แอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดสำหรับ Android – 2024

ด้วยลูก ๆ 4 คนที่ใช้เวลามากเกินไปกับโทรศัพท์ของพวกเขา ฉันจึงต้องค้นหาแอปที่สามารถคัดกรอง จำกัดและตรวจสอบอุปกรณ์ Android ของลูกฉันได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะมีกฎข้อบังคับใหม่ของ Android ก็ตาม

ฉันได้ทดสอบแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองมากกว่า 50 แอปเพื่อตรวจสอบว่าแอปใดที่ยังทำงานได้และฟีเจอร์ใดที่ทำงานอย่างที่มันควรจะเป็นหรือไม่ แอปส่วนใหญ่ที่ฉันทดสอบไม่ได้ดีนัก (ซึ่งรวมถึง Google Family Link ยอดนิยม) ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:

• เครื่องมือการจัดการเวลาไม่ได้ปิดกั้นโทรศัพท์
• ตัวกรองเว็บไม่ทำงานหรือเด็ก ๆ สามารถหลีกเลี่ยงมันได้อย่างง่ายดาย
• แอปล้มเหลวในการส่งการแจ้งเตือนไปยังบัญชีของผู้ปกครอง
• แอปหยุดทำงานอย่างต่อเนื่องหลังจากติดตั้งมัน

ฉันพบ 5 แอปที่ทำให้ฉันทึ่งและฉันรู้สึกสบายใจที่จะใช้มันกับครอบครัวของฉันและแนะนำให้กับคุณ หากคุณต้องการคำตอบแบบเร่งด่วน แอปที่ดีที่สุดที่ฉันใช้คือ Qustodio ซึ่งมีฟีเจอร์ที่สามารถกำหนดค่าเองได้มากที่สุดและใช้งานง่ายมาก ๆ มันมอบข้อมูลทั้งหมดที่ฉันจำเป็นต้องทราบเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าลูก ๆ ของฉันกำลังทำอะไรกับโทรศัพท์ของตนเองในแดชบอร์ดที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ฉันพบว่าตัวกรองเว็บไซต์และเครื่องมือจำกัดเวลาหน้าจอนั้นใช้งานง่ายมาก ๆ และที่สำคัญที่สุดคือลูก ๆ ของฉันไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อคำพูดของฉันเพราะคุณสามารถทดลองใช้งานโดยไม่มีความเสี่ยงได้ด้วยนโยบายการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันของ Qustodio ตอนที่ฉันทดสอบมันด้วยตนเองและขอเงินคืน ฉันก็ได้รับเงินคืนเต็มจำนวนอย่างรวดเร็วภายในสามวันหลังจากที่ส่งคำขอ

ตรวจสอบลูก ๆ ของคุณด้วย Qustodio!

คำแนะนำลัด: รายการแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดสำหรับ Android ในปี 2024

5 แอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดสำหรับ Android

1. Qustodio – แอปอันดับ #1 สำหรับ Android ที่มาพร้อมกับตัวกรองเว็บไซต์ที่แข็งแกร่งและเครื่องมือการจัดการเวลาหน้าจอ

ฟีเจอร์หลัก:

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจได้จริง ๆ ในขณะที่กำลังทดสอบ Qustodio คือวิธีการจัดการการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของ Google เกี่ยวกับการตรวจสอบโทรศัพท์

แทนที่จะลบฟีเจอร์การตรวจสอบการโทรเข้า/ออกและ SMS ไป พวกเขาสร้างแอปเวอร์ชันเต็มที่พร้อมให้บริการผ่านเว็บไซต์ของ Qustodio แทน สิ่งนี้แสดงให้ฉันเห็นว่าพวกเขาทุ่มเทกับการสร้างโปรแกรมแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชันแอปพร้อมให้บริการผ่าน Play Store ที่การตรวจสอบสายโทรเข้า/ออกและ SMS ถูกปิดการใช้งานสำหรับใครก็ตามที่ไม่ต้องการฟีเจอร์ดังกล่าวหรือแต่ไม่สะดวกที่จะดาวน์โหลดแอปโดยตรงจาก Play

มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นมากมายที่ที่ Qustodio ทำได้ดีกว่าคู่แข่ง

