5 แอปควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรีบน PC, iOS และ Android 2024

หลังจากใช้แอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองพรีเมียมมากมายมาหลายปี ฉันก็อยากเห็นว่าฉันสามารประหยัดเงินและใช้ฟีเจอร์ที่คล้ายกันในแอปฟรีได้ไหม ใช้เวลาไม่นานก่อนที่ฉันจะได้พบกับคำตอบที่ชัดเจน – แอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรีส่วนใหญ่ไม่คุ้มแก่เวลาการติดตั้งและตั้งค่า

แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากที่ทดสอบแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรีมากกว่า 30 แอป ฉันก็พบ 5 แอปที่ฉันสามารถใช้งานกับลูก ๆ ของฉันได้ ท่ามกลางแอปทั้งหมดนี้ Qustodio เป็นแอปที่ดีที่สุด เห็นได้ชัดเลยว่าเวอร์ชันฟรีนั้นไม่ได้แข็งแกร่งมากเท่ากับตัวเลือกพรีเมียม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีตัวกรองเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพและเครื่องมือการจัดการเวลาหน้าจอ

หากคุณต้องการสิทธิ์ในการเข้าถึงการติดตามตำแหน่งตามเวลาจริง การจัดการแอปและเกมและการตรวจสอบโซเชียลมีเดีย คุณสามารถลองใช้ Qustodio เวอร์ชันพรีเมียมฟรี 30 วันได้ – โดยไม่ต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิต หากหลังจากลองใช้งาน 30 วันดูแล้วคุณเห็นว่าฟีเจอร์พรีเมียมนั้นไม่จำเป็น คุณก็ไม่ต้องสั่งซื้อแผนให้บริการแบบพรีเมียม ระบบจะลดระดับบัญชีของคุณให้เป็นเวอร์ชันฟรีโดยอัตโนมัติ

ลอง Qustodio ฟรีเป็นระยะเวลา 30 วัน!

ไม่มีเวลาอ่านใช่ไหม? นี่คือแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรีที่ดีที่สุด – ทดสอบแล้วใน 2024

1. Qustodio – แอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดสำหรับเครื่องมือกำหนดเวลาใช้งานหน้าจอมากมาย ตัวกรองเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพและการติดตามในเวลาจริง

เมื่อพูดถึงการตรวจสอบลูก ๆ ของฉันบนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือ Qustodio เป็นแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรีที่ดีที่สุดที่ฉันเคยทดสอบ สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นก็คือฉันสามารถกำหนดกฎ สร้างตารางสำหรับตอนที่ลูก ๆ ของฉันสามารถใช้งานได้ ขีดจำกัดเวลสำหรับแอปและกำหนดตัวกรองเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ฉันก็ติดตั้ง Qustodio ลงบนโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของลูกฉันและมันก็จะทำงานในพื้นหลัง

Qustodio มีแดชบอร์ดบนคลาวด์ที่ได้รับการจัดเรียงมาเป็นอย่างดีซึ่งฉันสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ นี่คือที่ที่ฉันสามารถดูข้อมูลที่สำคัญทั้งหมดที่มันเก็บรวบรวมมาได้ ล็อกอุปกรณ์ทั้งหมดได้ทุกเวลา ดำเนินการเปลี่ยนแปลงตัวกรองเว็บไซต์และตรวจสอบตำแหน่งในเวลาจริงของพวกเขา

หนึ่งในฟีเจอร์โปรดของฉันคือความสามารถในการสร้างกฎสำหรับทุกแอปและเกมบนมือถือ ด้วยวิธีนี้ ฉันจึงสามารถกำหนดระยะเวลาที่ลูก ๆ ของฉันใช้กับ Netflix, Instagram และ YouTube ได้ในขณะเดียวกันก็มอบเวลาสำหรับการใช้แอปเพื่อการศึกษาหรือแม้กระทั่งแอปแชทที่โปรดปรานของพวกเขามากขึ้นได้

Qustodio มาพร้อมกับเครื่องมือในการกำหนดเวลาใช้งานหน้าจอสองเครื่องมือซึ่งฉันพบว่ามีประโยชน์อย่างมากในการสร้างตารางสำหรับเด็ก ๆ เครื่องมือแรกจะอนุญาตให้คุณกำหนดการใช้งานรายวันได้ เช่น คุณสามารถอนุญาตให้ใช้งานได้สองชั่วโมงต่อวันและหกชั่วโมงในวันหยุดสุดสัปดาห์ จากนั้นคุณก็สามารถกำหนดตารางเวลาเพื่อปิดกั้นโทรศัพท์ในหนึ่งวันได้ เช่น ในระหว่างไปโรงเรียน เวลาทำการบ้านและหลังเวลานอน

ตัวกรองเว็บไซต์มี 40 หมวดหมู่ซึ่งอนุญาตให้ฉันปรับแต่งประเภทของเว็บไซต์ที่ลูก ๆ แต่ละคนของฉันได้รับอนุญาตให้เยี่ยมชม ฉันขอให้ลูก ๆ ของฉันลองหาวิธีแฮกเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัด เช่น ลองใช้โหมดไม่ระบุตัวตนหรือพยายามดาวน์โหลดเบราว์เซอร์อื่น ๆ แต่แอปนี้แตกต่างจากแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองอื่น ๆ ลูก ๆ ของฉันไม่พบจุดอ่อนในแอปนี้เลย

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของ Qustodio คือเวอร์ชันฟรีนั้นมีข้อจำกัด มันสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์เพียงอุปกรณ์เดียวเท่านั้นและมีฟีเจอร์ที่จำกัด คุณสามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเหล่านี้ได้ถ้าคุณใช้ประโยชน์จากการรับประกันยินดีคืนเงินแบบไม่ต้องตอบคำถาม 30 วันที่จะเปิดสิทธิ์ในการเข้าถึงอย่างเต็มรูปแบบและให้คุณได้ทดสอบ Qustodio ด้วยตัวเองโดยไม่มีความเสี่ยง ช่วงเวลารับประกันนี้มากพอให้คุณได้สำรวจข้อมูลและดูว่าลูก ๆ ของคุณใช้โทรศัพท์กันอย่างไรและหากมีเรื่องอะไรที่คุณต้องกังวลหรือไม่

2. Bark – ตรวจสอบเครือข่ายโซเชียลมีเดียได้มากกว่า 30 รายการและไม่มีขีดจำกัดจำนวนอุปกรณ์

Bark เชี่ยวชาญการตรวจสอบเครือข่ายโซเชียลมีเดีย อีเมลและ SMS เพื่อมองหาเนื้อหาที่เป็นอันตราย มันมีอัลกอริธึมที่สามารถจดจำคีย์เวิร์ดและวลีที่เกี่ยวข้องกับการแกล้งกันทางออนไลน์ ความรุนแรง การทำร้ายตัวเอง ยา แอลกอฮอล์และเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์ Bark เชื่อมต่อกับบัญชีโซเชียลมีเดียโดยตรง ดังนั้นคุณจึงจะได้รับการแจ้งเตือนแม้ว่าพวกเขาจะใช้โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ของเพื่อนเพื่อตรวจสอบบัญชีของตนเอง

ฟีเจอร์การจัดการเวลาใช้งานหน้าจอนั้นค่อนข้างพื้นฐาน ตัวเลือกเดียวก็คือการสร้างปฏิทินและการตั้งกฎสำหรับเวลานอน โรงเรียนและเวลาว่าง สามารถปรับแต่งประเภทของเว็บไซต์และแอปที่พร้อมให้บริการในช่วงระยะเวลาดังกล่าวในแต่ละส่วนได้ ฉันอยากให้ขีดจำกัดเวลาหน้าจอรายวันนั้นทำงานควบคู่ไปกับปฏิทินได้เพื่อที่ลูก ๆ ของฉันจึงรู้สึกว่าวัน ๆ หนึ่งนั้นไม่ได้เคร่งเครียดนัก ปุ่ม Pause Internet ยังอนุญาตให้ฉันปิดกั้นอินเทอร์เน็ตได้ทุกเวลาจากแดชบอร์ดด้วย

ตัวกรองเว็บไซต์แบบกำหนดเองใช้ AI ขั้นสูงเพื่อตรวจจับเนื้อหาที่เป็นอันตรายใน 17 หมวดหมู่ นอกจากการปิดกั้นเว็บไซต์บนเบราว์เซอร์แล้ว ตัวกรองยังทำงานในแอป อีเมลและโซเชียลมีเดียได้อีกด้วย จุดมุ่งหมายหลักของตัวกรองคือปัญหาสุขภาพของเด็ก เช่น ความกังวล การทำร้ายตัวเอง ภาวะซึมเศร้าและการแกล้งกัน นอกจากนี้ตัวกรองยังปิดกั้นเนื้อหาทางเพศที่โจ่งแจ้งและคำพูดแสดงความเกลียดชังด้วย

สิ่งหนึ่งที่ฉันคิดว่า Bark ต้องปรับปรุงคือการติดตามตำแหน่ง แม้ว่าแอปจะมีสิทธิ์ในการเข้าถึง GPS ของโทรศัพท์ แต่ฉันไม่สามารถดูตำแหน่งเมื่อฉันต้องการได้ แต่ฉันจะต้องส่งคำขอเช็กอินและเฉพาะเมื่อลูกของฉันกดที่ปุ่มเช็กอินเท่านั้น ฉันจึงจะได้รับการอัปเดตว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ฉันพบว่ามันน่าสนใจที่มีตัวเลือกในการกั้นรั้วทางภูมิศาสตร์ซึ่งส่งการแจ้งเตือนตามเวลาจริงเมื่อเด็ก ๆ เข้าถึงหรืออกจากตำแหน่งที่ตั้งค่าเอาไว้ล่วงหน้า

Bark ไม่มีแผนให้บริการฟรี แต่คุณสามารถทดสอบมันด้วยตัวคุณเองด้วยเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันได้ ฉันไม่ต้องใช้บัตรเครดิตเพื่อเปิดใช้งานเวอร์ชันทดลอง หลังจาก 7 วัน ฉันก็ได้ความคิดที่มากพอเกี่ยวกับระยะเวลาที่ลูกของฉันใช้ออนไลน์และฉันควรกังวลอะไรเกี่ยวกับคนที่พวกเขาติดต่อด้วยบนโซเชียลมีเดียหรือไม่

3. Mobicip – ตัวกรองเว็บไซต์มี 18 หมวดหมู่และรายการยกเว้น

Mobicip พร้อมให้ใช้งานได้ทันทีที่คุณติดตั้งมันลงบนโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ของลูกคุณ มันมีตารางเวลาการใช้งานหน้าจอโดยค่าเริ่มต้นและตัวกรองเว็บไซต์อ้างอิงตามอายุของเด็ก แน่นอนว่าคุณจะได้รับตัวเลือกในการปรับแต่งเครื่องมือเหล่านี้ได้หากคุณไม่คิดว่ามันเหมาะกับครอบครัวของคุณ

ฟีเจอร์ปฏิทินแบ่งออกเป็นวัน ๆ หนึ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ (โรงเรียน การบ้าน เวลาว่างและเวลานอน) และคุณสามารถเลือกประเภทของเว็บไซต์และแอปที่สามารถเข้าถึงในเวลาเหล่านั้นได้ ฉันชอบตัวเลือก Vacation Mode ซึ่งให้ฉันปิดใช้งานตารางเวลาชั่วคราวในระหว่างพักร้อนและตั้งวันที่ข้อจำกัดจะมีผลบังคับอีกครั้งได้

Mobicip มีตัวกรองเว็บไซต์ที่มาพร้อมกับหมวดหมู่ต่าง ๆ 18 หมวดหมู่ เช่น เพศสัมพันธ์ ยา การแกล้งกัน การเมือง การเล่นเกมและอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการเพิ่มเว็บไซต์ไปยังรายการยกเว้นได้ด้วยเพื่อให้คุณควบคุมเว็บไซต์ที่ลูกของคุณสามารถหรือไม่สามารถเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่นแม้ว่าฉันจะไม่ต้องการให้ลูกของฉันเข้าถึงเว็บไซต์เล่นเกมส่วนใหญ่ แต่ฉันโอเคกับ Roblox ดังนั้นฉันจึงปิดกั้นหมวดหมู่การเล่นเกม แต่เพิ่ม Roblox ในรายการยกเว้น

Mobicip มีฟีเจอร์ตรวจสอบโซเชียลมีเดียที่ดีซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาน Facebook, Snapchat, Instagram และ YouTube ของลูกคุณ ฉันต้องเชื่อมต่อกับบัญชี Mobicip และจากนั้นฉันก็จะได้รับการอัปเดตเกี่ยวกับสิ่งที่เขากำลังโพสต์ คนที่เขาติดต่อด้วยและกิจกรรมอื่น ๆ มันสแกนบัญชีเพื่อมองหารูปและคีย์เวิร์ดที่เรียกใช้ฟีเจอร์ที่อ่อนไหวโดยมีหัวข้อต่าง ๆ เช่น การแกล้งกัน ความรุนแรงและการทำร้ายตัวเอง

Mobicip แบ่งแอปออกเป็นสามหมวดหมู่ โซเชียลมีเดีย ความบันเทิงและเกม คุณสามารถตั้งข้อจำกัดและขีดจำกัดเวลาในหมวดหมู่ของแอปทั้งหมดหรือแอปที่เฉพาะเจาะจงได้

ฉันชอบการติดตามตำแหน่งตามเวลาจริงซึ่งเชื่อมต่อกับ GPS ของโทรศัพท์ เมื่อฉันเปิดแดชบอร์ดสำหรับผู้ปกครอง มันจะแสดงอวาตาร์ของลูกฉันบนแผนที่ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกการกั้นรั้วทางภูมิศาสตร์ด้วย ดังนั้นฉันจึงสามารถรับการแจ้งเตือนได้เมื่อพวกเขามาถึงหรือไปยังตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง เช่น โรงเรียนหรือห้างสรรพสินค้า

น่าเสียดายที่ Mobicip ไม่มีแผนให้บริการฟรีระยะยาวอีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็สามารถรับเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันโดยไม่ต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตของคุณได้ ฉันพบว่านี่เป็นโซลูชันระยะสั้นที่ดี ฉันติดตั้งแอปและก็มีเวลา 7 วันในรับข้อมูลที่สำคัญ ฉันสามารถดูได้ว่ามีพื้นที่ใดที่ฉันต้องกังวลหรือไม่และได้รับข้อมูลเชิงลึกว่าลูกของฉันใช้โทรศัพท์ของเขาอย่างไร

4. KidLogger – แอปโอเพ่นซอร์สฟรีที่จะตรวจจับการใช้งานอุปกรณ์สำหรับ Windows, Mac และ Android

ฉันไม่มั่นใจว่าฉันจะได้รับอะไรบ้างตอนที่ดาวน์โหลด KidLogger ซึ่งเป็นแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองแบบโอเพ่นซอร์ส ฉันใช้มันบนโทรศัพท์ Android และคอมพิวเตอร์ Windows ของลูกสาวฉันเป็นหลักและฉันก็ประหลาดใจที่ได้เห็นว่ามันไม่มีตัวกรองเว็บไซต์ แต่แอปมีรายงานโดยละเอียดเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ลูกสาวของฉันมักเข้าไปเยี่ยมชม คีย์เวิร์ดที่เธอพิมพ์บนเครื่องมือค้นหาและรายการแอปที่เธอใช้

ฉันดีใจที่ได้เห็นว่ามันมีตัวเลือกในการจำกัดระยะเวลาที่ใช้เล่นเกมหรือใช้แอปต่าง ๆ แม้ว่าฉันจะไม่สามารถกำหนดขีดระยะเวลาการใช้งานหน้าจอรายวันโดยรวมได้ แต่ KidLogger ก็มีตัวเลือกในการปิดกั้นแอปรวมมาให้

ฟีเจอร์หนึ่งที่ฉันไม่เคยเห็นในแอปฟรีอื่น ๆ ก็คือฟีเจอร์จับภาพหน้าจอ มันทำงานได้บน Windows และ Mac และสามารถถ่ายรูปภาพหน้าจอและรูปภาพด้วยเว็บแคมได้ตามช่วงระยะเวลาที่กำหนดหรือเมื่อใดก็ตามที่มีการใช้คำค้นหาที่กำหนด ด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณไม่ต้องทะเลาะหรือหลีกเลี่ยงการปฏิเสธได้ – ฉันมีหลักฐานรูปภาพในแดชบอร์ดสำหรับผู้ปกครอง

ฉันไม่ชอบที่ KidLogger มอบสิทธิ์ในการควบคุมโทรศัพท์ของลูกสาวของฉันน้อยมาก ๆ มันเป็นแอปสอดแนมมากกว่าแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง อย่างที่ฉันกล่าวไปข้างต้นว่ามันไม่มีตัวกรองเว็บไซต์และไม่มีทางที่จะกำหนดข้อจำกัดเวลาทั่วไปบนอุปกรณ์ได้

KidLogger เป็นแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองแบบโอเพ่นซอร์สแรกที่ฉันทดสอบและพูดกันตามตรงเลยว่ามันสอบผ่านความคาดหวังของฉัน แต่ถึงยังนั้นก็ยังควรได้รับการปรับปรุงเพิ่มก่อนที่ฉันจะใช้งานมันต่อไป แต่หากคุณกำลังมองหาแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรี แอปนี้ก็เป็นแอปที่ดีกว่าแอปฟรีอื่น ๆ ส่วนใหญ่

5. FamilyKeeper – การติดตั้งตำแหน่งตามเวลาจริงและการแจ้งเตือน

FamilyKeeper เป็นตัวอย่างบริษัทที่สมบูรณ์แบบที่ให้ผู้ใช้ได้ทดสอบฟีเจอร์ฟรีโดยหวังว่าคุณจะตัดสินใจอัปเกรดเป็นแพ็กเกจพรีเมียมแบบเสียเงิน

ฉันติดตั้งแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรีและแอปของลูกบนโทรศัพท์ของลูกสาวฉัน ผ่านแอปบนโทรศัพท์ของฉัน ฉันสามารถอัปเดตตามเวลาจริงเกี่ยวกับว่าลูกสาวของฉันอยู่ที่ไหนได้ตลอดเวลาผ่านฟังก์ชันการติดตาม GPS

มันใช้ AI ในการจดจำพฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายบนแอปโซเชียลมีเดียและแอปแชทพูดคุยและส่งการแจ้งเตือนตามเวลาจริงหากมันตรวจพบว่าเด็ก ๆ กำลังถูกกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ ค้นหาหรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมหรือใช้เวลาบนอุปกรณ์มากเกินไป อย่างไรก็ตามมันไม่มีตัวกรองเว็บไซต์หรือฟีเจอร์การป้องกันเวลาการใช้งานหน้าจอในแอปฟรี

ตารางการเปรียบเทียบแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024 แบบทีละรายการ

ความเสี่ยงในการใช้แอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรี: สิ่งที่ผู้ให้บริการอาจไม่ได้บอกคุณ

ไม่มีแอปใดที่เปิดให้บริการฟรีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องสร้างระบบที่มีอัลกอริทึมอันซับซ้อนและความสามารถที่จำเป็นในการตรวจสอบกิจกรรมออนไลน์บนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือ

ดังนั้นคุณควรตระหนักเมื่อคุณเห็นบริษัทที่เสนอแอปฟรีที่จะตรวจสอบกิจกรรมของลูกคุณ หลังจากที่ติดตั้งแอปลงบนอุปกรณ์และคุณยินยอมสิทธิ์ในการเข้าถึงทั้งหมด บริษัทจะมีสิทธิ์ในการเข้าถึงรูปภาพ รายชื่อผู้ติดต่อของลูกคุณ เว็บไซต์โซเชียลมีเดียที่พวกเขาใช้ ที่ที่พวกเขาไปและอื่น ๆ อีกมากมาย

เราลองมาตระหนักถึงความน่ากลัวของเรื่องนี้กันสักครู่ พวกเขาสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการส่งโฆษณาเป้าหมายให้กับลูกของคุณหรือขายข้อมูลเหล่านี้ให้กับพันธมิตรหรือนักการตลาดบุคคลที่สามได้ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญว่าทำไมการยอมจ่ายเงินเล็กน้อยต่อเดือนสำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทราบว่าจะไม่มีใครใช้ลูกของคุณเป็นผลิตภัณฑ์นั้นจึงมีความปลอดภัยมากกว่า

ความกลัวด้านความปลอดภัยที่มีต่อแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรี

ตัวอย่างเช่นสมมติว่าเรากำลังรับมือกับบริษัทที่ไม่ได้มีความสนใจเรื่องการสร้างเงินกำไร พวกเขามีอุดมการณ์ที่ดีและแค่อยากช่วยเหลือผู้ปกครอง ให้คุณลองถามคำถามนี้กับตัวเองดู – คุณจะยอมลงทุนเงินในผลิตภัณฑ์ที่คุณจะมอบให้คนอื่นฟรี ๆ หรือเปล่า? ผู้คนเหล่านี้เองก็เช่นกัน พวกเขาไม่ได้รักษาความปลอดภัยหรือเข้ารหัสเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองซึ่งนำไปสู่ศักยภาพในการเข้าถึงข้อมูลขนาดใหญ่ แฮกเกอร์ที่ต้องการขโมยข้อมูลนี้สามารถใช้มันเพื่อขโมยตัวตน ฉ้อโกง กลั่นแกล้งทางไซเบอร์ แบล็กเมลและอื่น ๆ ได้

นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ฉันไม่แนะนำให้ใช้แอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรี หากคุณมีงบที่จำกัดจริง ๆ แต่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการควบคุมโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของลูก ๆ คุณ – ให้ใช้ Qustodio และใช้ประโยชน์จากการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน ด้วยวิธีนี้ อย่างน้อยคุณก็จะได้ตัวอย่างเกี่ยวกับความถี่ที่ลูกของคุณใช้โทรศัพท์ แอปที่พวกเขาใช้ เว็บไซต์ที่เยี่ยมชมและสถานที่ที่พวกเขาไป คุณสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อสร้างแผนการกับลูกของคุณเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาปฏิบัติตัวอย่างชาญฉลาดและปลอดภัยทางออนไลน์

แอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรีที่คุณควรหลีกเลี่ยง – คำใบ้: มันเป็นแอปที่มีมาให้ในอุปกรณ์ส่วนใหญ่

มีแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรีมากมายที่มาจากบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง บริษัทเหล่านี้ได้ลงทุนในด้านความปลอดภัยและดูเหมือนจะมีฟีเจอร์ที่ดี ฉันกำลังพูดถึง Microsoft Family, Apple’s Screen Time และ Google Family Link โปรแกรมและแอปเหล่านี้ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทมากมายที่มีเทคโนโลยีบนอุปกรณ์และใคร ๆ ก็คิดว่าพวกเขาคงมีชุดฟีเจอร์ที่ครบครัน

น่าเสียดายที่ความจริงก็คือแอปเหล่านี้เป็นส่วนเสริมที่ดีสำหรับแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองพรีเมียม แต่ไม่ใช่แอปที่ทำงานได้ด้วยตัวเอง แม้ว่ามันอาจจะมีฟีเจอร์ที่ดีอยู่บ้าง แต่แอปทั้งหมดนี้ก็มีข้อผิดพลาดที่รุนแรง

1. Microsoft Family

• ไม่มีแอปสำหรับมือถือ
• เด็ก ๆ สามารถสร้างบัญชีผู้เยี่ยมชมและหลีกเลี่ยงข้อจำกัดใด ๆ ได้
• ตัวกรองเว็บไซต์ไม่มีประสิทธิภาพ

2. Google Family Link

• พร้อมให้บริการเฉพาะสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปีเท่านั้น
• เด็ก ๆ สามารถสร้างบัญชี Google ทางเลือกโดยใช้วันเกิดปลอมและหลีกเลี่ยงข้อจำกัดใด ๆ ได้
• ไม่มีตัวกรองในการปิดกั้นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

3. Apple’s Screen Time

• โดยการเปลี่ยนแปลงเขตเวลา เด็ก ๆ จะสามารถป้องกันฟีเจอร์ตารางเวลาไม่ให้ปิดกั้นโทรศัพท์ของตนเองได้
• เด็ก ๆ สามารถยกเลิกการติดตั้งและติดตั้งแอปใหม่อีกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเวลาสำหรับแอปที่เฉพาะเจาะจงได้
• Siri สามารถเอาชนะช่วงเวลาหยุดทำงานกละการเปิด iMessage

เหตุผลที่แอปเหล่านี้ไม่ดีนั้นง่ายมาก: ไม่มีเหตุผลดี ๆ ที่บริษัทเหล่านี้จะลงทุนในฟีเจอร์แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองที่แข็งแกร่ง แน่นอนว่ามันเป็นการตลาดที่ดีในการมีฟีเจอร์นี้และแสดงให้สาธารณชนได้เห็นว่าพวกเขาเอาใจใส่แค่ไหน แต่นั่นยังห่างไกลจากความกังวลหลักของพวกเขา ก็เหมือนกับฉันชอบกินแฮมเบอร์เกอร์จากร้านแฮมเบอร์เกอร์มากกว่าร้านพิซซ่า ฉันชอบแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองจากบริษัทที่มุ่งเน้นในเรื่องการป้องกันลูกของฉันจากอันตรายทางออนไลน์ เช่น Qustodio มากกว่า พวกเขายืนหนึ่งในเรื่องแนวโน้มทางออนไลน์ล่าสุดและเข้าใจสิ่งที่เด็ก ๆ ค้นหาหรือพยายามจะค้นหาบนโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของตนเอง

ฉันทดสอบและจัดอันดับแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024 อย่างไร

กระบวนการนี้ใช้เวลานานเนื่องจากฉันต้องตรวจสอบละดาวน์โหลดแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรีมากกว่า 30 แอปลงบนโทรศัพท์ของฉัน โทรศัพท์ของลูกฉันและคอมพิวเตอร์ที่บ้านของเรา บางแอปฉันก็รู้จักจากการทดสอบแอปพรีเมียม แอปอื่น ๆ ฉันก็พบทางออนไลน์และบางส่วนก็ได้รับคำแนะนำจากเพื่อน

ฉันติดตั้งแต่ละแอปลงบนอุปกรณ์เป็นระยะเวลานานสูงสุดถึงหนึ่งสัปดาห์เพื่อดูว่ามันเก็บข้อมูลอะไรบ้าง มีอินเทอร์เฟซผู้ใช้เป็นอย่างไรและลูก ๆ หรือฉันสามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเหล่านั้นได้หรือไม่ นี่คือปัจจัยบางส่วนที่ฉันใช้เพื่อสร้างรายการจัดอันดับนี้ขึ้น:

• มันฟรีจริง ๆ หรือเปล่า? ฉันต้องการแอปที่ใช้งานได้ฟรี 100% เท่านั้น – น่าเสียดายที่สำนวนเก่านั้นคือเรื่องจริง – คุณจะได้รับสิ่งที่คุณจ่ายเงินซื้อ ดังนั้นฉันจึงต้องขยายความกฎของตัวเองให้อนุญาตแอปบางแอปที่มีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรีหรือการรับประกันยินดีคืนเงิน – ซึ่งขอเงินคืนได้อย่างไม่ยากเย็น นี่ทำให้ Qustodio เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ฉันได้รับเงินคืนเต็มจำนวนหลังจากที่ใช้งานแอปเป็นระยะเวลา 28 วัน
• แอปดังกล่าวทำงานได้ตามที่โฆษณาเอาไว้ไหม? ก่อนทดสอบแอป ฉันได้ตรวจสอบเว็บไซต์และอ่านฟีเจอร์ที่มีมาให้โดยละเอียด หากฉันเห็นว่าพวกเขาโปรโมทในเรื่องของการตรวจสอบระยะเวลาใช้งานหน้าจอ แต่จริง ๆ แล้วมันถูกล็อกเอาไว้หลังจากการจ่ายเงินหลังจากที่ฉันติดตั้งแอป ฉันจะลบแอปดังกล่าวออกจากการพิจารณา
• แอปทำให้โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงหรือเปล่า? ฉันไม่ได้ต้องการทำโทษลูกของฉันโดยการติดตั้งแอปเหล่านี้ลงบนโทรศัพท์ของพวกเขา หากฉันเห็นว่าแอปใช้ทรัพยากรจำนวนมากและทำให้อุปกรณ์ทำงานช้าลง ฉันจะยกเลิกการติดตั้งอย่างรวดเร็วและได้รับการจัดให้เป็นแอปที่ไม่ดี แอปที่ดีจะทำงานในพื้นหลังและเด็ก ๆ ก็จะลืมมันไปเลยว่ามีมันอยู่บนอุปกรณ์
• นโยบายความเป็นส่วนตัวของแอปเป็นอย่างไร? นี่เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับฉันเนื่องจากแอปเหล่านี้สามารถเข้าถึงทุกอย่างที่ลูกของฉันกำลังทำทางออนไลน์ได้ ฉันต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอปไม่ได้ขายข้อมูลเหล่านี้ให้กับนักการตลาดหรือใช้พฤติกรรมของลูก ๆ ในการแสดงโฆษณาเป้าหมาย

คำถามที่พบบ่อย

สรุป

ไม่มีบริษัทใดที่มีคุณธรรมมากพอที่จะพัฒนาแอปแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองฟรีที่มาพร้อมกับฟีเจอร์พรีเมียมและไม่สามารถสร้างรายได้จากแอป นี่หมายความว่าคุณจะต้องระวังฟีเจอร์ที่ถูกปิดกั้นเอาไว้หลังการจ่ายเงิน สแกมแอดแวร์ ปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวหรืออันตรายหรือไฟล์ที่ไม่จำเป็นที่ถูกติดตั้งพร้อมกับแอปเหล่านี้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงชอบใช้ Qustodio แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นแอปฟรีตลอดชีพ แต่คุณสามารถใช้งานมันโดยไม่มีความเสี่ยงได้เป็นระยะเวลา 30 วันและดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกของคุณกำลังทำทางออนไลน์ ค้นหาและแก้ไขปัญหาใด ๆ ที่พวกเขาอาจเผชิญอยู่ได้อย่างรวดเร็ว