7 แอนตี้ไวรัส Windows ปี 2024 – ป้องกัน PC อย่างครบครัน
ความยอดนิยมของ Windows ทำให้มันตกเป็นเป้าสำหรับมัลแวร์และภัยคุกคามทางไซเบอร์มากที่สุด นอกจากนี้แอนตี้ไวรัสที่มีมาให้ของ Microsoft เองก็ไม่ได้ดีมากพอสำหรับการป้องกันที่ครบครัน ดังนั้นคุณจึงตกอยู่ในความเสี่ยงเมื่อท่องเว็บ ดาวน์โหลดไฟล์หรือเปิดอีเมลบนอุปกรณ์ Windows
เพื่อป้องกันอุปกรณ์ของคุณ ผมได้ทดสอบแอนตี้ไวรัสมากมายและคัดเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันระบบปฏิบัติการ Windows ตัวเลือกได้รับคะแนนการตรวจจับมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยมและมีฟีเจอร์ขั้นสูงมากมายสำหรับการป้องกันเพิ่มเติม
แอนตี้ไวรัสทั้งหมดในรายการนี้มีประสิทธิภาพ แต่ Norton เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดในฐานะแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows มันมีการตรวจจับมัลแวร์ชั้นนำระดับอุตสาหกรรม 100%, ฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงอย่าง VPN ภายในตัวและการตรวจสอบเว็บมืดและฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ตอบกลับเร็ว ที่ดีที่สุดคือคุณสามารถลองใช้ Norton โดยไม่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 60 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินที่แสนใจกว้าง
ลอง Norton ฟรีเป็นระยะเวลา 60 วัน!
คำแนะนำลัด: แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows Security ในปี 2024
- Norton – แอนตี้ไวรัสที่ดีสำหรับ for Windows 11, 10 และ 7 ที่มีการตรวจจับมัลแวร์ตามเวลาจริง ฟีเจอร์คุณภาพสูงและการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน
- TotalAV – เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC ที่ดีและการป้องกันมัลแวร์ที่แข็งแกร่ง แต่ฝ่ายบริการลูกค้าตอบกลับคำถามช้า
- McAfee – การตรวจจับมัลแวร์อันแข็งแกร่งจะป้องกัน Windows PC ของคุณ แต่ไม่มีฟีเจอร์มากเท่ากับแผนให้บริการแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ
- Intego – เสนออินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรสำหรับมือใหม่ แต่แอปสำหรับ Windows ไม่มีฟีเจอร์มากนัก
- Bitdefender – ฟีเจอร์มากมายและส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของ Windows PC ต่ำ แต่เป็นตัวเลือกที่มีราคาแพง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากปีแรก)
- Panda – ฟีเจอร์อันโดดเด่นจะช่วยกำจัดแม้กระทั่ง PC ที่ติดมัลแวร์ส่วนใหญ่ แต่ฟีเจอร์เสริมทำงานได้ไม่ดีนัก
- Avira – แอนตี้ไวรัสที่ไม่หนักเครื่องและส่งผลกระทบน้อยที่สุดสำหรับ Windows แต่ไม่ครอบคลุมเหมือนตัวเลือกอื่น ๆ
ลองใช้ Norton โดยไม่มีความเสี่ยง!
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อ่าน และเรามุ่งมั่นที่จะได้รับความไว้วางใจจากคุณด้วยการทำงานด้วยความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมบางส่วนที่ได้รับการตรวจสอบบนเว็บไซต์นี้: Intego, Cyberghost, ExpressVPN และ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา เนื่องจากเราปฏิบัติตามวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
ฉันจำเป็นต้องมีแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ไหม?
ใช่ คุณต้องมีแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูงสำหรับอุปกรณ์ Windows ของคุณ Microsoft Defender — ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสโดยค่าเริ่มต้นของ Windows (ที่รู้จักกันในชื่อ Windows Defender) — ไม่เพียงพอสำหรับการป้องกัน PC ของคุณจากมัลแวร์ขั้นสูง
คอมพิวเตอร์ Windows เป็นเป้าหมายยอดนิยมมากที่สุดสำหรับมัลแวร์โดยมีมาตรการความปลอดภัยเฉพาะเพียงเล็กน้อยซึ่งทำให้คอมพิวเตอร์มีช่องโหว่มากมายสำหรับการโจมตี Windows ยังเป็นระบบปฏิบัติการยอดนิยมที่สุดในโลกและไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคระดับสูงเพื่อใช้งาน นี่ทำให้ผู้ใช้ Windows มีความเสี่ยงที่จะได้พบกับการสแกมฟิชชิ่ง การดาวน์โหลดที่หลอกลวงและการโจมตีแบบพุ่งเป้าอื่น ๆ
ในขณะที่ Microsoft Defender เสนอการป้องกันโทรจัน ไวรัส แรนซัมแวร์และอื่น ๆ อีกมากมายที่น่าพึงพอใจ แต่มันก็อาจทำให้คุณเสี่ยงที่จะพบกับมัลแวร์ที่มีขนาดเล้กกว่าและเป็นอันตรายน้อยกว่า Microsoft Defender มักพลาดแอดแวร์ “ความเสี่ยงต่ำ” และมัลแวร์อื่น ๆ ที่สร้างความรำคาญ แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายได้ มัลแวร์เหล่านี้ไม่สามารถรุกล้ำ PC หรือขโมยข้อมูลของคุณได้ แต่มันสร้างความรำคาญให้ได้อย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อบริการอย่าง Norton สามารถปิดกั้นมัลแวร์ได้ทุกรูปแบบ — แม้แต่รายการที่มีความเสี่ยงต่ำ
Microsoft Defender ยังไม่มีการอัปเดตที่บ่อยมากพอซึ่งทำให้ PC ของคุณตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับภัยคุกคามใหม่ล่าสุดและแฮกเกอร์ที่ค้นหาช่องโหว่ในการป้องกันของ Windows นี่ถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นไรหากคุณไม่มีข้อมูลความลับหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ บน PC ที่คุณไม่อยากสูญเสีย แต่หากคุณจัดเก็บข้อมูลสำคัญเอาไว้ เช่น ข้อมูลทางการเงิน รหัสผ่านหรือข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ การรับประกันความปลอดภัยของคุณด้วยแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูงนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
พูดง่าย ๆ ก็คือการเสี่ยงเอาข้อมูลหรืออุปกรณ์ของคุณไปพึ่งพาเพียง Microsoft Defender ในฐานะการป้องกันนั้นไม่คุ้มค่า โดยการใช้ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสชั้นนำ คุณจะสามารถรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ, PC ของคุณและเครือข่ายในบ้านของคุณ
7 แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows (ทดสอบแล้วเมื่อ 2024)
1. Norton – แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ที่มาพร้อมกับอัตราการตรวจจับที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ
ฟีเจอร์หลัก:
- ตรวจจับมัลแวร์ได้ 100% โดยไม่มีผลบวกผิดพลาด
- มีเครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก ๆ และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์เข้ารหัสสำหรับการป้องกันเพิ่มเติม
- ป้องกันกิจกรรมออนไลน์ด้วย VPN ภายในตัวและการป้องกันเว็บไซต์
- ป้องกัน Windows 11, 10, 8.1, 8 และ 7 (SP1)
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน
Norton เป็นแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows เพราะการตรวจจับมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยม ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและฝ่ายสนับสนุนที่ตอบกลับเร็ว นอกจากนี้ การป้องกัน SONAR อันเป็นนวัตกรรมก็มอบการป้องกันแบบเรียลไทม์ที่มีประสิทธิภาพโดยการใช้กลไกการเรียนรู้เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมและดูว่าไฟล์นั้นเป็นอันตรายหรือไม่
ในแบบทดสอบของผม Norton ได้รับคะแนนตรวจจับมัลแวร์สมบูรณ์แบบ 100% ผมทดสอบสแกนแบบรวดเร็วและสแกนอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งใช่เวลา 2 นาทีและ 20 นาทีตามลำดับและตรวจพบภัยคุกคามทั้งหมด นอกจากนี้ฟีเจอร์ Norton Insight อันเป็นนวัตกรรมก็ทำให้การสแกนครั้งถัดมากินเวลาน้อยลงโดยการข้ามไฟล์ที่ได้รับการทำเครื่องหมายว่าปลอดภัยในการสแกนก่อนหน้านี้
นอกจากการสแกนไวรัสแล้ว Norton ก็มีฟีเจอร์สำหรับความปลอดภัยเพิ่มเติมดังต่อไปนี้:
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์เข้ารหัส — เสนอพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่ปลอดภัย (ในสหรัฐอเมริกา) สูงสุดถึง 500 GB สำหรับป้องกันไฟล์ความลับ
- PC SafeCam — ปิดกั้นการพยายามเข้าถึงเว็บแคมของระบบของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต
- เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน — มอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยสำหรับรหัสผ่านและข้อมูลความลับอื่น ๆ
- VPN ภายในตัว — ใช้การเข้ารหัส AES 256-บิตเพื่อดูแลให้คุณออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย
- การตรวจสอบเว็บมืด — แจ้งให้คุณรู้หากข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณถูกเปิดเผยในการละเมิดข้อมูล
- เครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก — มอบเครื่องมือมากมายในการตรวจสอบ จัดการและป้องกันกิจกรรมออนไลน์ของบุตรหลานของคุณ
Norton ยังมีการป้องเว็บไซต์ที่ยอดเยี่ยมเพื่อป้องกันเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย การดาวน์โหลดที่ไม่ปลอดภัยและสแกมฟิชชิ่ง ผมลองเปิดเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยดูและดาวน์โหลดตัวอย่างมัลแวร์โดยที่เปิดใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวไว้และ Norton ก็ปิดกั้นการดาวน์โหลดและเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายได้ทั้งหมด
ผมพึงพอใจกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่น่าประทับใจของ Norton ซึ่งมีแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ฝ่ายสนับสนุนผ่านทางโทรศัพท์และฐานข้อมูลความรู้ออนไลน์ แชทออนไลน์ของ Norton เชื่อมต่อผมกับเจ้าหน้าที่ภายในหนึ่งนาทีทุกครั้งที่ผมต้องการความช่วยเหลือและเจ้าหน้าที่ก็ให้คำตอบที่มีประโยชน์สำหรับคำถามของผม
แผนสมาชิกของ Norton เริ่มต้นที่ราคาเพียง $29.99/ปีและมีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้:
- Antivirus Plus — มีแอนตี้ไวรัสหลักของ Norton, ไฟร์วอลล์, เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน, พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ขนาด 2GB (ในสหรัฐอเมริกา) และป้องกันได้ 1 อุปกรณ์
- 360 Standard — มีฟีเจอร์ทั้งหมดข้างต้น, VPN ของ Norton, การตรวจสอบเว็บมืด, PC SafeCam และการป้องกันสำหรับ 3 อุปกรณ์
- 360 Deluxe — มีเครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กของ Norton, การตรวจสอบความเป็นส่วนตัว, พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ขนาด 50GB (ในสหรัฐอเมริกา), การป้องกันสำหรับ 5 อุปกรณ์และทุกฟีเจอร์ในแผนสมาชิก Standard
- 360 Select — ป้องกันอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ทั้งหมดที่กล่าวข้างต้น, พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ขนาด 250GB และการตรวจสอบตัวตนของ Norton
- 360 Advantage — มีทุกฟีเจอร์ในแผนสมาชิก 360 Select และมี Identity Lock ของ Norton
- 360 Ultimate Plus — มีฟีเจอร์ทั้งหมดข้างต้น, พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ขนาด 500GB (ในสหรัฐอเมริกา), Home Title Monitoring ของ Norton และการป้องกันอุปกรณ์ต่าง ๆ แบบไม่จำกัด
Norton เป็นตัวเลือกแอนตี้ไวรัสอันดับหนึ่งสำหรับ Windows 11 (และ 10 และ 7!) อย่างไม่ต้องสงสัย แต่คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อคำพูดของฉัน ฉันขอแนะนำให้คุณลองใช้ Norton ด้วยตัวคุณเองและใช้ประโยชน์จากการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน เพื่อนร่วมงานของฉันได้ทดสอบการรับประกันยินดีคืนเงินของ Norton และประหลาดใจกับความง่ายในการขอเงินคืนเต็มจำนวนอย่างมาก – แค่ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านแชทออนไลน์ ร้องขอเงินของคุณคืนและมันจะได้รับการดำเนินการภายใน 5-7 วันทำการ แถมคุณยังสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าในภาษาไทยได้อีกด้วย
2. TotalAV – เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพช่วยยกระดับประสิทธิภาพของ PC และป้องกันมัลแวร์
ฟีเจอร์หลัก:
- ตรวจพบมัลแวร์ 100% ผ่านการสแกนไวรัส
- มี Smart Scan เพื่อหนวิธีการในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ
- มีเครื่องมือตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูลที่จะตรวจสอบรหัสผ่านที่รั่วไหล
- ป้องกัน Windows 11, 10, 8.1, 8 และ 7 (SP1)
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
TotalAV เป็นแอนตี้ไวรัส Windows ที่ยอดเยี่ยมเพราะมันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบของคุณในขณะที่ป้องกันมันจากมัลแวร์ ผมประทับใจกับ Smart Scan เป็นพิเศษ ซึ่งกำจัดไฟล์ขยะ ปิดใช้งานโปรแกรมเริ่มต้นและลบคุกกี้เพื่อเพิ่มความเร็วของระบบ
ในระหว่างการทดสอบของผม สแกนไวรัสของ TotalAV ตรวจพบและลบมัลแวร์ที่ผมซ่อนไว้ในระบบได้ถึง 100% การสแกนยังค่อนข้างรวดเร็วด้วย แต่การป้องกันแบบเรียลไทม์ปิดกั้นมัลแวร์ซีโร่เดย์ได้ 99% เท่านั้น ในทางกลับกัน การป้องกันของ Norton มีประสิทธิภาพมากมายเพราะมันตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ได้ 100%
ผมยังชอบ VPN ภายในตัวที่ยอดเยี่ยมของ TotalAV ซึ่งใช่การเข้ารหัสมาตรฐานอุตสาหกรรม AES 256-บิตในการป้องกันกิจกรรมออนไลน์ของคุณ นอกจากนี้มันยังมอบความเร็วการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมากมายได้ ทีมงานและผมเข้าถึง Netflix, Disney+, Max, Amazon Prime Video และ Hulu ด้วย VPN ของ TotalAV ในการทดสอบของเราได้สำเร็จ
คุณยังจะได้รับฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ ภายในแอปนี้ด้วย ได้แก่:
- WebShield — มอบความปลอดภัยทางออนไลน์โกยารปิดกั้นเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย
- เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน — ป้องกันรหัสผ่านและข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณ (แต่ไม่มีฟีเจอร์อย่างการตรวจสอบตู้นิรภัยและซิงค์อัตโนมัติมาให้)
- แบบทดสอบการรั่วไหลของข้อมูล — ตรวจสอบว่ารหัสผ่านของคุณรั่วไหลหรือไม่ในการละเมิดข้อมูลที่ผ่านมา
แผนสมาชิกของ TotalAV มีราคาน่าคบหาโดยเริ่มต้นแค่เพียง $19.00/ปี ปัจจุบันบริการดังกล่าวมีแผนสมาชิกดังต่อไปนี้:
- Antivirus Pro — มีแอนตี้ไวรัสของ TotalAV, WebShield, เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพและการป้องกันสำหรับ 3 อุปกรณ์
- Internet Security — มี VPN ของ TotalAV, ทุกฟีเจอร์ใน Antivirus Pro และการป้องกันสูงสุด 5 อุปกรณ์
- Total Security — มีตัวปิดกั้นโฆษณาของ TotalAV, เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน, ทุกฟีเจอร์ใน Internet Security และการป้องกันสูงสุด 6 อุปกรณ์
TotalAV ยังมีแผนสมาชิกฟรีที่มาพร้อมกับการสแกนมัลแวร์ตามคำสั่งและการป้องกันเว็บไซต์พื้นฐานด้วย อย่างไรก็ตามคุณไม่สามารถไว้วางใจแผนสมาชิกดังกล่าวสำหรับการป้องกันที่ครบครันได้เพราะมันยังขาดการป้องกันแบบเรียลไทม์และฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อื่น ๆ
คุณสามารถลองใช้ try TotalAV โดยไม่มีความเสี่ยงฟรีเป็นระยะเวลา 30 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน คุณสามารถโทรหา TotalAV หรือส่งอีเมลขอเงินคืนได้ — ฉันได้รับการยืนัยนทันทีและได้รับเงินคืนกลับมาภายใน 2 วันหลังจากนั้น
3. McAfee – แอนตี้ไวรัสที่แข็งแกร่งสำหรับ Windows ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยโบนัส
ฟีเจอร์หลัก:
- บรรลุคะแนนการตรวจจับมัลแวร์ 100% ผ่านการสแกน
- มีไฟร์วอลล์ที่ปรับไปแต่งได้สูงและไว้วางใจได้เพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม
- มี VPN ภายในตัวและ WebAdvisor สำหรับความปลอดภัยทางออนไลน์
- ทำงานได้บน Windows 11 และ 10
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
McAfee เป็นแอนตี้ไวรัส Windows ที่มีประสิทธิภาพเพราะไฟร์วอลล์ที่ปลอดภัยและคะแนนการตรวจจับมัลแวร์ที่น่าประทับใจ ไฟร์วอลล์ยังมอบอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและตัวเลือกที่ปรับแต่งได้มากมาย ซึ่งให้คุณปรับแต่งการตั้งค่าได้ตามความต้องการของคุณ
หลังจากทดสอบหลายครั้ง ผมก็ได้รู้ว่าการสแกนของ McAfee ตรวจพบและกำจัดมัลแวร์ได้สำเร็จ 100% อย่างไรก็ตาม การสแกนนั้นช้ากว่า Norton มาก เนื่องจากการสแกนเร็วใช้เวลา 5 นาทีและสแกนอย่างเต็มรูปแบบใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง
คุณจะพบฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมายใน McAfee ซึ่งจะช่วยยกระดับความปลอดภัยโดยรวม ฟีเจอร์เหล่านี้นั้นรวมถึง:
- การป้องกันเว็บไซต์ — ป้องกันคุณจากเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายและการพยายามฟิชชิ่ง
- VPN ภายในตัว — ใช้การเข้ารหัส AES 256-บิตเพื่อป้องกันกิจกรรมทางออนไลน์ของคุณ
- เครื่องมือกำจัดตัวติดตาม — กำจัดตัวติดตามและไฟล์อื่น ๆ ที่สามารถตรวจสอบกิจกรรมของคุณเพื่อส่งโฆษณาเป้าหมายให้
- สแกนเนอร์เครือข่าย — ตรวจสอบเครือข่ายของคุณและแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับผู้บุกรุกใด ๆ
- การป้องกันโจรขโมยตัวตน — ป้องกันคุณจากโจรขโมยตัวตนโดยการตรวจสอบข้อมูลของคุณ (พร้อมให้บริการใน 32 ประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก สหราชอาณาจักรและประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย)
- เครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก — จัดการและตรวจสอบกิจกรรมของลูกของคุณเพื่อดูแลให้พวกเขาปลอดภัย
McAfee ยังมีการป้องกันแรนซัมแวร์และป้องกันการโจมตีแรนซัมแวร์จากการเข้ารหัสไฟล์ของคุณด้วย แถมมันยังเสนอฟีเจอร์ย้อนกลับแรนซัมแวร์ซึ่งจะกู้คืนไฟล์ที่เข้ารหัสคืนมาหากไฟล์ดังกล่าวเกิดติดไวรัสแรนซัมแวร์
คุณสามารถใช้บริการ McAfee ได้ในราคาแสนถูกเพียง $39.99/ปีและแผนให้บริการมากมายมีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้รวมมาให้:
- Total Protection Plus — มีฟีเจอร์แอนตี้ไวรัสของ McAfee, เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน, ไฟร์วอลล์, การตรวจสอบตัวตน, VPN, เครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวรและการป้องกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์
- McAfee+ Premium — มีการสแกนล้างข้อมูลส่วนบุคคลของ McAfee, ทุกฟีเจอร์ใน Total Protection Plus และการป้องกันสูงสุด 10 อุปกรณ์
- McAfee+ Advanced — เสนอฟีเจอร์ล้างข้อมูลส่วนบุคคลของ McAfee อย่างเต็มรูปแบบ, การป้องกันกระเป๋าสตางค์หาย, รายงานเครดิตรายเดือนและการคุ้มครองเพื่อป้องกันโจรขโมยตัวตนมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และฟีเจอร์ทั้งหมดใน McAfee+ Premium
- McAfee+ Ultimate — มีการปิดกั้นเครดิตของ McAfee, การคุ้มครองเพื่อป้องกันแรนซัมแวร์ 25K, รายงานเครดิตรายวันและทุกฟีเจอร์ใน McAfee+ Advanced
แม้ว่าฉันจะอยากให้ McAfee ขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ แต่มันก็ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในบริการที่ปลอดภัยที่สุดที่มีให้บริการสำหรับ Windows 10/11 หากคุณต้องการลองใช้งานมันบน Windows PC ของคุณ คุณสามารถใช้การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันของ McAfee เพื่อทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมดได้ โปรดระวังหากคุณไม่ได้สมัครแผนให้บริการแบบต่ออายุโดยอัตโนมัติ คุณจะมีเวลาในการร้องขอเงินคืนเพียง 30 วันเท่านั้น หลังจากร้องขอเงินคืนพร้อมข้อมูลติดต่อของฉัน ตัวแทนฝ่ายสนับสนุนลูกค้าก็ติดต่อกลับฉันภายในเวลาน้อยกว่า 10 นาทีผ่านทางโทรศัพท์เพื่อแจ้งให้ฉันทราบว่าการขอเงินคืนของฉันได้รับอนุมัติแล้ว หลังจากนั้นเพียง 7 วันฉันก็ได้รับเงินคืนเข้าบัญชี
4. Intego – แอนตี้ไวรัสที่เป็นมิตรสำหรับมือใหม่ที่มอบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ
ฟีเจอร์หลัก:
- มีการสแกนแบบรวดเร็วและแบบเต็มรูปแบบที่จะค้นหาและกำจัดมัลแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 99.4%
- มีฟีเจอร์ Deepclean ที่จะล้างรีจิสทรี แก้ไขปัญหาเมมโมรี่ของคุณและอื่น ๆ อีกมากมาย
- เสนอแอปที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรสำหรับมือใหม่
- ทำงานได้บน Windows 11, 10, 8.1, 8 และ 7
- มาพร้อมกับการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
มักได้รับการพิจารณาว่าเป็นแอนตี้ไวรัสอันดับ #1 สำหรับ macOS Intego ยังมอบความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมในระบบ Windows ด้วย มันมีการสแกนไวรัสที่มีประสิทธิภาพที่จะค้นหาและกำจัดมัลแวร์ การป้องกันแบบเรียลไทม์ที่ไว้วางใจได้และแอปที่ใช้งานได้ง่ายมาก ๆ ที่แม้แต่มือใหม่ก็สามารถใช้เพื่อป้องกันระบบของตนเองได้อย่างง่ายดาย
จากการทดสอบของเรา การสแกนไวรัสของ Intego ป้องกันระบบ Windows ของเราจากมัลแวร์ได้ถึง 99.4% น่าเสียดายที่แอปสำหรับ Windows ของ Intego นั้นไม่มีไฟร์วอลล์ NetBarrier แบบ 2 ทาง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ดีที่สุดในแอปสำหรับ macOS นอกจากนี้การสแกนแบบเต็มรูปแบบยังใช้เวลาดำเนินการให้เสร็จนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในขณะที่ Norton ทำการสแกนแบบเดียวกันเสร็จใน 20 นาที
คุณยังจะได้รับเครื่องมือดังต่อไปนี้จาก Intego เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความปลอดภัย Windows ด้วย:
- กลไกการป้องกัน (Prevention Engine) — ตรวจสอบพฤติกรรมการประมวลผลเพื่อตรวจจับกิจกรรมที่น่าสงสัยและปิดกั้นมัลแวร์ซีโร่เดย์
- การตรวจสอบโดยสมบูรณ์ (Complete Checkup) — ค้นหาและกำจัดไฟล์ที่ไม่จำเป็นเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างในระบบของคุณ
Intego มีแผนสมาชิก Personal, Family และ Extended สำหรับความปลอดภัย Windows แผนสมาชิกเหล่านั้นจะป้องกัน Windows PC 1,3 และ 5 เครื่องตามลำดับและคุณจะได้รับความคุ้มค่ามากที่สุดในแผนสมาชิก Extended ที่ป้องกัน 5 PC เป็นเวลา 1 ปีในราคาที่สมเหตุสมผล ความแตกต่างเดียวในแผนสมาชิกต่าง ๆ คือจำนวนอุปกรณ์ที่ป้องกันได้ ดังนั้นคุณจึงจะได้รับฟีเจอร์ทั้งหมดไม่ว่าคุณจะเลือกตัวเลือกใดก็ตาม
คุณสามารถลองใช้ Intego แบบไม่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 30 วันได้เนื่องจากการรับประกันยินดีคืนเงิน หากคุณไม่พึงพอใจ การขอเงินคืนในช่วง 30 วันนั้นก็ง่ายมาก เราได้รับเงินคืนภายใน 10 วันหลังจากที่ส่งคำขอหลังจากที่ทดสอบเสร็จแล้ว นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันสำหรับ Windows ซึ่งจะมอบเวลามากพอให้คุณได้ทดสอบฟีเจอร์พรีเมียมของ Intego
5. Bitdefender – ฟีเจอร์ความปลอดภัยมากมายที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ Windows PC
ฟีเจอร์หลัก:
- มอบการสแกนไวรัสที่หลากหลายที่ตรวจพบมัลแวร์ 100%
- มีการป้องกันแรนซัมแวร์เพื่อป้องกันไฟล์ที่สำคัญ
- มีไฟร์วอล์ที่ปลอดภัยและปรับแต่งได้สำหรับการป้องกันเพิ่มเติม
- ป้องกัน Windows 11, 10, 8.1, 8 และ 7 (SP1)
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
Bitdefender เสนอการสแกนไวรัสและฟีเจอร์ความปลอดภัยมากมายเพื่อป้องกันอุปกรณ์ Windows ในระหว่างการทดสอบของผมการสแกนของ Bitdefender ตรวจจับมัลแวร์ในระบบได้ 100% นอกจากนี้มันยังมีเครื่องมือเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยโดยรวมของคุณด้วย:
- VPN ภายในตัว — มอบความปลอดภัยทางออนไลน์และความเร็วการเชื่อมต่อที่รวดเร็วพร้อมการเข้ารหัส AES 256-บิตและโปรโตคอล Catapult Hydra อันเป็นกรรมสิทธิ์ของ Hotspot Shield
- เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน — มอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยสำหรับรหัสผ่านและข้อมูลความลับอื่น ๆ
- ไฟร์วอลล์แบบกำหนดเอง — ทำหน้านี้เป็นด่านแรกของการป้องกันระบบของคุณและมีตัวเลือกที่ปรับแต่งได้มากมาย
- การแก้ไขแรนซัมแวร์ — สำรองไฟล์ที่สำคัญและกู้คืนไฟล์ดังกล่าวในกรณีที่มีการโจมตีแรนซัมแวร์
- เครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก — ป้องกันเด็ก ๆ ของคุณโดยการตรวจสอบกิจกรรมของพวกเขา คัดกรองเนื้อหาและใช้การกำหนดขอบเขตเสมือนเพื่อติดตามตำแหน่ง
ผมยังพบด้วยว่า Bitdefender มีความการป้องกันแบบเรียลไทม์ที่มีประสิทธิภาพที่ปิดกั้นภัยคุกคามซีโร่เดย์ได้ 100% ซึ่งถือว่าน่าประทับใจ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่น่าไว้วางใจเท่าการป้องกันแบบเรียลไทม์อันไร้ที่ติของ Norton ซึ่งปิดกั้นมัลแวร์ซีโร่เดย์ได้ถึง 100%
ในขณะที่ราคาของ Bitdefender นั้นสมเหตุสมผลและเริ่มต้นที่เพียง $24.99/ปี โดยการต่ออายุหลังจากปีแรกนั้นมีราคาแพงขึ้นอย่างมาก แผนราคาปัจจุบันมีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้:
- Antivirus Plus — มีฟีเจอร์แอนตี้ไวรัสหลักของ Bitdefender, VPN จำกัด 200MB/วันและการป้องกันสำหรับ 1 อุปกรณ์ (เฉพาะ Windows เท่านั้น)
- Internet Security — มีไฟร์วอลล์ความเป็นส่วนตัวของ Bitdefender, เครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก, ทุกฟีเจอร์ใน Antivirus Plus และการป้องกันสำหรับ 3 อุปกรณ์ (เฉพาะ Windows เท่านั้น)
- Total Security — มีเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพของ Bitdefender, การป้องกันสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ สูงสุดถึง 5 อุปกรณ์และทุกฟีเจอร์ใน Internet Security (ทุกแพลตฟอร์ม)
- Premium Security — มีเครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Bitdefender, VPN แบบไม่จำกัด, ฟีเจอร์ทั้งหมดของ Total Security และการป้องกันอุปกรณ์ต่าง ๆ สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์
- Ultimate Security — เสนอการตรวจสอบตัวตนของ Bitdefender และฟีเจอร์ทั้งหมดของ Premium Security
คุณจะได้รับความคุ้มค่าที่สุดจากแผนสมาชิก Total Security ที่มีราคา $40.99/ปี ของ Bitdefender เพราะมันป้องกันได้ 5 อุปกรณ์และทำงานได้ในทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งให้คุณป้องกันอุปกรณ์มือถือของคุณไปพร้อมกับระบบ Windows ของคุณได้
ฉันเชื่อว่าแอนตี้ไวรัสนี้เป็นแอนตี้ไวรัสที่คุ้มค่าสำหรับราคาในปีแรกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากคุณสามารถทดสอบ Bitdefender โดยไม่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 30 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน คุณแค่ต้องส่งตั๋วอีเมลผ่านเว็บไซต์เพื่อขอรับเงินคืน Bitdefender ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการส่งอีเมลตอบกลับและฉันก็ได้รับเงินคืนใน 5 วันหลังจากที่การยกเลิกได้รับการยืนยัน
ป้องกัน PC ของคุณด้วย Bitdefender
6. Panda Dome – จัดการ PC ที่ติดไวรัสให้กลับมาทำงานได้
ฟีเจอร์หลัก:
- ค้นหาและลบมัลแวร์ได้ 98% ผ่านการสแกนไวรัส
- มีฟีเจอร์ป้องกันโจรเพื่อช่วยหาอุปกรณ์ที่ถูกขโมย
- ป้องกันการสแกมฟิชชิ่งและการดาวน์โหลดที่เป็นอันตราย
- ป้องกัน Windows 11, 10, 8.1, 8, 7, Vista และ XP (SP3)
- การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
Panda เสนอชุดป้องกันที่ครบครันสำหรับระบบ Windows มันเสนอการสแกนไวรัสที่ไว้วางใจได้ การป้องกันแบบเรียลไทม์ที่มีประสิทธิภาพและฟีเจอร์ความปลอดภัยมากมายเพื่อป้องกันอุปกรณ์ Windows ของคุณจากภัยคุกคามทางไซเบอร์
หลังจากที่ทดสอบ ผมก็ได้เรียนรู้ว่า Panda ค้นหาและกำจัดมัลแวร์ 98% ผ่านการสแกนได้อย่างน่าเชื่อถือ แน่นอนว่ามันไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่า Norton ซึ่งกำจัดได้ 100% แต่ก็ยังถือเป็นคะแนนการตรวจจับที่น่าประทับใจและถือว่ามากกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมมาก
นอกจากการสแกนมัลแวร์และการป้องกันแบบเรียลไทม์แล้ว Panda ก็มีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้เพื่อป้องกันระบบ Windows ของคุณ:
- การป้องกันเว็บไซต์ — ดูแลคุณจากการเปิดเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยที่อาจทำให้ระบบของคุณติดไวรัส
- VPN ภายในตัว — ป้องกันกิจกรรมออนไลน์ของคุณด้วยการเข้ารหัสมาตรฐานอุตสาหกรรม AES 256-บิต
- เครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร — ลบไฟล์ความลับที่คุณไม่ต้องการให้ใครเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย
- การเข้ารหัสไฟล์ — เข้ารหัสและป้องกันไฟล์สำคัญด้วยรหัสผ่านเพื่อไม่ให้คนอื่นนอกจากคุณที่สามารถเข้าถึงมันได้
- การป้องกันโจร — ช่วยหาตำแหน่งอุปกรณ์ของคุณหากมันถูกขโมย
- การป้องกัน WiFi — ตรวจสอบเครือข่าย WiFi ของคุณเพื่อที่คุณจะได้ทราบหากมีผู้บุกรุกใด ๆ เชื่อมต่อกับเครือข่าย
Panda ยังเสนอเครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กด้วย แต่มันเป็นเครื่องมือพื้นฐานและมีเพียงฟีเจอร์ตัวกรองเว็บไซต์เท่านั้น แตกต่างจากเครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของ Norton คุณไม่สามารถจำกัดเวลาใช้งานหน้าจอหรือตรวจสอบการใช้งานแอปของลูก ๆ ของคุณได้อย่างเหมาะสม
คุณสามารถใช้ Panda ได้ในราคาแสนถูกเพียง $22.50/ปีและสามารถเลือกแผนสมาชิกได้ดังต่อไปนี้:
- Essential — มีฟีเจอร์แอนตี้ไวรัสของ Panda, VPN จำกัด 150MB/วันและการป้องกัน WiFi
- Advanced — มีเครื่องมือควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของ Panda, การป้องกันตัวตนและฟีเจอร์ต่าง ๆ ในแผนสมาชิก Essential
- Complete — มีเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพของ Panda, เครื่องมือจัดการรหัสผ่านและฟีเจอร์ทั้งหมดในแผนสมาชิก Advanced
- Premium — เสนอ VPN ของ Panda แบบไม่จำกัด, ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับคุณก่อนและฟีเจอร์ทั้งหมดในแผนสมาชิก Complete
ผมขอแนะนำแผนสมาชิก Premium ที่มีราคา $40.50/ปีกับคุณหากคุณต้องการความคุ้มค่าที่ดีที่สุด นอกจากนี้ แผนสมาชิกทั้งหมดของ Panda ยัง∞อุปกรณ์ที่ป้องกันได้ด้วย แต่ราคาจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนอุปกรณ์ที่คุณต้องการป้องกัน
ขอบคุณการรับประกันยินดีคืนเงิน คุณสามารถลองใช้ Panda โดยไม่มีความเสี่ยงได้เป็นระยะเวลา 30 วัน หากไม่พึงพอใจ คุณสามารถขอเงินคืนผ่านแบบฟอร์มเว็บไซต์ได้ง่าย ๆ ผมได้รับเงินคืนใน 8 วันตอนที่ผมส่งคำขอคืนเงินหลังจากที่ทดสอบเสร็จแล้ว
7. Avira – การป้องกันมัลแวร์ที่พุ่งเป้ามาที่ Windows ที่แข็งแกร่ง
ฟีเจอร์หลัก:
- ตรวจจับและกำจัดมัลแวร์ผ่านการสแกนไวรัสได้ 100%
- มีเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อยกระดับการทำงานของระบบ
- มีฟีเจอร์อย่าง VPN ภายในตัวและเครื่องมือจัดการรหัสผ่านสำหรับการป้องกันเพิ่มเติม
- ทำงานได้บน Windows 11, 10, 8.1, 8 และ 7 (SP1)
- มีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน
Avira มอบการป้องกันที่ยอดเยี่ยมสำหรับอุปกรณ์ Windows โดยไม่ทำให้การทำงานช้าลง มันเป็นแอนตี้ไวรัสบนคลาวด์ที่ไม่หนักเครื่องที่มาพร้อมกับการสแกนไวรัสมากมาย และยังเสนอฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบและยกระดับความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น ฟีเจอร์ดังกล่าว ได้แก่:
- VPN ภายในตัว — ป้องกันคุณออนไลน์โดยการเข้ารหัสการเชื่อมต่อของคุณด้วยการเข้ารหัส AES 256-บิต
- เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน — มอบวิธีในการจัดเก็บและใช้รหัสผ่านของคุณอย่างปลอดภัย
- Power Cleaner — กำจัดไฟล์ขยะเพื่อให้มีพื้นที่ว่างในระบบของคุณ
- เครื่องมืออัปเดตซอฟต์แวร์ — แก้ไขช่องโหว่โดยการทำให้มั่นใจว่าคุณมีซอฟต์แวร์ที่ได้รับการอัปเดตล่าสุด
- Hyper Boost — ปรับปรุงเวลาเริ่มเปิดใช้งานของ Windows โดยการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนต่าง ๆ
นอกจากนี้คุณยังจะได้รับการสแกนไวรัสที่มีประสิทธิภาพจากแอปป้องกันนี้ด้วย สแกนไวรัสของ Avira ตรวจจับแวร์ได้ 100% ในการทดสอบของผม ซึ่งถือเป็นคะแนนที่น่าประทับใจ แต่ถึงอย่างนั้นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่าง Norton ก็ทำได้เหนือกว่าด้วยการสแกนที่เร็วกว่าและอัตราการตรวจจับอันไร้ที่ติ 100% นอกจากนี้ Avira ยังเสนอการป้องกันแบบเรียลไทม์ที่ยอดเยี่ยมที่มีอัตราการตรวจจับ 100% ด้วย
จุดแข็งที่น่าสนใจที่สุดของ Avira คือแผนสมาชิกฟรีที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีสแกนไวรัส การป้องกันแบบเรียลไทม์และ VPN ที่จำกัด 500MB/วันสำหรับ 1 อุปกรณ์ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีแผนสมาชิกแบบเสียเงินที่มีราคาน่าสนใจโดยเริ่มต้นเพียง $26.99/ปี ซึ่งมีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้:
- Antivirus Pro — มีไฟร์วอลล์ของ Avira, ฟีเจอร์แอนตี้ไวรัสหลัก, VPN จำกัด 150MB/วันและการป้องกันสำหรับ 1 อุปกรณ์
- Internet Security — มีเครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Avira, เครื่องมืออัปเดตซอฟต์แวร์และฟีเจอร์อื่น ๆ ทั้งหมดในแผนสมาชิก Antivirus Pro (เฉพาะ Windows เท่านั้น)
- Prime — ป้องกันอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สูงสุดถึง 5 อุปกรณ์และมี VPN แบบไม่จำกัดของ Avira, เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพและทุกฟีเจอร์ใน Internet Security (ทุกแพลตฟอร์ม)
แผนสมาชิก Prime ที่มีราคา $59.99/ปีของ Avira เป็นแผนสมาชิกที่คุ้มค่าที่สุด และคุณสามารถลองใช้ Avira ได้โดยไม่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 60 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน นอกจากนี้ก็สามารถขอเงินคืนได้ง่าย ๆ ผ่านอีเมล และผมก็ได้รับเงินคืนใน 24 ชั่วโมงตอนที่ขอเงินคืนหลังจากที่ทดสอบเสร็จแล้ว
คำเตือน! หลีกเลี่ยงแบรนด์แอนตี้ไวรัส 2 แบรนด์นี้
1.AVG และ Avast
AVG และบริษัทในเครือ Avast ต่างก็โปรโมทความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวด้วยซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสของพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็กลายเป็นว่าทั้งสองบริษัทนี้ถูกจับได้ว่าจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้มากมาย (ซึ่งรวมถึงชื่อและที่อยู่) ซึ่งจากนั้นก็นำไปขายให้กับบริษัทชื่อดังเพื่อทำกำไร ด้วยเหตุนี้ฉันจึงแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส AVG หรือ Avast ใด ๆ ลงบนอุปกรณ์ของคุณ.
2.Microsoft Defender
Microsoft Defender เป็นชั้นการป้องกันแอนตี้ไวรัสเสริมที่มีมาให้ฟรีสำหรับอุปกรณ์ Windows ทั้งหมด อย่างไรก็ตามมันทำงานได้ไม่ดีมากพอที่จะป้องกัน PC ของคุณจากภัยคุกคามล่าสุด — ไม่มีการอัปเดตที่บ่อยพอที่จะป้องกันการโจมตีซีโร่เดย์ซึ่งทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะพบกับมัลแวร์
ตารางเปรียบเทียบ: ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ในปี 2024
Norton | TotalAV | McAfee | Intego | Bitdefender | Panda | Avira | |
การตรวจจับมัลแวร์ผ่านการสแกน | 100% | 100% | 100% | 99.4% | 100% | 98% | 100% |
การป้องกันมัลแวร์ตามเวลาจริง | 100% | 100% | 100% | 99.4% | 100% | 98% | 100% |
VPN | ✔ | ✔ | ✔ | ✘ | ✔ | ✔ | ✔ |
ไฟร์วอลที่กำหนดเองได้ | ✔ | ✘ | ✔ | ✘ | ✔ | ✔ | ✘ |
แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง | ✔ | ✘ | ✔ | ✘ | ✔ | ✔ | ✘ |
อุปกรณ์ | 10 | 6 | 10 | 5 | 10 | ∞ | 5 |
ราคาที่ดีที่สุด | $29.99 | $19.00 | $39.99 | $19.99 | $24.99 | $22.50 | $26.99 |
การรับประกันยินดีคืนเงิน | 60 วัน | 30 วัน | 30 วัน | 30 วัน | 30 วัน | 30 วัน | 60 วัน |
6 ขั้นตอนง่าย ๆ: วิธีติดตั้งและใช้งานแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows
ขั้นตอนดังต่อไปนี้จะอธิบายวิธีการติดตั้งและใช้แอนตี้ไวรัสเพื่อป้องกันระบบ Windows ของคุณ ผมขอแนะนำให้คุณใช้ Norton เพื่อป้องกัน PC ของคุณเพราะการตรวจจับมัลแวร์อันไร้ที่ติ
- สมัครแผนสมาชิกที่คุณต้องการ — ไปยังแผนราคาของ Norton และคลิกสมัครสมาชิกตอนนี้ในแผนสมาชิกใดก็ตามที่เหมาะกับคุณ
- ดาวน์โหลด Norton — ลงชื่อเข้าใช้เว็บพอร์ทัลของ Norton หลังจากที่สมัครสมาชิกแล้วและดาวน์โหลดตัวติดตั้ง
- ติดตั้ง Norton — เปิดใช้งานตัวติดตั้งของ Norton เพื่อติดตั้งลงบนระบบของคุณ
- เปิดตัวเลือกสแกน — เข้าถึงการสแกนของ Norton ที่มีให้บริการผ่านเมนูแบบดึงลงที่อยู่ถัดจากความปลอดภัยของอุปกรณ์
- เริ่มต้นสแกนอย่างเต็มรูปแบบ — คลิกสแกนอย่างเต็มรูปแบบ จากนั้นให้คลิกไปเพื่อตรวจสอบระบบของคุณเพื่อหามัลแวร์
- กำจัดภัยคุกคาม — รอจนกว่าการสแกนจะดำเนินการจนเสร็จ กำจัด/กักกันภัยคุกคามที่ตรวจพบใด ๆ และคลิกสิ้นสุดเพื่อจบการสแกน
วิธีที่ฉันทดสอบและจัดอันดับแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows
ฉันตรวจสอบให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส 7 อันดับในรายการนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า Microsoft Defender และมากกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมในเรื่องของความปลอดภัย ฉันทดสอบแอนตี้ไวรัสแต่ละโปรแกรมโดยใช้เกณฑ์ดังต่อไปนี้:
- กลไกแอนตี้ไวรัสอันแข็งแกร่ง – มัลแวร์ขั้นสูงส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้พุ่งเป้าไปที่ Windows ดังนั้นการมีการตรวจจับมัลแวร์และความสามารถในการปิดกั้นอันแข็งแกร่งจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ฉันทดสอบแอนตี้ไวรัสแต่ละโปรแกรมเพื่อให้มั่นใจว่ามันเป็นไปตามอัตราการตรวจจับมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือมากกว่า (การตรวจจับ 99.1% หรือมากกว่า) ซึ่งจะช่วยรับประกันการป้องกัน Windows PC ของคุณอย่างเต็มรูปแบบ
- ความเร็วที่รวดเร็ว – มันเป็นเรื่องจริงที่การเปิดใช้งานการสแกนแอนตี้ไวรัสอาจทำให้ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ของคุณช้าลง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีแอนตี้ไวรัสชั้นนำบางโปรแกรมในรายการนี้ที่มีประสิทธิภาพอย่างมากและไม่ส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ ฉันยังทดสอบเพื่อดูด้วยว่ามันสามารถทำงานในพื้นหลังอย่างเงียบ ๆ โดยมีการแจ้งเตือนเพียงเล็กน้อยหรือไม่และการสแกนใช้เวลาโดยรวมนานแค่ไหน
- ฟีเจอร์โบนัส – แผนให้บริการแอนตี้ไวรัสมากมายมีฟีเจอร์เสริมซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยยกระดับความปลอดภัยและการทำงาน แต่ฟีเจอร์โบนัสเหล่านั้นไม่ได้มีคุณภาพสูงเสมอไป เมื่อฉันพบแอนตี้ไวรัสที่มีฟีเจอร์เสริม เช่น VPN, ผู้จัดการรหัสผ่านหรือเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร ฉันจะทดสอบแต่ละฟีเจอร์เพื่อดูให้แน่ใจว่ามันคุ้มค่ากับการใช้งาน
- ความคุ้มค่าสำหรับเงิน – บริการแอนตี้ไวรัสทั้งหมดในรายการนี้มีราคาที่สมเหตุสมผล – ที่ดีไปกว่านั้นคือโปรแกรมทั้งหมดมีการรับประกันยินดีคืนเงิน ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้งานมันได้โดยไม่มีความเสี่ยงและสามารถขอรับเงินคืนได้หากคุณเปลี่ยนใจ
คำถามที่พบบ่อย: การใช้แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows บน PC, แล็ปท็อปและแท็บเล็ต
ฉันจำเป็นต้องมีแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows จริงหรือไม่?
แอนตี้ไวรัสจะทำให้คอมพิวเตอร์ของฉันช้าลงไหม?
แอนตี้ไวรัส Microsoft Defender ของ Windows ดีไหม?
ค่อนข้างดี แต่คุณควรใช้แอนตี้ไวรัสพรีเมียมที่ไว้วางใจได้เพื่อการป้องกันที่ครบครัน Microsoft Defender ไม่มีการตรวจจับมัลแวร์ที่สมบูรณ์แบบบ, ไฟร์วอลล์ที่ปรับแต่งได้, VPN ภายในตัวและอื่น ๆ ที่รับประกันถึงการป้องกันที่ครบครัน
ดังนั้นแม้ว่า Microsoft Defender จะเป็นการป้องกันพื้นฐานที่ดี แต่มันจะไม่ป้องกันคุณจากมัลแวร์ซีโร่เดย์ขั้นสูง เข้ารหัสกิจกรรมการท่องเว็บของคุณหรือป้องกันตัวตนทางออนไลน์ของคุณ
บริการแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ที่ดีที่สุดโดยรวมคือบริการใด?
มีแอนตี้ไวรัสที่มีประสิทธิภาพมากมายที่คุณสามารถเลือกใช้สำหรับ Windows ได้ แต่ถึงอย่างนั้น Norton ก็เป็นแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดโดยรวม ซึ่งมอบการตรวจจับมัลแวร์อันไร้ที่ติ ฟีเจอร์ความปลอดภัยอันน่าประทับใจและฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ไว้วางใจได้
ที่ดีที่สุดคือคุณสามารถลองใช้ Norton โดยไม่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 60 วันได้ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงิน การขอเงินคืนก็ทำได้ง่าย ๆ และเราก็ได้พูดถึงกระบวนการขอเงินคืนเอาไว้แล้วในรีวิว Norton เชิงลึกของเรา
ฉันใช้แอนตี้ไวรัสฟรีแทนอันที่เสียเงินได้ไหม?
ลอง Norton ฟรีเป็นระยะเวลา 60 วัน!
ป้องกัน PC Windows 10/11 ของคุณด้วยแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูง
มัลแวร์ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ใช้ผลประโยชน์จากช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ Windows ซึ่งทำให้การป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยแพ็กเกจแอนตี้ไวรัสชั้นนำเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ด้วยแอนตี้ไวรัสมากมายที่สัญญาว่าจะมอบการป้องกันที่ดีที่สุด การตัดสินใจที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องยาก หลังจากการทดสอบโดยละเอียด ฉันได้ทำงานอย่างหนักเพื่อคุณและสามารถแนะนำ Norton ในฐานะแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับคอมพิวเตอร์ Windows 10 ของคุณได้อย่างมั่นใจ
Norton มอบการป้องกันมัลแวร์ตามเวลาจริงที่ครอบคลุมและฟีเจอร์เสริมคุณภาพสูงมากมายสำหรับความปลอดภัย Windows หลายชั้น ที่ดีที่สุดคือมันมีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 60 วันที่แสนใจกว้างที่ให้คุณทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมดโดยไม่มีความเสี่ยงได้เป็นระยะเวลา 60 วันเต็ม หากคุณเปลี่ยนใจเกี่ยวกับการสมัครสมาชิก คุณสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้ – ง่าย ๆ!
สรุป – ซอฟต์แวร์เหล่านี้เป็นซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับพีซีที่ใช้ Windows ในปี 2024
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อ่าน และเรามุ่งมั่นที่จะได้รับความไว้วางใจจากคุณด้วยการทำงานด้วยความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมบางส่วนที่ได้รับการตรวจสอบบนเว็บไซต์นี้: Intego, Cyberghost, ExpressVPN และ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา เนื่องจากเราปฏิบัติตามวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
แสดงความคิดเห็น
ยกเลิก