มีการถกเถียงเกี่ยวกับเวลาหน้าจอแบบไม่รู้จบในบ้านของฉันและฉันคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นในทุก ๆ ที่เช่นกัน ฟีเจอร์การจัดการเวลาใน Qustodio สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว ฉันสามารถตั้งค่าได้ทั้งตารางเวลารายวันและขีดจำกัดรายวันบนอุปกรณ์ของลูก ๆ ของฉัน ไม่เพียงแค่นั้น แต่เนื่องจากฉันสามารถมอบหมายแท็บเล็ตและโทรศัพท์ให้กับลูกหนึ่งคนได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถใช่ระยะเวลาหน้าจอบนโทรศัพท์และจากนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นแท็บเล็ตได้

การตรวจสอบเวลาที่ใช้บนแอปและเกมป็นอีกจุดหนึ่งที่ Qustodio ทำได้ดีมาก ๆ ฉันสามารถกำหนดขีดจำกัดเวลาสำหรับแต่ละแอปและปิดกั้นแอปที่ฉันคิดว่าไม่เหมาะสมได้

นี่อาจจะเป็นแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองที่ฉันชื่นชอบสำหรับ Android แต่มันก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่ฉันพบคือฟีเจอร์ SOS ในความคิดเห็นของฉัน ฟีเจอร์นี้มีศักยภาพมากหากลูก ๆ ของฉันเกิดตกอยู่ในอันตราย พวกเขาสามารถคลิกที่ปุ่ม SOS และฉันจะได้รับข้อความเกี่ยวกับตำแหน่งของพวกเขาโดยทันที น่าเสียดายที่ฟีเจอร์นี้มีปัญหาเล็กน้อยและฉันก็ได้รับการแจ้งเตือนในแท็บโปรโมชั่นของอีเมลของฉัน

เพื่อให้มันทำงานได้ Qustodio ต้องการสิทธิ์ในการเข้าถึงระดับผู้ดูแลบนอุปกรณ์ Android ใด ๆ นี่อาจดูค่อนข้างน่ากลัวและหน้าคำเตือนสามหน้าที่คุณต้องคลิกผ่านก็ไม่ได้ทำให้อะไรง่ายขึ้นเลย อย่างไรก็ตามมันเป็นความต้องการมาตรฐานของแอปตรวจสอบพรีเมียมทั้งหมด หากไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงดังกล่าว Qustodio จะไม่สามารถทำงานในพื้นหลัง ปิดกั้นแอปหรือกำหนดขีดจำกัดเวลาได้

แอปจะทำงานในพื้นหลังของอุปกรณ์ของลูกคุณและในระหว่างการทดสอบ ลูก ๆ ของฉันบอกว่าพวกเขาไม่สังเกตเห็นว่าแบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็วกว่าตอนก่อนติดตั้งแอป

แผนให้บริการของ Qustodio ทั้งหมดมาพร้อมกับฟีเจอร์ดี ๆ เดียวกัน ความแตกต่างเดียวคือจำนวนของอุปกรณ์ที่คุณต้องการป้องกัน มันมาพร้อมกับการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันซึ่งฉันทดสอบแล้วโดยการส่งคำขอคืนเงินหลังจากที่ใช้งานเป็นระยะเวลา 22 วัน Qustodio ไม่ถามคำถามและคืนเงินให้ฉันเต็มจำนวนหลัง 3 วัน

ลองใช้ Qustodio ฟรี!

2. Bark – เหมาะสำหรับการตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียมากที่สุด

ฟีเจอร์หลัก:

ฉันพบว่า Bark แตกต่างจากโปรแกรมแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองส่วนใหญ่ที่ฉันทดสอบนิดหน่อย มันมุ่งเน้นในด้านการตรวจสอบเครือข่ายโซเชียลมีเดียและสามารถเข้าถึงข้อความ โพสต์และรู้จักคำต่าง ๆ อย่างแสลงที่เกี่ยวข้องการการกลั่นแกล้ง คำหยาบคาย แอลกอฮอล์ ยาและอาวุธในแอปโซเชียลมีเดียยอดนิยมมากกว่า 25 แอป

Bark จะถ่ายรูปอะไรก็ตามที่เรียกใช้การแจ้งเตือนและส่งอีเมลหรือ SMS (ตามที่คุณเลือกไว้) ไปยังบัญชีสำหรับผู้ปกครอง นอกจากนี้คุณยังสามารถดูการแจ้งเตือนได้ในแดชบอร์ดสำหรับผู้ปกครองอีกด้วย

