6 เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024
การค้นหาเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ไว้วางใจได้ที่เปิดให้บริการฟรีและไม่มีข้อจำกัดอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย คุณมักจะได้รับแค่ฟีเจอร์พื้นฐานและพบการพยายามขายอย่างต่อเนื่องอยู่บ่อย ๆ ดังนั้นเราจึงทดสอบเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีทั้งหมดที่เราสามารถหามาได้และจำกัดรายการเหล่านั้นให้เหลือเพียงตัวเลือกฟรีที่ดีที่สุดเท่านั้น
เราพิจารณาเฉพาะแอปที่มีความปลอดภัยมากที่สุดเท่านั้น นี่ก็เพราะเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีมากมายไม่ได้ปลอดภัยสำหรับการใช้งานจริง ๆ นี่หมายความว่าซอฟต์แวร์เหล่านั้นมักมีช่องโหว่สำหรับการโจมตี ในขณะที่บางซอฟต์แวร์ก็เป็นสปายแวร์ที่ปลอมตัวมาในรูปแบบของเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยฟรีจริง ๆ อยู่บ้างที่มาพร้อมกับแอปที่ใช้งานง่ายและฟีเจอร์ที่ให้คุณสามารถใช้มันเพื่อจัดระเบียบรหัสผ่านทั้งหมดของคุณ
เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีมักเสนอความปลอดภัยระดับสูงและความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่คุณจะไม่สามารถพูดแบบเดียวกันนี้กับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านภายในตัวของ Chrome และ Apple ได้ หลังจากที่ทดสอบตัวเลือกต่าง ๆ มากกว่า 20 ตัวเลือก แผนให้บริการฟรีของ Dashlane คือตัวเลือกอันดับหนึ่งของเราเพราะความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและฟีเจอร์เสริม
คำแนะนำลัด: 6 เครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยและฟรีจริง ๆ
- Dashlane – เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีโดยรวมที่ดีที่สุดที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยม
- NordPass – มาตรการความปลอดภัยมากมายที่จะดูแลให้รหัสผ่านของคุณปลอดภัย แต่เวอร์ชันฟรีไม่รองรับการแบ่งปันรหัสผ่าน
- RoboForm – ความสามารถในการกรอกแบบฟอร์มที่ยอดเยี่ยม แต่ขาด 2FA
- Keeper – พื้นที่จัดเก็บข้อมูลในเครื่องไม่จำกัดสำหรับรหัสผ่าน แต่ไม่สามารถกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติได้
- Sticky Password – มีส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับเบราว์เซอร์ที่หายาก แต่คุณไม่สามารถแบ่งปันรหัสผ่านได้
- LastPass – รองรับการซิงค์อุปกรณ์ 1 ประเภทแบบไม่จำกัด แต่ไม่มีเครื่องมือตรวจสอบสุขภาพของรหัสผ่าน
เครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยและฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024
1. Dashlane – เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024
ฟีเจอร์หลัก:
- การเข้ารหัส AES-256 บิตเพื่อดูแลรหัสผ่านของคุณให้ปลอดภัย
- จัดเก็บรหัสผ่านได้สูงสุดถึง 50 รหัสผ่านในตู้นิรภัยเข้ารหัส
- การกรอกรหัสผ่านอัตโนมัติบนเว็บไซต์ต่าง ๆ
- เครื่องมือตรวจสอบสุขภาพของรหัสผ่าน (Password Health)
- แบ่งปันรหัสผ่านกับผู้ใช้รายอื่น ๆ ได้ถึง 5 ผู้ใช้
Dashlane เป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีที่ดีที่สุดที่มีให้บริการ แผนให้บริการของ Dashlane ทั้งหมดมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยมากมาย เช่น การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) และการเข้ารหัสระดับทหาร AES-256 บิตซึ่งเป็นรูปแบบการเข้ารหัสที่น่าเชื่อถือที่สุดที่ธนาคารและองค์กรทหารใช้เพื่อป้องกันข้อมูลของตน
ฉันชอบที่เวอร์ชันฟรีของ Dashlane มอบสิทธิ์ในการเข้าถึงฟีเจอร์เกือบทั้งหมดที่มีให้บริการในแผนให้บริการพรีเมียมกับคุณ คุณจะได้รับฟีเจอร์ดังต่อไปนี้ฟรี:
- เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน — ช่วยให้คุณสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันบัญชีของคุณ
- การกรอกแบบฟอร์มและบันทึกอัตโนมัติ — กรอกข้อมูลลงชื่อเข้าใช้และข้อมูลชำระเงินบนเว็บไซต์ใด ๆ อย่างรวดเร็วโดยอัตโนมัติ
- การแบ่งปันรหัสผ่าน — แบ่งปันข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณกับผู้ใช้รายอื่น ๆ ฟรี
- การตรวจสอบรหัสผ่าน — ตรวจสอบว่ารหัสผ่านของคุณแข็งแกร่งแค่ไหน
- การตรวจสอบเว็บมืด — รับการแจ้งเตือนหากข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ใด ๆ ของคุณถูกรุกล้ำในการรั่วไหลของข้อมูล
- สิทธิ์ในการเข้าถึงฉุกเฉิน — อนุญาตให้ผู้ใช้ที่ไว้วางใจได้เข้าถึงบัญชีของคุณหากคุณไม่สามารถเข้าถึงได้
Dashlane ใช้งานได้ง่าย แม้ว่าคุณจะไม่เคยใช้เครื่องมือจัดการรหาผ่านมาก่อน การลงทะเบียนนั้นเรียบง่ายและภายในไม่กี่วินาที เราก็สามารถนำเข้าข้อมูลลงชื่อทั้งหมดของเราได้แล้ว คุณสามารถใช้ Dashlane บนอุปกรณ์ iOS และ Android หรือเดสก์ท็อปผ่านส่วนขยายเว็บไซต์สำหรับ Chrome, Firefox, Edge, Opera และ Safari ได้
ข้อเสียอย่างหนึ่งสำหรับแผนให้บริการฟรีคือคุณสามารถจัดเก็บรหัสผ่านได้เพียง 50 รหัสผ่านเท่านั้นและสามารถใช้งานได้เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้นต่อครั้ง ข้อจำกัดอีกอย่างหนึ่งคือคุณสามารถแบ่งปันรหัสผ่านกับผู้ใช้ได้อีกเพียงแค่ 5 รายเท่านั้น ในขณะที่ Dashlane Premium ให้คุณแบ่งปันรหัสผ่านกับผู้ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวน
ฉันแนะนำให้อัปเกรดเป็นแผนให้บริการแบบพรีเมียมเนื่องจากมันเสนอฟีเจอร์มากกว่าและไม่มีข้อจำกัด ฉันต้องอัปเกรดเป็นแผนให้บริการแบบพรีเมียมเพราะฉันมีรหัสผ่านมากกว่า 50 รหัสผ่านบนอุปกรณ์ต่าง ๆ และเวอร์ชันพรีเมียมก็รองรับการจัดการรหัสผ่านแบบไม่จำกัด นอกจากนี้มันยังรองรับการตรวจสอบเว็บมืดเพื่อตรวจสอบว่ารหัสผ่านของฉันรั่วไหลในการละเมิดข้อมูลหรือไม่ การซิงค์กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่จำกัด เครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านอัตโนมัติและ VPN
โชคดีที่คุณสามารถลองใช้ Dashlane Premium เป็นระยะเวลา 30 วันได้โดยปราศจากความเสี่ยง ฉันจัดการกับรหัสผ่านของฉันทั้งหมดได้ตอนที่ฉันลงทะเบียนสำหรับช่วงเวลาทดลองใช้งานแผนให้บริการพรีเมียมและก็พึงพอใจกับบริการโดยรวมที่ฉันได้รับ
2. NordPass – การเข้ารหัสอันล้ำสมัยที่มาพร้อมกับสุดยอดฟีเจอร์
ฟีเจอร์หลัก:
- การเข้ารหัส XChaCha20 เพื่อป้องกันข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณ
- สถาปัตยกรรมความปลอดภัยแบบความรู้เป็นศูนย์
- กรอกข้อมูลอัตโนมัติและบันทึกข้อมูลลงชื่อเข้าใช้บนแบบฟอร์มบนเว็บได้ง่าย ๆ
- การยืนยันตัวตนหลายขั้นตอนเพื่อป้องกันข้อมูลอันล้ำค่าของคุณ
- การซิงค์เข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ
NordPass คือเครื่องจัดการรหัสผ่านที่เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัวที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมและความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง สถาปัตยกรรมแบบความรู้เป็นศูนย์และฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากมายทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการจัดเก็บรหัสผ่านและข้อมูลลงชื่อเข้าใช้อื่น ๆ ของคุณ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ NordPass ไม่เหมือนใครคือการปรับใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัย สำหรับผู้เริ่มต้น มันใช้การเข้ารหัส XChaCha20 อันล้ำสมัยซึ่งเป็นอัลกอริทึมการเข้ารหัสล่าสุดและมีความปลอดภัยเทียบเท่ากับการเข้ารหัสมาตรฐาน AES-256 บิต ข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของ XChaCha20 คือมันใช้เวลาในการเข้ารหัสข้อมูลน้อยกว่าเพราะมันใช้ทรัพยากรน้อยกว่า แต่ยังคงความปลอดภัยเอาไว้ในระดับสูง
NordPass มีฟีเจอร์มากมายและเปิดให้บริการฟีเจอร์เหล่านี้บนเวอร์ชันฟรี:
- เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน — สร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่งที่จะป้องกันบัญชีของคุณ
- ตู้รนิภัยจัดเก็บข้อมูลเข้ารหัส — เก็บรหัสผ่านทั้งหมดของคุณเอาไว้ในตู้นิรภัยที่มีการป้องกันระดับชั้นนำ
- การกรอกแบบฟอร์มและบันทึกอัตโนมัติ — กรอกข้อมูลลงชื่อเข้าใช้และข้อมูลชำระเงินบนเว็บไซต์ใด ๆ อย่างรวดเร็วโดยอัตโนมัติ
- การซิงค์ข้อมูลโดยอัตโนมัติ — ใช้รหัสผ่านของคุณบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันได้
- การยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน — เพิ่มชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อป้องกันข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ทั้งหมดในตู้นิรภัยของคุณ
เราชอบที่การใช้งาน NordPass นั้นเป็นเรื่องง่ายมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกรอกแบบฟอร์มบนเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ ใช้เวลาเพียงสองสามนาทีในการติดตั้งและตั้งค่าแอปบนอุปกรณ์ทั้งหมด คุณสามารถใช้ NordPass บน Windows, Linux, macOS, iOS และ Android ได้ นอกจากนี้มันยังมีส่วนขยายสำหรับเบราว์เซอร์ยอดนิยมทั้งหมดซึ่งรวมถึง Chrome, Edge, Firefox, Opera, Brave และ Safari
แม้ว่า NordPass จะมีฟีเจอร์ดี ๆ อยู่เพียบ แต่เวอร์ชันฟรีก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างเล็กน้อย เรื่องแรกคือคุณสามารถใช้มันได้เพียง 1 อุปกรณ์ต่อครั้งเท่านั้นซึ่งทำให้คุณไม่สามารถใช้ข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณบนอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ เรื่องที่สองคือ NordPass Free ไม่ให้คุณตรวจสอบสุขภาพของรหัสผ่านของคุณและมันยังไม่แจ้งเตือนให้คุณทราบด้วยหากมีการตรวจพบข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณในการรั่วไหลของข้อมูล สุดท้ายคือมันไม่รองรับการแบ่งปันรหัสผ่านและไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงฉุกเฉิน ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถมอบสิทธิ์ให้บุคคลอื่นเข้าถึงข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณได้
โดยรวมแล้ว NordPass Free เสนอเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการจัดการรหัสผ่านของคุณ เมื่อพิจารณาถึงพื้นที่จัดเก็บรหัสผ่านที่ไม่จำกัด ความปลอดภัยระดับทหารและความสามารถในการกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติที่ยอดเยี่ยม ก็เท่ากับว่าคุณจะสามารถใช้งานมันแบบพื้นฐานได้ แต่ถึงอย่างนั้นหากคุณต้องการเข้าถึงฟีเจอร์ขั้นสูงทั้งหมดอย่างเครื่องสแกนการรั่วไหลของข้อมูลและอุปกรณ์แบบไม่จำกัด คุณควรลองใช้ NordPass เวอร์ชันพรีเมียมโดยใช้เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 30 วันและการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
รับข้อเสนอวันคริสต์มาสจาก NordPass! รับการปกป้องความปลอดภัยของคุณด้วยส่วนลด % สำหรับ NordPass Premium และรับ 3 เดือนฟรี! รีบและตรวจสอบข้อเสนอที่นี่!
3. RoboForm – กรอกแบบฟอร์มที่ซับซ้อนโดยอัตโนมัติได้อย่างราบรื่น
ฟีเจอร์หลัก:
- การเข้ารหัส AES-256 บิต
- ความสามารถในการกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติที่ยอดเยี่ยม
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลรหัสผ่านไม่จำกัด
- การตรวจสอบรหัสผ่าน
- แอปเฉพาะสำหรับระบบปฏิบัติการยอดนิยม
RoboForm เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีที่มาพร้อมกับความสามารถในการกรอกแบบฟอร์มที่ยอดเยี่ยม เช่นเดียวกันกับ Dashlane มันใช้การเข้ารหัสระดับทหาร AES-256 บิตเพื่อป้องกันการลงชื่อเข้าใช้ทั้งหมดในตู้นิรภัยของคุณ ฉันมีความสุขที่ได้พบว่าเวอร์ชันฟรีของ RoboForm ไม่ได้มีข้อจำกัดมากมายนักเหมือนกับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านยอดนิยมอื่น ๆ
นี่คือสิ่งที่ RoboForm เวอร์ชันฟรีมีให้บริการ:
- ไม่จำกัดรหัสผ่าน — จัดเก็บรหัสผ่าน ข้อมูลชำระเงินและข้อมูลอื่น ๆ เอาไว้ในตู้นิรภัยที่ปลอดภัย
- การตรวจสอบรหัสผ่าน — ตรวจสอบว่าภาพรวมสุขภาพของข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลดังกล่าวไม่มีช่องโหว่
- การแบ่งปันรหัสผ่าน — แบ่งปันรหัสผ่านของคุณกับครอบครัวหรือเพื่อน ๆ ได้หากพวกเขามีบัญชี RoboForm
- การจัดการบุ๊กมาร์ก — ช่วยคุณจัดเก็บและจัดการบุ๊กมาร์กบนเว็บไซต์ทั้งหมดของคุณ
เราชอบความเรียบง่ายของแอป RoboForm และความง่ายในการป้อนเว็บไซต์ที่ซับซ้อนโดยอัตโนมัติ RoboForm มีแอปเฉพาะสำหรับ Windows, macOS, Android, iOS, Linux และส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับเบราว์เซอร์ยอดนิยมทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างเล็กน้อยในเวอร์ชันฟรี
RoboForm Free ไม่รองรับการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) ดังนั้นจึงไม่มีวิธีการในการเพิ่มชั้นการป้องกันเพิ่มเติมได้หากมีใครบางคนทราบรหัสผ่านมาสเตอร์ของคุณ 2FA เป็นฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน รหัสผ่านของคุณอาจมีช่องโหว่และข้อมูลของคุณอาจถูกรุกล้ำได้ถ้าไม่มีการยืนยันดังกล่าว RoboForm Free ยังไม่รองรับการสำรองข้อมูลบนคลาวด์ การแบ่งปันโฟลเดอร์ที่ปลอดภัย สิทธิ์ในการเข้าถึงเว็บไซต์ ไม่สามารถให้สิทธิ์ในการเข้าถึงแบบฉุกเฉินและซิงค์ได้เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้น
โดยรวมแล้ว RoboForm เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีที่ดีที่มอบอิสระภาพในการใช้ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ฟรี อย่างไรก็ตามเนื่องจากไม่มีฟีเจอร์บางอย่างจึงทำให้ไม่เหมาะกับผู้ใช้บางราย ฉันชอบเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่รองรับ 2FA และซิงค์กับอุปกรณ์ทั้งหมดของฉัน
RoboForm Everywhere; บริการพรีเมียมที่ตอบโจทย์ความต้องการและอื่น ๆ อีกมากมาย เราไม่คิดมากเรื่องที่จะต้องจ่ายเงินเล็กน้อย เมื่อคุณลงทะเบียนใช้ RoboForm Free คุณจะได้รับเวอร์ชันทดลองใช้งานแผนให้บริการพรีเมียม (RoboForm Everywhere) ฟรี 30 วันโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ RoboForm Everywhere ยังมีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันที่ให้คุณทดสอบบริการทั้งหมดได้โดยไม่มีความเสี่ยง
4. Keeper – จัดเก็บรหัสผ่านได้ไม่จำกัดสำหรับ 1 อุปกรณ์
ฟีเจอร์หลัก:
- การเข้ารหัส AES-256 บิตเพื่อป้องกันตู้นิรภัยของคุณ
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลรหัสผ่านไม่จำกัด
- เครื่องมือสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลในเครื่อง
- การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA)
Keeper เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่มีความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม มันใช้การเข้ารหัส AES-256 บิตเพื่อป้องกันข้อมูลทั้งหมดในตู้นิรภัยของคุณ มันมอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลรหัสผ่านแบบไม่จำกัด เครื่องมือสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัยและการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) แต่ฉันพบว่าเวอร์ชันฟรีนั้นมีข้อจำกัดและทำงานได้พื้นฐานมากเกินไป
เวอร์ชันฟรี (Keeper Free) มีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้:
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลรหัสผ่านแบบไม่จำกัด — ให้คุณจัดเก็บรหัสผ่านในตู้นิรภัยของคุณได้แบบไม่จำกัด (บนอุปกรณ์ของคุณ)
- เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน — สร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่งที่จะป้องกันบัญชีของคุณ
- การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) — ป้องกันแฮกเกอร์ไม่ให้ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชีของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยการกำหนดให้ผู้ใช้
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลในเครื่อง — จัดเก็บข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ทั้งหมดบนอุปกรณ์ของคุณ
แม้ว่าฉันจะสามารถใช้ Keeper Free เพื่อสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัยและส่งออกรหัสผ่านบนโทรศัพท์ของฉันได้ แต่เรื่องที่น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่งที่ฉันพบก็คือคุณไม่สามารถใช้มันเพื่อกรอกแบบฟอร์มโดยอัตโนมัติหรือบันทึกการลงชื่อเข้าใช้ได้ ที่แย่ไปกว่านั้นคือไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงแบบฉุกเฉินและคุณไม่สามารถใช้ส่วนขยายของเบราว์เซอร์เพื่อเข้าถึงมันบนเว็บไซต์ ลบบันทึกและโฟลเดอร์หรือซิงค์บนอุปกรณ์อื่น ๆ ได้
เวอร์ชันฟรีของ Keeper จำกัดการใช้งานเพียง 1 อุปกรณ์มือถือโดยเสนอเพียงพื้นที่จัดเก็บข้อมูล (รหัสผ่าน ข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ ข้อมูลตัวตนและการชำระเงิน) ในเครื่องเท่านั้น นี่หมายความว่าคุณจะไม่สามารถจัดเก็บรหัสผ่านของคุณบนเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการเข้ารหัสตามที่เครื่องมือจัดการรหัสผ่านอย่าง Dashlane มีให้บริการ และด้วยเหตุนี้ คุณจะสูญเสียรหัสผ่านทั้งหมดของคุณไปหากอุปกรณ์ของคุณเสียหายหรือถูกขโมย
เวอร์ชันพรีเมียม (Keeper Unlimited) มีฟีเจอร์มากมาย มันมีแอปส่งข้อความ (KeeperChat) ที่ปลอดภัยภายในตัวมาให้พร้อมกับฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวที่ได้รับการปรับปรุง คุณจะได้รับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์และตัวเลือกการยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) แถมสิทธิ์ในการเข้าถึงฟีเจอร์การตรวจสอบเว็บมืด พื้นที่จัดเก็บไฟล์ที่ปลอดภัย การกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติบนเว็บไซต์และมันก็ไม่ได้มีราคาแพงมากนักเมื่อเทียบกับตัวเลือกพรีเมียมอื่น ๆ ในรายการนี้
Keeper Unlimited จะซิงค์เข้ากับแพลตฟอร์มหลัก ๆ ทั้งหมด (Windows, macOS, Linux, Android, and iOS) และทำงานร่วมกันกับส่วนขยายบราว์เซอร์ได้ซึ่งรวมถึง Chrome, Firefox, Edge, Opera, Brave และ Safari คุณสามารถลองใช้ Keeper Unlimited โดยไม่มีความเสี่ยงได้ด้วยเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 30 วัน
5. Sticky Password – ส่งออกตู้นิรภัยรหัสผ่านของคุณไปยังไดร์ฟ USB พกพา
ฟีเจอร์หลัก:
- การเข้ารหัส AES-256 บิตเพื่อป้องกันตู้นิรภัย
- ส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับประเภทของเบราว์เซอร์ที่แตกต่างกัน 10 ประเภท
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลรหัสผ่านเข้ารหัสแบบไม่จำกัด
- เวอร์ชันตู้นิรภัยแบบไดรฟ์ USB (Windows)
- การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอนและการลงชื่อเข้าใช้ด้วยไบโอเมตริก
Sticky Password เก็บรหัสผ่านทั้งหมดของคุณให้ปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส AES-256 บิต มันใช้งานง่ายโดยมีแอปที่เรียบง่ายและส่วนขยายเบราว์เซอร์ (สูงสุดถึง 10 รายการซึ่งรวมถึงเบราว์เซอร์ที่หายากอย่าง Yandex, Seamonkey และ Pale Moon) นอกจากสิทธิพิเศษที่เพิ่มเข้ามาจากการสมัครสมาชิกใช้แผนให้บริการพรีเมียมแล้ว คุณยังได้มีส่วนร่วมในการช่วยชีวิตพะยูนที่ใกล้สูญพันธุ์ด้วย
เช่นเดียวกันกับ RoboForm เวอร์ชันฟรีของ Sticky Password เสนอฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมมากมายดังต่อไปนี้:
- เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน — สร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณ
- พื้นที่จัดเก็บรหัสผ่านที่ได้รับการเข้ารหัส — ให้คุณจัดเก็บรหัสผ่านในสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่ปลอดภัยได้ไม่จำกัด
- การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) — ชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมนอกเหนือจากรหัสผ่านที่แข็งแกร่งแล้ว
- การกรอกและการบันทึกข้อมูลอัตโนมัติ — กรอกแบบฟอร์มบนเว็บไซต์และมือถือโดยอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น
- ไดร์ฟ USB พกพา — ส่งออกข้อมูลตู้นิรภัยรหัสผ่านของคุณไปยังไดร์ฟ USB พกพา
ฉันยังชอบที่ Sticky Password Free รองรับการสิทธิ์ในการลงชื่อเข้าใช้แบบไบโอเมตริกซึ่งหมายความว่าฉันไม่ต้องจำรหัสผ่านมาสเตอร์ของฉันเพื่อเข้าถึงตู้นิรภัยของฉัน ฉันยังสามารถสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่งและส่งออกตู้นิรภัยของฉันไปยังไดร์ฟ USB พกพาได้อีกด้วย สิ่งนี้ช่วยให้ฉันใช้มันในที่ทำงานบนอุปกรณ์ Windows ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบายแค่เสียบไดร์ฟ USB และกรอกรหัสผ่านมาสเตอร์ของฉัน
Sticky Password ใช้งานได้ง่ายและไม่หนักเครื่อง คุณสามารถใช้มันบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง Windows, macOS, iOS และ Android ได้ นอกจากนี้มันยังมีส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome, Firefox, Opera และ Internet Explorer ด้วย
แตกต่างจากผู้ให้บริการายอื่น ๆ อย่าง Dashlane และ RoboForm ซึ่งอนุญาตให้คุณแบ่งปันรหัสผ่านของคุณกับผู้อื่นได้ Sticky Password Free ไม่รองรับการแบ่งปันรหัสผ่าน นอกจากนี้มันยังไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงแบบฉุกเฉินด้วยหากคุณเกิดสูญเสียสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชีของคุณ
หากคุณต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติมอย่างการซิงค์บนอุปกรณ์ต่าง ๆ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์สำหรับรหัสผ่านของคุณ การแบ่งปันรหัสผ่าน สิทธิ์ในการเข้าถึงแบบฉุกเฉินและมีส่วนร่วมในการช่วยอนุรักษ์พะยูนที่ใกล้สูญพันธุ์ คุณจะต้องสมัครสมาชิกแผนให้บริการแบบพรีเมียม คุณจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงเวอร์ชันทดลองใช้งานพรีเมียม 30 วันเมื่อคุณลงทะเบียนสมัครสมาชิก
ดาวน์โหลด Sticky Password Free
6. LastPass – ไม่จำกัดรหัสผ่านและการซิงค์อุปกรณ์
ฟีเจอร์หลัก:
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยสำหรับข้อมูลความลับ
- การกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติและบันทึกข้อมูลลงชื่อเข้าใช้
- เครื่องมือสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย
- ไม่จำกัดรหัสผ่านและการซิงค์อุปกรณ์ 1 ประเภทไม่จำกัด
- การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน
LastPass เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยและใช้งานง่าย เวอร์ชันฟรีอนุญาตให้ฉันจัดเก็บข้อมูลรหัสผ่านได้ไม่จำกัดและยังทำให้ฉันประหลาดใจด้วยการซิงค์บนอุปกรณ์ต่าง ๆ แบบไม่จำกัดแม้ว่าจะสำหรับอุปกรณ์ประเภทเดียวก็ตาม – มือถือหรือเดสก์ท็อป นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจเนื่องจากเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีอื่น ๆ ส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้คุณซิงค์กับอุปกรณ์อื่น ๆ เลย
LastPass Free มีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้:
- เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน — สร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันบัญชีของคุณ
- ไม่จำกัดรหัสผ่าน — ให้คุณสร้างและจัดเก็บรหัสผ่านในตู้นิรภัยได้ไม่จำกัด
- ตู้นิรภัยรหัสผ่านที่ปลอดภัย — จัดเก็บข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ทั้งหมดของคุณในตู้นิรภัยเข้ารหัส
- การแบ่งปันแบบตัวต่อตัว — แบ่งปันรหัสผ่านของคุณกับผู้ใช้ LastPass อีกคน (1 คนเท่านั้น)
- การกรอกและการบันทึกข้อมูลอัตโนมัติ — กรอกข้อมูลบนเว็บไซต์และแบบฟอร์มโดยอัตโนมัตอย่างรวดเร็วและราบรื่น
- การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน — ช่องทางการยืนยันตัวตนมากมายเพื่อป้องกันรหัสผ่านของคุณจากอาชญากรทางไซเบอร์
ฉันชอบที่ LastPass ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมเพื่อป้องกันรหัสผ่านของคุณ มันใช้การเข้ารหัส AES-256 บิตพร้อม PBKDF2 SHA-256 เพื่อป้องกันตู้นิรภัยของคุณ ด้วยมาตรการเหล่านี้ แม้แฮกเกอร์จะสามารถเข้ายึดตู้นิรภัยของคุณได้ ก็ไม่สามารถรู้รหัสผ่านที่จัดเก็บเอาไว้ในนั้นได้
แตกต่างจาก Dashlane Free ซึ่งอนุญาตให้คุณแบ่งปันรหัสผ่านกับผู้ใช้จำนวน 5 รายได้ LastPass Free รองรับการแบ่งปันรหัสผ่านกับผู้ใช้เพียง 1 รายเท่านั้น อย่างไรก็ตามฉันพบว่า LastPass Free ใช้งานง่ายมาก ๆ มันช่วยให้ฉันสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย บันทึกและกรอกข้อมูลลงชื่อเข้าใช้โดยอัตโนมัติและจัดเก็บรหัสผ่านของฉันเอาไว้ในตู้นิรภัยและใช้ช่องทางการยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอนซึ่งรวมถึงแอป 2FA, อีเมล และแอปยืนยันตัวตนภายในตัวของ LastPass เพื่อรับชั้นการป้องกันเพิ่มเติม
มันให้ฉันสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย บันทึกและกรอกข้อมูลลงชื่อเข้าใช้โดยอัตโนมัติ จัดเก็บรหัสผ่านของฉันเอาไว้ในตู้นิรภัยที่ปลอดภัยและใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอนซึ่งรวมถึงแอป 2FA, อีเมลและแอปยืนยันตัวตนภายในตัวของ LastPass เพื่อชั้นการป้องกันเพิ่มเติม
LastPass Free มีข้อจำกัดสองสามอย่าง ไม่มีแดชบอร์ดความปลอดภัยเพื่อตรวจสอบความแข็งแกร่งรหัสผ่านของคุณและมันไม่รองรับการตรวจสอบเว็บมืด สิทธิ์ในการเข้าถึงแบบฉุกเฉินและคีย์ความปลอดภัยฮาร์ดแวร์อย่าง YubiKey หรือการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือ หากคุณต้องการฟีเจอร์เหล่านี้ซึ่งรวมถึงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเข้ารหัสขนาด 1GB คุณจะต้องอัปเกรดเป็นแผนให้บริการแบบพรีเมียม
เพื่อใช้ LastPass อย่างเต็มที่ ฉันขอแนะนำให้ลองใช้เวอร์ชันพรีเมียม คุณสามารถลองใช้ได้โดยการใช้เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 30 วันเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ขั้นสูงทั้งหมดของ LastPass
ตารางเปรียบเทียบอย่างรวดเร็ว: เครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยและฟรีที่ดีที่สุดแห่งปี 2024
เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน | จำนวนรหัสผ่าน | การตรวจสอบรหัสผ่าน | พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ | จำนวนอุปกรณ์ | การแบ่งปันรหัสผ่าน | ราคาเริ่มต้นสำหรับแผนให้บริการที่เสียเงิน | เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรีสำหรับแผนให้บริการพรีเมียม |
Dashlane | 50 | ✔ | ✔ | 1 | ✔ | $3.99/เดือน | เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 30 วัน |
NordPass | ไม่จำกัด | ✘ | ✔ | 1 | ✘ | $1.69/เดือน | เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 30 วัน |
RoboForm | ไม่จำกัด | ✔ | ✔ | 1 | ✔ | $1.98/เดือน | เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 30 วัน |
Keeper | ไม่จำกัด | ✘ | ✘ | 1 | ✘ | $2.91/เดือน | เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 30 วัน |
Sticky Password | ไม่จำกัด | ✘ | ✔ | 1 | ✘ | $2.50/เดือน | เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 30 วัน |
LastPass | ไม่จำกัด | ✘ | ✔ | ไม่จำกัด (1 ประเภทอุปกรณ์) | ✔ | $3/เดือน | เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 30 วัน |
ฉันทดสอบและจัดอันดับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยและฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024 อย่างไร
- ใช้งานฟรี — เครื่องมือจัดการรหัสผ่านทั้งหมดที่อยู่ในรายการของฉันใช้งานได้ฟรี ดังนั้นมันจึงมีแผนให้บริการฟรีแน่ ๆ ไม่ใช่แค่เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรีหรือแผนให้บริการพรีเมียม
- ความปลอดภัยอันแข็งแกร่ง — การใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีที่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยนั้นเสี่ยง ดังนั้นฉันจึงมุ่งเน้นที่จะค้นหาเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่มีการเข้ารหัสอันแข็งแกร่งอย่าง AES-256 บิต สถาปัตยกรรมการรักษาความปลอดภัยแบบความรู้เป็นศูนย์และตัวเลือก 2FA สำหรับชั้นการป้องกันเพิ่มเติม
- ฟีเจอร์คุณภาพ — แม้ว่าเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีจะเสนอฟีเจอร์พื้นฐานเป็นหลัก แต่ฉันให้ความสำคัญกับการค้นหาเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่มีฟีเจอร์ในปริมาณที่มากพอที่จะช่วยให้ฉันจัดการกับรหัสผ่านของฉันโดยมีข้อจำกัดเพียงเล็กน้อย
- ความง่ายในการใช้งาน — ฉันเลือกเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรต่อผู้ใช้ ฉันเลือกเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่รองรับระบบปฏิบัติการยอดนิยมและส่วนขยายเบราว์เซอร์มากมาย
- เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรีหรือการรับประกันยินดีคืนเงิน — ฉันสร้างรายการเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดที่มีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรีหรือการรับประกันยินดีคืนเงินควบคู่มากับแผนให้บริการฟรี สิ่งนี้ช่วยให้ฉันสามารถทดลองใช้เวอร์ชันพรีเมียมได้ฟรีเพื่อช่วยให้ฉันตัดสินใจได้ว่ามันคุ้มค่ากับการอัปเกรดหรือไม่
ทำไมคุณถึงไม่ควรพึงพาเครื่องมือจัดการรหัสผ่านภายในตัวของคุณ
คุณอาจจะกำลังสงสัยว่าคุณต้องมีเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบุคคลที่สามหรือหากเครื่องมือจัดการรหัสผ่านภายในของอุปกรณ์ของคุณนั้นเพียงพอหรือไม่ หากคุณใช้อุปกรณ์ Apple (macOS หรือ iOS) คุณอาจคุ้นเคยกับเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน iCloud Keychain
เบราว์เซอร์อย่าง Google Chrome และ Firefox เองก็มีเครื่องมือจัดการรหัสผ่านภายในตัวที่ให้คุณใช้ฟีเจอร์พื้นฐานได้ แต่คุณสามารถพึ่งพาเครื่องมือจัดการรหัสผ่านภายในตัวเหล่านี้ให้รักษาและใช้ข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ทั้งหมดของคุณได้อย่างสะดวกสบายหรือไม่? เรามาพูดถึงเรื่องสิ่งที่คุณสามารถทำได้ด้วยเครื่องมือจัดการรหัสผ่านภายในตัวและจากนั้นคุณจึงค่อยตัดสินใจว่าคุณต้องการตัวเลือกที่เป็นบุคคลที่สามหรือเปล่า
เมื่อใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน คุณต้องให้ความสนใจกับลักษณะดังต่อไปนี้:
- ความปลอดภัย — เครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่จะใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับธนาคารอย่างการเข้ารหัส AES-256 บิต, การเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทางและการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) สิ่งนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าอาชญากรทางไซเบอร์ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ในตู้นิรภัยของคุณได้ นี่เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เครื่องมือจัดการรหัสผ่านภายในตัวส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้
ตัวอย่างเช่นไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางการเข้ารหัสที่แน่นอนที่เครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Google ใช้ ดังนั้นรหัสผ่านจึงมีแนวโน้มที่จะเสี่ยงถูกโจมตี แถมเครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Google และ Firefox ก็ไม่รองรับการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอนด้วย ดังนั้นหากมีใครสักคนที่สามารถเข้าถึงเบราว์เซอร์หรือบัญชี Google ของคุณได้ เขาคนนั้นก็จะสามารถดูรหัสผ่านทั้งหมดของคุณได้ - ความง่ายในการใช้งาน — เครื่องมือจัดการรหัสผ่านต้องมอบความสะดวกสบายในการใช้งาน แม้ว่า Chrome และ Firefox จะมีเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ใช้งานได้ง่าย แต่ iCloud Keychain ของ Apple ใช้งานได้ยากมาก เครื่องมือจัดการรหัสผ่านบุคคลที่สามเสนอแอปที่เรียบง่ายที่ใครก็สามารถใช้งานได้ แต่ในทางตรงกันข้าม คุณจะต้องไปยังการตัวเลือกการตั้งค่าของอุปกรณ์ Apple ของคุณเพื่อเข้าถึงเครื่องมือจัดการรหัสผ่านซึ่งไม่ง่ายเหมือนกับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบุคคลที่สามดี ๆ
- ฟีเจอร์ขั้นสูง — เครื่องมือจัดการรหัสผ่านภายในตัวมีเพียงฟีเจอร์พื้นฐานเท่านั้น คุณจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงเครื่องมือสร้างรหัสผ่าน การกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติและเครื่องมือตรวจสอบความแข็งแกร่งของรหัสผ่าน แต่นั่นคือในกรณีที่ดีที่สุดที่คุณสามารถใช้งานฟีเจอร์ส่วนใหญ่เหล่านั้นได้ เครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Firefox จะไม่แม้แต่ช่วยคุณตรวจสอบว่ารหัสผ่านของคุณนั้นแข็งแกร่งมากพอไหม
แต่ถึงอย่างนั้นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบุคคลที่สามก็จะมอบสิทธิ์ในการเข้าถึงฟีเจอร์ชั้นนำอย่างการแบ่งปันรหัสผ่าน การเข้าถึงฉุกเฉิน การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอนและอื่น ๆ กับคุณ - การรองรับอุปกรณ์ต่าง ๆ — คุณสามารถใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่านภายในตัวได้เฉพาะบนอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ที่รองรับเท่านั้น คุณไม่สามารถใช้รหัสผ่านของคุณที่จัดเก็บไว้ใน iCloud Keychain บน Android หรือรหัสผ่านบนเบราว์เซอร์ Chrome กับ Edge ได้ แต่ถึงอย่างนั้น คุณก็สามารถใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่านบุคคลที่สามบนอุปกรณ์และเบราว์เซอร์ทั้งหมดในเวลาเดียวกันได้
วิธีดูแลให้ข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ของคุณปลอดภัย
การมีเครื่องมือจัดการรหัสผ่านนั้นเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่ง (แม้ว่าจะเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ) ในความปลอดภัยทางออนไลน์ของคุณเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นี่คือแนวทางการปฏิบัติสองสามอย่างที่คุณสามารถปรับใช้เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้ใช้แนวทางที่ดีที่สุดในการป้องกันรหัสผ่านและอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ
- เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) — เปิดใช้งาน 2FA ในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านและแอปทั้งหมดที่มีข้อมูลความลับเพื่อเป็นชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมอยู่เสมอ ด้วยวิธีนี้ แม้แฮกเกอร์จะสามารถเข้ายึดครองรหัสผ่านของคุณ พวกเขาก็จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้
- ใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่งและไม่ซ้ำกันสำหรับข้อมูลลงชื่อเข้าใช้แต่ละข้อมูล — การคาดเดารหัสผ่านที่แข็งแกร่งนั้นจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้นสำหรับแฮกเกอร์ เครื่องมือจัดการรหัสผ่านอย่าง Dashlane หรือเครื่องมืออื่น ๆ ในรายการนี้จะช่วยคุณสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง ไม่เพียงแค่นั้น มันยังแจ้งเตือนให้คุณทราบด้วยหากมีการใช้รหัสผ่านซ้ำ คุณควรหลีกเลีย่งการใช้รหัสผ่านซ้ำกันในบัญชีต่าง ๆ เพื่อให้การบุกรุกใด ๆ จำกัดอยู่แค่เพียงบัญชีนั้น ๆ เท่านั้น
- อัปเดตซอฟต์แวร์และเบราว์เซอร์ของคุณเป็นประจำ — ตรวจสอบให้มั่นใจว่าซอฟต์แวร์บนระบบของคุณได้รับการอัปเดตเป็นประจำ เมื่อคุณอัปเดตซอฟต์แวร์และเบราว์เซอร์ของคุณเป็นประจำ แฮกเกอร์จะไม่สามารถใช้ช่องโหว่ในเวอร์ชันที่เก่ากว่าเพื่อขโมยข้อมูลของคุณได้
- ใช้ VPN — ด้วย VPN คุณจะได้รับการป้องกันแม้ว่าคุณจะเชื่อมต่ออยู่กับเครือข่ายที่ไม่ปลอดภัย มันยังช่วยป้องกันแฮกเกอร์จากการรับฟังการสื่อสารของคุณเนื่องจากคำขอเว็บไซต์ทั้งหมดของคุณจะได้รับการเข้ารหัสและเปลี่ยนเส้นทางไปยังอุโมงค์ที่ปลอดภัย หากคุณอัปเกรดเป็น Dashlane เวอร์พรีเมียม คุณจะได้รับ VPN พร้อมเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน
- อัปเดตรหัสผ่านของคุณเป็นประจำ — ในทางปฏิบัติแล้ว ฉันอัปเดตรหัสผ่านของฉันทุก ๆ 3 เดือน หากคุณสังเกตเห็นว่ารหัสผ่านของคุณถูกรุกล้ำในการรั่วไหลของข้อมูล อย่าลืมอัปเดตรหัสผ่านดังกล่าวทันที Dashlane มีเครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านอัตโนมัติสำหรับเว็บไซต์ที่เลือก ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องมานั่งเครียดเปลี่ยนข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ด้วยตัวของคุณเอง
- ใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัส — เพื่อการป้องกันที่ครบวงจร ฉันขอแนะนำให้ใช้ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส แม้ว่ารหัสผ่านของคุณจะปลอดภัย แต่คุณก็อาจเผลอดาวน์โหลดมัลแวร์หรือคีย์ล็อกเกอร์ที่สามารถสอดแนมคอมพิวเตอร์ของคุณและบันทึกทุกการกดปุ่มคีย์บอร์ดได้ คุณจะต้องใช้สุดยอดโปรแกรมแอนตี้ไวรัสเพื่อป้องกันโปรแกรมที่เป็นอันนตรายไม่ให้เข้าถึงระบบของคุณและแอบสอดแนมคุณได้
คำถามที่พบบ่อย: เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรี
การใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีปลอดภัยหรือเปล่า?
ไม่ซะทีเดียว เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีส่วนใหญ่มีข้อบกพร่องในเรื่องความปลอดภัย ขาดความโปร่งใสและรหัสผ่านของคุณก็สามารถถูกรุกล้ำได้ง่าย ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีที่ไว้วางใจได้สองสามบริการที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีเหล่านี้เสนอการเข้ารหัสระดับทหารและการยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอนเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับชั้นการป้องกันเพิ่มเติม
ฉันรวบรวมรายการเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีที่ดีที่สุดที่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมขึ้นมา แบรนด์อย่าง Dashlane และ LastPass เสนอสถาปัตยกรรมความปลอดภัยความรู้เป็นศูนย์ (ไม่มีใครนอกจากคุณที่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในตู้นิรภัย), การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA), การลงชื่อเข้าใช้แบบไบโอเมตริก SMS และการยืนยันตัวตนผ่านอีเมล ด้วยฟีเจอร์เหล่านี้ คุณจะสามารถจัดเก็บและจัดการรหัสผ่านทั้งหมดของคุณได้อย่างปลอดภัยจากตู้นิรภัยที่ได้รับการเข้ารหัสที่มีแค่คุณเท่านั้นที่เข้าถึงได้
ฉันสามารถใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีในอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ของฉันได้ไหม?
ได้ แต่ฉันไม่แนะนำให้ใช้ นอกเหนือจากเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบุคคลที่สามฟรีที่ไว้วางใจได้ด้วยเหตุผลมากมาย เครื่องมือจัดการรหัสผ่านภายในตัวมากมายไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงอย่างการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA), การตรวจสอบรหัสผ่าน, การตรวจสอบเว็บมืดและสิทธิ์ในการเข้าถึงฉุกเฉิน
แถมคุณยังไม่สามารถใช้งานมันบนอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์อื่น ๆ ได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่นคุณจะไม่สามารถใช้ Apple iCloud Keychain บน Android ของคุณหรือรหัสผ่านที่คุณจัดเก็บเอาไว้ในเบราว์เซอร์ Chrome บน Edge ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบุคคลที่สามอย่าง Dashlane ก็ให้คุณซิงค์รหัสผ่านทั้งหมดของคุณบนระบบปฏิบัติการและเบราว์เซอร์หลักทั้งหมดได้
เครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Google ปลอดภัยไหม?
เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Android คือเครื่องมือใด?
เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีมีทำงานได้ดีไหม?
มี แต่ก็ไม่ใช่ทุกเครื่องมือจะทำได้ดี เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีมากมายมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่อ่อนแอและไม่มีฟีเจอร์บางอย่าง แต่ฉันได้รวบรวมรยการเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีที่ดีที่สุดเอาไว้ให้แล้ว เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีเหล่านี้เสนอฟีเจอร์คุณภาพสูงที่จะช่วยคุณในการจัดการรหัสผ่านของคุณอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย
เครื่องมือจัดการรหัสผ่านในรายการของฉันเป็นเครื่องมือที่ดีและมีฟีเจอร์อย่างการกรอกรหัสผ่านอัตโนมัติ เครื่องมือสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย ตู้นิรภัยเข้ารหัส การแบ่งปันรหัสผ่าน การตรวจสอบรหัสผ่านและฟีเจอร์ดี ๆ อื่น ๆ อีกมากมาย คุณสามารถใช้มันเพื่อจัดระเบียบรหัสผ่านทั้งหมดของคุณได้
การเริ่มต้นใช้งานกับเครื่องมือการจัดการรหัสผ่านฟรี
เครื่องมือจัดการรหัสผ่านเป็นเครื่องมือที่สำคัญเพื่อให้มั่นใจว่ารหัสผ่านของคุณได้รับการป้องกันและปลอดภัย นอกจากเครื่องมือจัดการรหัสผ่านภายในตัวซึ่งไม่ปลอดภัยแล้ว เวอร์ชันฟรีของเครื่องมือจัดการรหัสผ่านพรีเมียมเสนอความปลอดภัยระดับทหาร ฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมและส่วนเสริมอันล้ำค่าอื่น ๆ
ฉันรวบรวมรายการของเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยและเปิดให้ใช้งานได้ฟรีจริง ๆ จากตัวเลือกต่าง ๆ มากมาย เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีเหล่านี้เสนอฟีเจอร์มากมายที่ช่วยให้คุณสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย จัดเก็บรหัสผ่านของคุณในตู้นิรภัยที่ปลอดภัย แบ่งปันรหัสผ่านกับผู้ใช้รายอื่น ๆ และตรวจสอบรหัสผ่านเพื่อมองหาช่องโหว่และฟีเจอร์ขั้นสูงอื่น ๆ อีกมากมาย
หลังจากการทดสอบเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีมากมาย ฉันพบว่า Dashlane เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีที่ดีที่สุด มันเสนอความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมและฟีเจอร์คุณภาพมากมาย ฉันสามารถเก็บรหัสผ่านของฉันให้ปลอดภัย กรอกแบบฟอร์มบนเว็บโดยอัตโนมัติและแบ่งปันรหัสผ่านของฉันกับเพื่อน ๆ ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เช่นเดียวกันกับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีอื่น ๆ ในรายการของฉัน คุณจะพบข้อจำกัดสองสามอย่างสำหรับเวอร์ชันฟรีแต่ละเวอร์ชัน เช่น ไม่สามารถซิงค์รหัสผ่านของคุณบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงแนะนำให้อัปเกรดเป็นแผนให้บริการพรีเมียมเพื่อรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบไม่จำกัด การซิงค์อุปกรณ์แบบไม่จำกัด การแบ่งปันแบบไม่จำกัด ตัวเลือกความปลอดภัยขั้นสูงอย่างคีย์ความปลอดภัยฮาร์ดแวร์และอื่น ๆ โชคดีที่เครื่องมือจัดการรหัสผ่านทั้งหมดในรายการของฉันเสนอเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 30 วันและแผนให้บริการก็มีราคาไม่แพงนัก ฉันขอแนะนำให้ตรวจสอบรายการของฉันและลองใช้เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรีเพื่อเริ่มต้นใช้งานแบบไม่มีข้อจำกัด
แสดงความคิดเห็น
ยกเลิก