วิธีดู Disney+ จากต่างประเทศ (ในทุกอุปกรณ์) ในปี 2023
แม้ว่า Disney+ จะพร้อมให้บริการทั่วโลก แต่มันน่าหงุดหงิดที่คุณไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาเดียวกันในต่างประเทศได้เหมือนกับที่บ้านของคุณ ตอนที่ฉันไปพักร้อนหรือเดินทางไปทำงาน ฉันไม่อยากพลาดรายการหรือภาพยนตร์โปรดของฉัน
โชคดีที่มีวิธีง่าย ๆ ในการแก้ไขปัญหานี้ — โดยการใช้ VPN ชั้นนำ แต่ไม่ใช่ VPN ทั้งหมดจะสามารถเข้าถึง Disney+ ได้ ทีมงานและฉันทดสอบผู้ให้บริการมากกว่า 30 รายและจำกัดผู้ให้บริการเหล่านั้นให้เหลือเพียง 5 VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Disney+ บนมือถือ, PC และอุปกรณ์อื่น ๆ
ExpressVPN คือตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับ Disney+ ในปี 2023 ด้วยเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วที่เข้าถึงแพลตฟอร์มดังกล่าวได้ในไม่กี่วินาที แต่คุณไม่ต้องเชื่อคำพูดของฉัน — ฉันขอแนะนำให้คุณทดสอบ ExpressVPN กับ Disney+ ด้วยตัวคุณเอง หากคุณไม่ชอบมัน คุณสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้ภายใน 30 วันเนื่องจากมันมีการรับประกันยินดีคืนเงิน
ดู Disney+ จากต่างประเทศด้วย ExpressVPN
หมายเหตุสำคัญ: แม้ว่า Disney+ จะไม่ได้ห้ามไม่ให้ใช้ VPN แต่การสร้างบัญชีฉ้อฉล — บัญชีที่สร้างขึ้นในประเทศอื่นที่ไม่ใช่บ้านของคุณก็ถือเป็นการละเมิดข้อกำหนดการให้บริการ สิ่งนี้อาจส่งผลให้เกิดการระงับหรือยกเลิกบัญชีได้ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดการให้บริการเมื่อคุณใช้ Disney+
คำแนะนำฉบับสรุป: ดู Disney+ ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
- ดาวน์โหลด VPN ฉันแนะนำให้คุณลองใช้ ExpressVPN เนื่องจากมันปลดบล็อก Disney+ ได้อย่างน่าเชื่อถือด้วยเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกมากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ คุณสามารถลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยงได้เลยวันนี้!
- เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศ Disney+ ที่คุณพำนักอาศัยอยู่ ขั้นตอนนี้จะมอบ IP ใหม่ให้กับคุณเพื่อที่คุณจะได้สามารถดูรายการที่คุณจ่ายเงินเพื่อดูด้วยการสมัครสมาชิกของคุณได้
- เริ่มดู Disney+! หลังจากที่คุณลงชื่อเข้าใช้แล้ว คุณจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงผลงานชิ้นเอกของ Disney ที่คุณชื่นชอบทั้งหมด
เคล็ดลับสำคัญ: หากคุณไม่มีช่องทางการชำระเงินในประเทศ Disney+ ของคุณ คุณจะต้องใช้บัตรของขวัญ Google Play หรือ iTunes เพื่อชำระเงินสำหรับบัญชีใหม่ คุณสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำทีละขั้นตอนเพื่อสร้างบัญชี Disney+ จากทุกที่
VPN ช่วยให้คุณดู Disney+ จากทุกที่ได้อย่างไร
Disney+ มีเนื้อหาที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศเนื่องจากข้อบังคับเรื่องการออกอากาศและลิขสิทธิ์ ดังนั้นคุณจึงอาจจะไม่พบรายการหรือภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณตอนที่เดินทางไปต่างประเทศ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ Disney+ ไม่ได้เปิดให้บริการทั่วโลกด้วย — คุณสามารถเข้าถึงบัญชีของคุณในประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา แคนาดา อินเดีย อิตาลีและออสเตรเลียได้ แต่คุณจะไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณได้หากคุณไปยังประเทศที่ปัจจุบันไม่มี Disney+

Disney+ ใช้หมายเลข IP ของคุณเพื่อตรวจจับตำแหน่งของคุณ หากคุณใช้ IP ที่จำกัด (เช่นที่ทำงาน) หรืออยู่นอกประเทศที่มี Disney+ คุณจะไม่สามารถเข้าถึงบัญชีของคุณได้ วิธีเดียวในการหลีกเลี่ยงการปิดกั้นเหล่านี้คือโดยการปิดบังหมายเลข IP ของคุณด้วย VPN เนื่องจากมันจะมอบหมายเลข IP ใหม่ให้กับคุณโดยการเปลี่ยนเส้นทางการรับชมของคุณไปผ่านเซิร์ฟเวอร์ในประเทศบ้านเกิดของคุณ เนื่องจาก Disney+ ไม่สามารถตรวจจับตำแหน่งที่แท้จริงของคุณได้ คุณจึงสามารถสตรีมเนื้อหาตามปกติของคุณในขณะที่เดินทางไปต่างประเทศได้
การใช้ VPN เพื่อเข้าถึงบัญชีในท้องถิ่นของคุณนั้นไม่ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงผู้ใช้ของ Disney+ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าบริการทั้งหมดจะสามารถเชื่อมต่อ Disney+ ได้ เฉพาะ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2023 เท่านั้นที่สามารถรับประกันการเข้าถึงบัญชีของคุณได้ ฉันพบว่า ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการสตรีมมิ่ง Disney+ ด้วยความเร็วที่รวดเร็ว การเข้ารหัสที่ปลอดภัยและเซิร์ฟเวอร์นับพันในเครือข่ายทั่วโลก ExpressVPN ยังเสนอการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันเพื่อที่คุณจะได้สามารถลองใช้มันกับ Disney+ ด้วยตัวคุณเองโดยไม่มีความเสี่ยงได้ หากคุณไม่พึงพอใจ คุณก็สามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้