แตกต่างจากแอปควบคุมสำหรับผู้ปกครองอื่น ๆ ที่ตรวจสอบกิจกรรมโซเชียลมีเดียบางกิจกรรมเท่านั้น Bark เชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียและอีเมลของลูก ๆ ของคุณในระดับบัญชี นี่หมายความว่าคุณจะสามารถดูว่าพวกเขากำลังโพสต์อะไรและพูดคุยกับใครได้แม้ว่าพวกเขาจะใช้โทรศัพท์เครื่องที่สองหรือลงชื่อเข้าใช้จากอุปกรณ์เพื่อน

ตัวกรองเว็บไซต์เป็นการอัปเดตเมื่อไม่นานมานี้ใน Bark และมันทำงานได้ดีมาก ๆ มันมี 17 หมวดหมู่และคุณสามารถเลือกหมวดมหู่ที่คุณต้องการเปิดใช้งานและป้องกันลูก ๆ ของคุณไม่ให้ดูเนื้อหาประเภทต่าง ๆ ได้ มันสามารถจดจำคำสแลง อีโมจิและรูปภาพและทีมงานเบื้องหลัง Bark รู้ว่าต้องปิดกั้นอะไรหรือส่งคำเตือนผู้ปกครองเมื่อมันปรากฏขึ้นได้

ฟังก์ชันเวลาหน้าจออนุญาตให้ฉันปิดอินเทอร์เน็ตบนอุปกรณ์ในตอนกลางคืนได้ ดังนั้นฉันจึงรู้ว่าเด็ก ๆ ของฉันกำลังรับชม Netflix หรือส่งข้อความหาเพื่อน ๆ ตอนที่พวกเขาควรจะนอน นอกจากนี้มันยังมีฟีเจอร์ล็อกทันที ดังนั้นฉันจึงสามารถปิดกั้นตอนที่ฉันต้องการให้พวกเขาสนใจในสิ่งอื่น ๆ นอกเหนือจากหน้าจอ

ฉันใช้แผนให้บริการ Bark Sr เพราะมันรวมฟีเจอร์พรีเมียมทั้งหมดและมีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วัน แม้ว่าระยะเวลานี้จะน้อยกว่าที่แอปอื่น ๆ เสนอ แต่ฉันก็มีความสุขกับระยะเวลาทดลองใช้งานเนื่องจากฉันสามารถทดสอบได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตของฉัน

ตรวจสอบการออนไลน์ของลูกคุณด้วย Bark!

3. Mobicip – ตัวกรองเว็บไซต์แบบกำหนดเอง เครื่องมือจำกัดเวลาหน้าจอและฟีเจอร์การใช้งานแอป

ฟีเจอร์หลัก:

ฉันดาวน์โหลดแอป Mobicip ลงบนโทรศัพท์ Android ของลูกชายฉันและประทับใจกับความง่ายในการตั้งค่าการควบคุมของผู้ปกครองอย่างรวดเร็ว แอปมีฟีเจอร์ที่ได้รับการกำหนดค่าล่วงหน้ามากมายโดยอ้างอิงตามอายุของเด็กซึ่งทำให้การสร้างตัวกรองเว็บไซต์ ตั้งค่าตารางเวลาและการใช้งานรายวันโดยรวมเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าฉันสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเริ่มต้นเป็นการตั้งค่าให้เหมาะสำหรับตารางและนิสัยการท่องเว็บของลูกชายฉันได้ นอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับตัวเลือกล็อกอุปกรณ์ทั้งหมดซึ่งมีประโยชน์ตอนที่ฉันต้องการให้ลูกชายของฉันเลิกเล่นโทรศัพท์แม้ว่าปฏิทินจะไม่ได้ล็อกอยู่ก็ตาม

หลังจากที่ดาวน์โหลดแอปผ่าน Play Store ฉันสามารถควบคุมทุกอย่างจากระยะไกลได้จากแดชบอร์ดสำหรับผู้ปกครอง Mobicip สามารถเชื่อมต่อกับ Facebook, Instagram และ Snapchat ได้ ดังนั้นฉันจึงสามารถติดตามการโต้ตอบทางโซเชียลมีเดียของลูกชายของฉันได้ในที่เดียว

หลังจากที่ข้อบังคับและขีดจำกัดมีผลบังคับใช้ สิ่งที่ฉันต้องทำคือตรวจสอบแดชบอร์ดเพื่อดูไทม์ไลน์กิจกรรมและสรุปของแอปที่เขากำลังใช้งานอยู่ เว็บไซต์ที่เขาเยี่ยมชม วิดีโอที่เขารับชมและอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนการแจ้งเตือนที่บอกให้ฉันทราบว่าลูกชายของฉันกำลังพยายามเข้าถึงเว็บไซต์หรือแอปที่ถูกปิดกั้นหรือไม่

