ความเร็ว | 7.0 / 10 |
เซิร์ฟเวอร์ | 7.0 / 10 |
เป็นมิตรต่อผู้ใช้ | 7.0 / 10 |
บริการลูกค้า | 4.0 / 10 |
ราคา | 6.0 / 10 |
Hola รีวิว 2024: สมควรซื้อหรือเปล่า?
ภาพรวม Hola 2024
Hola VPN ไม่ใช่ VPN ทั่วไปเนื่องจากมันพึ่งพาโครงสร้าง P2P ขั้นสูงในการเสนอบริการ ฉันได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่น่าสงสัยมากมายเกี่ยวกับประวัติของ VPN นี้และนโยบายความเป็นส่วนตัวของพวกเขา ดังนั้นฉันจึงอยากตรวจสอบรายละเอียดด้วยตัวเอง เพื่อค้นหาว่า VPN เสนอฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ฉันกำลังมองหาได้หรือไม่ ฉันจึงได้ทดสอบความสามารถในสตรีมมิ่ง ความเร็ว ความปลอดภัยและอื่น ๆ อีกมากมาย
ฉันไม่สามารถแนะนำแผนให้บริการฟรีของ Hola ได้เพราะฉันพิจารณาว่าไม่สามารถไว้วางใจได้และฉ้อโกง แต่ถึงอย่างนั้น แผนให้บริการแบบชำระเงินของ Hola ก็เสนอคุณภาพการสตรีมมิ่งที่ดี ความเร็วที่รวดเร็วในเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดและแอปที่มีประโยชน์สำหรับแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ฉันไม่สะดวกใจที่จะดำเนินการสิ่งต่าง ๆ ส่วนใหญ่ผ่านบริการนี้เนื่องจากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่น่าเป็นห่วงและนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ไม่น่าเชื่อถือ
คุณสามารถลองใช้ VPN นี้ด้วยตัวคุณเองได้โดยการเลือกแผนให้บริการฟรี หากคุณไม่พึงพอใจกับบริการฟรี คุณสามารถทดสอบบริการแบบชำระเงินของ Hola VPN ได้โดยใช้ประโยชน์จากการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
ไม่มีเวลาอ่านใช่ไหม? นี่คือบทสรุปฉบับย่อ (ใช้เวลาอ่าน 1 นาที)
- ปลดบล็อก Netflix และบริการสตรีมมิ่งอื่น ๆ ได้ ฉันสามารถปลดบล็อก Netflix, Prime, Hulu, HBO, BBC iPlayer และอื่น ๆ อีกมากมายได้ด้วย Hola VPN — แม้กระทั่งด้วยเวอร์ชันฟรี! ดูว่าฉันปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งใดได้บ้าง
- ความเร็วที่รวดเร็วจากเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่น ฉันได้รับความเร็วที่รวดเร็วที่สุดจากเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้ฉันมากที่สุด ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลจากฉันในงานได้ช้ากว่าอย่างมาก ข้ามไปเพื่อดูผลการทดสอบความเร็ว
- ไม่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โครงสร้างเซิร์ฟเวอร์ P2P, ไม่มีการเข้ารหัสและนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ไม่ดีทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณของความปลอดภัยที่อ่อนแอที่น่าเป็นห่วง ดูว่า Hola VPN ปลอดภัยมากแค่ไหน
- รองรับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายและรองรับการเชื่อมต่อในเวลาเดียวกันถึง 10 อุปกรณ์ ฉันเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่แตกต่างกัน 6 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกันและประหลาดใจอย่างยิ่งกับการเชื่อมต่อที่เสถียร ดูว่าโปรแกรมรองรับอุปกรณ์ใดบ้าง
- มีทั้งบริการฟรีและบริการแบบชำระเงิน เวอร์ชันฟรีนั้นเปิดให้บริการในรูปแบบ peer-to-peer (P2P) VPN ทั่วโลกโดยจะแบ่งปันทรัพยากรคอมพิวเตอร์ของคุณกับผู้ใช้รายอื่น ๆ เมื่อไม่มีการใช้งาน คุณสามารถอัปเกรดเป็น Hola VPN Plus เพื่อหลีกเลี่ยงการแบ่งปันทรัพยากรของคุณได้ ดูตัวเลือกราคาทั้งหมด
Hola ปลดบล็อก Netflix, Hulu, HBO Max, Amazon Prime Video และ BBC iPlayer ได้ (แต่ไม่สามารถเข้าถึง Disney+ ได้)
Hola VPN ทำให้ฉันประหลาดใจด้วยจำนวนบริการสตรีมมิ่งที่มันสามารถปลดบล็อกได้ แม้กระทั่งด้วยเวอร์ชันฟรี ไม่มีระยะเวลาสตรีมมิ่งแบบไม่จำกัดที่พร้อมให้บริการในเวอร์ชันฟรีซึ่งหมายความว่าคุณจำเป็นต้องซื้อแพ็กเกจแบบเสียเงินเพื่อวัตถุประสงค์นี้
ฉันสามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งทั่วโลกส่วยใหญ่อย่าง Netflix, Hulu, HBO Max, Amazon Prime Video, Channel 4, BBC iPlayer, iTV, Comedy Central และ NBC ได้ คุณภาพการสตรีมมิ่งถือว่ายอดเยี่ยมโดยฉันสามารถดูวิดีโอความละเอียดระดับ HD ได้โดยไม่พบกับการสะดุด แต่ในทางกลับกัน ความพยายามในการปลดบล็อก Disney+ ของฉันกลับล้มเหลว
Netflix, Hulu, HBO Max, Amazon Prime Video และ BBC iPlayer: ปลดบล็อกได้
น่าเสียดายที่เราต้องรอถึงหนึ่งนาทีก่อนที่คุณภาพวิดีโอจะได้รับการปรับเป็น HD คุณอาจพบกับความเร็วที่ช้าลงได้หากคุณใช้เวอร์ชันฟรี
ฉันสตรีม “The Witcher” ด้วย Hola บน Netflix ได้อย่างง่ายดาย
ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการปลดบล็อก HBO Max ด้วย Hola การสตรีมมิ่งในความละเอียดระดับ HD ที่สมบูรณ์แบบเกิดขึ้นหลังจากผ่านไปประมาณ 10 วินาทีโดยกระตุกเล็กน้อยในเวอร์ชันพรีเมียม
ฉันได้มีช่วงเวลาที่ดี ๆ กับ “Twilight” บน Amazon Prime Video ด้วย Hola
ฉันสามารถเข้าถึงคลังข้อมูล Amazon Prime Video ของฉันจากตำแหน่งบ้านเกิดได้โดยไม่พบปัญหาอะไร การสตรีมเนื้อหาความละเอียดสูงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่ายสำหรับฉัน
ฉันเพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์เรื่อง “The Valet” บน Hulu
Hulu ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรตอนที่ฉันลองเข้าถึงมันด้วย Hola ฉันประทับใจกับประสิทธิภาพที่ฉันได้รับขณะสตรีมมิ่ง Hola VPN ยังทำงานร่วมกันกับ BBC iPlayer และแพลตฟอร์มยอดนิยมอื่น ๆ ในสหราชอาณาจักรอย่าง ITV และ Channel 4 ได้อีกด้วย
Disney+: ถูกปิดกั้น
น่าแปลกที่ Disney+ เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาบางอย่าง Hola สามารถตรวจจับว่าฉันเชื่อมต่อกับ VPN ได้และกันไม่ให้ฉันเข้าถึงหน้าแรกของ Disney+ ได้ ฉันลองเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ดูหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จเลย
ความเร็วและความปลอดภัยของ CyberGhost ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการสตรีมมิ่ง Disney+ จากต่างประเทศ นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าถึง Netflix US, ITV Hub และ Sling TV ได้จากทุกที่ด้วย
ความเร็ว
- 7.0 / 10ฉันประหลาดใจกับผลความเร็วที่ดีบ้างไม่ดีบ้างของ Hola VPN ด้วยการเชื่อมต่อ 300Mbps ของฉันในโปแลนด์ ฉันได้รับความเร็วโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 100Mbps ในขณะเชื่อมต่อกับ VPN พรีเมียม เมื่อพิจารณาว่าฉันดำเนินการทดสอบเหล่านี้ด้วยบริการ Plus แบบชำระเงินของ Hola VPN ฉันก็ต้องบอกเลยว่าฉันผิดหวัง แม้ว่าฉันจะทราบดีว่าฉันจะได้รับความเร็วที่ช้าในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลจากฉัน แต่ความเร็วที่ฉันได้รับจากสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย (ต่ำกว่า 8Mbps) นั้นช้าที่สุดที่ฉันเคยได้รับในภูมิภาคเหล่านี้
Hola มอบความเร็วที่ดีที่สุดหากคุณเลือกใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้กับตำแหน่งที่แท้จริงของคุณมากที่สุด ก่อนที่จะทดสอบเซิร์ฟเวอร์ของ Hola ฉันลองวัดความเร็ว ISP ของฉันและความเร็วดังกล่าวอยู่ที่ 64.75 Mbps หากคุณอาศัยอยู่ในยุโรปตะวันตกหรืออเมริกาเหนือ การใช้ VPN อาจไม่ได้สร้างความแตกต่างนักเพราะความเร็วเฉลี่ย Mbps น้อยกว่าความเร็วปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตอนที่ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา — ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใกล้กับตำแหน่งที่แท้จริงของฉันมากที่สุด — ความเร็วสำหรับการดาวน์โหลดลดลงเพียง 29% อยู่ที่ 45.33 Mbps เท่านั้น เซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักรทำงานได้ดีกว่าที่ความเร็วสำหรับการดาวน์โหลดที่ 49.16 Mbps ประสบการณ์การใช้เซิร์ฟเวอร์ในฝรั่งเศาของฉันก็ค่อนข้างคล้ายกันโดยความเร็วลดลงเพียง 34%
