเพื่อให้ข้อมูลของคุณไม่ถูกเปิดเผยอย่างแท้จริง

ในการสร้างบัญชี คุณจะต้องใช้ที่อยู่อีเมลที่ได้รับการยืนยันแล้วและคุณมีตัวเลือกในการชำระเงินเพียงบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตเท่านั้น ข้อมูลทั้งหมดนี้ถือเป็นข้อมูลที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากมันเชื่อมโยงการสั่งซื้อของคุณกับตัวตนของคุณได้ ที่แย่กว่านั้นคือหมายเลข IP ของคุณจะถูกบันทึกไว้ชั่วคราวตอนที่คุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ ถึงแม้กิจกรรมของคุณจะไม่ถูกบันทึกเอาไว้หลังจากที่คุณปิดแอปพลิเคชันก็ตาม แต่ฉันไม่อยากให้บันทึกหมายเลข IP ของฉันเอาไว้เลย – ไม่แม้จะเป็นการชั่วคราวก็ตาม

ภาพหน้าจอนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Mozilla VPN ที่แสดงที่อยู่ IP ของคุณจะถูกรวบรวมไว้ชั่วคราว

นโยบายความเป็นส่วนตัวของ Mozilla VPN ระบุว่าหมายเลข IP ของคุณจะถูกเก็บรวบรวมไว้ชั่วคราวเมื่อคุณเชื่อมต่อ

ประเด็นของการใช้งานโปรแกรม VPN คือเพื่อเก็บข้อมูลของคุณ (ซึ่งรวมถึงข้อมูลการธนาคาร ที่อยู่อีเมลและหมายเลข IP) ให้ปลอดภัยจากบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ หากข้อมูลนี้ถูกบันทึกเอาไว้แม้จะเพียงชั่วคราว คุณก็เสี่ยงตกเป็นเป้าหมายการโจมตีทางไซเบอร์ได้ (หรือการสืบสวนของรัฐบาลโดยขึ้นอยู่กับประเทศของคุณ) เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะได้รับการป้องกันตลอดเวลา ฉันขอแนะนำให้ใช้โปรแกรม VPN ที่ได้รับการตรวจสอบและพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยจริง ๆ – ExpressVPN

การ Torrenting – รองรับการ Torrent แต่ไม่มีเซิร์ฟเวอร์พิเศษ

Mozilla VPN ไม่จำกัดการ Torrenting บนแอปอย่าง uTorrent แต่ฉันไม่มั่นใจว่ามันปลอดภัยมากเพียงพอในการใช้สำหรับแบ่งปันไฟล์ผ่าน P2P โดยไม่ถูกเปิดเผยตัวตนหรือไม่ มันจะดีกว่านี้หากมันมีเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อ Torrent (ซึ่งจะรวดเร็วกว่าและน่าเชื่อถือมากกว่า) และเครื่องมือปิดกั้นมัลแวร์ (เนื่องจาก Torrent อาจมีซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย)

Mozilla VPN ทำงานในประเทศจีนได้ไหม? ก็ไม่แน่ชัดไปซะทีเดียว

Mozilla VPN มีข้อมูลที่ขัดแย้งกันบนเว็บไซต์เกี่ยวกับเรื่องที่ว่ามันทำงานในประเทศจีนได้หรือไม่ ตอนที่ฉันดำเนินการค้นคว้าคำตอบในเรื่องนี้ครั้งแรก มันดูเหมือนว่าคุณจะไม่สามารถใช้งาน Mozilla VPN ตอนที่คุณอยู่ประเทศจีนได้อย่างเห็นได้ชัด:

สกรีนช็อตของคำแถลงจากเว็บไซต์ Mozilla VPN ว่าใช้งานไม่ได้ในจีน

ฉันพบว่า Mozilla แจ้งว่ามันไม่สามารถทำงานในประเทศจีนได้ในหน้าเดียวเท่านั้นซึ่งขัดแย้งกับหน้าอื่น ๆ