Mobicip มีฟีเจอร์ติดตามตำแหน่งที่เชื่อมต่อกับ GPS ของโทรศัพท์ มันแสดงให้ฉันเห็นการอัปเดตตามเวลาจริงบนแผนที่ ดังนั้นฉันจึงสามารถดูตำแหน่งที่แน่ชัดว่าเขาอยู่ที่ไหนได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกรั้วทางภูมิศาสตร์ซึ่งจะแจ้งเตือนฉันตอนที่เขาเข้าถึงหรือออกจากพื้นที่ที่เฉพาะเจาะจง ฉันพบว่าสิ่งนี้มีประโยชน์สำหรับการตรวจสอบให้มั่นใจว่าเขาไปโรงเรียนทันเวลาหรืออยู่ที่บ้านเพื่อนของเขาจริง ๆ

หลังจากตรวจสอบวิธีการที่ลูกชายฉันใช้โทรศัพท์ของเขามาเป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ฉันก็สามารถดำเนินการปรับแต่งตัวกรองและตารางเวลาซึ่งรวมถึงการเพิ่มเวลาว่างสำหรับแอปเพื่อความบันเทิงในวันต่าง ๆ ตอนที่เขามีเวลาว่างมากขึ้นได้

Mobicip มีแผนสมัครสมาชิกสามแผน ได้แก่ Basic, Standard และ Premium แผนให้บริการ Basic เปิดให้บริการฟรี แต่อนุญาตให้คุณจัดการอุปกรณ์ได้เพียงอุปกรณ์เดียวเท่านั้น ปิดกั้นเว็บไซต์และล็อกอุปกรณ์จากระยะไกล แผนให้บริการ Standard และ Premium มีฟีเจอร์ตามที่ระบุข้างต้นและอนุญาตให้ใ 20 อุปกรณ์ในใบรับรองใบเดียว ทั้งสองแผนให้บริการมาพร้อมกับเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันและฉันไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตของฉันเพื่อเปิดใช้งานช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรี ฉันได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงฟีเจอร์พรีเมียมทั้งหมดในระหว่างช่วงระยะเวลาทดลองใช้งานฟรี ดังนั้นฉันจึงสามารถทดสอบและดูว่ามันเหมาะกับครอบครัวของฉันหรือไม่ได้

ทดลองใช้ Mobicip ฟรีเป็นระยะเวลา 7 วัน!

4. Norton Family – ตัวกรองเว็บไซต์ที่ขับเคลื่อนโดย AI และเครื่องมือเวลาใช้งานหน้าจอแบบกำหนดเอง

ฟีเจอร์หลัก:

ฉันมีความสุขกับการทำงานของ Norton Family ในขณะที่ฉันทดสอบมันกับลูก ๆ ของฉัน ฉันกำหนดขีดจำกัดระยะเวลาที่พวกเขาสามารถใช้กับโทรศัพท์ของพวกเขาต่อวัน ปิดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมและติดตามตำแหน่งของพวกเขาในเวลาจริงได้ ดังนั้นฉันรู้แน่ชัดว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน (ใช้งานได้เฉพาะในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์)

แดชบอร์ดเป็นศูนย์ควบคุมแอป ฉันสามารถลงชื่อเข้าใช้จากทุกอุปกรณ์ใและดูข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับกิจกรรมออนไลน์ของลูก ๆ ของฉัน ฉันยังสามารถปรับแต่งตัวกรองเว็บ ขีดจำกัดเวลาใช้งานหน้าจอ ตรวจสอบตำแหน่งของพวกเขาตามเวลาจริงและดูว่าพวกเขาค้นหาอะไรเป็นส่วนใหญ่ในเครื่องมือค้นหา

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นฟีเจอร์หนึ่งคือตัวเลือก School Time มันเหมาะสำหรับการเรียนรู้จากระยะไกลหรือแม้กระทั่งเวลาทำการบ้าน คุณสามารถสร้างรายการเว็บไซต์ที่ลูกของคุณต้องใช้สำหรับโรงเรียนหรือทำการบ้านและปิดกั้นเว็บไซต์อื่น ๆ ได้ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าลูก ๆ ของคุณจะไม่นั่งดู YouTube หรือเล่น TikTok แทนที่จะทำงานของตน

คุณสามารถลองใช้ Norton Family ด้วยตัวคุณเองได้ – มันปราศจากความเสี่ยง 100% ไปที่หน้าทางการลับและ Norton Family จะมอบระยะเวลาทดลองใช้งานฟีเจอร์แบบเต็มให้กับคุณ (ไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลการชำระเงิน) เมื่อสิ้นสุดระยะเวลา 30 วัน หากคุณไม่ต้องการใช้งาน Norton Family ต่อไป คุณก็สามารถหยุดใช้งานมันได้เลย ไม่ต้องพูดคุยกับตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าเพื่ออธิบายถึงเหตุผลที่คุณไม่พึงพอใจและหวังว่าจะได้รับเงินคืน บัญชีของคุณจะกลายเป็นบัญชีฟรีที่มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ขั้นสูงโดยอัตโนมัติ

ลองใช้ Norton Family ฟรี 30 วัน!