ความเร็วของฉันไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงในขณะที่ใช้ Hola
แม้ข้อเท็จจริงที่ว่าการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลจะมีแนวโน้มที่จะใช้ทรัพยากรมากกว่าเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่น แต่ Hola ก็มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม การเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาที่ความเร็ว 64.75 Mbps ลดลงมาถึง 39.89 Mbps ในเซิร์ฟเวอร์ในออสเตรเลียโดยเราจะเห็นถึงความแตกต่างเฉพาะในตอนที่มีรายการดาวน์โหลดจำนวนมากเท่านั้น
ในทางกลับกัน เวอร์ชันฟรีของ Hola ไม่สามารถมอบความเร็วที่รวดเร็วมากพอในการทำให้ประสบการณ์การท่องเว็บน่ารื่นรมย์ได้ ฉันพบความเร็วลดลงเฉลี่ยถึง 81% ขณะที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสและออสเตรเลีย ดังนั้นคุณจึงควรเลือกใช้แผนให้บริการพรีเมียมและอัลตราของ Hola หากคุณต้องการ VPN ที่มีความเร็วเสถียรกว่าและรวดเร็วกว่า
ความสำคัญของความเร็วและสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก VPN?
ความเร็วถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเมื่อเลือก VPN ซึ่งความเร็วในการใช้ VPN จะมาพร้อมกับค่าใช้ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยิ่ง VPN มีความเร็วมากเท่าใด คุณยิ่งจะสามารถเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดของเน็ตเวิร์คของคุณได้มากเท่านั้น เวลา Ping มีความสำคัญเทียบเท่ากับความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดสำหรับการสตรีมมิ่ง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความเร็วในการรับข้อมูล เวลา ping ที่น้อยกว่าและแบนด์วิธในการดาวน์โหลดที่สูงจะช่วยให้การสตรีมมิ่งเป็นไปได้อย่างไม่มีสะดุด การใช้เวลาในการเชื่อมต่อที่สั้นกว่าจะช่วยป้องกันความวุ่นวาย ส่วนการเชื่อมต่อที่เสถียรถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสตรีมมิ่งหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ
เซิร์ฟเวอร์
- 7.0 / 10เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ — โครงสร้าง P2P ที่โดดเด่น
Hola ขึ้นชื่อว่าเป็นบริการ “เหมือน VPN” เนื่องจากมันพึ่งพาเครือข่าย peer-to-peer ทั่วโลกที่แบ่งปันระหว่างผู้ใช้แทนที่จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ นี่หมายความว่าคุณจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ในเกือบทุกประเทศทั่วโลก แต่ถึงอย่างนั้นทรัพยากรของอุปกรณ์ของคุณก็อาจถูกผู้ใช้รายอื่นนำไปใช้ หากคุณไม่ต้องการถูกใช้ในฐานะ peer คุณสามารถอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน Plus ได้ นอกจากนี้คุณยังจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงเครือข่าย peer ไฮบริดของ Hola VPN และโครงสร้างพื้นฐานเซิร์ฟเวอร์ VPN เฉพาะสำหรับการเชื่อมต่อที่เสถียรมากขึ้นและความเร็วที่เร็วมากขึ้นได้
