ทำไมคุณสมบัติ Kill Switch ของ VPN จึงสำคัญ?

ระยะเวลาในการอ่าน: 2 นาที

อัปเดตเมื่อ มิถุนายน 08, 2022

ถูกเขียนขึ้นโดย เพ็ญจรัส ศรีประไพ นักเขียนด้านเทคโนโลยี

คุณสมบัติ Kill Switch ของ VPN นั้นได้รับการออกแบบมาพื่อ ปกป้องการเชื่อมต่อ VPN ของคุณจากการเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้ให้บริการ VPN บางรายมีบริการคุณสมบัติด้านความปลอดภัยนี้ ในขณะที่บางรายก็ไม่มี แต่คุณสมบัติข้อนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นหากคุณไม่ต้องการให้ข้อมูลของคุณรั่วไหลไปสู่ผู้ที่ติดตามคุณอยู่

หนึ่งในปัจจัยหลักที่ผู้ใช้งาน VPN มองหาก็คือความน่าเชื่อถือ และหากการเชื่อมต่อ VPN หยุดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม คอมพิวเตอร์ก็จะแสดง IP address ที่แท้จริง

คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นก็จะถูกเปิดเผยและกิจกรรมต่าง ๆ ก็สามารถถูกติดตามได้โดยง่าย และผู้ใช้งานก็อาจจะไม่ทราบด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นและเกิดขึ้นเมื่อใด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ให้บริการ VPN หลายรายจึงมี “Kill Switch” เพื่อช่วยแก้ปัญหานี้

พูดง่าย ๆ ก็คือ Kill Switch จะหยุดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณเมื่อการเชื่อมต่อ VPN หลุด

ลองอ่านบทความนี้เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติด้านความเป็นส่วนตัวที่สำคัญนี้ ว่ามันคืออะไร ทำไมมันจึงสำคัญ ทำไมการเชื่อมต่อ VPN ถึงหลุด จะทราบได้อย่างไรว่าผู้ให้บริการ VPN รายไหนมีบริการ kill switch และ VPN อันนี้บ้างที่ดีที่สุดและมี kill switch

Kill Switch ของ VPN เป็นคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่สำคัญ

Kill Switch ของ VPN หรือที่เรียกกันว่าเป็น Internet Kill Switch นั้นเป็นส่วนที่สำคัญของ VPN โดยมันเป็นสิ่งที่คุณอยู่ในอันดับต้น ๆ ของสิ่งที่คุณควรมองหาเมื่อพิจารณาผู้ให้บริการ VPN

มันเป็นคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ช่วยให้แน่ใจว่า IP address ที่แท้จริงของอุปกรณ์ที่คุณใช้จะไม่มีวันถูกเปิดเผย ถึงแม้ว่าการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN จะหลุดก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ดาวน์โหลดทอร์เรนต์บ่อย ๆ และผู้ใช้งาน BitTorrent หากคุณกำลังดาวน์โหลดไฟล์ทอร์เรนต์และการเชื่อมต่อ VPN หลุดไปหนึ่งวินาที ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณก็จะเห็นสิ่งที่คุณทำออนไลน์ทันที และพวกเขาสามารถลดความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณลง หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือการรายงานว่าคุณดาวน์โหลดทอร์เรนต์ Kill Switch จะช่วยตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณดังนั้นคุณก็จะไม่ถูกเปิดเผยแม้แต่วินาทีเดียว

Kill Switch ทำงานอย่างไร

Kill Switch ก็เหมือนกับกับดักนิรภัย (tripwire) ที่คอยเฝ้าระวังการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณตลอดเวลาว่ามีการเปลี่ยนสถานะหรือ IP Address หรือไม่ หากมันพบอะไรบางอย่าง เช่น การเชื่อมต่อหลุด Kill Switch ก็จะบล็อคไม่ให้อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตทันทีจนกว่าจะมีการเชื่อมต่อกับ VPN ใหม่ หรือเมื่อปิดซอฟต์แวร์ VPN

การเชื่อมต่อจะถูกบล็อคทันทีก่อนที่จะคอมพิวเตอร์หรือมือถือของคุณจะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตนอกอุโมงค์ VPN

เหตุผลหลักที่ทำให้การเชื่อมต่อ VPN หลุด

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้มีผู้ใช้งาน VPN มากขึ้นก็คือการที่ปกติแล้ว VPN มีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม เซิร์ฟเวอร์ VPN ก็อาจมีปัญหาเป็นบางครั้งบางคราวซึ่งอาจก่อให้เกิดความรำคาญใจแก่ผู้ใช้งาน

นี่คือเหตุผลหลักสามข้อที่การเชื่อมต่อ VPN หลุด:

1. ความแออัดของเครือข่ายหรือการที่สัญญาณไม่แรงพอ

เนื่องจากผู้ใช้ VPN สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในส่วนอื่น ๆ ของโลก หลายคนจึงเข้าใจผิดว่าการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในที่ที่พวกเขาอยู่นั้นไม่สำคัญ

การที่มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมากดังที่มักเกิดขึ้นในสนามบินและร้านกาแฟอาจทำให้การเชื่อมต่อ VPN ไม่เสถียร

ความแรงของสัญญาณ Wi-Fi ก็ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของการเชื่อมต่อ VPN เช่นกัน การที่สัญญาณไม่แรงอาจทำให้การเชื่อมต่อหลุดเนื่องจากมีการเสียข้อมูลมากเกินไป

2. การตั้งค่าเราเตอร์และ/หรือ Firewall

Firewall หรือโปรแกรมแอนตี้สปายแวร์และโปรแกรมแอนตี้ไวรัสของคุณอาจจะทำให้การเชื่อมต่อ VPN ของคุณหลุดได้ คุณสามารถทดสอบด้วยการปิดโปรแกรมเหล่านี้และลองเชื่อมต่อกับ VPN เซิร์ฟเวอร์ใหม่

เมื่อปิดการใช้งานแล้วและการเชื่อมต่อ VPN กลับมาเสถียร หมายความว่าคุณจะต้องเพิ่ม VPN เป็นข้อยกเว้นก่อนที่คุณจะเปิดใช้งานโปรแกรมเหล่านี้อีกครั้ง

3. โปรโตคอล VPN ที่คุณเลือกใช้

การเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์จะเสถียรกว่าเมื่อทำบนโปรโตคอล TCP แทนที่จะเป็น UDP ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้น หากการเชื่อมต่อ VPN ของคุณไม่เสถียร ลองเปลี่ยนโปรโตคอลดู

จะรู้ได้อย่างไรว่า VPN มี Kill Switch

การจะทราบว่า VPN อันไหนมี Kill Switch บ้างโดยที่ยังไม่ได้ทดลองใช้ก่อนนั้นอาจจะเป็นเรื่องยาก ผู้ให้บริการ VPN หลายรายพูดถึงคุณสมบัติข้อนี้ในรายการคุณสมบัติหรือที่ FAQ และผู้ให้บริการบางรายก็โฆษณาเทคโนโลยี Kill Switch นี้มากกว่าผู้ให้บริการรายอื่น ๆ

2 VPN ที่ดีที่สุดที่มี Kill Switch

1ExpressVPN

ไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน
มีการเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง
มี Kill Switch ที่เรียกว่า Network Lock

ExpressVPN คือ VPN ที่ดีที่สุดที่มีให้เลือกใช้ ผู้ให้บริการ VPN รายนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวและก็แสดงออกผ่านบริการที่มีคุณภาพ

Network Lock ซึ่งเป็น Kill Switch ของผู้ให้บริการรายนี้นั้นสามารถเปิดใช้งานได้ผ่านหน้าต่าง Options บนแท็บ General อย่างไรก็ตามการกำหนดค่าเริ่มต้นกำหนดให้เปิดใช้งานมาแล้ว

ทดลองใช้แบบไม่ต้องเสี่ยงตอนนี้เลย

หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเราที่ WizCase ดังนั้นคุณควรรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มการเป็นเจ้าของเดียวกับ ExpressVPN อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเราเนื่องจากเรายึดมั่นในระเบียบวิธีการทดสอบที่เข้มงวด

2Private Internet Access (PIA)

ไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน
Kill Switch
จะหยุดการเชื่อมต่อแค่ 1 เครื่องเท่านั้น

Private Internet Access เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ VPN รายแรก ๆ ที่นำคุณสมบัติ Kill Switch นี้มาใช้ ทันทีที่การเชื่อมต่อของคุณถูกรบกวน Kill Switch ของ PIA ก็จะปิดการเชื่อมต่อของคุณทันที

หากผู้ใช้งานมีการเชื่อมต่อ VPN สองเครื่องพร้อมกัน จะมีเครื่องเดียวเท่านั้นที่ถูกตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหากการเชื่อมต่อ VPN หลุด

ใช้เลย

หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเราที่ WizCase ดังนั้นคุณควรรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มการเป็นเจ้าของเดียวกับ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเราเนื่องจากเรายึดมั่นในระเบียบวิธีการทดสอบที่เข้มงวด

สรุป

ถึงแม้แต่ละคนจะมีเหตุผลในการใช้ VPN ที่แตกต่างกันไป แต่ทุกคนก็ต้องการความเป็นส่วนตัว เมื่อการเชื่อมต่อ VPN หลุด IP address ก็จะถูกเปิดเผย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมความน่าเชื่อถือจึงสำคัญที่สุด และผู้ให้บริการ VPN หลายรายก็พยายามจะรักษาชื่อเสียงของตัวเองด้วยการให้บริการ Kill Switch ที่มีความน่าเชื่อถือ 99.9%

สรุป — นี่คือ VPN ที่ดีที่สุดพร้อม Kill Switch ในปี 2024

อันดับ

ผู้ให้บริการ

คะแนนของเรา

ราคา

อันดับสูงสุด ตัวเลือกยอดนิยม

9.8

อ่านรีวิว

$ 6.67 / month ประหยัด 49%

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

เริ่มต้น >>

9.4