2 VPNs ที่ดีที่สุดที่ใช้รับชม Disney Plus ได้จากทุกที่
1. ExpressVPN — สามารถหลีกเลี่ยงการปิดกั้นทางภูมิศาสตร์ได้อย่างน่าเชื่อถือเพื่อสตรีม Disney Plus ได้ในทั่วโลก
ฟีเจอร์หลัก:
- 3000+ เซิร์ฟเวอร์ในตำแหน่งหลัก ๆ
- มีความเร็วสูง มีการทดสอบความเร็วในตัวเพื่อให้คุณสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่มีความเร็วสูงสุดได้
- สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ถึง 5 เครื่อง
- การรับประกันคืนเงิน 30 วัน
ExpressVPN เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับ Disney+ ด้วยความเร็วที่รวดเร็วสูงในเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกมากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ ฉันทดสอบความเร็วในเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN มากมายทั้งในท้องถิ่นและที่อยู่ห่างไกลและพบว่า ExpressVPN เป็นบริการที่มีความเร็วสูงที่สุดที่ฉันเคยทดสอบมา ความเร็วของฉันลดลงเพียงเล็กน้อยโดยเฉลี่ย 18% — ซึ่งถือว่ารวดเร็วพอสำหรับการสตรีมมิ่งในความละเอียดระดับ Ultra HD แม้ในตอนที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลออกไป 17,000 กม.ก็ตาม

เซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN มีความเร็วที่เสถียรทั่วโลก
ด้วยเวลาในการให้บริการมากถึง 99.9% ExpressVPN นั้นพร้อมให้การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการอยู่เสมอ ดังนั้นคุณจะสามารถรับชม Disney Plus ได้ตลอดเวลาที่คุณต้องการ ด้วยจำนวนเซิร์ฟเวอร์มากมายทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่อนั้นรวดเร็วอยู่เสมอและลดการสะดุดในระหว่างการสตรีม ซึ่งมันเป็นประโยชน์มากเมื่อคุณกำลังรับชมรายการที่คุณชอบ ExpressVPN มีบริการทดสอบความเร็วในตัว ที่ให้คุณสามารถดูได้ว่าเซิฟเวอร์ใดมีความเร็วสูงสุดเพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วและสามารถสตรีม Disney Plus ได้โดยไม่มีการสะดุด
คุณสามารถสตรีมเนื้อหา Disney+ สุดโปรดของคุณได้โดยไม่กระตุกหรือถูกขัดจังหวะ
เพื่อดูแลตำแหน่งที่แท้จริงและข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย ExpressVPN ใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวดังต่อไปนี้:
- การเข้ารหัสระดับทหาร: เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดได้รับการป้องกันด้วยการเข้ารหัส AES-256-บิตเพื่อให้มั่นใจว่าเส้นทางการรับชมของคุณได้รับการป้องกัน
- การป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล: ExpressVPN หยุดการรั่วไหลของ DNS, WebRTC และหมายเลข IP ซึ่งจะดูแลให้ข้อมูลตำแหน่งของคุณเป็นความลับ
- เทคโนโลยี TrustedServer: ทุกเซิร์ฟเวอร์เป็นแบบ RAM ซึ่งหมายความว่ามันไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลของคุณเอาไว้ทางกายภาพได้ แถมเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดจะถูกล้างให้สะอาดในระหว่างการรีบูตเป็นประจำด้วย
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว: ExpressVPN ได้รับการตรวจสอบจากบุคคลที่สามมากมายเพื่อยืนยันว่ามันจะไม่บันทึกหรือจัดเก็บข้อมูลใด ๆ ของคุณเอาไว้
ด้วยการรีเฟรช IP ทุกเซิร์ฟเวอร์เป็นประจำ ExpressVPN ไม่เพียงแต่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการสตรีมมิ่ง Disney+ เท่านั้น แต่ยังเหมาะสำหรับการเชื่อมต่อบริการอื่น ๆ อย่าง Netflix ของสหรัฐอเมริกาหรือ Hulu ด้วยหากคุณต้องการ
ฉันชอบที่ ExpressVPN ให้คุณสร้างทางลัดเว็บไซต์ภายในแอปภาษาไทยได้ ดังนั้นฉันจึงสามารถเปิดใช้งาน Disney+ ได้ทันทีหลังจากที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ สามารถตั้งค่าสิ่งนี้ได้ง่าย ๆ ในทุกอุปกรณ์ — ง่าย ๆ เพียงเปิดแท็บ “ทางลัด” ใน “การตั้งค่า” และเพิ่ม URL ของ Disney+ ลงไป
ฟีเจอร์ที่น่าประทับใจอีกฟีเจอร์หนึ่งคือ MediaStreamer ของ ExpressVPN ฟีเจอร์ Smart DNS ที่ให้คุณเข้าถึง Disney+ บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ไม่รองรับแอป VPN ได้ ฉันตั้งค่า MediaStreamer บน PS5 ของฉันและใช้เวลาน้อยกว่า 5 นาทีด้วยซ้ำ ต้องขอบคุณคำแนะนำในการติดตั้งโดยละเอียดของ ExpressVPN
ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดี มันคุ้มค่ากับราคาสำหรับความเร็วที่ยอดเยี่ยมและคุณภาพในการสตรีม แผนให้บริการเริ่มต้นที่ราคา $6.67 ต่อเดือนสำหรับการสมัครสมาชิก แถมทุกแผนให้บริการยังมาพร้อมกับการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันด้วย
นี่หมายความว่าคุณสามารถดู Disney+ ด้วย ExpressVPN ได้โดยไม่มีความเสี่ยงและหากคุณเกิดเปลี่ยนใจ คุณก็สามารถติดต่อแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อขอเงินคืนเต็มจำนวนได้ ฉันประหลาดใจกับความง่ายของขั้นตอนดังกล่าวมาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนใช้เวลาสองสามนาทีในการประมวลผลคำขอของฉันโดยไม่ถามเหตุผลในการยกเลิกของฉันสักคำ ที่ดีที่สุดคือฉันได้รับเงินคืน 4 วันหลังจากนั้น
ExpressVPN ทำงานร่วมกันกับ: Windows, macOS, Linux, Chromebook, Android, iOS, Chrome, Firefox, Edge, PlayStation, Xbox, Nintendo Switch, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Nvidia Shield, Xiaomi Mi Box, Google Chromecast, Roku, Android TV, สมาร์ท ทีวี เราเตอร์ และอื่นๆ
ExpressVPN ยังสามารถปลดบล็อก: Netflix, Disney+, Hulu, HBO Max, Amazon Prime Video, Paramount+, Peacock, Discovery+, Showtime, BBC iPlayer, BritBox, Starz, Crunchyroll, fuboTV, Sling TV, DirecTV, YouTube TV, Kodi และอีกมากมาย
อัปเดต 2023! ExpressVPN ปรับลดราคาภายในช่วงระยะเวลาที่จำกัดเหลือเพียง $6.67 ต่อเดือนเท่านั้นในแผนให้บริการแบบ 1 ปี (คุณสามารถประหยัดเงินได้สูงสุดถึง 49%) + รับเพิ่มอีก 3 เดือนฟรี! นี่เป็นข้อเสนอจำกัดเวลา ดังนั้นอย่าลืมคว้ามันเอาไว้เลยตอนนี้ก่อนที่มันจะหายไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ได้ที่นี่
2. CyberGhost — เซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อการสตรีมมิ่ง
ฟีเจอร์หลัก:
- เซิร์ฟเวอร์มากกว่า 9086 เซิร์ฟเวอร์ใน 91 ประเทศพร้อมเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับ Disney+
- ความเร็วที่รวดเร็วอย่างน่าเชื่อถือในการรับชมรายการและภาพยนตร์ Disney โดยไม่กระตุก
- สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 7 อุปกรณ์
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง — แชทออนไลน์ อีเมล หน้าคำถามที่พบบ่อยและคำแนะนำในการติดตั้ง
- รับประกันคืนเงิน 45 วัน
CyberGhostมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีมมิ่งโดยเฉพาะ สิ่งนี้จะทำให้การเชื่อมต่อของคุณนั้นรวดเร็วมาก — มันเหมาะสำหรับการรับชม Disney Plus โดยไม่มีการสะดุดมารบกวน แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้เซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีมโดยเฉพาะ แต่ด้วยตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์กว่า 9086 เซิร์ฟเวอร์การสตรีมอย่างราบรื่นไร้สะดุดนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย
การเชื่อมต่อ Disney+ ด้วยเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งของ CyberGhost นั้นง่ายมาก
ฉันพบว่าเซิร์ฟเวอร์ของ CyberGhost มีความเร็วที่รวดเร็วเสถียรมากพอสำหรับการสตรีมมิ่งโดยไม่ถูกขัดจังหวะในแพลตฟอร์มต่าง ๆ คุณสามารถดูเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งของ CyberGhost (สำหรับ Disney+ และอื่น ๆ อีกมากมาย) ได้ในเมนู “สำหรับการสตรีมมิ่ง” ได้ในแอป แอปของ CyberGhost ใช้งานได้ง่ายมากในอุปกรณ์ที่รองรับทั้งหมด ดังนั้นคุณจึงสามารถพบการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ที่ใช่ได้อย่างรวดเร็ว อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายนี้ยังทำให้ CyberGhost เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ VPN เริ่มต้นด้วย
หากคุณต้องการสตรีม Disney+ บนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับแอป VPN CyberGhost มีฟีเจอร์ Smart DNS ที่คุณสามารถตั้งค่าบน PlayStation, Xbox, สมาร์ททีวีและอื่น ๆ อีกมากมายได้ แม้ว่าจะไม่มีตัวเลือกการสตรีมมิ่งที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ สำหรับการใช้ Smart DNS กับ Disney+ แต่ฉันก็พบว่าการใช้หมายเลขสำหรับการสตรีมมิ่งในหราชอาณาจักรก็สามารถเชื่อมต่อฉันกับบัญชีในท้องถิ่นได้โดยไม่มีปัญหา
เพื่อดูแลหมายเลข IP และข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย CyberGhost มีฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวดังต่อไปนี้:
- การเข้ารหัส AES-256-บิต: เส้นทางการรับชมของคุณจะได้รับการป้องกันด้วยการเข้ารหัสระดับทหารในทุกการเชื่อมต่อ CyberGhost ทั้งหมด
- Kill Switch อัตโนมัติ: ตัดการเข้าถึงไปยังอินเทอร์เน็ตหากการเชื่อมต่อ VPN เกิดถูกขัดจังหวะเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของคุณยังคงเป็นความลับ
- การป้องกัน WiFi: เมื่อเปิดใช้งาน CyberGhost จะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์โดยอัตโนมัติเมื่อมีการใช้งานเครือข่าย WiFi ใหม่หรือเครือข่ายที่ไม่ปลอดภัย
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน: CyberGhost จะไม่บันทึกหรือจัดเก็บข้อมูลของคุณเอาไว้บนเซิร์ฟเวอร์ RAM แต่บริการดังกล่าวก็ยังไม่เคยได้รับการตรวจสอบจากบริษัทอิสระ
ปัญหาเกี่ยวกับ CyberGhost คือมันไม่สามารถใช้งานในประเทศที่มีข้อบังคับอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดได้เสมอ เช่น ประเทศจีน รัสเซีย ตุรกีและอิหร่าน หากคุณเดินทางไปยังหนึ่งในประเทศเหล่านี้ คุณอาจไม่สามารถเชื่อมต่อกับบัญชี Disney+ ของคุณได้ ฉันแนะนำให้คุณติดต่อฝ่ายสนับสนุนผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงของ CyberGhost เพื่อสอบถามว่าเซิร์ฟเวอร์ที่มีแนวโน้มว่าจะทำงานได้มากที่สุดตอนที่ไปยังประเทศเหล่านี้
โชคดีที่ CyberGhost มอบความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปได้เป็นอย่างดีโดยแผนให้บริการของบริการดังกล่าวมีราคาเริ่มต้นที่ $2.11 สำหรับการสมัครสมาชิก CyberGhost ยังมีการรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 45 วันที่แสนใจกว้างสำหรับการสมัครสมาชิกในระยะยาวด้วย — ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะหากคุณต้องการใช้ VPN เฉพาะในขณะที่คุณไปพักร้อนหรือใช้งานในระยะเวลาสั้น ๆ นี่หมายความว่าคุณสามารถสตรีม Disney+ ด้วย CyberGhost โดยไม่มีความเสี่ยงและขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้โดยไม่ต้องตอบคำถาม ฉันพบว่ากระบวนการขอเงินคืนนั้นเรียบง่ายและฉันก็ได้รับเงินคืนกลับมาภายในระยะเวลาน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์
CyberGhost ทำงานร่วมกันกับ: Windows, macOS, Linux, Android, iOS, Raspberry Pi, Chrome, Firefox, PlayStation, Xbox, Nintendo Switch, Amazon Fire TV, Amazon Fire TV Stick, Roku, สมาร์ททีวี, เราเตอร์และอื่น ๆ อีกมากมายได้
CyberGhost ยังสามารถปลดบล็อก: Netflix, Disney+, Hulu, HBO Max, Amazon Prime Video, Paramount+, Peacock, Discovery+, BBC iPlayer, Canal+, Globo, Crunchyroll, Yle, Foxtel, fuboTV, YouTube TV, Kodi และอื่น ๆ อีกมากมายได้
อัปเดต 2023! คุณสามารถสมัครสมาชิก CyberGhost ได้ในราคาแสนถูกเพียง $2.11 ต่อเดือน + รับเพิ่มฟรี 3 เดือนฟรีในแผนให้บริการแบบ 2 ปี (ประหยัดได้สูงสุดถึง 83%)! นี่เป็นข้อเสนอจำกัดเวลา ดังนั้นอย่าลืมคว้ามันเอาไว้ก่อนตอนนี้ก่อนมันจะหายไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ได้ที่นี่
วิธีดู Disney+ บนอุปกรณ์ต่าง ๆ
Disney+ มีแอปพร้อมให้บริการสำหรับแพลตฟอร์มมากมายและคุณสามารถสตรีม Disney+ โดยใช้เบราว์เซอร์ที่รองรับได้หากอุปกรณ์ของคุณไม่รองรับแอป
Windows และ Mac
- ในเบราว์เซอร์ของคอมพิวเตอร์ของคุณ ให้ไปยังเว็บไซต์ Disney+ หากคุณอยู่ในประเทศที่ Disney+ ยังไม่พร้อมให้บริการ คุณจะต้องใช้ VPN ชั้นนำอย่าง ExpressVPN เพื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศบ้านเกิดของคุณก่อน
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Disney+ ของคุณ คุณจะเห็นปุ่มลงชื่อเข้าใช้ที่ด้านบนมุมขวาและคุณจะต้องมีที่อยู่อีเมลและรหัสผ่านบัญชีของคุณ
- เริ่มสตรีมมิ่ง! คุณจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงรายการและภาพยนตร์โปรดทั้งหมดของคุณ
iOS และ Android
- ไปยัง App Store บนอุปกรณ์มือถือของคุณ ขั้นตอนนี้จะเป็น Google Play Store สำหรับ Android หรือ Apple App Store สำหรับ iPhone หรือ iPad ของคุณ
- ค้นหา “Disney+” และดาวน์โหลดแอป หากแอปไม่พร้อมให้บริการเนื่องจากตำแหน่งปัจจุบันของคุณ คุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ในประเทศบ้านเกิดของคุณได้ (ที่ที่คุณสร้างบัญชี Disney+ ของคุณเอาไว้) จากนั้นให้ดาวน์โหลดแอป
- ลงชื่อเข้าใช้ด้วยรายละเอียดข้อมูลบัญชี Disney+ ของคุณและเริ่มสตรีมมิ่ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เชื่อมต่อกับ VPN ขณะรับชมเพื่อที่คุณจะได้สามารถเข้าถึงเนื้อหาในท้องถิ่นของคุณได้
Amazon Fire Stick
- ออกคำสั่ง Alexa หรือใช้ฟีเจอร์ค้นหา “Disney+” หากแอปไม่พร้อมให้บริการ คุณจะต้องดาวน์โหลด VPN สำหรับ Fire Stick ของคุณและเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศบ้านเกิดของคุณ — สิ่งนี้จะทำให้แอป Disney+ พร้อมให้บริการ
- ดาวน์โหลดแอป Disney+ ลงบน Fire Stick ของคุณ แอปจะดำเนินการติดตั้งโดยอัตโนมัติ
- เปิดแอปและลงชื่อเข้าใช้ด้วยรายละเอียดบัญชีของคุณ เท่านี้คุณก็พร้อมเริ่มสตรีมเนื้อหา Disney สุดโปรดของคุณแล้ว
สมาร์ททีวี
แอปเฉพาะ Disney+ รองรับบน Android TVs, Hisense TVs, LG WebOS TVs และ Samsung TVs ที่ใช้ Tizen OS (2016 หรือใหม่กว่า)
- ค้นหา “Disney+” โดยใช้ฟังก์ชันการค้นหาของสมาร์ททีวีของคุณ หากแอปไม่พร้อมให้บริการในตำแหน่งของคุณ คุณสามารถติดตั้ง VPN บนสมาร์ททีวีของคุณและเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศบ้านเกิดของคุณได้ — สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงแอป Disney+ ได้
- ดาวน์โหลดแอป Disney+ ลงบนสมาร์ททีวีของคุณ แอปจะติดตั้งตัวเองโดยอัตโนมัติและพร้อมให้คุณเปิดใช้งานมัน
- เปิดแอปและกรอกรายละเอียดลงชื่อเข้าใช้บัญชี เท่านี้คุณก็พร้อมเริ่มสตรีมมิ่งบน Disney+ แล้ว!
เกมคอนโซล
คอนโซลอย่าง PlayStation 3, 4 และ 5 และ Xbox One รองรับแอป Disney+ แต่ไม่ได้รองรับทุก VPN หากคุณต้องการใช้ VPN ในต่างประเทศเพื่อเปลี่ยนตำแหน่ง IP ของคุณ คุณสามารถตั้งค่า VPN กับเราเตอร์ที่รองรับหรือตั้งค่าฮอทสปอต WiFi กับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนของคุณได้
- ในร้านค้า PlayStation หรือ Microsoft ให้ค้นหา “Disney+” หากคุณไม่พบแอป มันอาจไม่พร้อมให้บริการในตำแหน่งของคุณ — คุณสามารถใช้ VPN ชั้นนำอย่าง ExpressVPN เพื่อเปลี่ยนหมายเลข IP ของคุณเป็นประเทศบ้านเกิดของคุณซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าถึง Disney+ ได้
- ดาวน์โหลดแอป Disney+ และรอการติดตั้ง ขั้นตอนนี้ไม่น่าใช้เวลานานเกิน 1-2 นาทีโดยขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณ
- เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ให้เปิดแอปและกรอกรายละเอียดบัญชีของคุณ ตอนนี้คุณก็สามารถเริ่มสตรีมมิ่ง Disney+ บนเกมคอนโซลของคุณได้แล้ว
Roku
- ในร้านค้าช่อง Roku ให้ค้นหา “Disney+” หากคุณพบว่าแอปไม่พร้อมให้บริการ ให้ใช้ VPN ที่เข้ากันได้กับ Roku อย่าง ExpressVPN และเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศที่สร้างบัญชี Disney+ ของคุณ
- ดาวน์โหลดช่อง Disney+ ไปยังอุปกรณ์ Roku ของคุณ หลังจากที่ติดตั้งเสร็จแล้ว คุณก็สามารถเลือกช่องเพื่อเปิดได้เลย
- กรอกข้อมูลบัญชี Disney+ ของคุณและเริ่มสตรีมมิ่ง! คุณจะยังคงลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณเพื่อการเข้าถึงเนื้อหา Disney+ สุดโปรดของคุณได้อย่างง่ายดาย
ดู Disney+ จากต่างประเทศด้วย ExpressVPN
วิธีลงทะเบียนกับ Disney+
หมายเหตุ: บริการสตรีมมิ่งบางบริการไม่อนุญาตให้ใช้ VPN ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณตระหนักถึงข้อกำหนดการใช้งานก่อนที่จะลงทะเบียนโดยใช้ VPN การใช้งานในทางที่ผิดอาจส่งผลให้เกิดการระงับหรือยกเลิกบัญชี
ช่องทางบัตรเครดิต
คุณสามารถลงทะเบียน Disney+ โดยใช้บัตรเครดิตที่ใช้งานได้ที่ลงทะเบียนตามที่อยู่ในประเทศที่คุณพำนักอาศัยได้
- ดาวน์โหลด VPN และเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศบ้านเกิดของคุณ ExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นคุณจึงมีแนวโน้มที่จะได้พบกับการเชื่อมต่อในตำแหน่งที่คุณปรารถนา
- เยี่ยมชมเว็บไซต์ Disney+ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนให้กรอกที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อเริ่มต้นสมัครสมาชิก
- กรอกรายละเอียดของคุณ สร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัยและกรอกข้อมูลการชำระเงินผ่านบัตรของคุณ — นี่รวมถึงชื่อ หมายเลขบัตร วันที่หมดอายุและรหัสความปลอดภัยของคุณ
- คลิก “ยอมรับและสมัครสมาชิก” คุณจะได้รับอีเมลยืนยันการสมัครสมาชิก Disney+ ของคุณ
- เริ่มสตรีมมิ่ง! คุณสามารถสตรีม Disney+ โดยใช้เบราว์เซอร์ของคุณหรือดาวน์โหลดแอปลงบนอุปกรณ์ที่เข้ากันได้ — ลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณ.
ช่องทางบัตรของขวัญ Google Play
ช่องทางนี้เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณมีอุปกรณ์ Android, Amazon Fire Stick or TV หรือสมาร์ททีวี คุณจะต้องดูให้แน่ว่าโทรศัพท์ของคุณอยู่ใกล้ ๆ ตัวตอนที่คุณลงทะเบียนเนื่องจากบางครั้ง Google ก็ใช้การยืนยันตัวตนผ่านโทรศัพท์เพื่อให้มั่นใจว่าคุณอยู่ในประเทศเดียวกันกับบัญชีใหม่ของคุณ
- ดาวน์โหลด VPN และเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศบ้านเกิดของคุณ การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยของ ExpressVPN จะดูแลให้รายละเอียดการชำระเงินของคุณปลอดภัยตอนที่ลงทะเบียน Disney+
- ซื้อ Apple Store และบัตรของขวัญ Google Play จาก Amazon ระบบจะจัดส่งไปยังที่อยู่อีเมลของคุณโดยตรง
- ตั้งค่าบัญชี Google Play ของคุณใหม่ คุณสามารถทำได้ในแท็บ “Google” ที่พบได้ใน “การตั้งค่า” บนอุปกรณ์ของคุณ ใช้ที่อยู่อีเมลที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับโปรไฟล์ Google Play หลักของคุณและตรวจสอบให้มั่นใจว่ามีการตั้งค่าประเทศบ้านเกิดของคุณเอาไว้ในตำแหน่งของคุณ
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Play โดยใช้รายละเอียดข้อมูลใหม่และแลกรับบัตรของขวัญของคุณ คุณจะต้องยืนยันรหัสไปรษณีย์และหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ
- ดาวน์โหลดแอป Disney+ และสร้างบัญชีของคุณโดยใช้ยอดเงินคงเหลือ Google Play เป็นช่องทางการชำระเงินของคุณ อย่าลืมเติมเงินเข้ากระเป๋าสตางค์ Google Play ของคุณด้วยบัตรของขวัญตอนที่การสมัครสมาชิก Disney+ ของคุณถึงกำหนดต่ออายุ
- เริ่มสตรีมมิ่ง Disney+!
ช่องทางบัตรของขวัญ iTunes และ Apple ID ใหม่
- ดาวน์โหลด VPN ลงบนอุปกรณ์ Apple ของคุณ ExpressVPN คือบริการอันดับหนึ่งสำหรับอุปกรณ์ iOS และ Mac
- เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศบ้านเกิดของคุณ เมื่อเชื่อมต่อแล้ว คุณก็สามารถลงชื่อออกจากบัญชี Apple ID บน App Store ของคุณได้เลย
- เยี่ยมชมเว็บไซต์ Apple และสร้าง Apple ID ใหม่ ตรวจสอบให้มั่นใจว่าเลือกประเทศบ้านเกิดของคุณเป็น “ประเทศ/ภูมิภาค” ของคุณและปล่อยให้ “ข้อมูลการชำระเงิน” ว่างเอาไว้
- สั่งซื้อบัตรของขวัญ App Store และ iTunes บน Amazon คุณจะพบมันได้ในกล่องจดหมายขาเข้าอีเมลของคุณหลังจากที่คุณดำเนินการทำธุรกรรมเสร็จแล้ว
- ลงชื่อกลับไปยัง App โดยใช้ Apple ID ใหม่ของคุณ ยอมรับ “ข้อกำหนดและเงื่อนไข” โดยการติ๊กถูกที่ช่อง
- เลือก “ไม่มี” เป็นตัวเลือกการชำระเงินใหม่ของคุณและกรอกรายละเอียดที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ในประเทศบ้านเกิดของคุณ นี่อาจเป็นที่อยู่ของคุณหรือของเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวก็ได้
- แลกรับบัตรของขวัญ App Store ในบัญชีของคุณ
- เปิดแอป Disney+ และลงชื่อเข้าใช้โดยใช้ iTunes เป็นช่องทางการชำระเงินของคุณ Disney+ จะหักเงินโดยตรงจากยอดเงินคงเหลือ iTunes ของคุณ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้แลกรับบัตรของขวัญอีกใบก่อนที่จะถึงกำหนดการชำระเงินครั้งถัดไป
- เริ่มต้นสตรีมมิ่ง! คุณพร้อมสำหรับการรับชมรายการ Disney+ สุดโปรดของคุณแล้ว
ช่องทางการชำระเงินชุดสตรีมมิ่ง Hulu, ESPN และ Disney+
นี่เป็นช่องทางที่ดีสำหรับผู้อาศัยในสหรัฐอเมริกาที่ต้องการประหยัดเงินสำหรับการสมัครสมาชิกเนื่องจากคุณชำระเงินรายเดือนในราคาเดียวสำหรับ 3 บริการ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเรื่องสำคัญควรทราบคือช่องทางนี้มีไว้สำหรับผู้ที่พำนักอาศัยในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Hulu ไม่อนุญาตให้ใช้ VPN กับบริการของพวกเขา — แต่คุณสามารถใช้ VPN เพื่อลงทะเบียนชุดบริการนี้ด้หากคุณเป็นผู้พำนักอาศัยในสหรัฐอเมริกาที่กำลังเดินทางอยู่ในต่างประเทศ
- เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ในสหรัฐอเมริกา ฉันแนะนำให้คุณใช้ ExpressVPN เนื่องจากมันสามารถเข้าถึง Hulu, Disney+ และ ESPN ได้อย่างน่าเชื่อถือ
- สั่งซื้อบัตรของขวัญ Hulu จาก MyGiftCardSupply ตรวจสอบให้มั่นใจว่ามันครอบคลุมราคาของการสมัครสมาชิกชุดบริการรายปี
- ไปยัง Hulu และเลือกชุดสตรีมมิ่งที่ด้านล่างของหน้าจอ
- กรอกรายละเอียดข้อมูลของคุณและชำระเงินรายเดือนด้วยบัตรของขวัญ คุณอาจถูกถามให้กรอกรหัสไปรษณีย์ในสหรัฐอเมริกาเพื่อเป็นการเยืนยัน ดังนั้นให้กรอกรหัสไปรษณีย์ที่บ้านของคุณ
- เริ่มต้นใช้งานบัญชีของคุณได้เลย! ตอนนี้คุณก็สามารถสตรีมรายการโปรดทั้งหมดของคุณจากทั้ง 3 เว็บไซต์ได้แล้ว
สตรีมบน Disney+ ด้วย ExpressVPN
คำถามที่พบบ่อยในการดู Disney+ ด้วย VPN
ฉันสามารถดู Disney+ ในออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร แคนาดาและสหรัฐอเมริกาได้ไหม?
ได้ มี Disney+ เปิดให้บริการในออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร แคนาดาและสหรัฐอเมริกา หากคุณพำนักอาศัยอยู่ในประเทศใด ๆ ก็ตามเหล่านี้ คุณสามารถลงทะเบียนบัญชี Disney+ ได้หลายช่องทาง — ช่องทางที่ง่ายที่สุดคือโดยใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่ลงทะเบียนด้วยที่อยู่ในท้องถิ่น
เมื่อเดินทางไปยังประเทศเหล่านี้ คุณสามารถเข้าถึงบัญชี Disney+ ของคุณได้ แต่เนื้อหาที่คุณเห็นอาจไม่เหมือนกับที่บ้านของคุณเนื่องจากข้อบังคับในเรื่องของลิขสิทธิ์ วิธีเดียวที่คุณจะสามารถดูเนื้อหา Disney+ เดิมของคุณได้ตามปกติตอนเดินทางไปต่างประเทศคือด้วย VPN พรีเมียม — เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศบ้านเกิดของคุณและลงชื่อเข้าใช้บัญชี Disney+ ของคุณเพื่อเริ่มต้นสตรีมมิ่ง
ฉันสามารถดู Disney+ บนสมาร์ททีวี, iPhone และ Android และ Fire Stick ได้ไหม?
ฉันสามารถดู Disney+ บน Amazon Prime หรือ Netflix ได้ไหม?
Disney+ ดีกว่า Netflix ไหม?
มันขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคลของคุณเนื่องจากทั้ง Disney+ และ Netflix ต่างก็เป็นบริการที่เป็นที่นิยมด้วยเนื้อหาที่เหมาะกับผู้ชมมากมาย Disney+ มีความเป็นมิตรต่อครอบครัวมากกว่าและมาพร้อมกับแอปเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายและมีราคาสมัครสมาชิกที่ถูกกว่า Netflix มีเนื้อหาที่หลากหลายกว่า แต่ก็เป็นตัวเลือกที่มีราคาแพงกว่า
Disney+ มีคอลเลกชันภาพยนตร์และรายการพิเศษของตนเองซึ่งตัวบริษัทเองก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่เปิดให้บริการแพลตฟอร์ม แต่หากคุณต้องการดูภาพยนตร์ของจักรวาลมาร์เวล, ดิสนีย์คลาสสิกหรือการเผยแพรล่าสุดและรีเมคต่าง ๆ ตัวเลือกของคุณคือ Disney+ เท่านั้น นั่นเป็นเพราะเนื้อหา Disney ทั้งหมดถูกลบออกจากเว็บไซต์อื่น ๆ และพร้อมให้บริการเฉพาะบน Disney+ เท่านั้น ซีรีย์มาร์เวลออริจิยอลของ Netflix (เช่น Jessica Jones and Iron Fist) ยังคงอยู่บน Netflix แต่ซีซั่นในอนาคตถูกยกเลิกแล้วเนื่องจากตอนนี้ Disney เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เนื้อหาของมาร์เวลเองแล้ว
ข่าวดีก็คือคุณสามารถเข้าถึงทั้งสองแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดายโดยใช้ ExpressVPN และเพลิดเพลินไปกับรายการและภาพยนตร์จากทุกที่ทั่วโลกได้
Disney+ พร้อมให้บริการที่ไหนบ้าง?
ฉันสามารถดู Disney+ ฟรีได้ไหม?
ฉันสามารถใช้ VPN ฟรีเพื่อดู Disney+ ได้ไหม?
ได้ แต่คุณจะไม่ได้รับประสบการณ์ระดับสูงเดียวกันกับที่คุณจะได้รับตอนที่ใช้ VPN พรีเมียมเพื่อสตรีม Disney+ VPN ฟรีมีข้อจำกัดมากมาย มีการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มากนัก ลดความเร็วและมีขีดจำกัดการใช้งานข้อมูลต่ำ คุณจะไม่สามารถดู Disney+ ได้มากเท่าที่คุณต้องการหากคุณสามารถเข้าถึงบริการดังกล่าวได้
แม้ว่าจะมี VPN ฟรีที่ปลอดภัยในตลาดอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่ง ฉันแนะนำให้คุณใช้ประโยชน์จาก VPN ด้วยการรับประกันยินดีคืนเงินในระยะยาวอย่าง CyberGhost จะดีกว่า ด้วย CyberGhost คุณจะทดลองใช้งานได้นานถึง 45 วัน — ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการใช้ VPN ในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างการไปพักร้อน คุณสามารถสตรีม Disney+ ด้วย CyberGhost ได้มากเท่าที่คุณต้องการและขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้เมื่อคุณใช้งานเสร็จแล้ว
ขั้นตอนการขอรับเงินคืนก็ง่ายโดยใช้เวลาแค่สองสามนาทีเท่านั้นผ่านแชทออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อดำเนินการคืนเงิน ฉันได้รับเงินคืนในระยะเวลาน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น
การใช้ VPN กับ Disney+ เป็นเรื่องผิดกฎหมายไหม?
ไม่ การใช้ VPN กับ Disney+ ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย คุณสามารถใช้ VPN เพื่อเข้าถึงบัญชี Disney+ ในท้องถิ่นตอนเดินทางไปต่างประเทศได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายตราบใดที่การใช้งาน VPN ในตำแหน่งของคุณเป็นเรื่องถูกกฎหมาย มีการห้ามมิให้ใช้ VPN ในบางประเทศ (เช่น จีนและรัสเซีย) ดังนั้นคุณจึงอาจเผชิญกับผลกระทบได้หากคุณเกิดถูกจับได้ว่ากำลังใช้งาน VPN
Disney+ ไม่ได้ห้ามให้ใช้ VPN กับบริการของพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็การสร้างบัญชีฉ้อฉลก็ขัดต่อข้อกำหนดของข้อตกลงในการ — ตัวอย่างเช่นการใช้ VPN เพื่อสร้างบัญชีในประเทศอื่นนอกจากประเทศที่คุณพำนักอาศัย การทำแบบนี้อาจส่งผลให้เกิดการระงับหรือยกเลิกบัญชีได้
ฉันควรทำอย่างไรหากฉันพบกับข้อผิดพลาดการสตรีมมิ่ง Disney+?
แม้ว่าคุณจะใช้ VPN คุณภาพสูงเพื่อเข้าถึง Disney+ คุณก็อาจพบกับข้อผิดพลาดการสตรีมมิ่งได้เป็นบางครั้ง สิ่งนี้เกิดขึ้นหากแพลตฟอร์มตรวจจับหมายเลข IP ของเซิร์ฟเวอร์ที่เฉพาะเจาะจงได้ว่าเป็นของ VPN แต่ไม่ต้องกังวลไป — คุณสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดการสตรีมมิ่งได้ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ เหล่านี้:
- รีสตาร์ทและอัปเดตแอป VPN ของคุณ บ่อยครั้งที่การทำแบบนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะซ่อมแซมการเชื
- เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์อื่น หลังจากที่คุณเชื่อมต่อแล้ว ให้ดูว่า VPN ของคุณทำให้ข้อมูลของคุณรั่วไหลหรือไม่โดยใช้เครื่องมือตรวจสอบ IP
- ลบคุกกี้และแคช สิ่งนี้จะลบการติดตามที่เป็นไปได้ที่ Disney+ อาจฝังไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณและคุณจะดูเหมือนผู้ใช้ใหม่
- เปิดใช้งานโปรโตคอลการเข้ารหัส SSL/TLS และพอร์ต VPN 2080 ในการตั้งค่า VPN ของคุณ สิ่งนี้จะมอบโอกาสในการเข้าถึง Disney+ ที่ดียิ่งขึ้น
- ใช้แอป Disney+ เทคโนโลยีการปิดกั้นตามภูมิศาสตร์ในเบราว์เซอร์และในแอปทำงานแตกต่างกันไป ดังนั้น VPN ของคุณจึงอาจหลีกเลี่ยงการตรวจจับบนเวอร์ชันแอปได้ง่ายกว่า
- ติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้า VPN ในรายการนี้มีเจ้าหน้าที่ที่คอยให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
ทำไมฉันถึงไม่พบ Disney+ บน Samsung TV ของฉัน?
ฉันจะดาวน์โหลด Disney+ นอกสหรัฐอเมริกาได้ไหม?
ฉันต้องทำอะไรบ้างเพื่อที่จะได้ดู Disney+?
เพื่อดู Disney+ คุณจะต้องมีบัญชี Disney+ และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วอย่างน้อย 5Mbps คุณยังจะต้องดาวน์โหลดแอป Disney+ ลงอุปกรณ์อย่าง Windows PC, สมาร์ทโฟน, สมาร์ททีวีหรือ Roku ด้วย
หากคุณกำลังเดินทางไปต่างประเทศและอยากดูเนื้อหา Disney+ ในท้องถิ่นของคุณ คุณจะต้องมี VPN บริการอย่าง ExpressVPN มีความเร็วที่รวดเร็วสูงสำหรับการสตรีมมิ่งอย่างราบรื่นและเซิร์ฟเวอร์นับพันเพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศบ้านเกิดของคุณได้อย่างง่ายดาย แถม Obfuscation ในทุกเซิร์ฟเวอร์ยังหมายความว่าคุณสามารถสตรีม Disney+ ได้จากทุทกี่แม้ในประเทศที่มีข้อบังคับอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดด้วย
เริ่มดู Disney+ เลยวันนี้
รายการและภาพยนตร์หายไปจากเว็บไซต์สตรีมมิ่งอื่น ๆ การสมัครเป็นสมาชิกของ Disney Plus เป็นวิธีเดียวที่จะรับชมเนื้อหาที่คุณชื่นชอบ ด้วย VPN พรีเมี่ยมอย่างเช่น ExpressVPN คุณจะสามารถเข้าถึงเนื้อหาของ Disney Plus ได้เต็มรูปแบบไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลก
จาก VPN ทั้งหมดที่ฉันทดสอบ ExpressVPN เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับ Disney+ ในปี 2023 ด้วย ExpressVPN คุณจะได้รับการสตรีมมิ่งคุณภาพสูงและสิทธิ์ในการเข้าถึง Disney+ และเว็บไซต์อื่น ๆ อย่าง Netflix, YouTube, Hulu, BBC iPlayer และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ดีไปกว่านั้นคือคุณสามารถทดลองใช้งาน ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยงด้วยตัวเองได้ หากคุณพบว่าคุณไม่พึงพอใจกับบริการดังกล่าว คุณก็สามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้ภายใน 30 วันเนื่องจาก ExpressVPN มีการรับประกันยินดีคืนเงิน ฉันทดสอบมันด้วยตัวเองและฉันก็ได้รับเงินคืนอย่างง่ายดายภายใน 4 วันเท่านั้น