Hola ใช้เวลาในการเชื่อมต่อแต่ละเซิร์ฟเวอร์ที่ฉันทดสอบประมาณ 10-15 วินาที แม้ว่านี่จะเป็นระยะเวลารอที่นานกว่า VPN ส่วนใหญ่ที่ฉันทดสอบ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นระยะเวลารอที่ไม่นานที่สมเหตุสมผล น่าเสียดายที่จะไม่มีการแสดงตำแหน่งสำหรับการเลือกเซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเอง ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้คุณที่สุดได้โดยทันที — ซึ่งจะทำให้คุณต้องรอนานมากยิ่งขึ้น
Hola มีเซิร์ฟเวอร์มากมายในยุโรปและอเมริกา
ความปลอดภัย — ไม่มีการเข้ารหัสและความกังวลในอดีตที่น่าเป็นห่วง
อย่างที่ฉันกล่าวไปก่อนหน้านี้ โครงสร้างพื้นฐานเซิร์ฟเวอร์ peer-to-peer ของ Hola VPN ไม่ปลอดภัยในแง่ความกังวลด้านความปอดภัย เนื่องจาก Hola โปรโมทตัวเองในฐานะ VPN ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าผู้ใช้เวอร์ชันฟรีมากมายไม่ได้ตระหนักว่าเส้นทางการเข้าชมของพวกเขานั้นไม่ได้รับการเข้ารหัส นี่เป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วง แต่จะแย่ลงไปอีกเมื่อมีโครงสร้างพื้นฐาน P2P ที่สร้างขึ้น
เมื่อคุณเชื่อมต่อกับ Hola และท่องเว็บไซต์ที่คุณคิดว่าคุณท่องเว็บอย่างไม่เปิดเผยตัวตน จริง ๆ แล้วคุณกำลังส่งข้อมูลที่ไม่ได้รับการเข้ารหัสผ่านอุปกรณ์ของใครสักคนอยู่ นี่หมายความว่าข้อมูลของคุณอาจจะถูกสกัดกั้นหรือคนอื่น ๆ สามารถใช้หมายเลข IP ของคุณ (เมื่อคุณถูกใช้เป็น peer) เพื่อเข้าถึงเนื้อหาที่ผิดกฎหมายได้ คุณอาจต้องเผชิญกับปัญหาที่รุนแรงหากกิจกรรมออนไลน์ผิดกฎหมายนั้นเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ของคุณแม้ว่าคุณจะไม่ได้เข้าถึงมันด้วยคุณเองก็ตาม
ฉันดำเนินการทดสอบ DNS สองสามครั้งและมีความสุขที่ Hola สอบผ่านโดยไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามฉันผิดหวังกับการไม่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่เหมาะสมในแอปสำหรับเดสก์ท็อป ฟีเจอร์จริง ๆ เพียงฟีเจอร์เดียวคือ Kill Switch สำหรับแอปซึ่งจะหยุดแอปพลิเคชันที่เฉพาะเจาะจงหากการเชื่อมต่อ VPN เกิดล้มเหลว ฉันต้องการ Kill Switch ที่ทำงานกับอินเทอร์เน็ตทั่วไปมากกว่า — Kill Switch สำหรับแอปที่เฉพาะเจาะจงไม่ได้มีระดับความปลอดภัยที่เท่ากัน
บริการนี้ยังเป็นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของบอทเน็ต (เครือข่ายคอมพิวเตอร์สำหรับกิจกรรมทางอาญาโดยที่เจ้าของไม่รู้ตัว) ในปี 2015 แบนด์วิดธ์ของผู้ใช้ Hola จะถูกขายโดยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทลูก Luminati ซึ่งจะส่งเส้นทางการเข้าชมจำนวนมากไปยังเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง (หรือที่รู้จักในชื่อการโจมตี DDoS) แม้ว่านี่จะผ่านมาสองสามปีแล้ว แต่ Hola VPN ไม่เคยปรับปรุงความปลอดภัยใด ๆ เลยนับตั้งแต่การโจมตี
สำหรับ VPN ที่ปลอดภัยกว่าที่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า มันมีการเชื่อมต่อเข้ารหัสโดยสมบูรณ์, Kill Switch, เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์และสามารถหลีกเลี่ยงการจำกัดที่เข้มงวดของรัฐบาลแม้ในประเทศจีนได้ คุณสามารถลองใช้ ExpressVPN ฟรี 30 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน นอกจากนี้คุณยังสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ ExpressVPN ในภาษาไทยได้อีกด้วย
ความเป็นส่วนตัว — เก็บข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกเปิดเผยแก่ผู้ให้บริการเครือข่ายส่วนบุคคลเสมือนจริงตอนที่คุณสร้างบัญชี Hola ฟรี Hola เก็บรวบรวมข้อมูลที่หลากหลายซึ่งรวมถึงหมายเลข IP ที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในท้องถิ่นมอบให้กับคุณ แค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวก็ถือว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวบนอินเทอร์เน็ตที่ร้ายแรงแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นผู้ให้บริการนี้ยังตรวจสอบและบันทึกทุกหน้าและเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมขณะเชื่อมต่อ VPN ด้วย
นี่เป็นหนึ่งในประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันเมื่อวิเคราะห์บริการ VPN น่าเสียดายที่ Hola VPN ทำให้ฉันตั้งคำถามว่ามันควรถูกนำไปใช้หรือไม่ หากมันติดตามทุกสิ่งที่คุณทำในขณะที่เชื่อมต่อ งั้นการใช้งาน Hola VPN นอกจากการปลดบล็อกสตรีมมิ่งเนื้อหาแล้วก็ไม่มีประโยชน์
ฉันยังตรวจสอบการตั้งค่าและต้องประหลาดใจที่ได้เห็นว่าแม้ในบัญชี Plus ที่ฉันชำระเงิน การตั้งค่าสำหรับ “ไม่บันทึกข้อมูล” ยังถูกปิดตั้งค่าไว้โดยค่าเริ่มต้นด้วย
มีการรายงานว่าแฮกเกอร์ได้รุกล้ำบัญชี Google Play Store สำหรับ Hola VPN ในวันที่ 9 กรกฎาคมซึ่งส่งผลให้เกิดการเปิดเผยข้อมูลลูกค้าที่เป็นความลับ รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ามีการอัปโหลด Hola VPN ของปลอมลงใน App Store ซึ่งทำให้ผู้ใช้ MyEtherWallet มีช่องโหว่เป็นเวลาสองสามชั่วโมงก่อนที่มันจะถูกลบออกไป นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่น ๆ ที่ทำให้ต้องระมัดระวังผู้ใช้รายนี้ด้วย
Hola มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในอิสราเอล แม้ว่าอิสราเอลจะไม่ได้เป็นสมาชิกของ 14 Eyes Alliance แต่มันก็เป็นพันธมิตรของหน่วยงานข่าวกรอง 14 Eyes เป็นหน่วยข่าวกรองระดับชาติที่เฝ้าสอดแนมการใช้งานอินเทอร์เน็ตภายใต้เขตอำนาจศาลของต้นด้วยวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัยและเนื่องจาก Hola อาศัยอยู่ในเขตอำนาจศาลที่เข้าร่วม ฉันจึงสงสัยเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริการดังกล่าว
Hola ดำเนินการแถลงการณ์ด้านความเป็นส่วนตัวอย่างชัดเจนว่ามันเก็บข้อมูลของคุณเอาไว้ตราบใดที่บริการของพวกเขาถือว่าจำเป็น นี่อาจเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังสำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวเป็นหลักและฉันเองก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน ฉันจึงไม่แนะนำ Hola กับบุคคลที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในขณะที่ใช้ VPN เนื่องจากบริการนี้มีการจัดการด้านความเป็นส่วนตัวที่ย่ำแย่ ฉันจะใช้ Hola เฉพาะหากองค์กรตรวจสอบอิสระยืนยันว่าความเป็นส่วนตัวของพวกเขาปลอดภัยเหมือนกับ ExpressVPN เท่านั้น
Hola VPN ทำงานในประเทศจีนได้ไหม? (ไม่ได้ — แต่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้)
เนื่องจาก Hola ทำงานในฐานะบริการพร็อกซีแบบ Peer-to-Peer ดังนั้นความเป็นไปได้ในการหลีกเลี่ยงผ่านกำแพงการเซ็นเซอร์ทางอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนที่แข็งแกร่งจึงเป็นไปได้ยากมาก ฝ่ายบริการลูกค้าของ Hola ยืนยันแล้วเช่นกันว่าบริการของพวกเขาไม่สามารถทำงานในประเทศจีนได้
คุณไม่สามารถใช้ Hola ในประเทศจีนได้
แตกต่างจาก VPN พรีเมียมบางโปรแกรม Hola VPN ไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางด้านอินเทอร์เน็ตของประเทศจีน ด้วยการไม่มีการเข้ารหัสในเวอร์ชันฟรี คุณจึงควรใช้ ExpressVPN สำหรับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนไม่จำกัด
ตำแหน่งของเซิฟเวอร์
เป็นมิตรต่อผู้ใช้
- 7.0 / 10การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกัน — สูงสุด 20 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน
คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันได้สูงสุดถึง 20 อุปกรณ์ได้ด้วย Hola VPN Plus ฉันลองเชื่อมต่อกับเดสก์ท็อปและแล็ปท็อป Windows, MacBook Air, โทรศัพท์ Android, iPhone และ PS4 ไม่มีความแตกต่างในด้านของการสตรีมมิ่ง ความเสถียรในการท่องเว็บหรือความเร็วเลย ไม่มีการเชื่อมต่อใดที่ล่าช้าในชั่วโมงที่ฉันเชื่อมต่อเลย
ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ — อุปกรณ์มากมายให้เลือกสรร
คุณสามารถใช้ Hola VPN บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ได้:
- Windows
- Android
- iOS
- PS4
- Chrome, Firefox, Opera, Edge และ Internet Explorer
ฉันประสบความสำเร็จในการทดสอบ Hola กับอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากคุณใช้ macOS ในเวอร์ชันที่เก่ากว่า คุณอาจไม่สามารถใช้ Hola VPN ได้ ในระหว่างการทดสอบ ฉันไม่สามารถเชื่อมต่อกับ macOS ของฉันได้ (เนื่องจาก MacBook Air ใช้ macOS เวอร์ชันต่ำกว่า 10.11 ซึ่งไม่รองรับการเข้ารหัส IKEv2)
ส่วนขยายเบราว์เซอร์ทั้งหมดทำงานได้ดีโดยให้คุณปลดบล็อกผ่านเบราว์เซอร์ของคุณแทนที่จะส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ
หากคุณกำลังมองหา VPN สำหรับ Windows เป็นพิเศษ คุณมีอาจพบตัวเลือกที่ดีในคำแนะนำเกี่ยวกับโปรแกรม VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Windows
ส่วนขยายเบราว์เซอร์ Hola VPN — มีประโยชน์สำหรับการปลดบล็อกเบราว์เซอร์ที่เฉพาะเจาะจง
Hola VPN มีส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome, Firefox, Opera และ Microsoft Edge ฉันทดสอบมันกับ Chrome และ Firefox และไม่พบกับปัญหา การเชื่อมต่อนั้นรวดเร็วและช่วยให้ฉันปลดบล็อก Netflix, BBC iPlayer และ Hulu และป้องกันเบราว์เซอร์ของฉันได้ โปรดทราบว่าถ้าหากคุณกำลังใช้ Hola VPN Plus การเข้ารหัสผ่านในส่วนขยายเบราว์เซอร์จะไม่ถูกเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น (และ Free ก็ไม่มีการเข้ารหัสเลย)
ส่วนขยายเบราว์เซอร์เป็นฟีเจอร์ที่มอบความสะดวกสบายให้มากยิ่งขึ้นหากคุณไม่ต้องการเปิด VPN ทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อ สามารถเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายและคุณยังสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับบริการสตรีมมิ่งที่เจาะจงได้ด้วย
การติดตั้งและการตั้งค่าที่ง่ายดาย — พร้อมใช้งานภายใน 5 นาที
- ไปที่ hola.org/download และดาวน์โหลดเวอร์ชันที่เหมาะกับอุปกรณ์ของคุณ
- เปิดไฟล์ (ที่มีชื่อว่า Hola-Setup.exe บน Windows) และดำเนินการตามกระบวนการติดตั้ง เลือกบัญชี Free หรือ Plus
- เปิดใช้งาน Hola, เลือกประเทศและคลิกเพื่อเชื่อมต่อ!
ยกเลิกการติดตั้ง Hola ในไม่กี่วินาที
คุณสามารถยกเลิกการติดตั้ง Hola VPN ได้โดยการไปที่ “Programs and Features” ใน Control Panel ของ Windows และลบโปรแกรมจากที่นั่นได้ หากคุณใช้ Mac ให้ลากแอป Hola VPN จาก Applications ไปยัง Trash และรีสตาร์ทอุปกรณ์ของคุณ
บนมือถือ คุณสามารถแตะที่แอปค้างเอาไว้และคลิก X หรือลากมันไปยัง “ยกเลิกการติดตั้ง” เพื่อลบได้
บริการลูกค้า
- 4.0 / 10คุณสามารถรับความช่วยเหลือจาก Hola VPN ได้ 2 ช่องทาง:
- บริการทางอีเมล
- คำถามที่พบบ่อย/ฐานข้อมูลความรู้
แม้ว่า Hola VPN จะไม่มีแชทออนไลน์ แต่มันก็มีบริการทางอีเมล ฉันสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ Hola เกี่ยวกับวิธีเพิ่มความเร็วของฉันและฉันประทับใจที่ได้รับการตอบกลับภายใน 1 ชั่วโมง
ส่วนคำถามที่พบบ่อยก็มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการติดตั้ง การแก้ไขปัญหา การเรียกเก็บเงินและปัญหาอื่น ๆ ที่คุณอาจพบ แม้ว่าฉันจะไม่ต้องการความช่วยเหลือทางเทคนิคมากนัก แต่ฉันก็ได้ลองอ่านคำแนะนำเหล่านี้และพบว่ามันถูกเขียนขึ้นเป็นอย่างดี
ทำไมฉันถึงต้องดูที่การช่วยเหลือ ในเมื่อฉันสามารถทำได้เอง?
ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการช่วยเหลือที่ดีมีความจำเป็นเฉพาะในช่วงการติดตั้ง VPN แต่จริง ๆ แล้วก็อาจมีอย่างอื่นที่ท่านอาจต้องการความช่วยเหลือนี้ได้เช่นกัน เช่น การเชื่อมต่อไปยังเซิฟเวอร์บางแห่ง การเปลี่ยนโปรโตคอล และการปรับค่า VPN บนเราท์เตอร์ เป็นต้น เราได้ตรวจสอบ VPN แต่ละตัวเพื่อดูว่ามีการช่วยเหลือเวลาใดบ้าง (ถึงแม้ในช่วงกลางดึก), ระยะเวลาที่พวกเขาตอบสนอง และพวกเขาได้ตอบคำถามเราหรือไม่
ราคา
- 6.0 / 10ฉันพบว่าราคาของ Hola นั้นจัดว่าแพงมากเมื่อพิจารณาถึงฟีเจอร์ที่จำกัดที่มีให้บริการ แม้ว่ามันจะโฆษณาตนเองในฐานะบริการ VPN ฟรีเป็นหลัก แต่คุณก็สามารถเลือกที่จะอัปเกรดเป็นแผนให้บริการ Premium หรือ Ultra เพื่อรับบริการที่ดีกว่าได้ แผนให้บริการฟรีของ Hola มีขีดจำกัดระยะเวลารายวันเช่นเดียวกันกับ VPN ฟรีส่วนใหญ่ นอกจากเรื่องนั่นแล้วยังสามารถใช้งานได้เพียงอุปกรณ์เดียวเท่านั้นและคุณไม่สามารถสตรีมเนื้อหาในความละเอียดระดับ HD ได้ แถมยังมีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานได้ทั่วโลกประมาณ 500 เซิร์ฟเวอร์เท่านั้นสำหรับแผนให้บริการนี้
หรือคุณสามารถอัปเกรดเป็นแผนให้บริการ Premium ได้หากคุณต้องการ VPN สำหรับการใช้งานที่มากกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อวัน มันจะให้สิทธิ์ในการเข้าถึง IP มากกว่า 7,000,000 หมายเลข ให้คุณเชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกันและสตรีมวิดีโอในความละเอียดระดับ HD ได้ นอกจากนี้ Hola VPN เวอร์ชันพรีเมียมยังปฏิบัติตามนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานอย่างเข้มงวดและใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงด้วย
ราคาระหว่างแพ็กเกจ Ultra และ Premium นั้นแตกต่างกันอย่างมาก สำหรับราคาที่สูงกว่านี้ แผนให้บริการดังกล่าวจะเสนอเซิร์ฟเวอร์จำนวน 1,500 เซิร์ฟเวอร์, การสตรีมมิ่งวิดีโอในความละเอียดระดับ 4K, บริการ DNS อัจฉริยะและความสามารถในการเชื่อมต่อสูงสุดถึง 20 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน มันคงจะดีหากแผนให้บริการนี้มีฟีเจอร์มากกว่านี้เมื่อพิจารณาถึงราคาที่มากขึ้นเป็นสองเท่าของแผนให้บริการ Premium
มีช่องทางในการชำระเงินสำหรับแผนให้บริการมากมาย ฉันชำระเงินโดยใช้บัตรเครดิตของฉัน แต่คุณสามารถดำเนินการโดยใช้ PayPal, Google Pay, AliPay, Sofort, GiroPay และ iDeal ได้ ฉันประทับใจตอนที่เพื่อนร่วมงานในภูมิภาคอื่น ๆ ของฉันเปิดเผยว่าพวกเขาสามารถสมัครสมาชิก Hola โดยใช้บัตรในประเทศของพวกเขาซึ่งดำเนินการด้วยสกุลเงินในท้องถิ่นของพวกเขาได้
Hola VPN มีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันซึ่งถือเป็นระยะเวลาในการทดสอบบริการที่มากเพียงพอ หากคุณตัดสินใจว่าคุณไม่ต้องการสมัครสมาชิกต่อ คุณสามารถส่งอีเมลไปยังฝ่ายสนับสนุนหรือกรอกแบบฟอร์มขอเงินคืนบนเว็บไซต์เพื่อขอเงินของคุณคืนภายใน 30 วันได้
Hola มีแพลนดังต่อไปนี้
บทสรุป
ฉันมีความรู้สึกที่ทั้งดีและไม่ดีเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดของ Hola VPN มันช่วยแก้ไขหนึ่งในปัญหาหลักสำหรับการใช้ VPN ได้ — การเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกปิดกั้น อย่างไรก็ตามมันยังไม่มีประสิทธิภาพเมือพูดถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ความปลอดภัยและความเร็ว ผสานรวมกับราคาที่เท่ากันหรือมากกว่าตัวเลือก VPN ที่ดีกว่าบางโปรแกรม บริการ Plus ของ Hola VPN จึงยังไม่น่าใช้งาน
หากคุณต้องการเข้าถึง Netflix หรือบริการสตรีมมิ่งอื่น ๆ บางส่วน Hola เวอร์ชันฟรีสามารถทำหน้าที่นั้นได้ หากคุณต้องการ VPN ที่ทำได้สิ่งต่าง ๆ ได้มากกว่าการสตรีม คุณควรหลีกเลี่ยง Hola VPN โดยส่วนตัวแล้วฉันชอบ VPN พรีเมียมที่ได้รับการทดสอบแล้วอย่าง CyberGhost หรือ ExpressVPN มากกว่าเนื่องจากมันสามารถปลดบล็อกเนื้อหาได้อย่างน่าทึ่งและยังมอบความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมด้วย!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Hola VPN
Hola VPN มีเวอร์ชันฟรีหรือเปล่า?
ใช่! Hola มีเวอร์ชันฟรี แต่มีข้อเสียอยู่บ้าง การใช้เวอร์ชันฟรีหมายความว่าคุณจะต้องทิ้งการเข้ารหัสความปลอดภัยใด ๆ และสมาชิกอื่น ๆ ของเครือข่าย P2P อาจสกัดกั้นข้อมูลหรือหมายเลข IP ของคุณได้ หากคุณต้องการเลือกแผนให้บริการฟรีและต้องการ VPN ที่มีความซับซ้อนมากกว่านี้ บริการ VPN เหล่านี้อาจเป็นบริการที่คุณกำลังมองหา
ควรใช้ Hola VPN ไหม?
น่าเสียดายที่ไม่ ฉันไม่แนะนำทั้งในแง่ของราคาปัจจุบันและชุดฟีเจอร์ Hola VPN ปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่งมากมายด้วยเวอร์ชันฟรีและเวอร์ชันชำระเงินได้อย่างน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามมี VPN ที่ดีกว่าในราคาเท่ากันหรือถูกกว่า แต่เสนอความเร็วที่รวดเร็วกว่า ความปลอดภัยที่ดีกว่า นโยบายความเป็นส่วนตัวที่ครอบคลุมกว่า การรองรับ Torrent และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย
Hola VPN จะดูแลให้ฉันออนไลน์อย่างปลอดภัยหรือไม่?
ไม่ Hola จะไม่ดูแลให้การออนไลน์ของคุณปลอดภัย ผู้ใช้ฟรีจะไม่ได้รับการเข้ารหัสด้วย Hola VPN มีนโยบายการบันทึกข้อมูลที่น่าหงุดหงิดและบริการเองก็ตกเป็นที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัยในอดีต ฉันจะไม่ใช้ Hola VPN ด้วยวัตถุประสงค์ในการออนไลน์อย่างปลอดภัย อย่างน้อยก็จนกว่ามันจะได้รับการทดสอบอิสระและปรับปรุงให้ดีกว่านี้
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อ่าน และเรามุ่งมั่นที่จะได้รับความไว้วางใจจากคุณด้วยการทำงานด้วยความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมบางส่วนที่ได้รับการตรวจสอบบนเว็บไซต์นี้: Intego, Cyberghost, ExpressVPN และ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา เนื่องจากเราปฏิบัติตามวิธีการทดสอบที่เข้มงวด