5. mSpy: ถ่ายรูปภาพหน้าจอเพื่อตรวจสอบทุกกิจกรรมบน Android

ฟีเจอร์หลัก:

mSpy สำหรับ Android เป็นเครื่องมือตรวจสอบที่ทรงพลังที่มอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกิจกรรมบนสมาร์ทโฟนที่ครบครัน เราได้มีโอกาสในการทดสอบฟีเจอร์และฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ของ mSpy และบริการดังกล่าวก็ทำให้เราประทับใจถึงความง่ายในการตรวจสอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นบน Android ได้ และเราไม่จำเป็นต้องรูทโทรศัพท์เลย

mSpy มี Screenrecorder ที่จะบันทึกรูปภาพหน้าจอภายในช่วงเวลาที่กำหนดและทุกครั้งที่มีการเปิดเว็บไซต์หรือแอปใหม่ จากนั้นระบบจะอัปโหลดรูปภาพหน้าจอไปยังแดชบอร์ดควบคู่กับแอปและช่วงเวลาที่เปิด ดังนั้นเราจึงสามารถดูได้ว่าเด็ก ๆ กำลังมองหาอะไร พูดคุยกับใครและอ่านบทสนทนาทั้งหมดได้

มันยังมาพร้อมกับคีย์ล็อกเกอร์ที่บันทึกทุกอย่างที่พิมพ์บนโทรศัพท์ ซึ่งรวมถึงข้อความที่ถูกลบ ด้วยคีย์ล็อเกอร์เหล่านี้ เราจะสามารถดูประวัติการค้นหา ประวัติเบราว์เซอร์ ข้อความขาออก ความคิดเห็นและอื่น ๆ อีกมากมาย ระบบยังอัปโหลดข้อมูลนี้ไปยังแดชบอร์ดพร้อมกับบอกถึงแอปและช่วงเวลาที่ใช้งานด้วย mSpy ยังตรวจสอบเครือข่ายโซเชียลมีเดียชั้นนำโดยการถ่ายรูปภาพหน้าจอเพิ่มเติม ซึ่งช่วยให้เราดูสคริปต์แชททั้งหมดหรือความคิดเห็นได้อย่างง่ายดาย และไม่ได้ดูได้เพียงฝั่งของลูกของเราเท่านั้น

หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ mSpy คือฟังก์ชันการปิดกั้นแอป ซึ่งช่วยให้เราปิดกั้นแอปที่เฉพาะเจาะจงบนอุปกรณ์ Android ของเด็ก ๆ ได้ เราพบว่าฟีเจอร์นี้มีประโยชน์ในการปิดกั้นการดูเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือการใช้แอปที่มากเกินไป

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงคือเครื่องมือติดตามคีย์เวิร์ด ซึ่งให้ผู้ใช้เพิ่มคำที่เฉพาะเจาะจงที่พวกเขาต้องการรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการพิมพ์คำนั้น ๆ บนโทรศัพท์ สิ่งนี้ช่วยให้สามารถติดตามการสนทนาหรือกิจกรรมที่อาจมีความละเอียดอ่อนหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องที่น่าเป็นห่วงได้

แม้ว่าจะไม่มีเวอร์ชันฟรีหรือการรับประกันยินดีคืนเงิน แต่ mSpy ก็มีส่วนลด 30% สำหรับแผนสมาชิกทั้งหมด 3 แผน ใช้ส่วนลดนี้ในแผนสมาชิกแบบรายเดือนและดูว่า mSpy เป็นแอปควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก ๆ ที่ดีที่สุดที่ตอบโจทย์ของคุณได้หรือไม่

ประหยัดเงิน 30% สำหรับ mSpy

Google Family Link หายไปไหน?

แม้ว่าจะเป็นโปรแกรมที่เป็นที่นิยม แต่ Family Link ทำงานได้ไม่ดีนัก ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถรวมมันในรายการนี้ได้ ลูกชายวัย 12 ปีของฉันใช้เวลาในการค้นหาวิธีใช้โทรศัพท์ของเขาตอนที่มันสมควรจะถูกปิดล็อกเอาไว้ได้ภายในเวลาไม่นานนัก ปัญหาหลักอื่น ๆ เกี่ยวกับ Family Link คือมันไม่มีตัวกรองเว็บไซต์หรือฟีเจอร์การตรวจสอบที่แท้จริง

ในตอนแรกฉันชอบที่มันไม่เพียงแต่แสดงระยะเวลาที่ลูกของฉันใช้ไปกับโทรศัพท์ของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังชอบการจัดกลุ่มตามแอปด้วย ถึงอย่างนั้นฉันก็เห็นว่ามันไม่ได้แม่นยำเสมอไป (หรือแม้กระทั่งปิดในบางกรณี) และแม้ว่ามันจะบอกฉันว่าหนึ่งในลูก ๆ ของฉันใช้เวลา 3 ชั่วโมงไปกับ YouTube แต่ก็ไม่มีการแสดงว่าเธอกำลังรับชมอะไรหรือค้นหาอะไรอยู่เลย ฉันคิดว่าเนื่องจากทั้ง YouTube และ Family Link เป็นสินค้าของ Google ดังนั้นพวกเขาจึงมอบข้อมูลนี้รวมมาให้ด้วย

ฉันทดสอบและจัดอันดับแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองบน Android อย่างไร

มันเป็นกระบวนการอันยาวนานที่ฉันทดสอบแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองมากกว่า 50 แอปและทดสอบมันกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Android ของลูกฉัน

• ลูก ๆ ของฉันสามารถหลีกเลี่ยงตัวกรองเหล่านี้ได้: ฉันท้าทายให้เด็ก ๆ ค้นหาวิธีแฮกหรือทำอย่างไรก็ได้เพื่อหลีกเลี่ยงตัวกรอง หากพวกเขาทำสำเร็จ ฉันจะลองปิดกั้นการแฮกของพวกเขาดู ตัวอย่างเช่น โปรแกรมมากมายไม่สามารถตรวจจับแอป Android ได้ แต่มีฟีเจอร์ที่ให้ฉันปิดกั้นแอปได้ โปรแกรมที่ไม่มีวิธีในการปิดกั้นการแฮกของเด็ก ๆ จะไม่ได้รวมอยู่ในรายการนี้
• เครื่องมือจัดการเวลา: การเสพติดเวลาใช้งานหน้าจอเป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้นการค้นหาโซลูชันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ อีกครั้งที่ฉันท้าทายให้ลูก ๆ ใช้โทรศัพท์หรือแอปตอนที่มันควรจะถูกปิดกั้นและหากพวกเขาทำได้ – ฉันจะไม่รวมแอปดังกล่าวเข้ามาในรายการนี้
• ความง่ายในการใช้งาน: การตรวจสอบอุปกรณ์ Android ของเด็ก ๆ ไม่ควรเป็นเรื่องยาก ตั้งแต่การดาวน์โหลดไปจนถึงการตั้งค่าขีดจำกัด ฉันต้องการทำให้แน่ใจว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญ Android ในการใช้งาน ดังนั้นโปรแกรมใดก็ตามที่ต้องการรูท Android จะถูกกำจัดออกไปจากการรายการนี้ทันที
• ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า: ฉันทดสอบทีมสนับสนุนลูกค้าด้วย ฉันใช้ฟีเจอร์แชทออนไลน์ (ถ้ามี) และตรวจสอบดูว่าพวกเขาเป็นคนจริง ๆ หรือบอท ฉันเปิดตั๋วและส่งอีเมลไปเพื่อทดสอบระยะเวลาการตอบกลับและฉันทดสอบนโยบายการรับประกันยินดีคืนเงินเสมอเพื่อดูว่าพวกเขาทำได้จริงและคืนเงินให้กับฉัน

คำถามที่พบบ่อย

สรุป

มันเป็นเรื่องยากสำหรับเราในฐานะผู้ปกครองที่จะคอยไล่ตามให้ทันเด็ก ๆ อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเล่นโทรศัพท์และแท็บเล็ต แอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองนั้นควรเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือการเป็นผู้ปกครองที่สำคัญ จากการทดสอบมากมายของฉัน Qustodio เป็นตัวเลือกทีดีที่สุด

ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์นี้เพื่อใช้ประโยชน์จากการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน