M7111-5059 ข้อผิดพลาดพร็อกซี Netflix: วิธีแก้

หากคุณถูกจับได้ว่ากำลังพยายามเปลี่ยนตำแหน่งของ Netflix ของคุณโดยใช้โปรแกรม VPN ข้อความผิดพลาดพร็อกซีจะป้องกันคุณจากการสตรีมมิ่งเนื้อหาที่ไม่ได้รับอนุญาตในตำแหน่งของคุณ

ข้อกำหนดการใช้งานของ Netflix ระบุว่าความพร้อมให้บริการของเนื้อหาอาจแตกต่างกันตามภูมิภาค นั่นเป็นเพราะมันต้องซื้อลิขสิทธิ์ของรายการและภาพยนตร์ในทุกประเทศที่มันต้องการฉาย ผู้ถือลิขสิทธิ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้กดดันบริการอย่าง Netflix ให้หยุดผู้ใช้บริการจากการใช้ “เครื่องมือปิดกั้น” เพื่อสตรีมเนื้อหานอกประเทศที่กำหนดเพราะมันละเมิดข้อตกลงเหล่านี้

ในปี 2016 Netflix ได้ประกาศว่ามันจะปิดกั้นโปรแกรม VPN และพร็อกซี:

หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเราที่ WizCase ดังนั้นคุณควรรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มการเป็นเจ้าของเดียวกับ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเราเนื่องจากเรายึดมั่นในระเบียบวิธีการทดสอบที่เข้มงวด

ข่าวดีก็คือโปรแกรม VPN ที่ดีที่สุดยังคงสามารถหลีกเลี่ยงการปิดกั้นเหล่านี้ได้ นั่นก็เพราะผู้ให้บริการพรีเมียมอย่าง ExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์3000 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกและการเข้ารหัสที่ดีที่สุดในการช่วยคุณหลีกเลี่ยงการตรวจจับ แม้ว่าจะมีบางเซิร์ฟเวอร์ถูกแบนโดย Netflix แต่คุณก็สามารถสลับไปใช้หนึ่งในตัวเลือกอื่น ๆ ของ ExpressVPN เพื่อเชื่อมต่อได้ ด้วยฟีเจอร์เหล่านี้ มันหมายความว่าคุณจะสามารถเชื่อมต่อที่เสถียรในการสตรีม Netflix ด้วย ExpressVPN ได้เสมอ

แม้ว่าโปรแกรม VPN ฟรีมากมายจะบอกว่าพวกเขาสามารถสตรีม Netflix ได้ แต่ความจริงก็คือโปรแกรมส่วนใหญ่มีเทคโนโลยีที่อ่อนแอที่พวกเขาไม่สามารถให้คุณสตรีมหรือดูแลให้คุณปลอดภัย

ฉันทดสอบบริการฟรีที่ดีที่สุดในตลาด เช่น Windscribe, Hotspot Shield, TunnelBear และ Hide.me และพบว่าโปรแกรมส่วนใหญ่ไม่สามารถสตรีมเว็บไซต์ของ Netflix ได้ มีไม่กี่ครั้งที่ฉันสามารถดู Netflix ได้ แต่บริการเหล่านี้มอบประสบการณ์การสตรีมมิ่งที่ย่ำแย่กับฉัน นี่เป็นเพราะ:

1. ความเร็วที่ช้าและแบนด์วิดธ์ที่จำกัด: บริการฟรีมอบแบนด์วิดธ์ที่จำกัดและการดาวน์โหลดที่ช้า นี่หมายความว่าคุณจะประสบกับการกระตุกที่น่ารำคาญใจมากมาย – แม้ว่ามันจะมอบแบนด์วิดธ์ให้กับคุณมากพอที่จะรับชมภาพยนตร์เต็มเรื่อง แต่บริการฟรีมากมายจะมอบข้อมูลที่ใช้งานได้กับคุณเพียง 500MB ต่อวันซึ่งเท่ากับการสตรีมมิ่งในความคมชัดระดับ HD เพียง 15 นาทีเท่านั้น (ไม่เพียงพอแม้สำหรับการรับชมรายการโทรทัศน์เพียงตอนเดียวด้วยซ้ำ!)
2. เซิร์ฟเวอร์จำกัด: โปรแกรม VPN ฟรีส่วนใหญ่จำกัดเซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมให้บริการกับผู้ใช้งานฟรีเพื่อกระตุ้นให้พวกเขาอัปเกรด แต่เนื่องจาก Netflix พยายามระบุและขึ้นบัญชีดำหมายเลข IP ที่เกี่ยวข้องกับ “เครื่องมือปิดกั้น” อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นข้อจำกัดนี้จึงหมายความได้ว่าคุณอาจไม่สามารถก้าวข้ามข้อผิดพลาดพร็อกซีได้

นอกจากประสิทธิภาพที่ย่ำแย่แล้ว สิ่งที่ฉันกังวลอย่างยิ่งตอนที่ใช้งานโปรแกรม VPN ฟรีคือเรื่องของความปลอดภัย ผู้ให้บริการ VPN ฟรีนั้นขึ้นชื่อเรื่องบันทึกและขายข้อมูลผู้ใช้งานให้กับนักโฆษณาและบุคคลที่สามที่ไม่รู้จักอื่น ๆ ซึ่งทำให้ความเป็นส่วนตัวของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง พวกเขายังอาจทำให้คุณต้องพบกับภัยคุกคามอื่น ๆ อย่างมัลแวร์และการฉ้อโกงอีกด้วย

หากคุณต้องการดู Netflix โดยใช้โปรแกรม VPN ฟรีเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ทำไมไม่ลองใช้ประโยชน์จากนโยบายคืนเงินของบริการพรีเมียมดูล่ะ ฉันแนะนำให้คุณทดลองใช้งาน ExpressVPN ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 45 วัน ง่าย ๆ เพียงขอเงินคืนภายในช่วงระยะเวลาดังกล่าวและคุณจะสามารถรับชมรายการที่คุณชื่นชอบทั้งหมดได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว!

ไม่ จนถึงตอนนี้ทีมงานและฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่า Netflix แบนผู้ใช้ที่ใช้โปรแกรม VPN คุณแค่จะได้รับข้อความผิดพลาดพร็อกซีของ Netflix ที่น่ารำคาญซึ่งจะป้องกันไม่ให้คุณสตรีมมิ่งเนื้อหาใด ๆ ได้ (แม้ว่าจะมีวิธีในการหลีกเลี่ยงการปิดกั้นก็ตาม)

โปรดทราบว่าข้อกำหนดการใช้งานนั้นระบุว่า Netflix อาจจำกัดบัญชีของคุณโดยไม่มีการชดเชยหรือแจ้งให้ทราบหากคุณมีส่วนร่วมในการใช้งานที่ “ไม่เหมาะสม” อย่างไรก็ตาม มันยังไม่แน่ชัดว่า “ไม่เหมาะสม” ที่ใช้นั้นหมายความว่าอะไร (และการใช้โปรแกรม VPN อยู่ภายใต้สิ่งนี้หรือไม่)

การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดพร็อกซีบนอุปกรณ์เหล่านี้นั้นง่ายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คุณคิด – แม้ว่าขั้นตอนนั้นอาจแตกต่างกันไปตามระบบปฏิบัติการของคุณก็ตาม

อย่างแรกคือคุณจะต้องมีโปรแกรม VPN ที่ได้รับการพิสูจน์เรื่องความสามารถในการแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาพร็อกซีได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงประเภทของอุปกรณ์ที่คุณมี จากการทดสอบโดยละเอียดของฉัน บริการที่สตรีม Netflix ได้ดีที่สุดคือ ExpressVPN เนื่องจากเทคโนโลยีขั้นสูงและความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย ฉันแนะนำให้คุณดาวน์โหลดแอปโดยตรงจากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ – หากคุณดาวน์โหลดแอปจาก App Store คุณจะต้องรับมือกับผู้ให้บริการบุคคลที่สามและความล่าช้าหากคุณต้องการเงินคืนในภายหลัง

ขั้นตอนต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์ที่คุณมี ExpressVPN มีแอปเฉพาะที่ติดตั้งได้ง่ายสำหรับ iPhone, Android, Fire Stick, Android Smart TV บางรุ่นและอุปกรณ์อื่น ๆ หลังจากที่คุณปฏิบัติตามคำแนะนำในการติดตั้งแล้ว ให้เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในประเทศที่คุณต้องการสตรีมเนื้อหา จากนั้นให้ค้นหารายการและเริ่มต้นสตรีมได้ทันที!

สำหรับ Smart TV ส่วนใหญ่ คุณจะต้องติดตั้งโปรแกรม VPN บนเราเตอร์ของคุณ การดำเนินการนี้จะมอบการเข้ารหัส VPN สำหรับทุกอุปกรณ์ที่คุณเชื่อมต่อกับ WiFi ของคุณ เพื่อรับชม Netflix บน Apple TV ของคุณ คุณสามารถใช้ Smart DNS เพื่อเปลี่ยนเส้นทางโทรทัศน์ของคุณไปผ่านเซิร์ฟเวอร์ DNS นี่ทำให้คุณปลดบล็อก Netflix ของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้ หากคุณต้องการคลังข้อมูลอื่น การติดตั้งบนเราเตอร์จะมอบตัวเลือกให้กับคุณมากยิ่งขึ้น

หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่เฉพาะเจาะจง คุณสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ ExpressVPN ผ่านแชทออนไลน์บนเว็บไซต์ได้เสมอ โดยปกติแล้วพวกเขาจะตอบกลับภายในเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีและตอบกลับคำถามใด ๆ ของฉันอย่างรวดเร็วเสมอ!

Netflix อัปเดตเทคโนโลยีเพื่อขึ้นบัญชีดำเซิร์ฟเวอร์ VPN อยู่เป็นประจำ แต่มันก็ไม่มีอะไรบ่งบอกได้แน่ชัดว่ามันทำงานอย่างไรกันแน่ เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ บางทีมันอาจใช้การผสมผสานของบัญชีดำหมายเลข IP และตัวกรอง DNS เพื่อปิดกั้นการเชื่อมต่อพร็อกซี มันทำแบบนั้นเพื่อบังคับใช้ข้อตกลงลิขสิทธิ์

หมายเลข IP ของคุณคือชุดหมายเลขที่ถูกกำหนดมาให้กับอุปกรณ์ของคุณซึ่งมันจะบอกเว็บไซต์ว่าอุปกรณ์นั้นอยู่ที่ไหน โปรแกรม VPN ใช้การเข้ารหัสและการเปลี่ยนเส้นทางเพื่อปิดบังตำแหน่งที่แท้จริงของคุณด้วยหมายเลข IP จากเซิร์ฟเวอร์ VPN โดยปกติแล้วการทำแบบนี้จะทำให้เว็บไซต์เข้าใจผิดเกี่ยวกับตำแหน่งที่คุณอยู่

อย่างไรก็ตามแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งบางแพลตฟอร์มใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่อาจทราบหมายเลข IP ที่ได้รับจาก VPN นั้นมาจากศูนย์ข้อมูล ไม่ใช่พักอาศัยส่วนบุคคล Netflix มักขึ้นบัญชีดำหมายเลข IP ที่ไม่ใช่ที่พักอาศัยมากมาย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องใช้โปรแกรม VPN ที่มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่เพื่อที่คุณจะได้มีตัวเลือกหมายเลข IP จำนวนมากเพื่อก้าวข้ามการปิดกั้นเหล่านี้

Netflix ยังใช้ตัวกรอง DNS เพื่อค้นหาว่าตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ DNS และหมายเลข IP ของคุณมาจากตำแหน่งเดียวกันหรือไม่อีกด้วย เมื่อคุณเชื่อมต่อกับ Netflix เบราว์เซอร์ของคุณจะส่งคำขอ DNS ไปยังเซิร์ฟเวอร์ซึ่งจะส่งหมายเลข IP สำหรับรายการหรือภาพยนตร์ที่คุณต้องการรับชมมายังอุปกรณ์ของคุณ หากโปรแกรม VPN หรือพร็อกซีที่คุณใช้ไม่เปลี่ยนเส้นทางคำขอ DNS ของคุณ Netflix จะสามารถดูได้ว่ามันไม่ตรงกับหมายเลข IP ที่ได้รับจาก VPN – และจะปิดกั้นการเชื่อมต่อของคุณ

เพื่อหลีกเลี่ยงเทคโนโลยีการตรวจจับของ Netflix อย่างชาญฉลาด ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกโปรแกรม VPN คุณภาพสูงที่ปิดบังคำขอ DNS และหมายเลข IP ของคุณ

แม้ว่า Netflix จะไม่ได้อธิบายว่าทำไมพวกไม่รวม “โปรแกรม VPN” เข้าไปในข้อความผิดพลาดด้วย แต่บางทีมันอาจจะเป็นเพราะโปรแกรม VPN นั้นไม่ได้มีไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดกั้นเนื้อหา มันได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้กับคุณเป็นหลัก ในทางกลับกันเซิร์ฟเวอร์พร็อกซีและบริการเครื่องมือปิดกั้นนั้นถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเป็นหลัก

ตอนที่ฉันค้นหาหน้าช่วยเหลือของ Netflix เกี่ยวกับข้อผิดพลาดพร็อกซี ฉันก็พบว่ามีการระบุเกี่ยวกับการใช้โปรแกรม VPN ในหน้าช่วยเหลือ:

หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเราที่ WizCase ดังนั้นคุณควรรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มการเป็นเจ้าของเดียวกับ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเราเนื่องจากเรายึดมั่นในระเบียบวิธีการทดสอบที่เข้มงวด

โชคดีที่บริการอย่าง ExpressVPN สามารถก้าวข้ามเทคโนโลยีการตรวจจับอันแข็งแกร่งของ Netflix ได้ นี่เป็นเพราะมันใช้การเข้ารหัสระดับเดียวกันกับองค์กรทางทหารและมีการป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ IP เพื่อหยุดไม่ให้ Netflix มองเห็นตำแหน่ง คำขอ DNS และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ของคุณ

หาก Netflix กำลังปิดกั้นคุณเพราะการใช้งานโปรแกรม VPN หรือพร็อกซี แต่คุณไม่ได้ใช้ มีสองสามวิธีที่คุณสามารถทำเพื่อแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาดพร็อกซี

ประการแรกให้ลองเชื่อมต่อ Netflix บนอุปกรณ์อื่น ๆ ในขณะที่ใช้เครือข่าย WiFi เดียวกัน หากคุณสามารถสตรีม Netflix ได้โดยไม่เห็นข้อผิดพลาดพร็อกซี งั้นปัญหาก็คืออุปกรณ์ของคุณ คุณสามารถลองรีสตาร์ทมันและติดตั้งแอป Netflix ดูอีกครั้งหนึ่งได้

หาก Netflix ยังคงไม่ทำงานในอุปกรณ์อื่น ๆ คุณอาจมีปัญหากับหมายเลข IP ของคุณ หนึ่งในสาเหตุหลักของข้อผิดพลาดนี้คือมัลแวร์ ให้ลองใช้ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่น่าเชื่อถือเพื่อดูว่าคุณสามารถหาและกำจัดไฟล์มัลแวร์ที่เป็นอันตรายออกไปได้ไหม เมื่อลบไฟล์ดังกล่าวออกแล้ว ให้คุณรีสตาร์ทอุปกรณ์และลองเชื่อมต่อ Netflix ดูอีกครั้ง

หากไม่มีมัลแวร์บนอุปกรณ์ของคุณ งั้น Netflix อาจปิดกั้นหมายเลข IP ของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจ คุณสามารถติดต่อ ISP ของคุณและขอให้พวกเขาติดต่อ Netflix เพื่อดูว่าหมายเลข IP ของคุณได้รับอนุญาตหรือไม่ น่าเสียดายที่การดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องนี้อาจกินเวลานาน – หากคุณไม่ต้องการรอ คุณสามารถใช้โปรแกรม VPN คุณภาพเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดกั้นของ Netflix ได้ บริการอย่าง ExpressVPN จะปิดบังหมายเลข IP ที่ถูกปิดกั้นของคุณเพื่อที่คุณจะได้สามารถเริ่มต้นสตรีมมิ่ง Netflix ได้อย่างรวดเร็ว

Netflix มีภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ให้บริการมากมายในทุกประเทศ – โปรแกรม VPN ที่ดีที่สุดจะให้สิทธิ์ในการสตรีมเนื้อหา Netflix ที่คุณต้องการไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน

มันเป็นเรื่องน่าผิดหวังตอนที่ฉันไม่สามารถรับชมรายการยอดนิยมที่สุดบน Netflix ได้เพียงเพราะฉันไม่ได้อยู่ในประเทศที่มีให้บริการ คลังข้อมูล Netflix ของฉันคือสหราชอาณาจักรซึ่งก็ไม่ได้แย่นัก แต่มันก็ยังเล็กกว่า Netflix ของสหรัฐอเมริกาอยู่ดี ฉันอยากได้สิทธิ์ในการเชื่อมต่อตอนใหม่ทันทีมากกว่าที่จะต้องมานั่งรอ ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเพราะฉันก็จ่ายเงินเต็มราคา แต่ฉันกลับไม่ได้รับสิทธิ์ในการรับชมเนื้อหาเดียวกันทั้งหมดในเวลาเดียวกันเพราะสถานที่ที่ฉันพำนักอาศัย

ด้วยโปรแกรม VPN คุณจะสามารถรับชมเนื้อหาที่พิเศษเฉพาะคลังข้อมูลของ Netflix ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ได้ ฉันแนะนำให้คุณทดลองใช้ ExpressVPN สำหรับความเร็วการสตรีมมิ่งที่รวดเร็วและเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ทั่วโลก แถมคุณยังสามารถทดลองใช้งานมันได้โดยไม่มีความเสี่ยงโดยใช้การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน

Netflix ทำงานเรื่องการตรวจจับและการปิดกั้นพร็อกซีได้ดีเป็นอย่างยิ่ง ฉันทดสอบผู้ให้บริการมากมายและพบว่าแม้แต่เซิร์ฟเวอร์พร็อกซีที่ดีที่สุดก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับได้

แม้ว่าพร็อกซีจะปิดบังหมายเลข IP และเปลี่ยนเส้นทางการเชื่อมต่อของคุณไปที่เซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ แต่มันก็ไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อของคุณเหมือนกับที่โปรแกรม VPN ทำ เมื่อไม่มีการเข้ารหัส Netflix จึงสามารถตรวจจับได้ว่าการเชื่อมต่อนั้นเป็นพร็อกซีและปิดกั้นมันได้อย่างง่ายดาย

การเข้ารหัสของโปรแกรม VPN และฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ ทำให้ Netflix ตรวจจับมันได้ยากกว่า แถมการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยของโปรแกรม VPN จะป้องกันคุณจากแฮ็กเกอร์และอันตรายอื่น ๆ บนอินเทอร์เน็ตด้วย!

ได้ แต่เฉพาะโปรแกรม VPN ที่มี Split Tunneling หรือฟีเจอร์รายการที่อนุญาตเท่านั้น

โปรแกรม VPN ยอดเยี่ยมในรายการนี้มีฟีเจอร์เหล่านี้ให้บริการ การกำหนดค่าเหล่านี้จะอนุญาตให้คุณเลือกว่าเว็บไซต์หรือแอปใดที่จะต้องผ่านและไม่ผ่านการเชื่อมต่อ VPN ของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเลือกให้ Netflix ไม่ต้องผ่านการครอบคลุม VPN เพื่อที่แอปหรือเว็บไซต์จะได้สามารถใช้งานได้ราวกับว่า VPN ของคุณถูกปิดใช้งานอยู่ การทำสิ่งนี้จะมอบสิทธิ์ในการเชื่อมต่อคลังข้อมูลของ Netflix ในท้องถิ่นกับคุณ แต่คุณก็สามารถสตรีมเว็บไซต์อื่น ๆ ทั้งหมดผ่านโปรแกรม VPN ได้

ExpressVPN มีฟีเจอร์ Split Tunneling ในแอปเฉพาะสำหรับ Android ฉันทดสอบมันบนสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S10 ของฉันและฉันสามารถรับชม Netflix ของสหราชอาณาจักรในขณะที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกาได้ คุณสามารถเปิดใช้งาน Split Tunneling ได้โดยการแตะที่ไอคอนรูปเฟืองที่ด้านบนมุมซ้ายของแอปและเชื่อมต่อกับ “บัญชีของฉันและการตั้งค่า”

การรับชม Netflix ในขณะที่คุณอยู่ต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องง่าย – แค่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณดาวน์โหลดโปรแกรม VPN คุณภาพสูงลงอุปกรณ์ของคุณก่อนที่คุณจะเดินทางเรียบร้อยแล้ว หากคุณรอจนกระทั่งคุณเดินทางถึงประเทศที่มีข้อจำกัดหรือการสอดส่องที่เข้มงวด เว็บไซต์ผู้ให้บริการโปรแกรม VPN อาจจะถูกปิดกั้น

ฉันแนะนำให้ใช้ ExpressVPN เพราะมันเป็นหนึ่งในโปรแกรม VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ Windows, MacBooks, สมาร์ทโฟน Android, iPhone และอุปกรณ์พกพาอื่น ๆ หากที่ที่คุณกำลังจะเดินทางไปมี Smart TV คุณสามารถใช้ Fire Stick ที่มี ExpressVPN เพื่อสตรีมเนื้อหา Netflix ที่คุณต้องการได้