อย่างไรก็ตามฉันพบคำถามที่มากมายที่ที่เจ้าหน้าที่ Mozilla บอกว่าคุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใด ๆ ก็ได้ตอนที่อยู่ประเทศจีน — ตราบใดที่คุณดาวน์โหลดโปรแกรมเอาไว้ก่อนที่คุณจะไปถึงที่ประเทศดังกล่าว คำตอบเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วเว็บไซต์และคำถามที่คล้ายกันอื่น ๆ ก็ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้โดยไม่มีการตอบกลับแม้เวลาจะผ่านมาหนึ่งปีแล้วก็ตาม ฉันติดต่อกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ Mozilla ผ่านทางอีเมลเป็นการส่วนตัวเพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากที่ฉันพยายามติดต่อพวกเขาอยู่หลายครั้ง ฉันก็ยังไม่ได้รับคำตอบเลย

การใช้บริการ Mozilla VPN นั้นเหมือนกับการพนันมากกว่าเพราะเราไม่รู้เลยว่ามันทำงานในประเทศที่มีไฟล์วอลล์อินเทอร์เน็ตที่แข็งแกร่งได้หรือไม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเดินทางไปที่นั่นอยู่เป็นประจำ กลับกันคุณสามารถใช้งาน ExpressVPN ในประเทศจีนได้เนื่องจากมันมีบันทึกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถหลีกเลี่ยงการเซนเซอร์ที่นั่นได้ นอกจากนี้มันยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่อันดับที่สูงมากในรายการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับประเทศจีน ดังนั้นคุณจึงสามารถรู้ได้ว่าคุณได้รับบริการที่มีการทดสอบแล้ว

ตำแหน่งของเซิฟเวอร์

นอร์เวย์
นิวซีแลนด์
บราซิล
บัลแกเรีย
ประเทศญี่ปุ่น
ประเทศอังกฤษ
ฝรั่งเศส
ฟินแลนด์
มอลโดวา
ลักเซมเบิร์ก
ลัตเวีย
สวีเดน
สหรัฐ
สาธารณรัฐเช็ก
สิงคโปร์
ดูตำแหน่งที่รองรับทั้งหมด...

เป็นมิตรต่อผู้ใช้

- 7.0 / 10

การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกัน – ใช้งานได้สูงสุด 5 อุปกรณ์

Mozilla VPN เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันได้ทันทีสูงสุด 5 อุปกรณ์ ฉันทดสอบสิ่งนี้ด้วยตัวเองโดยการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ จากโทรศัพท์ระบบปฏิบัติการ Android จำนวน 2 เครื่อง, iPhone 2 เครื่องและ Windows PC และพยายามรับชม Netflix ในแต่ละอุปกรณ์ ฉันประหลาดใจที่วิดีโอเริ่มเล่นภายในเวลาน้อยกว่า 10 วินาทีในทุกอุปกรณ์และฉันก็ไม่พบกับการกระตุกใด ๆ

ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ – ใช้งานได้เฉพาะบน Windows 10, Android และ iOS เท่านั้น

จากการค้นคว้าของฉัน มันดูเหมือนว่าโปรแกรม VPN นี้ยังต้องได้รับการพัฒนาอีกมาก ปัจจุบันคุณสามารถใช้งาน Mozilla VPN ได้หากคุณมี Windows 10, Android หรือ iOS เท่านั้น คุณจะไม่สามารถใช้มันบนอุปกรณ์สมาร์ททีวีอย่าง Amazon Fire Stick หรือ Roku หรือคอนโซลสำหรับเล่นเกมอย่าง PS4 และ Xbox ได้ โชคดีหากอุปกรณ์หลักของคุณคือ Linux หรือ Mac แม้ว่ามันจะยังไม่รองรับเวอร์ชันเหล่านี้ในตอนนี้ แต่ Mozilla VPN กล่าวอ้างว่ามันจะพร้อมให้บริการในเร็ว ๆ นี้

ความง่ายในการตั้งค่าและการติดตั้ง – ติดตั้งและใช้งานได้อย่างง่ายดาย

การติดตั้งนั้นง่ายมากพอที่ฉันจะติดตั้งมันได้ภายในเวลาน้อยกว่า 5 นาที แม้ว่าจะมีแอปสำหรับมือถือและเดสก์ท็อปที่จำกัด แต่แอปที่พร้อมใช้งานตอนนี้นั้นใช้งานได้ง่ายสำหรับมือใหม่ VPN คุณจะได้รับคำแนะนำผ่านกระบวนการทีละขั้นตอน เมื่อคุณติดตั้งซอฟต์แวร์เสร็จแล้ว คุณจะได้รับลิงก์ที่จะนำคุณไปสร้างบัญชี Mozilla หลังจากที่บัญชีของคุณถูกสร้างแล้ว คุณก็แค่ต้องลงชื่อเข้าใช้และเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์

สกรีนช็อตของหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ของ Mozilla VPN

การติดตั้งเป็นเรื่องง่ายด้วยคำแนะนำทีละขั้นตอนของ Mozilla VPN

การยกเลิกการติดตั้งแอปนั้นก็เป็นเรื่องง่ายเช่นกัน – ฉันใช้ Add/Remove Programs บน Windows และลากแอปไปยังถังขยะบน Android ได้อย่างง่ายดาย ถึงอย่างนั้นคุณก็ควรทราบว่าคุณสามารถลบบัญชี Mozilla ของคุณได้เฉพาะบนเว็บไซต์ Mozilla เท่านั้น

ด้วยขั้นตอนการติดตั้งที่แสนง่ายดายดังกล่าว Mozilla VPN จึงเป็นโปรแกรมที่ง่ายพอแม้กระทั่งสำหรับมือใหม่ VPN หากคุณต้องการทดสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง คุณสามารถลองใช้มันด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันและรับเงินคืนเต็มจำนวนได้หากคุณตัดสินใจว่ามันไม่ใช่โปรแกรมที่คุณมองหา

บริการลูกค้า

- 4.0 / 10

ฉันหวังว่าจะมีการบริการทางเทคนิคที่ดีกว่านี้จากบริษัทมีชื่อเสียงอย่าง Mozilla ไม่มีตัวเลือกแชทออนไลน์ โทรศัพท์หรือส่วนช่วยเหลือบนเว็บไซต์ แม้ว่าฉันจะพบส่วนช่วยเหลือในเมนูตั้งค่าของแอป Windows แต่ฉันติดต่อทีมบริการลูกค้าผ่านทางอีเมลในเที่ยงวันศุกร์และไม่รับการตอบกลับจนกระทั่งวันอังคาร

สกรีนช็อตของส่วนขอความช่วยเหลือของ Mozilla VPN ในเมนูการตั้งค่า

แอป Mozilla VPN สำหรับ Windows มีช่องทางในการติดต่อฝ่ายบริการเพียง 2 ช่องทาง

Mozilla VPN มีฐานความรู้ออนไลน์และคำถามที่พบบ่อย แต่เนื้อหานั้นค่อนข้างจำกัด ฉันต้องการโปรแกรม VPN ที่มีบริการลูกค้าผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อที่ฉันได้รับคำตอบทันที ตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าของ ExpressVPN ตอบกลับฉันภายในเวลาไม่กี่นาทีเสมอ ดังนั้นฉันจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการไม่สามารถแก้ไขปัญหาใด ๆ ได้

ทำไมฉันถึงต้องดูที่การช่วยเหลือ ในเมื่อฉันสามารถทำได้เอง?

ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการช่วยเหลือที่ดีมีความจำเป็นเฉพาะในช่วงการติดตั้ง VPN แต่จริง ๆ แล้วก็อาจมีอย่างอื่นที่ท่านอาจต้องการความช่วยเหลือนี้ได้เช่นกัน เช่น การเชื่อมต่อไปยังเซิฟเวอร์บางแห่ง การเปลี่ยนโปรโตคอล และการปรับค่า VPN บนเราท์เตอร์ เป็นต้น เราได้ตรวจสอบ VPN แต่ละตัวเพื่อดูว่ามีการช่วยเหลือเวลาใดบ้าง (ถึงแม้ในช่วงกลางดึก), ระยะเวลาที่พวกเขาตอบสนอง และพวกเขาได้ตอบคำถามเราหรือไม่

ราคา

- 7.0 / 10

Mozilla VPN มีตัวเลือกการสมัครสมาชิกเดียวในรูปแบบราคารายเดือน แม้ว่าเรื่องของราคานั้นจะดูดี แต่มันไม่มีส่วนลดสำหรับความภักดีในการใช้บริการระยะยาวเลย มีโปรแกรม VPN ที่ทรงพลังกว่าที่มอบความคุ้มค่าให้ได้มากกว่าหากคุณลงทะเบียนสำหรับแผนให้บริการแบบหนึ่งปีหรือมากกว่า ตัวอย่างเช่น CyberGhost มีตัวเลือกการสมัครสมาชิก 3 แบบโดยตัวเลือกที่ถูกที่สุดคือตัวเลือกที่มีระยะเวลาการใช้งานนานที่สุด

ตัวเลือกการชำระเงิน

ในการจ่ายเงินซื้อ Mozilla VPN ตัวเลือกเพียงอย่างเดียวของคุณคือบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ฉันประหลาดใจนิดหน่อยที่พวกเขาไม่มีแม้กระทั่ง PayPal ให้บริการเนื่องจากบริการ VPN ขนาดเล็กมักมีช่องทางการชำระเงินทางเลือกอย่างน้อยหนึ่งช่องทาง

การรับประกันยินดีคืนเงิน

เช่นเดียวกับผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ คุณสามารถใช้การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันของ Mozilla VPN และทดสอบฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้โดยไม่มีความเสี่ยง การขอรับเงินคืนนั้นก็เป็นเรื่องที่ง่าย – แค่เลือก “ติดต่อเรา” ในส่วนช่วยเหลือของเมนูตั้งค่าของแอป ในแบบฟอร์มติดต่อ ให้เลือก “การชำระเงินและการเรียกเก็บเงิน” และกรอก “ขอเงินคืน” เป็นหัวข้อ หลังจากที่คุณอธิบายเหตุผลของคุณ (ฉันบอกว่าฉันมีปัญหาด้านการเงิน) และคลิกส่ง การขอเงินคืนของคุณจะได้รับการดำเนินการโดยอัตโนมัติและเงินของคุณจะกลับมายังบัญชีของคุณภายใน 10 วัน ฉันทดสอบมันด้วยตัวเองและได้รับเงินคืนเข้าบัญชีธนาคารของฉันในระยะเวลาสัปดาห์นิด ๆ

ภาพหน้าจอของแบบฟอร์มการติดต่อของ Mozilla VPN เพื่อขอยกเลิกและคืนเงิน

การรับเงินคืนจาก Mozilla VPN เป็นเรื่องง่าย – แค่ส่งแบบฟอร์มนี้ก่อนครบ 30 วัน

Mozilla VPN มีแพลนดังต่อไปนี้

1 เดือน plan
 
$ 9.99
ต่อ เดือน
 
ดูแพลน
12 เดือน plan
$9.99
$ 4.99
ต่อ เดือน
ประหยัด 50%
ดูแพลน
ดูแพลน
ประหยัด 50%
6 เดือน plan
$9.99
$ 7.99
ต่อ เดือน
ประหยัด 20%
ดูแพลน
ดูแพลน
ประหยัด 20%

บทสรุป

Mozilla VPN เป็นโปรแกรม VPN พื้นฐานที่พอใช้ได้ แต่มันต้องได้รับการพัฒนามากกว่านี้ก่อนฉันจึงจะแนะนำให้ใช้งานมันได้อย่างมั่นใจ มีตัวเลือกที่ทรงพลังมากกว่าอย่าง CyberGhost ที่มอบข้อเสนอให้ดีกว่า ยกเว้นแต่ว่า Mozilla VPN จะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้มากกว่านี้หรือลดลงราคาลงให้ถูกลง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Mozilla VPN

Mozilla VPN เป็นตัวเลือกที่ดีหรือเปล่า?

แม้ว่า Mozilla VPN จะมีความเร็วที่รวดเร็วสำหรับการท่องเว็บพื้นฐานและรับชม Netflix แต่จะดีกว่าหากคุณลองใช้หนึ่งในโปรแกรม VPN ที่ทรงพลังมากกว่าเหล่านี้ ผู้ให้บริการรายอื่น ๆ สามารถปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งอื่น ๆ นอกจาก Netflix และ BBC iPlayer ได้และเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยมากกว่าสำหรับการดาวน์โหลด Torrent ExpressVPN มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ทรงพลังกว่าและมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่กว่า – แถมแผนให้บริการแบบ 2 ปียังมีราคาถูกกว่ารายเดือนที่ถูกกว่าด้วย!

ฉันสามารถใช้งาน Mozilla VPN ฟรีได้ไหม?

คุณสามารถใช้งาน Mozilla VPN ฟรี 30 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน แต่มันไม่มีเวอร์ชันฟรีหรือเวอร์ชันทดลองใช้ หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกฟรี แม้ว่าจะโปรแกรม VPN ฟรีที่พอใช้ได้อยู่สองสามโปรแกรม แต่พวกเขาจำกัดข้อมูลและมีเซิร์ฟเวอร์ที่หนาแน่น ที่แย่ยิ่งกว่าคือหลายโปรแกรมบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อขายให้กับบริษัทการตลาดซึ่งอาจทำให้คุณเสี่ยงกับแฮ็กเกอร์ได้ (และมันขัดกับวัตถุประสงค์ของการใช้งานโปรแกรม VPN เพื่อให้ออนไลน์อย่างปลอดภัยและไม่เปิดเผยตัวตน)

ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันของ Mozilla VPN เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่มาพร้อมกับบริการ VPN ฟรี ตราบใดที่คุณติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าก่อน 30 วัน พวกเขาจะคืนเงินให้เต็มจำนวนเสมอไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม (ฉันบอกพวกเขาว่าฉันมีปัญหาด้านการเงินและไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อบริการได้อีกต่อไป)

Mozilla VPN ดูแลให้ฉันปลอดภัยได้จริง ๆ หรือเปล่า?

Mozilla VPN ดูแลข้อมูลและตัวตนของคุณให้ปลอดภัยและเป็นความลับ แต่มันไม่ได้ปกป้องคุณจากภัยคุกคามทางออนไลน์ทั่วไปอย่างมัลแวร์ ฟิชชิ่งสแกมหรือไวรัส ฉันขอแนะนำให้คุณดูโปรแกรม VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Windows เพื่อรับเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์ในการปกป้องตัวคุณเมื่อคุณใช้เว็บ

การใช้งาน Mozilla VPN เป็นเรื่องผิดกฎหมายหรือเปล่า?

ตราบใดที่คุณไม่ใช้มันเพื่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย การใช้งาน Mozilla VPN ก็เป็นเรื่องถูกกฎหมาย แม้ว่าการปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งนั้นจะเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายโดยสมบูรณ์ แต่การดาวน์โหลดรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ที่มีลิขสิทธิ์นั้นเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

เปรียบเทียบกับตัวเลือกอื่น
9.8
/ 10
เยี่ยมชม
9.6
/ 10
เยี่ยมชม
9.4
/ 10
เยี่ยมชม
6.6  / 10

หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อ่าน และเรามุ่งมั่นที่จะได้รับความไว้วางใจจากคุณด้วยการทำงานด้วยความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมบางส่วนที่ได้รับการตรวจสอบบนเว็บไซต์นี้: Intego, Cyberghost, ExpressVPN และ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา เนื่องจากเราปฏิบัติตามวิธีการทดสอบที่เข้มงวด

พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา