Signal เป็นบริการส่งข้อความทันทีแบบรวมศูนย์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ใช้การเข้ารหัสแบบ End-to-end สำหรับการสื่อสารทั้งหมดโดยอัตโนมัติ มันเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับตัวเลือกยอดนิยมอย่าง WhatsApp, Telegram และ Facebook Messenger Signal ช่วยให้คุณพูดคุยกับผู้อื่นและส่งไฟล์ โน้ตเสียง รูปภาพและคลิปวิดีโอได้อย่างง่ายดาย
ฟีเจอร์ที่โดดเด่นฟีเจอร์หนึ่งของ Signal คือฟังก์ชัน Identity Verification ที่ให้คุณยืนยันตัวตนของข้อมูลติดต่อของคุณโดยอิสระ
ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านล่างและฉันจะบอกวิธีการดาวน์โหลด Signal บน PC ของคุณฟรี
วิธีดาวน์โหลดและติดตั้ง Signal บน PC ของคุณฟรี
โปรดทราบว่าเพื่อใช้แอป Signal บนเดสก์ท็อป คุณจะต้องติดตั้งแอปมือถือบนโทรศัพท์ของคุณ
- สิ่งที่คุณต้องทำอย่างแรกเลยก็คือไปยัง Apple App Store หรือ Google Play Store ของคุณและติดตั้ง Signal บนโทรศัพท์ของคุณ
- ใช้หมายเลขโทรศัพท์ของคุณในการสร้างบัญชี สร้างโปรไฟล์และรหัส PIN 4 หลัก
- ตอนนี้กลับมาที่คอมพิวเตอร์ของคุณและคลิกที่ปุ่มดาวน์โหลดที่แถบด้านข้างเพื่อไปยังหน้าดาวน์โหลด Signal อย่างเป็นทางการโดยตรง
- คลิกที่ปุ่ม “Download for Windows” ตามที่แสดงด้านล่างเพื่อดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง .exe สำหรับแอปพลิเคชัน
- สำหรับระบปฏิบัติการอื่น ๆ ให้เลื่อนลงมาเล็กน้อยเพื่อดูตัวเลือกในการดาวน์โหลดเพิ่มเติม
- ไปยังโฟลเดอร์ดาวน์โหลดของคุณและดับเบิลคลิกที่ไฟล์ที่คุณเพิ่งดาวน์โหลดมาเพื่อเริ่มต้นการติดตั้งบน PC ของคุณ
- เปิดแอปบนโทรศัพท์ของคุณและสแกนรหัส QR ที่คุณเห็นบนแอปสำหรับเดสก์ท็อป
- คลิก Finish Linking Phone เพื่อดำเนินการกระบวนการดังกล่าวให้เสร็จ Signal จะซิงก์ข้อมูลติดต่อโทรศัพท์ของคุณที่ใช้ Signal อยู่แล้ว
วิธียกเลิกการติดตั้ง Signal จาก PC ของคุณ
หากคุณไม่ต้องการใช้ Signal เพื่อสื่อสารกับเพื่อน ๆ และเพื่อนร่วมงานอีกต่อไป คุณสามารถลบแอปพลิเคชันออกจาก PC ของคุณได้ง่าย ๆ โดยการปฏิบัติตามขั้นตอนที่เรียบง่ายดังต่อไปนี้:
- พิมพ์ Add or Remove Programs ในแถบค้นหาสำหรับ Windows และกด Enter
- เลื่อนลงมาและค้นหา Signal ในรายการโปรแกรมที่ติดตั้ง จากนั้นคลิกที่ปุ่ม “ยกเลิกการติดตั้ง”
- หลังจากหน้าต่างยกเลิกการติดตั้งเปิดขึ้นมาแล้ว ให้ยืนยันว่าคุณต้องการลบซอฟต์แวรืและระบบจะลบมันออกจากคอมพิวเตอร์ของคุณ
หากคุณต้องการลองใช้แอปพลิเคชันส่งข้อความทันทีอื่น ๆ ลองดูทางเลือกฟรีอื่น ๆ ได้ที่ด้านล่าง
ภาพรวมของ Signal
หากคุณกำลังมองหาบริการส่งข้อความที่ใส่ใจในเรื่องความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นพิเศษ Signal น่าจะเป็นตัวเลือกที่คุณนึกถึง นอกจากจะเสนอทุกอย่างที่คุณสามารถคาดหวังจะได้รับจากซอฟต์แวร์ส่งข้อความได้แล้ว มันยังมีอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ใช้งานง่าย แอปเวอร์ชันมือถือและเดสก์ท็อปเพื่อความยืดหยุ่นและการเข้ารหัสแบบ End-to-end โดยอัตโนมัติสำหรับบทสนทนาทั้งหมด สิ่งสำคัญที่ต้องทราบก็คือซอฟต์แวร์ได้รับการพัฒนาโดยองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ดังนั้นมันจึงเป็นบริการโอเพ่นซอร์สฟรี
Signal ขึ้นชื่อเรื่องการใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือมาตรฐานในฐานะตัวระบุซึ่งมันใช้เพื่อป้องกันการสื่อสารทั้งหมดไปยังผู้ใช้ Signal อื่น ๆ ซอฟต์แวร์ไคลเอนต์ยังรวมกลไกที่อนุญาตให้คุณยืนยันตัวตนข้อมูลติดต่อที่คุณสื่อสารและความสมบูรณ์ของช่องทางข้อมูลได้อย่างอิสระ แม้ว่า Signal สำหรับเดสก์ท็อปนั้นจะพร้อมให้บริการสำหรับ Windows, Mac และ Linux แต่คุณต้องมีแอป Signal ติดตั้งเอาไว้บนอุปกรณ์ iPhone, iPad หรือ Android เพื่อใช้มันบนเดสก์ท็อป
ฟีเจอร์ของ Signal
นี่คือฟีเจอร์ของ Signal บางส่วนที่มันช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ โปรดทราบว่าแอปสำหรับเดสก์ท็อปนั้นไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่างที่คุณเห็นในแอปสำหรับมือถือ:
1. ข้อความหายไป (Disappearing Messages)
ฟีเจอร์ “disappearing messages” ช่วยให้ผู้ใช้ Signal ส่งข้อความที่มีระยะเวลาจำกัดได้ซึ่งหมายความว่าข้อความของคุณจะหายไปเองหลังจากระยะเวลาที่กำหนด ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมากเนื่องจากมันช่วยคุณย้อนกลับไปเพื่อล้างแชทที่คุณไม่ต้องการเก็บไว้ มีตัวเลือกที่ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้า 30 วินาที, 5 นาที, 1 ชั่วโมง, 1 วัน, 1 สัปดาห์ เป็นต้น แต่คุณสามารถตั้งเวลาแบบกำหนดเองได้หากคุณต้องการ คุณยังสามารถลบบทสนทนาใด ๆ ถาวรได้อีกด้วย
2. การโทรด้วยเสียงและวิดีโอ (Voice & Video Calls)
ด้วย Signal คุณสามารถโทรแบบเสียงและวิดีโอกับบุคคลหรือแบบกลุ่มได้สูงสุดถึง 40 คนบนแพลตฟอร์มต่าง ๆซึ่งรวมถึง iOS, Android และเดสก์ท็อปของคุณ คุณสามารถโทรฟรีผ่าน Wi-Fi หรือการเชื่อมต่อข้อมูลโทรศัพท์ก็ได้ไม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ติดต่อภายในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม
3. โน้ตถึงตัวเอง (Note to Self)
ไม่จำเป็นต้องใช้แอปพลิเคชันเสริมเพื่อเก็บโน้ตของคุณ คุณสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้และใช้มันเพื่อเก็บโน้ตส่วนบุคคลเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการทำหรือในรูปแบบของแท็บต่าง ๆ ในความคืบหน้าของงานของคุณ คุณสามารถตัดสินใจว่ามันจทำงานอย่างไรได้ตามใจคุณ แต่โปรดทราบว่ามันไม่สามารถทำงานในฐานะการแจ้งเตือนได้
4. เครื่องมือแก้ไขรูปภาพ (Photo Editor)
Signal มอบเครื่องมือแก้ไขรูปภาพซึ่งคุณสามารถใช้เพื่อเพิ่มข้อความ, ไฮไลท์ส่วนต่าง ๆ ของรูปภาพในสีต่าง ๆ, เพิ่มสติ๊กเกอร์, ตัดรูปภาพได้ อีกฟีเจอร์หนึ่งก็คือเครื่องมือเบลอดที่อนุญาตให้คุณป้องกันตัวตนของคุณโดยการซ่อนส่วนต่าง ๆ ของรูปภาพได้ เช่น ที่อยู่ อีเมล ใบหน้าและหมายเลขโทรศัพท์
5. โหมดมืด (Signal Dark Mode)
หากคุณต้องการรูปลักษณ์สุดเจ๋งเมื่อใช้ Signal บนเดสก์ท็อป คุณสามารถใช้โหมดมืดได้ ง่าย ๆ โดยการไปยังโปรไฟล์ของคุณที่อยู่มุมซ้ายบนและคลิกที่ Preferences จากนั้นเลือก Appearance ที่นี่คุณจะพบตัวเลือกในการเปลี่ยนโหมดจากโหมดสว่างเป็นโหมดมืดได้
6. ส่งข้อความ (Send SMS)
Signal ยังให้คุณส่งข้อความ, ไฟล์, เอกสาร, โน้ตวิดีโอ, รูปภาพ, GIF และข้อความวิดีโอผ่าน Wi-Fi หรือการเชื่อมต่อข้อมูลไปยังผู้ใช้ Signal รายอื่น ๆ บนแอปสำหรับเดสก์ท็อปได้ เช่นเดียวกันกับอุปกรณ์ iOS และ Android
7. กระเป๋าสตางค์สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency Wallet)
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจใน Signal คือการทำงานของกระเป๋าสตางค์สกุลเงินดิจิทัลซึ่งช่วยให้คุณจัดเก็บ ส่งและรับการจ่ายเงินในแอปได้ จนกระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2021 ฟังก์ชันนี้ก็ไม่เปิดให้บริการแก่ผู้ใช้งานทุกท่านเนื่องจากก่อนหน้านี้มันถูกจำกัดแค่เฉพาะในบางภูมิภาคและประเทศเท่านั้น ในเดือนมกราคม 2022 ช่องทางการชำระเงินเดียวที่รองรับคือ MobileCoin ซึ่งได้รับการทดสอบครั้งแรกกับผู้ใช้งานในสหราชอาณาจักรย้อนกลับไปในปี 2021 โปรดทราบว่าฟีเจอร์การชำระเงินนั้นพร้อมให้บริการเฉพาะผ่านแอปเวอร์ชันมือถือเท่านั้น
8. ผู้รับอ่านข้อความแล้ว (Read Receipts)
Signal ให้คุณปิดใช้งานการอ่านข้อความแล้ว ตัวอย่างในตอนที่คุณไม่ต้องการเปิดเผยว่าคุณอ่านข้อความแล้วหรือไม่ ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์มาก ง่าย ๆ แค่ไปยัง Settings > Privacy และเลื่อนปิดการใช้งาน Read receipts ด้านล่าง Communication
9. การเข้ารหัสแบบ End-to-end (End-to-end Encryption)
บทสนทนาทั้งหมดระหว่างผู้ใช้ Signal นั้นได้รับการป้องกันด้วยการเข้ารหัสแบบ End-to-end โดยอัตโนมัติ คีย์การเข้ารหัสจะถูกสร้างขึ้นและจัดเก็บเอาไว้บนโทรศัพท์ของคุณ นอกจากนี้ยังมีกลไกการยืนยันตัวตนที่ช่วยให้คุณยืนยันบุคคลที่คุณกำลังสื่อสารด้วยว่าเป็นคนที่พวกเขากล่าวอ้างจริงหรือไม่ Signal ให้คุณทำเช่นนี้ได้โดยการเปรียบเทียบรหัสคีย์ (หรือสแกนรหัส QR) นี่เป็นเพราะ Signal ใช้กลไกที่ไว้วางใจได้ก่อนใช้งานเพื่อแจ้งให้คุณทราบหากคีย์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องมีการเปลี่ยนแปลง
10. ปิดกั้นข้อมูลติดต่อ (Block Contacts)
นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ฟีเจอร์ปิดกั้นเพื่อแบนบุคคลหรือข้อมูลติดต่อจากการโทรและส่งข้อความหาคุณได้ สามารถพบปุ่มปิดกั้นได้ใน Chat Settings และมันมีประโยชน์มากหากคุณมีข้อมูลติดต่อที่คุณไม่ต้องการจะสื่อสารด้วยแล้ว
ทางเลือกฟรีอื่น ๆ สำหรับ Signal
WhatsApp for Desktop: WhatsApp for Desktop น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับ Signal ที่มีการใช้งานอย่างกว้างขวางมากที่สุด เช่นเดียวกันกับ Signal มันไม่ใช่แอปแยกต่างหากและทำงานได้เฉพาะหากคุณมีแอปมือถือด้วย แม้ว่าจะขาดฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่างในเวอร์ชันมือถือ แต่มันก็ยังมอบประสบการณ์การส่งข้อความที่ดีกับคุณ
Telegram for Desktop: Telegram for Desktop ช่วยเติมเต็มแอปส่งข้อความ Telegram บนมือถือของคุณ Telegram ให้คุณตรวจสอบและส่งข้อความไปยังข้อมูลติดต่อของคุณซึ่งรวมถึงเอกสารไฟล์แนบ เช่น รูปภาพ เพลง เอกสารและวิดีโอ นอกจากนี้คุณยังสามารถสร้างกลุ่มและช่องและใช้ฟังก์ชันการส่งข้อความอื่น ๆ อีกมากมายได้อีกด้วย
Facebook Messenger: Facebook Messenger เป็นแอปส่งข้อความทันทีและแพลตฟอร์มถูกสร้างขึ้นเพื่อให้แลกเปลี่ยนข้อความ รูปภาพและเอกสารได้อย่างราบรื่น เช่นเดียวกันกับการโทรผ่านเสียงและวิดีโอ Messenger ยังมาพร้อมกับสติ๊กเกอร์, GIF และอีโมจิด้วย หากคุณใช้ Facebook ส่งข้อความเป็นประจำ นี่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ
คำถามที่พบบ่อย
Signal ฟรีไหม?
Signal เป็นแอปพลิเคชันส่งข้อความโอเพ่นซอร์สฟรีสำหรับอุปกรณ์ Windows, Linux, macOS, iOS และ Android เพื่อติดตั้ง Signal ลงบนเดสก์ท็อปของคุณ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำในการดาวน์โหลดที่แสนง่ายดายนี้
Signal ปลอดภัยไหม?
Signal ปลอดภัยและใช้การเข้ารหัสแบบ End-to-end เพื่อป้องกันการสกัดกั้นการสื่อสารของคุณกับผู้ติดต่อคนใดก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้แต่ Signal เองก็ไม่สามารถอ่านข้อความของคุณได้ คุณสามารถดาวน์โหลดและติดตั้ง Signal บนคอมพิวเตอร์ของคุณได้อย่างปลอดภัยจากเว็บไซต์ทางการ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้หลีกเลี่ยงแหล่งข้อมูลที่ไม่เป็นทางการเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อุปกรณ์ของคุณติดสปายแวร์และไวรัส
ผู้คนมากมายสามารถเข้าร่วมในการโทรแบบกลุ่มเดียวได้ยังไง?
จำนวนของผู้คนที่สามารถเข้าร่วมในกลุ่มโทร Signal ได้นั้นเท่ากับจำนวนจำกัดขนาดการโทรแบบกลุ่มทั่วไปที่ 40 แต่ละคนต้อง Signal เวอร์ชันล่าสุดและต้องเป็นสมาชิกแชทกลุ่ม Signal Group เดียวกันด้วย